ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #50 : เรื่อง...

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 51





                        " ยูชอน~!!! " หมีน้อยตะโกนลั่นบ้านเมื่อไม่เห็นว่ามีใครอยู่ในบ้านเลยสักคนนอกจากตัวเองกับยูชอน


                        "ไรเหรอ..."  คนที่นอนกินขนมและดูทีวีไปด้วยเอ่ยถามทั้งที่สายตายังจ้องหน้าจออยู่


                        " ทั้งแจจุง  จุนซู ชางมิน แม้แต่คุณอิรุไม่รู้หายไปไหนกันหมด  หารอบบ้านแล้วก็ไม่เจอ "  หมีน้อยเอ่ยบอกสีหน้าลนลาน


                        " แล้วไงอ่ะ " ถามพลางหยิบป๊อกกี้ใส่ปากไม่ให้ขาดช่วง


                        " แล้วนายไม่สงสัยหรือไงว่าพวกนั้นไปไหนกัน "     หมีน้อยลงไปนั่งจุ้มปุ๊กเกาะขอบเตียงจ้องไปที่เพื่อนร่างบาง


                        "...ยุนโฮ...เราไปเที่ยวกันเถอะ ^ ^  "      ยูชอนเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มกว้าง


                        " นี่นายไม่กังวลอะไรเลยเหรอ " คิ้วเรียวขมวดมุ่นมองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัย


                        "...กังวลไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมาล่ะ..เวลาแบบนี้มันต้องไปดริ้งค์ให้หนำใจเลยต่างหาก "


                        "งั้นก็เชิญนายไปดริ้งค์คนเดียวเถอะ  ฉันไม่เอาด้วยหรอก "   ยุนโฮส่ายหน้าไปมาเบาๆ


                        "กะจะนั่งรอสามีกลับบ้านเหรอ... " ยูชอนเท้าคางมองเพื่อน


                        " จะบ้าเหรอไง! ฉันแค่ไม่ชอบดื่มเท่านั้นเอง "  ยุนโฮจ้องกลับอย่างเคืองๆ กับคำพูดของเพื่อน


                        " นายเองก็ระวังตัวเหอะ   ชอบทำตัวเอาแต่ใจ ระวังชางมินจะไปหาคนอื่นล่ะ"  หมีน้อยแกล้งพูดออกไปอย่างหมั่นไส้


                        " แล้วที่ชางมินทำอยู่ตอนนี้มันต่างกับที่ยุนโฮพูดตรงไหนกัน "   ร่างบางบอกพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู


                        " แล้วนายไม่คิดว่าที่มินทำน่ะเป็นเพราะตัวนายเองบ้างเหรอ " ยุนโฮยังคงถามต่อไม่เลิก


                        " ...ถ้าทางนั้นเขาทนรับนิสัยแบบนี้ของฉันไม่ได้...เราก็ควรเลิกกันแล้วล่ะ "   ยูชอนเอ่ยบอกเสียงเบา


                        " งั้นฉันไปบอกให้เอาไหม " หมีน้อยถามตาแป๋ว


                        " ตามใจเลย... "  ร่างบางพูดบอกก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจกับโทรทัศน์ต่อ


                        " ทำเป็นปากแข็งไป ถ้าถูกบอกเลิกขึ้นมาจริงๆ ตัวเองน่ะแหละจะมานั่งร้องไห้ฟูมฟาย "  พูดจบยุนโฮก็หยิบขนมของยูชอนขึ้นมากิน


                        " ก็คงเป็นอย่างนั้นแหละ...แต่ก็เตรียมใจเอาไว้บ้างแล้วล่ะว่าจะถูกทิ้งน่ะ "  ร่างบางบ่นเปรยออกมาพลางซบหน้าลงกับเตียง

                        
                        " ถ้าเป็นแบบนั้นจริงไม่คิดจะรั้งชางมินเอาไว้เลยเหรอ...แม้สักนิดก็ไม่มีเลยเหรอ "  หมีน้อยทำท่าประกอบด้วย


                        " ...เมื่ออยู่กับฉันแล้วชางมินไม่มีความสุขจะรั้งเอาไว้ให้ลำบากใจอีกทำไมล่ะ " ยูชอนเอ่ยตอบเสียงเบา


