คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Who are you ?
ฉันเห็นรถหรูคันนี้ทั่วมหาวิทยาลัยเลยมั้ง ที่หน้าคณะฉันก็บ่อย แต่ทุกครั้งที่ฉันเห็นสิ่งที่ไม่เคยซ้ำกันคือผู้หญิงที่ก้าวขึ้นรถคันนี้อ่ะซิ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนขับนิสัยเป็นยังไง เย็นวันนี้เป็นอีกวันที่ฉันเห็นเลมบูกินิสีดำมาจอดแถบๆคณะฉัน ฉันอยากจะเห็นหน้าคนขับนักว่าจะหล่อแค่ไหนสาวๆถึงไม่ซ้ำหน้าเลย.........วันนี้ใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไปล่ะ!? (ได้แต่คิดในใจ#-#) และแอบลอบยิ้ม
ฉันที่ยื่นอยู่แถวๆหน้าคณะยิ่งคิดก็ยิ่งสนุกอยากเห็นหน้าสาวสวยวันนี้เร็วๆจัง ไอ้ผู้ชายแบดบอยนี่ก็ด้วย คนเดี๋ยวนี้น่ากลัวใจจริงๆเปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนผ้าอนามัยเลย มันหาซื้อง่ายขนาดนี้เลยหรอความรักเนี้ย
“ ยัยเลมอน.........”เสียงมาก่อนตัวแบบนี้ยัยนินิวไม่ผิดแน่ นั่นไงวิ่งบิดตูดซ้ายทีขวาทีมานั่นแล้วไง ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่ายัยนั่นจะรีบร้อนไปไหนทำยังกลับว่ามาหาฉันช้าไปซักนาที ฉันจะหายตัวไปจากตรงนี้ซะเมื่อไหร่
“ เลมอน!”
“อะ...อ้าว! นายนั้นเองออสริคหายไปไหนมาหลายวันไม่เห็นเข้าห้องเรียนบรรยายเลย”ฉันหันไปพร้อมกับทักชายหนุ่มรูปงามที่เข้ามาเรียกชื่อฉัน(ทำไมรอบตัวฉันมีแต่คนสวยๆหล่อๆเติมไปหมดนะ.....แล้วเมื่อไหร่ฉันจะเกิดกับเขาบ้างเนี้ย-^-)
“คิดถึงเหรอ”เค้าถามฉันหน้านิ่งๆ
-////-คนหล่อถามแบบนี้ฉันก็เขินแย่อ่ะซิ
“.................”
“เหอๆ เธอนิจริงๆเลยตลกชะมัดทำน่าแบบนั้น”
“หวัดดีค่ะคุณออสริค” *////*
“หวัดดีครับ”
ตอนนี้ยัยนินิวหน้าตาออกอาการมากเลยนะเนี้ย 55555555ตลกชะมัด(เก็บอาการหน่อยยัยเพื่อนบ้าคนอ่านเขารู้ความคิดเธอหมดแล้วนั่น)
“ไม่เจอหลายวันเลยนะคะ”ยัยนินิวหน้าบานเป็นกระด้งแล้ว
“นั่นมันฟ้าใสนิ!”นินิวทำหน้าตาตื่นตะลึงเมื่อมองไปนอกลานจอดรถหน้าคณะฉัน
ฉันกับออสริคมองตามท่าทางพิลึกของนินิวไปทันที และยัยนินิวก็เร็วดังความคิด
“เลมบูกินิสีดำ!!!”
ฉันตามรถคันนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว วิ่งไปไล่รถคันนั้นจนสุดกำลังแต่ก็ตามไม่ทันอยู่ดี เฮ้อๆๆ เหนื่อยๆ
แท็กซี่ๆมาพอดีเลย ฉันวิ่งขึ้นรถแล้วปิดประตูดังปัง! ตามรถคันหน้าไป......เลยค่ะ เฮ่อออออๆๆๆ
ติ๊ดๆๆๆๆๆติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆ
โทรศัพท์มือถือฉันนิ
“ ฮัลโล ว่าไงนินิว”
“ฉันต้องถามมากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ฉันเป็นห่วงฟ้าใสน่ะสิ แกจำรถคันนี้ได้ใช่ไหม”
“ อืม.......แต่ฉันไม่เคยเห็นหน้าคนขับนะ”
“ก็เพราะอย่างนั้นล่ะซิฉันถึงอยากเห็นหน้าหมอนั่น”
“ อ๋อ ! แกกลัวฟ้าใสโดนหลอกล่ะซิ”
“พึ่งอ๋อหรอแก นิฉันฝากแกลาออสริคด้วยนะบอกว่าฉันมีธุระด่วนจริงๆ เออแค่นี้นะจะตามไม่ทันล่ะขับรถโค ตะ ระ เร็วเลย(ซื้อถนนเป็นของตัวเองหรือไงเนี้ย ) ”
พี่ๆจอดตรงนี้ค่ะ เอ...นิก็บ้านฟ้าใสนิ! หมอนั่นไม่ธรรมดานะเนี้ยรู้จักบ้านฟ้าใสด้วย หรือว่าหมอนั่นจะหลอกคบฟ้าใสมานานแล้วก็ยังแอบไปมีสัมพันธ์กะสาวๆมากหน้าหลายตาอีก(หยี่ๆๆๆๆน่าไม่อายที่สุด) ฉันต้องเห็นหน้านายให้ได้
คิดจะหลอกเพื่อนที่แสนดีของฉันเหรอเร็วไปล้านปีย่ะ รู้จักยัยเลมอนศิษย์เจ้าแม่เฮงเจียน้อยไป@--@
ฉันรีบเดินฉับๆตามเข้าไปเนื่องจากลุงยามจำฉันได้เลยรีบเปิดประตูเล็กข้างๆรั้วให้ บ้านฟ้าใสใหญ่จนต้องเดินเข้าไปในตัวบ้านอีกสามร้อยเมตรกว่าจะถึงตัวบ้าน ข้างๆทางเดินก็ตกแต่งสวนอย่างสวยงามออกแนวยุโรป ฉับหอบแหกๆเหนื่อยเหงื่อไหลไคลย้อยไปหมด รู้งี้นั่งแท็กซี่เข้ามาจนถึงตัวบ้านดีกว่า(บ่นไปแล้วได้อะไรเนี้ย-^-!)
ถึงซักที ฟ้าใสกำลังคุยกับพี่อลันและนายแบดบอยจอมเจ้าชู้นั่นอยู่บริเวณหน้าบ้าน(เนื่องจากไม่รู้ชื่อเลยตั้งฉายาให้ก่อน)
ฟ้าใสหันมาเห็นฉันที่กำลังหอบแหกผมกระแซะกระแซงด้วยท่าทางงงๆ ก่อนจะตะโกนเรียกฉัน
“ เลมอน!?”
“ฟ้า.......ใส.............”(ยังหอบจนพูดไม่เป็นคำ)
สายตาอีกสองคู่หันมาจับจ้องที่ฉันพร้อมกับฟ้าใสด้วย ฉันหันขวบทันทีเมื่อมีสายตามองส่งมาอย่างประหลาดๆถึงสามคู่
แต่สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าฉัน ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉัน ....... รูปร่างประมาณนี้ น่าตาแบบนี้ ดวงตากลมโตสีนิล ผมสีดำสนิท ความยาวละต้นคอขับกับใบหน้าคมคายผิวขาวๆแบบนี้ ไม่ใช่เพียงแค่คุ้น! แต่นี่ใช่เขาจริงๆ เขาคนนั้นจริงๆฉันย้ำในใจ และหยิกตัวเองที่แขนเบาๆเพื่อให้มีสติว่าสิ่งที่ฉันประสบอยู่ตรงหน้าเป็นความจริง...ไม่ได้กำลังฝันอยู่
