ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #37 : เนียน 100%

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 51




                        กองถุงขนมเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายในเวลาอันรวดเร็ว  คนที่มีสมญษนามว่าโลมายังคงส่งชิ้นขนมมากมายเข้าปากอย่างไม่คิดจะหยุด  แถมดูท่าวาจะกินต่อไปได้อีกเยอะโดยไม่ต้องหยุดพักให้เสียเวลา

                        "ขนมจะหมดบ้านแล้วนะจุนซู"  ฮยอคแจเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนคนสำคัญ

                        "ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงโบอานะ  แต่นายก็ต้องเป็นห่วงตัวเองด้วย"  แต่เจ้าโลมากลับเพียงเหล่ตามองฮยอคแจแล้วก็หันไปให้ความสนใจขนมต่อ

                        "ตอนนี้อย่าเพิ่งเข้าไปกวนใจจุนซูจะดีกว่านะ..."  คุณหัวหน้าวงเอสเจพูดพร้อมกับรั้งไหล่ของเพื่อนสนิทโลมาเข้าหาตัว

                        "เฮ้! เฮีย...ไม่เนียนไปหน่อยเหรอไงฮะ"  คิบอมพูดพร้อมฉุดตัวฮยอคแจให้พ้นจากทึกกี้

                        "...ฉันพนันข้างเฮียทึก..แล้วนายล่ะเย่"  ซีวอนที่มองดูเหตุการณ์มาตลอดเสนอขึ้นเสียงเบากับเยซอง

                        "อืม... งั้นฉันเลือกคิบอมแล้วกัน"  เยซองตอบกลับมาพลางทำท่าครุ่นคิด

                        "แต่ฉันว่าเฮียซินได้ไปแหงๆ"  ชองมินเอ่ยแทรกขึ้น  ทำเอาเยซองหันไปมองหน้าตาย

                        "ฉันเห็นด้วยกับชองมินล่ะ..."  คยูน้อยพูดเสริมแทรกเข้ามาด้วยอีกคน

                        "ดีมากคยูน้อย"  ชองมินพูดพร้อมกับโอบไหล่หมายเลขที่ 13 อย่างพออกพอใจ

                        "เรื่องเนียนเนี่ย...ท่าจะไม่ใช่แค่บอมกับเฮียทึกแล้วมั้ง"  คังอินที่หายไปนานกลับมามีบทบาทอีกครั้งทั้งยังช่วยแงะมือของชองมินออกจากไหล่คยน้อยให้อีกด้วย

                        "เหอะๆ... ^=^ แล้วนายล่ะคังอินจะช่วยหรือจะเนียน"  ชองมินหัวเราะเสียงแปลกพลางมองหมียักษ์อย่างจับผิด

                        "แล้วนายจะอยากรู้ไปทำไมกัน..."  ถามกลับหน้าซึมกระทือ

                        "ก็ไม่ทำไมร๊อก -0- "  ตอบกลับเสียงสูง  คังอินเหลือบหันไปมองทางชินดงปรากฏว่าคนที่นั่งหน้าเครียดมานานตอนนี้หลับไปเรียบร้อยแล้ว  แถมยังมีสองหนุ่มจากแก๊งฟิวชั่นไปร่วมด้วยช่วยกันหลับอยู่ข้างๆ อีกต่างหาก

                        "พระอินทร์เรียกเฝ้ากันไปหมดซะแล้วเหรอเนี่ย"  คังอินมองดูคนที่นอนเคียงกันอยู่อย่างระอาใจ


                        "ฉันจะทำยังไงดีล่ะคิบอม  ไม่อยากเห็นจุนซูในสภาพแบบนี้เลย"  ฮยอคแจเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเนือย  ไม่สดใสเหมือนอย่างเช่นทุกครั้ง

                        "เอาน่า...จุนซูไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก  ฉันว่านายน่ะห่วงตัวเองก่อนดีกว่า  ตอนเนี้ยควรระวังตัวจากพวกเหยี่ยวพวกกาที่หวังจ้องตะครุบเหยื่อ"  คิบอมบอกพลางแตะไหล่เพื่อนเบาๆ พร้อมกับส่องสายตาไปรอบบริเวณบ้าน  ฮยอคแจเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเหมือนกับมีเครื่องหมายคำถามอยู่ตรงหน้า

