ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #40 : วุ่น

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 51





                        ประตูห้องขังถูกเปิดเข้ามาอีกครั้งเมื่อเช้าวันใหม่มาเยือน  หญิงสาวในชุดกระโปรงเสื้อคอเต่าแขนยาวสีแดงสดจงใจย่ำส้นรองเท้าแสนจะสูงพื้นเสียงดัง


                        "ตื่นกันเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"


                        "อื้อ..."   โบอาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงียก่อนจะทำท่าตกใจ


                        "อ๊ะ! นี่พวกคุณจะเข้ามาทำอะไรพวกเราอีกเนี่ย"


                        "พาสองคนนั้นไปได้แล้ว!!"   มาถึงเธอก็สั่งแบบสายฟ้าแลบเลยทีเดียว  โดยไม่สนใจจะตอบคำถามของโบอาเลย


                        "นี่!หยุดนะ"   โบอาพยายามจะรั้งคนที่เข้าไปจับตัวยุนโฮและยูชอน


                        "อือ..."   กระต่ายน้อยในห่อผ้าห่อมถูกยกขึ้นอุ้มในสภาพแบบนั้นทั้งที่ยูชอนยังไม่ตื่นดี  ส่วนหมีน้อยก็ถูกอุ้มไปอย่างสบายๆ ไม่มีอาการขัดขืน  เพราะความเพลียเมื่อวานทำให้เจ้าตัวหลับไม่รู้เรื่อง


                        "จัดการมัดไว้เหมือนเมื่อวานเลยนะ"   หญิงสาวชุดแดงบอกสั่งก่อนจะเดินนำออกไปจากห้อง

                        คนในชุดคลุมสีดำที่เดินกันขวักไขว่กระจายทั่วอยู่ภายในโรงงาน  แต่ก็ไม่ได้สังเกตุว่ามีผู้แปลกปลอมเข้ามาร่วมอยู่ในกลุ่ม  ฮีชอลและพวกพยายามเดินเลี่ยงไปยังส่วนลึกของตัวโรงงานก็พบกับตัวห้องที่ถูกสร้างขึ้นลวๆ ติดกันสองห้อง  ซึ่งมีพวกคนชุดคลุมดำยืนอยู่กันประปราย  ชายหนุ่มและพวกจึงทำเป็นไปยืนรวมตัวด้วย


                        "หวังว่าพวกทึกกี้จะช่วยสร้างสถานการณ์ให้นะ"   ฮีชอลเอ่ยกระซิบแจจุงและจุนซู


                        "ไม่ต้องห่วงหรอกพวกนั้นทำกันชัวร์ๆ "   แจจุงตอบกลับมาสายตาภายใต้หมวกทรงสูงก็สอดส่ายไปทั่ว


                        "แล้วของอยู่ไหนเนี่ย...มีฮาเธอก็มาช่วยกันหน่อยสิ"   เสียงผู้หญิงลอยดังมาจากห้องปิดทึบห้องหนึ่งที่มีคนในชุดคลุมดำยืนรักษาการณ์อยู่โดยรอบ


                        "ก็อยู่แถวๆ นั้นน่ะแหละ  ลองถามเจ้าดูสิ"   สาวในชุดกระโปรงพริ้วสีครีมพยักเพยิดหน้าไปทางชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน


                        "...มัวยืนเซ่ออะไรอยู่ล่ะรีบหามาเร็วเข้า!!"   สาวคนเดิมตะโกนเสียงลั่นพร้อมกับกระทบรองเท้ารัดส้นสูงลงพื้นรัวไม่หยุด


                        "ครับๆ !!"   ชายหนุ่มรีบตอบรับอย่างลนลานพร้อมกับวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว


                        "นี่มีเฮ...ระวังส้นรองเท้าจะหักเอานะ"   สาวมีฮาบอกพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง


