ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #44 : ปลุก

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 51





                        "แจ! ลุกได้แล้ว  ไปปลุกพวกนั้นกัน"   หมีน้อยพยายามดึงแขนคนที่หลับอยู่ให้ลุกขึ้น


                        "อืม...ไปปลุกคนเดียวไม่ได้เหรอ..."   แจจุงตอบกลับมาเสียงยานยาว


                        "ไม่เอา! แจต้องไปด้วย...ตื่นเดี๋ยวนี้เลยน้า!"   พยายามออกแรงดึงเต็มที่


                        "ถ้าไม่ตื่น  จะไม่ให้มายุ่งด้วยอีกเลย"   หลังจากที่ดึงอีกฝ่ายไม่ขึ้นก็ปล่อยมือแล้วเปลี่ยนมาเป้นเท้าเอวขู่แทน


                        "ก็ได้ๆ ลุกก็ได้..."   แม้จะไม่อยากตื่นก็ต้องจำใจลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

                        สภาพห้องนั่งเล่นที่เกลื่อนไปด้วยของจิปาถะมากมาย(อย่าให้อธิบายเพราะมันเยอะเกิน - - ) เต็มไปหมดจนแทบไม่เหลือทางเดินเลย  มีทั้งที่เป็นกลุ่มผ้าห่มกองอยู่หลายจุดเป็นหย่อมๆ  ทั้งกองเล็กกองใหญ่และมันขยุ้มเป็นกองจนมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ด้านในบ้าง  ยุนโฮที่ลากแจจุงมาด้วยเริ่มปฏิบัติการปลุกเหล่าบรรดาลูกลิงที่ยังหลับกันไม่ได้สติ


                        "ซีวอนตื่นได้แล้ว"   เริ่มที่ร่างสูงซึ่งนอนอยู่ในห่อผ้าห่มหนาเป็นรายแรก


                        "อือ...เช้าแล้วเหรอ..."   ซีวอนขย้ตาตื่นอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักก่อนจะพยายามขยับลุกจากห่อผ้าห่มที่พันตัวเองอยุ่พลางเขย่าปลุกคนที่นอนในกองผ้าห่มเดียวกันให้ตื่นตาม


                        "เยซอง...ตื่นเถอะ"   คนถูกปลุกพยายามหนีมือชายหนุ่มด้วยการมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มจนปิดมิดตัว


                        "เฮ้อ~ ! ขี้เซาจริงเลย"   ซีวอนพูดกับตัวเองก่อนจะดึงผ้าห่มออกให้เห็นคนที่มุดหนีเหมือนตัวตุ่นแล้วก้ก้มลงกระซิ้บเสียงนุ่มข้างใบหูเยซอง


                        "ตื่นได้แล้ว...ไม่งั้นนายโดนกินแน่...ซาลาเปา"   เยซองหรี่ตามองดูหน้าซีวอน  แต่ก้ยังไม่ยอมลุกขึ้นมา


                        "ขอนอนต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ..."   พยายามทำเสียงออดอ้อนทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มตา


                        "งั้นก็ได้...ฉันจะได้นอนกอดนายโชว์พี่แจจุงกะพี่ยุนโฮซะเลย"   และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาซีวอนก็ดึงเยซองเข้ามากอดไว้แน่นอย่างรวดเร็ว


                        "อื๊อ...ไม่นอนแล้วก้ได้"   พยายามดันตัวตัวออกพร้อมกับตีหน้ายุ่งใส่  แต่ซีวอนกลับยิ้มหน้าบานแถมยังไม่ยอมปล่อยให้ซาลาเปากลิ้งออกจากอ้อมกอดได้ง่ายๆอีกต่างหาก


                        "ปล่อยดิ! ฉันตื่นแล้วน้า"   เยเย่ไม่ยอมพยายามดิ้นขลุกขลักทั้งที่แรงก็ยังไม่กลับมาเต็มที่


                        "ปล่อยก็ปล่อย..."   ซีวอนยอมปล่อยเยซองก็จริงแต่ก็ขอหอมแก้มอีกฝ่ายก่อนจะรีบชิ่งหนีกันโดนฆาตรกรรม


