ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #53 : -w-............100%

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 51





                       "สมใจนายเลยสินะ..."   คนที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนป่วยเอ่ยพูดกับชายหนุ่มร่างสูงซึ่งกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง


                       "...เพราะนายบาดเจ็บกำหนดการเลยต้องเลื่อนออกไปตั้งเกือบเดือนแน่ะ"


                       "...งั้นก็ย้ายผมไปรักษาตัวที่ญี่ปุ่นสิ...จะได้เร็วขึ้น"   อิรุหันมาตอบเสียงเรียบ


                       "พูดเป็นเล่น...นายไม่อยากอยู่เกาหลีแล้วเหรอ"   อีกคนถามทีเล่นทีจริง


                       "ครับ..."   ชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าจริงจังน้ำเสียงนิ่งเรียบ


                       "ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่ที่ญี่ปุ่นนานๆ ด้วยน่ะ"


                       "อะไรกัน...แล้วที่ลงทุนเจ็บตัวเนี่ยไม่ใช่เพื่ออยู่ที่นี่ต่อหรอกเหรอ"   เอ่ยถามด้วยความแปลกใจอย่างมาก  แต่ไม่ทันที่อิรุจะพูดตอบก็มีคนเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยเสียก่อน


                       "อาการเป็นยังไงบ้างจ๊ะ...อิรุ ^ ^  "   อายูมีเดินเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้และตระกร้าของเยี่ยม


                       "ยังไม่ตายเหรอเนี่ยฮึดชะมัดยาดเลย"   คนที่โอบไหล่อายูมีเอ่ยบอกอย่างจิกกัดเล็กน้อย


                       "ผู้จัดการฉันยังอยู่นะ...จะไม่ออกหน้าออกตาไปหน่อยเหรอ"   อิรุมองฮีบอนหน้าตาย


                       "คุณผู้จัดการคงไม่ได้คิดอะไรหรอก...เนอะ ^ ^ "   ฮีบอนหันไปขอความเห็นกับผู้จัดการของอิรุด้วยสีหน้าท่าทางทะเล้น


                       "อ่านะ..."   คุณผู้จัดการยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขอตัวออกไปจากห้อง


                       "อาการเป็นไงบ้าง..."   อายูมีถามพลางวางช่อดอกไม้ลงในแจกัน


                       "ก็ดี..."   อิรุตอบเสียงเนือยๆ


                       "ขาดยารักษาอะดิ"   ฮีบอนว่าหน้าตาย


                       "...แต่ถ้าได้อายูมีมาป้อนข้าวต้มให้อาการคงดีขึ้น"   ร่างสูงบอกพร้อมกับยกยิ้มนิดๆ


                       "อ๋อ...อยางนั้นเหรอ  ถ้างั้นเาเรื่องนี้ไปเล่าให้คิบอมฟังท่าทางคงจะดีสินะ"   ฮีบอนหันมาส่งสายตาอาฆาตมาดร้ายใส่อิรุ


                       "...ก็บอกไปสิ"   ชายหนุ่มบอกด้วยท่าทางหมดอาลัยในชีวิต


                       "ทำหน้าอย่างกะคนอกหัก"   อายูมีแกล้งง่าอย่างไม่จริงจัง


                       "หิวแล้วล่ะ...ปอกผลไม้ให้กินหน่อยสิอายูมี"   อิรุเอ่ยขอร้องเหมือนคนต้องการจะเบี่ยงประเด็น


                       "ไม่มีน้ำยาล่ะสิ"   ฮีบอนจงใจพูดกัด


                       "...สงสัยฉันจะต้องหันไปจีบผู้หญิงเหมือนเดิมน่าจะดีกว่า"   ชายหนุ่มร่างสูงทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อน


                       "เฮอะ! แค่นี้ก็ทำเป็นถอดใจซะแล้ว  ก็เพราอย่างนี้แหละคิบอมถึงได้ไม่เห็นถึงความจริงใจของนายไงล่ะ"   พูดจบฮีบอนก็หยิบแอปเปิลที่อายูมีหั่นใสจานเอาไว้ขึ้นมากินหน้าตาเฉย


                       "ฮีบอน!!"   อายูตีต้นแขนฮีบอนพลางมองด้วยสายตาดุ


                       "นั่นมันของคนป่วยนะ!"


                       "แหมก็แค่ชิมชิ้นสองชิ้นเอง  เผื่อว่ามันไม่อร่อยเดี๋ยวอิรุจะกินไม่ได้เอานา"   ฮีบอนรีบทำสีหน้าแบบลูกสุนัขออดอ้อนเจ้านาย


                       "...กินไมได้หรือกินไม่ทันกันแน่นะ"   อิรุบอกเสริมขึ้น


                       "นี่ฉันหวังดีนะ  อย่ามาว่ากันอย่างนี้สิ"   ฮีบอนพยายามทำสีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ไร้มลทินใดๆ ทั้งสิ้น


