ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #54 : หวาน [1] ..........................100%

    • อัปเดตล่าสุด 9 ม.ค. 52





                        'รักคนโทรมาจังเลย  อยากเอ่ยให้ฟังทุกวัน ณ เวลานี้เมื่อวานได้เอ่ยคำนี้  รักคนโทรมาจังเลย  ฝากใส่กลอนหัวใจให้ดี  ไม่นานจะพาทั้งชีวิตนี้กลับไปดูแล'   เสียงรอสายคลอดังอยู่ตลอดก่อนที่ปลายสายจะตอบรับกลับมาเสียงหวาน


                        (ยอโบเซโยโลมาน้อย ^ ^)


                        "คิดถึงโบอาของโลมาน้อยจังเลยอ่ะ..."   พออีกฝ่ายรับสายจุนซูก็กรอกเสียงอ้อนๆ ใส่เครื่องมือสื่อสารทันที


                        (เค้าก็คิดถึง...แล้ววันนี้โลมาน้อยว่างเหรอ)   เสียงหวานถามกลับอย่างออดอ้อนไม่แพ้กัน


                        "อืม...แล้วช่วงนี้โบอาว่างอ่ะเปล่า"   เอ่ยถามพลางนอนตีขาเล่นอยู่บนเตียงของตัวเอง


                        (ก็ไม่ค่อยว่างเท่าไรอ่ะ  ต้องโปรโมทเพลงใหม่นี่นา)


                        "...หมู่นี้เราสองคนไม่ค่อยได้ไปเดทเลยนะ...โลมาน้อยอยากเจอหน้าโบอาอยากกอดให้แน่นๆ เลย"   แล้วจุนซูก็พลิกตัวมานอนมองเพดานห้องแทนพลางทำเสียงน้อยใจไปด้วย


                        (เค้าก็อยากเจอ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวโบอาขอคุณผู้จัดการให้เคลียร์วันว่างให้กับโบอาสักวันสองวันดีไหม  เราจะได้ไปเดทกันไง ^ ^ )


                        "ดีเลย! โลมามีที่ที่อยากพาโบอาไปด้วยล่ะ"   เสียงบอกฟังดูกระตือรือล้นอย่างมาก


                        (ที่ไหนเหรอโลมาน้อย)   เสียงที่ตอบกลับมาฟังดูตื่นเต้นตามไปด้วย


                        "ความลับ...เอาไว้เราได้ไปเดทด้วยกันโบอาก็จะได้รู้เองแหละ"   จุนซูพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง


                        (โลมาน้อยอ่ะ...บอกเค้าก่อนไม่ได้เหรอ)   โบอาทำเสียงอ้อนกลับด้วยความอยากรู้


                        "ไม่ได้ๆ ...ถ้ารู้ก่อนก้ไม่เซอร์ไพส์น่ะสิ"   โลมายังคงยืนยันคำเดิม  แต่ก็แอบใจแกว่งไปตามเสียงอ้อนอยู่บ้างเหมือนกัน


                        (ก็ได้...)   โบอารับคำเสียงอ่อนลงด้วยความเสียดายนิดๆ


                        (ถ้าอย่างนั้นโบอาจะตั้งตารอนะ ^ ^)


                        "ครับ...งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ"   จุนซูพูดบอกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มข้นเล็กน้อย  ก่อนจะวางสายด้วยท่าทางมีความสุข


















                       
    ผืนน้ำสีบลูแซฟไฟร์ไหลระลอกตามแรงลมที่พัดเข้าหาหาดทรายขาวละเอียด  เยื้องขึ้นไปด้านบนผืนทรายเกิดการเดินย่ำขวักไขว่ไปมา  เพื่อจัดเตรียมสถานที่ไว้ให้อยู่ในสภาพที่พรั่งพร้อมสำหรับงานพิธีสำคัญ  ดอกไม้สีขาวบานสะพรั่งถูกจัดเป็นพุ่มตามโครงสร้างของซุ้มประตู


                        "ฮ้า~! อากาศดีจังเลย..."   ชายหนุ่มร่างโปร่งยืนชมวิวอยู่ตรงริมทะเลด้วยท่าทางแสนสบายก่อนจะโดนมือเรียวฟาดเปรี้ยงเข้าให้จากด้านหลัง


                        "แอบอู้อีกแล้ว...พี่ทึกกี้"   คยูฮยอนพูดว่าด้วยใบหน้ามู่มุ่ยแล้วก็ต้องลากหัวหน้าวงเอสเจให้กลับเข้าไปช่วยกันทำงานเป็นรอบที่ 10 ได้




                       
    เบื้องหลังซุ้มประตูดอกไม้ชางมิน  แจจุง  ฮันกยอง  และสามสหายฟิวชันกำลังช่วยกันจัดตกแต่งเวทีสีขาวล้วนที่ถูกยกพื้นขึ้นมาจากดินเพียงเล็กน้อย  ฉากหลังของเวทีกำลังเติมเต็มไปด้วยไม้เลื้อยที่ล้อมโครงเหล็กเอาไว้และถูกแซมด้วยดอกไม้ที่งกลิ่นกรุ่นหอมแตะปลายจมูกบางๆ  สร้างความน่าอภิรมณ์ขึ้นมาอีก


