ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Bigbang]..The Synchronize

    ลำดับตอนที่ #3 : :EP: 2 In secret (...100% )

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 53


    Ep2 In secret

     

    แสงแดดยามเช้าลอดผ่านมาทางผ้าม่าน

    ตาเรียวปรือขึ้นเล็กน้อย แล้วขยี้ตาเบาๆ

    ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นจากเตียง หันมองข้างตัว

    ...ร่างเล็กยังนอนขดอยู่ข้างๆ

     

    ซึงฮยอนมองภาพนั้นอย่างเฉยเมย

    ก่อนที่ความคิดบางอย่างจะผุดขึ้นมาในหัว

    คนตัวโตกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ลุกจากเตียงแล้วควานหาเสื้อตัวเองที่คิดว่าคงจะโยนไว้แถวๆนั้น

    ตาคมเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ของตัวเอง

    มือใหญ่เอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา แล้วหันหน้าไปทาง ควอนจียง

    กระตุกยิ้มอีกครั้งแล้วพูดขึ้นมาเบาๆ

     


    ...คงหายเบื่อไปอีกนาน

     

     

    ………………………………………….

     

    อื้อ

    จียงครางน้อยๆในลำคอแล้วลุกขึ้นจากเตียง

    มือเล็กขยี้ที่ผมตัวเองเบาๆแล้วมองไปรอบตัวอย่างเหม่อลอย

    ...อ่อ...เมื่อคืนนอนที่นี่...

     

    ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ จัดการอาบน้ำแล้วแต่งตัวให้เรียบร้อย

    จียงเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังผมเปียก ร่างบางยุ่งอยู่กับการเช็ดผมตัวเองให้แห้ง

     

    แกร๊ก...

    จียงสะดุ้งตกใจแล้วหันไปมอง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ


    เฮ้...นายยังไม่ไปอีกรึไง ร่างเล็กถามไปตามมารยาท


    ยัง พอดีลงไปเอาเสื้อ...มันยับ


    หึ

    จียงแค่นหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ หันซ้ายขวามองหาโทรศัพท์ของตัวเอง


    ตาเรียวเห็นว่าโทรศัพท์ของตัวเองวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงจึงเดินไปหยิบ แต่ยังคงแปลกใจอยู่ไม่น้อย

    ...เมื่อคืน...ไม่ได้วางโทรศัพท์ไว้ตรงนี้...

     


    ... ซึงฮยอนมองตามเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

    จียงโยนผ้าเช็ดผมทิ้ง เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า แล้วทำท่าจะเดินออกไป แต่โดนคนตัวโตดึงแขนไว้เสียก่อน


    อะไรของนาย...ปล่อย...


    รีบ?


    ฉันไม่ได้รีบ แต่ไม่อยากอยู่ ถ้าจะถามเรื่องเมื่อคืนล่ะก็ ต่างคนต่างไปก็แล้วกัน จบมั้ย


    เหอะ

    ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆ จียงเริ่มโมโห ...หมอนี่มันน่ารำคาญจริงๆ


    นี่ชเวซึงฮยอน...


    หือ


    ไม่รู้จักรึไง วันไนท์สแตนด์น่ะ อย่างนายก็คงทำบ่อยไม่ใช่รึไง


    อือ...ทำบ่อยก็บ่อยอยู่


    ...


    แต่กับนาย...คงไม่ใช่


    ร่างสูงพูดให้เป็นปริศนาแค่นั้น ก่อนจะไขความกระจ่างให้จียง

    มือใหญ่หยิบฌทรศัพท์มาตรงหน้าจียง

    เมื่อร่างบางได้เห็นว่าบนหน้าจอมีอะไร

    จียงถึงกับช็อค!

