คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : How Gee Act: 11 คนพลาด คนลามก และ คนบ้าโลกีย์??
How Gee Act: 11 คนพลาด คนลามก และ คนบ้าโลกีย์??
......................................
“ตายซะเถอะมึง ปากอย่างนี้อย่าอยู่ต่อไปให้รกโลกเลยโว้ยยยย!!”
จียงขึ้นเสียงด่าพลางกระโดดกอดรัดฟัดเหวี่ยง(?)กับเทมโปอยู่กับพื้น โดยที่เทมโปเองก็หลบแขนขาที่แกว่งมาอย่างเอาเป็นเอาตาย พลางจับแขนของจียงไว้ข้างหนึ่งแล้วดึงเข้าหาตัว
“ปล่อยโว้ย วันนี้เลือดหัวมึงออกแน่ กูฟันธงและคอนเฟิร์ม!”
ร่างบางดิ้นอย่างรุนแรงเมื่อโดนจับตัวไว้
สายตาของใครหลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นบทบู๊ล้างผลาญที่ถ้าไม่มีใครตายห่าไปซักคนเรื่องมันก็คงไม่จบ
แต่ในสายตาของทงยองเบกลับมองว่า....นี่พวกมึงกำลังสวีทวิดวิ้วสวีวี่วีกันอยู่รึเปล่า - -*
ซึงรีเองก็กำลังนั่งดูเหตุการณ์ปรากฏการณ์ทะเลาะกันของผัวเมียคู่ใหม่อย่างเมามัน
แล้วก็เหมือนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ซึงรีตะโกนขึ้นมาดังลั่น
“เฮ้ย!!! ลืมไปได้ไงวะ มันบอกว่ามันจะโผล่มานี่หว่า ซวยแล้วกู”
คนพูดเริ่มโวยวายแล้วทึ้งหัวตัวเองซักพักก่อนจะเรียกชื่อพี่ตัวเองเสียงดัง
“พี่เทมป์!!!”
เสียงของซึงรีดังออกมา ทำเอาสงครามหยุดชั่วคราว
“อะ อะไร”
“ไอ้ยีราฟกำลังจะมา!!!”
“ห๊ะ...เออว่ะ”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวนะ พี่เทมป์!!!”
“โอเคๆ” เทมโปทำหน้าปลงตกกับน้องตนเองนิดหน่อยก่อนทำหน้าจริงจังแล้วหันไปทางจียงออกแนวสื่อเป็นนัยๆว่า ‘ยุติสงครามชั่วคราว’
จียงไม่สนใจ แต่ในเมื่อมันปล่อยกูแล้วกูจะอยู่ทำไม ลุกสิวะ - -*
ซึงรีทำหน้าเครียดอยู่ซักพักแล้วโพล่งขึ้นมา
“เออ ถ้ามันจะมา แล้วถ้าซึงรีไม่อยู่ก็จบแล้ว!!กุญแจรถๆ เอากุญแจรถมา”
“อยู่โน่น ไปหยิบเอง” พี่ชายว่าพลางชี้ไปทางโต๊ะข้างเตียง
ร่างเล็กวิ่งไปหยิบอย่างไวก่อนจะทำหนาดีใจแล้วรีบวิ่งออกไป
“ซึงรีไปก่อนละ จะกลับมาเมื่อชาติต้องการ ลัลล้า”
คุณหนูคนเล็กแห่งบ้านชเววิ่งออกมาหน้าตาอย่างมีความสุข ในที่สุดกูก็จะได้หลุดพ้นจากแม่งซักที ฮ่าๆๆๆๆๆ
ขัดจังหวะความสุขของเค้ากะพี่เบ้จริงจริ๊งงงงง
ขายาวก้าวลงมาที่บันไดยังไม่ถึง 10 ขึ้นดี ก็ดันไปเจอแม่บ้านมายืนขัดอยู่ตรงด้านล่างซะก่อนพลางยิ้มออกมาแล้วพูดสิ่งที่ทำร้ายจิตใจซึงรีอย่างที่สุด
“คุณหนูซึงรีคะ คุณมินโฮมาค่ะ ^^”
1
2
3
.....
เชททททททททททททททททททททท!!!!!!!!!!!!!!
ซึงรีนิ่งไป หน้าหดเหลือแค่สองนิ้ว มันโผล่มาแล้ว อ๊ากกกกกกกกกก
“ฮัลโหล มายสตองเบบี๋ซึงรี”
ว่าแล้วไอ้ตัวที่ไม่อยากเห็นที่สุดก็โผล่ออกมาจากมุมมืด(?)พลางโบกไม้โบกมือ
“....” ซึงรีนิ่งเงียบ มองหน้าคนพูดอย่างสิ้นหวัง
.....เชี่ยเอ๊ย วันนี้กูพลาด!!พลาดจริงๆ!!
“แหมๆ อยากเจอเค้ามากจนรีบวิ่งลงมาหาเค้าเลยหรอ ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกน้า”
กูจะหนีมึงนี่แหละ แต่กูพลาด!!เข้าใจมั้ย
“เอ่อ...เปล่า จะออกไปข้างนอก” ว่าพลางจ้องหน้านิ่งลองดูดิ๊เผื่อมันจะสำนึกผิดแล้วจรลีกลับบ้านไปเพราะมาผิดจังหวะ
“วันนี้อากาศข้างนอกมันเย็นๆนะ จะออกไปจริงอ่ะ”
“เอ่อ...ก็”
“แต่ถึงอากาศข้างนอกจะหนาวสักแค่ไหนมินโฮคนนี้ก็จะโอบกอดร่างอันบอบบางของซึงรีไว้ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเค้าเองน้าาาา”
อ้วก!!หนอย กูเนี่ยนะบอบบางในสายตามึง ไอ้แห้ง!!!