                       "หวังดีมากเลยเนอะ...- -  "   อิรุทำหน้าเซ็งจัด


                       "อ่ะ...อิรุ"   อายูมีมองทั้งสองอย่างปลงเล็กน้อยก่อนจะป้อนแอปเปิ้ลให้ชายหนุ่มกิน


                       "ป้อนฉันบ้างสิอายูมี"   ฮีบอนทำตาปริบออดอ้อนหญิงสาว


                       "เมื่อกี้ก็กินไปแล้วนี่นา"   อายูมีบอกตาแป๋ว


                       "ก็เค้าอยากให้อายูมีป้อนนี่นา"   เท้าคางรอราวกับเจ้าตูบส่ายหางดิกๆ ไปมา


                       "ก็ได้...อ้ามนะ ^ ^   "   หญิงสาวใจอ่อนยอมทำตามที่อีกฝายขอในที่สุด  ฮีบอนอ้าปากรับด้วยท่าทางมีความสุขจนลืมไปเลยว่ายังมีอีกคนที่เจ็บหนักอยู่ (ด้านจิตใจน่ะ...)


                       "อะแฮ่ม!! คนป่วยอยู่ตรงนี้นะครับ"   อิรุแกล้งกะแอมไอขึ้นขัด


                       "อ๊ะ! โทษที...อ่ะ! กินซะอายูมีอุตส่าห์ทำให้อร่อยนะ ^ ^  "   ฮีบอนยื่นชิ้นผลไม้ไปตรงหน้าชายหนุ่มด้วยสีหน้าท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ


                       "ขอบใจนะ..."   อิรุรับชิ้นผลไม้เข้าปากด้วยความไม่เต็มใจนัก


                       "ถ้าเป็นคิบอมป้อนให้คงจะมีความสุขกว่านี้สินะ"   จงใจพูดแทงใจดำอีกฝ่าย


                       "เขาไม่มาป้อนหรอก..."   ชายหนุ่มบอกพร้อมยกยิ้มบางเหมือนกำลงฝืนอยู่


                       "น่าสงสารชะมัดเลย...งั้นเดี๋ยวมานะ"   พูดจบฮีบอนก็เดินออกไปนอกห้องทันที


                       "ไปไหนเหรอ..."   อายูมีเอ่ยถามไล่หลังฮีบอน

                       "ก็...ไปหาตัวช่วยน่ะ  ไม่อยากเห็นคนแถวนี้ตายไปซะก่อน"   บอกพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้อายูมี


                       "รีบไปรีบมานะ  ^ ^   "   อายูมียิ้มตอบอย่างน่ารัก


                       "โอเคจ้ะที่รัก ^ ^   "   พอเห็นรอยยิ้มของคนตรงหน้าก็เหมือนกับได้กำลังใจมาเต็มร้อย


                       "อือ >///<  "   เมื่อได้ยินคำเรียกของฮีบอนหญิงสาวก็อายม้วนเลยทีเดียว


                       "อ้อ! ฉันไม่อยู่ก็อย่าเจ๊าะแจ๊ะอายูมีของฉันล่ะ"   แต่ก่อนจะออกพ้นประตูฮบอนยังหันมาสั่งกำชับกับอิรุด้วยสีหน้าเอาจริง


                       "...- -"   "   อิรุไม่ได้ตอบเพราะกำลังใกล้แย่เพราะอาการน้ำตาลในเลือดสูง





















                       "ยุนโฮจ๋า~!"   เสียงแจจุงนำโด่งมาพร้อมกับเจ้าตัวที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาในบ้าน  แต่พอไม่เห็นคนที่ตัวเองเรียกก็รีบตรงไปยังห้องนอนทันที  แต่พอไม่เห็นตัวคนที่กำลังตามหาก็เกิดอาการลนลนหวั่นวิตกสุดๆ


                       "ชางมิน!! หมีน้อยของฉันหายตัวไปอ่ะ"   แจจุงวิ่งโล่ไปหาน้องชายที่ห้อง


                       "คงอยู่ที่ห้องเก่าพี่ยูชอนด้วยกันละมั้ง  ที่ห้องผมก็ไม่อยู่เหมือนกัน"   ชางมินตอบกลับอย่างใจเย็น


                       "หรือไม่ก็นอนอยู่ห้องฉัน  ^ ^   "   จุนซูเอ่ยเข้าข้างตัวเอง


                       "ห้องนายเนี่ยนะ! บ้าแล้ว! "   แจจุงตะโกนใส่หน้าโลมาบวมน้ำ


                       "ก็บ้าจริงๆ น่ะแหละ"   ชางมินกล่าวเสริมหน้าตาย


                       "ทำไม...เมื่อก่อนเวลาทะเลาะกันทีไรก็หนีไปนอนห้องฉันกันทุกที"   จุนซูบอกตามความเป็นจริง  แล้วจากนั้นแจจุงก็เดินนำไปยังห้องของคนที่เอ่ยอ้างเข้าข้างตัวเอง


                       "ไหนล่ะ...ไม่เห็นมีเลย"   แจจุงเปิดประตูออกดูพอไม่เห็นคนที่ตามหาก้หันมาเอาเรื่องกันคนชอบแอบอ้าง


