ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #38 : สปาร์ค

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 51





                        "ผมพอจะรู้แล้วล่ะครับว่าพวกพี่ยูชอนถูกจับไปไว้ที่ไหน!"   ชางมินที่หลบเข้าไปอยู่ในห้องเป็นเวลานานได้โผล่หน้าออกมาพร้อมกับตะโกนลั่น

                        "ถามจริง!!"  อิรุและจุนซูประสานเสียงพร้อมกันด้วยใบหน้าตกใจสุดๆ

                        "นายรู้ได้ไงอ่ะชางมิน!"  แจจุงตรงรี่ไปหาน้องชายทันทีพร้อมกับเหล่าสมาชิกของเอสเจที่ดูออกจะสนใจเป็นที่สุด

                        "ทุกคนดูนี่..."  ชางมินยกกระดาษที่มีรอยพับและข้อความจากพวกแอนตี้แฟนให้กับทุกคนได้ดูกันอย่างถ้วนหน้า

                        "ไม่เห็นจะเข้าใจเลย  ก็แค่จดหมายขู่เองไม่ใช่เหรอ"  ฮันกยองขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

                        "มันแตกต่างจากกระดาษธรรมดาตรงไหนหรือไง"  เฮียทึกเอ่ยถามพบางทำหน้ายุ่ง  ทุกคนที่มองตามก็ทำหน้างงไม่แพ้กัน

                        "สังเกตกันดีๆ สิครับ  ลายของกระดาษน่ะ"  ชางมินพยายามจะอธิบายให้ทุคนฟัง

                        "โอ๊ย! ของแบบนั้นเฮียเกิงกับเฮียทึกมองไม่เห็นหรอกชางมิน"  เยซองรีบพูดแทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว

                        "ทำไม่เหรอเยซอง"  เรียววุคหันไปถามหน้างงๆ

                        "ก็สองคนนั้นแก่แล้ว  หูตาย่อมไม่ดีเป็นธรรมดา 555+  ^ ^ "  เยซองพูดบอกหัวเราะอย่างสะใจ

                        "แต่มือเท้ายังดีอยู่แน่ๆ ลองดูไหมเยซอง  ^ ^*  "  ลีทึกยกยิ้มเย็นพร้อมทั้งดัดนิ้วมือไปด้วย  โดยมีป๋าที่ทำท่าไม่ต่างกันกับทึกกี้ขนาบข้างอยู่ด้วย

                        "พวกพี่ๆ ครับช่วยเข้าเรื่องกันก่อนได้ไหม"  ชางมินเอ่ยบอกหน้าตายจ้องมองบุคคลทั้งสามอย่งไม่ค่อยพอใจ  กอ่นจะเริ่มอธิบายต่อ

                        "...คือว่ากระดาษแผ่นนี้มันเป็นลายที่มีเฉพาะแค่โรงงานทำกระดาษที่อยู่เมืองข้างๆ เท่านั้นที่ผลิตขึ้นมา"

                        "โรงงานทำกระดาษทีอยู่เมืองข้างๆ อย่างนั้นเหรอ?"  ฮีชอลทวนคำพลางทำท่าคิดตาม

                        "แต่มันปิดโรงงานไปแล้วนี่"

                        "นั่นสิ  มันเจ๊งไปแล้วไม่ใช่เหรอชางมิน"  แจจุงถามบ้าง


                        "พวกนั้นกำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ..."  คยูน้อยหันไปถามซีวอนที่ทำหน้าเอ๋อไปเรียบร้อยแล้ว

                        "ม่ายรู้เหมือนกัน..."  ซิมบ้าส่ายหน้าไปมาช้าๆ พลางทำตาปริบๆ

                        "ก็ฟังเขาพูดกันไปก่อนสิเดี๋ยวก็รู้เรื่องเองแหละ"  คิบอมหันมาบอกกับคนทั้งสอง

                        "คร๊าบ..."  คังอินลากเสียงยาวตอบรับแทนด้วยสีหน้าเซ็งเล็กน้อยถึงปานกลาง

                        "...จากการสันิษฐานของผม  คิดว่าน่าจะเป็นที่โรงงานนั้นน่ะแหละที่น่าจะเป็นที่ซ่องสุมของพวกแอนตี้แฟนน่ะ"