     

     

    …………………………


    ร่างบางจ้องรูปในโทรศัพท์อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

    ถึงจียงจะตกใจแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไปนัก เพราะเขารู้ดี...สถานการณ์แบบนี้ ถ้าโวยวายไป ก็เข้าทางมันน่ะสิ

    จียงแสร้งทำสีหน้าเฉยแล้วเอ่ยตอบไปเสียงเรียบ


    อะไร นี่นายคิดว่ารูปแค่นี้ชั้นจะสนใจรึไง หึ...คิดอะไรตื้นๆ


    ซึงฮยอนนิ่งไปนิดหน่อย ก่อนจะกระตุกยิ้มอย่างที่ชอบทำแล้วพูดขึ้นท่าทางมั่นใจ

    เหอะ ความจริงแล้วมันก็มีรูปที่หวิวกว่านี้อีกหลายรูปน่ะนะ แต่กลัวว่าจะรับไม่ได้...ก็เลยไม่อยากให้ดู


    ชิท!” จียงสบถด่าเป็นภาษาอังกฤษ


    หือ นายด่าชั้นรึไง


    ....ต้องการอะไร

    ร่างบางเชิดคางถามอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น จียงรู้จุดประสงค์ดี คนดีๆเค้าไม่ทำกันแบบนี้หรอกน่า เฮอะ..


    นายนี่มันฉลาดจริงๆด้วยสินะ

    ชิท! หมอนี่แอบด่าว่าเขาโง่รึไง


    ตอนนี้ยังนึกไม่ออก ไว้คิดได้แล้วจะบอกก็แล้วกัน

    ซึงฮยอนตอบหน้าตากวนตรีน เขาปล่อยแขนจียงเป็นอิสระ


    เอ้าจะกลับก็กลับไปสิ


    ชิ ชเวซึงฮยอน สารเลวเอ๊ย!”


    ไม่เอาน่ะ ชั้นอุตส่าห์ปล่อยนายแล้วทั้งที ...อยากจะนอนค้างที่นี่อีกสักคืนรึไง

    สิ้นคำพูด จียงเหมือนโดนต่อยหน้าหนักๆจนกระอักเลือด ไอ้บ้าชเวซึงฮยอน!!!


    ร่างเล็กกระฟัดกระเฟียด เดินกระแทกส้นออกไปจากห้องแล้วปิดประตูดังลั่นอย่างคนไม่พอใจ


    จียงเดินดุ่มๆมากดลิฟท์ พอมาถึงชั้นล่าง ขาเรียวก้าวยาวๆไปทางที่จอดรถเอาไว้เมื่อคืน ขณะที่กำลังจะเปิดประตูรถ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน

    เจ้าของโทรศัพท์หยิบออกมาดูชื่อคนโทรเข้า เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เขาแทบจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง

     


    สามีของนาย

     


    ชิท ไอ้หมอนั่น ทรามมาก ไร้มารยาทสิ้นดี

    จียงบ่นอย่างเหลืออดแล้วกดรับโทรศัพท์


    อะไร


    //พอดีเพิ่งนึกขึ้นได้ วันนี้ตอนหกโมงเย็นไปงานด้วยกันหน่อย//


    ห๊ะ ทำไมฉันต้องไปไม่ทราบ


    //ตามใจ แต่งตัวให้ดูดีหน่อย งานมันหรู เดี๋ยวห้าโมงครึ่งจะไปรับที่บ้าน// ซึงฮยอนไม่สนใจคำประชดของจียง ยังคงพูดๆๆๆไปเรื่อยๆ


    เหอะ นี่!นายรู้จักบ้านชั้นรึไง เชอะ


    //บ้านนายน่ะ หาไม่ยากหรอกนะ...ควอนจียง//


    นาย..!”


    //แค่นี้แหละ แล้วเจอกัน//

    ตัดบทจบ ก็วางสายไปทันที จียงเริ่มโมโหมากขึ้นร่างบางเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ เมื่อปิดประตู


    จียงเอามือทุบพวงมาลัยรถตัวเองอย่างแรงและสบถออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

    ชิท!ไอ้เชรี้ยชเวซึงฮยอน คอยดูนะ เผลอเมื่อไหร่พ่อจะฉกโทรศัพท์มาแล้วเขวี้ยงลงแม่น้ำฮันให้แม่งลอยไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเลยว้อย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!”


    ร่างบางตะโกนอย่างดังแล้วเอามือขยี้หัวตัวเองไปมาเหมือนกำลังหาที่ระบาย

    เหมือนคิดอะไรออก จียงหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วโทรออกไปยังเบอร์หนึ่ง

    ปลายสายรับอย่างรวดเร็ว จียงกระแทกเสียงลงไป


    //ฮัล...//


    เฮ้ยไอ้แด!!”


