ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #52 : ใคร -*- 100%

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 51


     


                        "อ๊า! ท่านโจวจิงฉือของข้า"   ดองแฮร้องขึ้นมาพร้อมกับถาตัววิ่งไปหยิบกล่องดีวีดีนั้นขึ้นมากอดไว้ราวกับลูกรัก


                        "พี่ฮันกยองใจร้าย T^T "   หันไปมองหน้าป๋าทีนึงก่อจะก้มลงมาเปิดกล่องดีวีดี  เพื่อตรวจดูความเสียหายของแผ่นทองคำ


                        "O0O! อ๊ะ!!! "   ดองแฮทำสีหน้าตกใจเป็นที่สุดเมื่อพบว่าแผ่นดีวีดีคนเล็กหมัดเทวดาสุดที่รักนั้นหายไปแล้ว


                        "ม่ายจริ๊งงง!!!"   เจ้าตัวเริ่มร้องโหยหวนพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นจับหัวตัวเองแล้วส่ายหน้าไปม(คนกำลังคลั่ง _ _"  )   ดองแฮรีบตวัดสายตาแสกนหาตัวคนร้ายที่คอยแฝงตัวอยู่ในหมู่


                        "คราย-อาว-ปาย-บอก-มา-เดี๋ยว-นี้~"    เริ่มไล่สายตาไปทีละคนพร้อมกับทำเสียงยานไปด้วย


                        "อาการหนักกว่าผมอีกง่ะ - -   "   โลมาเอ่ยเปรยกับแจจุง


                        "แต่ก็น่าลุ้นแฮะว่าใครเป็นคนร้าย  นายคิดว่าใครจะเป็นผู้ลงมือชิงเอาแผ่นดีวีดีทองคำนั่นไป"   แจจุงจับคางพร้อมกับทำท่าวิเคราะห์ไปด้วย


                        "~งืม! เสียงดังกันจัง...คยูจานอนน้า"    คยูน้อยแง้มประตูออกมาพร้อมกับขยี้ตาอย่างงัวเงีย  ส่วนอีกมือก็กอดหมอนอิงรูปหัวใจมีปีกไว้แนบอก  ดองแฮส่งสายตาชิ้งๆ เป็นการแสกนก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ


                        "รายนี้ไม่น่าใช่..."


                        "เอ่อ...ร้อนชะมัดเลยอยากอาบน้ำชะมัด"   เรียววุคเอ่ยขึ้นพลางเดินหนีไปทางห้องตัวเอง


                        "ชิ้งๆๆ!!!!!"    เสียงสายตาที่แสกนมองเรียววุคเหมืมือนกับแน่ใจว่าพบตัวคนร้าย


                        "เดี๋ยวก่อน"   ดองแฮเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ  ทำให้เรียววุคค่อยๆ หันมามองช้าๆ


                        "นาย-เอา-ไป-ใช่-ไหม"   เน้นทุกถ้อยคำที่ถาม


                        "จะบ้าหรือไงของแบบนั้นฉันจะเอาไปทำไม!"   เรียววุครีบเถียงกลับทันที  แต่ก็ไม่กล้าสบตากับดองแฮ


                        "แก๊งค์ฟิวชั่นไม่เคยโกหกกันใช่ไหม"   ดองแฮเพ่งมองเพื่อบีบคั้นและกดดันอีกฝ่าย


                        "ก็ฉันไม่ได้เป็นคนเอาไปจริงๆ นี่นา"   เรียววุคพยายามเสียงกลับ


                        "ถ้านายเป็นคนเอาไปก็ยอมรับมาเถอะน่า  เรื่องจะได้จบ"   ชองมินช่วยเกลี้ยกล่อมอีกแรง


                        "ก็ฉันบอกไปแล้วนี่ว่าไม่ได้เอาไป  ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง  ไหนบอกว่าฟิวชั่นทุกคนจะรับฟังกันและกันเสมอ!"   พูดจบเรียววุคก็วิ่งเข้าห้องไปทันทีพร้อมกับเสียงประตูที่ปิดอย่างดังตามมา


                        "ฉันว่าคงไม่ใช่เรียววุคหรอก"   ชองมินบอกกับหนึ่งในสมาชิกฟิวชั่น


                        "แต่มันก็น่าสงสัยอยู่นา"   ดองแฮยังคงปักใจเชื่อกับความคิดของตนเอง


                        "แล้วความสัมพันธ์ของแก๊งฟิวชั่นจะจบลงทั้งอย่างนี้หรือไม่โปรดติดตามต่อไป"   แจจุงจับไมค์อากาศพร้อมกับทำเสียงพากษ์อยู่ไกลๆ


                        "เราจะรายงานสถานการณ์ข่าวเป็นระยะ...จากสำนักข่าว TVXQ...."   จุนซูก็ร่วมแจมด้วยอย่างสนุกสนาน  ชางมินมองดูสถานการณ์ในตอนนี้ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ


                        "แล้วสรุปว่าเรื่องคิบอมทุกคนจะปล่อยไปแบบนี้ใช่ไหมครับ"   ชางมินพยายามกู้สถานการณ์ให้ดีขึ้น


                        "...ก็รอใก้คิบอมออกมาจากห้องก่อนสิ"   ทึกกี้พูดขณะที่ยืนทำอะไรสักอย่างกับนู๋คยูน้อยตรงหน้าประตู


                        "ผมจะออกไปข้างนอกกับฮยอคนะ..."   คิบอมเอ่ยขึ้นโดยไม่มองหน้าใครพร้อมกับจับมือซูบารุจังที่อุตส่าห์ไปลากตัวออกมาจากห้องทั้งสภาพยังงัวเงียอยู่เลย


                        "จะไปไหน"   ฮีชอลถามหน้าเคร่งพร้อมกับดักหน้าทั้งสองหนุ่มน้อยเอาไว้


                        "สนใจผมกันด้วยเหรอ"   คิบอมพูดประชดด้วยสีหน้าเง้างอน


                        "เป็นน้องมาพูดแบบนี้กับพวกพี่ได้ยังไง"   ทึกกี้ต่อว่าหลังจากเกลี้ยกล่อมให้คยูน้อยออกมานั่งกับตัวเองจนได้