                        "เอาน้ำเย็นๆ มาเสิร์ฟแล้วจ้า! "   ยุนโฮเอ่ยบอกเสียงหวานพร้อมกับถือถาดใส่แก้วน้ำมาให้เหล่าหนุ่มๆ ที่กำลังเร่งรีบกันตระเตรียมสถานที่โดยมีเยซองช่วยเสิร์ฟด้วยอีกคน


                        "ขอบใจนะ"   ซีวอนเอ่ยบอกขณะหยิบแก้วน้ำจากถาดของเยซอง


                        "เหนื่อยหรือเปล่า"   เยซองเอ่ยถามพลางใช้ปลายแขนเสื้อที่ยอมกอมมือตัวเองยกขึ้นซวับเหงื่อให้กับซีวอนแทนผ้าเช็ดหน้า  ซีวอนยิ้มบางก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อยแทนคำตอบ




                       
    "พี่เหนื่อยจังเลยอ่ะ...คยูน้อย"   พอเห็นการกระทำของคู่เยซองกับซีวอนฝ่ายหัวหน้าวงเอสเจก็หันไปอ้อนคู่ของตัวเองบ้าง


                        "แล้วไง...ผมก็เหนื่อยเหมือนกันแหละ"   คยูฮยอนพูดตอบเสียงเรียบจากนั้นก็เดินหนีไปอีกทาง




                       
    "เฮ้อ..."   ฮันกยองถอนหายใจออกมาเล็กน้อยที่เห็นใครๆ ต่างก็มีคู่กันทั้งนั้น  ก่อนจะลงมือตอกพื้นเวทีที่ยังไม่หนาแน่นพอ


                        "พักก่อนดีกว่าไหม..."   คังอินเอ่ยบอกขณะเดินเข้ามาพร้อมแก้วน้ำส่งให้อีกฝ่ายด้วยท่าทางเป็นห่วง


                        "ไม่เป็นไรหรอก  ฉันยังไม่เหนื่อยน่ะ"   ว่าพลางรับน้ำมาจากคังอินแล้วกระดกดื่มในทันที  ก่อนจะยื่นแก้วส่งคืนกลับไปให้


                        "ขอบใจนะ ^ ^  "


                        "อืม..."   รับแก้วน้ำมาถือไว้พร้อมกับยิ้มตอบรับ




                       
    "ยุนจ๋า~  แจเนื้อยเหนื่อยจังเลยอ่ะ"   แจจุงพยายามเรียกร้องความสนใจจากหมีน้อยที่ง่วนอยู่กับการเสิร์ฟน้ำให้กับเหล่าผองเพื่อนคนอื่นๆ


                        "ถ้างั้นแจก็นั่งพักไปก่อนสิ"   หมีน้อยตอบกลับแบบไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนัก


                        "อ๋า~  ใจร้าย..."   แจจุงทำสีหน้าหงอยลงในทันที


                        "เอ้า! กรณีพิเศษ"   กระป๋องน้ำอัดลมถูกทาบกับแก้มของชายหนุ่มด้วยฝีมือของยุนโฮ  พอแจจุงรับมาเจ้าตัวก็รีบเดินหนีไปทางอื่นในทันทีไม่ยอมให้อีกคนได้ทันเห็นหน้าที่กำลังขึ้นสีเรื่อของตัวเอง  แต่แค่นี้ก็ทำเอาชายหนุ่มฉีกยิ้มหน้าบานจนเหมือนกับคนบ้าจะแย่อยู่แล้ว




                       
    "ชองเหนื่อยป่ะ..."   ดงฮีเอ่ยถามก่อนจะเสิร์ฟน้ำให้คนตรงหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มน่ารัก


                        "แค่เห็นหน้าด๊งชองก็หายเหนื่อยแล้ว ^ ^ "   คนที่รับน้ำมาดื่มฉีกยิ้มเห็นฟันขาว




                       
    "...มิน...แล้วมิคกี้อยู่ไหนล่ะเนี่ย"   ทึกกี้ถามร่างสูงเมื่อตามง้อคยูน้อยไม่สำเร็จก็เริ่มหาพวก


                        "ผมไม่ได้เฝ้าเอาไว้ก็เลยไม่รู้ว่าอยู่ไหนน่ะครับ"   เอ่ยตอบกลับน้ำเสียงสุภาพจริงจัง


                        "...ไม่ได้เฝ้าหรือโดนเขาทิ้งกันแน่...คังอินเพิ่งบอกฉันมาว่าเห็นมิคกี้เดินหายไปกับพวกสาวๆ ล่ะ"   ทึกกี้เอ่ยบอกด้วยท่าทางระรื่น