                        "เธอก็มาช่วยปลุกสองคนนี้ให้ตื่นหน่อยสิ"   มีเฮเอ่ยเรียกพลางเดินไปหาร่างของสองหนุ่มน้อยที่ยังหลับอยู่แม้จะถูกมัดไว้ก็ตาม


                        "ฉันว่าจับถอดเสื้ออเลยดีกว่าไหม"   มีฮายกยิ้มเจ้าเล่ห์


                        "ถอดแล้วก็ไม่สนุกน่ะสิ...ใส่ไว้ดีกว่า"   มีเฮเอ่ยบอกก่อนจะเดินวนดูสองหนุ่มไปมา


                        "เฮ้! พวกแกน่ะ  มาช่วยฉันขนของหน่อยเซะ"   ชายหนุ่มที่ออกมาจากห้องปิดทึบตะโกนสั่งมายังทางพวกแจจุงพอดี  ทั้งสามจึงเดินตามไปอย่างว่าง่าย


                        กล่องลังที่ถูกปิดไว้อย่างมิดชิด 2 ใบถูกส่งยื่นให้กับฮีชอลและแจจุง  และอีกกล่องที่มีเสียงกุกกักๆ ของบางอย่างถูกยื่นไปทางจุนซู


                        "อะไรเนี่ย  มันดิ้นได้ด้วย"   โลมาในชุดคลุมเขยิบเข้าไปกระซิบกับแจจุงและฮีชอล


                        "ของแบนี้จะเอาไปทำอะไรล่ะเนี่ย"   แจจุงเริ่มพูดเสียงติดกังวลขณะเดินตามชายหนุ่มข้างหน้าไป


                        "สงสัยจะเอาไปทรมานสามคนนั้นแหง"   ฮีชอลฟันธงชี้ชัด

                        "ช้าจริง!! เร็วๆ เข้าสิยะ!"   มีเฮเปิดประตูห้องแง้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับตะโกนว่าชายหนุ่มที่เดินำหน้าพวกของฮีชอล


                        "โถ่! เจ๊ใจเย็นๆ สิ"   ชายหนุ่มรีบพาสามคนที่เดินตามเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว  แจจุงที่เห็นสภาพของยุนโฮกับยูชอนก็ทำท่าว่าจะเข้าไปหา  แต่ฮีชอลก็รีบรั้งเอาไว้ก่อนโดยที่พวกที่อยู่ในห้องยังไม่ทันสังเกตุเห็น


                        "อย่าเพิ่งวู่วามแจจุง"


                        "แล้วให้คนระดับล่างเข้ามาได้ไง  ให้พวกนั้นออกไปได้แล้ว"   มีเฮยืนกอดอกสั่งอย่างนางพญา


                        "มัวยืนบื้ออะไรอยู่ล่ะ  ออกไปสักทีสิ!!"   มีฮาเท้าเอวมองหน้าบุคคลทั้งสามอย่างเอาเรื่อง  ทั้งสามหนุ่มจึงจำใจต้องออกไปแต่โดยดี  เมื่อประตูถูกปิดลงอยางมิดชิดก็มีแต่เสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน


                        "...เอาล่ะ  เทใส่เลย... เทให้หมดกล่องน่ะแหละ"   เสียงมีเฮสั่งด้วยความตื่นเต้นสุดๆ


                        "คิก..คิก... ปล่อยพวกนั้นออกมาได้แล้ว"   มีฮาเองก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้กัน


                        "อ๊า..."   เสียงหมีน้อยร้องอย่างตกใจและกลัวอย่างสุดขีดดังออกมาให้คนที่อยุ่ด้านนอกได้ยิน  แจจุงมีอาการลนลานขึ้นมาทันที


                        "ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ..."


