ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *** wish you *** [#TVXQ#] ; yaoi

    ลำดับตอนที่ #28 : ให้....

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 51




                                                                     


    เปิดตัวด้วยมิคตุ๊กต่าย  
    โอ๊ย! โลกนี้มีแต่สีชมพู  คนอะไรน่ารักอยู่ได้ตลอดเวลา +0+
    เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปอ่านกันเลย

    *****************************************************************************************************************************

                        แสงสีทองอ่อนๆ ในยามเช้าสาดกระทบกับเปลือกตาบาง  ร่างสูงจึงขยับพลิกกายหนีแสงอรุณ  ทำให้ท่อนแขนแกร่งพาดทับกับของคนที่นอนอยู่ข้างๆ

                        "...ผมขอโทษครับพี่ยูชอน"  เสียงนุ่มกระซิบแผ่วทั้งยังหลับตาพลางกระชับกอดอีกคนให้แน่นขึ้น

                        "...ฉันก็ไม่ได้คิดโทษโกรธมินมินหรอก..."  เสียงอีกฝ่ายตอบรับโดยไม่ได้ขัดขืนอะไร

                        "พี่ยูชอนรักผมหรือเปล่า..."  ร่างสูงยังคงเอื้อนเอ่ยถ้อยคำเพื่ออยากจะสื่อให้ถึงความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม

                        "...อยากรู้เหรอ"  เสียงที่ค่อนข้างออดอ้อนเอามากๆ เอ่ยถาม

                        "...ผมอยากรู้..."  ร่างสูงตอบรับด้วยความคาดหวัง

                        "งั้นก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ สิ..."  พูดพร้อมยกแขนขึ้นคล้องคอร่างสูงอีกต่างหาก  ชางมินยอมทำตามที่อีกฝ่ายพูดแต่โดยดี

                        "เอ่อ... แป๊บนะ... กล้องที่ตั้งไว้มันเขยื้อนน่ะ"  บอกก่อนจะขยับกล้องคู่ใจให้อยู่ในมุมที่ต้องการ

                        "กล้อง? พี่หมายความว่ายั..."  ดวงตาที่เปิดขึ้นตะลึงค้างกับภาพตรงหน้า  คนที่อยู่ในอ้อมกอดกลับไม่ใช่คนที่ตนฝันถึง

                        "จุนซู!!! "  ร่างสูงตะโกนลั่นด้วยความตกใจ  พร้อมทั้งผลักอีกคนให้ออกห่างจากตัวอย่างรวดเร็ว

                        "นายเล่นอะไรบ้าๆ แบบนี้!!!" 

                        "เล่นอะไรบ้าๆ ตรงไหน... มินมินเป็นคนเข้ามากอดฉันเองนะ"  โลมาทำหน้าทำตาเง้างอดพร้อมกับกัดริมฝีปากล่างไปด้วย

                        "ทำแบบนี้เค้าเสียหายนะ... รับผิดชอบด้วยล่ะ"

                        "รับผิดชอบอะไร  ฉันยังไม่ได้ทำอะไรนายสักหน่อย"  ชางมินรีบเถียงออกไปอย่างรวดเร็ว

                        "ไม่ได้ทำอะไรที่ไหน... หลักฐานก็มีอยู่ทนโท่เนี่ย"  จุนซูเอ่ยอ้างพร้อมทั้งหยิบกล้องที่วางตั้งไว้ใกล้ตัวมาชูให้ชางมินดู

                        "อยากรู้นัก... ว่าถ้ายูชอนเห็นจะทำหน้ายังไง"

                        "นั่นสิ... ถ้าพี่โบอามาเห็นเข้าจะทำหน้ายังไง"  ชางมินถามกลับหน้าตาย

                        "แล้วไง... ยังไงฉันก็เป็นผู้เสียหายอยู่ดีน่ะแหละ"โลมายิ้มยวน

                        "ก็เอาสิ  อยากทำอะไรก็ทำ  เพราะยังไงพี่ยูชอนก็คงไม่สนใจอะไรฉันอญู่แล้ว  แต่กับพี่โบอาถ้ารู้เข้า.. นายก็คิดดูแล้วกันว่าจะเป็นยังไง"  ชางมินบอกด้วยท่าทีหน่ายๆ  จุนซูเห็นสีหน้าของร่างสูงก็เกิดอาการเซ็งขึ้นมาทันที