                        "เหรอครับ..."   ชางมินเอ่ยขึ้นหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ


                        "โห...ไม่มีปฏิกิริยาเลยแฮะ..."   ทึกกี้มองดูชางมินอย่างนับถือในความใจกว้างของอีกฝ่าย


                        "ถ้าว่างนักก็ขนนี่ไปให้พวกที่จัดดอกไม้ซะ"    ฮีชอลว่าพลางวางช่อดอกไม้ที่ถูกห่อด้วยหนังสือพิมพ์ลงบนมือทึกกี้จอมอู้


                        "ง่ะ! ไรว้า..."   ทึกกี้รับห่อมาด้วยคามไม่เต็มใจก่อนจะเดินต้วมเตี้ยไปยังกลุ่มจัดดอกไม้




                       
    "แล้วพี่ฮีชอลล่ะเฮียทึก"   คิบอมถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนมาส่งดอกไม้กลายเป็นทึกกี้


                        "อยู่กะชางมินโน่นไง"   ทึกกี้วางห่อดอกไม้ลงพลางพยักเพยิดหน้าไปทางที่ฮีชอลยืนอยู่  คิบอมพยักหน้าเข้าใจพลางแกะห่อดอกไม้ออกแบ่งให้กับฮยอคแจ




                       
    "...มิน..."   ยูชอนที่หายตัวไปนานเดินตรงรี่มาหาร่างสูงด้วยท่าทางมีความสุข


                        "ไปไหนมาเหรอครับ"   เอ่ยถามทักพลางมองหน้าอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ


                        "ไปหานี่มาให้ ^ ^  "   ร่างบางยื่นมะพร้าวน้ำหอมสดๆ จากต้นพร้อมดื่มไปตรงหน้าชางมิน


                        "ไปเอามาจากไหนกันครับเนี่ย"   พอเห็นส่งที่ยูชอนเอามาให้ตัวเองก็อดสงสัยไม่ได้


                        "ขอพวกสาวๆ แถวนี้มาน่ะ"   ตอบตามความจริงพลางจ้องมองร่างสูงตาแป๋ว


                        "ขอบคุณนะครับ  แต่ทีหลังไม่ต้องลำบากไปเอามาให้ก็ได้"   เอ่ยบอกพร้อมกับยิ้มบาง  ก่อนจะเริ่มชิมรสชาติน้ำมะพร้าว


                        "ไม่ลำบากหรอก...ถ้าเพื่อคนที่รักล่ะก็นะ"   ยูชอนเอ่ยตอบพลางยิ้มหวาน




                       
    "โอ๊ย! มดกัดๆ คันยิกๆ เลยเนี่ยดูสิ"   ดองแฮเอ่ยขัดบรรยากาศที่เขากำลังสวัทกันได้ที่


                        "อ้าว! แล้วมดมันมาจากไหนล่ะ"   เรียววุคถามกลับสีหน้าใคร่รู้


                        "ก็แถวนี้แหละ  น้ำตาลเกลื่อนดีชะมัด"   บอกพลางปรายสายตาไปยังคู่รักหลายคู่


                        "อิจฉาโว้ย!!"   ว่าแล้วดองแฮก็โวยวายขึ้นมาทันที


                        "ถ้าอิจฉานัก  พวกนายสองคนก็คบกันไปซะเลยสิ"   แจจุงเลยเสนอความคิดด้วยสายตาชั่วร้าย


                        "อี๋ย์! ไม่อาวหรอก"   เจ้าฟิวชั่นทั้งสองทำท่าขนลุกตามๆ กัน  พลางส่ายหัวไปมาอย่างรวดเร็ว


                        "หรือไม่ก็สละแฟนพี่แจจุงให้สองฟิวก็ได้นะ"   คยูฮยอนเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้  ทำให้คู่หูฟิวชั่นทำตาวิ้งๆ ใส่แจจุงเหมือนลูกสุนัขขออาหาร


                        "ถ้าอย่างนั้นก็ยกเฮียทึกให้เจ้าสองตัวนี่ท่าจะดีกว่านะ"   แจจุงตอบกลับหน้าตาย


                        "ก็ดีเหมือนกัน...ว่าไงสนใจไหมทั้งสองคน ^ ^  "   คยูน้อยหันมาบอกด้วยท่าทางสนุกสนาน


                        "เหวอ! ไม่เอาด้วยหรอก  นายเก็บไว้คนเดียวเหอะคยูฮยอน"  ดองแฮและเรียววุคร้องบอกพร้อมกันด้วยท่าทางขนลุกซู่สุดๆ


                        "สองฟิวเค้าไม่เอาอ่ะ...งั้นก็คงต้องเป็นพี่ยุนตามเดิมสินะ"   คยูฮยอนเอียงคอพร้อมกับใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากอย่างใช้ความคิด