                        "ก็ไม่จริงหรือไง  เห็นสนใจกันแต่เรื่องของตัวเอง"    คิบอมเถียงกลับอย่างไม่ยอมความ


                        "อย่ามาทำตัวเป็นเด็กก้าวร้าวแบบนี้นะคิบอม"   ฮีชอลว่าพลางเขกหัวน้องชายไปที  แต่ก็ไม่ได้ลงแรงมากนัก  มือบางยกขึ้นกุมหัวตัวเองทันทีทั้งจ้องหน้าพี่ชายแบบเคืองสุดๆ


                        "แล้วอีกอย่างจะพาฮยอคแจไปด้วยทำไม"   ฮีชอลมองดูสภาพของคนตัวเล็กที่ยังไม่ตื่นดีก็อดห่วงไม่ได้  ก่อนจะดึงตัวฮยอคแจมากอดไว้ก่อนที่ไก่น้อยจะล้มฟุบลงไปกองกับพื้น


                        "เห็นไหมล่ะ  สนใจกันแต่เรื่องของตัวเองน่ะ"   กระต่ายบอมมี่กวาดตามองไปที่ทึกกี้ที่นั่งชิดติดกับคยูฮยอน  แล้วก็กลับมาจ้องฮีชอล


                        "ทุกคนเขาเป็นห่วงนายต่างหากล่ะ"   ฮันกยองรีบพูดขึ้นมาเพื่อไกล่เกลี่ย


                        "พี่ฮันไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย! พี่ฮันเองก็เอาแต่เข้าข้างพี่ฮีชอลกับเฮียทึกไม่เคยเข้าใจผมเลย..."   กระต่ายบอมมี่เริ่มเบะปากทำท่าจะร้องไห้


                        "บอมมี่อย่าร้องน้า~! "   ด๊งรี่เข้ามาปลอบบอมมี่พลางส่งสายตาเคืองปนไม่พอใจให้กับฮันกยอง


                        "...พี่ดงฮี"   แล้วคิบอมก็โผเข้ากอดชินดง


                        "เค้าเกลียดสามคนนี้ที่สุดเลย..."   คิบอมเริ่มสะอื้นน้อยๆ ด้วยความน้อยใจ


                        "เกลี่ยดพวกพี่...เพราะอะไรเหรอ..."   ลีดเดอร์วงเอสเจเอ่ยถามขึ้นเสียงจริงจังกว่าปกติเล็กน้อย


                        "...................."   คิบอมเอาแต่เงียบไม่ตอบ  ได้แต่สะอึกสะอื้นอยู่กับดงฮี


                        "อย่าทำตัวเป็นเด็กไร้เหตุผลแบบนี้สิ"   ฮีชอลทำเสียงเข้มดุคนตรงหน้า


                        "ฮึก...แล้วทีพวกพี่ทำตัวไร้เหตุผลกันก่อนล่ะ..."   บอมมีตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ


                        "...นั่นแหละเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีสำหรับเด็ก..."   แจจุงแอบพูดเสียงเบาพร้อมกับทำท่ายกไหล่แล้วแบมือ  ก่อนจะส่ายหัวไปมาอยู่ตรงจุดพ้นระยะสายตาของบุคคลอันตรายทั้งหลาย


                        "ใช่ๆ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีจริงๆ ด้วยทั้งที่อายุมากแล้วแท้ๆ..."   จุนซูพบกเสริมพลางคนที่เพิ่งพูดจบไปเมื่อครู่  แล้วมือพิซาตของแจจุงก็ฟาดเข้าใบนศรีษะของเจ้าโลมาแหนมอย่างไม่มีปราณี


                        "เราจะโกรธอะไรกันนักกันหนาบอมมี่..."   ทึกกี้บอกเสียงเรียบพร้อมกับโอบไหล่คยูฮยอนให้เข้ามาหาตนเองโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ขัดขืนอะไร  เพราะกำลังง่วงนอนอยู่


                        "...กะอีแค่พวกพี่ลงไม้ลงมือเล็กๆ น้อยๆ กับอิรุเท่านั้นเอง"


                        "คนป่าเถื่อน!!!"   คิบอมทำเสียงไม่พอใจสุดๆ ก่อนจะซูดน้ำมูกที่เกิดจากการร้องไห้


                        "...ป่านนี้เจ้าคนโดนอัดคงได้สาวมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำแล้วล่ะมั้ง"   แล้วทึกกี้ก็พูดเหมือนกับตาเห็น


                        "ไม่เชื่อจะไปดูก็ได้นะ......บอมมี่ ^ ^  "


                        "ก็เรื่องของเขาสิ...ไม่เห็นจะเกี่ยวกับผมสักหน่อยนี่"   ทำปากแข็งก่อนจะซุกหน้าเข้าหาดงฮี


                        "งั้นก็ดี...จากนี้ไปเราก็ห้ามไปเยี่ยมเจ้านั่นด้วยนะ"   ทึกกี้สั่งห้ามหน้าตาเฉย


                        "ไม่!"   คิบอมตอบกลับเสียงแข็ง


                        "แล้วไหนบอกว่าไม่สนหมอนั่นไง"   ฮันกยองย้อนถามน้องชายจอมดื้อ


                        "ก็...พวกพี่ทำกับเขาแบบนั้น...ก็ต้องแสดงน้ำใจให้เขาเห็นสิว่า super junoir ไม่ได้ป่าเถื่อนเหมือนกันหมดทุกคน"   คิบอมรีบหาข้ออ้างขึ้นมาทันที


                        "ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่ให้ด๊งกะคังอิน  ซีวอน  แล้วก็เยซองไปเยี่ยมเอง ^ ^  "   ทึกกี้ยกยิ้มกว้าง


                        "แค่นั้นก็ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม"   ฮีชอลยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย


                        "................"   คิบอมเงียบลง  จากนั้นก็เดินไปยังห้องของตัวเอง  แต่ก็ถูกเรียววุคที่สวนทางมาพอดีเรียกรั้งไว้ก่อน


                        "ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย"   เรียววุคทำหน้าเครียดก่อนจะดึงตัวกระต่ายบอมมี่เข้าไปในห้องตัวเอง


                        "เฮ้! เจ้าวายร้ายหนีหน้ากันอีกแล้ว"   ดองแฮเอ่ยขึ้นพร้อมกับจะลุกตามไปหาผู้ต้องสงสัยของตัวเอง


