เลิกกันอย่างไร ให้จบไปเลย? - เลิกกันอย่างไร ให้จบไปเลย? นิยาย เลิกกันอย่างไร ให้จบไปเลย? : Dek-D.com - Writer

    เลิกกันอย่างไร ให้จบไปเลย?

    เมื่อพูดถึงอาการไม่ลงรอยกันของคู่ เคยรัก จนถึงขั้นเลิกราแล้ว ไม่ว่าจะเลิกชั่วคราวหรือเลิกถาวร ย่อมมีคำถามตามมาว่า ทำไมพวกเราถึงได้เบื่อและต้องแยกทาง แล้วเราจะทำยังไงให้เลิกกันอย่างไร ให้จบไปเลย?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,481

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.48K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ธ.ค. 49 / 13:48 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


     

    วุ้นขอฝากเรื่องคดีรัก...คดีหัวใจด้วยนะค่ะ

     

    http://my.dek-d.com/writer/story/view.php?id=234458

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      เลิกกันอย่างไร ให้จบไปเลย?

       

                เมื่อคนในสังคมทุกวันนี้ไร้ความอดทนและขาดความยืดหยุ่นกันนัก จนเมื่อไม่พอใจอะไรเดี๋ยวก็เซ็ง, เดี๋ยวก็เบื่อ ขึ้นมาง้ายง่าย ซึ่งเรื่องพรรค์นี้ไม่เกิดแต่เฉพาะกับความรักนะ เพราะลามไปถึงเรื่องกินเรื่องเที่ยว เรื่องคบเพื่อนหรือคบกิ๊กไปด้วยอ่ะดิ ผู้คนสมัยนี้จึงอารมณ์แปรปรวนหยั่งกะพายุ ตอนยัง (อารมณ์) ดีๆ ก็แล้วไป แต่เมื่อไหร่อารมณ์ร้ายเข้าสิงก็ตัวใครตัวมันละกันเฮ้ย

                มิน่า คนที่ “รักด้วยอารมณ์” จึงไม่จีรังยั่งยืน เหมือน “รักด้วยสมอง” ที่ใช้เหตุและผลมาคะคานกระทั่งความไม่เข้าใจเดินมาถึงจุดคลี่คลายกันได้ในที่ซู้ด

                เอาละวา เมื่อพูดถึงอาการไม่ลงรอยกันของคู่ “เคยรัก” จนถึงขั้นเลิกราแล้ว ไม่ว่าจะเลิกชั่วคราวหรือเลิกถาวร ย่อมมีคำถามตามมาว่า ทำไมพวกเราถึงได้เบื่อและต้องแยกทาง กับผู้ที่ครั้งนึงเคยรักอย่างสุดใจขาดดิ้นได้น้า? ถ้าสังเกตสังกา (แต่ไม่ใช่ให้ไปเพ่งตีนกาของใครนะจ๊ะ) กันดีๆ สาเหตุที่ทำให้เลิกกันก็มีไม่กี่อย่าง เช่น.....

                • เข้ากันไม่ได้ ปัดโธ่เป็นเหตุผลยอดฮิตที่คู่ไหนคิดอะไรไม่ออก ก็ยกเหตุผลนี้มาอ้างไว้ก่อน แถมไม่ยอมอธิบายด้วยน่ะสิว่าเข้ากันไม่ได้ยังไง, ตรงไหน แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของคู่ใครคู่มันอะนะ จะให้ไปเซ้าซี้ กระแดะถามคงไม่งามเท่าไหร่

                เดี๋ยวคู่ของเราดันติดไข้ “เข้ากันไม่ได้” ขึ้นมาก็ซวยน่ะซี

                • เบื่อมีคู่ แต่อยากอยู่คนเดียว จึงเลิกซะเลย ถ้านั่นเป็นความตั้งใจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละก็ กรุณาบอกเหตุผลให้อีกฝ่ายเข้าใจด้วย จะได้จากกันด้วยดี ไม่ติดใจสงสัยว่า เอ๊ะกูไม่ดีตรงไหน อยู่ๆถึงอยากเลิก เชอะ ถ้ารู้ว่าไม่ใช่เค้าที่ไม่ดี แต่คุณเพี้ยนเปลี่ยนไปเอง เค้าจะได้ไม่ตกใจ ไม่ใช่อะไรหรอก

                • ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปมีคนใหม่ จึงหมดรักคนเดิมอ่ะดี้ ตรงนี้คงไม่ต้องสาธยายเพราะเจอะเจอประสบการณ์แบบนี้มาเยอะแล้วไม่ใช่เรอะ

                คราวนี้ไม่ตั้งใจคุยถึงสาเหตุของการเลิกกันหรอกนะ แต่อยากหยิบประเด็น ทำไงถึงจะได้เลิกกับแฟนให้เด็ดขาดกันไปเลย? ดีมะ ไหนๆพูดเรื่องเจ็บๆแล้วก็ให้ระบมซะเลยละกัน เพราะเมื่อตัดสินใจเลือกทางเดินสายนี้แล้ว ก็ตัดสวาทให้ไฟรักมอดไปให้สนิทซะเลยซี

                ส่วนทำไงดีเหรอ ก็ลองแบบนี้สิ......

                1. ถ้ายังไม่ได้อยู่ด้วยกัน ใช้วิธีโทรศัพท์ไปหาเค้า (แฟนซึ่งจะกลายเป็นอดีต) ของคุณบ่อยๆดี้

                ขืนโทรศัพท์ไปกวนใจแทบทุกชั่วโมง จนเค้าไม่มีอันทำงานทำการก็เท่ากับไปเขย่าสมาธิให้แตกซ่านจนทำให้เค้าหงุดหงิดน่ะซี เพราะมัวรับโทรศัพท์อยู่นั่น หรือแม้ไม่ยอมรับแต่เสียงกริ่งโทรศัพท์ก็ดังสนั่นหวั่นไหวเรื่อยๆ จนเค้าแทบปาโทรศัพท์ทิ้ง หรือถ้าเป็นโทร.มือถือก็ปิดเครื่องไปเลยละก็ อาการบ้าคลั่งโทรศัพท์ ไปหาเค้าบ่อยๆนี่แหละ ขืนใครถูกทำหยั่งงี้ก็ตีความได้หรอกน่าว่า ถ้าไม่รักมากก็คงเกลียดมากจนต้องราวีกันด้วยวิธีนี้ ดังนั้นถ้าเค้ายังไม่ยอมร่ำลาปล่อยคุณไปละก็ เค้าย่อมรู้ว่าจะโดนก่อกวนทางสายอีกแหงๆ หากเค้าไม่ ยอมตามใจคุณ สักที ก็ขอให้ไปดีเถอะนะที่ร้าก!!!

                แต่การเลิกลักษณะนี้ย่อมไปกระตุ้นต่อมโมโหและกวนประสาทอีกฝ่ายได้นะ แถมมีข้อเสีย เพราะหากภายหลังอยากคืนดีกัน ก็อย่าหวังจะทำกันได้ง่ายๆ อู้หู เลิกกันทางโทรศัพท์หรือเล่นส่งข้อความสั้นที่เรียกกันว่า SMS ถือเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนเลือดเย็นดีแฮะ

                2. ถ้าอยู่บ้านเดียวกัน ก็หอบผ้าหอบผ่อนออกมาจากรังรักของพวกคุณสิ

                นี่ไม่ได้แซวให้เลียนแบบคู่ดารารักขมนะเฟ้ย เพราะเป็นพฤติกรรมคลาสสิกที่ไม่ต้องเป็นดาราเค้าก็ทำกัน เพียงแต่พอดาราสร้างเรื่องคล้ายกันนี้ขึ้นมา โอ้โห ยิ่งย้ำให้เห็นว่าการเลิกกันด้วยวิธีนี้ได้ผลเกินคาด เพราะดีกว่าปล่อยให้เค้าโยนข้าวของของเราออกมาจากรังรักน่ะซี