                        "ไม่มีทางซะล่ะ! ถ้างั้นนายก็ไปเป็นแฟนไอ้สองฟิวนี่เองซะเลยสิ"   แจจุงบอกพร้อมกับล็อคคอคยูน้อยแล้วยีผมเล่นอย่างหมั่นไส้


                        "อ๊า!! ปล่อยผมนะ"   คยูน้อยบดิ้นไปมาในทันทีเพื่อให้ตัวเองหลุดรอดจากเงื้อมมืออีกฝ่าย


                        "แล้วใครใช้ให้นายมากวนประสาทฉันเล่า! "   แจจุงยังคงไม่เลิกแกล้งร่างบางง่ายๆ




                       
    "...ยุนโฮ...ดูโน่นดิ..."   มือของมนุษย์ต่างดาวแตะสะกิดหมีน้อยก่อนจะพูดบอกเสียงเบา


                        "หืม?"   ยุนโฮมองหน้าทึกกี้อย่างงงๆ  หัวหน้าวงเอสเจไม่ได้พูดอะไรต่อพลางหันมองดูไปทางแจจุงกับคยูฮยอนนิ่ง  หมีน้อยก็เลยหันไปมองตาม  ก่อนจะทำหน้ามู่ลงมาอย่างเห็นได้ชัด


                        "พี่ทึกกี้..."   หมีน้อยเอ่ยเรียกเสียงเบาอย่างมีแผน


                        "...มีอะไรเหรอ"   ทึกกี้ตอบรับโดยไม่ได้หันมามองหน้าหมีน้อย


                        "ไปแกล้งคนกัน"   ว่าแล้วก็เข้าไปควงแขนทึกกี้ในทันทีพลางออกแรงลากชายหนุ่มให้เดินตาม









                        "พี่แจจุง...เลิกแกล้งผมซะทีได้ไหม"   คยูฮยอนพยายามดิ้นรนต่อไปไม่หยุด


                        "นั่นสิ...มัวแต่แกล้งคนอื่นเขาอยู่ได้ไม่รู้จักทำการทำงาน"   แจจุงหันไปมองทางต้นเสียงก็เห็นหมีน้อยของตัวเองกำลังควงคู่มากับคนอื่นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน  ทั้งยังเบียดตัวเสียจนชิดทำให้คนมองรู้สึกหน้าชาขึ้นมาเหมือนกับมีอะไรมาตีเข้าที่แสกหน้า


                        "......................."   ส่วนคยูน้อยนั้นหยุดดิ้นและมองดูคนควงของยุนโฮตาปริบ



                       
    "สงสัยจะเกิดโศกนาฏกรรมแถวนี้ขึ้นแหงมเลย"   เรียวเอ่ยกระซิบกับดองแฮ


                        "นั่นดิ"   อีกคนพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย



                       
    "...เอ่อ...พี่ยุนโฮ...ผม..."   คยูน้อยรีบขยับตัวออกห่างจากแจจุงทันทีหลังจากเงียบไปนาน


                        "อะ...เอ่อ...ยุนโฮจัดดอกไม้เสร็จแล้วเหรอ..."   แจจุงเองก็รีบเอ่ยชวนอีกฝ่ายคุยอย่างรวดเร็ว  แต่ผลตอบรับกลับเป็นแค่รอยยิ้มหวานไร้คำพูดใดๆ


                        "...พี่ทึกกี้"   คยูฮยอนเองก็เอ่ยเรียกคนที่ยืนเงียบไม่ได้พูดอะไรเลยเสียงเบา  แต่ผลที่ได้กลับมาคือการเสมองไปทางอื่นของคนถูกทัก


                        "คือว่าพวกเราไม่ได้มีอะไรกันนะ"   แจจุงรีบแก้ตัวในทันใดเมื่อเห็นปฏิกริยาของหมีน้อยและมนุษย์ต่างดาว


                        "ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย...^=^  "   ว่าแล้วยุนโฮก็ทำเป็นเอนไปซบไหล่ของทึกกี้


                        "...ทำแบบนี้มันไม่ดีมั้ง..."   ทึกกี้กระซิบกระซาบกับหมีน้อยด้วยเกรงจะโดนแจจุงฆ่าตายในภายหลังได้


                        "...เถอะน่า...เนียนๆ  ไปก่อน..."   หมีน้อยยื่นหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆ อย่างจงใจ


                        "...แล้วถ้าเกิดแจจุงมันเข้ามาประทุษร้ายฉันจะทำไงล่ะ"   ทึกกี้กระซิบพูดบอกเสียงเบา


                        "ไม่หรอกน่า  ผมก็ยังอยู่ทั้งคน"   หมีน้อยเอ่ยบอกด้วยท่าทีว่าเชื่อถือตนได้


                        "............................."   คยูฮยอนมองดูการกระทำของทึกกี้กับยุนโฮที่กระซิบคุยกันได้สักพักก็เดินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว  โดยมีแจจุงเดินตามไปด้วยอีกคนด้วยสีหน้าที่นิ่งสุดๆ



