คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Shadow ❥ one
ONE
我不知道该怎么跟你说我爱你 ❥
"ไอเด็กผมสีควันบุหรี่ที่เป็นประธานชมรมฟุตบอลอ่ะนะ"
"ก็เออดิมึง กูอยากจะบ้า"
โด คยองซู เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ลู่หานรักและไว้ใจมากที่สุดกำลังนั่งเท้าค้างฟังเพื่อนรักพูดถึงเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่เขาก็เคยเห็นเพียงแค่ผ่านๆ ภายในโรงเรียนโดยไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก เพราะทุกครั้งที่เดินสวนกันสายตาของคยองซูมักจะมองเลยไปยังเด็กผู้ชายข้างกายของเซฮุนมากกว่า เพียงแค่เพราะเด็กคนนั้นหน้าคล้ายผู้ชายที่อยู่ในความทรงจำของคยองซูตลอดเวลาก็เท่านั้นเอง
"ละจะเอาไงจะกลับไปอยู่ที่บ้านคนเดียวนะเหรอ?"
"ไปได้ก็ดีดิ ป๊าประกาศขายไปตั้งแต่วันที่จะกลับจีนละ"
"งั้นมึงก็ทนๆ ไปหน่อยละกันปีสุดท้ายแล้วเนี้ย"
ก็จริงอย่างที่โด คยองซูว่านี่มันปีสุดท้ายแล้วจริงๆ เขาควรสนใจแต่กับการเรียนไม่ใช่เรื่องรอบกายที่คิดแล้วชวนโมโหแบบเรื่องของไอเด็กนั่น อีกอย่างตอนนี้เขาก็ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวไม่ได้มีป๊าม๊าคอยสนับสนุนอย่างกับตอนอยู่ที่จีน และถึงแม้ว่าเรื่องเงินจะไม่ได้ขาดตกบกพร่องอะไรมากนักแต่ด้วยความดื้อรั้นที่ต้องการจะมาเรียนที่เกาหลีเอง การที่เขาได้มาอยู่กับเซฮุนก็เปรียบเสมือนสิ่งที่เขาต้องการด้วยเหมือนกัน
"เฮ้อเกิดเป็นเสี่ยว ลู่หานนี่น่าสงสารจริงๆ"
“โอ๊ะ! มึงนั่นเซฮุนกับเพื่อนน้องเค้าป่ะ”
“หืม?”
อะไรกันเพิ่งพูดถึงอยู่เมื่อกี้แท้ๆ ทำไมตอนนี้ดันมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ให้เกะกะสายตาลู่หานได้ละ ยิ่งพอนึกถึงเรื่องเมื่อเช้าด้วยแล้วเขายิ่งอยากเดินไปซัดหน้าไอเด็กนั่นให้รู้แล้วรู้รอดเลยให้ตาย
‘พี่ตื่นเดะ’
แสงจากหลอดนีออนที่สว่างไหวเรียกให้มือคู่สวยต้องยกขึ้นมาขยี้ตาอย่างช่วยไม่ได้ ฝ่ามือบางควานหาผ้าห่มก่อนที่จะนำมาคลุมโปงเพื่อปิดบังดวงตาจากแสงรบกวน ทว่าเสียงที่ดังอยู่ข้างเตียงก็เรียกให้คิ้วบางต้องขมวดเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้แต่เพียงไม่นานก็คลายออกจากกันก่อนจะพลิกตัวไปอีกทางโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำตกอยู่ภายใต้สายตาของเด็กที่ชื่อเซฮุนทั้งสิ้น
‘นี่พี่ตื่นได้แล้ว!’
เป็นอีกครั้งที่เสียงนั้นยังดังอยู่ที่เดิมแต่ต่างจากครั้งแรกตรงที่น้ำเสียงดูติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย
‘พี่ตื่นโว้ย!”