                        " น่าสงสารชางมินชะมัดเลยแฮะ ทั้งที่อุตส่าห์พยายามมาแทบตายกว่านายจะยอมคบด้วย  แต่ก็ถูกนายปล่อยมือไปได้ง่ายๆ...ถ้าฉันเป็นนายนะ  ฉันจะไม่ยอมให้ชางมินหลุดมือไปให้ใครหรอก "   หมีน้อยพูดกบอกตามความคิดของตัวเอง


                        " ฉันไม่ได้ปล่อยมือซะหน่อย...เรื่องจะคบกันหรือเลิกกันฉันให้ชางมินเป็นคนตัดสินใจคนเดียวเท่านั้นแหละ  "


                        " จะบอกว่าทำตัวเป็นคนรักที่ดีว่างั้นเถอะ "   พูดจบก็เลียนิ้วตัวเองหลังจากเลิกกินขนมแล้ว


                        " ก็ไม่เชิง...แต่ก็เหมือนเห็นแก่ตัวนะ  เพราะถ้าเกิดชางมินอยากจะเลิกแต่เขาไม่กล้าพูดก่อน ฉันก็จะไม่บอกเลิกก่อนเด็ดขาด " ยูชอนบอกขณะเริ่มขดตัวเข้าไปในกองผ้าห่ม


                        " แค่นั้นชางมินก็ดีใจแย่แล้ว "  หมีน้อยคลี่ยิ้มก่อนกระโจนตัวลงบนเตียงนุ่ม


                        " นี่...เบาๆหน่อยสิ "  ยูชอนส่งเสียงว่ามาจากใต้ผ้าห่ม


                        " ก็หมั่นไส้ยูชอนอ่ะ! ชางมินคอยเอาอกเอาใจอยู่ทุกวัน  ผิดกับแจจุงเลยชอบกวนประสาท"   หมีน้อยบ่นถึงอีกคนอย่างขัดใจก่อนจะกลิ้งลงไปอยู่ใต้ผ้าห่มบ้าง


                        "แจจุงเอาอกเอาใจยุนโฮมากกว่าชางมินเอาอกเอาใจฉันซะอีก...ฉันก็อิจฉาเหมือนกันนะ"   กระต่ายบอกเถียง


                        "ตรงไหนกัน  แจจุงมีแต่เซ้าซี้กวนประสาทน่ะสิไม่ว่า"   หมีน้อยมู่ปากเถียงกลับบ้าง


                        "ชางมินไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย"


                        "ชางมินคอยแต่แกล้งฉันแถมยังขี้งอนด้วย...แจจุงน่ะช่างเอาใจแถมยังใจดีมากๆ ด้วยต่างหาก"    ยูชอนเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน


                        "ก็ใช่น่ะสิ! แจจุงเขาเอาใจแต่นายน่ะแหละ"    ยุนโฮเริ่มแสดงอาการงอนคนที่พูดถึง  มือเรียวดึงผ้าห่มมาปิดไว้ครึ่งหน้า


                        "ก็เหมือนกันน่ะแหละ...ชางมินก็ตามใจยุนโฮไปซะทุกอย่างเลยไม่ใช่เหรอ"   กระต่ายน้อยเองก็เริ่มทุบเตียงระบายอารมณ์


                        "ไม่เหมือนกันซะหน่อย  ชางมินไม่ได้ตามใจฉัน  เขาก็แค่ทำตัวเป็นน้องชายที่ดีเท่านั้นเอง"   หมีน้อยกล่าวแก้ตัวแทนให้เสร็จสรรพ


                        "แต่แจจุงน่ะเอาใจแต่นาย  ไม่เคยเอาใจฉันบ้างเลย"   ว่าแล้วก็คว่ำหน้าเข้าหาหมอนหนุนอย่างขัดใจ


                        "ชางมินเองก็เข้มงวดกับฉันตลอด...แต่ทีกับยุนโฮไม่เห็นจะเป็นแบบฉันเลยนี่นา"   กระต่ายน้อยบอกพลางถอนหายใจยสว