                        "นายพูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลยคิบอม"  ฮยอคน้อยเอียงคออย่างไม่เข้าใจ  พอดีกับมีเสียงเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วค่อนข้างมากเข้ามาเทียบจอดหน้าบ้านพัก  ก่นอจะตามมาด้วยเสียงเคาะประตูรัวดังอย่างต่อเนื่อง  ชองมินหน่วยกล้าตาย(?)รีบวิ่งไปเปิดประตูดูอย่างรวดเร็ว

                        "ยูชอน!..อ่ะ!"  ชายหนุ่มร่างสูงตะโกนเรียกหาร่างบางทันทีที่ประตูเปิดแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าภายในบ้านมีคนอยู่มากกว่าปกติ

                        "ยูชอนไม่อยู่หรอก  ถูกจับตัวไปพร้อมกับยุนโฮแล้วก็โบอา"  เจ้าฟักทองรีบแจ้งแถลงไขให้ฟังจนเสร็จโดยไม่ได้คิดถึงเลยว่าคนฟังจะรู้สึกตกใจแค่ไหน  และแน่นอนผู้รับฟังจะต้องอึ้งระคนงงเอามากๆ กว่าจะกู้สติได้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบ 10 นาที

                        "วะ...ว่าไงนะ!!!"  หลังจากหายจากอาการมึนงงเสียงตะโกนก็ดังขึ้นลั่นบ้าน

                        "นึกว่าจะต้องให้รอยันพรุ่งนี้ซะอีก"  เจ้าฟังทองชองมินแอบบ่นเบาๆ

                        "เรื่องมันก็เป็นอย่างที่พูดน่ะแหละ  เลิกตกใจได้แล้ว"  บอกเสร็จก็เดินเข้าบ้านไปทันที

                        "ทุกคนมีแขกเพิ่มมาอีกหนึ่งแหละ! "  ชองมินตะโกนบอกกับทุกคนในบ้าน

                        "ใครอ่ะ..ใช่คุณจุนกี้อ๊ะเปล่า"  ซีวอนเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากรู้อยากเห็น

                        "คงไม่ใช่หรอกมั้ง  ถ้าจุนกี้มาเจสก็ต้องมาด้วยสิ"  ทึกกี้หันไปบอกกับซีวอน

                        "คุณอิรุน่ะ"  พูดจบชองมินก็ไปนั่งข้างๆ แจจุงที่ยังคงนั่งเหม่อลอยไม่เลิก

                        "ถูกจับตัวไปตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย!!"  แต่ดูท่าทางว่าคนมาใหม่ยังไม่เลิกโวยวายเสียงดัง

                        "เลิกโวยวายสักที! หัดมีมารยาทซะบ้าง"  ฮีชอลนึกรำคาญจึงโวยกลับเสียบ้างพลางจ้องหน้าอิรุอยางไม่พอใจในการกระทำ

                        "แล้วคุณเป็นใครไม่ทราบครับถึงได้มาสั่งผม"  อิรุจ้องตอบด้วยสายตาไม่พอใจเช่นเดียวกัน

                        "คิมฮีชอลแห่งวงซุปเปอร์จูเนียร์  ได้ยินชัดยัง - - "  ฮีชอลตอบกลับหน้าตาย

                        "งั้นก็ขอโทษทีเถอะนะครับ...ถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้มีอุปการะคุณอะไรกับผมก็อย่าสะเออะมาสั่งจะได้ไหมครับ"  ร่างสูงพูดตอบอย่างไม่ไว้หน้าเลยเหมือนกัน

                        "โอ้โห! อย่างงี้จี๊ดเลย...จี๊ดขึ้นมาเลยสิครับพี่ท่าน"  เยซองกล่าวสอดแทรกขึ้นมา  ก่อนจะเงียบลงเมื่อเจอกับสายตาพิซาตจากฮีชอล

                        "ให้เป็นผู้มีอุปการะคุณกับนายสู้ไปเลี้ยงดูเจ้าพวกหมาแมวขี้เลื้อนยังดูจะมีความสุขซะกว่าอีกนะ"  ฮีชอลพยายามข่มอารมณ์ให้ถึงที่สุด  เพราะไม่อยากจะทำให้ต้องมีเรื่องวุ่นวายมากไปกว่านี้อีก