และเพราะระดับเสียงที่ทวีความดังขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าเรียกให้ดวงตาคู่สวยที่กำลังหลับพริ้มต้องลืมขึ้นมาข้างหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ทว่าพอมองดีๆ แล้วเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนเกือบเรียบร้อยจะติดก็ตรงที่ชายเสื้อที่โผล่ออกมานอกกางเกงกำลังมองมาที่เขาพร้อมกับคำพูดที่เขาเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านี่คือห้องตัวเองและเด็กที่กำลังมองเขาอยู่ตอนนี้ก็คือเซฮุน ทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้บอกให้ลู่หานรีบลุกขึ้นยืนบนเตียงเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เพราะดูจากส่วนสูงแล้วยังไงลู่หานก็ยังเป็นรองไอเด็กนี่อยู่ดีและที่สำคัญคือนี่มันห้องของเขาไม่ใช่มัน
‘ตื่นสักทีคือพี่ตื่นช้ามากรู้ป่ะ’
‘นี่! นายนะเข้ามาทำไม!’
หลังจากสติปัญญาที่ในตอนแรกแตกกระเจิงไปไหนก็ไม่รู้เริ่มจะกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวลู่หานก็ถามถึงเหตุผลที่เซฮุนย่างกรายเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตทันที แม้ในใจอยากจะเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อด้วยมากแค่ไหนก็ตามแต่เพราะตอนนี้ยังรู้สึกงัวเงียอยู่ถ้าจะทำได้ดีที่สุดก็คงต้องต่อปากต่อคำกับเด็กนี่จนกว่าตาจะสว่างละนะ
‘หิว’
‘หิว? ย๊าส์!!! นายหิวแล้วเรียกฉันให้ตื่นมาเนี้ยนะ!’
‘ผมปลุกพี่ต่างหากนี่ตีสี่ครึ่งแล้วรู้ป่ะไปโรงเรียนสายทำไง’
‘คือฉันตื่นตอน6โมงโว้ยยยย!’
‘ไหนๆ ก็ตื่นแล้วรีบๆ อาบน้ำแล้วมาทำอาหารให้กินได้ละ’
‘โอ เซฮุน!!ชักจะลามปามเกินไปแล้ว!!!!!!!’
และคิดว่าลู่หานจะหลับต่อได้ลงรึไง สุดท้ายเขาก็จำใจต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อมาทำอาหารให้ตัวเองและเด็กไร้มารยาทโอ เซฮุนกินอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็ในเมื่ออาหารพวกนี้เป็นเงินของเด็กมันละจะให้เขานั่งกินโดยไม่ทำให้เจ้าของเงินรึไงได้ละ ทั้งๆ ที่ก็ไม่คิดจะกินอาหารจากที่นี่ไปอยู่แล้วด้วยซ้ำ ย๊าส์! โอ เซฮุน อย่าหวังว่าจะมีครั้งที่สองเลย!
“ลู่หาน”
“…”
“ลู่หาน!”
“…”
“เสี่ยว ลู่หาน!!!”
“หะ...หา?! เสียงดังทำไมเล่า!”
“ก็มัวเหม่ออะไรอยู่เล่า น้องเขามาขอนั่งด้วยอ่ะ”
“ห๊ะ? น้องไหน”
“ก็น้องสองคนนี้ไง”
คยองซูพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางเด็กสองคนซึ่งกำลังมองมาทางลู่หานและเขาอย่างต้องการคำตอบ และพอดีกับที่ลู่หานหันไปสบตากับโอ เซฮุนพอดี คงไม่ต้องบอกว่าคำตอบที่จะพูดออกไปคืออะไร เพราะยังไงแล้วเขาก็จะไม่ยอมนั่งกับเด็กที่ทำให้ตัวเองตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อมาทำอาหารให้อย่างแน่นอน
“ผมนั่งได้ป่ะ?”
เสียงจากเด็กผู้ชายผิวเข้มที่ยืนข้างๆ เซฮุนพูดขึ้นก่อนจะหันไปทางคยองซูเพื่อรอฟังคำตอบ หลังจากที่เพื่อนตัวเล็กของลู่หานกวาดสายตาดูรอบๆ โรงอาหารแล้วยังไงถ้าปฏิเสธไปเขาก็คงจะเป็นรุ่นพี่ที่ใจร้ายมากแน่ๆ เพราะตอนนี้โต๊ะทั่วทั้งโรงอาหารถูกจับจองโดยรุ่นน้องเกือบหมดแล้ว ถ้าเซฮุนและเพื่อนของเขาจะมาขอนั่งด้วยก็คงไม่แปลกเพราะตอนนี้เหลือแค่โต๊ะของเขาเท่านั้นที่ยังว่างอยู่
“ได้สิ”
“ไม่ได้! เอ่อ…หมายถึงน้องคนนี้อ่ะนั่งได้แต่นายห้ามนั่ง!”
หลังจากเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเด็กผู้ชายข้างกายเซฮุนแล้ว เขาก็เพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเองกับเด็กคนนี้ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกันอีกอย่างเขาก็ไม่ใช่คนใจร้ายจะยกเว้นก็แต่โอ เซฮุนนี่แหละที่ยังไงแล้วเขาก็คงจะให้นั่งร่วมโต๊ะไม่ได้อยู่ดี
“อะไรอ่ะก็โต๊ะมันเต็มหมดแล้วจะให้รุ่นน้องนั่งด้วยนี่มีปัญหามากเลยใช่ป่ะ?”
น้ำเสียงหาเรื่องพูดกับคนที่มีอายุมากกว่าก่อนจะแสดงสีหน้าไม่พอใจ ใช่...เซฮุนไม่พอใจที่ลู่หานให้เพื่อนผิวเข้มของตัวเองนั่งแต่กับตัวเขาแล้วกลับปฏิเสธ
“เห้ยๆ อย่ามีเรื่องกันนายก็นั่งด้วยไง”
“ไม่ให้นั่ง!”
โด คยองซูรีบพูดแทนเพื่อนรักของตัวเองก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากตอนนี้เสียงทะเลาะกันของทั้งคู่กำลังเรียกความสนใจจากเด็กนักเรียนที่นั่งโต๊ะข้างๆ ได้เป็นอย่างดี อีกอย่างลู่หานก็ไม่มีเหตุผลในเมื่อโต๊ะมันเต็มแล้วจริงๆ จะไม่ให้น้องสองคนนี้นั่งก็จะยังไงอยู่
“ลู่หาน! โต๊ะอื่นมันเต็มแล้วเห็นมั้ย? น้องสองคนนั่งเถอะ”
แม้ในใจจะน้อยอกน้อยใจที่คยองซูเข้าข้างไอเด็กเซฮุนนั่นและดุเขาต่อหน้ามันยังไงแต่พอมองไปรอบๆ แล้วโต๊ะอื่นมันก็เต็มอย่างที่คยองซูว่าจริงๆ และถึงแม้เขาจะไม่ค่อยกินเส้นกับเด็กมันแต่ความเป็นรุ่นพี่ยังไงแล้วเขาก็ต้องยอมให้มันอยู่ดี แต่ก็แค่วันนี้แหละโอ เซฮุน!
.
.
.
.
.
“กินเสร็จยัง”
เสียงเล็กเอ่ยถามเพื่อนสนิทของตัวเองหลังจากที่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานเลยทีเดียวในความคิดของลู่หาน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเป็นเขาเองต่างหากที่มัวแต่รีบกินเพื่อที่จะใช้เวลาอยู่กับไอคนข้างๆ นี่ให้น้อยที่สุด ในตอนแรกที่ยอมให้นั่งด้วยก็เพราะ คยองซูเพื่อนรักปรามไว้แต่การที่ถือวิสาสะมานั่งฝั่งเดียวกับตัวเองนี่ไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยว ลู่หานต้องการเลย และก็เป็นอีกครั้งที่ภายในใจมันประท้วงออกมาว่าให้รีบออกจากรัศมีของเด็กนี่ให้ไวที่สุดและสิ่งที่จะทำได้ก็คงจะมีเพียงแต่การรีบกินอาหารตรงหน้านี่ให้เร็วที่สุดก็เท่านั้น
“รีบไปไหนอ่ะ อีกตั้งหลายนาทีไม่ใช่เหรอกว่าจะเข้าคาบนะ”
โด คยองซูก็แค่คนใสซื่อคนนึง แม้แต่ความรู้สึกของเพื่อนรักอย่างลู่หานคยองซูก็ยังไม่เข้าใจ เด็กหนุ่มข้างกายเพื่อนรักที่เขาก็เพิ่งรู้จักว่าชื่อ จงอิน กำลังทำให้คยองซูสนใจมากกว่าตัวของเขา ลู่หานรู้...รู้ว่าจงอินหน้าคล้ายกับคนที่คยองซูกำลังตามหา และนี่ก็เป็นการทำความรู้จักกันครั้งแรกมันเลยไม่แปลกที่คยองซูจะพยายามคุยด้วยเพียงเพราะคิดว่าจงอินคือคนคนนั้น แต่มันเป็นเพียงแค่แค่ความคิดของลู่หานก็เท่านั้น
“พี่รีบไปไหนอ่ะ?”
