ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #34 : ขอ(โพส TT0TT) 100%

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 51




                        สายลมแผ่วเบาพัดพาเอาไอละอองน้ำเย็นของยามเชามาแตะกระทบลงตามผิวขาวบาง  เส้นผมดำยาวระบ่าไหวเล็กน้อยและสะท้อนเป็นเงาเมื่อโดนแสงแดดอ่อน  ร่างโปร่งบิดตัวไปมานิดหน่อยก่อนจะคลี่ยิ้มบางรับวันใหม่อยู่หน้าบ้านพัก  มือหนารวบกอดเอวบางจากทางด้านหลังพลางเกยคางลงไปกับไหล่สวย

                        "มายืนอยู่คนเดียวระวังจะถูกจับตัวไปนะครับ"  เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยกระซิบข้างใบหูบาง

                        "ก็โดนจับอยู่แล้วนี่นา"  คนตอบบอกพลางเหล่มองดูคนกระซิบ

                        "ถูกผมจับเอาไว้แค่คนเดียว  ดีกว่าจะให้คนอื่นมาจับตัวพี่ไปนะครับ"  ร่างสูงอมยิ้มบาง

                        "คนอื่นที่ว่าน่ะหมายถึงแจเหรอ?"  ยูชอนแกล้งถามพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

                        "ทำไมถึงคิดว่าผมหมายถึงพี่แจล่ะ"  ถามกลับเสียงนิ่ง

                        "ชางมิน... ฉันนับถือพี่อิรุแบบพี่ชายเท่านั้นเองนะ"  ร่างบางพูดแล้วขยับหันมองร่างสูงตรงๆ

                        "ผมรู้ครับ..."  ชางมิ้นจ้องมองตอบด้วยแววตาอ่อนโยน

                        "รู้แล้วทำไมชอบทำตัวเป็นอริกับพี่อิรุล่ะ"  ยูชอนเงยหน้าถามตาใส

                        "ผมก็ไม่ได้อยากจะเป็นอริกับเขาหรอกนะ  แต่เขาต่างหากล่ะที่ไม่ยอมทำตัวเป็นมิตรที่ดี"  เอ่ยบอกด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน

                        "ตรงไหนล่ะที่ว่าไม่เป็นมิตรที่ดี"  คนถามกระพริบตาปริบรอคำตอบ

                        "ก็ตรงที่ชอบเข้ามายุ่งกับพี่น่ะแหละ"  บอกพลางก้มหน้าลงแล้วบีบจมูกคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว

                        "ชางมินอ่ะ  ชอบแกล้งอยู่เรื่อยเลย"  ใบหน้าขาวเคลื่อนหนีมือคนตัวสูง  ปากอิ่มเม้มนิดๆ และแก้มใสก็ป่องหน่อยๆ

                        "เพราะรักหรอกจึงหยอกเล่นไม่เคยได้ยินเหรอครับ ^ ^ "  เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกอารมณ์ดี

                        "มุขเก่าแล้วเปลี่ยนเถอะ"  ว่าแล้วก็รีบผละตัวออกห่างจากอีกฝ่าย  แต่ก็ยังแอบยิ้มบาง

                        "ถึงจะเก่าแต่ผมก็จริงใจนะ..."  พูดจบก็เข้าไปหอมแก้มกระต่ายน้อยทันที  ก่อนจะรีบเดินหนีเข้าไปในตัวบ้าน

                        "ยูชอนนน..."  เสียงหวานลากยาวมาแต่ไกลพร้อมกับร่างบอบบางที่วิ่งเข้ามากอดยูชอนจากทางด้านหลังในขณะที่กำลังจะก้าวเข้าไปในบ้านตามชางมินไปบ้าง

                        "เจส!!?"  ยูชอนอุทางนขึ้นพร้อมกับหันมาหาหญิงสาว

                        "ฮือ..ยูชอน..ฮึก..."  สาวน้อยสะอึกสะอื้นจนตัวโยก  ทำเอาคนที่เห็นทำอะไรไม่ถูก

                        "เจส..เกิดอะไรขึ้น  ทำไมร้องไห้ล่ะ"

                        "...จุนอ่ะ..ฮือ...ฮือ..."  เจสสิก้าพูดไปร้องไห้ไป  น้ำตาใสไม่ยอมหยุด

                        "ยูชอน... อ๊ะ! เจสสิก้าเป็นอะไรน่ะ"  ยุนโฮที่ออกมาตามร่างบางให้เข้าบ้านถึงกับตกใจขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสภาพของหญิงสาว

                        "...โบอา..เจสอยากเจอโบอา..ฮือ..."  หญิงสาวโพล่งออกมาเสียงเครือ

                        "เกิดอะไรขึ้นเหรอเจส"  โบอาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับมืออีกฝ่ายอย่างปลอบโยน  หญิงสาวที่ยังสะอื้นเล็กน้อยพยายามเหลือบตาแดงก่ำมองโบอา

                        "โบอา...เจสไปเจอจุนซูมาล่ะ..."