                        "อ๋อ!! อยากเป็นเทศบาลสินะครับ"  แต่คนอย่าอิรุเรอะจะไม่กวนต่อ

                        "ทำไม  เป็นเทศบาลแล้วมันหนักหัวนายหรือไง... ระวังเหอะวันดีคืนดีฉันจะจับนายเข้าไปอยู่กับเจ้าพวกเหมียวๆ ซะบ้างหรอก"  ฮีชอลว่ากลับไปหน้าตาย


                        "งานนี้นายว่ามีมวยป่ะทึกกี้"  ฮันกยองเอ่ยถามกับลีดเดอร์

                        "มีสิทธิเหมือนกันนะ"  เฮียทึกทำหน้ามั่นอกมั่นใจไม่น้อย


                        "...แต่ก่อนอื่นน่าจะจับพวกเหมียวๆ ในปากคุณไปขังก่อนดีกว่ามั้งครับ"  อิรุกระแทกแดกดันใส่เต็มๆ

                        "โฮ่! แต่ของฉันมันคงจะน้อยกว่าของนายแหละ  แถมยังมีพวกคุณหมารวมอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ"  ฮีชอลแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย

                        "ของผมก็แค่หมาบ้านธรรมดา  คงจะเก่งสู้ไฮยีน่าของคุณไม่ได้หรอกมั้งครับ"  อิรุเองก็ยิ้มเย็นไม่แพ้กันเลย

                        "โอ้! ขอบใจนะที่อุตส่าห์ถ่อมตัวให้  ก็บอกมาเถอะว่านายเองมันก็ร้ายใช่ย่อยอยู่"  อีกฝ่ายตอบกลับมาเสียงสูง

                        "คงไม่ได้เศษหนึ่งส่วนสี่ของคุณหรอก..."  ก็ยังไม่ยอมลดละง่ายๆ ที่จะพูดตอกกลับ

                        "อย่างนั้นเหรอ  นายน่ะ..."  ไม่ทันที่ฮีชอลจะได้เถียงกลับให้หนำใจก็รับรู้ได้ถึงแรงดึงที่แขน  จึงหันไปมองก็พบว่าเป็นฮยอคแจนั่นเองที่รั้งแขนตัวเองเอาไว้พร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงขอร้องไม่อยากให้มีเรื่อง

                        "ผมว่าอย่าทะเลาะกันเลยนะครับ  แค่นี้ก็วุ่นวายจะแย่อยู่แล้ว"  คังอินและซีวอนที่กำลังลุ้นตัวโก่งทำหน้าขัดใจขึ้นมาทันทีที่ถูกฮยอคแจขัดจังหวะสงครามฝีปาก

                        "สรุปว่าอดเห็นมวยเลย"  ฮันกยองเอ่ยขึ้นอย่างเสียดาย

                        "นั่นสิ..."  ทึกกี้พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของฮันกยอง

                        "เฮอะ! ถ้าไม่เห็นแก่น้องชายฉันไม่จบแค่นี้แน่ๆ"  พูดจบฮีชอลก็เดินหนีไปทางอื่นทันที

                        "ผมขอโทษแทนพี่ฮีชอลด้วยนะครับ  ตอนนี้พี่ฮีชอลเองก็เครียดไปไม่แพ้กว่าคุณเลย"  ฮยอคแจรีบไกล่เกลี่ยขึ้นทันที  หวังจะให้คนตรงหน้านี้ไม่ไปหาเรื่องพี่รองของวงเอสเจอีก

                        "เรื่องนั้นช่างมันก่อนก็ได้  ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอครับ"  ชายหนุ่มเปลี่ยนอารมณ์ยอ่างกระทันหันเมื่อเห็นฮยอคแจชัดเจนเต็มสายตา

                        "เจ้าตัวเล็กนี่ชื่อฮยอคแจครับ  ส่วนผมก็คิบอม"  คิบอมรีบบอกขึ้นจากด้านหลังฮยอคแจพลางเกาะไหล่เอาไว้อย่างออกหน้าออกตาเต็มที่

