ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic VIXX] JukeBoxx

    ลำดับตอนที่ #7 : [SF - Hyuk] Taint 4 - หลังจากวันนั้น... [END]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 136
      0
      20 มิ.ย. 58










    Taint 4

      

     หลังจากวันนั้น...

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากวันนั้นที่หนีออกจากอพาร์ตเม้นท์และผู้ชายน่ากลัวคนนั้นมาได้ ทั้งสองคนก็ย้ายบ้านย้ายโรงเรียนจากที่เดิมทันทีภายใต้การจัดการของแม่ของแจฮวาน

    ยังคงมีหลายคืนที่ซางฮยอกฝันร้ายร้องลั่นกลางดึกพร้อมเหงื่อโทรมตัว หลายคืนที่แจฮวานต้องสะดุ้งตื่นมาเขย่าตัวเด็กหนุ่มตัวโยนและตะโกนเสียงดังให้เขาตื่น ตะโกนว่าเขาอยู่บ้านเพื่อนไม่ใช่อพาร์ตเม้นท์โทรมๆนั่น หลายคืนที่แจฮวานเจอฮยอกลงไปนอนขดที่มุมห้องสวมบ๊อกเซอร์ตัวเดียว และอีกหลายๆคืนที่มานั่งเช็ดตัวป้อนยาลดไข้เพราะอีกคนมีร่างกายและจิตใจที่อ่อนแอ เปราะบาง แต่คืนเหล่านั้นก็ผ่านไปได้ ยังมีบ้างที่ฮยอกจะกลัว แต่เขาก็ดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อยๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

    2 ปีต่อมา เด็กมัธยมปลายปีสาม : มีความสุขที่ได้รู้จักคนดีๆ


    ในที่สุดฮยอกก็เริ่มเข้ากับเพื่อนๆในห้องได้ เขารู้จักกับคนอีกเยอะแยะในโรงเรียน และที่ดีกว่านั้นคือเขากล้าเจอคนภายนอกจนมีกลุ่มที่สนิทมากๆ ผู้ชาย 6 คนจากหลายสาขาและอายุ ทั้งหมดเข้ากันได้ดีและซางฮยอกเองก็รู้สึกดีสุดๆที่ได้สนิทกัน

     

    วันนี้พวกเขานัดกันมากินน้ำแข็งไสตามความเรียกร้องเอาแต่ใจของคนแก่สุด ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความวุ่นวายเพราะทุกคนแย่งกันพูดแย่งกันกิน แต่ก็เป็นวันที่สนุกสนาน ซางฮยอกคิดเช่นนั้น

     

    “ฮยอกอ่ะ” ผู้ชายผิวแทนคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นหลังจากวางช้อนลง “อาทิตย์หน้าพวกเราจะจัดเลี้ยงวันเกิดแทคอุนนี่กัน” ชี้นิ้วไปทางผู้ชายหน้าดุข้างตัวเลยถูกตบหัวไปหนึ่งที แต่ดูเหมือนคนโดนจะไม่ได้รู้สึกยังยิ้มร่าพูดต่อ “นายต้องมานะ”

     

    “แต่ แต่ผม” เขาอ้างอะไรดี ไม่ชอบงานที่มีคนมากมาย ถึงจะปรับตัวดีขึ้นแต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่

     

    “ไม่มีแต่” ผู้ชายหน้าหวานในกลุ่มขัด “นี่มันวันเกิดแทคอุนฮยองนะ ปีละครั้งเอง นายจะไม่มาจริงๆอ่ะ”

     

    ซางฮยอกคิดหนัก แต่ว่าฮยองก็เป็นพี่ที่ดีกับเขามาก ถึงจะหน้าดุแต่จริงแล้วเป็นคนใจดี เเต่ถึงอย่างนั้นซางฮยอกก็ยังกังวลเเละกลัวว่าถ้าเขาเกิดประสาทแล้ววิ่งหนีออกจากงานเหมือนปีนั้นอีกล่ะ...แรงบีบที่ข้อมือเรียกสติฮยอกกลับมา แจฮวานยิ้มกว้าง ซางฮยอกจึงผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆและคิดทบทวนอีกครั้ง ก่อนจะ...พยักหน้ารับ “อื้ม จะมาครับ” เรียกรอยยิ้มเอ็นดูของแจฮวานให้กว้างไปอีก ทุกคนในกลุ่มล้วนดีใจเลยโผกันเข้ามากอด ซางฮยอกระเบิดเสียงหัวเราะกับการกระทำเด็กๆของคนตัวโตอีกห้าคน 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    6 ปีต่อมา เรียนจบมหาลัย : ซางฮยอกจะออกไปเป็นผู้ใหญ่ คึคึคึ


    สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าซางฮยอกเติบโตขึ้นมาก เข้มแข็งขึ้นและสู้คน เขาตั้งใจเรียนชดเชยที่ผ่านมาที่ไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนได้ ใช้ชีวิตชดวัยเยาว์ที่ถูกเอาไป เล่นสนุก เที่ยวเล่น เรียนรู้ และเติบโต แม้สิ่งที่ถูกแย่งไปแล้วจะไม่มีทางหวนกลับมา แต่เราก็ยังเติมเต็มมันได้ด้วยวันนี้เสมอ

     

     ในรั้วมหาลัยเขาเป็นคนที่ได้รับคำชมหรือได้รับรางวัลเสมอ ทั้งรางวัลจากผลการเรียนดีหรือการที่เขาออกไปทำประโยชน์เพื่อสังคม เขาเน้นกิจกิจกรรมให้ความรู้เรื่องความรักในครอบครัวและกิจกรรมสอนการป้องกันตัวสำหรับเด็ก บางครั้งก็เป็นอาสาสมัครให้ความรู้ผู้ห่างไกล

     

    นอกจากนี้ยังตัวโตขึ้น สูงโปร่งเชียวล่ะ แถมหน้าตาก็ดีเอาๆไม่แปลกหรอกที่จะมีสาวน้อยสาวใหญ่มารุมล้อม แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เขามีแจฮวานเป็นไม้กันหมาให้เสมอ

     

     

    วันนี้ประกาศผลการจบมหาลัย ซางฮยอกในชุดอยู่บ้านเปิดคอมเช็คคะแนนก่อนจะวิ่งเสียงดังลงบันไดพุ่งตัวไปกอดคุณน้าอี(หรือคุณแม่ของแจฮวาน) กอดแล้วก็เอาหน้าซุกผมคนเเก่กว่าไปมา คุณนายอีหัวเราะคิกคักกับท่าทางเด็กหนุ่ม สักพักหนึ่งหลังจากกอดแล้วไม่ยอมพูดอะไร ซางฮยอกที่น้ำตาซึมก็พูดเสียงเบา


     “ผมได้..เกียรตินิยมนะฮะ” 


    แล้วคุณน้าก็ละจากอ้อมกอดมาร้องไชโยยินดีไปกับพ่อหนุ่มด้วย

     

    แจฮวานที่กลับมาบ้านก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมดูรื่นเริงกัน ซางฮยอกที่ละอ้อมกอดจากผู้ใหญ่ก็หันมายิ้มสวยให้ “ฮยองฮะ” เดินมาเอามือเขาไปกุมอย่างมีความสุข “ผมได้แล้วนะฮะ ผมได้เกียรตินิยมแล้วนะฮะ” แล้วฮยอกก็ลากเขาไปกอดไว้แน่นแล้วร้องไห้เสียงดัง หัวเราะเสียงดัง มีความสุข...ให้เสียงดัง

     

                แจฮวานพาคนที่ดีใจเว่อร์มากินต๊อกป๊อกกีแถวบ้าน เดี๋ยวพรุ่งนี้เขาค่อยพาไปเลี้ยงอะไรหรูๆทีหลัง คนเด็กก็กระโดดโลดเต้น ท่าทางมีความสุขจนยังต้องเผลอยิ้มตามออกมา แล้วเขาก็หันไปจุ๊บแก้มฮยอกทีนึงเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “ดีใจด้วยนะ” เรียกคนดีใจให้แก้มแดงพยักหน้าหงึกหงัก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                8ปีต่อมา ทำงานแบบผู้ใหญ่ : ฝันร้ายที่ไม่ยอมจบลงง่ายๆ

                กลางดึกที่ฝนตกหนักจนแจฮวานต้องผวาตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเสียงฟ้าผ่าที่ดังมาก เขาคิดว่าจะหันไปปลุกซางฮยอกมาอ้อนกอดก่อนจะนอนต่อ แต่ว่าพอหันไปเห็นอีกคนเขาก็ต้องตกใจทันที มาอีกแล้ว...อาการตัวสั่นไม่หยุด เหงื่อเต็มไปหมดแบบคนกำลัง...ฝันร้าย