    //ครับ...// คนรับทำเสียงอ่อยอย่างตกใจ


    อีก 15 นาทีเจอกันที่บ้าน


    //ห๊ะ บ้านใครอ่ะพี่//


    บ้านกู!!!”

     

     

     

    .........................................

     


    ว่าไงนะ พี่ซึงฮยอนถ่ายรูปพี่?


    เออสิวะ จียงตอบเสียงหงุดหงิด


    แล้วพี่ทำยังไงให้โดนเค้าถ่ายได้เนี่ยยยยยยย โอ้ว...ไม่อยากจะคิด พี่!!!”


    จะโวยวายทำไมวะ ช่วยกันหน่อยดิ๊!”


    ช่วยไรอ่ะพี่ ผมช่วยไรพี่ไม่ได้แล้ว T^T” แดซองทำหน้าตาน่าสงสาร


    เมื่อคืนใครเป็นคนยัดเยียดชั้นไปให้มันวะ!!” จียงกระแทกเสียงถาม


    ผะ...ผมครับ T^T”

    แดซองไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่พะงาบๆตอบไปตามความผิด(ครึ่งหนึ่ง)ของตัวเอง


    ชั้นมีทางเลือกให้ 3 ทาง


    ว่ามาเลยพี่ ถ้ามันไม่อันตรายต่อชีวิตผมก็จะทำ คนตาหยีพูดเสียงมุ่งมั่น


    หนึ่ง รอมันเผลอแล้วตบโทรศัพท์มันให้พัง สอง ล้วงกระเป๋ามันแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้ง สาม เอาพวกไปกระทืบแม่งให้เจ๊งทั้งคนทั้งโทรศัพท์


    อูย...เนื้อหาเดียวกันทั้งสามข้อเลยอ่ะ


    จะทำไม่ทำ? จียงถามเสียงเข้ม


    ...แดซองสองจิตสองใจ เอาไงดีวะกู อารมณ์พี่จียงตอนนี้ถ้าตอบปฏิเสธไปมีหวังโดนตบกบาลแยกแหงๆเลยอ่ะ....

    ตอนแรกแดซองก็แอบตกใจนิดหน่อยกับท่าทางของจียง

    ทุกทีรุ่นพี่ของเขาไม่เคยจะโกรธมากจนวีนแตกเหวี่ยงซ้ายขวามั่วซั่วขนาดนี้


    ก็ทุกทีอ่ะ....พี่เค้าชอบเชือดนิ่มๆแล้วใช้วาจาเชือดเฉือนมากกว่าอ่ะ

    ถ้าทำให้พี่เค้าโกรธได้ขนาดนี้เนี่ย...เรียกได้ว่ากวนตรีนขั้นเทพเลยนะนั่น


    แล้วคนอย่าง ควอนจียงน่ะ แรงแค้นน้อยซะเมื่อไหร่เล่า....


    เอ่อ คือ ก็ ทำ...ก็ได้มั้งครับ


    อย่ามามั้งกะกูนะโว้ย!”


    อะๆๆๆ โอเคๆ ทำก็ทำ แต่ทำไมอ๊ะ พี่ไม่ระวังตัวเลยอ๊ะ

    แดซองยังคงตำหนิอย่างไม่กลัวตาย


    จะไปรู้มั้ยวะว่ามันจะถ่าย ใครจะไปคิดห๊ะ ก็กูไม่เคยโดนถ่ายนี่โว้ยกูจะรู้มั้ยว่ามันจะมาบ้าถ่ายรูปกูเนี่ย ไอ้ห่านี่ หัดคิดมั่งสิวะ คนดีๆที่ไหนเค้าจะทำ  ยงฮวายังไม่เคยทำเลยนะโว้ย!!”

    จียงสบถด่าแดซองเป็นชุดจนรุ่นน้องเกิดอาการอึนขึ้นมาอย่างกะทันหัน


    โอ๊ยพี่! ไอ้ยงฮวามันจะทำทำไม เก็บไว้ดูเองคนเดียวยังมันกว่าอีก อั๊กกก!!!”