                        "แล้วจะแน่ใจได้ยังไง  แค่กระดาษแผ่นเดียวมันเอามาสรุปไม่ได้หรอก  บางทีพวกนั้นอาจจะซื้อมาจากที่ไหนก้ได้"  ฮีชอลท้วงขึ้น

                        "ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน  แต่ว่าผมลองตรวจสอบดูแล้ว  รุ่นและลายนี้ได้ถูกตีกลับเพราะว่าขายไม่ดี  เพราะฉะนั้นคนพวกนั้นจะต้องใช้กระดาษนี่จากโรงงานแน่นอน"  ชางมินบอกด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจเต็มที่กับการวิเคราะห์ของตัวเอง

                        "และที่สำคัญกระดาษแผ่นนี้ถ้าสังเกตกันดีๆ ก็จะเห็นว่ามันมีรอยเปรอะเปื้อนฝุ่นดินอยู่ด้วย"

                        "นายเหมาะเป็น FBI มากกว่านักร้องอีกนะเนี่ย"  อิรุเอ่ยชมแกมประชดใส่

                        "ขอบคุณนะครับที่ชม"  ชางมินทำท่าน้อมรับอย่างเต็มใจ

                        "งั้นพวกเราไปสำรวจที่นั่นดูกันหน่อยไหม..."  จุนซูบอกด้วยท่าทางและสีหน้ากระตือรือล้น

                        "ฉันเห็นด้วย"  แจจุงรบตอบรับอย่างแข็งขัน

                        "ถ้างั้นเดี๋ยวพวกเราไปช่วยด้วยอีกแรง"  ฮันกยองรีบเสนอตัวขึ้นในทันที

                        "แล้วตกลงใครจะไปมั่งอ่ะ"  เฮียทึกเริ่มนับจำนวนสมาชิกที่จะเป็นแนวหน้า(?)  เหล่าสมาชิกที่เหลือยกมือขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

                        "นาย! นาย! แล้วก็นายห้ามไป"  ฮีชอลชี้ไปยังฮยอคแจ  คยูฮยอน  และคิบอมด้วยสีหน้าเรียบ

                        "ได้ไงอ่ะพี่ฮีชอล! เรื่องไรไม่ให้พวกเราไปอ่ะ"  คิบอมรีบโวยวายขึ้นมาทันที

                        "นั่นสิ"  คยูน้อยทำหน้าหงอยพร้อมทั้งทำตาละห้อยใส่ฮีชอล

                        "จะไม่ให้พวกเราไปจริงๆ เหรอ"  ดวงตาใสซื่อจากฮยอคแจจ้องมองคนสั่งห้ามอย่างหงอยๆ

                        "ยังไงก็ห้ามไป!"  ฮีชอลหันหน้าหลบสายตาจากบุคคลทั้งสาม

                        "ชินดงนายอยู่นี่ดูแลสามคนนี้แล้วกัน"

                        "อ่ะ..เอ่อ...ก็ได้..."  ชินดงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจำใจเล็กน้อย  เพราะหวังจะได้ไปอยู่นิดหน่อย

                        "พี่ฮีชอลใจร้ายอ่ะ..."  คยูน้อยทำแก้มป่องพลางคว้าหมอนอิงมากอดไว้ด้วยท่าทางไม่พอใจ

                        "จำไว้เลยนะ  จะไม่พูดด้วยแล้ว"  ฮยอคแจทิ้งตัวนั่งข้างๆ คยูอยอนด้วยหน้าตามู่มุ่ย  ส่วนคิบอมก็ไม่พูดอะไรได้แต่จ้องหน้าคนใจร้ายอยู่อย่างนั้น

                        "...ดูแลพวกนี้ให้ดีล่ะชินดง  อย่าปล่อยให้ตามพวกเรามาเด็ดขาด"  ฮีชอลเลี่ยงที่จะคุยกับสามหนุ่มน้อยโดยการสั่งบอกชินดงแทน  จากนั้นก็เดินหนีไปที่อื่น