                        "อย่าเพิ่ง! ขืนบุกเข้าไปตอนนี้  นอกจากจะไม่ได้ช่วยแล้วเรายังจะโดนเล่นงานไปด้วยนะ"   ฮีชอลรีบเตือนห้ามแจจุงเอาไว้


                        "...ไอ้เจ้าสามคนในชุดนั้นท่าทางแปลกๆ นะจะใช่พวกฮีชอลหรือเปล่านะ"   ซีวอนที่ลัดเลาะเข้ามาด้านในอยู่สักพักแล้วเอ่ยถามชางมินขณะมองไปหน้าห้องปิดทึบที่มีกลุ่มคนชุดดำยืนอยู่


                        "มีสิทธิเป็นไปได้  แต่ก็อย่าเพิ่งวางใจไป"   ชางมินบอกกลับมาอย่างสุขุม  สายตายังคงจ้องดูไปทางเดียวกันกับซวอน


                        "สามคนไหนอ่ะ"   เยซองพยายามชะโงกคอมองหาบ้าง


                        "นายน่ะ  อยู่เฉยๆ ก่อนได้ไหม"   ซีวอนหันมาบอกพลางถอนหายใจยาว


                        "อะไรกัน...รู้กันอยู่แค่สองคนจำไว้เลย"   เยซองทำหน้ามุ่ก่อนจะเดินหลบเข้าไปอยู่ข้างหลังอย่างงอนๆ


                        "งั้นรอดูอยู่ตรงนี้ไปก่อนก็แล้วกัน"   ซีวอนพูดพ้อมกับซุ่มมองดูอย่างไม่วางตา


                        "รู้สึกว่าทางด้านหน้าจะมีพวกคนที่ใส่ชุดนี้กันอยู่อีกหลายคนเลยล่ะ...งานนี้ท่าจะเล่นยากแฮะ"   ชางมินส่องสายตาเลยไปอีกทาง


                        "อื๊อ...พอซะทีได้ไหม...อ๊ะ..."   เสียงร้องขออย่างสั่นเครือดังแว่วออกมาจากในห้องที่ปิดไว้อย่างมิดชิด


                        "เสียงพี่ยูชอนนี่...เจ้าพวกนั้นมันทำอะไรพี่เนี่ย!"   จากที่นิ่งอยู่ในตอนแรกเริ่มหวั่นวิตกขึ้นมาทันที


                        "เอ่อ...บอกไม่ถูกเหมือนกัน..."   ซีวอนเองก็เกิดอาการวิตกขึ้นมาด้วยเช่นกัน


                        "หรือว่าเจ้าพวกนั้นมันจะ...หยึย! ไม่อยากจะคิดเลย"   เยซองแทรกขึ้นมาทำท่าขนลุกไปด้วย


                        "ไม่ต้องพูดให้คิดตามได้ไหม"   ซีวอนเอ่ยบอกพลางยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง


                        "นี่ชางมิน  นายอย่าคิดมากเลยนะบางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้"   เยซองที่เห็นว่าชางมินมีท่าทางคิดไม่ตกก็เข้ากอดคอปลอบใจอย่างรวดเร็ว


                        "ถ้าพี่ยูชอนเป็นอะไรไป  เจ้าพวกนั้นจะต้องไม่ตายดีแน่"   เลือดขึ้นหน้าชางมินเสียแล้ว


                        "ช่วยขยับออกห่างกันหน่อยได้หรือเปล่า"   ซีวอนดึงคอปกเสื้อของเยซองให้ออกห่างจากชางมินด้วยสีหน้าไม่พอใจ


                        "อะไรเล่า  ก็แค่ปลอบใจชางมินเอง"   เยซองหันไปบอกซีวอนด้วยท่าทางไม่รับรู้ถึงสถานการณ์เอาซะเลย


                        "แต่ฉันไม่ชอบ...เข้าใจป่ะ"   ซีวอนมองหน้าเยซองนิ่งสายตาจริงจัง


                        "เออ! รู้แล้วน่ะ..."   ตอบเสร็จก็หันหน้าหนีด้วยใบหน้าแดงๆ ชางมินหันไปมองทั้งสองคนก็ถอนหายใจออกมา  ก่อนจะกลับไปมองสถานการณ์ตรงหน้าต่อ