                       "อ๊ะ!! โทษทีนะมีโทรศัพท์จากโบอา"   แล้วก็วิ่งลิ่วออกไปนอกบ้านอย่างรวดเร็ว


                       "สงสัยจะอยู่ห้องเก่าของพี่ยูชอนมั้งครับ"   ชางมินเอ่ยคาดเดาความเป็นไปได้


                       "ถ้างั้นก็ไปดูกันถอะ"    แจจุงรีบเอ่ยชวนพร้อมกับเดินนำไปย่างรวดเร็ว


                       ห้องที่ค่อนข้างจะมืดสลัวอยู่สักเล็กน้อยถูกเปิดแง้มประตูออกมาด้วยฝีมือของแจจุงและชางมินพลางสำรวจสายตามอง  จากนั้นทั้งสองก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปภายในห้องอย่างเงียบเชียบเพราะเจอสองร่างที่กำลังหลับตาพริ้มกันอยู่บนเตียงด้วยท่าทางสบาย  แจจุงช้อนตัวหมีน้อยที่กำลังซุกหน้าอยู่กับยูชอนอย่างเบามือที่สุดก่อนจะเดินออกไปจากห้อง  ส่วนชางมินก็ทิ้งตัวนั่งลงที่ข้างเตียงจ้องดูใบหน้ายามหลับของคนรัก  มือเรียวไล้เกลี่ยผมนุ่มของร่างบางอย่างแผ่วเบาด้วยความรักใคร่


                       "น่ารักจริงๆ เลยนะ"   ชายหนุ่มยกยิ้มมอง


                       "อือ..."   ร่างบางพลิกตัวก่อนใช้มือคว้าหมอนและผ้าห่มมากอดต่างหมอนข้าง


                       "เด็กจริงๆ เลย"   บอกพลางส่ายหัวน้อยๆ  แต่ก็ยิ้มอย่าวถูกใจในท่าทางของคนตรงหน้า


                       "เกลียดชางมิแล้ว..."   ยูชอนละเมอออกมาขณะกระชับแขนกอดผ้าห่มเข้าหาตัว


                       "ทำไมถึงเกลียดล่ะครับ"   ร่างสูงขยับเข้าไปกระซิบข่างหูกระต่ายน้อยอย่างจงใจ


                       "ก็...ชางมินชอบแกล้ง..."   คนตอบปรือตาขึ้นเล็กน้อยแล้วก็หลับต่อไป


                       "แค่นั้นเองเหรอ..."   ยังคงถามต่อไปพร้อมกับอมยิ้มบาง


                       "...อื้อ..."    ร่างบางพลิกหนีเหมือนกับรำคาญเมื่อมีอะไรมารบกวนการนอน  จากนั้นชางมินก็ทิ้งตัวนอนบนเตียงก่อนจะฉวยโอกาสรวบตัวร่างบางเข้ามากอดไว้อย่างคิดถึง (ห่างกันไปไม่กี่ชั่วโมงเอง  ทำอย่างกะหายไปหลายปี)


                       "อย่าสิ...ยุนโฮ"   กระต่ายน้อยเข้าใจว่าเป็นเพื่อนตัวเองจึงเอ่ยปรามออกไปด้วยน้ำเสียงงัวเงีย  ชายมินถึงกับเผยยิ้มออกมาแล้วฝังจมูกลงบนแก้มนุ่มของอีกฝ่าย


                       "อ๊ะ!! เล่นอะไร..."   ยูชอนลืมตาขึ้นมาหมายจะกล่าวว่าแต่ก็ต้องเงีบลงเพราะเห็นหน้าร่างสูง


                       "  ^ ^  "   ส่วนชางมินก็เอาแต่ยิ้มแป้นแล้นมองดูสีหน้าของอีกฝายตาไม่กระพริบ


                       "ออกไปน้า! >< อย่ามาแตะเค้า!"   แล้วแล้วกระต่ายน้อยก็ดิ้นขึ้นมาในทันที


                       "โกรธผมเหรอ..."   ชางมินเอ่ยถามเสียงนิ่ง  แต่ก็ยังคงกอดกระต่ายเอาไว้ไม่ยอมปล่อย


                       "ไม่ได้โกรธ...แต่เกลียดเลยต่างหาก"   ร่างบางบอกพลางพองลมเต็มแก้ม


                       "อย่าเกลียดผมเลยนะครับ"   พูดจบก็หอมแก้มป่องเข้าให้อย่างรวดเร็ว


                       "เกลียดที่สุด!! ชางมินคนไม่รักษาสัญญา!!"   ยูชอนดิ้นขัดขืนสุดแรง


                       "ผมไม่รักษาสัญญาอะไร"   ถามพลางมองดูหน้าอีกฝ่ายไม่วางตา


                       "ก็ทิ้งเค้าไว้คนเดียวไง...ชางมินชอบทิ้งเค้าไว้อยู่เรื่อย..."   กระต่ายน้อยเริ่มตาแดงขึ้นทีละนิด


                       "เบื่อเค้าแล้วใช่ไหมล่ะ...จะทิ้งเค้าแล้วใช่ไหม!"