                        
                        "เกลียดแจจุงแล้ว!"   คนที่ซุกหน้าอยู่กับหมอนเริ่มร้องไห้ออกมา


                        "ฉันก็เกลียดชางมินแล้วเหมือนกันแหละ"   ยูชอนเองก็เริ่มสะอื้นตาม


                        "กลับมาจะไม่พูดด้วยเลยคอยดูสิ! ...ฮือ..."   หมีน้อยปล่อยโฮออกมาเหมือนกับเด็กๆไม่มีผิด

     

     

     

     

     

                        "ยังไงก็เตรียมใจเอาไว้บ้างนะครับ"   คุณหมอสูงวัยเอ่ยบอกผู้จัดการส่วนตัวของอิรุด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


                        "...ครับ...เข้าใจแล้ว"   ชายหนุ่มโค้งตัวให้คุณหมอก่อนจะเดินออกมาจากห้อง


                        คิบอมนั่งเงียบอยู่นานแล้วตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาล  เอาแต่จ้องดูชายหนุ่มอย่างนั้นไม่ยอมขยับไปไหน  สีหน้านิ่งจนเกินจะคาดเดาได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู๋


                        "ผมว่าปล่อยให้คิบอมอยู่ในนี้ไปสักพักก่อนดีกว่าไหม"   ชางมินเอ่ยบอกกับซีวอนและเยซองพลางหันมองไปที่คิบอมด้วยสายตาเห็นใจเป็นอย่างมาก


                        "งั้นพวกเราออกไปก่อนก็ได้..."   ซีวอนพูดพลางโอบไหล่เยซองเอาไว้และออกแรงบีบเบาๆ  เยซองหันไปสบตากับร่างสูงด้วยความเป็นห่วงน้องชายเกือบสุดท้องของวงเอสเจ


                        "คิบอมโตแล้วนะ...ไม่ต้องเป็นห่วงมากหรอก"   ซีวอนยิ้มเล็กน้อยส่งให้ร่างบาง  เยซองพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนร่างสูจะพาเดินออกไปนอกห้องโดยมีชางมินเดินตามออกไปด้วย


                        "...ขอโทษนะ"   คิบอมเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากที่ทุกคนออกไปกันหมดแล้ว  มือเรียวไล้เบาๆ ไปตามรอยฟกช้ำด้วยความรู้สึกผิดอย่างมาก  ดวงตาเรียวสั่นไหวเมื่อจ้องดูตามร่องรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นเพราะตัวเอง


                        "...อึ่ก...เจ็บ..."   คนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้พอเริ่มรู้สกตัวก็ส่งเสียงครางเบาๆ ออกมาให้ได้ยิน


                        "อ่ะ...ขอโทษนะ...เป็นไรมากไหม"   คิบอมรีบชักมือออกทันที  เพราะคิดว่าตัวเองคงจะเผลอแตะแผลแรงเกินไป


                        "...คิบอม"   อิรุมองร่างบางด้วยสายตาตกใจระคนแปลกใจอย่างมาก


                        "เป็นไงบ้าง"   คิบอมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยยิ่งนัก


                        "เจ็บมากไหม...ขอโทษแทนพวกพี่ๆ ด้วยนะ"   สีหน้าแสดงออกถึงความสำนึกผิดอย่างจริงใจ


                        "ไม่เป็นไรมากหรอก...อย่าใส่ใจเลย"   ร่างสูงบอกพลางหลับตาลงด้วยท่าท่างเหนื่อยล้า


                        "เพราะผม...คุณถึงเป็นแบบนี้"   เอ่ยโทษตัวเองพลางก้มหน้าลงอย่างหงอยๆ


                        "ไม่ใช่เพระาคิบอมหรอกอย่าโทษตัวเองเลยนะ"   อิรุพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ


                        "ถ้าผมไม่ไล่คุณกลับไป  พวกพี่ๆ ก็คงจะไม่มาเจอคุณ  แล้วก็ทำร้ายคุณแบบนี้หรอก"   กระต่ายคิบอมยิ่งก้มหน้าลงต่ำหนักกว่าเดิม