                        "ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนชินดงได้ป่ะ"  ทึกกี้ลองเอ่ยถามฮีชอลขึ้นมาพลางเหล่ไปมองข้างหลัง

                        "ไม่ได้!"  ฮีชอลหันกลับมาตอบเสียงเด็ดขาดพลางจ้องหน้าคนถามสายตานิ่ง

                        "หวงก้าง..."  ซีวอนหันไปกระซิบกระซาบกับคังอิน

                        "จะไปกันได้หรือยัง!!"  ฮีชอลเอ่ยเสียงดุ

                        "คร๊าบ!!!~"  ประสานรับกันเป็นเสียงเดียวด้วยความเกรงใจ(อย่างสุดซึ้ง)

                        ชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่สองคนเดินย่างสามขุมเข้าไปหาคนที่ถุกจับมัดมือมัดเท้าเอาไว้  ก่อนจะจับตัวยูชอนและยุนโฮขึ้นพาดบ่าเอาไว้  ยุนโฮพยายามออกแรงดิ้นหนีแต่ก็ไม่สามารถทำได้ถนัดนักพร้อมกับจะพยายามพูดว่าคนที่จับตัวเองไว้  แต่ก็ติดตรงที่ถูกผ้ารัดปิดปากเอาไว้  ยูชอนเองก็ไม่ต่างไปจากหมีน้อยแถมยังไม่มีเรียวแรงดิ้นด้วยซ้ำไป  จึงได้แต่ขยับดุ๊กดิ๊กไปมาเท่านั้น

                        "อื๊อ! อื๊อ!"  โบอาที่เห็นเพื่อนทั้งสองถูกจับไปก็อยากที่จะช่วยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย  จึงได้แต่ส่งเสียงร้องกับพยายามจะขยับตัวไปมาอยู่แค่นั้น

                        "ฮึ..สาวน้อยจ๊ะ  อยู่เฉยๆ เก็บแรงไว้ดีกว่านะ...คิก..."  สาวในชุดเดรสสีชมพอ่อนมีระบายที่ชายกระโปรงทำท่ายกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองพร้อมกับขยิบตาให้โบอา  ก่อนจะเดินตามชายร่างใหญ่สองคนไป


                        "เอาล่ะ...รีบจับสองคนนั้นล่ามโซ่ซะสิ"  หญิงสาวชุดคอวีแขนกระดิ่งสีแดงสดเอ่ยสั่งชายหนุ่มที่เป็นลูกน้องคนสนิท

                        "ลูกเพ่ของที่ให้เตรียมน่ะพร้อมแล้วนะ"  หลังจากที่ทำตามคำสั่งเสร็จแล้วชายหนุ่มหน้าโฉดก็เอ่ยบอกขึ้นด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์(โฉดชั่วสุดๆ)

                        "ดีง..แล้วก็เอาผ้าผูกปากมันออกด้วยนะ...ฉันอยากฟังเสยงร้องของสองคนนั้นจะแย่"  มุมปากแดงสดด้วยสีลิปสติกอย่างดีหยักยิ้มร้าย

                        "รีบไปเอาของมาเร็วๆ สิ! ฉันเริ่มจะทนรอเห็นสองคนนั้นต้องทรมานไม่ไหวแล้วนะ"  เสียงหวานใสแต่แฝงความร้ายกาจออกคำสั่ง  จากนั้นหนุ่มหน้าโฉดคนสนิทก็รีบจัดการตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว

                        "ปล่อยฉันนะ!! พวกนายจับฉันมาทำไม!"  ยูชอนที่ตอนนี้ถูกล่ามมือทั้งสองไว้เหนือหัวและถูกแก้ผ้าปิดปากออกร้องโวยวายขึ้นมาทันที

                        "เราไปทำอะไรให้พวกคุณเจ็บแค้นหรือไงกันถึงได้มาทำกันแบบนี้!"  ยุนดฮตะโกนบอกไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ

                        "แหม!!เสียงดีกันจังเลย...แต่อย่างนี้แหละดี!"  สาวในชุดแดงสดเบิกตาวาวก่อนจะดีดนิ้วสั่งให้เริ่มจัดการตามที่เตรียมกันไว้  โดยมีหญิงสาวในชุดเดรสยืนมองดูอยู่พร้อมกับแสยะรอยยิ้ม