                       "โอ๋...ผมเปล่าทิ้งพี่นะ"   ชางมินว่าพลางโยกตัวคนที่กอดเอาไว้ด้วย


                       "ก็สองคนนั้นน่ะสิบังคับผมไป  ความจริงผมก็ไม่ได้อยากไปเลยนะ"   มือเรียวลูบไล้ผมนุ่มอย่างปลอบโยน


                       "...ห้ามโกหกนะ...ไม่งั้นโกรธจริงๆ ด้วย"   ยูชอนเอ่ยขู่ขณะกอดตอบชางมิน


                       "เรื่องอะไรผมจะต้องโกหกพี่ด้วยล่ะ...จริงๆ นะ  ผมน่ะอยากจะกลับมาตั้งนานแล้ว  แต่ก็ถูกพวกนั้นรั้งเอาไว้ไม่ยอมกลับบ้านกันสักที"   ชางมินแจ้งแถลงไขให้ฟัง


                       "ชางมินจะไม่เบื่อเค้า...ไม่ทิ้งเค้าใช่ไหมไ   กระต่ายน้อยเอ่ยถามด้วยสายตาอ้อน


                       "ครับ ^ ^  "   พูดจบก็จูบประทับลงบนหน้าผากมน


                       "ผมไม่มีวันเบื่อพี่หรอก"   เอ่ยบอกเสียงมั่น


                       "รักชางมินนะ /////  "    ร่างบางพูดออกมาก่อนจะก้มหน้างุด


                       "ครับ ^ ^  ผมก็รักพี่เหมือนกัน"   มือเรียวเชยคางมนขึ้นมาก่อนจะขื่นหน้าเข้าไปมอบความหวานซึ้งให้กับร่างบางผ่านทางริมฝีปากอิ่มร้อน


                       "อือ..."   มือเรียวเรียวกำเสื้ออีกฝ่ายเอาไว้แน่น  ชางมินถอนริมฝีปากออกมาแล้วโน้มหน้าลงไปคอเคลียที่ซอกคอขาว


                       "...ชางมิน...หยุด...อ๊ะ"   ร่างบางพยายามขยับตัวหนีด้วยท่าทางเขินอาย


                       "ทำไมล่ะครับ..."   เอ่ยถามน้ำเสียงเบาลง  แต่สายตากลับกดลึกมองคนตรงหน้า


                       "...ก็...อายอ่ะ >///<   "   บอกพร้อมกับยกมือขึ้นปิดหน้าแดงๆของตัวเองเอาไว้


                       "ไม่เห็นต้องอายเลย....มีแค่เราสองคน..."   ชางมินทำเสียงนุ่มกระซิบที่ข้างหู


                       "ชางมินบ้า!!"   ยูชอนตีไหล่กว้างอย่างไม่แรงนักพลางขยับพลิกตัวหนี


                       "ถึงบ้า...ก็บ้ารักนะ..."   ขบับเข้าไปกระซิบอีกครั้งอย่าจงใจ


                       "พอเถอะ...วันนี้เหนื่อยแล้ว"   กระต่ายน้อยหันมาทำหน้าออดอ้อนสุดๆ พลางกระพริบตาปริบ


                       "...ก็ได้...เห็นแก่วันนี้ทำตัวน่ารักนะ ^ ^ "   ชางมินบีบจมูกรั้นเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว


                       "...ถ้าทำตัวน่ารัก...ชางมินจะไม่ทำไรใช่ไหม"   ยูชอนทำตาวิ้งๆ ขึ้นมาในทันที


                       "นั่นสินะ...เอาไงดีน้า"   ชางมินทำท่าคิดหนักพลางมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่ง  ร่างบางเฝ้ารอคำตอบด้วยใบหน้ามีความหวังอย่างมาก


                       "ก็แล้วแต่สถานการณ์แล้วกัน"   ชางมินดึงตัวยูชอนเข้ามากอดเอาไว้แน่นก่อนจะหลับตาลง


                       "แต่ตอนนี้ขออยู่อย่างนี้สักพักละกัน..."   พูดด้วยเสียงที่เบาลงกว่าเดิม


                       "อยู่แบบนี้ตลอดไปก็ได้..."   ยูชอนบอกพร้อมกอดตอบและขโมยหอมแก้มร่างสูงเร็วหนึ่งที


                       "อืม..."   เสียงทุ้มครางตอบรับอย่างพอใจ

                       "แจจุง...บ้าที่สุด...ในโลกเลย~"   หมีน้อยละเมอบ่นออกมาเสียงลากยาว


                       "คนใจร้าย..."   เสียงหวานยังคงพร่ำบ่นออกมาทั้งที่ยังหลับสนิทอยู่เลย  แจจุงโน้มหน้าเข้าปมองใบหน้าหวานอย่างใกล้ๆ ก่อนจะยิ้มมุมปากเหมือนวางแผนเอาไว้ในใจ


                       "แจจุง...คนบ้า..."   พอร่างบางเผยอปากต่อว่าชายหนุ่มก็ประกบปากปิดเสียงอีกฝ่ายในทันที  ซ้ำยังสอดลิ้นเข้าไปกอบโกยเอาความหวานจากเสน่หาของอีกคน  พอลมหายใจที่ถูกช่วงชิงเริ่มหมดลงจนยุนโฮชักที่จะหายใจไม่ออกเจ้าตัวก็เริ่มดิ้นขลุกขลักไปมา  ก่อนจะปรือตาขึ้นมองคนตรงหน้า


                       "อื๊อ..."    มือเรียวดันอกแจจุงเท่าที่พอมีแรง  ส่วนแจุงก็ยังแกล้งไม่ยอมถอนริมฝีปากออกมา  ทำให้หมีน้อยเพิ่มแรงดิ้นมากขึ้น  แล้วชายหนุ่มก็ยอมละถอนใบหน้าออกมาโดยดี