“ยุ่งไรด้วย”
“คือถามดีๆ ครับ เออ! ละวันนี้อ่ะจะกลับด้วยกันป่ะ?”
“ไม่!”
ไม่ต้องคิดนานเลยกับคำถามของร่างสูงปากกระจับสวยก็รีบตอบออกไปอย่างไม่ลังเล
“อื้ม~ ก็ดี”
“คยองซูเร็วๆ ดิ!”
“อ่า...จงอินงั้นไว้ค่อยคุยกันนะพี่ไปละ”
“ครับ”
เสียงของเพื่อนรักบอกกับเด็กที่ชื่อจงอินก่อนจะส่งสายตาดุๆ มาทางเขาแต่มีเหรอที่ลู่หานจะสนใจ ตอนนี้ร่างบางได้เดินไปคว้าข้อมือบางของเพื่อนตัวเล็กเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะออกแรงดึงเพื่อที่จะรีบไปให้พ้นจากรัศมีของโอ เซฮุนตามที่ใจคิดไว้ ยังไงแล้วก็จะไม่มีครั้งที่สองเสี่ยว ลู่หานคนนี้ขอสาบานได้เลย
“มึงรู้จักพี่คยองซูป่ะ”
“ไม่อ่ะ เพิ่งเคยคุยด้วยเมื่อกี้เอง”
“เหรอ”
“มึงสนใจพี่เขารึไง?”
“ไม่รู้ดิ ใช่มั้ง”
“พี่เขาก็น่ารักดี”
“มากๆ เลยต่างหาก”
หลังจากที่ลู่หานและคยองซูเดินหายเข้าไปในกลุ่มของนักเรียนที่เบียดกันอยู่ในโรงอาหารเพื่อเอาจานไปเก็บคิม จงอินก็เอ่ยถามถึงรุ่นพี่ตัวเล็กที่เมื่อกี้ได้นั่งข้างกายตัวเองทันที มันไม่ใช่การเจอกันครั้งแรกของเขาและร่างบาง แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนว่าคนตัวเล็กของเขาจะจำตัวเองได้ และถึงแม้ว่าทั้งคู่จะยังเป็นคนแปลกหน้ากันเมื่อก่อนแต่ทว่าตอนนี้เขาและรุ่นพี่คนนั้นก็รู้จักชื่อซึ่งกันและกันแล้วละ พี่คยองซูนี่น่ารักจริงๆ
❥
“เออกลับดีๆ ละ”
เสียงใสเอ่ยลาเพื่อนรักก่อนที่ตัวเองจะเดินกลับเขาไปในโรงเรียนอีกครั้งเพื่อออกทางประตูหลังเนื่องจากคอนโดของเซฮุนนั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนักมันจึงไม่จำเป็นเลยเลยที่ลู่หานจะต้องพึ่งรถประจำทางแบบเมื่อก่อนเวลาเดินทางไปไหน
พลั่ก!
อั่ก!
“เก่งนักใช่มั้ยมึง”
ทว่าในขณะที่กำลังยัดหูฟังข้างหนึ่งเข้าไปในหูเสียงไม่พึงประสงค์ก็ดังเข้ามาแทรกซะก่อน และมันก็ดังอยู่นานพอที่จะทำให้ลู่หานรู้สึกตงิดใจ เสียงมันคล้ายกับว่าคนกำลังมีเรื่องกัน
“พวกมึงแม่งก็ทำได้แค่นี้แหละ!”
“แค่นี้? งั้นสำหรับมึงกูคงต้องจัดชุดใหญ่สินะ เห้ย! รุมแม่ง!!”