                        "พี่ฮีชอลเช้าแล้ว"   หมีน้อยเขย่าตัวฮีชอล 2-3 ทีเพื่อปลุกให้ตื่น  ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองก็เจอกับดวงตากลมโตของหมีน้อยก่อนจะหันเข้าหาคนที่ตัวเองกอดอยู่


                        "อืม...เดี๋ยวฉันปลุกเจ้าพวกที่นอนอยู่ตรงนี้เอง  นายไปปลุกคนอื่นเถอะ"   หมีน้อยพยักหน้าแล้วเดินเลี่ยงไป


                        "ฮยอคแจตื่นได้แล้วฉันเมื่อย"   มือเรียวจับจมูกของคนที่อยู่ในอ้อมกอดโยกไปมา  แต่ฮยอคแจก็ไม่ยอมลุกง่ายๆ  กลับยิ่งซุกตัวเข้าหาอกแกร่งเหมือนกับจะแกล้งกัน


                        "นี่...ตื่นสักทีสิ"   แม้จะเขย่าตัวแล้ว  คนขี้เซาก็ยังไม่ยอมลุกง่ายๆ


                        "ไม่ตื่นดีๆ ใช่ไหม..."   บอกเสียงกระซิบซึ่งฟังดูเซ็กซี่อยู่ไม่น้อย


                        "อื๊อ..."   ฮยอคแจก็ยังคงไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น  แถมยังยกมือขึ้นปิดหูตัวเองกันเสียงรบกวนอีกต่างหาก  ฮีชอลยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะคอ่ยๆ สอดมือเข้าไปในเสื้อของคนในอ้อมกอด  ฮยอคน้อยเบิกตาโพลงขึ้นมาทันทีก็เจอกับรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้า  จากนั้นจึงดีดตัวออกมาจากผ้าห่มอย่างรวดเร็ว  แล้วก็รีบวิ่งหนีออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที


                        "เฮ้! อีทึกลุกขึ้นมาเก็บของได้แล้ว"   ฮีชอลหันไปเรียกทึกกี้ที่นอนอยู่ใกล้กันด้วยการตบแขนเข้าไปฉาดใหญ่อย่างหมั่นไส้


                        "โอ๊ย!! มันเจ็บน้า!!"   ทึกกี้โวยวายจากใต้ก้อนผ้าห่มก่อนจะดึงหมอนข้างมีชีวิตข้างตัวมากอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม  แต่ก็ได้แป๊บเดียวเพราะผู้เป็นหมอนข้างเริ่มรู้สึกตัวแล้ว


                        "นี่!! มากอดผมตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย!"   คยูน้อยดิ้นเด้งออกจากอ้อมแขนของลีดเดอร์วงเอสเจพลางจ้องหน้าคนที่นอนกอดตัวเองมาทั้งคืนเขม็ง


                        "โอ๋ๆ...ไม่ต้องกลัวหรอกน่าเดี๋ยวเฮียรับผิดชอบทุกอย่างเอง"   ทึกกี้ที่โดนคยูน้อยพยศใส่จนต้องตื่นเต็มตาเอ่ยบอกพร้อมยิ้มกว้าง


                        "รับผิดชอบตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ"   คยูน้อยแลบลิ้นใส่พลางปาหมอนใกล้มือเข้าหน้าทึกกี้เต็มๆ แบบไม่มีพลาด


                        "ถ้ามีคราวหน้าจะปาด้วยมีดเลยคอยดู"   บอกจบคยูฮยอนก็ลุกเดินออกมาจากตรงนั้นทันที


                        "เฮอะ...คราวหน้าทำให้ไม่มีแม้แต่แรงลุกมาปามีดซะก็สิ้นเรื่อง"   เฮียทึกยกยิ้มมุมปากพลางมองตามคยูน้อยไปด้วยสายตาแวววาว


                        ร่างสูงที่ขยับพลิกตัวพร้อมกับมือเรียวที่ยกขึ้นหวังจะได้กอดใครอีกคน  แต่กลับเจอเพียงความว่างเปล่า  มือเรียวเริ่มควานหาตามผืนผ้าปูที่นอน  ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตา


                        "พี่ยูชอน!"   ชางมินเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงทันที  ก่อนจะรีบออกไปจากห้องนอนตรงไปยังห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว


                        "พี่ยูชอน!!"   ชางมินตะโกนลั่นห้องนั่งเล่น


                        "...อือ...หนวกหูชะมัดเลยอ่ะ..."   ชินดงบ่นขึ้นพลางซุกตัวเข้าหาอีกคนที่นอนอยู่ใกล้กัน  ซึ่งร่างนั้นก็ตอบสนองด้วยอ้อมแขนโอบกอดคนที่ดิ้นเข้ามาหา


                        "โอ๊ย! ใครตะโกนอะไรแต่เช้าเลยเนี่ย"   ฮันกยองที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับขวดน้ำผลไม้(ขม)ในอ้อมกอดลุกขึ้นนั่ง  แล้วกวาดสายตาไปรอบบริเวณห้องนั่งเล่นก็ต้องรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อเจอกับภาพต้องห้าม  ก่อนจะลุกไปยังเป้าหมายที่ทำให้อารมณ์คุกรุ่น


                        "เฮ้ย!คังอิน!  แกบังอาจนักนะ"   ป๋าเตะก้นคังอินที่นอนตะแคงอยู่แล้วรีบถอยออกมาตั้งหลักอย่างรวดเร็ว


                        "ใครเตะฟะ!! "   แล้วหมียักษ์ที่โดนกระทบกระเทือนทางร่างกายก็ลุกขึ้นมาดวยวายเสียงลั่นทำให้อีกคนที่นอนกอดกันอยู่ต้องตื่นขึ้นมาด้วย


                        "อะไรกันเหรอ..."   ชินดงยังไม่ตื่นเต็มตามองซ้ายมองขวาอย่างงัวเงีย


                        "แก! คังอิน! บังอาจมายุ่งกับด่งด๊งของฉัน"   เฮียเกิงใช้ขวดที่กอดมาทั้งคืนชี้หน้าคังอิน


                        "แล้วไงอ่ะ...ป๋ามีปัญหานักก็เข้ามาเคลียร์เลยสิ!"   คังอินพูดพลางมองหน้าเฮียเกิงอย่างท้าทาย  ก่อนจะดึงชินดงเข้ามาโอบไว้หยามกันต่อหน้าต่อตา


                        "อ๊ะ! นั่น...ที่คอชินดงมีรอยอะไรแดงๆ ด้วยอ่ะ"   แจจุงชี้ไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมกับการจุดชนวน


                        "เออ...จริงด้วย...แถมมีตั้งหลายรอยแน่ะ"   เฮียทึกช่วยเสริมอย่างแข็งขัน


                        "คังอิน!! แกทำอะไรด่งด๊งของฉันวะ"   ป๋าเกิงโวยวายขึ้นมาทันที  โดยที่แจจุงนั่งยองๆ มองดูอยู่ห่างๆ


                        "...เหอะ...เหอะ..."   คังอินเพียงแต่หัวเราะหน้าตายให้ทุกคน  ส่วนชินดงนั้นหลับแพะไหล่หมียักษ์ไปเรียบร้อยแล้ว


                        "โอว้! ไม่นะด่งด๊งของฉ๊าน"   แล้วป๋าก็วิ่งเข้าไปหาชินดงในทันที  แต่ติดตรงที่กรงเล็บหมีตะปบหน้าป๋าไว้ก่อน


                        "มะกี้...ป๋าเป็นคนเตะผมใช่ไหมกั๊บ ^=^ "   แต่ป๋าก็ไม่ยอมให้กรงเล็บหมีตะปบหน้าตัวไว้ฝ่ายเดียวหรอก  อาวุธที่ยังอยู่ในมือก็พุ่งเข้าตรงไปที่พุงหมียักษ์บ้าง


                        "ช่าย!! ฉันเตะเอง  มีปัญหาไรมะ  ก็แกอยากมายุ่งกับด๊งของฉันเองนี่"


                        "ง้าน...ก็เตรียมตัวลงหลุมเถอะป๋า! "   พลันหมียักษ์ลุกพรวดเพื่อไล่ฆาตรกรรมเฮียเกิงในทันที