                        "ด๊อง  เรียว  พวกนายสองคนเอานี่ไป"   เสียงของชองมินดังลอดออกมาจากหมวกทรงสูงแหลมพลางส่งอะไรบางอย่างให้กับทั้งสองคนที่ใส่ชุดเหมือนกัน


                        "พอฉันส่งสัญญาณ  พวกนายก็จุดแล้วโยนไปทางเจ้าพวกนั้นเลยนะ"   ทั้งสองคนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ


                        "โอเค! กระจายตัวได้"   ชองมินสั่งการ

                        "เฮ้อ~ เมื่อไหร่สัญญาณจะดังสักที"   คังอินบ่นออกมาจากภายใต้หมวกคลุมหน้าทรงสูง


                        "ใจเย็นน่า  เดี๋ยวก็ได้สนุกกันแน่"   ทึกกี้บอกพลางเตรียมเครื่องไม้(หน้าสาม)  เครื่องมือ(ก่อความเสียหาย) อย่างตั้งอกตั้งใจ  ส่วนฮันกยองก็ยืนตั้งท่าเตรียมบุกเต็มที่


                        "ปัง!!!!ปัง!!!!"   เสียงประทัดดังขึ้นพร้อมกับการแตกตัวของกลุ่มคนชุดดำ  ฮันกยองที่ตั้งท่ามาตั้งนานแล้วรีบวิ่งไปยังจุดที่กำหนดไว้ทันทีพร้อมกับเปิดถังดับเพลิงที่เตรียมเอาไว้กราดยิงใส่พวกชุดดำที่กำลังวิ่งกันอย่างพลุกพล่าน  ส่วนเฮียทึกก็ถอดชุดคลุมและหมวกทรงสูงออกจากนั้นก็ใช้ไฟจุดเศษกระดาษและไม้ให้ควันคลุ้งไปทั่ว  คังอินเองก็จัดการคนที่เข้ามาขัดขวางได้อย่างอยู่หมัด

                        "ท่าทางพวกนั้นจะเริ่มแล้วนะ"   เยซองบอกกับชางมินและซีวอน


                        "งั้นพวกเราก็ไปกันเลยดีกว่า"   ชางมินบอกอย่างร้อนใจพร้อมกับรีบวิ่งนำไปเป็นคนแรก


                        "ห้ามดึงมือออกเด็ดขาดเลยนะ"   ซีวอนคว้ามือเยซองมาจับก่อนจะพาวิ่งออกมาด้วยกัน


                        "อ่ะ...เอ่อ..อืม..."   เยซองพยักหน้ารับเบาๆ

                        เสียงประทัดยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่องพร้อมกับการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มเฮียทึก  ส่วนกลุ่มฟิวชั่นก็กำลังสนุกสนานกับการจุดโปรยประทัดแล้วโยนใส่เหยื่ออย่างพวกคนชุดดำ  พวกคนชุดคลุมสีดำที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้องปิดทึบได้วิ่งกรูกันออกไปดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น  จึงเปิดโอกาสให้แจจุงที่เพิ่งโยนชุดคลุมดำทิ้งไปและชางมินที่เพิ่งวิ่งเข้ามาสมทบพังประตูเข้าไปได้อย่างง่ายดาย


                        "พวกแก!! กล้าดียังไงเนี่ย!"   มีเฮโวยลั่นเมื่อถูกรบกวนเวลารื่นรมย์ของตัวเอง


                        "อ๊ะ! ...ช่วยด้วย...อื้อ....ชางมิน...อือ"   ยูชอนที่ร้องจนหมดแรงเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง


                        "แจจุง!!"   หมีน้อยตะโกนเรียกชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าอย่างดีใจ


                        "จัดการมันสิ!! ปล่อยให้พวกมันเข้ามาได้ไง"   มีฮาออกคำสั่งกับชายหนุ่มคนสนิท  จากนั้นคนโดนสั่งก็รีบวิ่งตรงเข้าหามคนที่บุกเข้ามาพร้อมกับลูกน้องร่างยักษ์อีก 2-3 คน