พลั่ก!
แต่แล้วเมื่อฟังดีๆ เสียงของคนที่เหมือนกำลังจะเสียเปรียบเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูคุ้นหูสำหรับลู่หานมากเสียจนอดที่จะลังเลไม่ได้แต่แค่นึกไม่ออกก็เท่านั้น เขากลัวว่าจะเป็นคนรู้จักและถึงไม่ใช่ยังไงเขาก็ต้องเข้าไปช่วยอยู่ดี ในสถานการณ์ที่เขาไม่เคยจะพบเจอเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับลู่หานมาก เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงจะเข้าไปห้ามเฉยๆ อย่างงั้นเหรอ? แล้วพวกนั้นจะฟังเขารึไง หรือจะเดินไปบอกให้คนอื่นช่วย? แล้วถ้ากลับมาแล้วคนที่กำลังโดนทำร้ายโดนรุมจนตายไปแล้วละ เขาไม่บาปเหรอ? ตอนนี้ในหัวมีแต่ความคิดที่ตีกันยุ่งเหยิงไปหมดแต่แล้วในเมื่อคิดได้ว่าถ้ายังยืนเฉยๆ อยู่แบบนี้ยังไงคนที่กำลังโดนรุมก็ไม่มีทางรอดออกมาหรอกจากสถานการณ์แล้ว ความกดดันและความกลัวทำให้ลู่หานพูดในสิ่งที่ตัวเองได้ยินจากละครหลังข่าวบ่อยๆ ออกไป แม้ในใจจะกลัวที่อาจจะถูกจับได้แต่เมื่อเทียบกับชีวิตของคนคนนึงแล้วลู่หานกลับเลือกที่จะทำมันอย่างไม่ลังเล
“ตำรวจฮะ! ตรงนี้มีคนชกต่อยกัน! ตำรวจจจจ!”
ร่างบางหลับตาปี๋พร้อมกับที่เปล่งเสียงตะโกนออกไปสุดเสียง ในใจก็ภาวนาขอให้คนพวกนั้นเชื่อและรีบหนีไป และเหมือนจะได้ผลหลังจากที่ลู่หานลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่งและมองไปรอบๆ แล้วตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่เขากับเด็กผู้ชายตัวสูงที่กำลังนอนกุมท้องอยู่ที่พื้นก็เท่านั้นและถึงแม้ว่ามองจากตรงนี้จะไม่ค่อยเห็นหน้าชัดเจนเท่าไหร่นักแต่เค้าก็หมั่นใจว่าเป็นคนที่เขาเกือบจะตีกันเมื่อตอนกลางวันอย่างแน่นอน...
“โอ เซฮุน!!!”
- Shadow ❥ -
หลังจากแยกกับลู่หานที่หน้าโรงเรียนแล้วโด คยองซูก็เดินมุ่งหน้าไปยังที่เรียนพิเศษซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานนัก ที่เขาเลือกจะเรียนพิเศษตอนเย็นมากกว่าการกลับบ้านอย่างที่เด็กคนอื่นชอบกันนั้นก็เพราะว่าพ่อกับแม่ของคยองซูมักจะกลับบ้านดึกและนั่นทำให้เจ้าตัวเบื่อที่จะต้องอยู่บ้านคนเดียว เขาอยากอยู่ในที่ที่คนเยอะๆ แม้ว่าบางทีคนพวกนั้นจะทำให้เขารำคาญไปบ้างแต่เมื่อเทียบกับการต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวแล้วยังไงซะคนพลุกพล่านมันก็ดีกว่าเป็นไหนๆ ใช่มั้ยละ?
“พี่คยองซู”
ทว่าในขณะที่กำลังจะข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามของโรงเรียนอยู่ๆ เสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นพร้อมกับที่คนตัวเล็กซึ่งกำลังยัดหูฟังข้างหนึ่งเข้าไปในหูค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง เด็กผู้ชายในชุดนักเรียนที่เค้าเพิ่งเจอเมื่อตอนกลางวันกำลังวิ่งมาทางเขาในขณะที่เขาก็ได้แต่ส่งยิ้มไปให้
“อ้าวจงอิน จะกลับบ้านเหรอ?”