                        "ฉันชื่อซีวอน  ส่วนคนที่นั่งทำหน้าต๊องๆ อยู่ตรงโน้นชื่อเฮียทึกหัวหน้าวงซูจู"  หนุ่มวอนเองก็เสนอหน้าแนะนำตัวเองด้วยเช่นกันแถมยังแอบกัดหัวหน้าวงตัวเองอีกต่างหาก

                        "โห! พูดอย่างนี้ขอพ่อเตะซักป้าปเหอะ! "  ลีดเดอร์ซูจูลุกขึ้นถลกแขนเสื้ออย่างเอาเรื่อง

                        "จัดการเลยทึกกี้  ฉันจะได้ดูมวยสมใจสักที!"  ฮันกยองตะโกนขึ้นพลางทำท่าชูไม้ชูมือประกอบด้วย

                        "ฉันอิรุ  ยินดีที่ได้รู้จักนะฮยอคแจ"  ขณะที่อยู่ในช่วงชุลมุนนั้นอิรุก็ถือโอกาสจับมือหนูฮยอคหน้าตาเฉยพร้อมกับยิ้มพราย

                        "ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ!!!"  สามเสียงประสานขึ้นพร้อมกับการจู่โจมเข้าใส่อิรุอย่างรวดเร็ว

                        "องครักษ์คิบอมปกป้องเจ้าชายฮยอคแจให้ได้!"  ชองมินตะโกนขึ้น  คิบอมรับคำสั่งอย่างรวดเร็วด้วยการพาฮยอคแจไปไว้ในที่ปลอดภัยจากเหล่าตัวอันตราย

                        "น่าเสียดายแฮะที่ไม่ได้เอากล้องออกมา"  จุนซูที่นั่งเงียบกินขนมมานานบ่นอุบอิบคนเดียวแล้วก็หยิบขนมตรงหน้าเข้าปากต่อ  คังอินที่เผอิญได้ยินมองหน้าโลมาด้วยสายตาแปลกๆ

                        "ตกลงที่เรียกพวกเอสเจมาน่ะมันดีแล้วจริงๆ น่ะเหรอครับพี่แจ"  ร่างสูงหันไปมองคนที่ยังคงไม่หยุดปากกับการช่วยโลมากิน

                        "เอาน่า..บ้านเราจะได้ไม่เครียดไงล่ะ"  ดูเหมือนว่าแจจุงเองก็จะลืมประเด็นหลักสำคัญของการตามตัวพวกเอสเจมาเสียแล้ว  ชางมินจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ กับบุคคลที่อยู่ภายในบ้าน

                        "ด๊อง ชอง เรียว  พวกพี่ทำอะไรหัดนึกถึงวงบ้างสิ"  คยูน้อยที่ทนเห็นสภาพไม่ไหวบ่นว่าสามฟิวชั่น

                        "พูดอย่างนั้นได้ไงคยูน้อย  เพราะเจ้าสามสหายมันนึกถึงหรอกถึงได้ต้องทำแบบนี้"  เยซองทำท่าโอบไหล่คยูฮยอนเหมือนกับจะช่วยไกล่เกลี่ย  ส่วนเจ้าสามฟิวชั่นก็รีบพยักหน้ารับเป็นเชิงเห็นด้วย

                        "ตรงไหนกัน..."  คยูฮยอนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะหันไปถามเยซอง

                        "อ้าว! ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วฮยอคน้อยจะปลอดภัยเหรอ  นายเองก็เถอะอย่าไปเข้าใกล้นายอิรุอะไรนั่นเชียวนะ"  เยซองรีบกล่าวแจ้งแถลงไขพร้อมกับเตือนเข้าให้อีกต่างหาก

                        "จะพยายามเข้าใจละกันนะ"  คยูน้อยยังงงไม่หาย  แต่ก็พยายามพยักหน้าหงึกหงักทำตามที่เยเย่บอก

                        "ดีมากคยูน้อย  อย่างนี้ค่อยสมกับเป็นน้องเล็กของเอสเจหน่อย"  ไม่พูดเปล่าเยซองยังถือโอกาสยีหัวน้องเล็กของวงให้อีก

                        "เนียน!"  สามเสียงประสานขึ้นพร้อมกัน


                        "...น่าจะเอากล้องออกมาจริงๆ นะเนี่ย"  โลมาบ่นงึมงำขณะที่มองดูเหตุการณ์อลวนอยู่เงียบๆ (เงียบมากๆ ด้วย)