                        "โห่! ไม่หนุกเลยอ่ะ... อยู่ดีๆ ก็หมดอารมณ์ซะงั้น..."  บ่นพลางวางกล้องลงตรงหัวเตียงตามเดิม

                        "ดีนะ.. ที่ไม่ได้ถ่ายไว้จริงๆ"

                        "เฮ้อ... "  ชางมินถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำโดยไม่สนใจโลมาเลยสักนิด  ส่วนจุนซูเลยถือโอกาสเดินออกมาจากห้องของชางมินเพื่อกลับไปยังห้องตัวเอง





                        "ฮะ... อืม... ไม่เป็นไรฮะ... ขอบคุณนะฮะที่เป็นห่วง"  เสียงคุ้นหูแว่วดังอยู่ในห้องนั่งเล่นของตัวบ้าน  เรียกความสนใจใคร่รู้ของโลมาได้เป็นอย่างดี  จุนซูค่อยๆ ย่องไปดูด้วยความรวดเร็ว

                        ร่างบางในชุดเสื้อยืดคอกลมสีชมพู  กางเกงผ้าสีขาว  ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงโซฟาหน้าโทรทัศน์  ริมฝีปากอิ่มเอื้อนเอ่ยกับเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กที่แนบอยู่ข้างหูด้วยสีหน้าสดใส

                        "ฮะ.. แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะฮะพี่อิรุ"

                        "..ชักจะไปกันใหญ่แล้วสิงานนี้"  โลมาซึ่งซุ่มแอบอยู่ในมุมลับสายตาเอ่ยพึมพำกับตัวเอง

                        "อะไรเหรอที่ว่าไปกันใหญ่น่ะ"  เสียงดังขึ้นที่ข้างหูโลมาเล่นเอาคนที่แอบซ่อนผวาตัวเฮือก

                        "โธ่! เพ่แจเองเหรอ... ตกใจหมด"

                        "แค่นี้ทำเป็นตกใจไปได้... แล้วตกลงอะไรล่ะที่ว่าไปกันใหญ่น่ะ"  แจจุงซักไซร้ไล่เลียง

                        "ก็.. ยูชอนน่ะสิ... คุยโทรศัพท์กับคนที่ชื่ออิรุซะมดขนน้ำตาลไปเก็บกันไม่ทันเลย"  จุนซูบอกอย่างไม่เต็มเสียงเท่าไรนัก

                        "เฮ่ยๆๆๆ!!!!"  แจจุงกดเสียงต่ำลงอย่างตกใจ

                        "อย่างนี้ชักจะไม่ได้การซะแล้ว  ฉันว่าเราจัดการอะไรสักอย่างดีกว่าจุนซู"

                        "ผมว่า.. พี่น่าจะจัดการเรื่องของตัวเองก่อนดีกว่านะครับ"

                        "เรื่องของฉัน? ฉันมีเรื่องอะไรที่จะต้องจัดการอย่างนั้นเหรอ"  แจจุงขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจ

                        "ก็เรื่องพี่กะพี่ยุนโฮไง..."  จุนซูแจกแจงให้แจจุงฟัง  ชายหนุ่มถึงกับเบิกตากว้างเมื่อนึกขึ้นได้

                        "อ๊า! จริงสิ... ฉันกำลังตามหาหมีน้อยอยู่นี่นา  ดันลืมซะได้"  แจจุงเขกหัวตัวเองเบาๆ

                        "ว่าแต่นายเห็นยุนโฮหรือเปล่าล่ะ"  เอ่ยถามด้วยท่าทีร้อนใจ  โลมาหันหน้าไปซ้ายทีขวาที

                        "ถ้ายุนโฮล่ะก็.. ยังนอนอยู่ในห้องแน่ะ"  คำบอกพร้อมกับคนที่มีรอยยิ้มหวานเจือเต็มใบหน้าโผล่เข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย

                        "นายไม่เป็นไรแล้วเหรอยูชอน"  แจจุงถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่ดูผิดไปจากในตอนแรก