               

                เห็นอีกคนละเมออะไรสักอย่างเสียงเบามาก แจฮวานเลยก้มตัวลงไปชิดริมฝีปากก่อนจะได้ยินชัดว่า “ผมยอมแล้ว...ยอมแล้ว...ได้โปรด”

     

                แจฮวานผละออกมาแล้วเขย่าอีกคนเต็มแรง “ฮยอก ฮยอก ตื่น ตื่นสิ!” แต่กลับได้น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาเล็กที่ปิดแน่น

     

                “ซางฮยอก ฮยอก เด็กบ้าซางฮยอก!” แจฮวานตะโกนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ หวังแค่เสียงใดเสียงหนึ่งของเขาลอดเข้าไปในฝันที่เลวร้ายนั่น

     

                เขย่าก็แล้ว ตะโกนก็แล้วยังไม่ได้ผล แต่ประโยคสุดท้ายที่หลุดปากออกมาทำให้แจฮวานสติขาดทันที “อ๊ะ...เจ็บ”

     

                “ซางฮยอก!...เพี๊ยะ!” ตะโกนแล้วตบหน้าอีกคนเต็มแรง ตื่นสิ ตื่น

     

                แต่เปลือกตาเพียงกระพริบเล็กน้อยไม่ได้รู้สึกตัว แจฮวานไม่รู้จะทำยังไงเลยคว้าอีกคนมากอดไว้แน่นแล้วลูบหลังเล็กไปมา “นายอยู่กับฉัน ซางฮยอกนายอยู่กับ ฮึก ฉัน นายไม่ดะได้ ฮึก อยู่อพาร์ตเม้นท์นั่น” พูดไปร้องไห้ไปสักพักก็รู้สึกถึงแรงกอดกลับเบาบาง แจฮวานรีบผละออกดูคนตรงหน้าทันที แม้น้ำตาจะไหลนองหน้า แต่ดวงตาก็มองตรงมาที่เขา โฟกัสที่เขาไม่ได้เลื่อนลอยไปไหน

     

                “พะ...พี่...ผม” แล้วฮยอกก็กอดเขาแน่นก่อนจะร้องไห้สะอื้นเล่าฝันร้ายให้เขาฟัง ฝันที่ซ้ำเดิม ถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยคนๆเดิม แต่ฝันคราวนี้กลับต่างออกไปเพราะมันมีแจฮวานอยู่ในนั้น

     

                ซางฮยอกฝันว่า...เขาสูญเสียแจฮวานให้ผู้ชายที่เลวร้ายคนนั้น และยังถูกเล่นตามใจชอบอีก

     

                กอดปลอบ จูบหน้าผากปลอบ อีกครั้ง และอีกครั้ง ลูบหลังไปมาและบอกซ้ำๆว่าเขาไม่เป็นไรเเล้ว จนอีกคนผลอยหลับอ่อนแรงในอ้อมแขนไป...

     

     

     

     

     

                เช้าวันต่อมาฮยอกตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย มองไปข้างตัวเเต่ไม่เจอคนที่นอนด้วยกัน ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้าก่อนเดินหาจนเจอในครัว

     

                ฝันร้ายเมื่อคืนมันสมจริงและเจ็บปวดเกินไป เขาตัดสินใจแล้ว

     

     “แจฮวานฮยอง” ส่งเสียงเรียกอีกคนที่กำลังทำครัวอยู่ ก่อนจะได้เสียงอื้มกลับมาเป็นสัญญาณว่าได้ยิน

     

     “เป็นแฟนกันนะ” ฮยอกสวมกอดจากข้างหลังแล้วกระซิบข้างหู “ผมอาจไม่ใช่คนที่ดีพร้อมในชีวิตพี่ ผมอาจจะสร้างปัญหามากมายให้ แต่ผมจะไม่สูญเสียพี่ให้ใครอีกแล้ว ทั้งในความฝันและในความจริง เป็นแฟนกับ...ผมนะ”

     

    อ้อมกอดอุ่นหันมากอดเขา คนในอ้อมแขนเอาหัวไถอกเขาไปมา “อืม” แล้วแจฮวานก็เงยขึ้นมาหอมแก้มเขา “อืม เป็นแฟนกัน”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    15 ปีต่อมา

     