ซึงรีทำหน้าเหมือนคนเหม็นเบื่อก่อนจะชำเลืองมองไปทางห้องของพี่ชายตนเอง
เมื่อไหร่พี่เทมป์จะออกมาไล่ๆมันไปซักทีวะ รำคาญมันเต็มทนแล้วนะโว้ย!!
ถ้าเอ่ยถึงมินโฮแล้ว ก็คงจะหมายถึง ชเวมินโฮ ญาติของซึงรีนั่นเอง แต่อีตาบ้านี่ไม่รู้เป็นอะไรของเค้าชอบมาทำตัวเหมือนกับว่าซึงรีมันเป็นหญิงสาวน่ารักที่น่าถนุถนอมโคตรๆอ่ะ เห็นแล้วอยากจะร้องไห้เป็นภาษาแม็กซิโก อ๊ากกกกกกกก
“อ้าว มินโฮ” เสียงสวรรค์ดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ชายนามชเวเทมป์ของซึงรีนั่นเอง
“หวัดดีครับพี่ซึงฮยอน”
“หวัดดี เมื่อไหร่จะกลับล่ะ”
มารยาทดีที่สุดในโลกเลยค่ะ เจอปุ๊บถามปั๊บ ว่าจะกลับเมื่อไหร่ แถวบ้านเรียกไล่กลับทางอ้อม
ทางด้านยองเบกับจียง
“ไอ้จี นี่กูถามมึงจริงๆนะ”
“เออ”
“มึงต้องตอบกูตามความจริงนะ”
“เอออออออ” ลากเสียงยาวอย่างรำคาญ
“มึงได้กับมันแล้วจริงอ่ะ...”
“...” จียงนิ่งไป นี่มึงถามกูตรงเกินไปมั้ยเนี่ย!!
“ว่ามาดิ กูอยากรู้จริงๆนะ”
“กะ ก็กูก็บอกไปแล้วไง กูไม่รู้ กูเมา มึงอย่าตอกย้ำกูมากได้มั้ย สมเพชตัวเองว่ะ”
“เอ้า ก็กูอยากรู้อ่ะ ถึงเมามึงก็ต้องรู้ดิวะ อย่างน้อยมันก็ต้องมี เอฟเฟ็คส์”
“เอฟฟ่ง เอฟเฟ็คส์เชี่ยรัยของมึง”
“ก็แบบ...มันก็”
“บอกกูมาสิ กูไม่รู้ กูไม่ตอบนะโว้ย” จียงยืนยันหน้าตาย เอฟเฟ็คส์เชี่ยรัยของมึง กูไม่เก็ท!!
“เอ่อ...แบบ...ก็ เจ็บไง ไม่เจ็บหรอ” คนตัวล่ำเค้นคำพูดอย่างยากลำบาก
“เจ็บ? ทำไมกูต้องเจ็บด้วยอ่ะ?”
“เอ้า ไอ้เชี่ยนี่หนิ!” ยองเบว่าพลางเงื้อมือจะตีเพื่อนให้มันสำนึกในความโง่
แต่ดันพลาดเสียก่อนเพราะจู่ๆจียงดันล้มลงไปกองอยู่กับพื้นดังปัง
“เฮ้ย!!จียงมึงเป็นไรเปล่าวะ”
“เปล่าๆ กูแค่สะดุดฝุ่น”
อื้อหือ...ขนาดฝุ่นมันยังสะดุดได้ จะเทพไปไหน(ประชดใช่มั้ย - -*)
ยองเบขำนิดหน่อยในความซุ่มซ่ามของเพื่อนแล้วช่วยพยุงตัวจียงขึ้นมา
“โอ๊ย!!” ร่างบางร้องลั่นพลางเอามือจับก้นกบตัวเอง
“มึงเป็นไรเปล่าเนี่ย” ยองเบถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่ๆ”
“แล้วมึงร้องทำไมวะ กูตกใจนะเนี่ย”
“ไม่รู้ดิตอนล้มมันไม่เจ็บอ่ะ สงสัยมันจะลงแผลเดิมแหง” เพื่อนจีว่าพลางจับก้นกบตัวเองทำหน้าเบ้เพราะความปวดที่แล่นเข้ามา
“นี่...มึงเจ็บตูดหรอ” เพื่อนตัวล่ำถามเสียงอ่อยๆ
“ฮะ?...เออดิ ตั้งแต่เช้าแล้วอ่ะ”
ก็เมื่อเช้าที่กูตกใจเพราะเจอมันบนเตียงนี่แหละ ล้มซะกระแทกพื้นก้นกบเกือบแตก ป่านนี้ช้ำเขียวไปทั้งตูดแล้วมั้ง
จียงคิดแค่ในใจแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ...พูดออกไป เดี๋ยวได้โดนล้อทั้งวันทั้งคืนข้อหาโง่อีกอ่ะ ไม่เอาหรอก ไม่ต้องรู้อ่ะดีละ จะได้ไม่มีใครมาด่ากูโง่
“ตะ ตั้งแต่เช้าเลยหรอ?” ยองเบถามตาโต
“เออ..ทำไมวะ”
“โอเค กูเข้าใจแล้ว มึงไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละตอนนี้กูเข้าใจกระจ่างละ”...ว่าพวกมึงได้กันจริงๆอ่ะ
“ไมอ่ะ ไหนมึงบอกว่า...”