                        "ตอนไหนเหรอ?"  โบอาเอียงคอถามอย่างสงสัย

                        "เมื่อคืน...กับผู้หญิง..จุนกิก็อยู่ด้วย...ฮือ"  พอพูดถึงชายหนุ่มอีกคนเจสสิก้าก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง

                        "ว่าไงนะ! โลมาน้อยอยู่กับผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ...พี่จุนก้ก็อยู่ด้วย"  หญิงสาวถึงกับหน้าเสียทันที

                        "แน่ใจนะว่าไม่ได้ตาฝาดน่ะเจส"  โบอาถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

                        "ไม่มีทางแน่นอน... ก็เจสแอบตามไป..ถึงได้เห็น...ฮึค..."  เจสสิก้าส่ายหน้าปฏิเสธ

                        "แค่คนรู้จักหรือเปล่า..."  ยูชอนเอ่ยปลอบโยนหญิงสาวที่นั่งร้องไห้เสียงเบา

                        "..ไม่ใช่หรอก..ฮือ... แถมยังคุยกระหนุงกระหนิงอยู่ตั้งนานสองนาน..."

                        "ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่ไหน"  โบอาเอ่ยถามเสียงเรียบทั้งมีสีหน้านิ่งเฉยต่างไปจากทุกที

                        "ไม่รู้สิ..เจสไม่ได้ตสมต่อ...ฮือ..แต่ก็ยังไม่กลับมาเลยตั้งแต่คืน..."  เจสสิก้าบอกเสียงเครือ  แล้วเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้นติดต่อกันถี่ๆ  ยุนโฮที่นั่งอยู่แถวๆ นั้นรีบลุกเดินไปเปิดทันที

                        "...ยูชอน!! เจสหายตัวไปจากคอนโด..."  จุนกิที่ท่าทางร้อนรนโผล่หน้าเข้ามาอย่างใจร้อน  ก่อนจะชะงักนิ่งเมื่อเห็นเจสสิก้ากำลังนั่งร้องไห้อยู่

                        "แล้วโลมาน้อยล่ะพี่จุนกี้"  โบอาเอ่ยถามเสียงเย็น 

                        "เอ่อ...จุนซู  โบอาก็อยู่ด้วยนะ..."  ชายหนุ่มหันไปบอกคนที่เดินตามตนมาด้านหลัง  โลมาจึงค่อยๆ เดินเข้ามาด้านในตัวบ้านพร้อมกับจุนกิ

                        "พี่จุนกี้กับโลมาน้อยพากันไปไหนมาเหรอ ^ ^ "  โบอาส่งยิ้มแบบเลยจุดเยือกแข็งติดลบไปกี่องศาแล้วก็ไม่รู้ส่งต้อนรับทั้งสองหนุ่มอย่างตั้งใจ

                        "..ก็...ไปเดินเล่น  ซื้อของ  ช็อปปิ้ง  อะไรทำนองเนี้ย..."  จุนกิเอ่ยตอบออกมาไม่เต็มเสียง  ส่วนจุนซูยืนนิ่งเป็นกำลังใจอยู่เงียบๆ

                        "เอ...รู้สึกเหมือนจะหายไปด้วยกันมาทั้งคืนเลยไม่ใช่เหรอคะ"  โบอาทำท่ากอดอกพลางเอานิ้วจิ้มแก้มตัวเองเหือนกำลังใช้ความคิด

                        "นี่เดินช็อปปิ้งกันทั้งคืนเลยเหรอคะเนี่ย"  หญิงสาวชี้นิ้วออกไปตรงหน้า

                        "ก็ประมาณนั้นแหละ"  จุนซูแย่งพูดขึ้นก่อนที่จุนกิจะเอ่ยออกมา  เจสสิก้านั่งมองดูหน้าชายหนุ่มด้วยสายตาตัดพ้อต่อว่าพลางลุกเดินหนีไปกับยูชอน

                        "เจส..."  ชายหนุ่มมองตามหญิงสาวซึ่งเดินหายไปทางด้านหลังของตัวบ้าน

                        "ตามไปสิครับ... ผมไม่เป็นไรหรอก"  โลมาบอกพร้อมกับตบบ่าจุนกิเบาๆ  ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้แล้วรีบเดินตามไปทันที

                        "ใจดีจังเลยนะโลมาน้อย"  โบอาแค่นเสียงพูดขึ้นอย่างยากเย็น

                        "..โบอา..."  จุนซูเดินก้าวเข้ามาใกล้ตัวหญิงสาวและมองด้วยสายตาอาทร  โบอาขยับตัวถอยหลังเล็กน้อยพลางจ้องมองอีกฝ่ายด้ยความรูสึกแคลงใจ

                        "อย่างอนไปเลยน่า  ดีกันนะ"  จุนซูยิ้มหวานให้คนตรงหน้า

                        "............"  หญิงสาวทำเพียงจ้องมองชายหนุ่มตงหน้ายอ่างไม่พอใจ

                        "จะไม่พูดอะไรบ้างเหรอ...โบอาของโลมาน้อย"  น้ำเสียงเอ่ยถามเบาลงกว่าเดิมเล็กน้อย

                        "แล้วอยากจะให้โบอาพูดอะไรดีล่ะโลมาน้อย"  หญิงสาวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

                        "...หมายความว่าไง"  คนฟังขมวดคิ้วยุ่งอย่างไม่เข้าใจในอารมณ์ของอีกฝ่าย

                        "โบอาว่าเราต่างคนต่างใช้ชีวิตในแบบของตัวเองดีไหม"  กัดฟันพูดออกไปแม้จะทำร้ายจิตใจตัวเองก็ตาม  แต่ก็อยากจะให้คนตรงหน้าได้เลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