                       "ฮ้า~..."   ยุนโฮหอบหายใจถี่รับเอาอากาศเข้าไปทดแทนช่วงที่ขาดหาย  นัยต์ตาปรือหรี่มองจ้องชายหนุ่มอย่างไม่พอใจนัก


                       "คิดจะยั่วฉันหรือไง...ฮึ"   แจจุงยกยิ้มมองดูร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์  สายตาคมมองจ้องที่กลีบปากอิ่มสีชมพูเรื่อก่อนจะเคลื่อนลงมองแผ่นอกเนียนขาวอมชมพูที่ถูกเสื้อร่นลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ


                       "แจบ้า!"   ยุนโฮรีบดึงเสื้อขึ้นปิดไม่ให้อีกฝ่ายมองก่อนจะขยับพลิกตัวหนีสายตาอีกฝ่ายอย่างเขินอาย


                       "อะไรกัน  เรื่องไรมาว่าฉันบ้าล่ะก็นายนอนยั่วฉันจริงๆ นี่"   แจจุงจงใจโน้มหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆใบหูของหมีน้ยอ  ยุนโฮรีบยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองอย่างรวดเร็วรู้สึกใจสั่นไปหมด


                       "ออกไปไกลๆ เลยนะ...ไม่อยากพูดกับคนใจร้าย"   ออกอาการงอนขึ้นมาทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถูกทิ้ง


                       "แอบหนีไปแบบนี้  เกลียดที่สุดเลย!"   ว่าพลางซุกหน้าเข้าหาหมอนหนุนเพราะรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเสียดื้อๆ  แต่ก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นเพราะกลัวเสียฟอร์ม


                       "ก็ฉันไม่อยากให้นายต้องไปลำบากด้วยนี่นา"   แจจุงรีบไกล่เกลี่ยอย่างรวดเร็ว


                       "กลัวฉันลำบากหรือกลัวว่าตัวเองจะซ่าส์ได้ไม่เต็มที่กันแน่ฮะ"   บอกเสียงอู้อี้ออกมาโดยยังไม่ยอมหันมามองหน้าคู่สนทนา


                       "โอ๋...ดีกันนะ  อย่าโกรธฉันเลยนะ"   แจจุงยื่นหน้าไปหาคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่พร้อมกับโอบเอวบางเอาไว้


                       "ไม่! เกลียดแจแล้ว...เกลียดคนใจร้าย...เกลียด...แจบ้า!"   หมีน้ยอโวยวายดิ้นไปมาไม่ยอมให้แจจุงกอด


                       "แจขอโทษ  ดีกันเถอะนะ"   แจจุงยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าหมีน้อยเพื่อขอคืนดี


                       "ไม่!"   หมีน้อยปัดมือชายหนุ่มออกอย่างไม่ใยดี  ดวงตากลมโตคลอน้ำตาจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคืองสุดๆ


                       "อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแจน่ะเป็นตัวต้นคิด"   พูดบอกด้วยใบหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด


                       "เอ่อ...ฉันก็แค่อยากช่วยอิรุเอง...จริงๆนา"   แจจุงพยายามปั้นหน้าบริสุทธิใสซื่อ


                       "โกหก! แค่อยากจะสนุกมากกว่า"   ยุนโฮดักทางจนแจจุงแหกโค้งตายคาที่


                       "แหม...ยุนนี่ก็พูดเกินไป  แจไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย"   แจจุงแอบปาดเหงื่อออกอย่างรวดเร็ว


                       "ใช่เต็มๆ เลยต่างหาก!"   หมีน้ยอลุกขึ้นนั่งกอดอกมองอีกฝ่ายด้วยสายตาทิ่มแทง


                       "อ่า...พูดแบบนี้แล้วฉันจะเถียงอ่ะ"   แจจุงเกาหัวตัวเองพลางก้มหน้าลงนึกหาวิธีการขั้นต่อไป


                       "เอางี้! เดี๋ยวฉันพาไปเลี้ยงเค๊กโอเคป่ะ"   แจจุงทำท่าทุบมือตัวเองไปด้วย


                       "นี่! ฉันไม่ได้เห็นแก่ของกินขนาดนั้นนะ!"   หมีน้อยทำหน้ามู่ใส่อย่างไม่พอใจ  ก่อนจะเชิดหน้าหนีอย่างเสียอารมณ์


                       "ง่ะ! แล้วทำไงถึงจะหายโกรธล่ะ"   แจจุงจนปัญญาเสียแล้ว  ก็ปกติไม่เคยง้อยากขนาดนี้มาก่อนเลยนี่นา


                       "อืม...เอาไงดีน้า"   นิ้วเรียวแตะที่ริมฝีปากอิ่มพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ  ดวงตากลมรีเหลือบมองเพดานทำท่าครุ่นคิด  ส่วนแจจุงก็นั่งรอคำตอบราวกับสุนัขรอคำสั่งจากเจ้านาย