                        "เฮียทึกงานนี้ใครชนะ"   แจจุงจุงที่นั่งยองๆ อยู่เอ่ยถามขึ้น


                        "คนที่เหลือรอดน่ะสิ...ถามได้..."   เฮียทึกตอบแบบกวนประสาทพอประมาณรับอรุณก่อนจะหันไปสนใจหนุ่มร่างสูงแทน


                        "ชางมิน!! ยูชอนหายเหรอ!! "


                        "ใช่! พี่เห็นหรือเปล่า"


                        "จำได้ลางๆ ว่ายูชอนออกมานั่งกินน้ำผลไม้ต่อกะพวกแจจุงไม่ใช่เหรอ"   แล้ทึกกี้ก็โยนระเบิดใส่คนข้างๆ


                        "เฮ้ย!! แต่ฉันเอาไปส่งที่ห้องนายแล้วนี่  ไม่เชื่อลองถามป๋าดูดิ"   แจจุงส่งสายตาไปยังคนที่วิ่งเล่นรอบห้องอยู่กับคังอิน


                        "ชางมิน! "   หมีน้อยกวักมือเรียกร่างสูงให้ไปยังกองผ้าใหญ่ใจกลางห้อง

                        
                        "ชางมิน  ฉันคิดว่ายูชอนนาจะอยู่ในนี้นะ"   หมีน้อยชี้มือไปที่กลุ่มก้อนผ้าอย่างตื่นเต้น  ชางมินจึงจัดการเปิดผ้าห่มผืนใหญ่ออกดูก็พบกับ...ชิ้นนอกคือชองมินที่ใช้ทั้งมือและขาก่ายดองแฮเอาไว้  ส่วนดองแฮก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันนัก  ลึกเข้าไปนิดก็เป็นเรียววุคที่นอนอยู่ภายใต้แขนของทั้งสองเกลอ  โดยมีกระต่ายน้อยนอนขดอยู่ภายในอ้อมกอดของเรียววุคน่ะเอง  คนมองแทบจะเลือดขึ้นหน้าในทันทีกับสภาพของคนรัก


                        "จะเอาไงดีล่ะชางมิน"   ยุนโฮหันมาถามตาแป๋ว


                        "พวกพี่ๆ มาช่วยแงะเอาสามคนนี้ออกให้หน่อยสิ"   ชางมินหันไปบอกกับทึกกี้และแจจุงหน้าตาย


                        "รายว้า...ใช้แรงงานกันนี่นา"   ถึงจะพูดเหมือนไม่อยากช่วยแต่เฮียทึก็ลากแงะดองแฮออกมาตามสั่ง   ส่วนแจจุงก็มาช่วยดึงเอาชองมินออกไป


                        "ส่วนที่เหลือจัดการเอาเองนะพวก"   แจจุงบอกกล่าว  จากนั้นชางมินก็จัดการแยกเอาเรียววุคออกจากยูชอนพร้อมกับปลุกให้ร่างบางตื่นขึ้นมา


                        "พี่ยูชอน"   เอ่ยเรียกร่างบางสีหน้านิ่ง   ส่วนเรียววุคที่โดนแยกออกก็กลิ้งจากไปอย่างไร้ทิศทาง


                        "...อือ...ชางมินเหรอ..."   ยูชอนขยี้ตาด้วยท่าทางงัวเงียพลางยกยิ้มไม่เต็มตื่น


                        "ไปอาบน้ำได้แล้วครับ"   ชามินพูดบอกเสียงนิ่ง  ร่างบางหัวโยกไปเยกมาอย่างไม่สมดุลย์ก่อนจะพูดเหมือนตัวเองยังละเมออยู่


                        "อาบให้หน่อยสิ..."   ชางมินไม่พูดตอบอะไรก็อุ้มยูชอนออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที

                        "อืม...เช้าแล้วเหรอเนี่ย..."   อิรุขยับตัวพลิกหนีแสงสว่างที่เริ่มส่องเข้ามาจากด้านนอกมากขึ้นเรื่อยๆ


                        "...อย่าหนีนะ...เจ้าวายร้าย..."   มือเรียวของใครอีกคนคว้าจับเสื้อของอิรุเอาไว้


                        "ห๊ะ..."   อิรุหันมองกลับมายังเสียงเรียกและมือที่คว้าจับเสื้อของอิรุไว้


                        "หึ...อีกแก้วดิ  กำลังอร่อยเลย..."   เสียเละเมอพร้อมกับการซุกตัวเข้าหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว


                        "โอ้!! ฉากเด็ดสุดๆ เลยนะเนี่ย!"   โลมาที่ไม่รู้ตื่นมาเมื่อไรตอนนี้กำลังส่องกล้องใส่อิรุเต็มที่


                        "เฮ้ย!! ทำไม..."   ทึกกี้เดินเข้ามาหาจุนซูก็ต้องอ้าปากค้างอึงตะลึงในสิ่งที่เห็น  แสงแฟลตจากกล้องดิจิตอลที่อยู่ในมือดองแฮกำลังสาดกระทบไปที่เหยื่อรายสุดท้ายของการตื่นนอนในวันนี้


                        "ถ่ายเข้าๆ!!"   ชองมินกับเรียววุคช่วยกันตะโกนเป็นลูกคู่  ดองแฮจึงเคลื่อนที่ถ่ายรูปในหลายอริยาบถของตัวเอง(แบบที่มยองซูทำในแฮปปี้ทูเกทเทอร์  ประมาณนั้นน่ะ)


                        "อะไรของพวกนาย!! หยุดเลยนะ!!"   อิรุที่มึนแสงแฟลตและฤทธิ์น้ำผลไม้อยู่ด้วยพยายามส่งเสียงห้ามปราม  แต่ก็ถูกคิบอมคืบคลานไปบนตัวเพระากำลังละเมอถึงอะไรสักอย่าง


                        "เฮ้ๆ!! ทำอะไรน้องของพวกเราก็รับผิดชอบด้วยล่ะ..."   ฮันกยองที่ยังคงวิ่งแข่งอยู่กับคังอินตะโกนบอก


                        "ช่ายๆ!! รับผิดชอบซะ!!"   คังอินเองก็ประสานเป็นลูกคอด้วยอีกคน


                        "มันไม่ใช่นะ...เฮ้!! นายน่ะตื่นสิ"   อิรุบรีบรั้งไหล่คิบอมไว้แก็ออกแรงเขย่าเล็กน้อย  เพื่อปลุกให้ตื่น


                        "อ๊า! คิบอมกำลังจะถูกทำมิดีมิร้าย"   ชองมินโวยวายขึ้น


                        "อย่างนี้ต้องไปฟ้องเฮียซิน"   พูดจบเรียววุคก็วิ่งนำออกไปทันทีโดยมีชองมินวิ่งตาม  ส่วนฟิวชั่นคนสุดท้ายอย่างดองแฮก็ยังคงสนุกอยู่กับการเก็บรูป


                        "ฉันไม่คิดว่านายจะเป็นอย่างนี้เลยนะ...อิรุ"   เฮียทึกบอกพลางส่ายหน้าไปมาอย่างผิดหวัง(ซะเมื่อไร)


                        "บอกแล้วไงว่ามันไม่ใช่น่ะ..."   อิรุที่หมดหนทางหนีพ้นเงื้อมือมารทั้งหลายทำหน้าเหมือนโลกจะแตก


                        "อ๊า...อย่าทำอะไรผมเลยน้า..."   คิบอมทำท่าดิ้นไปมาเหมือนกับถูกทำร้าย


                        "อิรุ...นายเสร็จฮีชอลแน่"   แจจุงทำหน้าชั่วร้ายขึ้นมาทันที


                        "ถึงเพิ่งพบกันไม่นานผมก็จะจดจำพี่เอาไว้นะครับ"   จุนซูเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังกล้องโบซูของตัวเอง


                        "อิรุ! นายทำอะไรน้องชายฉัน!!"   ฮีชอลที่เพิ่งโผล่เข้ามาได้ตรงไปกระชากคอเสื้อของอิรุในทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก


                        "ฉันไม่ได้ทำ..."   อิรุยอมให้อีกฝ่ายกระทำโดยไม่คิดจะตอบโต้อะไรด้วยใบหน้าตายด้าน


                        "ก็เห็นๆ กันอยู่อย่ามาปฏิเสธหน่อยเลย"   ฮีชอลมองดูสภาพคิบอมี่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยไม่เรียบร้อย  แล้วกลับมาจ้องหน้าอิรุ