                        "................."  จุนซูนิ่งเงียบลง  ชายหนุ่มยิ่งขมวดคิ้ววมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยิน

                        "เราเลิกกันเถอะนะโลมาน้อย"  โบอาเอ่ยบอกด้วยเสียงที่แผ่วลงไม่ต่างกับการกระซิบ

                        "ก็ได้.. ถ้าโบอาต้องการ..."  โลมาตอบตกลงอย่างว่าง่าย  แต่สีหน้ากลับหม่นซีดลงเหมือแนคนที่กำลังป่วยหนัก  โบอามองจ้องหน้าจุนซูอยู่ชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ เดินเลี่ยงไปยังบานประตูหน้าบ้าน  แต่ชายหนุ่มรีบคว้าข้อมือบางเอาไว้ก่อนแล้วหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค๊ทและบรรจงวางมันลงบนมือนุ่ม

                        "ของขวัญ..ตอบแทนเรื่องตุ๊กตาที่โบอาให้มา...รับไว้ด้วยนะ"  สร้อยข้อมือเงินแท้เส้นเล็กน่ารักที่มีพลอยพิงค์ทูมาลีนรูปหัวใจร้อยสลับกับแซมไพร์รูปดาวส่องประกายแวววาวเมื่อต้องกับแสงสว่างภายในห้อง

                        "โลมาก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมโบอาถึงขอเลิกกับโลมาแต่ถ้ามันเป็นความต้องการของโบอา... โลมาน้อยก็ยินดีจะทำให้เสมอ"  ชายหนุ่มบอกเสียงแผ่วพยายปั้นหน้ายิ้มกลบเกลื่อนน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอทั้งสองตาเรียว  ส่วนหญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งอึ้งแล้วน้ำตาหยดใสที่ตั้งใจจะไม่ให้ชายหนุ่มได้เห็นมันกลับกำลังไหลไล้ลงมากับพวงแก้มสีเรื่ออย่างไม่รู้ตัว  ดวงตากลมโตประกายใสจ้องมองอีกฝ่ายอย่างสับสน

                        "ถ้าโบอาอยากจะทิ้ง..ก็ช่วยทิ้งตอนโลมาไม่อยู่แล้วได้ไหม..."  จุนซูเอ่ยขอร้องพยายามหัห้ามใจตัวเองไม่ให้เอื้อมมือไปหาหญิงสาวตรงหน้า... แม้จะอยากสัมผัสสักเพียงใดตอนนี้มันก็ไม่มีสิทธฺแล้วอยู่ดี

                        "ฮึก..ฮือ..."  ร่างบอบบางของหญิงสาวทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง  พลางยกมือขึ้นปิดใบหน้าแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเก็บกั้นจนร่างกายสั่นไหวไปตามแรงสะอื้นไห้  ยุนโฮที่เห็นเหตุการณ์รีบตรงรี่ไปหาโบอาทันที

                        "โบอา..."  มือเรียววางทาบลงบนไหล่สวยอย่างเบามือ  ต้องการจะปลอบโยนหญิงสาวเพราะความเป็นห่วง  ก่อนจะหันไปมองอีกคนด้วยสายตาผิดหวัง

                        "ทำไมนายถึงได้ทำแบบนี้ล่ะจุนซู"  หมีน้ยอพูดเสียงเครือสั่นด้วยความรู้สึกโกรธแทนโบอา

                        "...ผมทำอะไรเหรอครับ..."  โลมาที่ตอนนี้หน้าเริ่มตายเอ่ยถามกลับ

                        "ก็นาย..."  โบอารีบส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงห้ามไม่ให้ยุนโฮพูด

                        "แต่ว่าโบอา..."  หมีน้อยชักสีหน้าเล็กน้อย

                        "ช่างเถอะยุนโฮ...ถ้าโลมาน้อยมีความสุข..ฮึก...ก็ดีแล้ว"  เสียงหวานกร่นบอกปนเสียงสะอื้นไห้

                        "...ความสุขของโลมาน่ะ..มันอยู่ที่โบอา..."  จุนซูย่อตัวลงนั่งข้างๆ โบอาแล้วไล้มือซับน้ำตาให้หญิงสาว

                        "ถ้าไม่มีโบอาแล้ว...ผมก็แค่คนไร้จิตใจธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นแหละ"

                        "ไม่จริงหรอก..ฮึก..ก็โลมาน้อยกับผู้หญิงคนนั้น...ฮือ..."  โบอาสะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออก

                        "..ผู้หญิงคนไหน..."  พอได้ฟังคำพูดของโบอาสีหน้าเศร้าสร้อยของจุนซูก็กลับกลายเป็นงวยงงแทน

                        "ก็..ก็เจสบอกว่า..ฮึก..เห็นโลมาน้อย...อยู่กับผู้หญิงคนอื่นทั้งคืนเลย...ฮือ.."  แล้วก็ปล่อยโฮออกมามากว่าเดิมเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

                        "ตอนไหนกัน...โลมาอยู่กับจุนกี้ต่างหาก..."  โลมาทำหน้างงหนักกว่าเดิม

                        "ฮือ...โลมาน้อยไม่ต้องมาโกหกเลย... ก็อยู่ด้วยกันทั้งหมดน่ะแหละ"  ว่าแล้วก็ทุบอกโลมาไปทีพร้อมกับจ้องหน้าปากเบะ