                        "ใจเย็นน่า  ไว้เรียววุคออกมาแล้วค่อยไกล่เกลี่ยก็ได้"    ชองมินรีบห้ามไว้ก่อนจะเกิดเรื่อง


                        "ยังไงหมอนั่นก็ไม่หนีนายไหนหรอก"


                        "ชิ!"   ดองแฮจิ๊ปากอย่างขัดใจ  ก่อนจะยอมนั่งเฉยๆ  แต่สายตาคุกรุ่นยังคงส่งเล็งไปในระยะทางที่เรียววุคอาจจะโผล่ออกมาได้ทุกเมื่อ


                        "...ยังไม่กลับกันอีกเหรอ"   คังเอ่ยถามหนุ่มทั้งสามแห่งวง TVXQ  หลังจากหลบไปหลับมางีบหนึ่งแล้ว


                        "ก็อยากจะกลับอยู่เหมือนกัน..."   ชางมินพูดพลางปรายตาไปยังแจจุงและจุนซู


                        "อ๋อ...อื้อ...เข้าใจ..."   หมี๊หมีผงกหัวรับรู้ก่อนจะยกมือขึ้นมาป้องปากเพราะยังง่วงอยู่เล็กน้อย


                        "หลับสบายเลยล่ะสิท่า"   ป๋าเข้ามากอดคอคังอินไว้พร้อมกับถ ามไถ่


                        "ก็...ดี..."   ตอบพลางขยับออกห่างจากฮันกยองอย่างมีมารยาทที่สุด


                        "เฮ้อ...ดงฮียังงอนฉันอยู่เลยอ่ะ  ทำไงดี"   ฮันกยองเอ่ยถามอย่างขอความเห็นพลางมองจ้องไปยังคนที่พูดถึง


                        "ไม่รู้..."   คังอินส่ายหัวไปมาขณะที่ตอบคำถาม


                        "ตกลงนายจะเลือกใครกันแน่เนี่ยฮันกยอง"   ฮีชอลแซวขึ้นอย่างสนุกสนาน  ส่วนป๋าก็ได้แต่ทำหน้าเหรอหรางงกับคำพูดของเพื่อน


                        "นั่นสิๆ...จะเลือกใครเอ่ย"   จุนขอร่วมแจมด้วยอารมณ์แบบเดียวกับฮีชอล


                        "พูดอะไรกันน่ะ...ป๋าเกิงก็ต้องเลือกดงฮีสิ"   หมี๊หมีเถียงแทนให้เสร็จสรรพ


                        "แต่ดงฮีจะเลือกฉันหรือเปล่านี่สิ..."   ฮันกยองตอบด้วยท่าทางจ๋อยลงเมื่อเห็นว่าคนที่พูดถึงกำลังติดหนึบอยู่กับชองมิน


                        "ผมไปหาอะไรกินข้างนอกนะ...มีใครจะฝากซื้ออะไรไหม"   คังอินเอ่ยถามขณะเดินไปถึงหน้าประตูแล้ว


                        "ขอฉันไปด้วยคนสิ..."   ฮันกยองเดินตามไปอย่างไร้เรี่ยวแรง


                        "หาอะไรก๊งแก้เซ็งกันเถอะ..."ว่าพลางกอดคอคังอินไปด้วย


                        "...ถ้าป๋าไปผมไม่ไป"   คังอินตอบพร้อมกับเดินเลี่ยงเข้ามาข้างในอยางรวดเร็ว  ทำเอาฮันกยองถึงกับงงขึ้นมาทันที


                        "...น้อยใจหรือว่างอนดีล่ะอาการแบบนี้น่ะ"   จุนซูหันไปถามแจจุงเมื่อเห็นท่าทางของหมี๊หมี


                        "ก็คงจะทั้งสองอย่างล่ะมั้ง"   แจจุงจับคางตัวเองพูดออกมาราวกับผู้เชี่ยวชาญ


                        "เป็นอะไรไปอ่ะ  ไม่พอใจอะไรฉันอีกล่ะ"   ฮันกยองเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสุดๆ


                        "งอนไงป๋า ^0^"   โลมาตะโกนบอกลั่นห้อง


                        "ไม่ได้งอนซะหน่อยนะ!!"   และแน่นอนปฏิกริยาตอบสนองของหมี๊หมีออกมาตามที่คาดไว้เป๊ะๆ


                        "งอนเรื่องอะไรล่ะ"   ทำเอาป๋างงหนักกว่าเก่าซะอีก


                        "โธ่เอ๊ย! คนเขาแสดงออกโต้งๆ อย่างนี้แล้วยังไม่รู้เรื่องอีก"   แจจุงพูดขึ้นอย่างขัดอารมณ์


                        "พูดอะไรกันเนี่ย!! บ้ากันไปใหญ่แล้ว!"   หมี๊หมียังคงดื้อเถียงทั้งๆ ที่หน้าเริ่มแดงขึ้นมานิดๆ


                        "อย่าฝืนใจตัวเองอย่างนั้นสิ...คังอิน"   ฮีชอลเริ่มไล่ต้อนหมี๊หมีอย่างสนุกสนาน


                        "ไม่ได้ฝืนนะ!!ไม่ได้ฝืน!!"   รีบส่ายหัวปฏิเสธเร็ซๆ ในทันทีที่ได้ยิน


                        "ไม่ได้ฝืนแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย ^o^  "   ชองมินขอร่วมด้วยช่วยกันแซว


                        "ไมได้หน้าแดงน้า!! >///<  "   ยิ่งพูดบอกปัดหลักฐานมันก็ยิ่งแสดงชัดออกมาเหมือนแกล้งกันอย่างงั้น


                        "คังอินน่ารัก!!"   แล้วโลมาก็พุ่งเข้าไปเกยหมี๊หมีแบบที่ไม่มีใครคาดคิด  จากนั้นป๋าเกิงก็หิ้วคอเสื้อดึงตัวโลมาอืดออกให้พ้นจากคังอิน


                        "เดี๋ยวก็บอกสุดที่รักของนายซะหรอกว่าโดนนอกใจอยู่น่ะ - -   "   ป๋าบอกด้วยสีหน้าเซ็งๆ