                        "โบอาล่ะ! โบอาอยู่ไหน..."   จุนซูถอดหมวกทรงสูงออกพลางกระโดดหมุนตัวเตะก้านคอหนึ่งในลูกน้องร่างยักษ์ร่วงลงพื้น


                        "โบอาอยู่ที่ห้องข้างๆ!!!"   หมีน้อยตะโกนบอกพร้อมกับออกแรงดิ้น


                        "งั้นผมไปช่วยโบอาก่อนนะ!!"   จุนซูตะโกนบอกขณะกระทุ้งศอกเสยใส่คนชุดคลุมดำที่เข้ามาทางข้างหลัง

                        "ส่งกุญแจมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"  แจจุงออกคำสั่งกับสองสาวพลางเอี้ยวตัวหลบชายร่างยักษ์ที่พุ่งตัวเข้าใส่ก่อนจะแขนอีกฝ่ายบิดแล้วทุ่มลงกับพื้น


                        "นี่นาย...คิดจะขู่บังคับผู้หญิงงั้นเหรอ!"   มีเฮที่ยืนเท้าเอวอยู่แสดงท่าทางไม่พอใจสุดๆ


                        "แม่สาวคนสวยบอกกันมาดีกว่าน่ะ  พวกเราไม่อยากจะทำร้ายผู้หญิงหรอกนะ"   ฮีชอลที่จัดการกับพวกลูกน้องจนลงไปกองกันหมดแล้วเดินตรงไปหามีเฮเพื่อจะเจรจาอย่างสันติ  มือเรียวเชิดคางหญิงสาวขึ้นอย่างเบามือ  ส่วนสายตาก็จ้องมองไปอย่างมีเสน่ห์


                        "อุ๊ยตาย! น่ากลัวจังเลย"   แล้วมีเฮก็หยิบปืนที่เก็บซ่อนไว้ตรงต้นขาใต้กระโปรงยาวขึ้นมาจ่อที่หน้าอกของฮีชอลพร้อมยกยิ้มร้ายกาจ


                        "พี่ฮีชอล!!"   ยูชอนเบิกตากว้างด้วยความตกใจจนลืมนึกไปเลยว่าตัวเองอยู่ในสภาพเช่นไร  แต่ฮีชอลกลับยิ้มกลับอย่างไม่เกรงกลัว


                        "เธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก..."   พูดจบหญิงสาวตรงหน้าก็ถูกตีหัวจากคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ


                        "โทษทีนะ  แต่มันไม่มีทางเลือกอ่ะ"   เยซองบอกทั้งที่ยังถือไม้หน้าสามคามือด้วยท่าเดิม


                        "นั่นผู้หญิงนะน่ะ..."   ซีวอนมองดูสภาพหญิงสาวอย่างอดสงสารไม่ได้


                        "ก็นะ...แต่มันก็ศัตรูนี่"   ฮีชอลทำท่าไม่ยี่หระ  ก่อนจะหันไปหาหญิงสาวอีกคนที่ยืนมองดูอย่างหวาดๆ  จากนั้นมีฮาก็ทรุดตัวลงกับพื้นพลางร้องห่มร้องไห้ออกมาให้เห็น


                        "ฮือ...อย่าทำอะไรฉันเลยนะ..."   มีฮาร่ำไห้ขอร้องทุกคน


                        "แล้วกุญแจอยู่ไหน"   แจจุงหันไปคาดคั้นด้วยหน้าตาดุดัน


                        "ดะ...เดี๋ยวฉันไขให้นะ..."   มีฮาบอกเสียงสั่นเครือก่อนจะเดินไปไขกุญแจมือให้กับยูชอน


                        "พี่ยูชอน! ไม่เป็นไรนะ"   ชางมินโผเข้ากอดร่างบางทันที


                        "ฮือ...ชางมิน.."   กระต่ายน้อยร้องไห้โฮออกมาพลางซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของชางมิน


                        ในขณะที่มีฮากำลังปลดกุญแจมือออกให้กับหมีน้อยคัตเตอร์อันใหญ่ที่ถูกซุกซ่อนไว้ก็ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ  หมีน้อยถูกหญิงสาวล็อคคอเอาไว้พร้อมกับจ่อมีดลงไปที่คอยุนโฮ


    "มีเฮ!! ลุกขึ้นมาได้แล้ว!"   มีฮาตะโกนเรียกคนที่นอนสลบอยู่


                        "พวกแกถอยออกไปให้หมด! ไม่อย่างนั้น  ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของเจ้านี่นะ"   ปลายมีดถูกกดลงไปที่ผิวเนื้อจนเลือดซิบออกมา


                        "อย่าโง่น่า...มีฮาปล่อยตัวเจ้านั่นซะ..."   มีเฮลุกขึ้นยืนพลางยกมือจับศรีษะตัวเอง


                        "นี่  พูดอะไรของเธอน่ะ!"   มีฮาถามกลับอย่างไม่เข้าใจ


                        "ฉันไม่ต้องการตัวถ่วง  เวลาเราหนีหรอกนะ"   หญิงสาวบอกก่อนจะเดินเซไปเซมาเพื่อเข้าไปหามีฮา  จากนั้นมีฮาจึงตัดสินใจจัดการผลักตัวยุนโฮออกไปให้พ้นตัว


                        "ถ้าใครเข้ามาแม่จะยิงให้พรุนเลยคอยดู"   มีเฮยกปืนลูกโม่จ่อไปยังกลุ่มพวกแจจุง


                        "แล้วไอ้ปืนในมือนายน่ะ  มันไม่มีแม๊กลูกกระสุนหรอกนะ"


                        "............."   ฮีชอลไม่ได้พูดตอบอะไร  แต่ปืนที่ถือจ่อร่างของหญิงสาวเอาไว้ก็ถูกเหนี่ยวไกในทันที  แล้วผลปรากฏก็เป็นดังที่มีเฮพูดจริงๆ


                        "คราวนี้ฝากไว้ก่อนเถอะ  ทุกอย่างมันยังไม่จบง่ายๆ หรอก"   มีเฮจ่อปืนไปยังทุกคนด้วยสายตาอาฆาตแค้น  ก่อนจะฉุดดึงมีฮาให้วิ่งหนีออกไปจากห้องโดยเร็วที่สุด


                        "แจจุง!!! ฮือ..."   เมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไปด้วยดีหมีน้อยรีบโผเข้าหาแจจุงในทันทีพลางร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น


                        "ไม่เป็นไรแล้วนะ...ฉันอยู่นี่แล้ว"   แจจุงลูบหัวคนในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน  ก่อนผละตัวออกมามองดูรอยแผลที่เกิดจากปลายมีคัตเตอร์ตรงต้นคอขาวเนียน


                        "เจ็บหรือเปล่า"   หมีน้อยส่ายหัวเบาๆ เป็นการตอบ


                        "เฮ้ย!! ปลอดภัยกันดีไหม"   อิรุโผล่หน้าเข้ามาในห้องพร้อมกับกำลังตำรวจที่มาจัดการจับกุมพวกแอนตี้แฟนทั้งหลาย


                        "พวกหัวหน้ากลุ่มมันหนีไปกันหมดแล้ว"   เยซองบอกออกมา


                        "ไม่เป็นไร  ปล่อยให้เป็ฯหน้าที่ตำรวจเขาก็แล้วกัน"   อิรุเอ่ยบอกพลางเดินเข้าไปหายูชอนซึ่งอยู่ในอ้อมกอดของชางมิน


                        "ยูชอนไม่บาดเจ็บอะไรใช่ไหม"


                        "อือ..."   ร่างบางผงกหัวเล็กน้อยแล้วก็ซุกตัวเข้าหาชางมินมากขึ้นกว่าเดิม


                        "แล้วทางข้างนอกเป็นไงบ้างครับ"   ชางมินหันไปถามอิรุ  มือเรียวยังคงลูบหัวคนในอ้อมกอดเพื่อคลายความกังวล


                        "กำลังเคลียร์พื้นที่กันอยู่น่ะ"   บอกเสร็จก็หันมองไปรอบห้อง


                        "เจ้าหนูตากล้องล่ะ?"