                        "...พี่เป็นคนเดินลงไปหาพวกพี่ๆ ของเราเองต่างหาก"   ชายหนุ่มร่างสูงบอกเสียงเรียบ


                        "ทำไมล่ะ?"   บอมมี่ขมวดคิ้วแปลกใจในทันทีกับคำตอบของชายหนุ่ม


                        "ไม่รู ้สิขามันพาเดินไปเอง"   อิรุตอบอย่างไม่ใส่ใจสักเท่าไร


                        "...................."   คิบอมเงียบลงเพราะรู้ดีว่าสาเหตุมันต้องมาจากตัวเองแน่


                        "พี่ไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ...เรากลับไปเถอะ"   ชายหนุ่มพูดบอกก่อนจะพยายามพลิกตัวหันหนีร่างบาง  ฟังจากคำพูดของอีกฝ่ายคงคิดได้อย่างเดียวว่าคิบอมรู้สึกผิดและสงสารตนเองถึงได้มานั่งเฝ้าแบบนี้  เพราะปักใจเชื่อว่าอีกคนไม่ได้รู้สึกอะไรไปมากกว่านี้  ส่วนคิบอมก็ได้แต่นั่งเงียบไม่ยอมขยับไปไหน  นัยต์ตาใสเริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสที่รื้อขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่  ก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างรวดเร็ว  เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มได้รับรู้ว่าตัวเองกำลังแอบร้องไห้


                        "ป่านนี้พี่ๆ เราคงเป็นห่วงกันใหญ่แล้วมั้ง...รีบกลับไปก่อนจะโดนดุดีกว่านะ"   อิรุเอ่ยเตือนบอมมี่ดวยความเป็นห่วงแต่ก็ไม่กล้าจะหันกลับไปมอง


                        "...ช่างพวกเขาเถอะ...เกลียดแล้วคนแบบนั้นน่ะ"   พูดเสียงติดสั่นเครือเล็กน้อย


                        "...ทะเลาะกันไม่ดีหรอกนะพี่ว่า...พวกนั้นเขารักบอมมากเลยรู้ไหม"   ชายหนุ่มเอ่ยพูดตามความจริง


                        "แต่พวกเขาก็ทำกันเกินไป  ไม่เห็นจะต้องทำร้ายคุณแบบนี้เลย"   คนบอกทำหน้ามู่ไม่พอใจ


                        "พี่สมควรโดนแบบนี้แล้วแหละ..."   คนเจ็บขยับหันกลับมาจ้องหน้ากระต่ายบอมมี่


                        "ไหนๆ ก็เจ็บใจแล้วก็เจ็บตัวไปด้วยเลยจะเป็นไรไปล่ะ"


                        "พูดอย่างกะพวกคนหมดอาลัยตายอยากไปได้"   ตาใสจ้องมองหน้าชายหนุ่ม


                        "ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง..."   พูดจบก็ถอนหายใจยาว  ถ้าหนุ่มน้อยบอมมี่มีใจให้ตนเองบ้างก็คงจะดีจะได้ไม่ลำบากใจเวลาคุยกันแบบนี้  แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือการทำตัวน่ารักให้คนอกหักตกหลุมรักลึกลงไปกว่าเดิมอย่างตอนนี้นั่นแหละที่ทำให้อิรุแย่


                        "แล้วทำไมถึงได้หมดอาลัยตายอยากล่ะ"   คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย  ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าสาเหตุน่ะเกิดจากตัวเอง


                        "แล้วเราจะอยากรู้ไปทำไมกัน..."   ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารักไปกันใหญ่ถ้าไม่ติดว่าเจ็บอยู่คงลุกไปหอมแก้มแล้วรับรองได้เลย


                        "ก็สงสัยอ่ะ"   ตอบออกมาอย่างใสซื่อ


                        "..งั้นก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ สิ"


                        "ทำไมต้องยื่นด้วย  กำลังวางแผนอะไรอยู่ใช่ม้า"   หรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิดพร้อมกับชี้นิ้วไปด้วย


                        "อือ...ก็กะว่าจะขโมยหอมแก้มเราน่ะแหละ"   ตอบอย่างไม่คิดจะปิดบัง


                        "คนฉวยโอกาส...///.."   พอถูกตอบออกมาตรงๆ ก็กลับเขินอายเสียอย่างนั้น  ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายหอมแก้มหรอกแค่นี้ก็หน้าแดงจะแย่