                        "555+...หวงเหรอป๋า"   แต่คนโดนหิ้วบวกขู่กับหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี


                        "เออ!"   ตอบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยความรำคาญไอ้ตัวยุ่ง  ส่วนหมี๊หมีนั้นกลับเดินไปหาดงฮีขณะที่ป๋ากับจุนซูคุยกัน


                        "อ๊า!คนหลายใจ!!"   แจจุงชี้หน้าฮันเกิงบวกแอ๊คติงมาเต็มร้อย


                        "อย่าไปสนใจที่พวกนั้นพูดกันล่ะ..."   คังอินเอ่ยพูดกับดงฮี


                        "เรื่องไหนล่ะ...เรื่องป๋าสองใจหรือเรื่องคังอินชอบป๋า ^ ^  "   พอได้ยินที่ด๊งตอบกลับมาหมี๊หมีเลยยืนแข็งไปเลย


                        "ถ้าเรื่องป๋าสองใจล่ะก็ไม่ต้องห่วงดงฮีของฉันหรอกนะ ^ ^   "    แล้วชองมินก็แสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนด้วยการโอบคอดงฮีจากทางด้านหลัง


                        "คังอินน่ะแหละถ้ามัวยึกยักอยู่อย่างเนี้ยมันจะไม่คืหน้าเอานะ"   ชองมินเอ่ยบอกอย่างหวังดี


                        "ป๋าไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเหรอ..."   หมี๊หมีหันไปหาตัวช่วยสุดท้ายของตัวเอง  แต่ฮันกยองยังคงอึ้งช็อคอยู่กับสภาพเหตุการณ์เมื่อครู่จึงไม่สามารถที่จะรับรู้อะไรได้อีกแล้ว


                        "เอาแล้วไงๆ ตายแน่ๆ !!"   แจจุงร้องออกมาเป็นเพลงกับอาการของเกิง


                        "ป๋า!!"   หมี๊หมีรีบเข้าไปเข่าตัวฮันกยองแรงๆ เพื่อเรียกสติ


                        "หา!เอ่อ..."   ฮันกยองมองหน้าคังอินด้วยท่าทางมึนๆ   หมี๊หมีโบกมือไปมาตรงหน้าป๋าเกิงด้วยความเป็นห่วง


                        "โอเคอยู่ป่ะเนี่ย"   ฮันกยงคว้ามือคนตรงหน้ามาจับไว้ในทันที  ก่อนจะจ้องตาอีกฝ่ายเหมือนกับคิดอะไรอยู่


                        "ป๋าปล่อย!!"   พอเห็นอาการของฮันกยองหมี๊หมีก็พยายามดึงมือตัเองกลับเพราะความไม่ไว้วางใจ


                        "เฮ้อ...แม้แต่นายก็ไม่สนใจฉันเหรอเนี่ย"   ฮันกยองถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินคอตกไปยังประตูทางออก


                        "เดี๋ยวออกไปหาอะไรทำแก้เซ็งก่อนนะ"   แล้วก็หันไปบอกพรรคพวกก่อนจะเดินออกไปจากที่ที่มีผู้คนมากมาย


                        "ท่าทางจะช็อคหนักนะน่ะ"   ทึกกี้เอ่ยขึ้นพลางทำหน้ากลุ้ม


                        "หวังว่าคงไม่เดินเหม่อให้รถชนหรอกนะ"   สิ้นคำบอกของลีดเดอร์วงเอสเจ  หมี๊หมีก็รีบไปลากฮนกยองกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว


                        "อะไรเหรอ..."   ฮันกยองหันมามองหน้าคนที่ฉุดตัวเองเอาไว้


                        "ป๋าอยู่นี่แหละ...เดี๋ยวเล่นเกมเป็นเพื่อนก็ได้"   ออกอาการเป็นห่วงเอามากๆ ทั้งสีหน้าและน้ำเสียง


                        "หืม...รบกวนนายเปล่าๆ..."   ฮันกยองตอบกลับน้ำเสียงเบาเลง  หมี๊หมีพยายามส่ายหัวปฏิเสธในทันทีทันใด


                        "ไม่รบกวนเลย...จริงๆน้า!"   จากนั้นฮันกยองก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อจะพยักหน้ารับเบาๆ


                        "เสร็จป๋าชัวร์..."   จุนซูหันไปกระซิบกระซาบกะแจจุง


                        "ของมันแน่อยู่แล้ว"   แจจุงตอบกลับด้วยท่าทางมั่นใจ


                        "แล้วพวกพี่จะกลับกันได้หรือยัง...ถ้ายังอยากจะอยู่ต่อล่ะก็ผมกลับก่อนนะ"   ชางมินเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าเซ็งโลกสุดๆ


                        "ได้ไงอ่ะ...ยังไม่เสร็จธุระเลย"   โลมาเอ่ยอ้างหน้าตาย


                        "ธุระที่ว่าน่ะอะไรล่ะ"   ชางมินก็ทำหน้าตายกลับไม่แพ้กัน


                        "ธุระก็แล้วกัน...ถามมากอยู่ได้"   ว่าแล้วก็รีบลี้หนีไปในทันที


                        "กระต่ายของนายไม่หายไปไหนหรอกน่า"   แจจุงบอกพลางแตะบ่าชางมินเบาๆ ก่อนจะชิ่งตามจุนซูไปด้วยอีกคน


                        "เฮ้อ! จะบ้าตาย"   ชางมินยกมือขึ้นทาบหน้าผากทำท่าปวดหัวขั้นรุนแรง


                        "อือ...พอแล้ว...เหนื่อย..."   นู๋คยูที่นอนซบเฮียทึกอยู่ละเมอออกมาแล้วก็หลับต่อไป  ทำให้ลีดเดอร์วงเอสเจยกยิ้มนิดๆ ให้กับทุกคนที่ได้ยิน


                        "ท่าทางจะหนักน่าดูเลยนะ  ถึงขนาดละเมอออกมาเลยเนี่ย"   ฮีชอลเอ่ยขึ้นพลางลูบไล้ผมนุ่มของคนที่นั่งอยู่บนตักตัวเอง  ฮยอคแจหลับสนิทอย่างไม่รับรู้สถานการณ์รอบข้างเอาเสียเลย


