ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Bigbang]..The Synchronize

    ลำดับตอนที่ #2 : :EP: 1 unawares (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.68K
      6
      15 ก.พ. 53

    EP: 1 unawares

     

     


    even if I die and wake up again, I can't forget you
    I can't forget all the words you've said to me
    forgetting, then remembering…how could it be so severe
    not once, not for a moment, I haven't forgotten your existence

     

    แม้ชั้นจะตายไปแล้วและตื่นนอนอีกครั้ง ชั้นก็ไม่สามารถลืมคุณได้
    ชั้นไม่สามารถลืมทุกคำที่คุณได้กล่าวแก่ชั้น
    พยายามลืมแล้ว พยายามลืมเท่าไร ...มันช่างยากเสียเหลือเกิน
    ไม่เพียงแค่ครั้งเดียว ไม่เพียงแค่เวลาใด ตัวฉันไม่เคยลืมช่วงเวลาที่มีคุณ


    nothing has changed

    you mean everything to me, I'll give anything you want
    you should let me love you again

     

    ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป

    คุณหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างของชั้น ชั้นให้คุณได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ
     
    เพียงแค่...ให้ชั้นได้รักคุณอีกครั้ง

     

     

    …………………………………………………………………………………………

     

     

    ฟึ่บ!! เสียงกระชากมืออย่างแรงดังขึ้นทันทีที่โดนแตะเพียงเล็กน้อย ตามมาด้วยเสียงด่าทอที่ดังไปถึงก้นบึ้งจิตใจของใครบางคน

     

    เลิกทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของซักที!”

     

    ...

     

    มันน่ารำคาญ...รู้ไหม

     

    …………………………………….

     

    …………………………

     

    ……………..

     

     

     

     

    เสียงเปิดประตูรถดังขึ้นหลังจากที่รถคันหรูราคาแพงเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในสถานที่จอดรถอันกว้างขวางของมหาวิทยาลัยยางกูน มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าที่เรียกได้ว่าหรูหราราคาแพง คนที่เข้าที่นี่ได้ ถ้าไม่ไฮโซของจริง...ก็ต้องเรียนเก่งระดับพระกาฬ ไม่ก็เป็นพวกที่เรียกได้ว่ามีความสามารถพิเศษเกินคนเท่านั้น

     


    เจ้าของรถสวยก้าวลงมาด้วยท่าทางไม่รีบร้อน แล้วเดินเข้าไปด้านในตึกคณะบริหารของมหาวิทยาลัย

     


    จากตรงนี้ เราจะเห็นได้ว่า... เสียงอาจารย์ในห้องยังคงสอนนักศึกษาที่ตั้งใจเรียน แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อผู้มาใหม่เปิดประตูเข้ามาอย่างแผ่วเบา


    ... ตาคมเหลือบมองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปที่มุมนั่งประจำด้านหลังห้อง

    อาจารย์ผู้สอนมองตามอย่างเงียบๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วพูดให้นักศึกษาจดแลกเชอร์ตามอีกครั้ง

     


    มาสายจังวะวันนี้ คนตาเล็กที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเอ่ยถามเบาๆ


    รถติด…”


    รถติดในความหมายของ ชเว ซึงฮยอน แปลว่าตื่นสายใช่ไหม


    ...ฉลาดนี่ ชเวซึงฮยอนปรายตามองเพื่อนข้างตัวเล็กน้อยแล้วตอบเสียงเอื่อย

    คนตัวสูงเอามือตัวเองเสยผมที่ปิดหน้าขึ้น ก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาทำท่าจะตั้งใจเรียน

     

     


    แกร๊ก


    ...อีกครั้ง เสียงเปิดประตูดังขึ้น หลายคนหันไปมองทางผู้มาใหม่ ที่ผงกหัวเป็นเชิงขอโทษเล็กน้อย ขาเล็กก้าวเดินเข้ามาในห้องเรียน

    เส้นผมสีทองที่ถูกตัดเป็นทรงเซ็ตเอย่างดีไหวน้อยๆเพราะการเดินที่ออกจะรีบเร่งไปหน่อย

     


    เฮ้อ...ร่างบางถอนหายใจเบาๆ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ที่ไม่ห่างจาก ชเวซึงฮยอนมากนัก หยิบหนังสือออกจากกระเป๋าดูมีราคา พร้อมกับกางออก ก่อนที่จะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

     


    ... 