                        "..ถ้าตอนเย็นวานล่ะก็ใช่... โลมาไปขอให้คุณเลอาห์ช่วยเร่งมือทำสร้อยข้อมือให้น่ะ  แล้วก็นั่งรอกับพี่จุนกี้จนถีงเช้า..."  จุนซูเอ่ยบอกอธิบายกับหญิงสาวอย่างอ่อนโยน

                        "..จริงเหรอ...ไม่โกหกแน่นะ"  โบอาช้อนตามองอีกฝ่ายตาปริบ

                        "โลมาเคยโกหกโบอาเหรอ..."  ชายหนุ่มถามกลับพร้อมกับถอนหายใจยาว

                        "...โบอาขอโทษ"  หญิงสาวก้มหน้างุดอย่างสำนึกผิด

                        "อย่าบอกนะว่า...โบอาขอเลิกกับโลมาเพราะเรื่องนี้น่ะ..."  จุนซูจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง  ส่วนโบอาเพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ เท่านั้น

                        "เฮ้อ~! "  โลมาโถมตัวเข้ากอดโบอาไว้ทั้งตัวพลางซบหน้าลงกับไหล่เนียนสวย  คนถูกกอดขยับตัวซุกเข้าหาอกอันแสนอบอุ่นที่ทำให้สบายใจได้ทุกครั้งที่สัมผัส

                        หมีน้อยเห็นคนทั้งสองคืนดีกันได้ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก  จากนั้นจึงรีบปลีกตัวออกไปไม่อยากขัดจังหวะเวลาอันแสนสำคัญของคู่ชายหนุ่มหญิงสาว

                        "ขอโทษนะโลมาน้อย...ที่โบอาพูดแบบนั้น  อย่าโกระเค้านะ"  เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นอย่างอ้อนๆ

                        "..อืม..."  จุนซูพูดตอบเสียงแผ่วพร้อมกับดึงตัวหญิงสาวเข้ามาหาตัวเองยิ่งกว่าเดิม

                        "ง่วงจังเลย..ยังไม่ได้นอนทั้งคืนเลย..."

                        "ถ้างั้นก็ไปพักผ่อนก่อนเถอะนะโลมาน้อยไ  โบอาฉีกยิ้มเล็กน้อย

                        "คราวหน้า...จะซื้อของขวัญให้อีกนะ..."  โลมาขยับตัวออกมาก่อนจะหญิบสร้อยข้อมือในมือนุ่มขึ้นมาสวมใส่ให้หญิงสาว

                        "อื้ม! แต่ว่าโลมาน้ยอยอ่าทำแบบนี้อีกนะ  มีอะไรก็ต้องบอกโบอาด้วยล่ะ"  หญิงสาวทำท่าเหมือนกับลูกแมวน้อยอ้อนเจ้านาย

                        "ถ้าบอก..ก็ไม่เซอร์ไพส์น่ะสิ..."  พูดพลางโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มใสเบาๆ

                        "โลมาน้อยอ่ะ..."  โบอาหันหน้าหนีอย่างเขินอายพลางเอามือจับแก้มตัวเอง

                        "ของขวัญชิ้นต่อไป...ต้องใส่ไว้ตรงนี้เท่านั้นด้วย"  จุนซูยกมือเรียวบางข้างซ้ายของโบอามารตรงหน้าแล้วแตะริมฝีปากของตนลงตรงนิ้วนางด้วยสัมผัสที่แสดงถึงความรักอันเอ่อล้น

                        "อื้อ! "  โบอาฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับโผเข้ากอดจุนซูอย่างดีใจ

                        "แล้วโบอาจะรอนะ"

                        "ไม่ใช่ว่าพอโลมาน้อยจะให้แล้วโบอาจะบอกเลิกอีกหรอกนะ"  ชายหนุ่มเอ่ยถามพลางหรี่ตามองโบอา

                        "ก็ถ้าโลมาน้อยไม่ทำตัวให้น่าสงสัยอีก  โบอาก็ไม่บอกหรอก"  หญิงสาวทำหน้าทะเล้นใส่

                        "การเก็บเรื่องขอแต่งงานกับคนที่ตัวเองรักเป็นความลับน่ะ  มันก็ต้องทำอะไรน่าสงสัยบ้างล่ะ"  โลมาท้วงกลับพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

                        "ทำไมต้องเป็นความลับด้วยล่ะ"  โบอายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อจับผิดพร้อมกับทำแก้มป่อง

                        "ก็เพราะอยากให้โบอาประทับใจไง..."  จุนซูมองสบตาโบอาด้วยสายตาที่สื่อให้รู้สึกถึงจิตใจ  ซึ่งเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อคนตรงหน้า

                        "ขอบคุณนะโลมาน้ยอ"  หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้ยอก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ชายหนุ่มแล้วล็กจูบอย่างรวดเร็ว  จากนั้นก็รีบวิ่งหนีไปเพราะความเขินอาย

                        "อืม...หวาน..."  โลมาไล่ปลายลิ้นแตะริมฝีปากตัวเองแล้วยิ้มยกมุมปาก

                        "ยุนโฮ..."  แจจุงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มกริ่มหันมาจ้องมองคนด้านข้างแทนหลังจากที่แอลสังเกตุการณ์คู่รักหวานเลี่ยนมานาน