เขามองสบตาฉันนิ่งเนิ่นนาน.......... ราวกลับว่าเหมือนมีอะไรในแววตานั้นมากมายจนบรรยายมาเป็นคำพูดแค่สองสามประโยคไม่ได้
แววตาฉันเริ่มสั่นเทา ขอบตาร้อนแปลกๆแต่ฉันก็มีสติพอที่จะกลั้นความรู้สึกที่วูบไหวนี้ไว้ให้อาการที่แสดงออกมาให้ปกติที่สุด
“เลมอน !?” ฟ้าใสเรียกชื่อฉันแกมสงสัยว่าทำไมฉันมายืนอยู่ตรงนี้
ฉันหลุดจากภวังค์ทันทีหันมายิ้มให้ฟ้าใสอย่างพยายามข่มใจให้เป็นปกติที่สุด-_-“
“พี่อลัน สวัสดีค่ะ-_ -”ฉันยังทำน่าเจื่อนๆอยู่แถมงงๆปนด้วยอึ้ง
“ว่าไงจ๊ะน้องเลมอน ไม่เจอพี่ไม่ถึงวันคิดถึงจนต้องมาหาที่บ้านเลยหรอ ?” พี่อลันแกล้งเย้าฉันเล่นคงสังเกตเห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของฉัน
ฉันก็ยิ้มเจื่อนๆ -_-“ ส่งไปทางพี่อลันเหมือนเดิม ส่วนฟ้าใสก็ขว้างค้อนอันใหญ่ใส่พี่ชายจอมเจ้าชู้ด้วยสายตาสวย
โหด - = -‘ จากนั้นพี่อลันก็หันมาทางฉันแทน
“อ่อนิเพื่อนพี่ ชื่อเวกัส เพิ่งกลับมาจากอังกฤษ” พี่อลันพยายามแนะนำชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขากับฉัน
ฉันหันไปมองสบตาเค้าเพียงคู่แล้วหันกลับไปทางอื่นทันที ส่วนเค้าก็มองสบตาฉันและนิ่งเงียบไม่มีคำพูดใดๆเช่นกัน
พี่อลันกับฟ้าใสคงงงกับปฏิกิริยาของฉันไม่น้อย
“นิ.... น้องเลมอน เพื่อนที่คณะยัยฟ้าใส รู้จักกันไว้ซิ!” พี่อลันหันไปบอกเพื่อนสนิทที่เห็นทำน่าอึ้งๆอยู่
เงียบได้ซักครู่ฉันก็เป็นคนทำลายความเงียบนั้นเอง
“ฟ้าใสเดี๋ยวฉันกลับก่อนนะ”
“อ้าว! พึ่งมายังไม่ทันหายเหนื่อยเลย เข้าบ้านก่อนซิ ! เลมอน ” ฟ้าใสเดินลงบันไดประมาณสามขั้นจากเฉลียงหน้าบ้านเดินมาหาฉันแบบงงๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า ? เลมอน !” ฟ้าใสถามข้างๆฉัน
“เปล่าจ้ะ ...........งั้น........ฉันกลับก่อนนะไว้เจอกันพรุ่งนี้.........Bey!จ้ะ”
ฉันหันไปยิ้มบอกลาพี่อลันและไม่หันกลับไปสบตาเขาคนนั้นอีกเลย
ฟ้าใสเห็นปฏิกิริยาอึ้งๆของฉันก็เลยไม่ได้ทักท้วงอะไรต่อ ปล่อยให้ฉันหันหลังกลับไปอย่างนิ่งๆ
“นิยัยฟ้า น้องเลมอนเป็นอะไรหรือเปล่า ? ฉันเห็นเขาหน้าซีดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว นิตอนเย็นนิอาการยิ่งหนักนะเนี้ย”