“ไม่ต้องแล้ว”
“เออ..ตามใจมึง ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
............................................
“แล้ววันนี้พี่เซเว่นไม่อยู่หรอฮะ” มินโฮถามอย่างสงสัย
“เดี๋ยวก็จะกลับแล้วแหละ” เทมโปพูดดักทางไว้ ถ้าบอกไม่อยู่ ไอ้บ้านี่มันคงขอค้างบ้านแหงๆ รีบๆกลับไปเลยไป๊ กูรำคาญจะตายห่า
“หรอฮะ” พูดพลางทำท่าเสียดายหน่อยๆ
“วันนี้ไม่มีธุระอะไรใช่มั้ย พอดีว่าเดี๋ยวพี่ต้องออกไปทำธุระข้างนอกกับซึงรีน่ะ นี่ใกล้ได้เวลาแล้วด้วย” เทมโปพูดไล่แบบเนียนๆอีกครั้งแล้วแกล้งหันหน้าไปมองนาฬิกา
“เอ่อ...งั้น ผมกลับก่อนละกันนะครับ”
มินโฮพูดออกมาหลังจากเริ่มรู้ตัวว่าอยู่ต่อไปอีกต้องโดนด่าแหงๆ แต่ยังไม่วายหันมาสบสายตากับซึงรี
“ไปแล้วนะ บ๊ายบายเบบี๋” ก่อนจะขอตัวเดินออกไป
“เฮ้อออ....” ซึงรีถอนหายใจออกมาหลังจากที่เห็นว่ามินโฮขับรถออกนอกรั้วบ้านไปแล้ว
“ทำไมวันนี้ไล่มันยากจังวะ ทุกทีพี่เซเว่นอยู่มันกลับเร็วจะตาย”
“เนื่องจากว่า มันเกรงใจพี่เซเว่นมากกว่าพี่เทมป์ไงเล่า!!”
ซึงรีพูดออกมาเสียงดังก่อนจะเดินขึ้นข้างบน แต่กลับเป็นยองเบและจียงเดินสวนลงมาแทนซึงรีเห็นว่ายองเบกำลังลงมาก็รีบถามทันที
“อ้าว พี่ยองเบจะไปไหนล่ะฮะ”
“อ่อ...ว่าจะกลับแล้วน่ะ พอดีว่า....” กูจะบอกว่าไรดีวะ ...จะบอกว่าจียงมันอยากจะกลับบ้านจะตายห่าก็กลัวจะกระเทือนจิตใจน้อง (เกี่ยวมั้ย?)
“อยู่ทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิฮะ คุณแม่บ้านเค้าเพิ่งทำเสร็จพอดี” ไอ้เขี้ยวรีบหาวิธียื้อเวลาอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ...”
“นะฮะ *-*”
“อะ ก็ได้ๆ” ยองเบตอบตกลง หันไปอีกทางพบว่าจียงกำลังถลึงตามองอย่างรักใคร่(?)
ในขณะเดียวกันนั้นเอง เทมโปเองก็หันมาเห็นจียงพอดี แถมยังอุตส่าห์เฟรนลี่ทักออกไปว่า
“อ่าว จะกลับแล้วหรอเมียจ๋า” ...ทักอย่างนี้อย่าทักเลยดีกว่า!!
.........................................................UP
“- -*” อด ทน ...ไว้
“ไม่ตอบอีก จะกลับแล้วหรอเบ้” เมื่อไม่ได้คำตอบจากอีกฝ่ายจึงเปลี่ยนไปทางยองเบแทน
“เออ ทำไมอ่ะ”
“เปล่าไม่มีอะไร มึงจะกลับก็กลับไปเหอะ ส่วนนายอ่ะนะ จะอยู่ต่อกี่วันก็ได้”
ว่าพลางหันไปมองหน้าจียงที่ตอนนี้หน้าตาเริ่มจะเหมือนฆาตกรเก็บกดเข้าไปทุกที
“หุบปากไปเลย ไม่พูดก็ไม่มีใครเค้าหาว่าเป็นใบ้หรอกนะ!”
ในที่สุดก็อดทนไม่ไหวเผลอด่าออกไป
“เอ่อ...ไปที่โต๊ะกันดีกว่าฮะ เค้าจัดโต๊ะเสร็จแล้ว”
ซึงรีห้ามทัพไว้ได้ทันเวลา กู๊ดจ๊อบ!!
บนโต๊ะอาหาร
....บรรยากาศกลับดูเก็บกดแบบแปลกๆ ทั้งที่อาหารมันก็ออกจะรสชาติดี
สาเหตุมันก็ไม่ได้มาจากอะไร ก็แค่...
เทมโปนั่งข้างจียง
ตรงกันข้ามอีกฟากก็เป็นยองเบกับซึงรี
ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้วะ!!
จียงพยายามนั่งกินอย่างเงียบๆโดยที่ไม่ใส่ใจคนข้างๆ
...แต่ไอ้คนข้างๆนี่สิ ทำไมมันชอบเรียกร้องความสนใจจากกูจัง!!
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่า อาหารไม่ถูกปากหรอไง”
“...”
“เฮ้ ข้าวติดคอตายไปแล้วหรอ พูดอะไรมั่งสิ”
“...” ถุย!!ไอ้หน้าอชิ!! (อชิภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ส้นตรีนค่ะ - -*)
“อ๊า อย่าทำแบบนี้สิ ชากียา!!”