                        "งั้นก็ไปเอามาสิจะมัวบ่นอยู่ทำไม"  แจจุงพูดเสริมอย่างเห็นด้วย

                        "เชื่อดิ  เดี๋ยวต้องมีช็อตเด็ดให้นายอยากเก็บภาพอีกเพียบ"  ชางมินที่นั่งมองดูอยู่อย่างเงียบๆ นึกสงสารสามคนที่ถูกจับตัวไปเหลือเกิน  แล้วร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องตัวเองไปเพราะเริ่มจะทนรับสภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้ว


                        "...ป่านนี้ยูชอนของฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ"  อิรุที่เกือบโดน 3 ฟิวชั่นเก็บบ่นออกมาพลางถอนใจยาว

                        "เอาน่ะ...งานนี้ฉันว่าพวกยูชอนคงไม่เป็นอะไรหรอก"  ฮันกยองเอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดคอร่างสูงด้วยท่าทีสนิทสนม

                        "ใช่ๆ อย่าคิดมาก..."  เฮียทึกที่ไล่เตะซีวอนเบื่อแล้วร่วมกอดคอด้วยอีกคน

                        "เสร็จงานนี้ไปต่อกันเลยป่ะเพ่"  เยซองเอ่ยขึ้นท่ามกลางเพื่อนร่วมก๊วนหน้าใหม่(?)

                        "แล้วคนที่ยืนคุยกะนายเมื่อกี้ชื่ออะไรเหรอ"  อิรุหันไปถามเยซองราวกับเป็นเพื่อนที่รู้จักมักคุ้นกันแล้ว

                        "ฉันล่ะขอซูฮกให้นายจริงๆ เนียนมันไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์เลย"  ป๋าตบบ่าอิรุอย่างปลาบปลื้ม

                        "ขอบใจ..."  ร่างสูงรับคำชมด้วยท่าทางไม่รู้สึกรู้สาเลยสักนิด


                        "พี่ฮีชอลผมว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ"  ฮยอคแจบอกกับพี่รองของวงที่ดูเหมือนจะพึ่งพาได้ที่สุดแล้ว

                        "ช่างเถอะ...ปล่อยเจ้าพวกนั้นมันบ้าไปเหอะ"  ฮีชอลบอกอย่างปลง พร้อมกับนึ่งเล่นเกมบอยอย่างมันมือ


                        "ฉันพอจะหาวิธีได้แล้ว!!"  ชินดงที่นอนเข้าญาณมานานโพล่งขึ้นเหมือนกับคนนอนละเมอเสียงดัง

                        "เย้!! ชินดงฟื้นแล้ว!"  ดองแฮร้องขึ้นมาเป็นคนแรก

                        "ชินดงกลับมาแล้ว!"  เรียววุคร้องตาม

                        "ชินดงของพวกเราพร้อมรบแล้ว!!!"  ชองมินไม่พูดเปล่า  ยังกระโดดตบมือเป็นของแถม

                        "หนวกหูน่า!! จะตะโกนอะไรกันนักหนา"  คังอินทำหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันที  แล้วมือพิฆาตก็เฉาะลงบนหัวคังอินอีกครั้ง

                        "นายนั่นแหละจะตะโกนทำไม"  ฮีชอลปรายตาเรียบดุไปยังหมียักษ์ขาดสารอาหาร  เพราะเสียงนั้นมันทำลายสมาธิในการเล่นเกมของพี่แก

                        "ไปทำเจ้าคังมันมากๆ ระวังของมันขึ้นนะ"  ซีวอนที่หายไปนานบอกแทรกขึ้นมาหน้าตาเฉย  ฮีชอลลุกขึ้นยืนหมายจะซัดซีวอนเข้าให้อีกคน  แต่ก็ต้องแพ้สายตาที่ส่งมาจากไก่น้อย

                        "ใจเย็นๆ สิพี่ฮีชอล"  บอกพร้อมกับเกาะแขนฮีชอลเอาไว้ให้ใจเย็น

                        "วิ้ว~!!!"  อิรุกับทึกกี้ผิวปากขึ้นมาพร้อมกันอย่างจงใจเมื่อเห็นท่าทีระหว่างฮีชอลกับฮยอคแจ