    ยังพูดไม่ทันจบประโยคดี จียงก็เสยเข้าที่คางแดซองดังปั่ก! ทำเอาแดซองร้องลั่น


    อย่ามาพูดจาหมาๆอย่างงี้นะโว้ยยยยย


    “T^T ผมขอโต๊ดดดดดด

     


    Rrrrrrrr…

    ยังไม่ทันจะคุยธุระกันจบ เสียงโทรศัพท์ของแดซองก็ดังขึ้นเสียก่อน

    คนตาเล็กหันไปมองทางจียงนิดหน่อยเหมือนเป็นเชิงขออนุญาต จียงทำหน้านิ่งๆก่อนจะพึมพำออกมาแบบไม่มีเสียง แล้วเอานิ้วโป้งขึ้นมาทำท่าขีดตรงคอตัวเองอย่างน่ากลัว


    แดซองทำได้แต่ยิ้มแหยๆแล้วรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว


    เออว่าไง ทำเสียงเข้มทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นลูกน้องของพ่อตัวเองที่โทรเข้ามา


    ห๊ะ ไอ้ผับเชรี้ยนั่นอีกแล้วหรอ กูบอกมึงไปแล้วไงว่าให้เอาคาร์บอมไปวางไว้หน้าผับแมร่ง


    อะไรอีกวะ คนยิ่งยุ่งๆอยู่ ห๊ะ...อะไรนะ....ไอ้มยองซูเชิดเงินหนี ...ไอ้ชิบหายเอ๊ย พวกมึงปล่อยมันไปได้ยังไงวะ ไปลากคอมันมาให้กูเดี๋ยวนี้เลยนะ กูให้เวลาพวกมึงครึ่งชั่วโมง

    แดซองคุยธุระเสียงเครียด แต่จียงไม่สนใจยังคงนั่งจ้องหน้าอยู่อย่างนั้น


    เออ อีกครึ่งชั่วโมงกูไปผับต้องเจอมัน เดี๋ยวๆๆๆอย่าเพิ่งวาง เรื่องคาร์บอมอ่ะ อย่าให้มีหลักฐานมาถึงกูเลยนะ ไม่งั้นกูเอาพวกมึงตายแน่ แค่นี้นะ

    แดซองสั่งอย่างเป็นการเป็นงานก่อนจะวางสายแล้วหันมามองหน้าจียง

    ตาเรียวหรี่มองอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนที่เรียวปากบางจะเอ่ยข้อเสนออีกอย่างขึ้นมา


    ชั้นมีข้อเสนอให้อีก 3 ทาง


    อีกแล้วหรอพี่ อะไรอีกอ่ะ


    หนึ่ง บีบบังคับ สอง ใช้กำลัง สาม เก็บแม่งซะ


    อูยยย โหดร้ายมาก


    เมื่อกี้ใครเป็นคนสั่งเรื่องคาร์บอมวะ

    จียงตอกกลับอย่างจัง ทำเอาคนพูดแทบหงายหลัง


    โอเค เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะหาทางจัดการให้พี่แล้วกัน เพราะฉะนั้นอย่ามองผมอย่างนั้นโอเคมะครับ

    แดซองว่าพลางยกมือขึ้นทั้งสองข้างเป็นเชิงห้าม


    ชิ


    เดี๋ยวผมไปจัดการธุระให้พ่อก่อนละกัน ถ้ามีอะไรก็โทรมาบอกผมก่อน พี่อย่าไปลงมือเองล่ะเข้าใจผมป่ะ


    เออ เข้าใจ


    งั้นผมไปก่อนนะพี่ ไว้ค่อยเจอกัน บายคร้าบ

    คนตาหยีตัดบทแล้วเดินออกไปอย่างเร่งรีบ


    จียงมองตามแล้วถอนหายใจออกมา...อย่างน้อย แดซองมันก็ยังช่วยล่ะวะ

    แน่นอนล่ะ รุ่นน้องของเค้าคนนี้ก็เป็นแบบนี้เสมอแหละ เห็นใครเดือดร้อนเป็นต้องช่วยเค้าไปหมด

    ถ้าตัดนิสัยด้านแย่ๆบางอย่างของมันออกไปล่ะก็ แดซองมันก็เป็นคนดีมากๆคนนึงเลยล่ะ

     

    ……………………………..