เทมโปหลุดคำว่า ที่รัก ออกมา ทำเอาจียงหน้าตึง
....สุดท้ายก็เหมือนเดิม
“ชากียา กะเตี่ยแกเซ่ะ!!”
ยองเบมองภาพตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะกระแอมเล็กน้อยแล้วพูดออกมา
“นี่ต่อหน้ากูอ่ะ...อย่างน้อยพวกมึงช่วยอย่าด่ากันได้มั้ย”
“...”
ร่างบางมองที่เพื่อนอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อไป
“พูดอะไรอย่างั้นล่ะเบ้...เราออกจะพูดจากันดีจะตายดูสิเห็นป่ะ สามีก็หล่อ เมียก็ดูดี เอวบางร่างน้อยแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะ”
เทมโปยังคงพูดกระตุกต่อมอารมณ์อยากฆ่าคนของจียงต่อไป
เอ็งจะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย...ได้!!
“แหม...ทำไมคุณผัวถึงได้พูดจาแบบนี้ล่ะ หน้าหนา...เอ๊ย น่ารักจริงจริ๊งงงง”
ไม่พูดเปล่ายังเอามือไปหยิกแก้มเทมโปอย่างแรงๆแล้วสะบัดไปมาอีกด้วย
“เรียกผัวว่าสามีสิครับ” เทมโปหันไปพูด
“ก็เรียกเมียว่าภรรยาก่อนสิ” จียงกัดฟันพูดตอบ...รอบนี้กูไม่ยอมเด็ดๆ
“- -*”
“เรียกสิ....ภรรยา ไงจ๊ะ” กัดฟันพูดต่อไป แถมยังปั้นยิ้มด้วย!
“พอเหอะพวกมึงอ่ะ กูบอกว่าอย่าทะเลาะกัน ไม่ได้ให้หวานใส่กันอุบาทว์ๆแบบนี้ เห็นแล้วจะอ้วก กระเดือกข้าวไม่ลงแล้วเนี่ยกู”
ยองเบพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน ทั้งสองคนเลิกกัดกัน แต่ก็ยังมองหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เอาเซ่!!มึงไม่เรียกกูว่าภรรยา ก็อย่ามาให้กูเรียกว่ามึงเป็นสามีเลย เป็นผัวกูต่อไปเหอะ สราด หมั่นไส้! ลิดรอนสิทธิกูดีนัก ไปตายซะเหอะมึง -*-
เมื่อทานข้าวกันเสร็จแล้ว ยองเบกับจียงเองก็พากันกลับบ้านโดยที่ยองเบเองเป็นคนขับรถ
แถมตอนก่อนกลับยองเบยังคงสั่งเสียกับเทมโปเอาไว้ด้วยว่า
“พรุ่งนี้ไปรับจียงที่บ้านด้วยนะ พรุ่งนี้กูอารมณ์ดีกูจะขับรถไปโรงเรียนเอง”
ทำเอาเทมโปหน้าเน่าหมดหนทางต่อสู้กันเลยทีเดียว
วันต่อมา….ที่โรงเรียน
“หูยมึงนะ เมื่อวานกูเกือบตาย ไอ้บ้ามินโฮแม่งโผล่มาบ้านกูอีกแล้ว โคตรเกลียดแม่งเลยว่ะ”
“อ่อๆ ไอ้ญาติจิตไม่ดีที่มึงเคยเล่าให้กูฟังอ่ะนะ”
“เออดิ แล้วตอนก่อนกลับยังมาส่งสายตาทำหน้าหื่นกับกูอีก น่าเกลียดจริงๆ”
“ทำหน้าหื่นยังไงวะ อย่างงี้ป่ะ”
เพื่อนหน้าเป็ดพูดจบ ก็ทำหน้าตาโคตรหื่นอย่างปกปิดไม่มิดให้ซึงรีดูทันที
“เชี่ย!!มองกูอย่างงี้คิดซัมติงไรกะกูป่ะเนี่ย”
“ซัมติงบ้าไร อย่างมึงอ่ะ ให้ฟรีแถมโถขี้กูยังไม่เอาเลย” จงฮยอนกัดซีนใส่อย่างรุนแรง อย่ามาปรักปรำกูนะ กูรับไม่ด้ายยยยยย
“พูดตรงเกินไปป่ะมึงอ่ะ - -* แล้วนี่มึงคิดดูนะ พอมันมาเสร็จกูก็หมดโอกาสคุยกะพี่ยองเบเลย แถมเมื่อวานพี่ยองเบยังกลับเร็วอีกต่างหากอ่ะ เซ็งชิบหาย”
“มึงนี่นะ วันๆนึงไม่ทำอะไร เอาแต่คิดแผน ติ๋วติ้ว กับพี่เค้า เลวจริงๆ”
“ติ๋วติ้วอะไรของมึงเนี่ย บัดสีบัดเถลิง” ซึงรีพูดด่าพลางทำหน้าแบบอารมณ์คนรับไม่ได้
“กูก็แค่พูดไปยังงั้นๆแหละ ทำไม มึงคิดอะไรหรือยังไงห๊ะ!!”