“เปล่าฮะ ไปเรียนพิเศษพี่อ่ะ?”
“กำลังจะไปเรียนพิเศษเหมือนกันนะ ไปด้วยกันมั้ย?”
“ได้เหรอ?”
“อื้อ~”
ระยะทางจากหน้าโรงเรียนไปยังที่เรียนพิเศษของทั้งสองคนแม้จะไม่ได้ไกลนักแต่ทำไมคยองซูถึงรู้สึกว่าเวลามันเดินช้าอย่างนี้นะ อาจจะเป็นเพราะมีแต่เขาที่คอยชวนจงอินคุยตลอดทางที่เดินมาและเด็กนี่ที่ทำหน้าเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลาก็ให้ความร่วมมือกับเขาบ้างในบางครั้ง เขารู้ว่าจงอินไม่ใช่คนที่พูดเก่งอะไรมากนักเมื่อเทียบกับตัวเองแล้วแต่ในเมื่อเรายังไม่ค่อยสนิทกันเลยไม่ใช่เหรอ? เขาก็แค่อยากทำลายความอึดอัดที่มันจะโปรยตัวลงมาหลังจากเกิดความเงียบขึ้นก็เท่านั้น
“พี่เรียนที่นี่เหรอ”
“อื้อ~ ทำไมเหรอ”
“บังเอิญจังผมก็เรียนที่นี่เหมือนกัน”
หลังจากที่รู้ว่าจงอินก็เรียนพิเศษที่เดียวกับตัวเองคยองซูก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เขาไม่เคยเจอรุ่นน้องคนนี้ที่เรียนพิเศษเลยอาจจะเป็นเพราะระดับชั้นที่ต่างกันแต่มันก็ดีตรงที่ต่อไปเขากับรุ่นน้องข้างกายคนนี้อาจจะได้มาเรียนพร้อมกันทุกวันแทนที่จะเดินมาคนเดียวอย่างเมื่อวานก็ได้
“งั้นก็ดีเลยมาเรียนพร้อมกันมั้ยล่ะ พี่เดินมาคนเดียวเกือบทุกวันเลย”
“เอ่อ...ก็ได้ฮะ แต่เราเจอกันที่ตรงทางม้าลายเหมือนวันนี้ได้มั้ย”
“ได้ดิ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ”
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่ต้องมาเจอกันตรงทางม้าลายแบบวันนี้เท่าไหร่เพราะจากตรงนั้นกับหน้าโรงเรียนแล้วเขาคิดว่าถ้าเจอกันที่หน้าโรงเรียนมันจะสะดวกกว่าไม่ใช่เหรอ? แต่คยองซูก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดข้องอะไร ยังไงแล้วสำหรับเขาอะไรก็ได้
“เดี๋ยวฮะ”
“หืม?”
“พี่เลิกกี่โมง?”
“ทุ่มนึงนะทำไมเหรอ?”
“งั้นถ้าเลิกแล้วพี่รอผมอยู่ตรงนี้นะ”
“เห? มีอะไรรึเปล่า?”
“ไม่มีอะไรหรอกฮะผมแค่จะไปส่งที่บ้านนะ”
แล้วจงอินก็เดินไปหากลุ่มเพื่อนที่คาดว่าน่าจะเรียนพิเศษที่นี่ด้วยกันเพราะดูจากเครื่องแบบแล้วโดยไม่รอให้ คยองซูอนุญาตเลยในขณะที่คนตัวเล็กก็ยังยืนอยู่เดิม มองแผ่นหลังจงอินที่ตอนนี้เจ้าตัวหันไปคุยกับกลุ่มเพื่อนซึ่งเขาก็ไม่รู้จัก
“อ่า...นี่เราต้องกลับกับจงอินเหรอ?”
.
.
.
