คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชีวิตแลกไฟฟ้า
ด.ช.วิฑูรย์ เตรียมตระการผล
ม.3/12 โรงเรียนเทพศิรินทร์
ยามค่ำคืนซึ่งเป็นคืนเดือนมืดที่มืดมิดเหลือเกิน ในวันนั้นเห็นแต่แสงจากบ้านหลังหนึ่งซึ่งยังคงเปิดไฟอยู่ ห้องนั้นคือห้องของบอย ซึ่งกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบเอนทรานซ์ในปี 2537 ขณะที่ดูหนังสืออยู่นั้นเมฆดำก็ปกคลุมท้องฟ้าไม่เห็นแสงใด ๆ เลย แสงระยิบ ๆ เริ่มกระพริบขึ้นหลังเมฆบ่งบอกถึงการมาของฝน บอยจึงรีบตรงไปปิดโทรทัศน์ที่เขาได้เปิดทิ้งไว้
“เปรี้ยง!”
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นขณะที่ปลายนิ้วของบอยแตะกับสวิตซ์โทรทัศน์ “เปริ้ยง!” สายฟ้าฟาดเข้าที่เสาอากาศบ้านบอย คุณพระช่วย! ร่างของบอยโดนกระแสไฟฟ้านับพันนับหมื่นโวลต์ไหลเข้าตัว
“ปัง! โครม!”
ร่างของบอยกระเด็นจากโทรทัศน์ปะทะเข้ากับฝาผนังห้องอย่างแรง
“บอย บอยลูกแม่” แม่ของบอยร้องอุทานด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอยถูกนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน
ไฟห้อง ICU เปิดขึ้นนานถึง 4 ชั่วโมงแล้ว ไฟห้อง ICU ก็ดับลง ร่างของบอยที่ไร้สติถูกเข็นออกมา
“คุณหมอ ลูกดิฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ” แม่ของบอยถามอย่างหน้าซีด น้ำตาคลอเบ้า
“เป็นเรื่องน่าประหลาดมากนะครับ ร่างกายเขาโดนไฟฟ้าระดับพัน ระดับหมื่นโวลต์ แต่กล้ามเนื้อ เส้นเลือดรวมทั้งสมองกลับดูแข็งแรงทนทานแทนที่จะฉีกขาด” หมอกล่าวพลางถอดหมวกผ่าตัดออก
“คงต้องรออย่างเดียวค่ะ” นางพยาบาลผู้เข็นเตียงพูด
หนึ่งเดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้น บอยก็ฟื้นขึ้นโดยเห็นแม่ของตนกำลังหลับอยู่ ซึ่งบอยก็รู้ดีว่าแม่ของเขาคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา หนึ่งเดือนเศษ ๆ ผ่านไปบอยก็ออกจากโรงพยาบาลได้ ทุก ๆ วัน บอยเอาแต่ท่องตำราเอนทรานซ์ ปี 2537 จนกระทั่งวันสอบ บอยรู้สึกมั่นใจมากในการสอบครั้งนี้
หลังสอบเสร็จซึ่งเป็นเวลาบ่ายพอดี ในขณะที่เขากำลังเดินกลับบ้าน ก็พบว่ามีชายชราผู้หนึ่งล้มลงลักษณะเหมือนคนหัวใจวาย บอยตกใจมากรีบตรงเข้าไปที่ชายชราคนนั้นก็พบว่า หัวใจของชายชราผู้นี้ได้หยุดเต้นเสียแล้ว บอยรีบเรียกสติขึ้นมาแล้วรีบทำการปั๊มหัวใจ ฝ่ามือของบอยได้บังเกิดแสงชั่วครู่ ขณะที่ปั๊มหัวใจอยู่