                        "อยู่นี่คร๊าบ ^ ^  "   โลมาตามเข้ามาสมทบพร้อมกับโบอาด้วยสีหน้าสดชื่น  แต่โบอากลับมีสีหน้าที่ดูเซื่องซึมอยู่เล็กน้อย

                        "โอ๊ย!! เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวชะมัดเลย"   ฮันกยองว่าพลางยืดแขนไปด้านข้าง  แต่กลับโดนหน้าทึกกี้เข้าอย่างจัง


                        "ทำอะไรหัดระวังมั่งเดะ!"   เฮียทึกโวยออกมาทั้งที่ปลาหมึกปิ้งยังคงคาปาก


                        "เฮียทึกกินไม่แบ่งเลยนะ"   เยซองหันหน้ามาเกยคางกับเบาะพลางส่งสายตาปริบๆ


                        "ก็อย่างแบ่งอยู่หรอกนะ  แต่มันเหลือชิ้นสุดท้ายแล้วอ่ะ"   ทึกกี้ยกยิ้มอยางกับพวกโรคจิตก็ไม่ปานเอ่ยบอก


                        "แต่ถ้าเยซองอยากกินเดี๋ยวป้อนให้ด้วยปากก็แล้วกัน"


                        "พูดแบบนั้นอยากเป็ฯศพอยู่ข้างทางหรือไงครับ...คุณจองซู"   ซีวอนที่กดเกมในโทรศัพท์มือถืออยู่พูดเสียงเย็นแบบติดลบหลายสิบองศา


                        "โห่! ทำไมถึงได้เป็นลีดเดอร์ที่ใจร้ายอย่างเนี้ย"   เยซองหันหน้ากลับมานั่งดีๆ พร้อมกับบ่นออกมา  จากนั้นก็แนบตัวไปที่กระจกรถ


                        "นายก็เลิกบ่นซะทีเถอะน่า..."   ซีวอนบอกโดยที่ไม่ได้ละสายตาออกมาจากหน้าจอมือถือเลย


                        "ก็คนมันหิวนี่..."   หันมามองหน้าคนข้างๆ อย่างไม่พอใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นยกยิ้มแทน


                        "งั้นฉันกินนายแทนแล้วกัน"   พูดจบเยซองก็งับแขนชายหนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว


                        "เฮ้ย!! นายจะบ้าหรือไง!"   ซีวอนโวยลั่นพร้อมกับดึงแขนตัวเองหนีอย่างรวดเร็ว


                        "สมน้ำหน้า..."   พูดบอกแถมยังแลบลิ้นให้อีกต่างหาก  แล้วก็กลับไปพิงกระจกรถอีกครั้ง


                        "แสดงความรักกันแปลกดีนะพวกนายเนี่ย"   คังอินเปิดปากพูดได้หลังจากกระเดือกปลาหมึกปิ้งลงไปหมดแล้ว


    "ไม่ได้แสดงความรักกันซะหน่อย!"   เยซองรีบหันมาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว


                        "อ้าว! เยซองกะซีวอนยังไม่ได้ตกลงคบกันอีกเหรอ"   จุนซูเอ่ยถามดวงตาตี่ๆ เบิกก้วางเล็กน้อย


                        "คบกันอะไร! พวกนายเอาเรื่องอะไรมาพูด!"   เยซองเถียงกลับไปตอนนี้ใบหน้าแดงจัดแล้ว


                        "แสดงออกซะโจ่งแจ้งขนาดนั้นยังจะปฏิเสธอีก..."   ฮีชอลพูดขึ้นลอยๆ ไม่ได้มองหน้าใครเลย  เพราะมัวแต่ให้ความสนใจอยู่กับหนังสือในมือ