                        "ทำไมนายไม่ลองถามน้องนายเองบ้างล่ะ"   อิรุบอกเสียงหมดอาลัยตายอยากในชีวิต  ไม่ต้องรอให้ใครปลุกคิบอมก็ยอมตื่นขึ้นมาเสียที


                        "มีอะไรกันเหรอครับ"   คิบอมมองทุกคนตาแป๋ว


                        "มีสิ...พวกเรากำลังจะให้อิรุรับผิดชอบนายอยู่ไง"   เฮียทึกแจกแจงพร้อมรอยยิ้มสนุกสนาน


                        "รับผิดชอบอะไรเหรอ"   คิบอมขมวดคิ้วถามกลับอย่างงงๆ


                        "ก็ดูสภาพตัวเองสิ"   ฮีชอลบอกเสียงขรึม  คิบอมจึงลองมองสำรวจตัวเองดู


                        "อ๊ะ! นี่คุณอิรุ  คุณทำอะไรผมเนี่ย! "   คิบอมกระเถิบตัวถอยนีออกมาอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับนั่งกอดเข่าตัวเองอย่างเศร้าๆ


                        "ฉันแอบลักหลับนายมั้ง..."   อิรุประชดคืนโดยลืมคิดถึงผลที่ตามมา


                        "น่านไง! ชัดๆ เลยแหละ"   แจจุงเอ่ยขึ้นหน้าตาย


                        "บันทึกเสียงเก็บหลักฐานเรียบร้อย"   ชองมินทำท่ากดปุ่มโทรศัพท์มือถือ


                        "โอ๊ย!! ฉันอยากตายจริงๆ..."   อิรุบอกก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง  ส่วนคิบอมก็เริ่มทำท่าสะอึกสะอื้นขึ้นมาทีละน้อย


                        "ตกลงนายจะเอายังไงอิรุ"   ฮีชอลถามเสียงแข็ง


                        "...แล้วแต่นายเลย...อยากจะต้มยำทำแกงอะไรก็เชิญ..."   อิรุเอ่ยบอกเสียงแห้งพลางหลับตาลงอย่างปลงตก


                        "คุณต้องรับผิดชอบผมนะ...ฮึก..."   คิบอมร้องไห้พร้อมกับเกาะแขนอิรุไปด้วย


                        "...เอ่อ...คือ...เรื่องนั้น..."   อิรุมีท่าทีเหมือนจะไม่อยากให้เรืองมันลงเอยด้วยความเข้าใจผิด


                        "นายคิดจะได้แล้วทิ้งเหรอ...อิรุ"   เฮียทึกอดอกจ้องหน้าอิรุอย่างบีบบังคับสุดๆ


                        "นายยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่หรือเปล่า"   ฮีชอลจ้องตาเขม็งไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้ปฏิเสธง่ายๆ


                        "ฉันขอยื่นอุทรณ์ได้ไหมเนี่ย..."   อิรุอยากจะร้องไห้ออกมาเหลือเกิน  แต่ติดที่ว่าตามันไม่ยอมไหลซะอย่างงั้น


                        "ฮือ..."   คิบอมยิ้งร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม  ใบหน้าซุกอยู่กับเข่าตัวสั่นไหวให้เห็น


                        "โอเค... ฉันรับผิดชอบก็ได้..."   อิรุบอกพลางวางมือลงบนศรีษะของคิบอมเป็นเชิงปลอบให้หยุดร้องไห้สักที


                        "...หึ....555+ ^0^  "   คิบอมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะขำแล้วชี้มือไปที่หน้าอิรุ


                        "แบร่! คุณโดนหลอกแล้ว"   แล้วคิบอมก็แลบลิ้นปลิ้นตาออกมาอย่างทะเล้น


                        "อะไรกันคิบอมเฉลยง่ายไปแล้วนะ...ยังไม่หนำใจเลย"   เฮียทึกบอกออกมาพลางทำหน้าหมดอารมณ์สนุก


                        "โธ่! เฮียทึก  สงสารคุณอิรุเขาน่ะ"   คิบอมตอบออกมาหน้าตาเฉย  ส่วนฮีชอบก็เดินหนีออกไปอย่างเซ็งๆ