    วันหลังมาเช้าหน่อย คุณควอน อาจารย์ตำหนิเล็กน้อย แล้วหันไปสอนต่อ

    แน่นอน ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา

     


    ซึงฮยอนมองตามคนผมทองไปเพลินๆแล้วเสียงหนึ่งก็ขัดขึ้นก่อน


    สนใจรึไง ทงยองเบเอ่ยกระซิบถามเพราะกลัวว่าคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลจะได้ยิน


    ทำไมต้องสนใจด้วย


    เอ้า...ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเค้ารึไง


    ชื่อเสียง? ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย ดูไม่เห็นจะมีพิษสงอะไร ก็แค่หน้าหยิ่งๆจมูกเชิดๆเท่านั้นแหละ


    เห็นมีหลายคนพูดกันมาน่ะ ฉายานี้มันมีที่มา ควอนจียงคนสาธารณะ’…”


    เหอะๆ เจ๋งดีนี่หว่า มาจากไหนล่ะ

    คนตาคมเริ่มจะสนใจมากขึ้น


    อือนะ เห็นเค้าว่า...ก็แรงพอตัวอยู่ ได้ทั้งหญิงทั้งชายแหละ แต่เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นผู้ชายเยอะกว่าว่ะ - -*


    ไร้สาระ ว่าเพื่อนพลางส่ายหน้าน้อยๆอย่างไม่สนใจ


    เหอะ ข่าวลือส่วนใหญ่มักจะมาจากเรื่องจริงไม่ใช่รึไง ...ตอนแรกกูก็ไม่เชื่อหรอก เพราะเค้าเป็นคนรู้จักรุ่นน้องกู ไปๆมาๆ มองแล้วว่ามันก็เริ่มมีเค้าว่ะ ต้องใช่แน่ๆ...


    ... ...ส่วนมากข่าวลือ มันมักจะมาจากเรื่องจริงหรอ...เฮอะ...

     

     

    เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกคลาสดังขึ้น อาจารย์ละจากกระดานที่สอนเก็บของแล้วเดินออกไป นักศึกษาหลายคนก็เดินตามออกไปเช่นกัน

    ซึงฮยอนลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกันกับยองเบ สายตาเหลือบไปเห็น...คนข้างๆ ยังฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ

    มือใหญ่เลื่อนไปกะจะเป็นคนมีน้ำใจช่วยปลุก

     

     


    พี่จียง

    กลับเป็นว่ามีคนเดินเข้ามาเขย่าไหล่คนผมทองเสียก่อน


    อื้อ...

    คนนอนฟุบครางในลำคอเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง


    อ้าว...หวัดดีแดซอง


    ไปเถอะฮะ เค้าเลิกคลาสกันแล้วนะ


    หรอ...อือๆไปก็ไป ว่าแล้วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปพร้อมกับคนตาหยี

     


    ซึงฮยอนยืนจ้องอยู่แปปหนึ่งแล้วเดินออกไปมั่ง ทำเอายองเบที่ยืนอยู่คุยกับเพื่อนอยู่ด้านข้างเซเล็กน้อยเพราะไม่ทันตั้งตัว


    โอ๊ะๆอะไรของแกวะ


    โทษที มองไม่เห็น

    ....แหม...ตัวกูนี่เล็กจังเนอะ มองไม่เห็นเนี่ย...

     

    จะไปไหนก่อนล่ะห้องสมุด? โรงอาหาร?


    โรงอาหารดีกว่ามั้ง อีกนานอ่ะกว่าจะทำเสร็จวันนี้งานเยอะว่ะ ยองเบตอบกลับไปขณะทั้งคู่เดินออกมา

     


    ผลั่ก
    !

     


    อ๊ะ..

    คนโดนชนถอยหลังเซเล็กน้อย แต่คนที่เดินชนกลับเซจนเกือบจะล้มลงไปกับพื้น


    บ้าเอ๊ย...