                       
    "เอาแล้วไงล่ะ! จะเกิดเหตุนองเลือดขึ้นเปล่าเนี่ย"   ชองมินเปิดประเด็นขึ้นหลังจากซุ่มดูอยู่นาน


                        "ก็ไม่แน่นะ  แจจุงเองก็เริ่มเข้าโหมดนิ่งแล้วด้วยดิ"   เรียววุคเสริมด้วยท่าทางตื่นเต้นตาม


                        "ไม่ใช่ว่านิ่งเพราะมึนเหรอ"   ดองแฮแทรกต่อเรียกสีหน้าเซ็งจากเพื่อนทั้งสองในทันที


                        "แต่ว่าอาจจะมึนอย่างที่ด๊องบอกก็ได้นะ"   ดงฮียื่นหน้ายื่นตาเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน


                        "แต่ที่แน่ๆ เจ้ามนุษย์ต่างดาวกิ๊กก๊อกงานนี้ซวยแน่"   ฮีชอลกระหยิ่มยิ้มอย่างสนุกสนานกับความลำบากของหัวหน้าวงเอสเจ


                        "ทำไมพี่ฮีชอลคิดว่างั้นอ่ะ"   ยูชอนเอ่ยถามตาใสด้วยความข้องใจ


                        "ก็แค่คาดเดาเหตุการณ์เอาน่ะ"   ฮีชอลไหวไหล่เล็กน้อยแบบไม่ค่อยใส่ใจเท่าไร


                        "แล้วทำไมทุกคนถึงได้มายืนสุมหัวอู้งานกันอย่างนี้ล่ะ"   คังอินพูดถามพลางกอดอกแก้มป่องมองทุกคนอย่างคาดโทษ


                        "ก็มัวแต่เมาท์เรื่องคนอื่นอยู่น่ะสิ"   ฮยอคแจตอบแทนพลางมองค้อนไปทางฮีชอลด้วยท่าทางงอนๆ ที่เอาแต่อู้ไม่ช่วยงานตนเลย


                        "สงสัยคนซวยจะไม่ใช่พี่ทึกกี้คนเดียวซะแล้วมั้ง"   ยูชอนพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคักอย่างถูกอกถูกใจ  แต่คนฟังกลับตีสีหน้าแห้งแล้งเหมือนคนขาดน้ำขึ้นมาทันที  ก่อนจะเดินเข้าไปงอนงอ้นคนตัวบางแสนขี้งอน


                        "ผมว่าเราน่าจะรีบเร่งมือกันได้แล้วนะครับ  ก่อนที่จุนซูกับพี่โบอาจะมาถึง"   ชางมินกล่าวเร่งงานทุกคน


                        "ไม่ต้องรีบนักก็ได้...ทุกอย่างก็เกือบจะเรียบร้อยเข้าที่เข้าทางหมดแล้วล่ะ"   ซีวอนเอ่ยบอกอย่างเห็นดีเห็นงามไปกับการสุมหัวสนทนาของทุกคน


                        "นั่นสินะ...ฉันว่าตอนนี้ให้ทุกคนพักก่อนก็ดีนะ  โดยเฉพาะพี่ฮันกยองน่ะ"   เยซองกล่าวเสริมพลางมองไปทางชายหนุ่มสัญชาติจีนที่ดูออกจะตั้งอกตั้งใจทำงานกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ



                       
    "...ป๋า...พักเหนื่อยก่อนดีกว่านะ"   คังอินเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ ฮันกยองพร้อมกับบอกเตือนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย


                        "ไม่เป็นไรหรอก  ฉันยังไม่เหนื่อยเลย"   คำตอบดูเหมือนจะไม่ต่างจากตอนแรกที่คังอินเข้ามาถามไถ่เลย  เพียงแต่น้ำเสียงดูโรยแรงขึ้น   แล้วคังอินก็ทำหน้าขัดใจก่อนจะลุกหายไปแล้วกลับมาพร้อมถังใส่น้ำทะเลใบเล็กในมือ  จากนั้นก็เทราดใส่ฮันกยองหน้าตาเฉย  ทุกคนในละแวกนั้นถึงกับดูการกระทำของคังอินอย่างตกใจ


                        "...ทำอะไรของนายน่ะ...คังอิน"   ฮันกยองตามองด้วยอารมณ์ฉุนขึ้นมาเล็กน้อย


                        "ฉันไม่มีอารมณ์จะมาเล่นอะไรตอนนี้ด้วยหรอกนะ"


                        "อ่ะ..."   คนหน้าตายโยนผ้าขนหนูให้กับดงฮี  ก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงให้เดินมาหาฮันกยองด้วยกัน


                        "ฝากที่เหลือด้วยนะ"   พอพาดงฮีมายืนจุ้มปุ๊กตรงหน้าฮันกยองได้คังอินก็ผละออกมาเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