                        "เอ่อ...พี่อิรุเป็นไรไปเปล่าอ่ะ"   จุนซูถามขึ้นเมื่อเห็นว่าอิรุนั่งนิ่งเหมือนกลายเป็นรูปปั้นไปแล้ว


                        "เฮ้! คุณอิรุ...นี่ๆ! ช็อคตายไปแล้วเหรอ"   คิบอมโบกมือไปมาตรงหน้าอิรุ  ก่อนจะค่อยๆ โน้มหน้าเข้าไปมองใกล้ๆ  แต่ชายหนุ่มร่างสูงกลับดึงคนตรงหน้าเข้ามาจูบพร้อมกับสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของคิบอมควานหาความหวานที่อยู่ภายในโดยไม่คิดจะให้อีกคนได้ตั้งตัว


                        "อื๊อ! เฮียทึกช่วยด้วย!"   คิบอมรีบผลักอิรุออกแล้วตะโกนเรียกลีดเดอร์วงเอสเจ


                        "นาย!!"   ทึกกี้แทบจะชกอิรุที่ไม่คิดจะต่อต้านแต่อย่างใด  ชายหนุ่มร่างสูงมองคนที่จะชกตนด้วยสายตาเฉยเมย


                        "ถือว่าเอาคืนเรื่องเมื่อกี้ก็แล้วกัน"   พูดบอกแล้วอิรุก็ลุกเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นในทันที  แต่คิบอมกลับรีบวิ่งตามอิรุไปโดยเร็วด้วยความไม่พอใจ  ก่อนจะออกแรงผลักหลังของร่างสูงเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้


                        "ไอ้คนฉวยโอกาส!!"


                        "................."   อิรุไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกับคำว่าของคิบอม  ชายหนุ่มเพียงหลบใบหน้าแดงจัดไปจนถึงหูให้พ้นสายตาอีกฝ่ายเท่านั้น


                        "คิดจะมาทำกันแบบนี้แล้วก็หนีไปหรือไง"   คิบอมเท้าเอวมองพร้อมกับทำหน้ายู่


                        "แล้วอยากให้ทำมากกว่านั้นเหรอ..."   อิรุแล้งถามกลับทั้งที่ยังปรับสีหน้าตัวเองไม่ได้


                        "กล้าเหรอ...พวกพี่ๆ ฉันไม่ปล่อยนายไปแน่"   คิบอมทำหน้าท้าทายไม่กลัวเกรง


                        "...ฉันขอโทษก็ได้...พอใจหรือยัง"   อิรุยอมหันกลับมามองคิบอมหลังจากสงบอารมณ์ได้แล้ว


                        "ยอมง่ายจังแฮะ... ไม่สนุกเลยไปดีกว่า"   พูดจบก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง  แต่อิรุก็รั้งคอเสื้อคิบอมเอาไว้ก่อน


                        "นี่...เดี๋ยวสิ..."


                        "อะไรอีกล่ะ"   คิบอมหันมาทำหน้าตายใส่


                        "ฉันชอบนายเข้าแล้วล่ะ..."   อิรุกระซิบเข้าที่ข้างใบหูของคิบอมพร้อมกับคว้าเอวอีกฝ่ายไว้ด้วย


                        "อึ๋ย!! ไม่เอาหรอก  ไม่ต้องมาชอบผมเลยนะ  ผมน่ะมีภาระกิจอันใหญ๋หลวงต้องทำ  เพราะฉะนั้นก็ทางใครทางมันเถอะนะ  ไม่ต้องมาเจอกันอีกเลยยิ่งดี"   คิบอมร่ายยาวออกมาด้วยความตื่นเต้นที่อยู่ๆ คนตรงหน้าก็บอกชอบตัวเองซะได้


                        "ก็แค่อยากให้รับรู้เอาไว้น่ะ...ยังไงเราคงไม่ได้เจอกันบ่อยๆอยู่แล้ว"   อิรุพูดพลางเกยคางลงบนไหล่ร่างบาง


                        "อะ...อืม...ก็รู้แล้ว  เพราะฉะนั้นก็ปล่อยได้แล้ว..."   เอ่ยขึ้นเสียงเบาไม่รู้ทำไมพอได้ยินอย่างนี้ก็รู้สึกใจหวิวขึ้นมาเสียดื้อๆ