“เชี่ย ก็คำว่า ติ๋วติ้วในความหมายกูมันหมายถึงมีซัมติงรองกันอ่ะ ไม่ได้เลยๆเปลี่ยนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยนะมึง”
“แล้วมึงจะให้กูพูดว่าอะไร อาเซเดเฮรึไง ปัญญาอ่อน” ว่าพลางเอานิ้วจิ้มๆที่หัวเพื่อนแล้วดันออกไปอย่างแรง
“เออ ยังดีกว่าติ๋วติ้วล่ะวะ”
“ติ๋วติ้วอ่ะดีแล้ว พูดง่าย อาเซเดเฮมันตั้ง 4 คำเลยนะเว้ย”
“ติ๋วติ้วๆอยู่ได้มึงอ่ะ นี่มันไม่ใช่ฟิคติดเรทนะเว้ย เดี๋ยวก็โดนแบนหรอก!!”
“ฟาย กูว่านะ มึงอ่ะ ลามก เกินไปแล้วไอ้ซึงรี”
“ลามก! เฮอะ อย่างกูเนี่ยนะลามก” ซึงรีพ่นลมหายใจอย่างแรง
“อย่ามาทำเป็นไม่ยอมรับ ไอ้ลามก”
“หนอย ถ้าอย่างกูลามกแล้วอย่างมึงนี่เรียกว่าอะไร อย่านึกว่ากูไม่รู้นะ มึงไปติดเด็กที่ไหนมาใช่มั้ย!!” ซึงรีพูดใส่เสียงดัง อย่ามาหมิ่นประมาทกูนะเว้ย ไม่ยอม โฮกกกกก
“เด็กที่ไหน อะไรไม่มี๊” คนถูกกล่าวหาปฏิเสธเสียงสูง
“ไม่มีอะไร วันนั้นกูยังเห็นมึงคุยโทรศัพท์กับน้องเค้าอยู่เลย อย่ามาตอแหล แหม...น้องแทมครับ น้องแทมอย่างงู้น น้องแทมอย่างงี้ มึงกล้าปฏิเสธกูเรอะ บ้าโลกีย์!!!”
ซึงรีเน้นย้ำคำสุดท้ายอย่างหนักแน่น อย่างมึงมันต้องคำนี้เท่านั้นคำอื่นมันน้อยไปว้อย
จงฮยอนหน้านิ่งไปเกือบ 5 วิ นี่มึงแอบฟังกูคุยโทรศัพท์เรอะ!!
“อย่ามาจ้องกูแบบนั้น”
“กูไม่ได้บ้าโลกีย์!!” ปฏิเสธเสียงแข็ง
“อย่างมึงอ่ะ บ้าโลกีย์!!”
“กูบอกว่ากูไม่ได้บ้าไง โน่นๆ ไอ้ตัวบ้าโลกีย์ของจริงมาโน่นแล้ว”
จงฮยอนว่าแล้วหันไปชี้ตัวแพะรับบาปที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง
“ไหนวะ กูเห็นแต่ไอ้อนยู” ซึงรีมองตาม
“เออ ก็มันนั่นแหละ!!”
“ห๊ะ หน้าอย่างมันเนี่ยนะจะบ้าโลกีย์แบบเดียวกะมึง เชื่อยากนะเนี่ย มึงพลาดแล้วไอ้จง”
“เอ้า มึงไม่เชื่อกูรึไง ไม่สังเกตหรอวะว่าเดี๋ยวเนี้ยแม่งไม่ค่อยโผล่มาให้เห็นหน้า นั่นยังไม่พอนะ ได้ข่าวว่าแอบไปซื้อของโคตรแพงให้เค้าตลอดเลยด้วยแหละ”
“จริงอ่ะ” ซึงรีเริ่มจะเชื่อทีละน้อย แล้วเริ่มตั้งใจฟังมากขึ้น
“จริงๆดิ แล้วที่มันไปตามเค้าอ่ะ รุ่นเดียวกันด้วยนะเว้ย มันหื่นใส่รุ่นเดียวกันอ่ะ มึงคิดดูดิ มึงคิดสิ”
ได้ทีใส่ไฟใหญ่เลยอ่ะ...ตายแล้วบักจง - -*
“อย่างงี้ต้องพิสูจน์ วะฮ่าๆๆๆ”
จงฮยอนมองดูความสำเร็จในการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อนอย่างมีความสุขก่อนจะเดินเข้าไปหาอนยูพร้อมกับซึงรี
“ว่าไงไอ้หู้” ซึงรีเอ่ยทักเพื่อน
“เออๆ ว่าไง”
“ทำไมวันนี้มึงมาสายจังเลยอ่ะ”
“ทำไมอ่ะ” อนยูเริ่ม งง นิดหน่อย วันนี้พวกมึงเป็นอะไรถึงคิดมาจ้องจับผิดกูเนี่ย อยากจับผิดมากก็ไปเล่นเกม photo hunt ไป๊
“อย่ามาทำอึนกลบเกลื่อนเลยไอ้หู้ กูรู้แล้ว มึงแอบไปหื่นใส่รุ่นเดียวกันมาใช่มั้ย” ยิงประเด็นถามตรงๆ
“อะแอบหื่นที่ไหน ไม่มี๊ไม่มี ring ding dong ring ding dong”
ชัดเลย!!มันเฉไฉพูดจาตะกุกตะกักแถมยังร้องเพลงกลบเกลื่อน ชัดเลย!!
“อย่ามาตอแหล ring ding dong กลบเกลื่อน อมจูเลียตมาพูดตอนนี้กูก็ไม่เชื่อ!”