    เฮ้...นายชนชั้นก่อนไม่ใช่รึไง...ควอนจียง ซึงฮยอนเรียกชื่อเต็มของอีกฝ่ายออกไป


    ชิ...โอเค นายชนชั้น ชั้นชนนาย หายกันแล้ว จบมั้ย จียงว่าคำขาดออกมา ทำเอาคนตรงหน้าอึ้งไป...คนอะไร นิสัยแย่สุดๆ


    ก็ไม่ได้ว่าอะไร พูดจบก็เดินออกไปทันที

    ...ตอนนี้ เค้าเองรู้อะไรเพิ่มเกี่ยวกับ ควอนจียงคนสาธารณะมาเยอะแล้วล่ะ หยิ่ง เชิด ไฮโซ ...ที่ขาดไม่ได้เลย นิสัยเสีย...โคตร

     

     


    ห้องสมุด


    แม่ง กูล่ะโคตรแห่งความเซ็งในชีวิต อาจารย์ได้นัดกันก่อนสั่งรายงานป่ะวะ สั่งประสานงาชนกัน 2 เล่ม กูจะบ้าตาย


    ทำๆไปเหอะน่า เป็นไรวะบ่นอยู่ได้ ซึงฮยอนว่าเพื่อนเบาๆ แน่ล่ะ...ที่นี่มันห้องสมุดนะ


    โหไอ้เทมป์ มึงก็เหมือนกันแหละ มีงานคู่ที่ไร ชอบโยนมาให้กูทำคนเดียว

    คนตาเล็กว่าเพื่อนโดนเรียกชื่อเล่นออกมา


    ก็ช่วยทำอยู่นี่ไง


    เออ ช่วยทำให้เสร็จด้วย สั่งได้สั่งดี เคยถามความเห็นกูบ้างมั้ยว่ากูอยากทำรึเปล่า ยองเบยังคงบ่นไปทำไปเหมือนเดิม


    มึงก็บอกเค้าไปสิ ว่าไม่อยากทำ


    เอ๊ะไอ้นี่ บอกไปกูก็ติดเอฟตลอดชาติเลยสิ สราด พูดไรช่วยคิดนิดนึงเหอะ


    โอเคๆ กูขอโทษ - -*


    กูเห็นมึงแล้วกูรำคาญว่ะ เฮ้ยเทมป์ มึงไปหยิบหนังสือมาอีกเล่มดิ๊ เล่มนี้เนื้อหาน้อยไป คนตัวล่ำสั่งเพื่อนแล้วโยนหนังสือไปให้


    แล้วเอาเล่มนี้ไปเก็บด้วย


    เออๆสั่งแม่งเข้าไป จะเอาอะไรอีกมั้ย ถามพลางประชดเพื่อนเล็กน้อย


    กูอยากได้น้ำใจ ไปด่วนๆ

    ...เออ...กูไปก็ได้

     


    ร่างสูงเดินมาจนถึงชั้นหนังสือด้านใน เอื้อมมือไปเก็บหนังสือที่อยู่สูงเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มหาหนังสือเล่มใหม่ตามที่โดนไหว้วาน(หรือใช้)ให้มาเอา


    สายตาไล่หาชื่อหนังสือไปเรื่อยๆ เห็นว่ามีใครอีกคนกำลังพยายามหยิบหนังสือที่อยู่ชั้นบนสุดออกมา

    ...บังเอิญหรือสวรรค์แกล้งวะ คนผมทองอย่างนี้ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ


    โอ๊ย หนังสือบ้าอะไรวะอยู่สูงชะมัด จียงบ่นเบาๆ ตาเรียวไล่มองพยายามหาคนช่วย

     


    เฮ้นาย ร่างบางส่งเสียงเรียกออกไป ได้ผล คนถูกเรียกหันหน้ามองทางเขา


    ช่วยหยิบหนังสือเล่มนั้นให้หน่อยได้มั้ย ว่าพลางชี้ไปทางหนังสือที่จะเอา


    จำเป็น? ร่างสูงเลิกคิ้วถามแล้วพูดออกมาน้ำเสียงน่าหงุดหงิดเป็นที่สุด


    น้ำใจน่ะมีมั้ย จียงพูดออกไป ซึงฮยอนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินเอื้อมมือไปหยิบหนังสือให้อย่างว่าง่าย


    “…”
    คนหยิบไม่พูดอะไร พลางยื่นให้


    ขอบใจ จียงกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบ กลับเป็นว่าซึงฮยอนปล่อยหนังสือตกลงไปบนพื้นเสียงดัง


    หยิบให้แล้ว เก็บเอาเองละกัน


    หึ... จียงไม่โวยวายอะไรแล้วก้มลงไปเก็บหนังสือขึ้นมาซะเฉยๆ ทำเอาคนทำงงไปเล็กน้อย ...ไม่ตอบโต้อะไรเลยรึไง