                        "...ก็เพราะรู้น่ะสิว่าถ้าขอดีๆ เราก็ไม่ยอมอยู่แล้ว"   พอเห็นท่าทางของร่างบางก็นึกเสียดายที่ปล่อยให้ตัวเองเจ็บหนักจนถึงขนาดขยับตัวเร็วๆ ไม่ได้เพราะอยากจะดงกระต่ายบอมมี่เข้ามากอด


                        "ก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนี่นา...ก็ต้องไม่ยอมสิ..."   คนพูดก้มหน้าลง  เพราะเลือดกำลังสูบฉีดกระจายทั่วใบหน้าจนเห็นเด่นชัดถึงสีเรื่อที่แก้มใสทั้งสองข้าง


                        "...บอม...อึ่ก..."   พยายามจะลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ฝืนร่างกายไม่ไหว  มือที่หมายจะยื่นไปหาร่างบางจึงต้องเปลี่ยนมาจับตรงบริเวณแผลที่ก่อความเจ็บปวดแทน


                        "อ๊ะ!"   กระต่ายบอมมี่รีบเข้าไปประคองตัวชายหนุ่มอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง


                        "อย่าขยับสิ  เจ็บแผลเลยเห็นไหม"   ทำสีหน้าเป็นกังวลออกมาอย่างไม่รู้ตัว  อิรุใช้โอกาสที่ได้รับคว้าหนุ่มน้อยผู้น่ารักเข้ามากอดเอาไว้แน่นแม้จะเจ็บตามร่างกายก็ไม่คิดจะสนใจ


                        "เป็นแฟนกันเถอะนะ...ช่วยคบกับพี่ได้ไหม..."   พูดสิ่งที่อยากจะบอกออกมาแม้จะคาดเดาได้ว่าคำตอบเป็นเช่นไร


                        "อ่ะ..."   ทั้งตกใจทั้งตื่นเต้นคละปนกันไปหมด  รู้สึกดีใจอยู่เหมือนกันที่ถูกขอคบเป็นแฟน  แต่ก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ


                        "...จะดีเหรอ...พวกพี่ๆ ต้องไม่ยอมแน่เลย"   ดวงตาใสช้อนมองอีกฝ่ายอย่างลำบากใจ


                        "นั่นสินะ...มันจะดีได้ยังไง"   ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่รู้สึกว่าสิ่งที่แอบหวังไว้อย่างริบหรี่จะมอดดับลงจนหมดแล้วจริงๆ


                        "ก็คุณน่ะ  มันคนมีประวัตินี่นา  พวกพี่ๆ เขาถึงได้หวงผมขนาดนี้...แต่ผมน่ะ..."   พูดแล้วก็เงียบลงก่อนจะซุกหน้าลงกับอกกว้าง

                        
                        "...ผมน่ะ...อะไรเหรอ..."   แค่ร่างบางซบหน้าเข้าหาตัวเองอิรุก็ดีใจจนยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว  ท่าทางร่างสูงจะหลงรักบอมน้อยจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว


                        "...ผม...ชอบ...ไม่พูดแล้ว!"   แล้วกระต่ายแก้มป่องก็ยิ่งมุดหน้าหนีเข้าไปอีก  แต่ร่างสูงกลับจับใบหน้าที่ก้มหนีให้เงยขึ้นมองสบตาตนเอง


                        "พี่ชอบคิบอม...ชอบมาก...มากจนอาจจะเรียกว่ารักเลยก็ได้"   คนตัวเล็กกว่ารับรู้ได้ถงแรงเต้นของหัวใจตัวเองที่มันสั่นแรงหนักอย่างไม่ค่อยได้เกิดขึ้นบ่อยๆ นัก


                        "...อืม..."   ตอบรับเสียงแผ่วพร้อมกับตาใสที่จ้องกลับด้วยความรู้สึกเปี่ยมล้น


                        "...เดี๋ยวก็หมดเวลาเยี่ยมแล้ว...บอมกลับไปก่อนเถอะนะครับ"   บอกก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปกดนาบประทับริมฝีปากคนน่ารักแผ่วเบาด้วยเพราะอดใจไม่ไหว