                        "แล้วของนายล่ะ...ทำไมถึงได้หลับสนิทซะขนาดนั้นเมื่อคืนอดนอนเหรอ"   ทึกกี้ถามพร้อมมองดูร่างบางที่นอนอยู่ข้างตัว


                        "งั้นมั้ง"   ตอบกลับมาด้วยท่าทางไม่ใส่ใจอะไรมากมายนอกจากคนตัวเล็กในอ้อมกอด


                        "ป๋า...เขาทำคะแนนเลยกันไปไกลแล้วนะ...มัวช้าเดี๋ยวก็แพ้หรอก..."   จุนซูกระซิบผ่านหลังป๋าไปอย่างรวดเร็ว  ฮันกยองหันมาปรายตามองอย่างไร้อารมณ์


                        "ยุ่งไรด้วย...มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยป่ะ"


                        "โห้...ที่เตือนเพราะความหวงดีน้า~!"   โลมาบอกอย่างรื่นเริง


                        "ระวังนาแม้แต่คังอินจะหลุดมือไปด้วย!"   แจจุงเองก็เข้ามาเป่าหูด้วยอีกคน  แต่ในระยะใกล้ชิดแบบนี้ฮันกยองก็เลยสามารถใช้ฝ่ามือมังกรตะปบหัวสองหนุ่มจอมจุ้นเข้าให้อย่างจริงจังและจริงใจ


                        "ป๋า...ใจเย็นๆ ฆ่าคนตายผิดกฏหมายนะ"   หมี๊หมีที่หอบเครื่องเล่นเกมออกมาจากห้องเอ่ยเตือน


                        "ไม่ผิดหรอก...เพราะฉันไม่ได้ฆ่าคน..."    ฮันกยองยังคงปรายสายตามองไปที่สองหนุ่มจอมยุ่ง


                        "เลิกสนใจพวกนั้นแล้วมาเล่นเกมกันดีกว่า ^ ^  "   หมี๊หมีเอ่ยชวนด้วยท่าทางมีความสุข


                        "อือ..."   แล้วฮันกยองก็ยอมตามคังอินไปแต่โดยดี


                        "ฉันว่าเฮียแกไม่ต้องทำคะแนนหรอก"   แจจุงเอ่ยขึ้นกับจุนซูพลางมองตามคนทั้งคู่ไปอย่างพินิจพิจารณา


                        "ไมอ่ะ..."   โลมามีอาการสงสัยเล็กน้อย


                        "ก็ดูเด่ะ! คนทำคะแนนจริงๆ มันคังนะเฟ้ย"   ไม่บอกเปล่ายังจับหัวของจุนซูหันตามด้วยความรวดเร็วจนเกิดเสียงดัง 'กร๊อบ' ตามมา


                        "แล้วหิวอะเปล่า...กินขนมไหม"   หมี๊หมีถามขณะจับจอยเกมเตรียมเล่น


                        "ยังไม่หิวหรอก  นายกินเหอะ"   ป๋าตอบกลับเสียงนุ่มสายตาจดจ่อที่จอภาพ


                        "...ไม่หิวเหมือนกัน"   พูดเสร็จก็หันไปสนใจจอภาพบ้าง


                        "ท่าทางจะไปได้ดีนะคู่นั้นน่ะ"   ฮีชอลเอ่ยขึ้นพลางแกล้งบีบจมูกไก่น้อยของตัวเอง  พอรู้สึกเหมือนกับขาดอากาศหายใจฮยอคน้อยก็ออกแรงดิ้นหน่อยๆ ก่นจะปรือตามองคนขี้แกล้ง  ชายหนุ่มมองกลับพลางยกยิ้มอย่างถูกใจ   คนถูกแกล้งเผยอปากเล็กน้อยเพื่อสูดรับเอาอ๊อกซิเจนเข้าปอด


                        "คิดว่างั้นเหรอ..."   ทึกกี้ถามด้วยสีหน้าไม่ค่อยแน่ใจนัก


                        "เอาน่า...ถ้าไม่มีอะไรมาดึงความสนใจไปจากเกิงซะก่อน  ต่อไปคังอินก็ไม่ต้องคอยเอาแต่แอบมองแล้ว"   ฮีชอลพูดด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ


                        "อันนั้นแหละที่ฉันห่วง..."   ทึกกี้บอกออกมาตามตรง


                        "ก็นะ...อันนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าคังอินจะดึงความสนใจเกิงได้ดีแค่ไหน"   ฮีชอลทำท่าไม่ยี่หระอะไร


                        "นั่นสินะ...แต่ถ้าคังอินเกิดท้อขึ้นมาเดี๋ยวฉันจะดูแลเองละกัน"   ทึกกี้ยกยิ้มออกเพ้อเล็กๆ


                        "ระวังคยูน้อยของนายจะช้ำใจเอาล่ะ"   บอกพร้อมกับยกยิ้มแล้วส่ายหัวกับเพื่อนตัวดี


                        "...ฉันก็แค่ล้อเล่นน่า"   พูดจบก็หอมแก้มคนหลับอยู่ต่อหน้าต่อตาเพื่อนอีกคน


                        "ฮึ...นี่ถ้าเจ้าตัวได้ยินที่นายพูดก่อนหน้านี้จะเป็นไงนะ"   ฮีชอลบอกพร้อมกับมองจ้องหน้าเพื่อนตัวเองด้วยสีหน้าอารมณ์ดี


                        "พูดอย่างงี้...นายจะบอกคยูหรือไง"   ทึกกี้ส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้เพื่อน


                        "เฮอะ! กลัวหรือไง...ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า...ถ้านายไม่ทำตัวให้มันน่าพูดล่ะก็"   ฮีชอลกดสายตามองอีกฝ่ายอย่างคาดเดาไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่


                        "อย่าทำให้เรื่องของฉันแย่ลงได้ไหม...กว่าจะได้ตัวคยูมาอยู่ข้งๆ มันเหนื่อยนะ"   ทึกกี้บอกพลางถอนหายใจยาว


                        "ก็บอกแล้วว่ามันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมนายน่ะ...."   ฮีชอลยกยิ้มมุมปาก  ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายหันมาแกล้งไก่น้อยของตัวเองต่อ


                        "อืม...อย่า...สิ...."   ฮยอคแจเปรยขึ้นเสียงเบาพร้อมกับปัดมือที่คอยลุกลานตัวเองออกอย่างรำคาญ  แต่ก็ไม่ค่อยจะเต็มแรงนัก