    ผับ
    D-LITE


    คุณหนูแดซองทางนี้ครับ

    เมื่อแดซองมาถึงผับของตัวเองก็มีลูกน้องยืนรอต้อนรับอยู่แล้วแล้วเดินนำเข้าไปทันทีอย่างรู้งาน

    ขาเรียวเดินเข้าไปยังห้องด้านในซึ่งเป็นห้องเก็บเสียง


    เมื่อประตูเปิดออก คนที่เค้าสั่งให้ไปลากตัวกลับมากำลังนั่งหน้าเครียดยู่ที่พื้นโดยมีคนเอาปืนจ่อไว้ข้างหัว


    เฮ้ย ว่าไง แดซองทักคนตรงหน้าเสียงต่ำ


    คุณแดซองครับผมไม่ได้จะเชิดเงินหนีนะครับ!!” มยองซูพูดแก้ตัวอย่างรวดเร็ว


    ไม่ได้เชิดเชี่ยอะไร หลักฐานจะทิ่มตากูตายอยู่แล้ว ไอ้ควายเอ๊ย มึงคิดว่ากูโง่หรอวะ!!”


    ผมก็มีหุ้นอยู่ตั้ง 10% นะครับ


    10% เองโว้ยไอ้ห่า กูรู้อยู่หรอกว่ามึงจะเอาไปเปิดร้านขายไก่ หนอยเปิดร้านขายไก่ อยากตายก่อนแก่มั้ยล่ะมึง!”

    แดซองว่าพลางเอานิ้วไปจิ้มกลางหน้าผากแล้วดันออกไปอย่างแรง


    เฮ้ย จัดการ เอาให้เข็ดจะได้ไม่กล้ามาโกงกูอีก คนเป็นเจ้านายพูดเสียงเรียบแล้วเดินออกมาอย่างไม่สนใจคนข้างหลัง


     
    ....................................

     


    จียงนั่งหน้าเครียดอยู่บนห้องตัวเอง

    ร่างบางแต่งตัวตามอย่างที่แต่งทุกวัน ดูแล้วมันอาจธรรมดาสำหรับเขา แต่คงจะดูดีมากสำหรับใครหลายๆคน

    คนผมทองขยี้หัวตัวเองอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก คิ้วยังคงขมวดเป็นปม ปากบูดเบี้ยวไปมา

    ตาเรียวจ้องมองไปที่นาฬิกาข้อมือตัวเอง


    ....ห้าโมงยี่สิบห้า....

    ชิท!!ทำไมต้องมาเจอหน้าแม่งด้วยวะ ยังไม่หายอารมณ์เสียเลยแท้ๆ

     


    นั่งอยู่ได้ซักพัก เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น


    คุณจียงคะ มีคนมาหาค่ะ

    เสียงแม่บ้านดังขึ้นหน้าประตู จียงรู้ดี คนที่มาหา...เหอะ


    เดี๋ยวผมลงไป

    ร่างบางตอบออกไปเบาๆแล้วคว้าโทรศัพท์ตัวเองยัดใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

     

    ขาเรียวเดินลงมาตามบันไดจนถึงหน้าประตูบ้าน

    จียงจ้องคนตรงหน้าทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างรุนแรงแล้วพูดออกไปอย่างประชด


    แหม จมูกดีเหมือนหมาเลยนะ...ชเวซึงฮยอน


    ...

    คนโดนด่าไม่ตอบอะไรแต่เดินหันหลังไปขึ้นรถอย่างไว จียงเดินตามไปอย่างเสียไม่ได้

    คนตัวเล็กก้าวเข้าไปนั่งในรถคันสวยแล้วปิดประตูเสียงดังอย่างจงใจ


    เบาๆหน่อย รถมันแพง ซึงฮยอนปรามเสียงเบา


    แล้วไง มีตังก็เอาไปซ่อมสิ

    จียงพูดอย่างไม่ใส่ใจแล้วนั่งเงียบไปตลอดทาง

     

    เมื่อรถมาถึงหน้าโรงแรมหรู ซึงฮยอนจอดรถที่ด้านหน้าแล้วลงจากรถ ยื่นกุญแจรถให้คนรับรถแล้วเดินเข้าไปด้านใน  จียงเปิดประตูลงตามไป ร่างบางแอบทำหน้าล้อเลียนซึงฮยอนอยู่ด้านหลังเหมือนเด็กๆ

     

    ห้องใหญ่สุดด้านในของโรงแรมถูกจัดเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่เหมือนจะเลี้ยงสังสรรค์คนดังสักคน จียงเดินมองไปรอบๆอย่างเบื่อหน่าย ตั้งแต่มานี่เค้ากับซึงฮยอนแทบจะไม่ปริปากพูดกันสักคำ