                       "...แจต้องเป็นทาสรับใช้ฉัน ^ ^ "   หมีน้อยพูดบอกด้วยรอยยิ้มมีความสุข


                       "หา!! ว่าไงนะ!"   แจจุงถึงกับทำหน้าเหวอ


                       "จะไม่ทำก็ได้นะฉันไม่ว่าหรอก...แต่ห้ามแจเข้ามานอนในห้องนี้อีกนะ"   ยุนโฮสั่งเสียงเฉียบขาด  ชายหนุ่มมีสีหน้าสลดลงทันทีก่อนจะตัดสินใจในเวลาต่อมา


                       "คร๊าบ~  ผมจะเป็นทาสรับใช้คร๊าบ~"   แจจุงพูดเสียงยานยาวอย่างหมดอาลัยตายอยาก


                       "ฮิ...ฮิ... ^ ^  ดีมาก"   หมีน้ยอยกสองมือขึ้นปิดปากตัวเองอย่างอารมณ์ดี


                       "แล้วจะอีกนานไหมอ่ะกว่าจะหมดพันธะสัญญาน่ะ"   แจจุงถามเสียงจ๋อย


                       "จนกว่าฉันจะพอใจ ^O^ "   ยุนโฮพูดเน้นทุกคำด้วยสีหน้าพออกพอใจเป็นที่สุด


                       "หา!! O[]O!  "   แจจุงหน้าอึ้งกิมกี่ไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว


                       "จะไม่ทำก็ได้นะ"   หมีน้ยอทำลอยหน้าลอยตาพลางคว้าตุ๊กตาโคอาล่าสีเทามากอดไว้แล้วเกยคางลงไปอย่างน่ารัก


                       "อย่าขู่กันซี่~ "   แจจุงเหงื่อตกเล็กน้อย


                       "ฉันยอมแล้ว  เพราะฉะนั้นก็หายโกรธฉันแล้วใช่ม้า"   แจจุงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ร่างบางหวังจะลักลอบหอมแก้มแต่ก็ถูกอีกคนรู้ทันเสียก่อน  หมีน้อยเอี้ยวหน้าหลบได้ทันก่อนจะใช้ปลายนิ้วชี้ยันที่หน้าผากของแจจุงให้ห่างออกไป


                       "ถึงจะหายโกรธก็ไม่ได้แปลว่าจะยกโทษให้นะ"   หมีน้ยอทำตาดุใส่


                       "คำสั่งแรกห้ามแตะต้องตัวฉันจนกว่าจะได้รับอนุญาต  ถ้าขัดคำสั่ง...โทษคือการให้นอนนอกห้อง...เข้าใจไหม!"   ประโยคสุดท้ายเน้นเสียงแข็งตั้งคำถามด้วยสีหน้าเอาจริง


                       "คร๊าบ~ "   แจจุงรับคำอย่งไม่เต็มใจนัก  ในใจก็ได้แต่คิดว่าปล่อยไปแบบนี้ก่อน  โอกาสมาถึงเมื่อไรหมีน้ยอไม่รอดเงื้อมมือแน่

















                       "เข้าไปข้างในสักทีสิ  มัวแต่ยืนจ้องอยู่อย่างนั้นประตูมันคงเปิดเองได้หรอก"   ฮีบอนบอกกับคนที่ตัวเองอุตส่าห์บุกคอนโดฝ่าดงลิงไปพาตัวมา  คิบอมหันมามองหน้าฮีบอนด้วยสีหน้ายากจะอธิบายพลางเม้มปากตัวอย่างลังเล


                       "อย่ามัวแต่ทำหน้าปั้นยากอยู่สิ  เข้าไปได้แล้ว"   ว่าแล้วฮีบอนก็เปิดประตูห้องพักผู้ป่วยพิเศษออกพร้อมกับดันหลังคิบอมให้เข้าไปข้างใน


                       "......................."   อิรุที่กำลังอ้าปากรอรับช้อนข้าวต้มจากอายูมีถึงกับนิ่งค้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นหน้าผู้เข้ามาใหม่  ส่วนอายูมีเองก็เอียงคอมองคิบอมด้วยสีหน้าแปลกใจเช่นกัน


                       "อายูมี~! เราออกไปเดินเล่นกันเถอะ"   ฮีบอนเอ่ยเรียกด้วยหน้าตาแป้นแล้น


                       "แต่อายูมียังป้อนข้าวอิรุไม่หมดเลยนะ"   หญิงสาวพูดขณะตั้งอกตั้งใจเป่าข้าวต้มให้อิรุ


                       "ไม่ต้องแล้วล่ะ  มีคนมารับหน้าที่นี้แทนแล้ว"   ว่าพลางดันตัวคิบอมให้ไปที่เตียงคนไข้  ก่อนจะหันไปดึงแขนอายูมีให้ลุกมาหาตน


                       "อ่ะ...งั้นก็ได้ ^ ^ "   อายูมีมองหน้าคิบอมแล้วก็คลี่ยิ้มบางให้แล้วก็ควงแขนฮีบอนด้วยความเต็มใจ  จากนั้นทั้งสองสาวก็พากันออกไปจากห้องด้วยท่าทางสวีทหวานแหวว  คิบอมหันมองตามด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย  ส่วนอิรุมองดูร่างบางอยู่โดยไม่ได้พูดอะไร