                        "ทึกกี้ฉันว่านายเตรียมตัวจองโบสถ์ได้แล้วนะ"  ฮันกยองรีบบอกขึ้นมาทันที

                        "ทำไมอ่ะ! จะจัดงานศพให้เฮียทึกเหรอ"  เยซองถามแทรกขึ้น

                        "เออ! ก็ดี...เฮ้ย! ไม่ใช่อย่างนั้น"  ฮันกยองเผลอเคลิ้มตามไปกับคำพูดของเยซอง

                        "ฮันนี่! ...เคยตายแบบไม่รู้ตัวป่ะ^ ^ "  เฮียทึกหันไปส่งยิ้มสยองให้ฮันกยอง

                        "ก็กำลังจะอธิบายอยู่นี่ไงเล่า!"  ป๋ารีบจัดแจงแถลงการณ์ให้ผู้มีอำนาจสูงสุด(ของวงเอสเจ)ฟัง 

                        "ฉันว่าเร็วๆ นี้  เดี๋ยวฮยอคน้อยต้องกลายไปเป็นเหยื่ออันโอชะของฮีชอลแล้วแน่ๆ เลย  เพราะฉะนั้นนายก็ควรรีบจัดเตรียมสถานที่จัดงานซะ"

                        "อะไรกัน... เห็นตอนแรกเฮียแกเล็งป๋ากะซีวอนไว้ไม่ใช่เหรอ"  เยซองโพล่งออกมา  แต่ก็โดนกำปั้นเทวาจากคุณป๋าผู้มาจากแดนมังกร

                        "ให้มันน้อยๆ หน่อย  ฉันไม่เกี่ยวเว้ย  แค่ไอ้ซีวอนคนเดียวต่างหากละ  เดี๋ยวปั๊ดพูดกะเหรี่ยงให้ฟังซะเลยนี่"  ฮันกยองบอกกลับหน้าตาย

                        "อ๋อ..ถ้าเรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก...ถึงเสียฮยอคไปแต่ก็ยังมีคยูน้อยนี่นา"  เฮียทึกบอกหน้าระรื่น

                        "โอ๊ะโอ! ไม่ได้นะเฮีย  คนนี้ผมจอง"  เยซองรีบแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

                        "นี่คิดริอ่านเป็นอริกะคนอย่างฉันงั้นเหรอเยซอง...."  เฮียทึกลากเสียงยานยาวพลางหรี่ตามองซาลาเปาเยเย่

                        "โฮ่! อย่ามัวแต่กัดกันเองอยู่เลย.. โน่น! พวกนายถูกเจ้าบอมมันแซงไปไหนๆ แล้ว"  ฮันกยองพยักเพยิดหน้าไปทางคิบอมที่ดูเหมือนกำลังคุยอะไรบางอย่างอยู่กับคยูน้อย  อีกมุมหนึ่งของห้องโลมาและคังอินกำลังช่วยกันบันทึกถ่ายทำภาพตรงหน้ากันไปอย่างตั้งอกตั้งใจ

                        "เฮ้... จะได้เรื่องกันไหมเนี่ยงานนี้"  ฮยอคแจบ่นเปรยขึ้นอย่างหน่ายใจพร้อมกับเท้าคางกวาดสายตามองดูรอบบ้านก่อนจะมาหยุดที่คนข้างๆ

                        "นี่ก็อีกคนไหงเป็นงี้ไปได้"  คนที่พึ่งพาได้ในตอนแรกอย่างฮีชอล  ตอนนี้กลับมัวแต่สนใจเล่นเกมไปเสียแล้ว  ฮยอคแจจึงเดินไปหาชินดงเป็นเพียงคนเดียวแล้วที่พอจะหวังพึ่งได้

                        "ชินดงนายบอกว่ามีวิธีจะทำไงเหรอ"

                        "..ห๊ะ...อ๋อ...คืองี้นะ...เราต้องเริ่มสืบก่อนว่าทั้งสามคนหายไปตอนไหน  เมื่อไหร่  แล้วก็ที่ไหนอ่ะ"  ชินดงที่ทำท่าว่าจะหลับอีกรอบเอ่ยอธิบายออกมาให้ฮยอคแจฟัง