                        "อืม...///..."   ใบหน้าถึงกับเป็นสีแดงเข้มในทันที  ก่อนจะผละตัวออกจากชายหนุ่มช้าๆ ด้วยกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บ


                        "งั้น...เดี๋ยวผมมาเยี่ยมใหม่นะ..."   เอ่ยบอกเสียงเบาพลางก้มหน้างุด


                        "ครับ..."   จับมือนุ่มขึ้นแนบหน้าตัวเองแล้วก็ฝังทั้งปลายจมูกแล้วก็เรียวปากลงบนมือเรียวด้วยความรักทั้งหมดที่มีอยู่


                        "...ขอให้หายเร็วๆ นะครับ ^ ^ "   คิบอมวาดยิ้มหวานส่งให้คนตรงหน้า


                        "หายเร็วแน่นอนครับ...ก็มียาดีอยู่ตรงหน้านี้แล้วนี่นา"   ร่างสูงบอกพร้อมกับยิ้มพรายเหมือนกับอย่างปากว่าแล้วยังไงยังงั้น


                        "งั้นผมไปแล้วนะ"   คิบอมยกมือขึ้นโบกไปมาก่อนจะเดินออกไปจากห้องพยาบาล

     

     

     

     

     

                        หลังจากมีเรื่องกับอิรุและทะเลาะกับคิบอมคอนโดเอสเจที่เคยคึกคักก็กลับกลายเป็นเงียบเชียบ  ต่างคนก็ต่างนั่งหามุมเพื่อคิดทบทวนและไตร่ตรองในหลายๆเรื่อง  แม้แต่คนที่ไม่เคยมีอะไรอยู่ในหัวอย่างลีดเดอร์วงซูจูยังนั่งเงียบไม่พูดไม่จา  แถมยังตีหน้าเคร่งอีต่างหากโดยมีคยูน้อยนั่งอยู่ข้างๆ เนื่องจากโดนล็อคตัวเอาไว้ด้วยวงแขนของทึกกี้  ส่วนฮีชอลที่เครียดเรื่องคิบอมอยู่แล้วก็ต้องมาถูฮยอคแจเมินอีก  เจ้าตัวได้แต่นั่งกุมขมับพลางมองจ้องคนตัวเล็กที่ไปนั่งเบียดอยู่กับเจ้าพวกสามฟิวชั่น  และฮันกยองผู้สมรู้ร่วมคิดรายสุดท้ายก็ได้แต่ลอบมองชินดงที่ไม่มีตัวเองอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยพร้อมกับถอนหายใจออกมาเป็นระยะๆ


                        "ทุกคนจะเครียดไปใย  เดี๋ยวพอคิบอมกลับมาก็หาวิธีง้อซะก็หมดเรื่อง"   แจจุงเอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศแสนน่าอึดอัดนี้


                        "ช่าย...เครียดมากๆ ระวังแก่เร็วนะครับพี่น้อง"   โลมาเอ่ยเสริมเสียงสูง


                        จบคำพูดของโลมาานประตูก็ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับบุคคลที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนาในตอนนี้  โดยมีชางมิน  เยซองและซีวอนเดินตามหลังเข้ามา  แจจุงปรี่ตรงเข้าไปหาชางมินในทันทีอย่างรวดเร็ว


                        "เฮ้น้องชาย! หมอนั่นเป็นไงบ้างอ่ะ  พิการหรือยัง"   พี่ใหญ่แห่งวงTVXQ กำลังทำท่าตื่นเต้นรอฟังคำตอบจากชางมิน


                        "หรือว่ากลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว..."   ส่วนจุนซูก็เข้ามาถามด้วยความอยากรู้ไม่แพ้กัน


                        "พวกนายนี่จะคิดอะไรที่มันดีกว่านี้แล้วไม่ได้หรือไง"   เยซองเอ่ยตอบแทนชางมินอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกหมั่นไส้สองคู่หูจากTVXQ


                        "...ถ้าไม่อยากให้ผมจิ้นไปไกลก็รีบตอบมาไวๆ สิครับ -0-  "   จุนซูเอ่ยตอบหน้าตาย


                        "ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก  แค่ฟกช้ำไปทั่วตัวแล้วก็แผลตามตัวนิดหน่อยเท่านั้น"   ชางมินตอบกลับหน้าตาย