                3. หยุดให้ความสนใจใดๆในตัวเค้า

                ลองเลิกเป็นห่วงเป็นใย ใส่ใจในความเป็นอยู่ของเค้าสิ แล้วเค้าจะรู้สึกถึงพฤติกรรมที่เปลี๊ยนไป๋ ของอีกฝ่ายมะ แต่วิธีนี้อาจไม่ทำให้แฟนหูตาสว่างในทันทีก็ได้ เพราะส่วนใหญ่ความรู้สึกช้าน่ะสิ แต่ถ้าเป็นงี้นานๆเค้าคงรู้ตัวแหละ ว่าเราไม่เหมาะที่จะอยู่ ด้วยกันแล้ว จะได้ชัดเจนกันไปซะที

                4. บอกเค้าว่า คุณมีคนอื่นแล้ว โอ้...มายก๊อด วิธีนี้ทำให้เจ็บไปอีกนานเชียวนะ

                ไม่ว่าจะมีมือที่สามจริงรึเปล่าไม่รู้ ถ้าอ้างเรื่องนี้ขึ้นมา อีกฝ่ายย่อมช็อกซีนีม่าแหงๆ ไม่มีใครอยากกินน้ำใต้ศอกของใครเชื่อดิ หากงัดวิธีนี้มาใช้ รับรอง เค้ากระเด็นไปจากคุณแน่ๆ ยกเว้นยังอาลัยอาวรณ์ กันอยู่ก็คงมีการฉุดรั้งกันมั่ง แต่อย่าถึงกะทำอะไรหวาดเสียวจนได้เป็นข่าวขึ้นหน้า 1 ของ นสพ.เลยนะ ไอ้ประเภทรับไม่ได้จึงสร้างคดีทำร้ายร่างกายขึ้นมา เห็นแล้วดูไม่จืดเลยอ่ะ

                5. ทำเป็นจู้จี้จุกจิกและขี้บ่นจุ้นจ้านไปทุกเรื่องดิ

                ถ้าเค้าผิดสังเกตว่า ทำไมคุณถึงทำตัวเรื่องมากตลอดเวลา รับรองเค้าต้องอยากถามเพื่อให้รู้คำตอบแหงๆ หากเค้าตกหลุมพรางนี้ จังหวะได้ล่ำลากันก็เป็นของคุณแล้วไง

                6. แจกแจงความห่วยแตกของเค้าทั้งวี่ทั้งวันมะ

                บ่นที่บ้านยังไม่พอ มีการตามไปราวีมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันในที่ทำงานของเค้าด้วย ไอ้หยา... ขืนเล่นแรงแบบขุดแต่เรื่องไม่ดีของแฟนมาประจาน แล้วใครจะทนไหวเล่า น่าสังเกตว่า หากใครงัดลูกเล่นนี้มาใช้ ต้องอยากเลิกกับเค้าให้สิ้นซากแหงๆ แต่ขออย่าให้เค้าตามมา “เอาคืน” ละกัน ไม่ว่าชาย/หญิงเวลาอารมณ์เดือดขึ้นมา ก็หน้ามืดทำอะไรเลวๆได้ทั้งน้าน เพราะหมดอารมณ์ดีด้วยแล้วไง

                เอ้า ถ้าอยากตัวใครตัวมันกันจริงๆ ควรใช้วิธีนุ่มนวลกว่านี้ก็ได้ จะได้ทำให้ทั้งคู่แม้ไม่หลงเหมือนแต่ก่อนก็ ยังพอเป็นเพื่อนกันได้ แต่หากไม่อยากมีอดีตแฟนเป็นเพื่อนแล้วไซร้ อยากทำให้ชอกช้ำกันยังไงก็ทำเหอะ แต่ระวังกรรมสนองนะ และอย่าทะนงว่า “อย่างชั้นไม่มีทางโดนแฟนใหม่เฉดหัว” นะตัว เพราะเห็นมาเยอะแล้ว ที่มั่นใจตัวเองมากซะจนถูกแฟนใหม่ทิ้งให้กินแห้วซะอิ่มแปล้ไปเลย


      ข้อมูลจาก


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×