ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Y]Love at first sight รักมึงว่ะไอ้หวาน[Y]

    ลำดับตอนที่ #3 : [Y]Chapter 02[Y]พบเจอครั้งแรกของผู้ชายหน้าด้านกับนายโคตรหน้าหวาน

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 55



                      พบเจอครั้งแรก ของผู้ชายหน้าด้านกับนายหน้าโคตรหวาน


    [อะตอม]
          เวลาพักกลางวันของทุกคน ตอนนี้ผมอะตอมสุดหล่อ พ่อรวย เดินตากแดดเปรี้ยงของพระอาทิตย์เมืองไทยเพื่อจะไปโรงอาหาร ผมกำลังเดินอยู่กับเพื่อนใหม่ครับ ไอ้คิน ไอ้นี่ก็หล่อ ฮ่าๆ เอาง่ายๆผมหล่อเลยต้องคบกับคนหล่อๆ ผมกับมันเรียนบริหารครับอย่างที่บอกตอนนี้เที่ยง ต้องกินข้าวแล้วก็ค่อยกลับไปเรียนใหม่ตอนบ่าย

             โรงอาหารมีที่เดียวครับไม่รู้มหาลัยจะประหยัดพื้นที่ไปทำไม ลำบากนักศึกษาต้องเดินไกล มีรถนะครับแต่ไม่ขับมาหรอกเปลืองน้ำมัน วันนี้ไอ้คินบอกว่าจะแนะนำเพื่อนมันอีกคนให้รู้จักครับ มันเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าหน้าหวานมาก แต่โหด หากได้โมโห มันเคยเจอมาหนนึงโดนแรพคำด่าใส่หูแทบพัง ดีที่ไม่โดนจับทุ่มด้วยท่าของเทควันโด้ ไอ้คินมันบอกแบบนี้ ผมเลยอยากเห็นรบเร้าออกบ่อยและโอกาสก็มาแล้วครับ

    โรงอาหาร

    “ทางนี้ ๆ ไอ้ปอร์เช่” เสียงไอ้คินตะโกนไปยังทางเข้าของโรงอาหารไม่เพียงผมที่มองตามมันไป คนทั้งโรงอาหารก็มองตาม อยากรู้นิครับว่าคนที่มันเรียกเป็นใคร
             สายตาผมที่มองตามไปเจอผู้ชายตัวเล็กร่างบางคนนึงยืนมองมายังผมสองคน พร้อมกับสาวเท้าเดินมาตามทาง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมมองอยู่นานเลยครับไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมายืนอยู่ตรงหน้าเมื่อไหร่ รู้ก็เมื่อมันส่งเสียงหวานๆทักนั่นละครับ คำแรกก็อยากรู้จักซะแล้วละ อยากรู้มั้ยละว่าคำนั้นคืออะไร

    “มองหน้าทำซากเหรอว่ะ” เสียงหวานที่พยายามต่อว่าผม ใช่ย้ำว่าหวานจากคนที่เป็นผู้ชาย ย้ำเลยผู้ชายแต่หน้านี่หวานมาก แต่ว่าผมก็ผิดแหละที่จ้องมากไป

    “เปล๊า มองแล้วอยากเอาทำเมีย” ผมลอยหน้าลอยตาตอบ มันอึ้ง ไอ้คินก็อึ้ง อึ้งคู่มันคงไม่คิดว่าผมจะด้านตอบไปแบบนี้ มันอ้าปากพะงาบๆ เหมือนจะด่า แต่ได้แค่ค้างไว้ครับคงด่าไม่ออก ไอ้คินนี่เก็บอาการไปแล้วครับมันคงชินเพราะคนที่นั่งตรงหน้าผมกับมันนี่คงโดนแบบนี้บ่อย

           แม้แต่ผมที่พูดเองยัง งง กับตัวเองอยู่ ก่อนที่จะได้พูดอะไรผมกับไอ้คินก็เลือกที่จะไปซื้อข้าว ให้มันนั่งรอที่โต๊ะไป ซื้อข้าวเสร็จไอ้คินก็แนะนำผมกับมันให้รู้จักกัน

    “เฮ้ยปอเงยหน้าก่อน นี่อะตอมเพื่อนใหม่ที่คณะกูเอง”

    “อืม” เสียงหวานๆมันครางตอบเบาๆ ก่อนจะหันไปกินต่อ สนใจกูมั่งสิว่ะ

    “ส่วนนี่มึงไอ้ตอม ไอ้ปอร์เช่ หรือ ปอ เพื่อนสนิทกูที่เรียนมาด้วยกันและรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก”
    ไอ้คินหันมาบอกผมอีกคนเพราะเพื่อนมันไม่สนใจที่จะแนะนำตัวเท่าไหร่