                        "ทำอะไรเกรงใจเพื่อนบ้างก็ได้นะ"   ทึกกี้บอกทั้งที่มองไม่วางตา


                        "ทำเป็นพูดดีตัวเองก็อยากเหมือนกันใช่ไหมล่ะ"   ฮอลมองทึกกี้อย่างรู้ทัน


                        "เออเด่..."   ตอบอย่างไม่คิดปิดบัง


                        "ถ้าจะทำอะไรกันก็ช่วยกรุณาอยู่กันในที่ส่วนตัวด้วยนะครับ"   ชางมินเห็นสภาพแล้วก็อดไม่ได้ที่เอ่ยเตือน


                        "โธ่เอ๊ย! ชางมินนายไม่ต้องไปว่าคนอื่นเขาหรอก  นายเองน่ะโต้งๆ ยิ่งกว่านี้อีกไม่ใช่เหรอ"   แจจุงทิ้งระเบิดลูกใหญ่ในบัดดล


                        "ใช่! จูบกันกลางบ้านเลยไม่ใช่เหรอไง"   จุนซูร่วมก๊วนด้วยตามคาด


                        "ถามจริงดิ!"   ทึกกี้มองเด็กหนุ่มร่างสูงอย่างทึ่งๆ


                        "โฮ่! ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะไอ้น้องชาย"   ฮีชอลเอ่ยขึ้นอย่างภูมิใจในตัวรุ่นน้องร่วมค่าย


                        "เฮ้อ!"   เมื่องานเข้าตัวชางมินก็ได้แต่ถอนใจไปตามระเบียบ


                        "แล้วทำอย่างงั้นคนโดนจูบไม่ว่าอะไรเลยเหรอ"   ทึกกี้ถามต่อเพราะยังไม่หมดข้อสงสัย


                        "ก็งอนไปตามระเบียบน่ะแหละครับ"   ชางมินตอบกลับด้วยเห็นเป็นเรื่องธรรมดา


                        "...แล้วถ้าจูบแบบเนิ่นนานอย่างงี้จะมีแรงงอนไหมน้า..."   ทึกกี้ย่นพูดขึ้นพลางจับคางอย่างใช้ความคิด


                        "อยากรู้ก็ลองดูสิ"   ฮีชอลไม่ห้ามกลับยุขึ้นมาเสียอย่างนั้น


                        "นายลองก่อนสิ..."   ทึกกี้บอกพลางมองหน้าเพื่อนสนิท


                        "ก็ฉันไม่อยากรู้นี่นา ^ ^  "   ฮีชอลตอบกลับมาหน้าระรื่น


                        "เอางี้...มินกลับไปลองทำดูละกัน"   ทึกกี้หันไปยิ้มกว้างให้ชางมิน


                        "พี่อยากรู้ก็ทำเองสิครับเรื่องอะไรมาโยนให้ผมล่ะ...หรือว่าไม่กล้า"   ชางมินถามกลับหน้าตาย


                        "...จะให้ทำฟรีๆ เหรอ"   ทึกกี้เริ่มมีข้อแม้


                        "แล้วมันฟรีตรงไหนล่ะ  ตัวเองก็ได้กำไรอยู่เห็นๆ"   ชางมินเอ่ยอย่างเซ็งๆ


                        "...ฮีชอลถ้าฉันทำ...นายห้ามบอกเรื่องที่ฉันพูดเล่นเมื่อกี้โอเค!"   ทึกกี้หันไปขอความร่วมมือจากอีกคน


                        "ถ้าฉันช่วยแล้วฉันจะได้อะไรล่ะ"   ไม่ได้รับคำแต่โดยดีกลับหาผลประโยชน์อีกต่างหาก


                        "อืม...เลี้ยงข้าวเป็นไง"   ทึกกี้บอกเสียงเรียบ


                        "งั้นขอฉันเลือกร้านเองแล้วกัน ^ ^"   ยังคงต่อรองไม่เลิก


                        "ห้ามแพงมากนะ...ไม่มีงบพอ..."   พูดพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังค์มาดูไปด้วย


                        "โอเค"   ฮีชอลรับคำง่ายๆ


                        "สุดยอดเลยต่อรองกันอยางนี้เลยเหรอเนี่ย"   แจจุงมองอย่างทึ่งๆ


                        "นั่นดิ..."   จุนซูเองก็ทึ่งไม่แพ้กัน


                        "เอ้า! งั้นก็เริ่มกันเลยดีกว่า"   ฮีชอลให้สัญญาณอย่างสนุกสนาน


                        "...ฉันขออะไรอีกหน่อยได้ไหม^ ^"   ทึกกี้บอกพลางยกยิ้มนิดๆ


                        "อะไรอีกล่ะ"


                        "ปลุกซูบารุจังขึ้นมาดูด้วยดิ"


                        "แล้วมายุ่งอะไรกะคนของฉันด้วย  เดี๋ยวเสียเด็กหมด - -  "   ฮีชอลตอบกลับมาหน้าตาย


                        "ได้ไงอ่ะ...คยูน้อยของฉันก็เด็กน้า"   ทึกกี้เลิกคิ้วสูง


                        "งั้นก็เป็นอันว่าเรื่องนี้ยุติแล้วกัน"   ฮีชอลยักไหล่น้ยอๆ ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว


                        "ก็ดี...จะได้ไม่เสียตังค์ด้วย"   ทึกกี้เองก็งกอยู่เป็นทุนเดิมเหมือนกัน


                        "แต่ฉันก็สามาถบอกเรื่องนั้นกับคยูได้สินะ ^ ^  "  ฮีชอลยิ้มเย็น


                        "ทำได้ก็ลองเด่..."   ทึกกี้เหล่ตามองเพื่อนอย่างนักเลง  จากนั้นฮอลก็หันไปสะกิดคยูฮยอนให้ตื่นในทันที


                        "อือ..."   ร่างบางปรือตามองคนปลุกพลางขยี้ตาอย่างง่วงงุน


                        "ฉันมีเรื่องจะบอกน่ะคยู..."   ฮอลเอ่ยขึ้นมาพลางหันไปยักคิ้วให้ทึกกี้


                        "...เรื่อง...อะไร..."   ถามทั้งๆ ที่ยังไม่ตื่นดี


                        "ทึกกี้คิดจะนอกใจนายน่ะ"   พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเพื่อให้ดูจริงจัง