    ร่างบางยื่นมือไปหยิบคอกเทลที่บริกรเดินมาเสิร์ฟ สายตาไปสะดุดกับชายหนุ่มแต่งตัวดีคนหนึ่ง

    ตาเรียวฉายแววตกใจเล็กน้อย แล้วพึมพำออกมาเบาๆ


    ...พี่เท็ดดี้

     

    เหมือนเท็ดดี้เองจะเห็นจียงเหมือนกัน คนเป็นพี่มีท่าทางตกใจไม่น้อย ก่อนที่จะเดินเข้ามาหาทันที


    อ้าว มาถูกได้ยังไง พี่กำลังว่าจะโทรไปตามอยู่พอดี

    เท็ดดี้ถามอย่างสงสัย น้องชายเขาไมน่าจะมาที่นี่ถูกนี่นา ดูท่าทางไม่สนใจอะไรจะตายไป


    ก็... จียงตอบไม่ถูก จะให้พูดว่ามากับไอ้บ้านั่นก็กระไรอยู่ แล้วหมอนั่นมันเป็นใครกัน ทำไมถึงมางานนี้ได้...


    ช่างมันเถอะ มาก็ดีแล้ว มาทางนี้หน่อยพี่มีคนจะแนะนำให้รู้จัก


    เท็ดดี้ว่าจบก็ดึงมือจียงไปอีกทางทันที

    คนเป็นพี่ลากน้องชายไปทางที่มีผู้ชายท่าทางฐานะดีคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกล เมื่อเดินเข้าไปถึง ชายคนนั้นยิ้มรับน้อยๆ ก่อนเท็ดดี้จะพูดขึ้น


    นี่ครับคุณชเว จียง น้องชายผม

    เท็ดดี้แนะนำตัวให้เสร็จสรรพ จียงนิ่งไปเล็กน้อย ...คุณชเว ...ไม่มีทาง คนเกาหลีนามสกุลนี้มีถมถืดไป


    ทักทายหน่อยสิจียง นี่คุณชเว หุ้นส่วนรายใหญ่ของพี่เลยนะ


    เอ่อ...สวัสดีครับ จียงก้มหัวให้เล็กน้อย


    อ้อ...ที่บอกว่าเรียนที่เดียวกับเจ้าเทมป์มันใช่มั้ย เรียนคณะเดียวกันรึเปล่าเนี่ย


    ปี 2 คณะบริหารครับ จียงตอบอย่างสุภาพ


    อ้าวคณะเดียวกันนี่ งั้นก็คงจะรู้จักกันน่ะสิ นี่เจ้าเทมป์มันไปไหนล่ะ เมื่อกี้ยังอยู่แถวนี้อยู่เลย

    คุณชเวพูดแล้วหันไปหาเลขา เป็นเชิงว่า ไปตามตัวมา

     

    เวลาผ่านไปได้ไม่นาน จียงยืนฟังเท็ดดี้คุยเรื่องธุรกิจกับคุณชเวไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะเดินเข้ามาขัดบทสนทนา


    พ่อ...มีอะไรรึเปล่า


    จียงมองไปตามเสียง ร่างบางชะงักไปเล็กน้อย ....ที่ยืนอยู่ตรงหน้า....ชเวซึงฮยอน...


    นี่ไงไอ้เทมป์ น้องชายคุณเท็ดดี้ รู้จักรึเปล่า จียงเค้าเรียนคณะเดียวกับแกด้วยนะ


    อ้อ...ใช่ รู้จักกันดีเลยล่ะ ซึงฮยอนพูดเหมือนแฝงความนัยอะไรเอาไว้ในคำพูด

    ทั้งสองคนจ้องหน้ากันนิ่ง ก่อนที่จียงจะเริ่มทนไม่ไหวกับการทำสงครามประสาท เค้าก็ขอตัวออกมาเสียก่อน


    พี่เท็ดดี้ คุณชเวครับ ผมขอตัว

    พูดจบร่างบางก็เดินเลี่ยงออกไปอีกทางทันที


    ซึงฮยอนมองตามเล็กน้อยแล้วเดินตามออกไป โดยที่ไม่ได้รู้ตัวว่า ...มีใครอีกคนที่มองตามเค้าไปอยู่เหมือนกัน