“เหลือเชื่อ!” บอยอุทานขึ้น หลังจากนั้นก็พบว่าหัวใจของชายชราได้เต้นอีกครั้งเหมือนดังปกติ จากนั้นบอยได้สติจึงรีบพาชายชราส่งโรงพยาบาล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบอยนี้ เขาได้ครุ่นคิดเรื่องนี้มาตลอด เรื่องแสงจากฝ่ามือของเขาทำให้ชายชรารอดชีวิต เวลาผ่านไป 1 เดือน ขณะนี้บอยสามารถสอบเอนทรานซ์ติดคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาวิชาไฟฟ้าของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่คณะนี้มีเพื่อนมากมาย และเขาได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่งซึ่งสนใจด้านไฟฟ้าเกี่ยวกับเซลล์เป็นอย่างมาก บอยจึงเล่าเหตุการณ์นั้นให้ไก่ฟัง
“ในตัวนายมีกระแสไฟฟ้าถึง 3,000 โวลต์ คงจะมีสาเหตุมาจากเมื่อครั้งโดนฟ้าผ่าทางโทรทัศน์ จนทำให้ DNA ของเซลล์ในตัวนายเปลี่ยนแปลงไปจนสามารถทนต่อไฟฟ้าและเซลล์นั้นดูดซับไฟฟ้าไว้ เมื่อนายตกใจ สมองจะสั่งการให้เซลล์นั้นปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าเหล่านั้นออกมา โดนที่ตัวนายบังคับการไม่ได้” ไก่พูด
“ถ้าเช่นนั้น ในกรณีที่รักษาชายชราคนนั้นไฟฟ้าในตัวฉันคงไปกระตุ้นให้หัวใจทำงานใช่ไหม” บอยพูดต่อจากไก่
“ใช่ แต่ไม่ใช่เพียงรักษาโรคหัวใจเท่านั้นนะ ไฟฟ้าทางวงการแพทย์ใช้รักาโรคลมบ้าหมู และพวกโรคไขข้อกระดูกได้อีกด้วย แต่นายพยายามใช้พลังนี้บ่อยนัก เพราะหากเซลล์ต้องเปล่งไฟฟ้าออกมามากจนทำให้เซลล์นั้นจายได้”
“ทำให้เซลล์ตายได้” บอยพูดทวนคำสุดท้ายของไก่
ขณะที่บอยเดินกลับบ้านและคิดไปด้วยว่ามันไม่ใช่สิ่งดีเลยที่มีผลเช่นนี้ และเมื่อถึงบ้านเขา ก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าแม่เขาสลบอยู่หน้าบ้าน แต่นี่คงไม่ใช่การเป็นลมธรรมดาแน่เพราะ
“หัวใจของแม่หยุดเต้น” บอยพูดขึ้นอย่างตกใจ บอยรีบตั้งท่าจะปั๊มหัวใจแม่อย่างเมื่อครั้งปั๊มหัวใจชายชรา ฝ่ามือของบอยเริ่มบังเกิดแสงขึ้น และกำลังจะเริ่มปั๊มหัวใจ
“หากแต่เซลล์เปล่งพลังไฟฟ้าออกมา เซลล์นั้นอาจตายได้” บอยหยุดชะงักขณะที่ปั๊มหัวใจให้แม่เมื่อนึกถึงคำพูดของไก่
“แต่เราปล่อยให้แม่ตายไม่ได้หรอก ท่านมีพระคุณต่อเรา เราต้องทดแทน” บอยนึกถึงตอนเด็ก แม่เลี้ยงดูเขาอย่างลำบากมาตลอดเมื่อคิดเช่นนี้บอยจึงปั๊มหัวใจโดยท่มเทพลังทั้งหมดออกมา
“หัวใจแม่เต้นแล้ว” บอยพูดขึ้น
ฉูด!!!!!!!!!!! กล้ามเนื้อของบอยมีเลือดพุ่งออกมาทั่วทั้งตัว
ตึง!!!!!!!!!!!! บอยล้มลง
“บอย” ไก่เข้ามาบ้านบอยแล้วเห็นเหตุการณืพอดี จึงรีบพาบอยและแม่ไปโรงพยาบาล ไฟห้องผ่าตัดดับลง ร่างของบอยแน่นิ่งถูกเข็นออก
“แม่ของบอยรอดอย่างไม่น่าเชื่อ แต่บอย” หมอพูดทิ้งท้ายไว้ ลมพัดโกรกใบหน้าของบอยซึ่งหลับสนิท น้ำอุ่น ๆ ไหลจากดวงตาของไก่
ความคิดเห็น