                        "เดี๋ยว!"   แต่ฮันกยองก็รีบตามไปคว้ามือคังอินเอาไว้ก่อนจะเดินหนีไปไกล


                        "นายทำแบบนี้หมายความว่าไง"


                        "...แล้วไม่ชอบหรือไงล่ะ"   เอ่ยถามกลับพ้อมทั้งตีหน้าตายนิ่ง


                        "ดงฮีเขามีชองมินอยู่แล้ว...จะมาสนใจอะไรฉัน"   ฮันกยองกล่าวขึ้นเสียงเรียบพลางจ้องดูคนหน้าไม่วางตา


                        "แล้วอีกอย่างนะ...ตอนนี้ฉันก็ทำใจได้แล้วด้วย"


                        "...งั้นขอโทษก็แล้วกัน...ที่วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง"   คังอินดึงมือกลับพร้อมเร่งฝีเท้าหนีไปหาที่นั่งทำใจเช่นกัน


                        "ไม่คิดจะถามหน่อยเหรอ ว่าฉันทำใจได้ยังไง"   แต่ฮันกยองไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปง่ายๆ รีบเดินจ้ำตามไปอย่างรวดเร็ว


                        "ไม่อยากรู้...แล้วก็รีบกลับไปให้ด๊งเช็ดตัวซะเลยนะเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก"   คังอินทำเป็นไม่สนใจแต่ก็อดห่วงอีกคนไม่ได้


                        "อืม....ถ้าไม่สบายขึ้นมาจริงๆก็ดีเหมือนกัน จะได้มีคนสนใจ"   เอ่ยบอกพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ คังอินพร้อมกับฉีกยิ้มเล็กน้อย


                        "...ขอเวลาอยู่คนเดียวสักพักได้ป่ะ"   คนที่นั่งอยู่ก่อนเหลือบมองรอยยิ้มของอีกฝ่ายแล้วก็ซุกหน้าลงกับเข่าตัวเอง


                        "ทำไมล่ะ...หรือว่าฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจอีก"   ฮันกยองเริ่มสีหน้าเจื่อนลงเมื่อถูกอีกฝ่ายหนีหน้า


                        "เปล่า...ไม่ใช่อย่างนั้น แค่ตอนนี้รู้สึกดีใจจนอยากจะร้องไห้เท่านั้นเอง"   คังอินบอกเสียงเบา


                        "ดีใจ? เรื่องอะไรเหรอ"  ชายหนุ่มเอ่ยถามสีหน้างงนิดๆ


                        "...คงเพราะมีคนยิ้มให้ล่ะมั้ง"   คนนั่งกอดเข่าพูดตอบน้ำเสียงแผ่วเบากว่าเก่า


                        "ปกติไม่เห็นจะสนใจ...แล้วทีอย่างนี้จะมาแกล้งใส่ใจไปทำไมกัน"


                        "นั่นสินะ กว่าจะรู้ตัวก็เกือบจะสูญเสียสิ่งสำคัญไปแล้ว..."   รอยยิ้มบางเบาจงใจมอบให้กับคนตรงหน้า


                        "...ไข้ขึ้นหรือเปล่าเนี่ย...ถึงได้พูดอะไรแปลกๆ ออกมาน่ะ"   มือที่ใช้เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ตั้งใจเปลี่ยนไปอังวัดไข้ให้กับฮันกยองด้วยความห่วงใย  มือเรียวกุมจับมืออีกฝ่ายเอาไว้พลางเลื่อนมาทาบวางที่ตรงหน้าอก


                        "ฉันรู้สึกว่าฉันคงจะชอบนายเข้าให้แล้วล่ะ...คังอิน"   คนฟังนิ่งมองชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะร้องไห้ในเวลาต่อมา


                        "พูด...พูดเล่นแบบนี้...ไม่สนุกด้วย...หรอกนะ..."


                        "นี่ฉันพูดจริงๆ นะ...จากใจเลย"   ชายหนุ่มตีสีหน้าจริงจังให้เห็น  ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้อย่างอ่อนโยน


                        "...ก็ไหนว่าไม่ชอบไม่ใช่เหรอ..."


                        "ฉันเคยพูดเหรอ"   ฮันกยองทำหน้านึกตามด้วยว่าจำไม่ได้จริงๆ


                        "ก็...ก็เวลาไปนั่งคุยด้วยก็ทำเป็นไม่สนใจนี่...เหมือนไม่อยากให้เข้าไปใกล้..."   คังอินเอ่ยบอกพลางเช็ดน้ำตาปอยๆ เหมือนเด็กเล็กๆ


                        "ใครบอกล่ะ  เขาเรียกว่าเรียกร้องความสนใจต่างหาก"   บอกพลางใช้ปลายนิ้วไล้เกลี่ยน้ำตาให้กับคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มบาง


                        "โกหก..."   แก้มป่องพองลมเล็กน้อยพร้อมกับมองอีกฝ่ายคล้ายกับไม่เชื่อในคำพูด  ฮันกยองจึงจัดการหอมแก้มพองไปที  ก่อนจะละออกมาทำหน้ายียวน