                       "...เป็นไงบ้าง"   คิบอมเอ่ยขึ้นเสียงเบา


                       "เอ่อ...ก็ไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ"   ชายหนุ่มตัวสูงเอ่ยพลางเสมองออกไปด้านนอกหน้าต่างแทน


                       "เอ่อ...ถ้าไม่เป็นไรแล้วงั้นผมกลับนะ"   คิบอมที่ถูกทิ้งไว้ให้อยู่กับอิรุรู้สึกทำอะไรไม่ถูกจึงเอ่ยบอกออกไป


                       "...มาเพื่อถามแค่นี้เหรอ"   อิรุถามก่อนจะหันกลับมาอมองหน้าคิบอม  ร่างบางกัดเม้มปากคิดอะไรไม่ออกได้แต่ก้มหน้าไม่ตอบคำถาม


                       "ฮีบอนไปบังคับเรามาล่ะสิ...ถ้าไม่เต็มใจมาก็กลับไปเถอะนะ"   ชายหนุ่มบอกก่อนจะขยับตัวลงนอน


                       "...อยากให้กลับจริงๆ เหรอ"   เอ่ยขึ้นพลางมองหน้าอิรุแบบไม่ค่อยเต็มตานัก


                       "ไม่อยากฝืนใจใครน่ะ...โดยเฉพาะคนที่สำคัญ..."   อิรุตอบเสียงเบา  จากนั้นคิบอมก็ค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้พลางเหลือบมองไปยังชามข้าวต้มที่ดูเหมือนจะพ่องลงไปแค่นิดเดียว  ก่อนจะหันกลับไปมองดูชายหนุ่ม


                       "...คุณยังหิวอยู่ไหม"


                       "...ก็นิดหน่อยน่ะ"   อิรุพูดพลางขยับจัดหมอนให้ตนเองอย่างลำบาก  แล้วคิบอมก็รีบลุกขึ้นไปช่วยชายหนุ่มในทันที


                       "........................."   คนป่วยมองดูการกระทำของร่างบางโดยไม่คิดจะพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย


                       "งั้นเดี๋ยวผมป้อนข้าวคุณให้นะ"   ว่าพลางหยิบชามข้าวต้มมาแล้วตักข้าวขึ้นมาเป่าไล่ความร้อนที่ยังหลงเหลืออยู่  จากนั้นก็ยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่ม  อิรุมองช้อนข้าวต้มแล้วก็มองหน้าคิบอมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมรับข้าวต้มเข้าปาก  ส่วนคิบอมก็ไม่ได้พูดอะไรอีกนอกจากคอยตัวข้าวป้อนให้กับชายหนุ่มอยู่เรื่อยๆ


                       "...อิ่มแล้วล่ะ"   พอกินไปได้สักพักอิรุก็เอ่ยบอกอีกฝ่ายเสียงเรียบ  แล้วคิบอมก็รีบหันไปเทน้ำเปล่าให้ก่อนจะยื่นแก้วน้ำให้ร่างสูง


                       "...ไม่มีอะไรที่เราต้องทำแล้วล่ะ...คิบอม"   ชายหนุ่มพูดขณะรับน้ำมาดื่มเอง


                       "จะบอกให้ผมกลับได้แล้วใช่ไหม..."   ถามพลางมองหน้าอีกฝ่ายไปด้วย


                       "อยู่กับฉันนานๆ แล้วรู้สึกอึดอัดไม่ใช่เหรอ..."   อิรุถามกลับเสียงเรียบนิ่ง


                       ".........................."   คิบอมได้แต่เงียบไม่กล้าออกมาตามใจนึก


                       "...กลับไปเถอะนะ...ฉันรับรองว่าจะไม่ไปสร้างปัญหาให้อีกแล้ว"   ชายหนุ่มพูดพลางลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเบามือแล้วก็ละออกมาอย่างรวดเร็ว


                       "คุณรักผมจริงๆ เหรอ..."   อยู่ๆ ร่างบางก็เอ่ยถามออกมา  แต่ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายอยู่ดี


                       "อืม...รัก..."   อิรุมองอีกฝ่ายอย่างเดาใจไม่ออกกับคำถามที่ได้ยิน  แต่ตอบออกไปอย่างไม่มีคำว่าลังเล


                       "ผมสามารถจะเชื่อใจคุณได้จริงๆใช่ไหม"   แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาสบมองอีกฝ่ายด้วยแววตาวูบไหว


                       "จะเชื่อหรือไม่เชื่อมันสิทธิของคิบอมนะ...จะมาถามฉันได้ยังไง"   ชายหนุ่มพูดตอบพลางมองหน้าร่างบางนิ่ง


                       "ผมก็แค่...อยากจะมั่นใจให้มากกว่านี้..."   มือเรียวรีบยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่อยู่ๆ ก็ไหลออกมาแบบไม่ตั้งตัว


                       "ถ้าคิดว่าฉันไม่ดีพอสำหรับเรา...ก็อย่าฝืนใจตัวเองเลยนะ"   อิรุช่วยเช็ดน้ำตาให้ร่างบางด้วยท่าทางอ่อนโยน  คิบอมส่ายหน้าเบาๆ เป็นการตอบรับ


                       "...ผมไม่ได้ฝืนใจนะ..."