    “ตื่นเต้นแย่เลยนาย” ราวี่พูดและจัดเนคไทของฮยอกให้เข้าที่อีกครั้ง “ใจเย็นๆน่า นายเป็นเจ้าของงานนี้แล้ว” ลูบหลังอีกทีก่อนจะต้องหลุดขำอีกครั้งเพราะอีกคนส่ายหัวไปมาทำหน้าเหมือนเด็กๆเวลาต้องไปโรงเรียนวันแรก กลัวจากการต้องปล่อยมือจากแม่ไปสู่สถานที่ใหม่ ตลกละ

     

    “แต่นี่มันครั้งแรกนี่ครับ”

     

    “แหงแหละ นี่มันงานแต่งงานนะ” ฮงบินตบหัวเด็กเต็มแรงเรียกเสียงโวยวายว่าผมเซตตั้งนาน “ใครเขาจะมีประสบการณ์กันเล่า”

     

    เสียงโวยวายลั่นด้านนอกก่อนจะตามมาด้วยเอ็นที่เปิดประตูห้องเข้ามา “เด็กน้อยของฉันเป็นไงบ้าง” เอ็นเดินเข้ามาเช็คงานอีกครั้ง “เจ้าสาวหล่อมากอ่ะ” ก่อนจะถูกสามคนในห้องสับคอทันที “เจ้าบ่าวฮะฮยอง อย่าเพี้ยนมาก”

     

    ตามมาด้วยคนสุดท้ายเลโอที่กินขนมปังเข้ามาอย่างเอร็ดอร่อย “แจฮวานพร้อมแล้ว เจ้าสาวพร้อมยัง” พอพูดอย่างนั้นก็โดนสี่คนในห้องสับคอ “เจ้าบ่าวฮะ”

     

    เลโอลูบคอตัวเองไปมาแก้ตัวว่า “ก็งานแต่งงานมันมีเจ้าสาวเจ้าบ่าวไม่ใช่หรอ”

     

    “แต่นี่ผู้ชายสองคนฮะ” ราวี่เอามือลูบหน้าผากไปมาอย่างเซ็ง ฮยองพวกนี้นี่ “เจ้าบ่าวสองคนก็ไม่เป็นไรหรอกครับ”

     

    งานนี้จัดง่ายๆไม่ได้เป็นทางการมากนัก จัดกันที่ลานบ้านของฮักยอน มีสักขีพยานเป็นคุณนายอี กลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ที่ฮยอกสนิทยาวนานมาตั้งแต่มัธยม และก็เพื่อนคนอื่นๆอีกนิดหน่อย มีอาหารอร่อยๆจากฝีมือคุณนายอีและเลโอ ฝ่ายตกแต่งสถานที่คือราวี่และเพื่อนของเขา อ้อ ส่วนช่างภาพของงานคือหนุ่มหน้าหวานฮงบิน

     

    หลังจากเช็คกันจนแน่ใจ ฮัคยอนก็เดินมาจับฮยอกให้ลุกขึ้นเพื่อเข้าไปสู่ตัวพิธี “ไม่ต้องกลัว ทุกคนอยู่เคียงข้างนาย ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องกลัวอีกแล้วนะ”

     

    เดินลงบันไดเพื่อเข้าสู่ลานสนามหญ้าแล้วสบตากับแจฮวานที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว อีกคนยิ้มกว้างให้เขา โบกมือหยอยให้มายืนข้างกันๆ เขาเหลือบมองคุณนายอีนิดหน่อย เห็นเธอน้ำตาซึมแต่ก็ยิ้มมาให้อย่างอิ่มเอมใจ

     

    เดินเข้าไปหาช้าๆ ตื่นเต้น ประหม่า สบตาอีกคนให้ความมั่นใจค่อยๆเข้ามาแทนที่อารมณ์อื่นๆ หูไม่ได้ยินเสียงรอบข้างใดนอกจากเสียงหัวใจที่เต้นแรงในอก วันนี้แจฮวานฮยองยิ้มกว้างมากๆ น่ารักมากๆ แต่งตัวแล้วก็หล่อ ยิ่งพอได้กุมมือนุ่มๆนั้นไว้ยิ่งมีความสุขที่สุด

     

    ตอนนี้ซางฮยอกรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุด ทำไมทุกคนไม่ยิ้มกว้างๆแบบเขานะ

     