    ที่ระเบียงด้านนอก เสียงดนตรีในงานเบาลงจนแทบจะไม่ได้ยิน จียงยืนเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น

    ร่างบางมองไปไกลสุดสายตาก่อนที่จะต้องสะดุ้งเพราะมีใครอีกคนเปิดประตูตามออกมา


    ....ชเวซึงฮยอน


    คิดว่าใครล่ะ


    ตามมาทำไม โรคจิตรึไง จียงพูดประชด


    เปล่า ...เห็นนายเหมือนไม่อยากจะเห็นหน้าฉัน ก็เลยเดินออกมาให้เห็น


    ชิ...


    ทำไมไม่เข้าไปในงาน ซึงฮยอนเริ่มเปิดบทสนทนาอีกครั้ง


    ทำไมนายไม่บอกฉันว่าจะมางานนี้ จียงไม่ตอบ กลับเลี่ยงไปถามแทน


    ...ไม่อยากมารึไง


    ฉันไม่อยากไปไหนกับนายทั้งนั้นแหละ ร่างบางกระแทกเสียงอย่างโมโห หมอนี่มันบ้า ยียวนกวนประสาท!!


    ...

    จียงทำท่าจะเดินออกไป แต่เหมือนซึงฮยอนเร็วกว่า เขารวบตัวจียงเข้ามาในอ้อมแขน

    ร่างบางดิ้นขัดขืน ในขณะที่ซึงฮยอนกอดแน่นขึ้น


    ปล่อย...!”


    เสียงประตูเปิดออกอีกครั้ง กับร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาแล้วตกใจกับสิ่งที่เห็น

    ทั้งสองคนเองก็ชะงักไปไม่น้อย


    ชายร่างสูงในสูทราคาแพงทำสีหน้าที่ไม่มีใครอ่านออก ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเบาๆ


    จียง พี่ขอคุยด้วยหน่อย...

    เท็ดดี้เดินออกไป ซึงฮยอนปล่อยตัวจียงแล้วยักคิ้ว จียงถลึงตามองอย่างโมโหแล้วเดินตามหลังพี่ชายออกไป

     

     

    คนเป็นพี่พาน้องชายตัวเองเดินออกมานอกงานแล้วเริ่มเปิดประเด็น


    วันนี้...นายมางานเพราะซึงฮยอน?


    ... จียงไม่ตอบอะไรได้แต่นิ่งเงียบ


    รู้จักกันมานานแล้วงั้นหรอ เท็ดดี้เห็นจียงไม่ตอบ จึงเปลี่ยนคำถาม


    ไม่นานเท่าไหร่


    พี่ก็ไม่ได้ว่าหรอกนะ....ถ้าพวกนายสองคนจะ... เท็ดดี้ยังพูดไม่ทันจบ จียงก็พูดขัดขึ้นมาเสียงดัง


    จะอะไร นี่มันอะไร พี่เท็ดดี้คิดว่าเค้าเป็นคนยังไงนะ


    ฟังพี่พูดให้จบก่อนสิจียง...ถ้าพวกนายมีใจต่อกัน พี่ก็ไม่ได้จะว่าอะไร พี่ก็แค่เป็นห่วง


    เหอะ พี่เป็นห่วงผมเหรอ ไม่เคยจำได้สักนิดเลย!”


    ทำไมพี่จะไม่เคยห่วงนาย เท็ดดี้เริ่มขมวดคิ้ว


    โอเค ฟังให้ได้นะพี่เท็ดดี้ เมื่อคืนผมกับซึงฮยอนนอนด้วยกัน เลิกเป็นห่วงได้แล้ว!”

    จียงตะโกนใส่หน้าเท็ดดี้อย่างแรง ทำเอาเท็ดดี้นิ่งไป


    ...เขารู้ดี เรื่องแบบนี้ใช่ว่าเขาจะไม่เคยรู้ แต่สำหรับจียง ไม่เคยเห็นใครอยู่มาได้นานขนาดนี้

    จียงไม่เคยไปไหนกับใคร ...อย่างน้อยก็แค่คืนเดียว

    ถ้าจะมีที่ยังติดต่อกันอยู่ แล้วไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ก็เห็นมีอยู่แค่คนเดียว


    ซึงฮยอน...เป็นคนที่ 2 งั้นหรอ...