    วันหลังทำแบบนี้…”เรียวปากบางพูดออกมาช้าๆให้ฟังอย่างชัดเจน โดยที่ซึงฮยอนเองก็ยังยืนฟังอยู่


    ...ระวังลงไปนอนใต้ตีนใครเค้านะ ว่าจบก็เดินถือหนังสือออกไปทั้งอย่างนั้น ทิ้งให้คนเบื้องหลังยืนทำหน้าบึ้งอยู่คนเดียว

     

     

     

     

     

    รถสีขาวคันสวยวิ่งมาจอดอยู่ที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ประตูอัตโนมัติเลื่อนเปิด ก่อนที่เจ้าของรถจะเลี้ยวเข้าไปอย่างชำนาญแล้วจอดลงที่โรงรถ

    ร่างบางเดินลงมาจากรถแล้วก้าวยาวๆเข้าไปในตัวบ้าน

     


    แกร๊ก...

     

    ... จียงเปิดประตูเข้าไป แล้วยืนนิ่งไปเล็กน้อย


    อ้าว...กลับมาแล้วหรอจียง


    ถ้าเห็นว่ามาแล้วก็คือมาแล้ว ร่างบางตอบไปห้วนๆ


    ยังนิสัยไม่ดีเหมือนเดิมนะเราน่ะ


    ดูนิสัยตัวเองก่อนเถอะถ้าจะมาว่าคนอื่นเขา พี่เท็ดดี้ จียงตอบกลับ


    โอเคๆใจเย็นน่าคนบนโซฟาว่าพลางยกมือขึ้นห้าม


    เฮอะ...แล้วไปเอาผู้หญิงที่ไหนมาอีก จียงถามขึ้นหลังจากที่เห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่ใกล้กับพี่ตัวเองหันหน้ามา


    ผู้หญิงที่ไหนกัน นี่คุณฮโยรี เลขาคนใหม่ คนเป็นพี่แนะนำตัวเลขาคนใหม่เสร็จสรรพ


    แน่ใจว่าแค่เลขา จียงตอกหน้าพี่ตัวเองกลับไปอย่างอารมณ์เสีย อย่างว่าน่ะแหละ...ไม่มีทางหรอก...ไม่มีทางเป็น แค่ เลขาแน่นอน เขารู้ดี นิสัยพี่ตัวเอง...พี่เท็ดดี้เจ้าชู้จะตาย


    ...อย่าน่าจียง


    หึ...ไปล่ะ ร่างบางพูดขึ้นแล้วหันหลับจะออกจากตัวบ้านไป


    เอ้า...เพิ่งมาแล้วจะไปไหนอีกล่ะ


    ไปผับแดซอง วันนี้มีงานฉลองเปิดผับใหม่


    เดี๋ยวสิจียง


    อะไรอีก คนผมทองหันไปถามเสียงดัง


    พรุ่งนี้ตอน 6 โมงเย็นทำตัวให้ว่างด้วย ไปงานกับพี่หน่อย หุ้นส่วนคนนี้คนสำคัญต้องไปเข้าใจไหม?เท็ดดี้ร่ายยาว


    อือ เข้าใจ แต่ไม่รับปากว่าจะไป พูดจบร่างเล็กก็เดินออกไปทันที

     


    เฮ้อ... เมื่อน้องตัวเองออกไป คนเป็นพี่ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน

    สำหรับตัวเขา...เท็ดดี้ หรือ ปาร์คฮงจุน มีน้องชายอยู่เป็นครอบครัวแค่คนเดียวนั่นก็คือจียง เพราะพ่อกับแม่เองต่างก็เสียไปแล้วเนื่องจากอุบัติเหตุทางธุรกิจ คัวเขาเองก็สานต่อบริษัทส่งออกของพ่อแม่มาเป็นอย่างดีจนกิจการรุ่งเรืองมากมาย


    ...แต่....เขาคงละเลยน้องชายตัวเองมากเกินไป

    จียง....ก็เลยไม่สนใจเขาแบบนี้...สำหรับคนเป็นพี่แล้ว...มันดูแย่ไม่น้อยเลย

     

     

     


    ผับ
    D-LITE

     

    พี่จียง มาแล้วหรอฮะ ผมกำลังรออยู่เลยนะเนี่ย แดซองพูดขึ้นเมื่อเห็นรุ่นพี่ตัวเองกำลังเดินเข้ามา


