ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กระบี่สั่งตาย

    ลำดับตอนที่ #3 : ปล้นบนเรือน้อย(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 56


    ท้องฟ้าสว่างเรืองรอง ส่วนลึกของป่าริมฝั่ง มีเรือน้อยลำหนึ่งแจวออกมา เจ้าของเรือที่แจวอายุ

    ไม่มากเท่าใด สวมใส่รองเท้าฟาง ที่หัวสวมหมวกใบใหญ่ ร้องทักโกมินทร์มาแต่ไกล

    "คุณชายท่านนั้นคิดข้ามบึงไหม" �โกมินทร์รู้สึกตนโชคดีไม่น้อย คิดหาเรือก็มีเรือ จึงถามว่า

    "ท่านทราบหรือไม่ว่าโรงเตี๊ยมเกาะแก้วอยู่ที่ใด" คนแจวเรือตอบทันที"เราทราบ" �โกมินทร์

    กระโดดขึ้นเรือ กล่าวว่า "ท่านพาข้าไป ข้าจะจ่ายให้10ตำลึง" คนแจวเรือไม่มีท่าทีดีใจกลับ

    ตกใจกล่าวว่า"ท่านเป็นโจร" โกมินทร์หัวร่อแล้วบอกว่า"ท่านเห็นข้าคล้ายโจรเรอะ" คนแจวเรือ

    กล่าวเสียงเย็น"หากไม่ใช่โจร ทำไมจ่ายให้ถึง10ตำลึง" โกมินทร์อดถามไม่ได้ "มันมากเกินไป

    เรอะ" �"ตอนแรกว่ามาก แต่ตอนนี้มันน้อยเกินไปแล้ว" �โกมินทร์มองเอ่ยขึ้น"เพราะเหตุใด"

    "เงินทองท่านเมื่อได้มาง่ายดาย หากไปเรือเราก็ต้องจ่ายมากกว่านี้" � �"ท่านต้องการเท่าใด"

    "ท่านมีเท่าไร เราเอาแค่นั้น" โกมินทร์หัวร่อลั่น"ที่แท้ข้าไม่ใช่โจร ท่านจึงเป็นโจร"

    คนแจวเรือหัวร่อพูดว่า" ตอนนี้ท่านเพิ่งทราบ สายเกินไปแล้ว" มันสะกิดไม้ถ่อ เรือน้อยก็พุ่งห่าง

    จากฝั่งมากลางน้ำ พลังแขนช่างมหาศาลนัก โกมินทร์จ้องมองมัน ถามว่า"นี่เป็นเรือโจรโดย

    แท้" �คนแจวเรือกล่าวว่า"นั่นต้องดูว่าท่านยินยอมจ่ายเงินทองง่ายดายหรือไม่"

    "เงินทองยากให้ใคร ไหนเลยจ่ายแก่ผู้อื่นโดยง่าย" �คนแจวเรือ"ท่านตายแน่นอน" ขาดคำพลัน

    เสือกแทงไม้ถ่อดุจสายฟ้า เสียงดังฝ่าอากาศ ทะลวงแทงคราเดียวถึงเบื้องหน้าโกมินทร์แล้ว

    คนผู้นี้ไม่เพียงกำลังแขนกล้าแข็ง ทั้งยังมีพลังฝีมือมาก หาใช่โจรธรรมดาทั่วไปไม่ แล้วยังไง

    โกมินทร์ก็ไม่ใช่ชายหนุ่มธรรมดา โกมินทร์สะกิดเท้าเบาๆ ร่างก็ลอยขึ้นกลางอากาศดุจปุยนุ่น

    ไม้ถ่อพุ่งผ่านใต้เท้าไป จู่โจมใส่อากาศอย่างถนัดถนี่ โกมินทร์พลิ้วตัวลงบนเรือดังเดิม�

    "ดูไม่ออกว่าท่านม่านมีฝีมือ ดูท่าเราได้แต่ให้ท่านลงไปอาบน้ำแล้ว" � โกมินทร์กล่าว

    "ไม่ต้องเกรงใจ ข้าอาบน้ำมาแล้ว" �คนแจวเรือไม่รอฟัง ก็กระโดดปราดขึ้นกระโจนลงน้ำไป

    จากนั้นเรือก็หมุนอย่างรวดเร็วยิ่ง "หมุนไม่เป็นไรอย่าคว่ำแล้วกัน" ขาดคำเรือพลิกคว่ำจริงๆ

    ขณะเรือพลิกคว่ำ โกมินทร์ทะยานขึ้นฟ้าทันที รอจนเรือหงายขึ้นผิวน้ำ โกมินทร์ก็พลิ้วลงมาบน

    ก้นเรือ
    ��"คว่ำก็ช่างมัน อย่าจมแล้วกัน" เกิดเสียงดัง ก้นเรือถูกทะลวงเป็นช่องใหญ่ เรือน้อยเริ่ม

    จมลงช้าๆ โกมินทร์ยังไม่จมลงไป ไม้ถ่อยังลอยมาบนผิวน้ำ โกมินทร์พลิ้วไหวไป ใช้ปลายเท้า