                        "หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เลยนะแจ"  หมีน้อยรีบพูดขึ้นอยางรู้ทัน  ใบหน้าซับสีขึ้นมาเล็กน้อย

                        "นายรู้เหรอว่าฉันกำลังคิดอะไร"  ไม่พูดเปล่ายังโน้มหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอย่างเจ้าเล่ห์  มือเรียวรีบยกขึ้นผลักต้านตัวชวยหนุ่มอย่างรวดเร็ว

                        "ไปดูเจสสิก้าดีกว่าไม่รู้เป็นไงบ้างแล้ว"  หมีน้อยหาข้ออ้างพลางดันบานประตูที่ถูกเปิดแง้มไว้อยู่แล้วให้อ้าออกกว้างแล้วเดินออกไปเพื่อหนีอีกคน

                        "ว้า! รู้ทันซะและ"  แจจุงทำหน้าเหมือนกับเสียดายก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มมุมปาก  แล้วเดินตาอีกคนไปบ้าง

                        สาวน้อยผู้มีใบหน้าหมองเศร้าขยับไกวชิงช้าอย่างเงียบเหงา  ยูชอนมองดูแล้วก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ  ตัวชิงช้าแกว่งตามแรงดันของปลายเท้าสวย  เส้นผมยาวสลวยพริ้วเมื่อต้องลม  แพขนตายาวยังคงมีคราบน้ำตาเกาะอยู่  ดวงตากลมโตเหม่อมองไปด้านข้างยอ่างไร้จุดหมาย

                        "พี่จะอยู่ท่านี้อีกนานแค่ไหนกันครับพี่จุนกิ"  ร่างบงต้องเอ่ยถามขึ้นมาในที่สุดเมื่อมองดูชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่าก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ข้างชิงช้า

                        "จนกว่าเจสจะยอมพูดกับจุนน่ะแหละ"  จุนกิตอบพลางเงยหน้ามองหญิงสาวที่ยังหันหน้าหนีไปทางอื่น  ตั้งแต่ชายหนุ่มตามมาง้อหญิงสาวก็เอาแต่เงียบตลอดมาจนจุนกิไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว  เจสสิก้าไม่แม้จะเหลือบมองจุนกิและนั่งแกว่งชิงช้าต่อไปเรื่อยๆ ทำเหมือนกับชายหนุ่มไม่มีตัวตนอยู่

                        "เวลาแบบนี้...ต้องปล่อยอยู่กันสองต่อสองถึงจะถูก"  เสียงออกทุ้มของชายหนุ่มผู้กลายเป็นแขกประจำของบ้านพักเอ่ยกระซิบมาจากทางด้านหลังยูชอน

                        "พี่อิรุ..."  ร่างบางหันมองคนที่หมู่นี้มักทำตัวผลุบโผล่มาแบบไม่คาดคิดอย่างตกใจ

                        "มากับพี่ดีกว่าน  อย่าอยู่เป็นกขค. เขาเลย"  อิรุยิ้มกริ่มก่อนจะรวบเอาบางมาใกล้ด้วยความตั้งใจ  แล้วก็ดึงร่างบางออกมาจากบริเวณนั้น

                        "...ตายล่ะ! อิรุเริ่มเอาจริงแล้ว... ยูชอนจะเสร็จไหมเนี่ย"  จุนกิเหลือบมองยูชอนที่ถูกอิรุจูงเดินเข้าไปทงตัวบ้านด้วยสายตาเป็นห่วง

                        "...ห่วงคนอื่น..ไม่ห่วงตัวเองเลยนะ"  น้ำเสียงหวานออกแนวประชดประชันดังมากระทบโสตประสาทของชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่  จุนกิรีบหันกลับมามองทันที

                        "เจส...ยอมพูดกับจุนกิแล้วเหรอ..."  ชายหนุ่มฉีกยิ้มอย่างดีใจ

                        "เจสหายโกรธจุนเถอะนะ...ที่จุนทำลงไป  จุนมีเหตุผลนะเจส"

                        "..........."  เจสสิก้านิ่งเงียบ  แต่ก็ยอมเหลียวกลับมามองชายหนุ่มอีกครั้ง

                        "...ที่จุนหายไปทั้งคืนน่ะ..เพราะจุนไปเป็นเพื่อนจุนซูน่ะ  ไม่เชื่อไปถามจุนซูดูก็ได้"  จุนกิเอ่ยอธิบายเสียงอ่อน  กระพริบตาปริบๆ ขอความเห็นใจจากสาวน้อยบนชิงช้า

                        "แล้วที่นั่งคุยกับผู้หญิงกระหนุงกระหนิงล่ะ...จะอธิบายยังไง"  เจสสิก้าทำหน้างอพลางสะบัดหน้าหนีไปทางเดิม

                        "จุนไปขอร้องให้ช่วยออกแบบแหวนแต่งงานให้น่ะ"  จุนกิบอกตามตรงพร้อมกับจับมือของเจสสิก้ากุมไว้แนบอก  ส่วนเจสสิก้าหันหน้ากลับมามองด้วยสีหน้าตกใจระคนเขินอาย

                        "แต่เลอาห์บอกวาให้มาถามว่าที่เจ้าสาวด้วย..."  ใบหน้าสวยแทบแดงระเรื่อไปทั่วในทันที  เจสสิก้าก้มหน้าหลบสายตาคมของชายหนุ่มที่กุมมือตัวเธออยู่  หัวใจของหญิงสาวเต้นระรัวเสียยิ่งกว่าจังหวะกลองเสียอีก

                        "คำตอบล่ะครับเจสสิก้า..."