                        "ประมาณนั้นแหละ"  น้ำเสียงตอบกลับเบาลงเล็กน้อย  รวมทั้งรอยยิ้มที่ค่อยๆ จางหายไป

                        "มีอะไรก็รีบเคลียร์กับชางมินให้รู้เรื่องล่ะ  หมอนั่นเองก็ดูท่าจะแย่อยู่เหมือนกัน"  แจจุงพูดบอกด้วยสีหน้าอ่อนโยนและเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย

                        "ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกนายสองคน  แต่ฉันก็ไม่อยากจะให้พวกนายทั้งสองคนต้องอยู่ในสภาพแบบนี้หรอกนะ"  มือเรียวยกขึ้นสัมผัสกับศรีษะเล็กก่อนจะเดินละตัวผ่านไปทางห้องที่มียุนโฮอยู่

                        "แต่.. ฉันกลัว..."  ยูชอนบอกออกมาด้วยน้ำเสียงแสนจะแผ่วเศร้า  ไม่กล้าที่จะพบเจอร่างสูง  ไม่กล้าที่จะพูดคุย..เพราะกลัว...

                        "...มินมินก็อาการหนักพอกันกับยูชอนน่ะแหละ"  โลมาเอ่ยบอกร่างบาง

                        "ไม่เชื่อก็ไปดูสิ"  พูดจบก็คว้าข้อมือของยูชอนให้เดินตาม  พอถึงห้องของชางมินก็ดันหลังร่างบางเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว  แถมปิดประตูให้เสร็จสรรพ

                        "จุนซู!! เปิดเดี๋ยวนี้นะ!!!"  ยูชอนที่โดนผลักเข้าห้องอย่างไม่ทันตั้งตัวทุบประตูเรียกคนด้านนอก

                        "...ไม่อยากจะอยู่กับผมมากขนาดนั้นเลยเหรอครับ... คงจะรังเกียจผมมากเลยสินะ"  เสียงนุ่มทุ้มส่อแววตัดพ้อดังขึ้นจากทางด้านหลังร่างบาง  ยูชอนเย็นวาบไปทั้งตัวราวกับถูกแช่ไว้ในน้ำแข็ง  มือเรียวละจากบานประตูมากุมตรงบริเวณหน้าอกแทน  ร่างสูงโน้มหน้าลงซุกกับไหล่บางอย่างอ่อนแรงพลางหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

                        "ถ้าหาก... พี่ไม่อยากจะเห็นหน้าคนเลวอย่างผม.. ผมก็จะไปให้พ้นจากหน้าพี่"  เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาราวกับคนแทบจะสิ้นใจ

                        "............"  ร่างบางนิ่งเงียบแม้จะไม่ขยับหนีสัมผัสของชายหนุ่ม  แต่ก็หันใบหน้าของตัวเองที่ก้มหลุบต่ำออกห่างเล็กน้อย  การนิ่งเงียบของร่างบางแทนการเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นถ้อยคำ  กลับเป็นเหมือนสิ่งที่คอยทำร้ายจิตใจของร่างสูงคนนี้เสียมากกว่า

                        ความเงียบเริ่มครอบคลุมและบีบคั้นให้หยดน้ำตาใสอุ่นไหลหลุดร่วงลงมาจากดวงตาใส  เรียวปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อจะเก้บกลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ให้คนอื่นนอกจากตัวเองได้ยิน  มือเรียวเข้าโอบกุมเอวบางอย่างรักใคร่

                        "...ผมพร้อมจะชดใช้ทุกความผิดพลาดที่ผมก่อ"  ริมฝีปากขยับเอื้อนเอ่ยอย่างเชื่องช้า

                        "แม้ว่าพี่จะไม่ให้อภัยผมก็ตาม... แต่ถ้ามันจะทำให้พี่รู้สึกสบายใจ..."  รอยยิ้มบางปรากฎขึ้นตรงมุมปากขัดกับดวงตาอันเศร้าสร้อยเจ็บปวด

                        "...ฉัน.. ฮึก... ไม่เชื่อหรอก..นะ..."  มือเรียวยกขึ้นปิดริมฝีปากสีหวานเมื่อมีเสียงสะอื้นหลุดรอดออกมาเบาๆ  มือเรียวกระชับกอดให้แน่นขึ้นอีกราวกับหัวใจที่ถูกบีบรัดด้วยคำพูดอยู่ในตอนนี้