                        "ห๊า!!"   พอได้ยินคำพูดของฮีชอลคยูฮยอนก็ตื่นเต็มตาก่อนจะหันไปหาทึกกี้


                        "ถ้าไม่เชื่อที่ฉันพูดล่ะก็ลองถามเจ้าพวกที่นั่งอยู่ดูก็ได้นะ  ทุกคนได้ยินกันหมดน่ะแหละ"   ฮีชอลยังคงใสไฟสุมไฟให้มันร้อนระอุกว่าเดิม

                        
                        "พี่ทึก...พี่..."   แต่ร่างบางยังไม่ทันได้ว่าอีกฝ่ายเพราะโดนปิดปากกันต่อหน้าผู้คนมากมาย  ทึกกี้จูบแบบลึกซึ้งควานหาความหวานจากคยูฮยอนจนร่างบางตัวอ่อนลง  ทำให้ต้องโอบคอชายหนุ่มไว้เป็นที่ยึดเหน่ยว  ชองมินรีบใช้มือปิดตาดงฮีไว้ทันที


                        "โอ๊ะ! ร้ายจริงๆ เลยแฮะเฮียทึกเนี่ย"   แจจุงออกอาการตื่นเต้นตาม


                        "...ยิ่งกว่ามินมินอีกอ่ะ"   จุนซูเองก็ออกท่าทางค้างกับการกระทำของเฮียทึกกี้


                        "...อื้อ..."   พอเห็นว่าคนถูกจบใกล้จะหมดอากาศหายใจ  ทึกกี้จึงละปล่อยให้ร่างบางได้พักสูดอากาศเข้าปอด  คยูฮยอนเผยอปากบวมแดงช่วยในการหายใจและปรือตามองชายหนุ่มอย่างคาดโทษ


                        "...เออ...ขอตัวไปเคลียร์กันสักครู่นะ ^ ^  "   ทึกกี้บอกก่อนจะอุ้มคนตัวอ่อนหมดแรงเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว


                        "น้าน~!  ชางมินนายแพ้เฮียทึกแล้วล่ะ"   แจจุงหันไปหาน้องชายในทันที  ชางมินถึงกับชักสีหน้าไปไม่ถูกกันเลยทีเดียวพร้อมกับถอนหายใจออกมาหนักกับสภาพที่เป็นอยู่


                        "เสียดายอ่ะ...ไม่ได้เอากล้องมาด้วย > <   "   โลมาแทบจะลงไปกลิ้งเลยก็ว่าได้


                        "อะไรกันเนี่ย  อดกินของฟรีซะและ"   อีชอลพูดเหมือนเสียดาย  ก่อนจะช้อนตัวคนหลับปุ๋ยไปบ้าง


                        "ก็เลยจะกินลูกไก่แทนเหรอครับ"   จุนซูเสนอหน้าถามขึ้น


                        "ใช่"   ตอบกลับมาหน้าตาเฉยพร้อมกับยกยิ้มไม่สะทำสะท้านอะไรเลย


                        "...นั่นเพื่อนสนิทผมนะ"   โลมาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเสียดายนิดๆ


                        "ก็แค่เพื่อนสนิท ^ ^  "   พูดจบก็เข้าห้องไปทันที


                        "เข้าห้องไปกันหมดแล้วเหรอเนี่ย..."   ซีวอนที่เพิ่งปรากฏตัวออกมาเอ่ยถามเสียงเรียบ


                        "อย่างนี้ค่อยสงบสุขหน่อย"   เยซองบอกบ้าง


                        "แหม...หายกันไปนานเลยนะ"    แต่แจจุงก็เริ่มภาระกิจก่อความวุ่นวายอีกจนได้


                        "อืม...ก็ไปหาอะไรกินน่ะ  แล้วก็รำคาญคนแถวๆ นี้ด้วย"    ซีวอนตอบหน้าตาย


                        "เฮียทึกกับพี่ฮีชอบไม่อยู่แล้วเหรอ"   คิบอมที่เดินออกมาพร้อมกับเรียววุคเอ่ยขึ้นพลางมองหาคนที่ถามถึง


                        "หายเข้าห้องกันไปหมดแล้วล่ะ"   ดงฮีเอ่ยตอบ


                        "รีบไปกันเถอะบอม"   เรียววุคเร่งเร้ากระต่ายบอมมี่


                        "อืม"   คิบอมพยักหน้ารับพร้อมกับจะเดินไป


                        "เดี๋ยว!"   ทั้งกระตายบอมมี่และเรียววุคต่างชงักหยุดนิ่งอัตโนมัติตามเสียงที่ดังขึ้น  ทั้งองหันมองหน้ากันด้วยสีหน้าเจื่อนๆ


                        "มีไรเหรอพี่ด๊อง ^ ^  "   กระต่ายบอมหันมาส่งยิ้มหวาน


                        "จะไปไหนกันน่ะ...นายคิดจะหนีความผิดใช่ไหมเรียว"   ฟิวชั่นดองแฮหรี่ตาองอีกหนึ่งสมาชิกอย่างจับผิด


                        "ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้เอาไป"   เรียววุคตอลกลับหน้าเรียบ


                        "คืเราจะไปเช่าหนังสือกันน่ะ  ไปก่อนนะ"   คิบอมรีบดึงมือเรียววุคให้เดินตามตัวเอง


                        "จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น..."   ดองแฮพูดเสียงเข้มพลางเอียงคอ 45  องศาตามนิสัย


                        "งานนี้ฟิวชั่นเป็นอันต้องแยกวงแหง"   แจจุงกระซิบกระซาบกับจุนซู


                        "...ปกติก็เหมือนแยกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ..."   จุนซูกระซิบตอบกลับ


                        "แยกยังไงอ่ะ"   แจจุงออกอาการงงเล็กน้อย


                        "ก็เห็นชองน่ะติดอยู่กะชินดงยิ่งกว่าเงาตามตัวอีกไม่ใช่เหรอ"