    “อะแฮ่ม” ฮัคยอนที่สวมบทบาทเป็นบาทหลวงจำเป็นกระแอมเรียกความสนใจจากคู่รักที่มองกันตาหวานฉ่ำตรงหน้าเขา แต่พอเรียกความสนใจมาได้เขากลับเกาหัวแกรกๆก่อนจะพูดออกมาเก้อๆว่า “ฉันลืมบท” เรียกเสียงตบหน้าผากจากเพื่อนๆในกลุ่มที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะและเสียงฮาครืนของแขกคนอื่นๆในงาน แจฮวานต้องพูดขึ้นมาเองว่า “ผมจำบทได้ ไม่เป็นไรมั้งฮะ”

     

    ก่อนจะหันหน้ามาสบตากับคนรักของเขาอีกครั้ง ตั้งแต่รู้จักกันมาก็ 15 ปี แล้วก็คบเป็นแฟน 7 ปีเต็ม ผ่านเรื่องทุกข์และสุข ดีและเลวร้าย แต่เพราะมีกันและกันทุกอย่างถึงผ่านมาได้ ฮยอกไม่ฝันอีกแล้ว ไม่กลัวอีกแล้ว

     

    เพราะมีกันและกันต่อให้ฝนตกหนักจนแจฮวานต้องผวาตื่นขึ้นมาอีก เขาก็ยังมีฮยอกนอนกอดปลอบให้เขาหลับไปอีกครั้ง

     

    เพราะมีกันและต่อให้ฮยอกต้องทำงานหนักและโดนต่อว่ามา เขาก็มีแจวานที่ทำอาหารอร่อยๆและร้องเพลงเพราะๆอยู่เคียงข้างจนสบายใจ

     

    เพราะมีกันและกัน เมื่อมีความสุขก็มีคนร่วมยินดี เมื่อประสบความสำเร็จก็มีคนเติมเต็มความสำเร็จนั้นให้สมบูรณ์ เมื่ออยากทำอะไรบ้าๆก็มีคนบ้าบิ่นพอที่จะทำด้วย

     

    เพราะมีกันและกันพวกเขาถึงได้มีรอยยิ้มสวยๆ เสียงหัวเราะดังๆ และความทรงจำล้ำค่านับไม่ถ้วน

     

    เพราะมี...กันและกัน

     

    ผมอีแจฮวาน ขอรับฮันซางฮยอกเป็นคู่ชีวิต ผมสัญญา ว่าจะซื่อสัตย์ทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี ผมจะรักและให้เกียรติ ฮันซางฮยอกตลอดชั่วชีวิตของผม

     

    ผมฮันซางฮยอกขอรับอีแจฮวานเป็นคู่ชีวิต ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ทั้งในยามสุข และยามยาก ในยามไข้และสบายดี ผมจะรักและให้เกียรติอีแจฮวาน ตลอดชั่วชีวิตของผม

     

    สายตาสบกันอย่างมีความหมาย มองหน้ากันอย่างลึกซึ้ง แล้วฮยอกก็ค่อยๆหลับตาลงพร้อมๆกับที่แจฮวานค่อยๆเลื่อนหน้ามาใกล้

     

    “เฮ้ยๆ แลกแหวนก่อนแลกก่อนอย่าพึ่งรีบ” เสียงฮงบินขัดขึ้นมาทำเอาทั้งงานหัวเราะกันลั่น รีบจริงๆนะคู่นี้

     

    ซางฮยอกกับแจฮวานก็หน้าแดงกันไปมา ยิ้มอายๆแล้วก็หยิบแหวนมาสวมแลกกัน ที่นิ้วนางข้างซ้าย แทนใจคนทั้งสอง

     

    บาทหลวงฮัคยอนกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ขอประกาศให้ทั้งสอง อีแจฮวานและฮันซังฮยอกเป็นคู่ชีวิตกัน” และกล่าวปิดท้ายว่า “เอ้า จะทำอะไรก็เชิญ”

     

    ฮันซางฮยอกค่อยๆหลับตาลงอีกครั้งช้าๆ และอีแจฮวานก็เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ เลื่อนมือประคองใบหน้านุ่มไว้ในมือก่อนจะจูบที่ริมฝีปากอย่างนิ่มนวล ทะนุถนอม และรักอย่างที่สุด






     

    ...END…












     

    ............................................................................................................................

    จบแล้ว sf taint เรื่องนี้ // ปาดน้ำตา

    ชอบคุณทุกอย่างและกัน ที่ทำจนจบ 555

    เขียนมาตั้งนานไม่ได้บอกเลย taint แปลว่า แปดเปื้อน มีมลทิน ประมาณนี้ค่ะ // พึ่งได้บอก 555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×