“ห่วงจริงนะเพื่อนฟ้าคนนี้ 5555 คิดอะไรป่ะเนี้ยถามจริงๆ”
“บ้าหรอ! ฉันก็แค่เห็นใจเพื่อนแกน่ะอายุแค่นี้ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย”
“ทำไมว่ะ?” เป็นเสียงเรียกของเวกัสหลังจากนิ่งไปนาน
“เออไอ้นิ! ยังพูดได้หรอว่ะ เห็นนิ่งเงียบมานานนึกว่าจะเป็นใบ้ไปแล้ว”
“เพื่อนฟ้าเค้าไม่ค่อยมีสตังค์ค่ะ เหมือนว่าครอบครัวเขาจะล้มละลาย เหลือคุณแม่คนเดียวที่อยู่ดูแลเลมอนแต่ดูเหมือนคุณแม่ของเลมอนจะมีปัญหาเรื่องหนี้สินเยอะจนไม่มีเงินให้ค่าขนมเลมอนอ่ะค่ะ เลมอนก็เลยต้องทำงานส่งตัวเองเรียน อะไรประมาณนั้น” ฟ้าใสตอบเวกัสด้วยเสียงระเหี่ยใจเล็กน้อย
“ฟ้าก็ถามๆเพื่อนเธอบ้างล่ะเผื่อเค้าเครียดๆอะไร เป็นเพื่อนกันก็ต้องใส่ใจกันไม่ใช่ว่าเวลาสุขร่วมเสพแต่เวลาทุกข์ก็ตัวใครตัวมัน จริงไหม๊ไอ้เว” อลันหันไปมองหน้าน้องสาวและบอกด้วยความเป็นห่วง
“เออ........”เวกัสตอบสั้นๆ(สั้นไปนะ)
“ฉันกลับก่อนนะไอ้ลัน”
“เฮ้ย! อะไรว่ะยังไม่ได้คุยกันเลย”
“เออน่ะ คืนนี้ไม่ไปไง?”เวกัสหันไปถามอลันอย่างกวนๆ
“เออไอ้นี่ เห็นสาวสำคัญกว่าเพื่อนตลอด”
“ก็มันจริงนิหว่า”เวกัสหันไปยิ้มกับอลันอย่างขันๆ
ฟ้าใสยกมือไหว้เวกัสและบอกขอบคุณเรื่องที่มาส่งที่บ้าน จากนั้นเวกัสก็ขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง
รอบๆตัวฉันตอนนี้มีคนเดินสวนไปมามากมายไปหมด ปากซอยบ้านฟ้าใสเป็นตลาดสดจึงไม่แปลกที่เวลาเย็นๆจะมีคนเดินแถวนี้เยอะ แม่ค้าพ่อค้าต่างเรียกลูกค้าโดยโชว์สรรพคุณต่างๆนานา “สดๆๆจ้าผักสดๆปลูกเองไร้สารพิษจ้า.....หมูราคาถูกเลยครับคุณนายถูกกว่าในห้างเยอะเลยนะครับ” ผู้คนต่างจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคล่องมือ ส่วนฉันแทบจะไม่ได้สนใจกับความครึกครื้นที่อยู่ตรงหน้านี้เลย ฉันเดินต่อไปเรื่อยๆเหมือนคนไม่มีวิญญาณหรือวิณญาณออกจากร่างไปตอนไหนไม่รู้
ในที่สุดก็ถึงป้ายรถเมล์เสียทีฉันนั่งพักเหนื่อยได้แปบนึงก็ลุกขึ้นยืนถอนหายใจหนักๆสองสามรอบโดนไม่แคร์สายตาคนที่ยืนรออยู่ด้วยอีกหลายต่อหลายคน
ปิ๊บๆปิ๊บๆ
เสียงแตรถใครดังขึ้นที่หน้าป้ายรถเมล์ ฉันเลยเงยหน้าขึ้นมองไปยังเจ้าของต้นเสียงนั้น(ใครมาบีบแตเล่นแถวนี้คนยิ่งเซ็งๆอยู่)
“นิ! ขึ้นรถซิ!”