                        "เอ๊าะอ๋อ...เป็นอย่างนี้นี่เอง"   แจจุงพยักหน้าทำความเข้าใจ


                        "ตกลงนายจะเอายังไกันแน่ด๊องกะอีแค่แผ่นหนังแผ่นเดียวทำอย่างกะมันเป็นของราคาหลายสิบล้านอย่างนั้นแหละ"   เรียววุคชักฉุนขึ้นมาเสียแล้ว


                        "นายไม่เข้าใจหรอกเรียว  ถึงมันจะเป็นแค่แผ่นหนังแต่มันก็สำคัญกับฉันมากนะ"   ดองแฮพูดด้วยเสียงนิ่งเรียบ


                        "แล้วมันสำคัญยังไงล่ะ"   ชองมินแทรกถามขึ้นมาทั้งที่ตัวเองยังจี๋จ๋าอยู่กับดงฮีอยู่เลย  ทำเอาเพื่อนทั้งสองหันมองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร


                        "ก็แผ่นหนังอันเนี้ยฉันได้รับมาจากมือโจวจินฉือเลยนะ"   ด๊องบอกพร้อมกับจ้องกล่องหนังเปล่าๆ ที่อยู่ในมือ


                        "จริงดิ!!"   แจจุงร้องออกมาอย่างทึ่งๆ


                        "......- -  "   ส่วนจุนซูได้แต่ทำหน้านิ่ง  ส่วนพวกที่เหลือไม่ต้องพูดถึงมีแต่อึ้งกับอึ้งตามๆ กัน


                        "...ถ้ามันสำคัญขนาดนั้นทำไมเอามาวางไว้แถวนี้ล่ะ"   ซีวอนเอ่ยถามด้วยความสนใจ


                        "ฉันเปล่าเอามาวางนะ  ฉันว่าฉันเก็บไว้ในห้องนี่นา...ก็เรียวน่ะแหละ"   ดองแฮยังคงปักใจเชื้อว่าเรียววุคเป็นคนร้าย


                        "เอ๊ะ! พูดไม่รู้เรื่องหรือไง  ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่ฉัน! พูดงี้มาต่อยกันเลยดีกว่า!"   เรียววุคชักทนไม่ไหวถลกแขนเสื้อตัวเองขึ้นอย่างนักเลง


                        "อ๊ะ! ใจเย็นๆ สิพี่เรียววุค"   กระต่ายบอมมี่รีบเข้าไปห้ามอย่างรวดเร็วก่อนจะเกิดเรื่อง


                        "เข้ามาเลยฉันไม่กลัวหรอก!"   ดอแฮก็รับคำท้าอยางเต็มใจพร้อมกับกวักมือท้าทาย


                        "ก็ดีเหมือนกัน  จะได้สั่งสอนคนปากแข็งอย่างนายซะเลย"   ว่าพลางจะตรงเข้าใส่เรียววุค  แต่ก็ถูกคิบอมยืนขวางหน้าเอาไว้


                        "ผมเอง! ผมหยิบออกาดุองไม่เกี่ยวกับพี่เรียววุคเค้าหรอก"   กระต่ายบอมมี่ก้มหน้าสำนึกผิด


                        "อย่าทำอะไรพี่เรียวเค้าเลยนะครับ"   คิบอมเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายอย่างขอร้อง  ทำให้ดองแฮที่ง้างหมัดค้างไว้ต้องทิ้งมือลงอย่างงงๆ


                        "อ้าว...แล้วทำไมเรียวต้องทำตัวมีพิรุทด้วยล่ะ  อย่างงี้ก็ถูกเข้าใจผิดอะดิ"   ชองมินถามขึ้นอย่างสงสัย


                        "พอดีพี่เรียวเค้าบังเอิญไปเห็นตอนผมเข้าไปเอาแผ่นดีวีดีที่ห้องพี่ด๊องพอดีน่ะ  แล้วผมก็เลยขอร้องพี่เค้าไว้น่ะ"   คิบอมตอบแทนให้เสร็จสรรพ


                        "ก็แล้วทำไมนายถึงได้ต้องปิดด้วยล่ะ"   ชองมินยังคงสงสัยไม่เลิก


                        "ก็แผ่นนี้พี่ด๊องหวงใช่ไหมล่ะ  ผมรู้ว่าถ้าขอดีๆ คงไม่ให้ยืมแน่ๆ เลย"   คิบอมตอบกลับเสียงเบา


                        "อ๋อ...เข้าใจละ"   ชองมินพยักหน้ารับเหมือนกับนักสืบที่คลี่คลายเรื่องราวทุกอย่างได้แล้ว


                        "และในที่สุดก็เจอตัวคนร้ายจนได้"   แจจุงพูดใส่ไมค์ล่องหนด้วยสีหน้าท่าทางตื่นเต้น


                        "งั้นเราก็กลับบ้านกันเถอะ"   จุนซูเอ่ยชวนกลับหน้าตาเฉย   จากนั้นชางมินก็ลุกขึ้นเดินนำทันทีโดยไม่พูดตอบรับแสดงความคิดเห็นใดๆ ทั้งสิ้น


                        "จะกลับแล้วเหรอ"   แจจุงทำหน้าเสียดายนิดๆ


                        "กลับเหอะ...ไว้ค่อยมาใหม่อีกที"   โลมาบอกจบก็เดินตามชางมินไปบ้าง  แล้วแจจุงก็ต้องเดินตามไปอีกคน


                        "ขอโทษนะพี่ดงแฮ...แต่ว่าผมทำแผ่นมันหักไปแล้วอ่ะ"   คิบอมพูดขึ้นหลังจากที่สมาชิก TVXQ ออกไปจากห้องพักคอนโดเอสเจกันแล้ว  เรื่องราวของเหล่าซูจูยังคงดำเนินต่อไป


                        "เมื่อกี้นายได้ยินเสียงเหมือนใครร้องโหยหวนไหม"


                        "...หูแว่วไปเองอ๊ะเปล่า"   จุนซูเอ่ยบอกแบบไม่ใส่ใจ


                        "จะหาเรื่องกลับเข้าไปใหม่หรือไงครับ"   ชางมินมองแจจุงอย่างจับผิด


                        "เปล่าซะหน่อย..."   พูดจบแจจุงก็หันไปมองทางที่จากมาอย่างสงสัย   กอ่นจะเลิกสนใจไปในที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×