                        "แล้วใครจะเป็นคนไปสืบล่ะ"  ฮยอคแจรีบถามกลับไปตาใส

                        "ก็นั่นน่ะสิ..."  ชินดงทำหน้าหนักใจเมื่อเหลียวหันไปมองเหล่าเพื่อนๆ ร่วมวงที่คงพึ่งพาไม่ได้แล้ว

                        "เดี๋ยวฉันเองก็ได้"  ซีวอนโผล่มาจากด้านหลังโซฟาพร้อมกับเสนอตัวกับชินดง

                        "แน่ใจนะว่าจะไม่ทำให้เสียเรื่อง"  แจจุงโพล่งขึ้นมาจากด้านหลังซีวอนอีกที

                        "งั้นนายก็มาช่วยกันสิ"  ซีวอนหัไปหาคนร่วมงานเพิ่มทันที

                        "โอเค"  ตอบรับอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องคิดไตร่ตรองให้เสียเวลา

                        "ฮันแน่!! จะแอบไปก๊งกันที่ไหนไม่เรียกเลยนะ"  เฮียทึกเองก็โผล่มาแบบน่าอัศจรรย์ซ้อนหลังแจจุงกับซีวอนเช่นกัน

                        "นั่นดิ! ชวนไม่บอกแบบนี้มีเคืองนะ"  แล้วฮันกยองที่ไม่รู้มาจากไหนบอกขึ้นพลางเกาะไหล่ทึกกี้เอาไว้อีกทีโดยมีเยซองพ่วงท้ายมาด้วย

                        "พวกพี่จะเล่นแม่งูเอ๋ยหรือไงเนี่ย"  คยูน้อยมองสภาพพวกพี่ๆ ของวงอย่างสนใจ

                        "ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละคยูน้อย"  ฮยอคแจเอยบอกด้วยหน้าเซ็งๆ

                        "แล้วทั้งสองคนไม่ลองไปเล่นดูเหรอ..."  อิรุพูพูดเสียงนุ่มอยู่ด้านหลังคยูน้อยและหนูฮยอค

                        "ไม่ดีกว่าครับ"  ฮยอคแจบอกพร้อมกับส่ายหัวไปมา  คยูน้อยเองก็ทำท่าเช่นเดียวกันกับฮยอคน้อย

                        "แหม! ทั้งคู่น่ารักจังเลย ^ ^ "  ชมพร้อมโอบไหล่สองหนุ่มเอาไว้ทันที

                        "แยกๆ!! "  คิบอมกับเยซองช่วยกันหยิบมือปลาหมึกออกจากสองหนุ่มด้วยความไวแสง

                        "ทำอย่างนี้มันไม่ดีนะครับคุณอิรุ"  คิบอมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

                        "คุณจะมาเอากำไรคนเดียวแบบนี้มันไม่ดีนะครับ"


                        "เอาล่ะ!! ตกลงใครจะไปสืบข้อมูลบ้างเนี่ย"  ชินดงตะโกนถามท่ามกลางความวุ่นวาย  ซีวอน  เฮียทึก  คังอินและจุนซูยกมือขึ้นเสนอตนกันอย่างพร้อมเพรียง

                        "ดูจากสภาพการณ์แล้ว  นายว่าสี่คนนี้จะได้เรื่องเหรอชินดง"  ฮีชอลที่เลิกสนใจเกมบอยแล้วเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจบุคคลทั้งสี่

                        "ก็ช่วยไม่ได้นี่นา  จะหาอาสาสมัครที่ดีกว่านี้ก็คงไม่มีแล้วล่ะ"  หนุ่มร่างท้วมทำหน้าปลงตก

                        "งั้นก็ตามใจแล้วกัน"  จริงอย่างที่ชินดงว่า  ฮีชอลจึงไม่สามารถจะคัดค้านอะไรได้

                        ริมฝีปากถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดแดงห่อเป่าปลายเล็บยาวซึ่งโดนเคลือบย้อมจากน้ำยาทาเล็บสีแดงเลือดก่อนที่จะหันมาเข้าร่วมพูดคุยกับคู่สนทนาอีกสองคนที่นั่งกันคนละมุมโต๊ะ

                        "วิธีไหนน้า...ที่จะทำให้สามคนนั้นดิ้นพล่านกันได้"  กระโปรงผ้าชีฟองสีม่วงมุกอ่อนขยับไหวตามแรงเขยื้อนของเรียวขาที่วาดขึ้นไขว่ห้าง  พร้อมกับการจิ้มแก้มตัวเองทำหน้านึกตามไปด้วย