                        "ก็ต้องตกลงสิคะ..."  เสียงหวานเอ่ยตอบกลับ  เพราะรู้ดีว่าไม่สามารถโกรธหรือเฉยเมยกับคนตรงหน้าได้นานนัก  แม้ชายหนุ่มจะทำเรื่องให้กังวลใจ  ให้เสียน้ำตาสักเท่าไร  แต่หัวใจของเธอก็ยังคงยอมอ่อนให้อยู่ดี

                        "ชางมิน...ชางมิน..."  หมีน้อยออกแรงเขย่าตัวร่างสูงที่กำลังหลับอยู่บนเตียงนุ่ม

                        "อือ..."  เสียงทุ้มครางออกมาเพียงเบาๆ ยังไม่ได้สติ

                        "กระต่ายน้อยของนายกำลังถูกหมาป่าล่อลวงไปอยู่นะ"  แจจุงลองเอ่ยเรียกดูบ้าง  แต่ชางมินกลับทำได้แค่ขยับเปลือกตาขึ้นมามองด้วยความยากลำบาก

                        "ขืนมัวแต่นอนอยู่อย่างนี้ยูชอนได้เสร็จนายอิรุนั่นไปแน่"  แจจุงแกล้งพูดยั่วอีกคนที่ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลย  ยุนโฮใช้มือเรียวอังหน้าผากน้องเล็กของวงอย่างเป็นห่วง

    "สงสัยจะเป็นไข้ล่ะแจจุง  ตัวร้อนๆ"

                        "ป่วยเป็นกะเขาด้วยเหรอเนี่ย"  แจจุงบอกหน้าตาย

                        "ปวดหัว..."  เสียงทุ้มเพ้อขึ้นมาเบาๆ

                        "ฉันว่าเรารีบไปหายูชอนกันเถอะ"  หมีน้อยรีบชวนแจจุงทันที

                        "อื้อ! ไปสิ"  แล้วคู่หูปาท่องโก๋ก็พากันเดินออกจากห้องนอนของชางมินอย่างรวดเร็ว  จุดหมายปลายทางคือห้องนั่งเล่น

                        "ยูชอน~ "  หมีน้อยวิ่งเข้าไปหายูชอนพลางจับไหล่บางแล้วจ้องมองอีกคนตาแป๋ว

    "ชางมินไม่สบายล่ะ"

                        "โกหก..."  อิรุพูดตอบแทนแถมดึงตัวยูชอนเข้าไปกอดไว้เหมือนจะแสดงถึงความเป็นเจ้าของ

                        "ผมไม่ได้โกหกสักหน่อย! "  ยุนโฮกระชากเสียงเล็กน้อยพลางพยายามดึงรั้งตัวยูชอนให้ออกห่างจากอิรุ

                        "พี่อิรุเลิกเล่นสักทีเถอะครับ"  ร่างบางกล่าวว่าชายหนุ่มร่างสูง  อิรุจึงยอมปล่อยตัวยูชอนแต่โดยดี

                        "วันนี้ขอแค่นี้ก่อนแล้วกัน"  พูดจบก็โน้มหน้าลงจูบร่างบางอย่างรวดเร้ว

                        "อื๊อ! "  ยูชอนรีบดันตัวหนี  ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้รั้งไว้แต่อย่างใดแถมยกยิ้มพอใจอีกต่างหาก

                        "เชิญไปดูแลเจ้าหนูเสาไฟฟ้าตามสบายเลย"  อิรุโบกมือลาแล้วเดินจากไป  โดยไม่ได้สนใจว่ายูชอนจะมองตัวเองด้วยสายตาตำหนิและเคืองโกรธ  มือเรียวยกขึ้นเช็ดริมฝีปากตัวเองจนแดงเจ่อ  ส่วนหมน้อยที่เห็นท่าทีของชายหนุ่มก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงรีบวิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว

                        "คุณอิรุ!! "  ยุนโฮตะโกนเรียกชื่อชายหนุ่มร่างสูงอย่างเคืองๆ

                        "อะไรครับ"  ชายหนุ่มหันกลับมามองด้วยท่าทางสบายอารมณ์

                        "ทำไมต้องไปยุ่งกับยูชอนด้วยล่ะครับ  ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขากับชางมินเป็นแฟนกัน"  หมีน้อยมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

                        "แล้วไงล่ะ... เป็นแฟนกันก็เลิกกันได้เหมือนกันน่ะแหละ"  ร่างสูงยักไหล่คล้ายกับไม่ใส่ใจ

                        "ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายอย่างนั้นะ"  หมีน้อยเริ่มทำแก้มป่องอย่างไม่พอใจ  พร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันจนยุ่ง

                        "หึ... ชักอยากจะจูบยุนโฮอีกสักคนแล้วล่ะสิ"  อิรุยกยิ้มเจ้าเล่ห์พลางมองใบหน้าของหมีน้ยอด้วยสายตาพออกพอใจ  หมีน้อยขยับถอยหลังหนีเล็กน้อยอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อเห็นสายตาที่มองมายังตน  แต่ก็ยังไม่วายจะต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย

                        "ถ้าคุณทำอะไรผม  แจจุงจะต้องเอาเรื่องแน่ๆ"  หมีน้ยอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ  มองจ้องอีกฝ่ายกลับไป

                        "นั่นสิ... ฉันฉันก็ไม่อยากจะสร้างศัตรูเพิ่มซะด้วย..."  ชายหนุ่มร่างสูงมองจ้องหมีน้อยไม่วางตา

                        "ก็ดี..."  ยุนโฮเผยยิ้มอย่างได้ใจ  แล้วเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายโดยไม่ทันได้ระวังตัว

                        "แล้วถ้ามายุ่งกับยูชอนอก  แจจุงกับชางมินก็ต้องเอาเรื่องคุณด้วยเหมือนกัน"  ยุนโฮเชิดหน้าเล็กน้อย

                        "น่ากลัวซะจริง..."  มือหนาคว้ารวบเอวคนที่เดินเข้ามาหาตัวเองโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว

                        "อยากให้ปล่อยจริงเหรอ"  เสียงนุ่มแกล้งกระซิบถามใกล้ใบหูของหมีน้อย  คนไม่มีทางสู้รีบพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่าย

                        "งั้นขอทำรอยไว้หน่อยได้ไหม"  ลมหสายใจอุ่นร้อนรดแตะลงบนผิวขาวตรงซอกคอของยุนโฮ  ทำเอาหมีน้อยสะดุ้งเฮือกด้วยความรู้สึกกลัว  และไม่ทันไรก็เหมือนกับมีอะไรบางอย่างตกกระทบเข้ากับศรีษะของอิรุเข้าพอดิบพอดี

                        "อุ๊บ!?"  ชายหนุ่มร้องอุทานออกมาพลางยกมือลูบจับหัวของตัวเองตรงบริเวณที่โดนกระแทก

                        "แจจุง!"  แล้วยุนโฮก็รีบวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังอิรุไม่ไกลนัก  พลางเกาะแขนแจจุงเอาไว้อย่างกลัวๆ

                        "เมื่อกี้แค่ขนมปังนายคงไม่เจ็บหรอก"  แล้วแจจุงก็ปาหนังสือที่อยู่ในมือไปทางอิรุอีกครั้ง

                        "บังอาจมากนักนะที่มายุ่งกับหมีน้อยของฉัน  แค่ยูชอนคนเดียวนายังไม่พอใจอีกหรือไง"  แจจุงเลือดขึ้นหน้า

                        "ถ้าไม่อยากให้ฉันยุ่งก็ดูแลคนของนายดีๆ สิ  อย่าให้มาเข้าใกล้ฉัน"  อิรุเบี่ยงตัวหลบหนังสือที่ถูกปามุ่งมาหาตัวเอง

                        "เฮอะ!  เป็นเพราะยุนโฮห่วงยูชอนกับชางมินหรอกถึงได้เข้ไปใกล้นาย.. ใครจะไปรู้ล่ะว่านายมันจะบ้าได้ขนาดนี้  ไม่งั้นฉันไม่ยอมปล่อยหมีน้อยให้เข้าใกล้นายหรอก  เพราะฉันจะเป็นฝ่ายเข้าไปหาเอง"  พูดพลางถกแขนเสื้อขึ้นพร้อมที่จะเอาเรื่องชายหนุ่มอีกคนได้ทุกเมื่อ  แจจุงทำท่าว่าจะเดินเข้าไปหาอิรุใกล้ๆ  แต่ก็ถูกยุนโฮรั้งแขนเอาไว้

                        "ทำไมล่ะยุนโฮ"  แจจุงหันมองหน้าหมีน้อยอย่างไม่เข้าใจ

                        "อย่ามีเรื่องเลย"  หมีน้อยเอ่ยเสียสงเบาพลางส่ายหน้าไปมา

                        "ร่ายเสร็จแล้วใช่ไหม  ฉันจะได้ไปสักทีเสียเวลามาเยอะแล้วนะ"  อิรุเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงปกติธรรมดา

                        "เออ! ไปเลยแล้วอย่ากลับมาอีกนะ"  แจจุงไล่ประชด

                        "คงไม่ได้หรอก...เพราะหัวใจของฉันมันอยู่ที่นี่"  ชายหนุห่มร่างสูงกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนจะขับรถออกไป

                        "ชิ! เจ้าบ้าเอ๊ย"  แจจุงรู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก  ก่อนจะหันไปสำรวจตรวจสอบตัวหมีน้อย

                        "นายไม่เป็นไรใช่ไหมยุนโฮ"  ชายหนุ่มจับตัวหมีน้อยหันไปมามองสำรวจไปทั่วเรือนร่าง

                        "พอแล้ว... ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก"  หมีน้ยอเอ่ยขัดเสียงเบา

                        "ทีหลังก็อย่าไปยุ่งกับเจ้าบ้านั่นอีกนะ"  เอ่ยพลางจับแก้มนุ่มทั้งสองข้าง

                        "อืม...แต่ถ้าแจคอยมาช่วยอย่างนี้อีก  ฉันก็อาจจะเข้าไปหาเรื่องเขาอีกก็ได้"  หมีน้อยช้อนตามองอีกฝ่ายยิ้มๆ