                        "แค่เพียงพี่บอกผมมา  ไม่ว่าอะไรผมก็จะยอมทำทั้งนั้น... หรือแม้กระทั่ง... จะต้องให้ผมยืนอยู่บนโลกคนละใบกับพี่.. ผมก็ยินดี"  ในน้ำเสียงอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่จริงจังและหดหู่  กระแสแห่งความปวดร้าวถูกขับกล่อมออกมาพร้อมกับคำพูดของร่างสูง

                        "คิดจะปล่อยฉันไว้คนเดียวอีกแล้วเหรอ..."  คำถามอันสั่นแผ่วเอ่ยขึ้น  ร่างบางไม่คิดจะปิดกลั้นแรงสะอื้นเอาไว้อีกต่อไป  หยาดน้ำตาที่เป็นเหมือนอารมณ์ความรู้สึกซึ่งถูกเก็บกดเอาไว้ภายใจกำลังระบายไหลออกมาไม่ขาดสาย

                        ชางมินจับตัวร่างบางให้หันมาหาตน  พลางสบตามองด้วยแววตาอันไหวสั่น  ก่อนจะยกมือขึ้นปาดเช็ดให้กับคนตรงหน้า

                        "ถึงแม้ว่าพี่จะเหมาะกับน้ำตา... แต่ผมว่ารอยยิ้มน่ะเหมาะกับพี่ที่สุดนะ"

                        "..ฉันกลัว... อย่าทิ้งฉันไว้ให้อยู่ตามลำพังได้ไหม..."  บอกสารภาพสิ่งที่เก็บกลั้นไว้ในใจมาตลอดด้วยท่าทางอ่อนแออย่างที่ไม่ค่อยแสดงให้เห็นมาก่อน  ร่างสูงเผยยิ้มออกมาอย่างจริงใจพร้อมกับสวมกอดร่างบางให้อย่างอบอุ่น

                        "ครับ... ผมจะไม่ปล่อยให้พี่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว"

                        "จริงนะ.. ถ้าโกหกฉันจะไม่ให้อภัยเด็ดขาดเลยตลอดชีวิต..."  ดวงตาใสที่ยังรื้นน้ำตาช้อนขึ้นมองใบหน้าที่อยู่สูงกว่าระดับสายตาด้วยแววตาแสนซื่อ

                        "ครับ  ผมสัญญา"  รอยยิ้มหวานละมุนปรากฎเด่นชัดบนโครงหน้าเรียวคมได้รูป

                        "...ขอบคุณนะ.."  คำพูดและรอยยิ้มของร่างสูงทำให้น้ำตาที่เริ่มจะแห้งหายกลับมาคลอหน่วงอีกครั้ง  ไม่ใช่เพราะเสียใจแต่หากเป็นเพราะความดีใขที่เอ่อล้นอยู่ในขณะนี้

                        นิ้วเรียวเกลี่ยไล้น้ำใสออกจากขอบตาของคนตรงหน้า  พลางดวงตาคมจดจ้องกดลึกถึงภายในจิตใจของร่างบอบบาง  ทำเอาคนถูกจ้องรู้สึกสั่นไหวจนยากจะควบคุม  หัวใจเต้นรัวยากนักที่จะบังคับให้มันหยุดนิ่งลงได้

                        "ผมจะอยู่เคียงข้างพี่ตลอดไป... ผมสัญญา"  ร่างสูงเอ่ยคำอย่างจริงใจ  ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าคมลงต่ำเข้ามาทาบทับกับริมฝีปากอิ่มสวย

                        ยูชอนเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยตอบรับความสุขตรงหน้า  ก่อนจะถูกมือเรียวหนาเกี่ยวรั้งเอวบางให้แนบชิดติดตัวร่างสูงมากขึ้นอีก  ลมหายใจอุ่นรดริกันและกันสร้างความอบอุ่นภายในจิตใจของคนทั้งคู่  เปลือกตาบางพริ้มหลับรอรับสัมผัสอันอ่อนละมุนพร้อมกับมือบางที่ยกขึ้นคล้องคออกฝ่ายอย่างอัตโนมัติ