                        "แต่ฉันอยากให้ทรมานมากว่านะ"  พูดพลางแสยะยิ้มมุมปากแล้วหยิบยาทาเล็บสีแดงเลือดมาทาเล็บมือต่อ

                        "แล้วจะใช้วิธีไหนดีล่ะลูกพี่  โซ่  แซ่  กุญแจมือ  ครบเซ็ตเลยดีมะ  ผมล่ะอยากฟังเสียงร้องครวญครางของแม่สาวโบอานั่นจังเลย"  ชายหนุ่มเพียงคนเดียวเอยขึ้นด้วยสีหน้าหื่นกระหาย

                        "คิก..ใจเย็นๆ สิ  เรื่องแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไปสิถึงจะถูก"  สาวในชุดกระโปรงผ้าชีฟองเท้าคางมองอีกฝ่ายตาใส

                        "ก็ไม่เลวนะ...ถ้าได้เห็นเลือดด้วยก็คงจะดี"  ดวงตาใต้ขนตางอนยาววาวโรจน์ขึ้นมาเล็กน้อยขณะที่พูด

                        "คิก..ชอบจังเลยนะ  พวกเลือดเนี่ย..."  สาวน้อยปรายยิ้มหวาน

                        "ใช่...ยิ่งเห็นพวกนั้นทุรนทุรายลงไปกองกับพื้นก็ยิ่งดี..."  น้ำเสียงออกจะเย็ฯเยือกอยู่ในที

                        "จะได้รู้ซะบ้างว่าการทำตัวขวางหูขวางตาน่ะมันจะได้รับโทษยังไง"

                        "ฮึ..ฮึ.. งั้นก็ตามสบายเลย  อยากจะเห็นเหมือนกัน"  ภายใต้รอยยิ้มหวานกลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และน่าสะพรึงกลัวจนน่าขนลุก

                        "แล้วพวกลูกพี่จะใช้วิธีไหนจัดการก่อนล่ะ"  ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้น

                        "...อดข้าวก่อน...อย่าให้ได้แตะข้าวหรือน้ำเปล่าเป็นอันขาด..."  สั่งเสียงเฉียบคิ้วเรียวกดขมวดลงต่ำยกเสริมให้ดวงตาดุดันขึ้น

                        "ค่อยๆ ทำลายเรี่ยวแรงต่อต้านซะก่อน  แล้วหลังจากนั้นมันจะเป็นของจริง"

                        "คิก...เข้าท่าดีนี่"  เสียงหวานเปรยบอก

                        "ว่าแต่...ของที่ให้ไปเตรียมไว้น่ะเรียบร้อยหรือยัง"  ปรายตามองไปทางชายหนุ่มเพื่อขอคำตอบ

                        "เรียบร้อยตั้งนานแล้วล่ะลูกพี่"  รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยกขึ้นตอบรับ

                        "หวังว่าคงจะไม่ทำให้ผิดหวังหรอกนะ"  กำชับถามเสียงเรียบ

                        "หึ..หึ..."  ชายหนุ่มตอบรับกลับมาด้วยการหัวเราะในลำคอ  พลางกดสายตามองไปยังห้องที่ทำการกุมขังสามเหยื่อผู้โชคร้าย

                        "ถ้าอย่างนั้นก็จัดการกันได้แล้ว"  เสียงหวานเอ่ยขึ้นสั่ง  หญิงสาวอีกคนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงเอ่ยอนุญาตกับชายหนุ่ม

    **************************************************************************

    ตอนนี้ก็หมดไปกับเรื่องไร้สาระของพวกตัวยุ่ง  ยังไม่ได้เรื่องได้ราวกันสักที - -
    แต่ตอนหน้าต้องจับตามองกันให้ดีๆ นะ  เพราะว่าจะมีคู่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน
    ด้วยการสปาร์คกันบนรถตอนไปช่วยสาวๆ เค้า

    สุดท้ายและ(ขี้เกียจพูดมากกลัวคนอ่านจะรำคาญ)  ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
    และคนที่เม้นท์ให้  เป็นกำลังใจให้มากเลย ^ ^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×