                        "ทีนี้เชื่อหรือยัง"   ว่าพลางยักคิ้วอีกเล็กน้อย


                        " O///O "   สีแดงระเรื่อกระจายจากจุดที่โดนหอมจนเต็มไปทั่วทั้งใบหน้าในเวลาอันรวดเร็ว




                       
    "โอว้แม่เจ้า! ฉากเด็ด"   ดองแฮโพล่งขึ้นพร้อมกับรัวกดชัตเตอร์เก็บภาพเด็ดที่ตนว่า


                        "มันเด็ดตรงไหนฟะเนี่ยด๊อง"   เรียววุคเอ่ยถามพลางเอาไม้จิ้มเขี่ยผืนทรายชื้นพร้อมกับมองดูคู่หูฟิวชั่นที่เอาแต่วิ่งไล่ถ่ายภาพปูเสฉวนที่กำลังเดินต้วมเตี้ยมๆ อย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างนั้นแหละ


                        "นายไม่รู้อะไร  ภาพธรรมชาติแบบนี้พระเจ้าท่านอุตส่าห์สรรค์สร้างขึ้นมาเชียวนะเฟ้ย"   เถียงค้านกลับมา  แต่ก็ยังไม่เลิกรัวชัตเตอร์เสียที  จนอีกคนส่ายหน้าอย่างปลงตก




                       
    "...ต่างคนต่างไปแบบนี้แล้วจะเหลือใครรอจัดงานให้จุนซูบ้างเนี่ย"   ยูชอนเอ่ยบ่นออกมาพลางทำหน้ามุ่ยเมื่อหลายคนหายไปอย่างไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา


                        "เราคงจะต้องทำกันเองรอไปก่อนแล้วล่ะครับ"   ชางมินเอ่ยบอกเสียงเรียบประเมิณสถานการณ์


                        "ผมว่าเดี๋ยวก็กลับมากันเองแหละ..."   ซีวอนพูดพร้อมกับหย่อนมงกุฏดอกไม้ลงบนหัวของยูชอนต่หน้าต่อตาชางมิน


                        "นายทำเองเหรอซีวอน"   แต่ชางมินก็ได้ว่าอะไรติดออกจะสนใจกับมงกุฏดอกไม้เสียมากกว่าด้วยซ้ำ


                        "เปล่า...ขอคิบอมกะฮยอคแจมาน่ะ"   ซีวอนตอบตามความจริง


                        "แล้วไม่เอาไปให้พี่เยซองเหรอ  เดี๋ยวรายนั้นก็งอนเอาหรอก"


                        "กำลังจะไปอยู่นี่ไง..."   พูดจบซีวอนก็ขอคืนมงกุฏดอกไม้มาจากยูชอนแล้วเดินไปหาเป้าหมายที่แท้จริงทันที


                        "...ว้า...นึกว่าให้เราซะอีก"   ยูชอนทำหน้าเสียดายอย่างมากเมื่อมงกุฏจากไปแล้ว


                        "อยากได้เหรอครับ"   ชางมินหันมองดูร่างบางพร้อมกับอมยิ้มนิดๆ


                        "ก็นิดหน่อยน่ะ"   รางบางตอบแบบปากไม่ตรงกับใจ  เพราะสายตาที่มองตามมงกุฏดอกไม้นั่นบ่งบอกว่าอยากได้อย่างมาก


                        "ถ้าอย่างนั้นก็ไปขอให้สองคนนั้นทำให้ก็ได้นี่ครับ"   ว่าแล้วก็จับมือร่างบางพาเดินไปยังคนที่พูดถึง


                        "ไม่ต้องหรอก...อายเขาอ่ะ"   ยูชอนพยายามยื้อตัวไว้  ใบหน้ากลมมีรอยสีแดงระเรื่อปรากฏอยู่เจือจาง


                        "แต่ผมว่ามันเหมาะกับพี่ดีออกนะ"   ชางมินบอกด้วยรอยยิ้มบาง


                        "ไม่เอาอ่ะ...ไม่เหมาะหรอก"   พูดจบรางบางก็ขยับเดินหนีมาในทิศทางตรงกันข้ามกับที่ฮยอคแจกับคิบอมอยู่


                        "ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ"   ชางมินเร่งฝีเท้าเดินตามมาในทันที


                        "...ก็ไม่รู้เหมือนกัน..."   ยูชอนลดความเร็วลงเมื่อปลายเท้าแตะสัมผัสเข้ากับน้ำทะเลใสที่ซัดเข้ามาหา


                        "อย่าคิดมากสิครับ...คนอื่นจะมองยังไงก็ช่าง  แต่สำหรับผม...พี่น่ะน่ารักที่สุดเลยรู้ตัวไหม"   ว่าพลางโอบเอวบางจากทางด้านหลังพร้อมกับเกยคางลงบนไหล่บาง