                        "อ๊า! จะทำอะไรน่ะ  อย่าเข้ามานะ!"  ยุนโฮโวยวายขึ้นมาทันทีเมื่อร่างสูงใหญ่เดินก้าวย่างเข้ามาทางตนและยูชอน

                        โบอาที่ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้พยายามแนบหูฟังกับผนังห้องด้วยความยากลำบาก  เสียงร้องจากชายหนุ่มทั้งสองที่ถูกจับไปไว้อีกห้องสร้างความกังวลใจให้กับหญิงสาวไม่น้อย  โบอาได้แต่ภาวนาไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับทั้งสองคนนั้น

                        "อื๊อ...อย่า..นะ..."  เสียงหมีน้อยดังขึ้นอย่างผิดปกติ  โบอาเบิกตากว้างอย่างตกใจ  แต่ก็ยังคงแนบหูฟังต่อไปแม้ใจใจจะหวั่นวิตกอยู่ก็ตาม

                        "อ๊ะ...หยุดนะ...ตรงนั้นน่ะ...อ๊า..."  เสียงยูชอนเองก็ดังตามติดกันมา  โดยมีเสียงหัวเราะเบาๆ ของหญิงสาวภายใจห้องแว่วให้ได้ยินด้วย

                        "โอ๊ะ!...ซี๊ด..."  เสียงชายหนุ่มที่ไม่ใช่ของยูชอนและยุนโฮดังขึ้นมาบ้าง

                        "อึ่ก...ทำไมต้องทำ...แบบนี้ด้วย...อ๊า.."  หมีน้อยถามขึ้นเสียงเครือสั่น

                        "คิก..."  มีเพียงเสียงหวานใสหัวเราะตอบเท่านั้น

                        "พอ..พอทีเถอะ...อื้อ...อ่ะ.."  กระต่ายน้อยร้องขอด้วยเสียงทรมานอย่างมาก

                        "ฮึ่ก..ไม่เอาแล้ว...แจ..ช่วยด้วย...อ๊ะ!"  แล้วหมีน้อยก็ร้องสะอื้นไห้ออกมา

                        "อือ..ยุนโฮ...อย่าร้องนะ..อื้อ..."  กระต่ายน้อยพยายามปลอบเพื่อนถึงสภาพการณ์ตอนนี้ยูชอนก็ย่ำแย่พอๆ กันก็ตาม

                        "ยูชอน...ฮือ..หยุดสักทีเถอะครับ...ผมเจ็บไปหมดแล้ว...อึ๊.."  หมน้อยพยายามขอร้องกับพวกที่รายล้อมอยู่

                        "อ๊ะ...จะ..ไม่ไหวแล้วนะ...อึ่ก"  กระต่ายน้อยบิดตัวหนีสัมผัสที่ไล่ไปทั่วร่างกายพร้อมกับร้องไห้ออกมาไม่หยุด

                        โบอาหน้าวีดเผือดลงจนเห็นได้ชัด  น้ำตาหน่วงคลอทั้งสองดวงตารู้สึกเจ็บปวดและเจ็บใจในเวลาเดียวกันกับสิ่งที่ได้รับฟัง  หญิงสาวนั่งหันหลังพิงกำแพงเย็นเฉียบด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนเต็มทน

                        "ฮึก..ฮือ..."  แล้วน้ำตาก็ได้ไหลหล่นร่วงลงโดยไม่มีเก็บกลั้น


                        "หึ..ดูสิ...เปรอะเปื้อนไปหมดแล้ว...น่าสงสารจัง..."  เสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจดังให้ได้ยินเมื่อเสียงร้องของยุนโฮและยูชอนเริ่มเบาลงเรื่อยๆ

                        "...งั้นจะพาไปทำความสะอาดให้นะ"

                        "แหม...รู้สึกจะพออกพอใจกันใหญ่เลยนะ..คิก..."  มือเรียวยกขึ้นป้องปากมองดูสภาพพวกที่อยู่ในห้อง