“กลับบ้านดีๆ นะจงอิน”
“เธอก็ด้วยนะ”
“ค่าาาาา ~ อึนจีคนนี้จะเชื่อฟังพี่จงอินแบบไม่ขัดขืนเลย”
“รีบไปเลยไป”
“ชิ! กล้าไล่กันเลยเหรอย่ะ”
“ล้อเล่นหรอกน่า”
หลังจากที่คยองซูเลิกเรียนเสร็จเรียบร้อยเขาก็มานั่งคอยจงอินตามที่เจ้าตัวได้บอกไว้ ไม่นานนักรุ่นน้องที่เพิ่งแยกกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วก็เดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งและกลุ่มเพื่อนผู้ชายอีกไม่กี่คน จงอินใช้เวลาคุยกับเพื่อนอีกนิดหน่อยก่อนจะเดินมาทางเขาซึ่งนั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว
“ครูเลิกก่อนเวลาเหรอ?”
“อื้อ~ เลิกก่อนไม่กี่นาทีหรอกแล้วนี่จะไปไหนต่อรึเปล่า”
“ไม่อ่ะเดี๋ยวไปส่งพี่ละก็กลับบ้าน”
“บ้านนายอยู่ที่ไหน?”
“ชองดัม”
“งั้นไม่เป็นไรบ้านพี่อยู่ฮักดองคนละเส้นทางกับบ้านจงอินเลย”
“เหรอฮะ? แต่ผมอยากไปส่งน่ะ”
ไม่รอให้คนตัวเล็กได้อนุญาตจงอินก็ยื่นมือไปคว้าข้อมือเล็กก่อนจะออกแรงดึงเพื่อให้คยองซูยอมเดินไปยังสถานีรถไฟด้วยกัน คยองซูที่ยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่ก็ค่อยๆ ดึงมือตัวเองออกจากฝ่ามือหนาแต่จงอินก็ยังคงกอบกุมข้อมือเล็กนั้นไว้อยู่ดีและไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเลย
“เอ่อ...พี่เดินเองได้”
“แต่พี่เดินช้า”
สุดท้ายคยองซูก็ปล่อยให้จงอินจับมือไปอย่างนั้นตลอดทางตั้งแต่ที่เรียนพิเศษ จนถึงสถานีรถไฟรุ่นน้องข้างกายถึงยอมปล่อยมือจากเขาในที่สุด ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานทั้งสองคนก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของคยองซูเป็นที่เรียบร้อย คนตัวเล็กค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาหลังจากที่มัวแต่ก้มหน้างุดเพราะทันทีที่ออกจากสถานีรถไฟจงอินก็คว้าข้อมือของเขาไปจับต่อทันทีโดยให้เหตุผลว่า ‘เดี๋ยวจะหลงกัน’ ซึ่งคยองซูก็ไม่ค่อยเข้าใจนักเลยเอาแต่ก้มหน้าอยู่แบบนี้มาตลอดทาง
“แล้วเจอกันฮะ”
“เอ่อ...กลับบ้านดีๆ นะ”
“พี่ก็เข้าบ้านได้แล้วนะ”
“อื้อ~”
รอจนจงอินเดินลับสายตาไปแล้วคยองซูจึงค่อยเดินเข้าไปในบ้านแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลียวหลังกลับไปมองยังทางที่ทั้งคู่เดินมา ... ถ้าเป็นเมื่อก่อนแล้วเขาคงจะต้องรีบวิ่งกลับบ้านเพราะกลัวความมืดอย่างแน่นอนแต่เพราะเมื่อกี้มีจงอินคยองซูเลยไม่จำเป็นวิ่งแล้วละ J
- Shadow ❥ -
“โอ๊ย! พี่เบาๆ ดิ!”
“ก็ใครใช้ให้นายไปมีเรื่องกับคนพวกนั้นเล่า!!”
“ก็มันมาหาเรื่องอ่ะจะให้อยู่เฉยๆ รึไง!”
“ละวิ่งเป็นมั้ยหา!!”