                        "...แต่ถ้ามีคนน่ารักกว่าฉัน...ดีกว่าฉัน...ชางมินจะยังเห็นว่าฉันน่ารักอยู่ไหม"   ร่างบางเอ่ยถารมพร้อมกับแตะมือลงบนวงแขนที่โอบกอดตัวเองไว้


                        "สำหรับผม...ไม่มีใครน่ารักได้เท่าพี่อีกแล้วล่ะ"   ไม่พูดเปล่ายังฝังจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มอีกต่างหาก


                        "...แล้วถ้าชางมินเกิดเบื่อฉันขึ้นมาล่ะ...มันไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักอย่าง..."   ยูชอนเอนซบร่างสูงด้วยท่าทางเงียบเหงาลงเล็กน้อย


                        "ถ้าผมจะเบื่อก็คงเบื่อไปตั้งแต่ตอนก่อนหน้านี้แล้ว"   ชายหนุ่มกระชับกอดแน่นอย่างหวงแหน


                        "...อย่าเบื่อฉันเลยนะ...ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้ถ้าไม่มีชางมินอยู่ด้วย"   ร่างบางหันมากอดตอบชายหนุ่มร่างสูงพร้อมทั้งเงยหน้ามองอีกฝ่าย


                        "...ฉันรักชางมิน...รักมากจริงๆ นะ"


                        "ผมไม่มีทางเบื่อพี่ได้หรอกครับ  เพราะผมก็รักพี่มากเหมือนกัน"   เรียวปากอิ่มจูบประทับลงบนหน้ามนด้วยความอ่อนละมุน




                       
    "น้ำทะเลตรงนั้นท่าจะหวานเป็นน้ำเชื่อมหมดแล้วมั้งเนี่ย"   ทึกกี้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกล้องส่องทางไกล


                        "มัวแต่ยุ่งเรื่องชาวบ้านระวังคนของตัวเองจะเสร็จคนอื่นไปซะล่ะ"   ฮีชอลบอกพลางเหล่มองไปทางคยูฮยอนที่ถูกขนาบข้างด้วยสองคู่หูฟิวชั่นด๊องเรียว


                        "แล้วเรื่องของนายล่ะฮีชอล...เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วเหรอ"   ทึกกี้หันมาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยียวนเล็กน้อย


                        "หึ...มือชั้นนี้แล้ว  ไก่น้อยไม่มีทางหลุดมือฉันไปง่ายๆ หรอกน่ะ"   ฮีชอลกระหยิ่มยิ้มด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มที่


                        "...ของฉันก็เหมือนกันแหละ"   ทึกกี้บอกพร้อมกับหันไปส่องกล้องต่อ



    *****************************************************


    แบบว่าก็อยากจะให้ยุนนี่แกล้งแจแรงๆ อยู่หรอกนะ  ติดตรงที่ว่าทึกไม่ยอมร่วมมือด้วย
    เนื่องจากแกบอกว่ากลัวแจจะมาฆาตกรรมกันทีหลังเลยไม่อยากเสี่ยง

    แล้วไปๆ มาๆ ดันลงล็อคมันซะทุกคู่เลยนะเนี่ย  มีแต่คู่แปลกทั้งนั้น +555
    ถ้าไม่แปลกก็ไม่ใช่เรื่องของไอ้ตุ่นกับไอ้ทากน่ะสิ (ยอมรับได้อย่างหน้าตาเฉยอีกต่างหาก - - )
    ทุกคนอาจจะแปลกใจว่าไหงคังถึงกลายเป็นเคะไปเสียแล้ว
    ก็เพราะไอ้ตุ่นกับไอ้ทากมันดันไปเจอนู๋คังตอนหวิ่งวิ๊งเข้าให้
    บวกกับการที่ไม่เคยเห็นใครทำมาก่อนก็เลยจัดเองซะเลย
    ถ้าใครที่ศรัทธาว่าคังตัองเมะเท่านั้นก็ต้องขอโทษไว้ด้วยเน้อ
    เพราะจะบอกกันตรงๆ เลยว่าถ้าจะอ่านเรื่องของเราสองคนหาแบบธรรมดาเหมือนคนอื่นเขาไม่มีหรอกนะ
    มันจะอุตริทำทุกอย่างที่มันต้องการ  ทั้งสวนกระแสและบ้าบอหลายๆ อย่าง +555 ^O^

    สำหรับเรื่องนี้ก็จะพยายามลงให้อย่างต่อเนื่อง เพราะมันใกล้จะไปถึงตอนปิดเรื่องขึ้นทุกที
    แล้วก็ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ของทุกคนที่มีให้กันเสมอและยังไม่ทิ้งกันทั้งที่อุตส่าห์ดองจนเค็มได้ที่ ^ ^
    เอาเป็นว่ารอเจอตอนต่อไปนะว่ามันจะมีอะไรบ้าๆ เกิดขึ้นอีก ^ ^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×