    เท็ดดี้ถอนหายใจเล็กน้อยให้กับความขี้โมโหของน้องชายตัวเอง

    คนเป็นพี่พูดขึ้นมาเสียงแผ่วแต่แฝงไปด้วยความห่วงใย


    พี่เป็นห่วงนายอยู่เสมอ เพียงแค่นายฟังที่พี่พูดบ้าง แล้วเข้าใจในสิ่งที่พี่ทำ ...เข้าใจ ว่าที่พี่ทำไปทั้งหมด พี่ทำไปเพื่อใคร... เท็ดดี้เว้นจังหวะก่อนจะพูดต่อ


    ถ้าวันไหนไม่กลับบ้าน ก็โทรมาบอกพี่บ้าง พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง... พูดจบ ร่างสูงของพี่ชายก็เดินกลับเข้าไปในงาน

    จียงมองตามสีหน้าเฉยเมย เขาเดินเข้าไปหาตัว ชเวซึงฮยอนจนเจอ แล้วพูดออกมา


    จะกลับบ้าน

     

     


    ในรถคันสวยของซึงฮยอน จียงนั่งเงียบตั้งแต่ขึ้นมานั่งบนรถ ตาเรียวเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

    มารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่ซึงฮยอนเลี้ยวรถเข้าไปในคอนโดราคาแพงแห่งหนึ่ง


    ตั้งใจจะทำอะไร จียงพูดออกมา เขจ้องหน้าซึงฮยอนเขม็ง


    ก็กลับบ้านไง นายไม่ได้บอกนี่ ว่าบ้านฉัน ...หรือบ้านนาย


    จียงกัดฟันอย่างกลั้นอารมณ์

    ฉันจะลง


    อยากลงก็ลงไป ฉันไม่จอด สิ้นคำพูด ซึงฮยอนยิ่งขับรถเข้าไปในลานจอดรถเร็วขึ้นอีก


    จียงนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด ...หมอนี่...ไอ้ห่าลากเอ๊ย
    !!!

    เมื่อรถจอดสนิท ซึงฮยอนหันมามองหน้าจียงก่อนจะพูดน้ำเสียงกวนอารมณ์


    เอ้า อยากลงก็ลงไปสิ

    จียงเงียบไม่ตอบอะไร สายตามองตรงไปข้างหน้า


    หึ.. ซึงฮยอนหัวเราะในลำคอ


    ...ได้ จะไม่ลงใช่มั้ย ดี...งั้นก็ไม่ต้องลง


    คนร่างสูงไม่ทันให้จียงรู้สึกตัว เขาเขยิบเข้าหาแล้วใช้แขนตัวเองเกี่ยวคอจียงเข้ามา
    ร่างสูงประกบจูบแรงๆอย่างจงใจ


    อื้อ..

    จียงตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งเขาดิ้นซึงฮยอนก็ยิ่งรุนแรง


    หมอนี่มันบ้าไปแล้วรึไง
    !!!

    ร่างบางเอามือทุบหน้าอกคนตรงหน้า แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล แขนจียงเริ่มอ่อนแรงลง และเริ่มหายใจไม่ออก

    ซึงฮยอนถอนจูบออกเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน จียงหอบแฮ่กอย่างคนไม่มีอากาศหายใจ

    ร่างสูงยิ้มเยาะแล้วพูดอย่างผู้ชนะ


    ไง จะลงได้รึยัง


    จียงหันมองหน้าเขาอย่างคาดโทษ แต่ก็ยังนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น

    ซึงฮยอนส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูรถเดินลงไป เขาเดินไปฝั่งที่นั่งด้านคนขับ เปิดประตูออกอย่างแรงแล้วลากตัวจียงลงไป


    ไอ้บ้า ปล่อยนะ!!” ร่างบางตะโกนด่าเสียงดังลั่น


    ลงมาเร็วๆอย่าเรื่องมาก

    ว่าจบซึงฮยอนก็ลากตัวจียงไป ร่างบางโดนดึงจนตัวปลิวเลยต้องเดินตามไปอย่างจำใจ

     

     

     

    ....................................to be con
    ครบ 100% แล้วนะ
    เม้นเร็วอัพเร็ว เค้าไปก่อนละ บะบายยยยย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×