                        เรียวลิ้นเคลื่อนไล้อย่างคำนึงหา  ทั้งกวัดเกี่ยวควานหาสัมผัสอันแสนหวานที่ไม่ได้รับมานาน  สัมผัสอุ่นนุ่มจากปลายลิ้นของร่างสูง  ทำเอาร่างบางรู้สึกเหมือนกับกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงอากาศ

                        "อื๊อ..."  ร่างบางในอ้อมกอดเริ่มส่งเสียงครางประท้วง  เมื่อถูกช่วงชิงอากาศหายใจอยู่เป็นเวลานาน

                        "ฮ้า..."  ชางมินค่อยๆ ผละออกจากริมฝีปากสวยหวานอย่างอ้อยอิ่งด้วยความเสียดาย  ก่อนจะบรรจงพรมจูบลงไปตามซอกคอขาวเนียน    มือหนาเลื่อนไล้สัมผัสแผ่นหลังเนียนนุ่มภายใต้อาภรณ์ผืนบาง  ต้นคอขาวระหงส์ตอนนี้ถูกเติมเต็มไปด้วยรอยรักสีแดงเข้มจนเห็นเด่นชัด

                        ชางมินเลื่อนมือไล้กับแผงอกที่กระเพื่อมถี่เพราะความตื่นเต้น  แต่ก็ต้องหยุดชะงักมือลงเมื่อถูกคนตรงหน้าออกแรงดันอกตัวเองเบาๆ

                        "...พอแค่นี้เถอะนะ"  เอ่ยขอร้องด้วยเพราะความหวั่นกลัวที่ยังตราตรึงในความทรงจำ  ชางมินไม่พูดตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มบาง  ก่อนจะกดจมูกลงกับหน้าผากเนียนเป็นครั้งสุดท้าย

                        "ขอบคุณนะครับ  ที่ยอมยกโทษให้คนอย่างผม"

                        "อือ..."  ตอบรับเสียงเบาก่อนที่พวงแก้มใสสีชมพูระเรื่อจะเข้มขึ้นจนกลายเป็นลูกสีเบอรี่สด

                        "ตอนนี้ผมจะหิวแล้วสิ  ในครัวยังพอจะมีอะไรให้ผมกินหรือเปล่านะ"  ชางมินรีบเปลี่ยนท่าทีด้วยกลัวจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่

                        "เอ่อ... ลองออกไปดูก่อนก็แล้วกัน.. ถ้าไม่มีอะไรเลยเราออกไปกินเค๊กด้วยกันดีไหม"  ร่างบางก้มหน้าก้มตาเอ่ยชวนร่างสูงด้วยท่าทีเขินอาย

                        "ไปสิครับ"  ชางมินยิ้มกว้างพร้อมกับคว้ามือของอีกฝ่ายมาจับเอาไว้อย่างแนบแน่นราวกับไม่อยากจะปล่อยมือนี้ให้ต้องหลุดหายไปไหนอีก 











                        มือเรียวจับเปิดบานประตูออกอย่างเชื่องช้าด้วยกลัวว่าคนในห้องจะตื่นเอาเสียก่อน  ดวงตาคมจับจ้องไปที่คนบนเตียงด้วยแววตาอันอบอุ่น  ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งกับเตียงนุ่มก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปลูบไล้กับกลุ่มเรือนผมสีดำสลวยอย่างแผ่วเบา  ริมฝีปากเผยอยิ้มอย่างมีความสุขกับการได้สัมผัสคนตรงหน้า  แต่หารู้ไม่ว่าคนที่ถูกสัมผัสอันอ่อนโยนเช่นนี้กำลังรู้สึกร้อนวาบไปทั่วทั้งใบหน้า  รู้สึกได้ว่าใบหน้านวลขาวของตัวเองกำลังถูกเลือดสูบฉีดจนเป็นสีแดงซ่าน  แต่ดีที่ว่าร่างบางโปร่งได้นอนหันหลังให้กับชายหนุ่มอยู่  ไม่เช่นนั้นคนที่กำลังจดจ้องมายังตนอาจรู้ได้ว่าความจริงแล้วแค่แกล้งหลับเท่านั้น

                        "เมื่อไรนายจะรับเอาความรู้สึกของฉันไปสักทีล่ะยุนโฮ..."  เสียงนุ่มทุ้มกระซิบแผ่วเบา  แววตาที่ดูอบอุ่นกลับเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองลง

                        "ฉันรักแค่นายคนเดียวจริงๆ นะ"  แจจุงโน้มหน้าลงหมายจะจุมพิตกลับกลุ่มเส้นผม  แต่มือที่สัมผัสกับท่อนแขนเรียวรับรู้ได้ถึงแรงสั่นไหวจากตัวร่างบางโปร่ง  แจจุงจ้องมองไปยังหน้าสวยหวานก็พบกับหยดน้ำตาของอีกคน

                        "ยุนโฮ..."  เสียงเรียกอันเบาแผ่วพร้อมกับหัวใจที่กระตุกวูบเมื่อเห็นหยาดน้ำใสของคนตรงหน้า  มือเรียวเลื่อนไล้สัมผัสแก้มนุ่มเกลี่ยน้ำตาให้อีกคนอย่างอ่อนโยน  หมีน้อยพลิกตัวหันมาทางแจจุงพลางช้อนขึ้นตามองชายหนุ่มด้วยแววตาประกายใส

                        "..แจจุง..."  น้ำเสียงหวานนุ่มเรียกคนตรงหน้า  แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อเห็นรอยยิ้มบางบนใบหน้าเรียวคม  หมีน้อยหลุบสายตาลงแทบจะทันที  ดวงหน้าหวานทีเลือดฝาดเต็มทั้งสองข้างแก้ม

                        "..แจจุงรักฉันจริงๆ น่ะเหรอ...."  เอ่ยถามขึ้นอย่างลังเล  ในน้ำเสียงแฝงไว้ซึ่งความกลัวอยู่ไม่น้อย...กลัวกับคำตอบที่จะได้รับ...

                        "นอกจากนายแล้ว... นายเคยเห็นว่าฉันเป็นห่วงและแคร์ใครมากที่สุดอย่างนั้นเหรอ"  แจจุงถามกลับน้ำเสียงจริงจัง  จ้องมองคนที่นอนอยู่ไม่ละสายตา

                        "...ยูชอน...  นายเองก็ทั้งห่วงและแคร์เหมือนกันนี่"  ดวงตากลมโตไม่กล้าสบมองอีกฝ่ายตรงๆ

                        "กับยูชอนน่ะ.. มันก็แค่ความรู้สึกในฐานะเพื่อนเท่านั้นเองแหละ"  ชายหนุ่มปรายยิ้มบาง

                        "แต่สำหรับนายแล้วมันพิเศษมากกว่านั้น... ถ้าหากฉันเห็นนายมีสภาพอย่างยูชอน  ฉันคงเจ็บปวดเจียนตาย"  แล้วใบหน้าที่เคยประดับรอยยิ้มบางกลับดูนิ่งลง

                        "ฉันคงทนไม่ได้หรอกที่ต้องมาทนเห็นน้ำตาของคนที่ตัวเองรัก"  ทุกถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยทำให้คนฟังหัวใจพองโตจนลอยล่องออกไปไกลเสียแล้ว  ใบหน้าที่ขึ้นสีเด่นชัดอยู่แล้วกลับยิ่งเป็นสีแดงจัดอย่างปิดบังไม่อยู่

                        "เพราะฉะนั้นนายก็เลิกคิดมากได้แล้วรู้ไหม"  ริมฝีปากบางเคลื่อนลงทาบทับหน้าผากมนให้อย่างอ่อนโยน  ก่อนจะเคลื่อนย้ายลงมาที่กลีบปากหยักสวยพลางกดจูบลงอย่างแผ่วเบา  ลิ้นชื้นผลักแทรกเข้าไปในโพรงปากอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับควานหาความหวานชวนลิ้มลอง  มือเรียวเลื่อนไล้ต่ำลงสัมผัสกับต้นขาของร่างบางโปร่งอย่างลืมตัวพลางเลื่อนขึ้นข้างบนอย่างรวดเร็ว  จนดวงตากลมโตต้องเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ  ก่อนจะใช้มือบางผลักอกคนบนร่างออกให้พ้นตัว

                        "แจจุงบ้า! "  อารามตกใจหมีน้อยรีบวิ่งออกไปจากห้องทันที  โดยไม่สนใจคนที่มองดูอยู่  แจจุงเลียริมฝีปากตัวเองพลางเผยยิ้มกว้างอย่างถูกใจ