                        "เมื่อกี้ขอโทษนะ...พอดีพี่โกรธที่โดนแกล้งน่ะเลยฉุนขาดไปนิด..."   ก่อนจะปล่อยก็จูบเบาบางลงบนแก้มนุ่มอย่างอ่อนโยน


                        "...ขอตัวไปช่วยพวกพี่ๆ เขาเก็บของก่อนนะ"   พูดจบก็รีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว  ไม่อยากให้อีกฝ่ายได้เห็นใบหน้าที่แดงเข้มจนเห็นได้ชัด  และเสียงหัวใจที่ดังขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ


                        "แล้วจะแวะมาหาถ้ามีเวลานะ...คิบอม"   อิรุตะโกนไล่หลังร่างบางไปก่อนจะอมยิ้มอย่างมีความสุขแล้วก้าวขึ้นรถของตัวเอง


                        "...อะไรกันเนี่ย...สานต่อความสัมพันธ์...กันซะด้วย..."   ฮันกยองที่เพิ่งเลิกวิ่งแซวคิบอมไปพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบ


                        "เออ...แล้วพวกเราวิ่งกันทำไมเหรอป๋า..."   คังอินที่หอบไม่แพ้กันเอ่ยถามเฮียเกิง


                        "นั่นดิ...วิ่งทำไม..."   และดูเหมือนว่าทั้งสองจะเหนื่อยเกินไปหรือด้วยเหตุใดไม่ทราบได้ทำให้ลืมเหตุผลสำคัญที่วิ่งไล่กวดกันในตอนแรกไปแล้ว


                        "คิบอม...นายก้อย่าไปสนใจพี่อิรุเขาเลยนะรายนั้นน่ะเขาก็พูดอะไรเรื่อยเปื่อยไปงั้นแหละ"   เนื่องด้วยจุนซูได้ยินประโยคที่อิรุตะโกนไล่หลังคิบอมมาเท่านั้น  จึงพูดเตือนตามควาวมเข้าใจของตัวเอง


                        "อืม...ไม่ยุ่งหรอกคนแบบนั้นน่ะ..."   ตอบกลับมาเสียงเบา  แต่ก็ทำทีเป็นไม่ได้สนใจอะไรจริงๆ


                        "ใช่ๆ...เมื่อคืนยังละเมอหาอายูมีอยู่เลย 555+"   เฮียทึกเองก็นินทาคนที่ไปแล้วอย่างสนุกปาก  คิบอมได้ยินก็เดินหนีไปทางอื่นทันที


                        "เฮ้ๆ! น้องเฮียอ่ะท่าทางจะมีความรักเข้าให้ซะแล้วนะ""   แจจุงพูดขึ้นเมื่อเห็นอาการของคิบอม


                        "ไม่ใช่หรอกน่า...นายเข้าใจผิดแล้วแจจุง"   ทึกกี้ทำหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน


                        "ยอมรับความจริงซะดีกว่าน่า...ชัวร์เลยว่าอิรุต้องแวะเวียนไปที่คอนดดของซูจูบ่อยๆ แน่"   แจจุงยกยิ้มอย่างสุขใจ


                        "ว่าเข้าไปนั่น...ถ้าเกิดไปจริงๆ ได้ถุกเฮยซินฆ่าหมกคอนโดแหงเลย"   คังอินเอ่ยบอกออกมาพลางทำหน้ากลุ้มแทน


                        "เหอะๆ...คิดแล้วสยองว่ะ"   เฮียเกิงหัวเราะแห้งเมื่อนึกภาพตาม


    ********************************************************************


    การปลุกจบลงแล้ว  แต่ความรั่วยังไม่หมดนะจ๊ะ
    ชื่อตอนต่อไป(อยากบอกล่วงหน้า)...ยอม?
    คิดกันเอาเองแล้วกันว่าหมายถึงอะไร
    ทิ้งระเบิดเอาไว้แล้วเราก็จากไป โฮะ โฮะ โฮะ ^0^
    ฟิ้ว!! รีบวิ่งจากไปอย่างรวดเร็วก่อนจะโดนยำ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×