    สะกิดไม้ถ่อเบาๆ โกมินทร์หยิบยืมพลังสะกิดเท้า เปลี่ยนลมหายใจอึดหนึ่ง กระโดดขึ้นอีกครา

    เพียง3รอบ ก็ลงถึงฝั่งอย่างปลอดภัย "ดูท่าเรือจมเลวร้ายเกินไป เพียงแต่น่าเสียดายไปบ้าง"

    คนแจวเรือโผล่หัวขึ้นจากน้ำ ใช้สายตาจับจ้องโกมินทร์เขม็งนิ่ง โกมินทร์มือไพร่หลัง ยิ้มกล่าว

    "ตอนนี้น้ำเย็นยิ่ง อาบน้ำระวังเป็นหวัด" คนแจวเรือชม"วิชาตัวเบายอดเยี่ยม" �"ยังพอใช้ได้"

    คนแจวเรือกล่าวเย็นชา"เสียดายท่านไม่รู้ดีชั่ว" โกมินทร์งง"เป็นท่าน หรือข้าที่ไม่รู้ดีชั่ว"

    "เราคิดรักษาชีวิตท่าน ชี้ทางรอดแก่ท่าน แต่ตอนนี้ดูท่านมีแต่ตายสถานเดียว"

    "ท่านให้ข้าลงไปอาบน้ำในบึง นับเป็นทางรอดของข้าเรอะไง" คนแจวเรือมุดลงน้ำอีกครา

    โกมินทร์ร้องทัก"รอสักครู่" คนแจวเรือโผล่หัวขึ้นมาช้าๆกล่าวว่า"ท่านมีอะไรจะบอก"

    "ข้าลืมขอบคุณท่าน" คนแจวเรือขวดคิ้ว"ขอบคุณเรา"

    "ไม่ว่าคำพูดท่านจะจริงหรือเท็จ เราล้วนขอบคุณ"

    คนแจวเรือ พลันทอดถอนใจกล่าวว่า "ชายหนุ่มที่ดีงามเช่นท่าน หากตกตาย ออกจะน่าเสียดาย

    จริงๆ" �"ข้าไม่คิดตาย" �คนแจวเรือเอ่ยขึ้น"ท่านจงไปยังวัดมังกร หานักพรตตู้ผู้หนึ่ง อาจรอด

    ตายได้" �

    "ข้ายังสบายดี ท่านไฉนบอกข้าใกล้ตาย" �

    "ท่านไม่ทราบว่าทำอะไรลงไป"

    "ข้าทำอะไร"

    "ท่านล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกิน"

    "หลวงจีนทั้ง4รูปนั้น"

    คนแจวเรือมุดตัวลงน้ำ เรือน้อยก็หายไปด้วยอย่างไร้ร่องรอย

    "โชคดีเรากลายเป็นร้ายแล้วหรือนี้" หันกายช้าๆพลันพบ ดวงตากลมโตถลึงจ้องมองตน นาง

    กลับเป็นสาวน้อยที่ปลอมเป็นชายคนนั้น หว่างเอวเพิ่มกระบี่งดงามเล่มหนึ่ง ที่แท้เป็นกระบี่ของ

    ตน ขนาดกระบี่ตนยังลืมเลือนไปแล้ว ตนกลับทำกระบี่บิดาสูญหายช่างเป็นลูกอกตัญญูนัก

    "หากกระทั่งวัดมังกรท่านยังมิทราบ ยังออกมาท่องยุทธภพไยกัน"�

    "ท่านทราบว่าวัดมังกรอยู่ที่ใด"

    "ท่านคุยกับใคร"

    "หรือตรงนี้มีคนอื่นอยู่"

    "ท่านบอกหญิงชายมีข้อห้ามถือสา คุยกับข้าทำไม"

    "ท่านเมื่อทราบวัดมังกรอยู่ที่ใด ปราณีข้าด้วยเถอะ บอกหนทางข้าสักครา"

    "เราท่านไม่รู้จักกัน ไยต้องช่วยท่าน"

    "ข้าโกมินทร์ แม่นางเล่า"

    "ชายหญิงมีข้อห้ามถือสา ไหนเลยบอกชื่อกันได้"

    "อย่างนั้นข้าขออำลา"

    "ท่านกลับมา เรายังคุยกันไม่จบ"

    "ยังมีอะไรจะคุยกัน"

    "ท่านบอก ดื่มสุรากับข้าไม่ได้ แล้วขึ้นเรือไปดื่มกับผู้อื่นได้ แถมดื่มทั้งคืนหรือนางไม่ใช่สตรี

    หรือพวกท่านไม่มีข้อห้ามหญิงชาย" �โกมินทร์สงบปากคำได้แต่ฝืนยิ้ม

    "ท่านตามข้ามาเถอะ"

    "แม่นางยินยอมนำทางข้าไปวัดมังกร"