                        บนรถตู้ที่บรรจุจำนวนคนเอาไว้ทั้งหมด 13 ชีวิต กำลังเคลื่อนที่อยู่บนเส้นทางเดินรถในยามฟ้ามืด  เสียงจอแจดังขึ้นไม่หยุดสร้างความไม่พอใจให้กับฮีชอลซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นหัวหน้าทีมเหล่าลิงๆ ทั้งหลายไปแล้ว

                        "เงียบๆ กันได้แล้ว!"  ฮีชอลตะโกนขึ้นขัดเสียงเจ้าพวกที่ส่งเสียงกันไม่หยุด

                        "ทำหน้าเครียดมากๆ ระวังจะไม่สวยนะฮีชอล"  ฮันกยองแซวขึ้นจากเบาะหลังสุดของตัวรถ

                        "ถ้ายังไม่อยากกลับไปอยู่จีนถาวรก็หุบปากซะ"  ฮีชอลหันไปส่งสายตาเอาจริง


                        "นี่...ชางินทางนี้แน่นะ"  อิรุที่ประจำหน่วยคนขับเอ่ยถามขณะหมุนพวงมาลัยไปตามเส้นทางถนน

                        "ครับ...แล้วเดี๋ยวพอเจอทางแยกข้างหน้าให้เลี้ยวขวานะครับ"  ชางมินที่นั่งอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มเพื่อคอยบอกทางมองดูตามถนนอย่างตั้งใจ  เพราะความมืดสลัวทำให้ยากลำบากต่อสายตายิ่งนัก


                        "ฉันว่าพวกเราน่าจะแบ่งเป็นสองทีนะ"  ฮีชอลเอยขึ้นเสียงจริงจัง

                        "พวกเราขออยู่ทีมเดียวกัน นะพี่ฮีชอล!"  สามฟิวชั่นเอ่ยบอกเสียงประสาน

                        "ฉันเองก็แบ่งทีมได้พอดีเลย"  ทึกกี้ตะโกนบอกจากเบาะท้ายด้วยท่าทางระรื่นชื่นบาน

                        "ทีมนายมีใครบ้างล่ะ"  ฮีชอลหันไปถามทึกกี้ที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างคังอินและฮันกยอง

                        "นี่ไง ^ ^  "  มือสองข้างยกขึ้นตบบ่าสองหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างตนเอง

                        "งั้นผมขอเป็นกำลังเสริมนะครับ"  ซีวอนบอกขณะกดเล่นเกมส์ในมือถืออย่างติดพัน

                        "ผมขออยู่ทีมเดียวกับเฮียทึกนะ"  เยซองขอบ้าง

                        "พวกนายสองคนอยู่ทีมเดียวกับฉัน"  ฮีชอลหันไปมองหน้าเยซองที่นั่งอยู่ข้างๆ ตัวเอง

                        "ทึกกี้นายเอาเจ้าสามฟิวชั่นนั่นไปด้วยแล้วกัน  แจจุง  ชางมิน  แล้วก็จุนซูพวกนายอยู่กับฉัน"  ฮีชอลแบ่งทีมให้เสร็จสรรพในทีเดียว

                        "โธ่เอ๊ย! นึกว่าจะรอดพ้นเงื้อมีอมารซะอีก"  เยซองแอบบ่นพึมพำคนเดียว

                        "พี่อิรุขับให้มันเร็วกว่านี้อีกไม่ได้เหรอ..."  จุนซูที่นั่งด้านหลังเบาะหน้าข้างประตูทางลงเสนอหน้าขึ้นมาเร่ง

                        "นี่ก็เร็วที่สุดแล้วนะจุนซู  ขืนเร่งกว่านี้มีหวังพวกเราจะได้พักข้างทางกันซะก่อน"  ชางมินหันมาตอบแทนคนขับรถ

                        "แล้วพอจะกะเวลาได้ไหมว่าพวกเราจะถึงโรงงานอะไรนั่นเมื่อไร"  อิรุเอ่ยถามโดยสายตายังไม่ละจากท้องถนนเส้นยาว