ซึงรีพูดแล้วจ้องหน้าอนยูอย่างจับผิดเข้าไปใหญ่ แล้วจงฮยอนก็แอบเข้ามากระซิบๆว่า
“กูรู้แล้วว่าใคร เค้าคนนั้นร้องท่อน Butterfly”
“เฮ้ย!!พี่จียงเรอะ ไม่ได้นะเว้ย คนนั้นเมียพี่เทมป์ ถึงพี่กูจะโง่ขั้นเทพขนาดไหน มึงก็ไปสวมเขาพี่กูไม่ได้นะโว้ย”
ปั๊ก!!
โดนเพื่อนตบไปหนึ่งที ข้อหาบ้าบอผิดเวลา
“กูบอกว่าร้องท่อน Butterfly ไม่ได้ร้องเพลง Butterfly”
จงฮยอนด่าเพื่อนเสียงดัง
“หรอ” ซึงรีนิ่งคิดไป ใครวะร้องท่อน Butterfly…
“ไงๆ มึงนึกออกแล้วใช่ม้ายยยยย”
“อ๋อออออ นี่พวกมึงสองคน อย่าบอกนะว่า...!”
ปั๊ก!!โดนไปอีก 1 ที ข้อหาเวิ่นเว้อ
“ไอ้เชี่ยกูบอกมึงว่า Butterfly ไง”
“มึงก็ร้อง Butterfly เหมือนกันไม่ใช่เรอะ!!อย่ามากลบเกลื่อนนะไอ้จง!”
“กูร้องว่า I call u Butterfly เอาคนที่ร้องขึ้นมา Butterfly เลยอ่ะ” ยังคงถามต่อไป ความจริงแกบอกเค้าไปเลยจะง่ายกว่ามั้ยจงฮยอน - -*
“อ้อออ..กูรู้และๆ มึงปิดกูไม่มิดแล้วอิหู้ ฮ่าๆๆๆๆๆ เด็กห้อง 3 ช่ายม้ายยยยยย”
ซึงรีหัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมา สีหน้าของ อนยู เองก็เริ่มซีดลงเรื่อยๆเนื่องจากว่า...โดนจับได้เสียแล้ว
……………………………….
เทมโปเดินเข้ามาในห้องหน้าตาอย่างอารมณ์เสียบวกกับง่วงนอนอย่างยิ่ง
สายตาคมเหลือบไปเห็นใครซักคนที่กำลังนั่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่กับยองเบ เมื่อเห็นดังนั้น ขายาวก็รีบเดินเข้าไปทันที
“ว่าไงควอนจียง”
“เฮือกกก...”
จียงนิ่งไป ค่อยๆหันหน้าไปทางต้นเสียงช้าๆ ไอ้เชี่ยเอ้ย!!ทำไมกูโง่งี้วะ!!ทำไมวันนี้กูไม่แอบหนีแม่งไปที่อื่น กูพลาดแล้วกูพลาด!!
“ทำไมวันนี้นายมาโรงเรียนเร็วกว่าชั้นล่ะ นายต้องรอให้ชั้นไปรับไม่ใช่หรอไง”
เทมโปพูดออกมาอย่างเคืองๆ แน่ล่ะ วันนี้รึเค้าอุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นแต่เช้าแล้วหาทางขับรถไปบ้าน ควอนจียงอยู่นานสองนาน พอไปถึง แม่บ้านกลับบอกว่าจียงซิ่งรถออกไปแต่เช้า มันน่ามั้ยล่ะ!!
“ก็นายมาช้า” ตอบข้อแก้ตัวที่เตรียมไว้อย่างรวดเร็ว
“ช้าหรอ”
“ใช่ ชั้นต้องออกจากบ้านตอน 7 โมงครึ่งทุกวัน แต่รอจนถึง7.40 นายยังไม่มา ชั้นก็เลยมาก่อน”
“ว่าไงนะ”
“ถามตัวเองสิว่าวันนี้นายมาถึงบ้านชั้นตอนกี่โมง ตอนนี้ที่นายถึงโรงเรียนมัน 9 โมงครึ่งแล้วนะ”
เทมโปนิ่งไป สมองประมวลผลได้ว่า ตกลงกูผิด???
“ไม่ต้องคิดนาน นายนั่นแหละผิด”
“เอ่อ...เดี๋ยว”
“คาบนี้เรียนคอมนี่หว่า ไปเหอะเบ้” ว่าแล้วก็เดินโฉบหน้าออกไปอย่างไม่แยแสพลางลากเพื่อนเบ้ไปด้วย
ห้องคอมพิวเตอร์
“ไม่มีไรทำเลยว่ะ เล่นเฟสบุ๊คดีกว่ากู เก็บผักคนอื่นแม่งให้หมดเลยฮ่าๆๆๆ”
จียงนั่งพูดคนเดียวแล้วเข้าเว็บเฟสบุ๊ค
“อะไรอ่ะ คุณเป็นเมะหรือเคะ ควิซเชี่ยรัยวะ ช่างกล้าทำนะ”
ปากบ่นไปอย่างนั้น แต่ก็ยังกดเข้าไปทำควิซอยู่ดี
“ข้อ 1 ลักษณะของคุณ อะไรวะ ข้อ 2 งานอดิเรก ฟังเพลงดิ ฮ่าๆ”
จียงนั่งทำไปเรื่อยแล้วก็พูดไปเรื่อยๆเช่นกัน
“ข้อ12 คิดว่าจะตรงมั้ย ตอบนี่ละกัน ไปตายซะ ฮ่าๆๆได้ใจว่ะ”
เมื่อทำเสร็จก็กด พับลิช ผลออกมาว่า
‘คุณเป็นเคะ 100%!! ยินดีด้วย คุณคือสุดยอดแห่งความเป็นเคะ ขอให้โชคดี’
เมื่อเห็นผลออกมาเป็นแบบนั้นควอนจียงถึงขนาดจะทุบคอมทิ้งเลยทีเดียว
“สัส!!!ใครมันเป็นคนคิดควิซห่านี่ขึ้นมาวะ ไร้ซึ่งสาระชิบหาย ไปตายไป!!”