    "ข้าหงส์ฟ้า" หงส์ฟ้า ชื่อนี้ไพเราะยิ่ง อย่างน้อยตนก็รู้ชื่อของนางแล้ว


    ------------------------------------------------- มาต่อกัน ------

    วัดมังกรอยู่ทางซ้ายมือของหมู่บ้านโยนก เป็น1ในสถานท่องเที่ยวของบึงพระราม วัดเจริญ
    รุ่งเรืองยิ่ง โดยเฉพาะในฤดูท่องเที่ยว ผู้มาท่องชมบึงก็ต้องมาจุดธูปกราบไหว้

    "คนแจวเรือให้ท่านมาหานักพรตผู้หนึ่ง"

    โกมินทร์ส่งเสียงอืมม์

    "ท่านไม่ได้ฟังผิด"

    "หูข้าดีจน มดพูดยังได้ยิน"

    "แต่วัดมังกรมีแต่หลวงจีน"

    "หลวงจีนที่ถูกข้ากวาดลงน้ำ เป็นหลวงจีนวัดนี้เรอะ"

    "ไม่น่าใช่ เจ้าอาวาสวัดมังกรเป็นทายาทวัดอโศก วิชาที่4หลวงจีนใช้ล้วนเป็นเพลงหมัดธรรม

    ยุทธ" โกมินทร์รีบกล่าว"ดูไม่ออกว่าท่านก็เป็นผู้ฝึกยุทธ"

    "ทำไม หรือผู้หญิงฝึกยุทธไม่ได้"

    "ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น"

    "ท่านมันก็เหมือนผู้ชายทุกคน สตรีควรเป็นแม่ศรีเรือน เชอะ"

    "ข้าไม่..ข้าไม่คิดเช่นนั้น"

    "อย่างนั้นคิดยังไง"

    "ข้าเพียงชม ท่านว่ามีตาแหลมคม มองออกว่าวิชายุทธใด"

    "ได้นับว่าท่านชมข้า" �ทั้ง2ท่านมองเรา เรามองท่านเหมือนมีกัน2คนบนโลก เมื่อมาถึงหน้า

    ประตูวัด �มองไปเห็นคนหลากหลายอาชีพ แต่ไม่พบเจอนักพรตสักคน หันไปเจอเณร2คน

    "ขอถามเณรทั้ง2 ในวัดมีนักพรตตู้หรือไม่"

    "ไม่มี นักพรตไม่กล้าเข้าประตู ถึงเข้ามาก็ต้องถูกไล่ออกไป"

    "เพราะเหตุใด"

    "นักพรตเห็นที่นี้เจริญรุ่งเรือง คิดปล้นชิงทรัพย์สินของที่นี้ อาจารย์ บอกว่า นักพรตกระทั่งผม

    เผ้าก็ไม่ยอมโกน ไม่อาจนับเป็นบรรพชิตที่ตัดกิเลสตัญหา ฟังว่านักพรตบางคนยังมีภรรยา"

    เณรน้อยทั้ง2แย่งกันตอบ โกมินทร์ลอบยัดเงินในเสื้อเณรทั้ง2 �เณรน้อยทั้ง2มองโกมินทร์
    พลันวิ่งจากไปดุจหมอกควัน หงส์ฟ้ากล่าวว่า

    "หลวงจีนที่ท่านทำร้าย หากเป็นศิษย์สำนักธรรมยุทธจริง นับว่าท่านตอแยคามยุ่งยากเข้าแล้ว

    แต่ธรรมยุทธเป็นศิษย์สำนักมาตรฐาน คงไม่ถึงกับฆ่าแกงท่านหรอกมั้ง"

    "คนแจวเรือ หลอกข้ามาที่นี้คงวางหลุมพรางเอาไว้แน่ๆ ไม่ทราบอยู่ที่ใด"

    "ท่านหากทราบ มันจะเป็นหลุมพรางเรอะ" นางยิ้มกล่าวต่อ "หลุมพรางเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น

    ดังนั้น จึงพลัดตกลงไป"

    "ดังนั้นข้าอาจพลัดตกลงไปทุกเมื่อ"

    "มิผิด"

    "แสดงว่าทุกคนที่ข้าพบเจอ อาจสมรู้ร่วมคิดกัน"

    "ใช่"

    "ท่านเล่า ท่านก็อาจเป็นไปได้" �หงส์ฟ้าหน้าเครียดลง เอ่ยว่า"ผู้ที่เป็นไปได้ที่สุดคือข้า"

    "จริงด้วย ข้าก็ลืมคิดไป"

    "ตอนนี้ข้าคิดกรอกสุราพิษแก่ท่านนัก �สังหารให้ท่านตายทั้งเป็น"

    "อืมม์ ถูกพิษสังหารดีกว่าจมน้ำตาย" �หงส์ฟ้าถลึงตาใส่กล่าวว่า "ท่านกล้าตามข้าไป"

    "ที่ใด" หงส์ฟ้าชี้มือไปด้านหน้า "นั้นเป็นที่ขายสุรา ท่าน..." �สุ้มเสียงนางชะงักหาย เนื่องเพราะ

    นางพบว่า มือนางชี้ไปยังคำสามคำ

    เป็นคำ �"นักพรตตู้"�




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×