                        "น่าจะรุ่งางน่ะแหละ"  ชางมินตอบกลับอย่างไม่แน่ใจเท่าไร

                        "ถึงเช้างั้นเหรอ...นานขนาดนั้นขอนอนเอาแรงก่อนละกัน"  คังอินบ่นออกมาก่อนจะเริ่มทำตามที่พูด

                        "ฉันชักจะหิวแล้วสิ  ใครมีอะไรติดมาบ้างเปล่า"  ป๋าเกิงถามทุกคนในรถพลางเอามือลูบท้องตัวเองไปด้วย

                        "มีแต่คุกกี้นะ  จะเอาไหมป๋า"  จุนซูหันไปทางฮันกยองพร้อมกับชูถุงขนมให้ดู

                        "อ๊ะ! แบ่งให้พวกเราบ้างสิ"  สามฟิวชั่นร้องขออย่างรวดเร็ว

                        "เฮ้ย! ฉันบอกก่อนนะเฟ้ย  พวกนายจะมาแย่งกันซึ่งๆ หน้าอย่างนี้ไม่ได้นะ"  ฮันกยองรีบออกอาการหวงอาหารขึ้นมาทันที

                        "ช่วยเงียบกันหน่อยสิ  ไม่มีสมาธิจะขับรถแล้วนะเฟ้ย"  อิรุโวยมาจากเบาะคนขับ

                        "จุนซูนายมีอย่างอื่นอีกไหม  ให้ไอ้เจ้าสามคนนั้นที"  ฮีชอลพูดบอกพร้อมกับหยิบห่อขนมจากโลมาแล้วโยนให้ป๋าอย่างรำคาญ

                        "เยอะเลยล่ะ  เอาไปสิ ^ ^ "  แล้วโลมาก็หอบถุงขนมออกมาจากตรงปลายเท้าตัวเองโยนส่งให้เหล่าฟิวชั่น

                        "โอ๊ะ! เจ๋งเลย"  ชองมินร้องบอกพร้อมกับตะปบรับห่อขนม

                        "ขอฉันบ้างดิจุนซู"  เยซองเองก็ขอร่วมด้วยช่วยกันกิน


                        "ดีจริงเลยนะ...ชางมินนายนี่ท่าจะลำบากน่าดู..."  อิรุมองกระจกหลังแล้วเปรยขึ้น

                        "ทำไมเหรอครับ..."  ชางมินที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองต้องหันไปมองอิรุอย่างสงสัย

                        "ก็ต้องอยู่ร่วมกับพวกข้างหลังน่ะสิ...เป็นฉันล่ะก็ปวดหัวตาย"  คนขับรถหัวเราะหึเมื่อนึกถึงสภาพของตนเองตามคำพูดท่บอกออกไป

                        "อ๋อ...มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วล่ะ"  ชางมินทำหน้าเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดาไม่รู้สึกอะไร

                        "ฉันน่ะ...รักยูชอนมากนะ...เหมือนน้องชายแท้ๆ เลยล่ะ"  แล้วอิรุก็พูดต่อด้วยสีหน้าสบายๆ

                        "ฮะ! น้องชาย! แล้วที่ผ่านมามันอะไรกัน"  ชางมินหันไปมองด้วยสีนห้างงงวยสุดๆ

                        "ก็นะ...ยูชอนน่ารักออกขนาดนั้นมันก็มีเผลอกันบ้างสิ"  อิรุยิ้มแก้เก้อพลางหัวเราะแกนๆ

                        "ถ้าคิดแค่นั้นจริงๆ ผมก็ไม่ว่าอะไร  แต่ก็อย่าเผลอแบบนั้นอีกละกัน"  ชางมินหันไปบอกหน้าตาย


                        "นี่จุนซูสองคนนั้นดีกันตั้งกะเมื่อไรเนี่ย"  ชองมินถามโลมาที่นั่งอยู่ข้างๆ

                        "ไม่รู้ดิ...ฉันเองก็งงไม่แพ้นายหรอก"  จุนซูตอบกลับพลางส่ายหน้าไปมาประกอบ

                        "หรือว่าสองคนนั้นจะสปาร์คกัน! ...อ๊ะ! อย่างนี้ยูชอนก็น่าสงสารอ่ะดิ"  เยซองโผล่หน้าข้ามเบาะไปคุยด้วย