ก่นด่ากับตัวเองเป็นระยะๆอย่างหมั่นไส้คนทำก่อนจะกดเข้าไปเก็บผักชาวบ้านเค้า
กูเนี่ยนะเป็นเคะ ไม่มีทาง แมนขนาดนี้ พวกมึงเอาอะไรมาตัดสินฟระ!!!
“ไอ้จีมันเป็นรัยของมัน นั่งหน้าเครียดเชียว จำพาสเวิดส์เว็บโป๊ไม่ได้รึไง”
ยองเบว่าเบาๆอย่างขำๆเมื่อเห็นเพื่อนนั่งหน้าเป็นตูดอยู่หน้าคอม
.................................................
ที่โรงอาหาร
“อย่ามาโกหกโกเจ็ดโกแปดใส่กู พวกมึงมันคอจิมาลที่สุดเลย ไม่ต้องมา I love u more more ใส่กูเลยนะ ไอ้เพื่อนไม่รักดี มึงคิดจะมา replay ตอนนี้มันก็สายไปแล้วโว้ย”
ซึงรีบ่นกะปอดกะแปดไปตามทาง วันนี้อารมณ์เสียที่สุด พวกแม่งไปติดเด็กแล้วปิดบังกู!!
“เอางี้ละกัน วันนี้มึงจะให้กูทำอะไรก็บอกมาเลย แล้วหายกัน โอเคป่ะ” จงฮยอนยื่นข้อเสนอ
“โห่ วันนี้ไม่มีอะไรให้พวกมึงทำหรอก ข้อเสนอเอาเปรียบกู” ซึงรีตัดพ้อ
“แน่หรอวะ” อนยูพูดแล้วสะกิดไหล่ซึงรีให้หันไปมองอีกทาง
เห็นว่า...แดซองกำลังยื่นซื้อกาแฟอยู่ตรงค็อฟฟี่ช็อปของโรงเรียน
“กูว่า...ตอนนี้กูมีอะไรให้พวกมึงทำละ” ซึงรีพูดอมยิ้ม
“นูนาฮะ ของมอคค่าเย็นแก้วนึง” อนยูเดินมาหยุดอยู่ข้างตัวแดซอง พลางสั่งกาแฟกับพี่สาวคนขาย
“ได้ค่ะ *-* ซักครู่นะคะ”
เมื่อนูนาคนขายกาแฟเห็นอนยูแล้วก็รีบทำตาโตกุลีกุจอชงกาแฟให้ทันที ผิดกับแดซอง (ที่ยืนรอมันเข้าไปแล้วไม่ได้ซักที - -* นูนาแม่งสองมาตรฐาน)
“เฮ้ๆ ผมสั่งก่อนไม่ใช่หรอ” คนตาตี่ประท้วง
“ทำให้เค้าก่อนดีกว่านะครับนูนา เค้ามาก่อนผมไม่ใช่หรอ” แสร้งทำเป็นคนดีช่วยคนตาตี่ที่ยืนรอกาแฟ
“ค่ะๆจะรีบทำให้เลยนะคะ”
หลังจากนั้นไม่นาน กาแฟเย็นแก้วใหญ่ก็มาวางอยู่ทางด้านหน้าแดซอง
“ได้แล้วค่ะ หลอดอยู่ทางซ้ายมือนะคะ”
“ครับผม”
แดซองว่าพลางก้มลงควักเงินในกระเป๋ากางเกง
-_-++ ....ชิ้ง
มันเผลอแล้ว!! อนยูที่ยืนรอท่าทีอยู่นานได้เวลาปฏิบัติการ!!
คนหน้าเต้าหู้แอบหยิบยาเม็ดสีขาวขนาดไม่ใหญ่ออกมา ก่อนจะหย่อนมันลงไปในแก้วกาแฟอย่างรวดเร็ว
“นี่ครับ” แดซองที่หยิบเงินครบแล้วส่งให้นูนาแล้วอีกมือหนึ่งก็เลื่อนไปหยิบแก้วมา
“นี่หลอดนาย”
“ขอบใจนะ นายนี่เป็นคนดีเหมือนกัน ไม่น่าเป็นเพื่อนกับไอ้บ้านั่นเล้ย” แดซองพูดพลางตบไหล่อนยูสองสามทีแล้วเดินดูดกาแฟออกไปอย่างสบายอารมณ์
แหม...แกด่าเพื่อนชั้นว่ามันเลวร้ายเรอะ!!...กูก็เลวไม่แพ้มันหรอก แค่ไม่แสดงออกก็เท่านั้นเอ๊งงงง
อนยูหันไปอีกด้านนึง ยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วยิ้มอย่างพอใจ เป็นอันว่าภารกิจเสร็จสิ้น!!