    โทษที พอดีแวะกลับไปบ้านมาน่ะ


    ฮะ ไม่เป็นไรครับพี่ นั่งก่อนๆ คนตาหยีดึงแขนจียงไปที่บาร์


    เตกีล่า จียงหันไปสั่งกับบาร์เทนเดอร์อย่างเร็ว

     

    ผับเนี้ยผมคิดว่าน่าจะได้ลูกค้าเยอะนะครับ คุณพ่อบอกว่าตรงนี้ทำเลดีมาก

    แดซองพูดไปพลางจิบไวน์ในแก้วไปพลาง 


    ฮ่ะๆ ต้องได้เยอะอยู่แล้ว ผับหรูระดับนี้ สมกับเป็นครอบครัวนายจริงๆ จียงพูดแล้วเล่นหัวแดซองนิดหน่อย


    ไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่ เอ๊ะโทรศัพท์ผมดัง ขอตัวแปปนะครับ แดซองผงกหัวขอโทษเล็กน้อยก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง

    ตาเรียวมองตามรุ่นน้องที่เดินออกไปรับโทรศัพท์ มือเลื่อนไปหยิบแก้งที่บาร์เทนเดอร์ส่งมาให้แล้วจิบไปเรื่อยๆ

     

     

     



    ฮะ ผมบอกพี่แล้วไงว่าถ้าถึงทางแยกให้เลี้ยวขวา พี่ไปเลี้ยวซ้ายทำไมเล่า


    //ใครมันจะไปรู้วะ บอกแล้วไงอย่าให้กูขับรถตอนกลางคืน//


    โธ่พี่คร้าบ ใช่ว่าจะอายุเยอะมากมายอย่ามาสำออยหน่อยเล้ยยยย


    //มึงว่ากูหรอ เจอเมื่อไหร่มีเคลียร์แน่ไอ้แด//


    เย้ย...ผมล้อเล่นอ่ะ รีบๆมาเหอะพี่ยองเบวันนี้ดื่มฟรี ไม่อั้น ไม่อั้น!!!” คนตาหยีพูดอย่างเสียงดัง


    //เออรู้ ไม่ฟรีก็ไม่ไปหรอกโว้ย//


    โหดร้าย!”


    //เพิ่งรู้หรอ เมื่อวานกูโหดร้ายกว่านี้เยอะ//


    พี่ยองเบอ่ะ แล้วนี่พี่มากะใครป่ะ แดซองกรอกเสียงถามรุ่นพี่ไปเรื่อย


    //อ่อ เดี๋ยวเพื่อนตามมาอีกคน แยกกันไปอ่ะ ป่านนี้ถึงแล้วมั้ง
    //


    หรอฮะ ใช่พี่ซึงฮยอนป่ะแดซองถามเสียงใส


    //เออ ทำไมอ่ะ รู้จักมันหรอ?// ปลายสายถามกลับมา มันไปรู้จักกันตอนไหนฟระ??


    ผมรู้จักเค้าแต่เค้าไม่รู้จักผมหรอกมั้ง พี่เค้าดังจะตาย เพื่อนๆผมนี่กริ๊ดกันตรึม ทั้งชะนี ทั้งค่าง5สี กะเทยก็กริ๊ดนะพี่


    //หรอ// ...นี่กูควรดีใจกับเพื่อนกูมั้ยเนี่ย
    …- -*


    รีบๆมาละกันนะพี่นะ สายซ้อนอ่ะ พี่วางไปเลย


    //เออๆ ไปถึงแล้วจะโทรหาอีกทีละกัน//

     

     


    เออว่าไงอยู่ไหนแล้ว เมื่อยองเบวางสายไป แดซองก็คุยกับสายซ้อนอีกสายที่โทรเข้ามาทันที


    //อยู่หน้าผับ มารับหน่อย//


    ไม่เดินเข้ามาเองวะ


    //ออก  มา  รับ  หน่อย//


    เออๆ กูไปก็ได้ รออยู่นั่นแหละ แดซองพ่นลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปหน้าผับ เพื่อนเค้าคนนี้มันโตแต่ตัวจริงๆ อายุสมองรึ...อย่าให้พูดเลย ง้องแง้งยังกะอะไรดี

     

     