                        "นายใช้อะไรคิดเหรอ...เยซอง"  ซีวอนทำนห้าซังกะตายเมื่อได้ฟังที่เยซองพูด

                        "อ้าว! ก็ช่วงเวลาที่คนสำคัญไม่อยู่จิตใจก็ว้าเหว่  พอได้ใครสักคนมาอยู่ข้างกายหัวใจมันก็จะมีกำลังขึ้นมาด้วยยังไงล่ะ"  เยซองพูดพลางทำท่าประกอบด้วยการซบลงไปที่ไหล่ของฮีชอล

                        "นายอยากตายหรือไง"  ฮีชอลปรายสายตาใส่อย่างไม่ใยดี  ทำให้เยซองเด้งตัวขึ้นนั่งตัวตรงอย่างรวดเร็ว

                        "จุนซูฉันขอขนมถุงสิ"  ววอนหันไปหาโลมาที่กำลังง่วนอยู่กะอาหารในมือ

                        "อ่ะ!"  ห่อขนมถูกโยนไปทางซีวอนในทันที  ซีวอนรับได้ก็ยื่นไปให้เยซอง

                        "กินซะ...ปากนายจะได้ไม่ว่าง"

                        "ดีมากซีวอน  ฉันจะได้หลับอย่างสงบสักที"  ฮีชอลพูดบอกพลางปรายตาไปยังเยซองที่นั่งทำตัวลีบอยู่ข้างๆ  จากนั้นก็เอนเบาะนอนได้อย่างสบายใจสักที

                        "ถ้าพี่จะนอนมานั่งตรงผมดีกว่านะ"  ซีวอนเอ่ยเรียกฮีชอลไว้ก่อนอีกฝ่ายจะหลับ

                        "มีอะไรอีกหรือไง"  ฮีชอลทำเสียงเขียว  เพราะถูกกวนใจที่ยังไม่ได้หลับตามใจคิด

                        "ผมจะไปนั่งกินขนมกะเยซองอ่ะ"  ซิมบ้าสารภาพด้วยท่าทางหวาดๆ

                        "เฮ้อ! พวกนายนี่มันจริงๆ เลย"  ฮีชอลถอนหายใจออกมาดังๆ ด้วยความเซ็ง

                        "จะเปลี่ยนที่ก็รีบลุกมาเร็วๆ"

                        "ขอบคุณครับ ^ ^ "  แล้วซีวอนก็รีบจัดแจงเปลี่ยนที่โดยเร็ว

                        "โห่! นายจะกินแล้วทำไมไม่เอาที่จุนซูมาใหม่ล่ะ  จะมาแย่งฉันทำไมเนี่ย"  เยซองท้วงออกมาอย่างไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร

                        "ฉันไม่กินหรอกน่า  นายกินไปเหอะ"  พูดจบก็หยิบมือถือขึ้นมากดเกมเล่นต่อ

                        "อ้าว...แล้วนายย้ายมานั่งนี่ทำไมอ่ะ"  เยซองมองอีกคนด้วยสายตาไม่เข้าใจ

                        "ก็แค่อยากมานั่งข้างนายเฉยๆ น่ะ"  ซีวอนตอบพร้อมกับกดปุ่มมือถือย่างเมามัน

                        "อ๋อเหรอ...เฮ้ย! นี่นายคงไม่ได้คิดอะไรกับฉันนะ"  เยซองพยักหน้ารับเข้าใจก่อนจะสะดุ้งตัวพลางขยับเบียดแจจุงที่หลับอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางระแวงนิดๆ

                        "................"  ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ซาลาเปาเรียก

                        "ฮ้าว! ชักง่วงขึ้นมาบ้างแล้วสิ... อ่ะ! ฝากจัดการที่เหลือต่อด้วยนะ"  เยซองวางถุงขนมไว้บนตักซีวอนก่อนจะเอนเบาะนอนหลับบ้าง

                        "...ไม่รู้สึกบ้างเลยหรือไงนะ...ซาลาเปา"  ซีวอนพูดบ่นกับหน้าจอมือถือตนเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×