“ต่อไปก็เหลือหน้าที่มึงคนเดียวละไอ้จง” พูดพลางตบไหล่เพื่อนเบาๆ
“เออๆ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเพื่อนหู้ช่วย เรื่องเด็ดๆงี้ไม่มีพลาด ฮ่าๆๆๆ”
แล้วเพื่อนสหายทั้งสามคนก็พลางหัวเราะในความสำเร็จของหมู่เฮาอย่างบ้าคลั่ง...แดเอ๊ย ซวยไปนะ - -*
ปี 1 ห้อง 3
ทั้งสามคนนั่งลงกับโต๊ะประจำของตัวเอง แต่แล้วขณะที่ครูยังไม่เข้าสอนมันก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
ฟุดฟิดๆ
ฮงกิซึ่งนั่งอยู่ใกล้แดซองที่สุดได้กลิ่นประหลาดอันแสนไม่พึงประสงค์ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่แคร์สื่อทันที
“ไอ้เชี่ย ใครตดวะ”
“ห๊ะ” จองฮุนหันไปทำหน้าตกใจนิดหน่อย
“จริงๆนะ มึงไม่ได้กลิ่นตดหรอ” ฮงกิถามอีกครั้งพลางย่นจมูก เหม็นชิบ!
ฟูดดดดดด...
เสียงตดเล็กๆที่ใครๆก็คงไม่ได้ยิน (เพราะมันเบามาก) ดังออกมาเบาๆในบางมุม
ครืดดด....โครม!! ปัง! แค่กๆๆๆ
เสียงหลายเสียงตามมา
คราวนี้เพื่อนๆทุกคนแถวๆนั้นลุกขึ้นมาแล้วหาที่หนีตายกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ไม่เว้นแม้แต่ คีย์ ที่กำลังจะเดินเข้ามานั่งที่ของตัวเองก็รีบวิ่งออกไปจากรัศมีอันตรายอย่างว่องไว
“ไอ้เชี่ย จมูกกูไม่เพี้ยนจริงๆด้วย ใครตดวะ สารภาพมานะว้อย!” ฮงกิพูดเสียงดัง
“สัส ตดอย่างนี้อย่าอยู่เลย ไปขี้เหอะ” จองฮุนพูดเสริมขึ้นมา
“เหม็นอ่ะ ใครปล่อยอาวุธชีวภาพพพพพ” คีย์เอามือปิดจมูกแล้วพูดขึ้นบ้าง
“กลิ่นแบบนี้ ฆ่าได้ทั้งโลกเลยนะเนี่ย อ๊ากกกกกก” แจจินตะโกนลั่น
“คะใครตดวะ” แดซองพูดตะกุกตะกัก
มะ...แม่งเอ๊ย...กูพลาดแล้ว ทำไมเมื่อกี้กูไม่เดินไปตดในห้องน้ำวะ เชี่ยเอ๊ยยยย(อ้อ...แกตดสินะ - -*)
ปัง!! ฮงกิตบโต๊ะเสียงดัง แล้วพูดอย่างฮึกเหิม
“ไม่ได้การแล้ว กูจะต้องจับตัวคนตดมาลงโทษ!!”
“เอ่อ...กะ กูอยู่ไม่ไหวแล้ว ไปก่อนนะ” แดซองตัดบทก่อนจะรีบเดินออกไป
อะไรมันทำให้กูมาทำอะไรทุเรศแบบนี้เนี่ย ตั้งแต่เกิดมากูไม่เคยตดในห้องเรียนเลยนะ! แม่ง ต้องเป็นกาแฟอีนูนาหน้าไม่สวยนั่นแน่ๆ แกวางยาชั้นเพราะชั้นไปทวงกาแฟแกยิกๆใช่ม้ายยย!!
แดซองคิดไปเองต่างๆนานา ตอนนี้รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ปกติกูไม่เคยปล่อยหนักที่โรงเรียนเลยนะ!!
แดซองวิ่งไปจนถึงทางเลี้ยวไปที่ห้องน้ำ ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครกำลังนั่งส่องเหตุการณ์อยู่ที่มุมลับตา
“เป็ดเรียกหู้ได้ยินแล้วตอบด้วย”
(“หู้ได้ยินแล้วทราบแล้วเปลี่ยน”) เสียงดังออกมาจากปลายสายโทรศัพท์
“เป้าหมายกำลังมุ่งหน้าไปที่จุดนัดพบ” กรอกเสียงลงไปเบาๆแล้วกลั้นหัวเราะสุดชีวิต
(“จะปฏิบัติตามแผนเดี๋ยวนี้ ทางแพนด้าเป็นอย่างไรบ้าง”) อีกเสียงหนึ่งเรียกเสียงที่สามจากการคุยโทรศัพท์สามสาย ด้วยการใช้คำเป็นทางการสุดๆ
(“แพนด้ายืนยันเป้าหมาย ลงมือได้!!”)
สิ้นเสียงคำสั่ง ชายหนุ่มทั้งสามก็เริ่มปฏิบัติการ
“หึหึ...เสร็จกูล่ะมึง!!”
ชายหน้าเป็ดแอบพูดอย่างมีความสุข(ในความทุกข์ของคนอื่น)
........to be con....
**กรุณาเม้นเนื้อหาของฟิคด้วยนะคะ
ไรท์เตอร์รู้ว่าคนอ่านหลายคน แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมมีแค่ไม่กี่คนที่เม้นให้ไรท์เตอร์อ่ะ
ฟิคไม่สนุกหรอคะ?
หรือไม่อยากเม้นกัน???
ถ้าไรท์เตอร์พูดอะไรผิดไปก็ขอโทษนะคะ
ก็แค่สงสัย ....
ความคิดเห็น