    แดซองเดินออกมาถึงหน้าผับ เห็นเพื่อนตัวยืนรออยู่แล้วคนตาหยีรีบกวักมือเรียกทันที


    เฮ้ย ซึงรี ทางนี้เว่ย

    เมื่อถูกเรียกเจ้าของชื่อก็รีบเดินเข้ามาหาทันที


    เดินเข้าไปเองไม่ได้หรอวะ วันนี้กูต้องรับแขกของพ่อด้วยนะเว้ยว่าเพื่อนทันทีที่เจอหน้า


    กูกลัวหลง


    หลงห่าอะไร โตหยั่งกับควาย ไม่หลงง่ายๆหรอกมึง พูดจบ ก็ดันหลังเพื่อนเข้าไปด้านใน

     

     


    เฮ้ยซึงรี อยู่นี่ไปก่อน อยากกินไรก็สั่งเอา กูไปดูพี่จียงแปป


    พี่จียง พี่จียงมาด้วยหรอ ซึงรีพูดขึ้นมาอารมณ์ดี๊ด๊าสุดๆ


    เออมา กูไปดูพี่เค้าแปป ปล่อยเค้าไว้นานแล้วว่ะ

    พูดจบก็เดินออกมาทันที

     

     

    จียงยังคงนั่งอยู่ตรงบาร์ในมุมหรูของผับ

    ตาที่กรีดอายไลเนอร์คมกริบปรือลงเล็กน้อย


    ...ดื่มไปเยอะเหมือนกัน...วันนี้นอนมันที่นี่แหละ กลับไปคงจะหาเรื่องเลี่ยงไม่ไปงานไม่ได้

    คิดได้แค่นั้น เมื่อคนตัวเล็กกะว่าจะนอนที่นี่อยู่แล้ว จะสนไปอีกทำไม จะเมาก็เอาให้เมาไปเลย

    ขณะที่บาร์เทนเดอร์กำลังจะส่งแก้วต่อไปมาให้ จียงกับยกมือห้ามไว้ก่อน


    เอามาทั้งขวดเลย

     

     


    ทำไมวันนี้แขกพ่อเยอะจังวะ พี่จียงอยู่ไหนวะเนี่ย

    เจ้าของผับยังบ่นไปเดินไปให้พ้นจากกลุ่มฝูงชนคนใกล้เมา เนื่องจากว่าตอนนี้เขามาอยู่กลางวงล้อมตัวเกือบจะโดนดันติดฟลอร์อยู่แล้ว ตั้งแต่ที่เดินออกมาหาตัวจียง แดซองโดนคนนู้นเรียก คนนี้เรียก รวมๆแล้วเสียเวลาไปเกือบ 20 นาที จนตอนนี้เค้าเองก็ยังหาตัวรุ่นพี่ไม่เจอ

     

     

    ที่บาร์ ซึงฮยอนเดินเข้ามาไม่นาน เพราะเพื่อนของตัวเองให้มารออยู่ตรงนี้ แต่มองซ้ายมองขวา ตัวเขาเองยังหาเพื่อนตัวเตี้ยไม่เจอ

    ตาคมหรี่ลงเล็กน้อยเพราะแสงไฟที่สาดไปมา ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่บาร์...มีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว

    ร่างสูงตวัดสายตามองเล็กน้อยว่าคนข้างๆเป็นใครก็ชะงักไปครู่หนึ่ง


     
    ...เจออีกแล้ว...เดสตินี่เกินไปป่ะเฮ้ย....

     


    ดูจากท่าทางแล้ว คงจะดื่มไปเยอะล่ะสิ ตาเยิ้มมาเชียว

    จียงยังคงไม่รู้ว่ามีคนมานั่งอยู่ข้างๆแล้ว ร่างบางยังกระดกเหล้าใส่ปากต่อไม่หยุดเหมือนเห็นเป็นน้ำเปล่า ซึงฮยอนนั่งมองอย่างหนักใจเล็กน้อย...จะดื่มให้ตายไปเลยรึไง

     


    อ๊า เจอซะทีพี่จียง เมื่อกี้ผมไปนานไปหน่อย พี่เป็นไงมั่งฮะ แดซองตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดขึ้น


    อื้อ...ไม่เปนไรๆ ร่างบางพูดเสียงยานเล้กน้อยอย่างคงเริ่มเมา


    ตายๆ พี่เมาแล้วอ่ะ จะกลับบ้านไหวมั้ยครับเนี่ย


    อื้อ...ไม่กลับแล้ว นอนนี่แหละ


    อะๆ โอเคครับๆ แดซองตอบกับจียงเบาๆแล้วพึมพำกับตัวเอง


    เอาไงดีเนี่ยกู บ๋อยหายไปไหนหมดวะ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เจอบริกรผับตัวเองซักคน เพราะไปเดินเสิร์ฟของให้ชาวบ้านเค้าซะทั่ว