    “อือ ยินดีที่ได้รู้จักว่ะ” ผมพูดแค่นั้นแล้วก้มกินข้าวต่อ เราสามคนคุยกันนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไอ้สองคนนั้นคุยกันมากกว่า แล้วแยกย้ายกันกลับห้องเรียนห้องเรียนมัน ไอ้ปอร์เช่มันเรียนศิลปศาสตร์ ตึกมันถึงก่อน แล้วถัดไปอีกสองตึกก็เป็นตึกเรียนของผมสองคน

    คาบบ่ายผมเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก เพราะมัวแต่นึกถึงคำพูดตัวเองอยู่ คิดไปคิดมาก็น่าลอง

    “เอาละหมดเวลาละ อย่าลืมที่ครูสั่งละ” อาจารย์พูดจบก็เดินออกไปพลันเสียงเฮ ก็ดังขึ้นต่างคนต่างเก็บของเพื่อกลับบ้านไม่ก็เที่ยวต่อกับเพื่อนๆ ผมคนนึงที่เลือกกลับบ้าน ช่วงนี้หมดวาระการรับน้องไปแล้วเลยสบายไป ทั้งชั้นปี

    “ตอม ตอม ไอ้อะตอม!!” เสียงตะโกนข้างหูทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย เสียงไอ้คินครับ

    “อยู่แค่นี้ตะโกนทำซากว่ะ” ผมโวยกลับพลางเก็บของที่มีเพียงหนังสือเล่มนึงกระเป๋าดินสออีกอย่างลงเป้

    “ห่า กูเรียกมึงตั้งนานให้ตายเถอะ เหม่อไปถึงไหนว่ะมึง” มันบ่นครับนี่ผมเหม่อเหรอ เหอๆ ไม่ค่อยจะเชื่อตัวเอง

    “กูเหม่อนานมั้ยมึง แล้วนี่มึงจะไปไหนรึเปล่า หรือว่ากลับบ้านเลย” ผมหันไปถามมันก่อนสะพายเป้ไว้ที่บ่า

    “ไปรับไอ้ปอก่อนว่ะ พอดีนัดกันว่าจะซื้อของขวัญให้พี่สาวมันก่อน”

    หึ หึฟังจบผมก็ปิ๊งไอเดียครับ

    “กูไปด้วยยังไม่อยากลับว่ะ” ผมบอกมัน

          แล้วผมสองคนก็เดิน ย้ำว่าเดินอีกแล้วครับดีหน่อยนี่ก็สี่โมงละแดดเริ่มอ่อนแรง แต่คนนี่สิอ่อนล้าครับเมื่อย ถามว่าเดินไปไหนน่ะเหรอ เดินไปรอไอ้ปอร์เช่ที่หน้าตึกมันครับมันยังเรียนไม่เสร็จ อาจารย์มัวแต่เวิ่นอยู่ เราจะไปซื้อของด้วยรถไอ้คินที่จอดเทียบไว้ที่คณะไอ้ปอร์เช่ ที่จอดนี่เพราะมันสองคนมาด้วยกัน บ้านติดกัน ว่าไปแล้วก็อิจฉาไอ้คินมันนะครับอยู่กับคนน่ารักมาตั้งแต่เด็ก

         ผมสงสัยว่ามันไม่หวั่นไหวบ้างเหรอที่อยู่กับไอ้ปอร์เช่ตลอด น่ารักกว่าผู้หญิงบางคนที่ผมเคยคบอีก ไว้ว่างๆจะถามมัน ส่วนรถผมน่ะเหรอไม่ต้องห่วงให้น้องชายขับกลับครับมันกับผมมีคนละลูก อ๊ะกุญแจนะครับคนละลูกเนี่ย เรียกได้ว่ามาพร้อมกันแต่ขากลับหากคนไหนมีธุระที่ไปคนละทางก็แยกกลับวันนี้ผมต้องไปป่วน เลยยอมกลับแท็กซี่หลังจากซื้อของ ให้มันขับกลับไปปรกตินั่งตลอด

        เดินสักพักก็มาถึงแล้วครับ หน้าตึกคณะศิลปะศาสตร์ ตึกแห่งศาสตร์ทางศิลป์ไม่ทันได้ต้องรอไอ้ปอร์เช่ก็เดินออกมา เพียงแค่มันเห็นผมแค่นั้นละ มือขาวๆของมันก็ชี้มาที่ผมทันทีผมกับคำทักทายที่ดูยังไงก็ไม่น่าใช่

    “มึง ไอ้หน้าม่ออะตอม มึงมาทำไม” เป็นไงครับว่าที่ภรรเมียผมปากหวานมั้ย


    ANGEL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×