                        "หืม..."  แจจุงขมวดคิ้วมองไม่เข้าใจ

                        "ขอบใจนะที่มาช่วย"  หมีน้อยอมยิ้มหวานก่อนจะหอมแก้มชายหนุ่มเพื่อแสดงการขอบคุณ  จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้านด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

                        "โอว้! อย่างนี้ต้องทำตัวเป็นฮีโร่บ่อยๆ ซะแล้ว"  แจจุงยืดอกอย่างภาคภูมิใจ  ก่อนจะเดินตามหมีน้อยเข้าบ้านไปบ้าง

                        ผ้านุ่มชื้นน้ำผืนเล็กถูกพับวางลงบนหน้าผากที่ไอร้อนสูงกว่าปกติอย่างเบามือ  มือเรียวหยิบจับผืนผ้าห่มหนาขึ้นมาคลุมให้คนที่นอนอยู่  ก่อนจะขยับตัวลงนั่งข้างเตียง

                        "ชางมิน..."  ร่างบางจ้องดูหนุ่มร่างสูงด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย  คิ้วหนาขมวดมุ่นด้วยความรู้สึกอึดอัดกับสภาพร่างกายของตัวเอง  ชางมินตัวไหวเล็กน้อยด้วยอาการสั่นหนาว

                        "หนาว..."  เสียงทุ้มแหบเอ่ยเพ้อ  ยูชอนรีบดึงผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาคลุมให้คนเพ้อในระดับที่สูงกว่าในตอนแรก

                        "ชางมินยังหนาวอยู่ไหม"  ร่างบางโน้มหน้าเข้ามาถามอาการคนป่วยใกล้ๆ

                        "พี่ยูชอน...อยู่กับผมนะ..."  เหมือนกับจะเป็นการเอ่ยบอกกับอีกคน  แต่เป็นการเพ้อเสียมากกว่าเพราะร่างสูงยังคงไม่ได้สติเลย

                        "ฉันก็อยู่นี่แล้วไง"  บอกพร้อมกับพลิกกลับผ้าชื้นบนหน้าผากให้แถบเย็นแตะถูกใบหน้าร้อนไข้  เปลือกตาบางขยับเปิดลืมขึ้นช้าๆ ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวบางแล้วพลางดวงตาเรียวคมพยายามหรี่ปรือมองคนตรงหน้าด้วยความยากลำบาก

                        "ไม่ต้องฝืนก็ได้...นอนพักผ่อนไปเถอะนะ"  ร่างบางเอยบอกเสียงเบา

                        "...ผมหนาว...ช่วยอยู่ข้างๆ ผม..ได้ไหม..."  ริมฝีปากบางขยับบอกยากเย็น

                        "ได้สิ...ถึงไม่บอกฉันก็จะอยู่ข้างๆ ชางมินไปตลอดน่ะแหละ"  ยูชอนพูดพร้อมกับเข้าไปนั่งใกล้ๆ ร่างสูง

                        "กอดผมได้ไหม..."  มือหนาเย็นเคลื่อนจับมือบางแผ่วเบาไร้เรี่ยวแรง

                        ".................."  ดวงตาใสเบิกกว้างขึ้นและคิ้วสวยก็ยกสูงขึ้นเมื่อได้ยินคำขอร้องของอีกฝ่าย  ก่อนที่ใบหน้าขาวจะค่อยๆ ซับสีชมพูปนแดงระเรื่อในเวลาต่อมา

                        "นะครับ..."  ดวงตาคมพยายามเพ่งมองอีกฝ่ายอย่างขอร้อง  ร่างบางเม้มปากเล็กน้อยแล้วหลุบตามองไปทงอื่น

                        "ไม่ต้องก้ได้ครับ...ถ้ามันทำให้พี่ลำบากใจ..."  ชางมินยิ้มยกมุมปาก  ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง  และคลายมือออกจากมือบาง  ยูชอนหันกลับมามองร่างสูงในทันทีพลางทำหน้าคิดหนัก  แต่ในที่สุดก็ยอมขยับลงนอนเคียงข้างร่างสูงและเอื้อมกอดคนป่วยผ่านผืนผ้าห่มหนาที่คลุมทับอยู่

                        "...ขอบคุณครับ"  ร่างสูงยิ้มบาง  ยูชอนซุกหน้าลงกับผืนผ้าหนาโดยไม่ได้พูดตอบอะไร

    ***************************************************************************************************************

    ตอนนี้ขอยืมเลอาห์มาเป็นแขกรับเชิญให้กับทั้งสองจุน
    มาเป็นช่างทำเครื่องประดับให้กับทั้งสองหน่มเค้า
    และแล้วจุนใหญ่ก็ชิ่งแต่งงานไปก่อนจุนเล็ก - -
    สรุปแล้วเรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแค่ความเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง
    แต่อย่างว่าอารมณ์ของผู้หญิงมันอ่อนไหวง่ายเสียยิ่งกว่าอะไร - -
    แต่ก็ดีแล้วที่คืนดีกันสักที  ไม่อย่างนั้นจุนซูมีหวังแห้งเหี่ยวตาย
    อาวละ  ตอนหน้าจะเกิดเรื่องวุ่นๆ อะไรกันอีกติดตามกันน้า

    รักคนอ่านทุกคนนนนน ^3^ (วันนี้มาอารมณ์ไหนเนี่ย - -" )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×