เซฮุนก็แค่เด็กโง่...นอกจากจะนิสัยไม่ดีแล้วยังโง่ โง่มากๆ! มีอย่างที่ไหนถึงกล้าไปสู้กับคนพวกนั้นที่มีเกือบสิบคนนะ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าไม่ใช่ตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนั้น คนตรงหน้าตอนนี้จะมีสภาพยังไง จะกลับมายังคอนโดด้วยสภาพแบบไหน ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้ลู่หานไม่ชอบ เขาไม่เคยยุ่งกับเรื่องพวกนี้ ในความคิดของรุ่นพี่ที่มีความคิดโตๆ กันแล้วมันไม่ดูไร้สาระไปหน่อยเหรอ? และถึงแม้จะคิดแบบนี้แต่ทำไมคนคนนั้น คนที่มีเรื่องกับเซฮุนและอยู่รุ่นเดียวกับเขาถึงคิดกันไม่ได้ละ? เสี่ยว ลู่หานคนนี้ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ให้ตาย
“วิ่งก็เสียฟอร์มดิ อีกอย่างพวกมันก็…”
“ก็อะไร?!”
“ก็พวกมันกร่างอ่ะ…โอ๊ย!!!”
“ฮึ่ย! น่าหมั่นไส้!”
“ตัวก็เล็กแค่นี้แต่มือนี่หนักเป็นบ้า!”
“อยากทำเองนักใช่มั้ยโอ เซฮุน!!”
“โอเคๆ เงียบก็ได้ว่ะ”
.
.
.
.
.
“นี่นายลงไปนั่งข้างล่างได้ป่ะทำไม่ค่อยถนัดเลยอ่ะ”
“ก็ได้ครับ”
“ขยับมาหน่อยดิแขนฉันไม่ได้ยาวนะ”
“เตี้ยละยังแขนสั้นอีก”
“โอ เซฮุน!!”
“ก็เรื่องจริงอ่ะ”
เพราะเสียงบ่นมุบมิบไม่ได้ศัพท์ของเซฮุนทำให้ลู่หานอดไม่ได้ที่จะนึกหมั่นไส้และเผลอกดซับมุมปากของรุ่นน้องตรงหน้าที่กำลังจ้องมองเขาอย่างยียวนเต็มแรง และเหมือนว่าเซฮุนจะรู้ทันเลยรีบคว้าข้อมือบางนั่นอย่างแรงจนทำให้ร่างของลู่หานเซถลาลงไปนั่งแมะบนตักของเซฮุนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทว่าเหมือนรุ่นน้องตรงหน้าจะชอบใจที่ทำให้ลู่หานเกิดอาการตาค้างได้ ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้กับใบหน้าน่ารักที่บัดนี้เกิดริ้วแดงบริเวณแก้มจนคนที่กำลังมองอยู่ถึงกับหายใจสะดุดในความน่ารักนั่น...
“ตัวก็ไม่ได้หนักจริงๆ ด้วยแฮะ J”
“ย๊าส์!!!!! ไอเด็กบ้าทำเองเลยไป!!!!”
เพราะความเขินอายหรืออะไรก็ตามแต่บอกให้ลู่หานรีบเดินหนีเข้าห้องของตัวเองไป ปากยังคงเงียบสนิทไม่คิดที่จะพูดอะไรออกไปถ้าเกิดรุ่นน้องที่ลู่หานคิดว่าบัดนี้ช่างน่าประเคนบาทาใส่ยิ่งนักไม่เอ่ยประโยคที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหลังจากได้ยินมันถึงต้องเกิดอาการหน้าเห่อร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น
“พี่หน้าแดงอ่ะ”
“โอ เซฮุน!!!”
- Shadow ❥ -
♡ Talk
มาต่อให้ครบแล้วฮั่บแต่ก็เหมือนว่ามันยังสั้นๆ อยู่ฮ่าๆๆๆ ><
แต่ตอนหน้าจะไม่ลงแบบนี้แล้วถ้าแต่งไม่เสร็จจะลงทีละ 50 % แต่ถ้าเสร็จก็จะลง 100 % ทีเดียวเลย
อีกอย่างตอนนี้อยู่ในช่วงสอบเช้าเลยแวบมาแต่งบ้างยังไงก็อย่าลืมติดตามน้า เม้นกันหน่อยจิ
ไม่ค่อยมีเม้นเลยเนี้ยแอบเข้ามาดูเกือบทุกวันเลย ฮึก~ตอนหน้าจะได้รู้แล้วว่าใครที่มาหาเรื่องเซฮุน
คือมันมีอดีตแหละตัวละครจะทยอยออกมา ยังไงก็ติดตามกันด้วยน้า ^^
Shalunla ~
ความคิดเห็น