                       "แต่ก็อึดอัดใจเวลาอยู่ด้วยกันใช่ไหมล่ะ"   ชายหนุ่มลูบหัวคิบอมอีกครั้งเป็นการปลอบโยนอีกคนอย่างเอ็นดู


                       "บางทีการที่มีคนมาตามตื๊อมันก็เป็นการบีบบังคับทางอ้อมเหมือนกันสินะ"


                       "..........................."   คิบอมเงียบลงไม่ได้พูดอะไรอีกปล่อยให้อีกฝ่ายลูบหัวตัวเองอยู่อย่างนั้น


                       "ฉันรักคิบอมนะ...แต่ต่อไปจะไม่เข้าไปวุ่นวายให้ลำบากใจอีกแล้วล่ะ  เราจะได้มีเวลาคิดด้วยไง"   อิรุบอกอย่างใจดี  ตาใสช้อนมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางสับสน


                       "แต่ผม..."


                       "...มีอะไรก็บอกได้นะ...ฉันไม่ว่าหรอก"   ชายหนุ่มตัวสูงยิ้มให้อีกคน


                       "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกยังไงกับคุณกันแน่...แต่เวลาที่คุณทำตัวห่างเหินแบบนี้มันกลับรู้สึกอึดอัดที่ตรงนี้"   บอกพร้อมกับทาบมือลงบนอกตรงที่มีเสียงหัวใจเต้นแรง


                       "...แล้วเวลาที่อยู่ด้วยกันล่ะ"   อิรุถามต่อพลางรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ


                       "พออยู่ด้วยกันหัวใจมันก็เต้นแรงกว่าปกติ  แล้วก็...ทำให้ผมทำตัวไม่ถูก..."   คิบอมก้มหน้าด้วยความเก้อเขิน


                       "ขึ้นมานั่งบนนี้สิ..."   แล้วอิรุก็ขยับตัวให้เหลือที่นั่งข้างตัวพอที่จะให้ร่างบางขึ้นมานั่ง  คิบอมมองหน้าชายหนุ่มชั่งใจอยู่ครู่ก่อนจะยอมทำตามแต่โดยดี


                       "...ฟังนะ  ถ้ายังไม่รู้ว่ารู้สึกยังไง...ฉันก็จะอยู่ข้างๆ เราแบบนี้ไปตลอดเลยดีไหม"   อิรุบอกพลางจับมือเรียวเอาไว้  ดวงตากลมใสกระพริบปริบมองกลับไป


                       "คำตอบล่ะ..."   ชายหนุ่มถามเสียงนุ่มแล้วก็จ้องเข้าไปในดวงตาใส


                       "...อืม...///...."   คิบอมพยักหน้ารับพลางใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่ออย่างเห็นได้ชัด


                       "ถ้ารู้คำตอบเมื่อไรก็บอกฉันด้วยนะ..."   อิรุกุมมือร่างบางเอาไว้ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง  เพราะความง่วงที่เกิดจากฤทธิ์ยาทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่


                       "อืม ^ ^  "   กระต่ายบอมมี่ครางรับอีกครั้งพร้อมกับยิ้มหวานออกมา


                       "...ฉัน...รักบอมมี่นะ..."   ขณะกำลังจะหลับชายหนุ่มก็เอ่ยบอกขึ้นมาเสียงเบา  แล้วก็หลับไปในที่สุด  ส่วนร่างบางก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข


                       "....ท่าทางจะโอเคกันแล้วนะ"   อายูมีที่พยายามเขย่งเท้ามองดูคนในห้องจากกระจกตรงประตูห้องพักผู้ป่วยเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้ม


                       "อืม...ดูท่าทางงานนี้จะตกลงปลงใจอย่างจริงจังสักที"   ฮีบอนกลาวพลางดึงตัวอายูมีเข้ามาโอบไว้


                       "อ่ะ...///...เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าหรอก"   อายูมีออกอาการเขินในทันทีก่อนจะเอ่ยเตือนอีกฝ่ายเสียงเบา


                       "ก็อย่าทำตัวให้มันน่ารักนักสิ ^ ^  "   บอกพลางส่งยิ้มหวานให้อายูมี


                       "ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย...///..."   หญิงสาวแย้งขณะก้มหน้าแดงๆ หลบไม่ให้ฮีบอนเห็น


                       "เกี่ยวสิ...ก็อายูมีน่ารักแบบนี้ฉันก็อดใจไม่ไหวน่ะสิ"   พูดจบก็ลักหอมแก้มนิ่มๆ ไปที


                       "ฮีบอนอ่ะ...///...ชอบแกล้ง..."   อายูมีช้อนมองอีกคนแล้วก็บ่นออกมาเสียงเบาขณะยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองอย่างอายๆ


                       "พวกเราก็กลับกันเถอะ  ท่าทางรายนั้นจะไม่ต้องการให้ใครเข้าไปกวนในตอนนี้นะ"   พูดพร้อมกับจูงมืออายูมีให้เดินตาม


                       "อายูมีไม่ได้จะเข้าไปกวนซะหน่อย...แค่อยากอยู่ดูต่อเท่านั้นเอง"   อายูมีเอ่ยเถียงแต่ก็ยอมเดินตามไปอย่างว่าง่าย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×