                        "ผมขอตัวก่อนนะ  รู้สึกเพลียๆ น่ะ  อยากนอน"   คิบอมเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบตรงไปที่ห้องนอนของตัวเองอย่างรวดเร็ว  โดยไม่ได้มองหน้าใครสักคน


                        "คิบอม...รอด้วยสิ"   ฮยอคแจเห็นท่าทางของรุ่นน้องก็รู้สึกเป็นห่วงจนรีบตามกระต่ายบอมมี่ไป  แต่ก็ยังทิ้งสายตาขุ่นเคืองไปยังฮีชอลให้ได้รู้สึกใจหายเล่น


                        "...ซูบารุจังท่าทางจะโกรธนานนะงานนี้น่ะ"   ทึกกี้เอยเปรยขึ้นเหมือนจงใจตอกย้ำใครบางคน


                        "เรื่องของฉันน่ะ..."   ฮีชอลพูดเสียงเย็นพลางปรายตามองลีดเดอร์ของวง


                        "ของนายยังดี  ฉันนี่ดิ...เฮ้อ..."   แล้วฮันกยองก็ถอนหายใจยาวพลางมองไปทางดงฮี


                        "เชอะ..."   คนที่ถูกฮันกยองมองหันหน้าหนีด้วยท่าทางงอนๆ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งติดซองมิน


                        "แล้วทีนี้จะเอาไงต่อดีล่ะ..."   ป๋าเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางจ๋อยๆ ที่ถูกเมินหน้า


                        "...ก็หาโอกาสเหมาะๆ รวบหัวรวบหางซะสิ..."   คังอินเข้ามากอดคอกระซิบบอกป๋าเกิง


                        "ก็ดีเหมือนกัน...เฮ้ย! ฉันหมายถึงเรื่องคิบอมต่างหากล่ะ"   ป๋าเผลอเคลิ้มก่อนจะปรับสภาพการณ์ตัวเอง


                        "งั้นเดี๋ยวผมจัดการดงฮีเองละกันนะ"   คังอินพูดแบบทีเล่นทีจริง  ป๋ารีบจัดการล็อคอคินเอาไว้อย่างรวดเร็ว


                        "อย่าเชียวนะ! ไม่งั้นฉันจะจัดการนายแทนดงฮีของฉันแน่"   ฮันกยองเอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจังรวมทั้งสีหน้าและแววตาด้วย


                        "กลั๊ว...กลัว ^ ^  "   คังอินทำน้ำเสียงหวาดผวาแต่สีหน้านั้นคนละอารมณ์กันเลย  แต่ก่อนที่ป๋าจะได้กระทำการอันใดลงไปตามที่พูดขู่ไว้เยซองก็เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างรู้สึกอึดอัด


                        "ไม่มีใครคิดจะเข้าไปคุยกับคิบอมบ้างเลยเหรอ"   น้ำเสียงเอ่ยขึ้นอย่างเคร่งเครียด


                        "เรื่องนี้พวกเราไม่ผิด...ทำไมต้องเข้าไปคุยก่อนด้วย"   ทึกกี้กล่าวบอกด้วยท่าทีเงียบขรึม


                        "ถ้าตามกฏหมายน่ะพวกพี่ก็ผิดกันเต็มๆ เลยนะ...ดีแค่ไหนแล้วที่พี่อิรุเขาไม่ฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายน่ะ"   ชางมินกล่าวขึ้นเสียงเรียบ


                        "แล้วใครใช้ให้มายุ่งกับน้องชายฉันล่ะ"   ฮอลพูดออกมาเสียงฉุน


                        "แต่ถึงอย่างนั้นพวกพี่ก็น่าจะมีเหตุผลกันบ้างนะครับ  ไม่ใช่ไปทำร้ายกันแบบนี้"   เยซองทำทีท่าไม่พอใจเป็นอย่างมากที่พวกพี่ๆ ทั้งสามกลายเป็นคนไร้เหตุผลไปเสียได้


                        "ถ้าหมอนั่นฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกาย...ฉันก็ฟ้องข้อหาบุกรุกเหมือนกัน"   ทึกกี้เถียงไม่ยอมแพ้


                        "แล้วการที่หมอนั่นย่องเข้ามาหาคิบอมตอนพวกเราไม่อยู่นั่นยังไม่ใช่เหตุผลที่ต้องทำร้ายอีเหรอ?"