                        "..อือ...ถึงบ้านแล้วเหรอ...ทำไมเอะอะกันจัง"   กระต่ายน้อยขยี้ตาด้วยท่าทางงัวเงียหลังจากหลับมาตั้งแต่ตอนขึ้นรถแล้ว


                        "ยังไม่ถึงหรอกครับ  นอนต่อเถอะ"   ชางมินบอกคนที่นั่งอยู่บนตักตัวเองพร้อมยีหัวเบาๆ


                        "อิจฉาจริงเล้ยยย...พวกมีแฟนเนี่ย"   ฮันกยองเอ่ยลากเสียงยาว


                        "เห็นด้วยอย่างยิ่งป๋า!"   คังอินเสริมสนับสนุนป๋าเกิงเต็มที่


                        "งั้นพวกนายสองคนก็คบกันซะเลยสิจะได้ไม่ต้องอิจฉาใคร"   ฮีชอลบอกพลางพลิกหน้าหนังสือที่กำลังอ่านอยู่


                        "พวกเราสนับสนุน!!!"   สามฟิวชั่นหันมาเห็นดีเห็นงามด้วย


                        "เฮ้ย!! ไม่ได้นะ  พวกนายจะทิ้งฉันไว้เพียงลำพังงั้นเหรอ"   เฮียทึกทำท่าเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาทันที  ฮันกยองใช้ฝ่ามือฟาดลงไปที่ศรีษะของลีดเดอร์เอสเจอย่างเต็มรัก


                        "คบกับคังอินฉันเลือกชินดงยังดีซะกว่าอีก"   ป๋าบอกหน้าตาจริงจัง


                        "เหมือนกัน...ผมคบกับปลาหมึกปิ้งยังจะพอเป็นไปได้มากกว่านะ"   คังอินพูดพร้อมกับส่งสายตาหยาดเยิ้มกับปลาหมึกปิ้งในมือ


                        เยซองที่ในตอนแรกนั่งพิงกระจกอยู่ตอนนี้ก็ค่อยๆ เลื่อนตัวไปพิงไหล่ของคนข้างๆ แทน  เพราะใช้พลังงานไปจนหมดเกลี้ยง  ดองแฮหันมาเห็นฉากเด็ดเข้าให้พอดีก็รีบคว้ากล้องดิจิตอลขึ้นมาพลางซูมภาพคู่แล้วกระหน่ำถ่ายอย่างรวดเร็ว


                        "ถ่ายให้ฟิล์มหมดไปลยด๊อง"   เฮียทึกเอ่ยสั่งสีหน้ากระตือรือล้น(ทึกลืมไปเปล่าว่ามันเป็นดิจิตอลจะมีฟิล์มได้ยังไง - - )   เพราะตอนนี้ซีวอนเองก็ปิดสวิตถ์ตัวเองไปแล้วเหมือนกัน


                        "ไม่มีปัญหาครับ"   ดองแฮทำท่ารับทราบ


                        "ถ่ายให้หมดทุกคู่เลยนะ"   ป๋าเองก็ช่วยกันสนับสนุน  จากนั้นตากล้องจำเป็นก็เริ่มลงมือทำตามคำสั่ง


                        "ด๊องถ่ายให้ฉันมั่งดิ"   เรียววุคหันมาเก๊กท่าใส่กล้อง


                        "ฉันด้วยๆ"   ชองมินเองก็ร่วมด้วยช่วยกันโพสท่า  ดองแฮยินดีทำตามอย่างเต็มที่เนื่องด้วยผีตากล้องเข้าสิงอย่างเต็มที่แล้ว


    ***********************************************************


    ตอนนี้อาจจะรั่วไปสักนิด  คิดว่านะ?
    แต่ตอนหน้าใครทีเป็นแม่ยกแจหมีเตรียมเฮได้เลยนะ ^ ^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×