ฉันทำหน้าเอ๋อๆๆงงๆ
“ฉันเรียกเธอนั่นล่ะ ยัยโก๊ะ” เขาถอนแว่นกันแดดเรเบนสุดเท่ห์ออก ทำให้ฉันพบเจ้าของใบหน้าที่ฉันอยากหนีมากที่สุดตอนนี้
“เอ้า! จะยืนเซ่ออีกนานไหม รู้ไหมรถเขาติดเป็นแถวยาวแถมคนขึ้นรถเมล์ไม่ได้เนี้ย” เวกัสพูดเสียงตะโกนมาจากในรถ
“มันเกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ”ฉันตอบกลับด้วยความโมโห โมโหทั้งตัวเองที่ยังจะต่อปากกับเขา และโมโหที่เขายังจะตามมาให้ฉันเห็นหน้าอีก
“น้องค่ะ แฟนน้องมารับแล้วน้องไปกับเขาเถอะค่ะ”สาวออฟฟิศคนนึงที่ยืนรอรถเมล์หันมาพูดกับฉัน
“เออ........ไม่ใช่ๆค่ะ”ฉันรีบตอบกลัวคนอื่นจะเข้าใจผิด
“รีบไปซิหนู เค้าตามมาง้อแล้ว หนุ่มๆสาวๆโกรธกันไม่ได้นานหรอก ตอนยังหนุ่มยังสาวเขาก็ง้อยังนี้ล่ะอย่าปล่อยโอกาสหลุดมือนะจ๊ะหนู”ป้าหัวฟูที่ถือตะกร้าจ่ายตลาดหันมาพูดสมทบด้วย
“เออ..........คือ”
“เอาเถอะน้องเห็นแก่พวกเราก็แล้วกัน พวกพี่อยากขึ้นรถเมล์ถ้าแฟนน้องยังจอดรถขวางอย่างนี้พวกพี่ก็ขึ้นรถไม่ได้พอดี นะๆๆไปกับแฟนน้องเทอะ” ชายมีอายุคราวลุงฉันมาพูด
“เออๆๆๆๆไม่ใช่......แฟ..”
ยังไม่ทันพูดจบนายเวกัสก็ลงจากรถและเดินตรงมาลากฉันขึ้นรถไปอย่างเผด็จการ และที่ฉันยอมขึ้นรถอ่ะนะจริงๆไม่ได้พิศวาสในตัวนายนั่นเลยแม้แต่น้อยแค่ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะฉัน(เหรอ!) ก็จริงน่ะซิ! เป็นเพราะเค้าต่างหากไม่ใช่เพราะฉัน
“นิ! จะไปไหนล่ะ?”เวกัสหันมาถามฉัน
“......................”
“ฉันจะได้ไปส่งได้ถูก” และก็หันมาถามอีกรอบ
“......................”
“บ้านอยู่ไหนล่ะ ?”
“........................”
“นิยัยบ้า เธอเป็นใบ้หรือยังไงฉันถามเธอต้องหลายประโยคทำไมไม่ตอบ”เวกัสทำหน้าฉุนๆหันมองมาที่ฉัน
เอียด........................
“นิ! ตาบ้า ขับรถภาษาอะไรของนายนึกจะเบรกก็เบรก” ฉันแหวเสียงใส่ตาบ้าที่นั่งข้างๆฉัน
“นึกว่าเป็นใบ้ซะอีก.................. เธอนิไม่เปลี่ยนไปเลย”
“...................................”