                        "ชักเป็นเรื่องแล้วไหมล่ะ...งานนี้จะจบลงยังล่ะหนอ..."   แจจุงกระซิบเสียงเบากับจุนซู


                        "จบยังไงก็ช่างเหอะ...กลัวว่าพวกเราจะโดนลูกหลงไปด้วยเด่"   จุนซูเอ่ยตอบอย่างเป็นกังวลในสวัสดิภาพของตนเอง


                        "ก็คงได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้พวกนั้นรู้ความจริงเลย"   แจจุงทำท่าขอพรจากพระเจ้า


                        "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...ฉันพาคยูน้อยไปนอนก่อนล่ะ"   ลีดเดอร์ซูจูพูดจบก็จูงมือนู๋คยูที่ทำตาเยิ้มให้ทุกคนเข้าห้อง


                        "เดี๋ยวก่อนครับ! ผมมีเรื่องสงสัย"   แจจุงทำท่ายกมือ


                        "อะไรอีกล่ะ...ทีนี้"   ทึกกี้มองหน้าลีดเดอร์เงาวงTVXQ


                        "ผมอยากจะทราบว่าคุณปาร์ค จองซู ลีดเดอร์แห่งวง Super Junoir มีความสัมพันธ์ยังไงกับโจ คยูฮยอน น้องเล็กของวงกันแน่ครับ  เนื่องจากว่าเก็บความสงสัยมานานและ  ขอถามเอาไว้ ณ ที่นี้เลยละกัน"   แจจุงทำท่ากำไมค์เหมือนกับเป็นนักข่าวสัมภาษณ์ทึกกี้ด้วยท่าทางสนอกสนใจ


                        "เรื่องนี้ถามผู้จัดการส่วนตัวผมเอาก็แล้วกันครับ...ตอนนี้ผมมีงานด่วนต้องทำไม่สะดวกจะตอบคำถาม"   ทึกกี้ยกยิ้มมุมปากพลางคว้าตัวคยูน้อยหายเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว


                        "เดี๋ยวก่อนคร๊าบ~! คุณยังหนีไปตอนนี้ไม่ได้นะคร๊าบคุณลีดเดอร์  ตอบคำถามมาซะเดี๋ยวนี้เลย"   แจจุงรีบวิ่งตามไปด้วยความเร็วแสง  แต่ก็โดนทึกกี้ใช้ปลายเท้าบรรจงเตะออกมาและปิดประตูห้องลงกลอนอย่างดีกันคนนอกรบกวน


                        "โอ๊ย!"   แจจุงร้องออกมาก่อนจะเดินไปหาฮีชอลและฮันกยอง


                        "เฮ้! ตกลงว่าสองคนนั้นคบกันแล้วใช่ป่ะ"   ว่าพลางกอดคอฮีชอลกับฮันกยอง


                        "เห็นแบบนั้นแล้วคิดว่าเป็นพี่น้องกันหรือไง"   ฮีชอลหันมาทำหน้าตายผสมเอาเรื่องรู้สึกเซ็งเต็มทน


                        "โห่! ถามดีๆ นะ...แล้วว่าแต่เฮียทึกแกทำไงอ่ะคยูน้อยถึงได้ยอมสยบให้ขนาดนั้นอ่ะ"   แจจุงยังคงสงสัยไม่เลิก


                        "จะไปรู้ไง้! อยากรู้ก็ไปถามไอ้บ้านั่นเองดิ!"   ฮีชอลโวยเข้าให้ก่อนจะเดินหนีไปยังห้องคิบอม  แจจุงหันมาหาฮันกยอง  แต่หนุ่มจีนก็ยกชี้นิ้วไปตรงหน้าก่อนที่แจจุงจะได้พูดอะไร


                        "อย่าถามอะไรฉันตอนนี้ไม่มีอารมณ์  เดี๋ยวปั๊ดพูดกระเหรี่ยงให้ฟังซะหรอก"   คนพูดสีหน้าเซ็งจัด  แจจุงจึงยอมเงียบปากแต่โดยดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×