     


    เอ๊ะ พี่ซึงฮยอน คนตาตี่ที่เพิ่งเห็นทักเสียงดังแล้วทำหน้าหนักใจ เพราะตอนนี้จียงเริ่มจะเลื้อยไปเลื้อยมา

    เอ่อ พี่ว่างมั้ยครับ...โอ๊ยพี่จียง เฉยๆสิ

    ทำไม? คนตาคมเลิกคิ้วถามเล็กน้อย

    ช่วยเอา เอ่อ เอาพี่จียงไปเก็บ เอ๊ย เอาพี่จียงไปนอนบนห้องหน่อยได้มั้ยครับ

    ซึงฮยอนทำหน้าเฉยๆแต่ก็พยักหน้ารับ เด็กนี่คนขนคนเมาไปตอนนี้ไม่ไหว แขกเหรื่อเยอะขนาดนี้


    งั้นฝากด้วยนะครับพี่ นี่คีย์การ์ด ห้องบนสุดขวามือนะครับ

    พูดจบคนตาหยีก็ส่งคีย์การ์ดพร้อมกับตัวจียงให้แล้วรีบเดินออกไป เพราะตอนนี้เสียงเรียกชื่อเค้าเริ่มจะดังขึ้นเรื่อยๆ

     


    ....ผับหรูขนาดนี้ จะมีห้องพักแขกก็ไม่แปลก


    ซึงฮยอนพยุงตัวจียงเดินไปทางลิฟท์อย่างว่าง่าย ร่างสูงส่งคีย์การ์ดให้พนักงานในลิฟท์ หลังจากนั้นไม่นานขายาวก็ก้าวเข้ามาในห้อง


    อื้อ... จียงครางน้อยๆออกมาเป็นนัยว่ายังมีสติ


    เฮ้ อย่าดิ้นได้มั้ย ซึงฮยอนพูดปรามๆในขณะที่จียงเริ่มดิ้นแล้วผลักตัวเขาออก

     



    ....ชเวซึงฮยอน? ร่างบางถามพลางเอียงคอน้อยๆ


    ...

    ซึงฮยอนไม่พูดอะไร เมื่อเขาเห็นว่าคนข้างตัวมีสติแล้ว มือหนาก็ปล่อยตัวจียงทิ้งให้ทรงตัวยืนด้วยตัวเอง


    จียงเซนิดหน่อยจากการปรับตัวไม่ทันเลยรีบว้าคอเสื้อของคนตรงหน้าไว้อย่างรวดเร็ว


    บ้าชะมัด นายกำลังจะทำฉันร่วง


    ก็นึกว่าตื่นแล้ว


    จริงๆเลย ร่างบางต่อว่าแล้วสะบัดหัวนิดหน่อยเพื่อไล่อาการมึน


    ปล่อยได้รึยัง ....ชั้นล่ะเบื่อนายจริงๆคนตรงหน้าพูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย


    หึ...


    จียงหัวเราะในลำคอ มือบางดึงคอเสื้อของคนตัวสูงลงมาแล้วเชิดหน้าขึ้น


    ซึงฮยอนเบิ่งตาตกใจเล็กน้อย


    ...

    ....ควอนจียงกำลังจูบเขา...

     

     


    เวลาผ่านไปไม่นานนัก

    ร่างบางถอนริมฝีปากออกแล้วยิ้มออกมาน้อยๆ


    ยังเบื่อ...อยู่รึเปล่า...


    ....


    ซึงฮยอนไม่ตอบทางคำพูด แต่ตัวเขากลับดึงตัวจียงเข้ามาจูบอีกครั้ง


    อื้อ...

    ร่างเล็กครางประท้วงในลำคอ ก่อนที่ทั้งสองจะทรุดตัวลงบนเตียงหลังใหญ่

     

     

     

     

     


    ….
    ก็ไม่ใช่ว่าทำไม

    แต่ในเมื่อเค้าเสนอมา


    .....เราก็ต้องสนองกลับ.....ถูกมั้ย

     









    .....................................................................................

    End of chapter 1

    ทุลักทุเลออกมาได้แค่นี้ - -*
    ไรท์เตอร์จะขาดใจตายแล้วค่ะ





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×