ฉันก็ยังไม่สนใจเขาอยู่ดีทั้งที่ในใจเต้นแปลกๆกลัวเขาพูดถึงเรื่องเมื่อก่อน
เขาค่อยๆขยับตัวมาใกล้ฉันและเอื้อมมาจับต้นแขนฉันให้ฉันหันตัวไปประชันหน้ากับเขา
“แต่ดูเป็นสาวที่มีเสน่ห์ รู้จักทำผม แต่งหน้า สวยไม่เบา” เวกัสพูดเชิงกระซิบ แต่ด้วยความที่รู้ทันเขาฉันก็จ้องหน้าเขาและไม่พูดอะไร แล้วฉันก็ถือโอกาสผลักตัวเขาออกจากฉัน
“เดี๋ยวนี้เก่งนิ ไม่หน้าแดงง่ายๆกับคำพูดของฉัน” เวกัสพูดขึ้นลอยๆแต่หมายมั่นจะให้ฉันเจ็บใจ
“ฮึ! ฉันคงโตพอที่จะไม่หวั่นไหวง่ายๆกับคำพูดไร้สาระๆของผู้ชายอย่างนาย”ฉันตอกเขากลับทันที
จบประโยคเขาก็พุ่งเข้าใส่ฉันด้วยแววตาที่คุกรุ่นพอตัว “ดูท่าเธอจะรู้จักผู้ชายอย่างฉันดีนะ”เขาตอบพร้อมแสยะยิ้มอันชั่วร้ายเหมือนจะเย้ยหยันฉันออกมา
ฉันผละออกเล็กน้อยก่อนที่ ฉันจะค่อยๆปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดแล้วเป็นฝ่ายจู่โจมเข้าหาเขาอย่างช้าๆ ฉันค่อยๆเลื่อนมือไปที่คอเสื้อของเขาอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาให้สายตามองฉันอย่างแปลกใจปนงงนิดๆ คงคิดไม่ถึงว่าฉันจะมีปฏิกิริยาตอบกลับแบบนี้ หลังจากนั้นฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีในตอนนี้กระชากตัวเขาเข้ามาใกล้ๆและกระซิบที่ข้างหูเข้าว่า “แต่นายก็เป็นผู้ชายที่ดีพอเลยล่ะ อย่างน้อยผู้หญิงที่รู้จักนายก็จะได้รู้ว่า ผู้ชายคนไหนควรเป็นตัวจริง และคนไหนเป็นแค่ของเล่นคั่นเวลา”
ฉันเน้นประโยคหลังหนักพอที่จะทำให้เขารู้ว่าฉันประชดเขา แต่ถ้าทางเขายังคงตกใจกับการกระทำของฉันอยู่เลยดูจากหน้าตาเหวอๆของเขาก็คงพอตอบได้O_0 ฉันเลยให้จังหวะนี้เปิดประตูลงจากรถคันสวยของพ่อหนุ่มสิ้นลายคนนั้นเหอะๆ
อย่าได้เจอกันอีกเลยผู้ชายร้ายกาจแบบนาย
ฉันเดินเข้าไปในห้างร้านที่ฉันทำงานพิเศษอย่างอารมณ์ดี
“สวัสดีค่ะ พี่ป้อ” เจ้าของร้านแกลเลอลี่ภาพถ่ายที่สุดแสนจะใจดีที่ให้งานพิเศษลุกนกลูกกาอย่าง สาวน้อยเลมอนคนนี้
(วันนี้ยัยนี้ดูเพ้อๆ)
“อารมณ์ดีเชียวนะ น้องเลมอน มีหนุ่มมาสารภาพรักตัดหน้าพี่ป้อรึเปล่า” เจ้าของร้านหน้าออกไปทางเครื่องครัว(หม้อ)
“ฮึๆๆ วันนี้อารมณ์ดีไม่โกรธๆ เดี๋ยวเลมอนไปตั้งใจทำงานก่อนนะคะพี่ป้อ”
ระหว่างที่เลมอนกำลังอารมณ์ดีกับการที่ได้แก้เผ็ดผู้ชายปากดีนั้นเธอไม่รู้เลยว่า มีผู้ชายแววตาคุกรุ่นของผู้ชายที่พึ่งถูกหักหน้าไปเมื่อครู่มองอยู่ ยัยตัวแสบฉันไม่ยอมแพ้เธอแน่ เวกัสคิดขึ้นในใจ
“น้องเลมอนจ้ะ พี่ต้องกลับบ้านก่อนนะจ้ะ พอดีน้องสาวพี่เข้าบ้านไม่ได้”พี่ป้อบอกขึ้น
“ได้ค่ะพี่ป้อ เดี๋ยวเลมอนปิดร้านให้นะค่ะ ” เลมอนบอกขึ้น
“โห ทำให้ขนาดนี้พี่รักตายเลยนะเนี่ย” พี่ป้อพูดขึ้นอย่างขำๆ
“พี่ป้อ พูดไรเนี่ยรีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวน้องสาวพี่ป้อรอนานนะค่ะ”เลมอนพูดขึ้น
“โอเคครับๆ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ” พี่ป้อบอกขึ้นพร้อมกับเดินออกไป
ความคิดเห็น