                        "น่ารักซะขนาดนี้จะไม่ให้ฉันรักนายได้ยังไงล่ะ... ให้ตายยังไงฉันก็ไม่ยอมยกนายให้ใครแน่นอน"  เอ่ยเปรยเสียงต่ำพลางหรี่ตามองไปทางประตูที่หมีน้อยเพิ่งจะออกไปพร้อมกับยกยิ้มไปด้วย

                        คนที่ออกมายืนอยู่หน้าประตูห้องได้แต่หอบหายใจเพราะความตื่นเต้นระคนเขินอาย  ใบหน้าร้อนผ่าวซับสีจนเต็มดวงหน้า  มือบางเลื่อนแตะสัมผัสใบหน้าตัวเองพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ บังคับให้หัวใจที่กำลังเต้นเป็นจังหวะรุมบ้าหยุดสงบลงเป็นปกติ  แต่ดูเหมือนจะยากเย็นเต็มที

                        "แจจุงคนบ้า! บ้าๆๆ.. บ้าที่สุดเลย..."  พูดพลางทำปากเชิดขึ้นเล็กน้อย  ก่อนจะเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มหวานแทน


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ---------------------------------------------------------
    -----------------------

                        เสียงโทรศัพท์มือถือของคนที่นอนหลับสนิทดังขึ้นอยู่ข้างเตียง  มือเรียวเริ่มควานหาวัตถุที่ส่งเสียงดังเรื่อยๆ ด้วยอาการงัวเงีย  เมื่อได้มาก็กดรับทั้งที่ยังหลับตาอยู่

                        "นั่นใครฮะ..."

                        (ยูชอนเพิ่งตื่นนอนเหรอ...)  เสียงตอบกลับที่ฟังแล้วรื่นหูกรอกมาตามคลื่นสัญญาณ  ทำเอาร่างโปร่งตื่นเต็มตา

                        "ฮะ... พี่อิรุมีอะไรเหรอฮะ..."  ยูชอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส

                        (ถ้าวันนี้พี่จะไปรับยูชอนมาถ่ายเอ็มวี..เอ่อ...ยูชอนมาได้ไหมครับ)

                        "ได้สิฮะ..."  ร่างบางอมยิ้มหวานในขณะที่พูด

                        (งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะ  ให้เวลาแต่งตัว 1 ชั่วโมงห้ามช้าล่ะ)

                        "ขอต่อเป็นชั่วโมงครึ่งได้เปล่าฮะ"  น้ำเสียงใสแกล้งเอ่ยต่อรองกับคู่สนทนาอย่างอารมณ์ดี

                        (ให้ 1 ชั่วโมง 15 นาทีพอ  ห้ามต่อแล้วด้วย)

                        "ให้เวลาแค่นั้นผมแต่งตัวยังไม่เสร็จหรอกฮะ"  ยูชอนหัวเราะคิกคักผ่านเข้าไปในสายสัญญาณด้วย

                        (ไม่รู้ล่ะ  ถ้าไปถึงแล้วยังไม่เสร็จพี่จะไปช่วยแต่งตัวให้แน่)  พอพูดจบสายของทางอิรุก็ตัดลงในทันที  ร่างบางมองดูตัวเครื่องพลางเผลอยิ้มพรายหวานออกมานิดๆ

                        "ใครโทรมาหาเหรอครับพี่ยูชอน..."  ชางมินเอ่ยถามหลังจากที่ถูกปลุกด้วยเสียงคุยโทรศัพท์ของยูชอน

                        "อ๋อ! พี่อิรุน่ะ.. เดี๋ยวเค้าจะมารับฉันไปถ่ายเอ็มวีด้วยล่ะ"  ร่างบางหันมาตอบคนที่นอนอยู่ข้างตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

                        รอยแย้มยิ้มของคนร่างบางทำเอาอีกคนหน้าถอดสีแทบจะทันที  ใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาโดยอัตโนมัติ  แต่ก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้

                        "พี่กับคุณอิรุยังไม่เลิกติดต่อกันอีกเหรอครับ"  น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถามออกไปตรงๆ   โดยหวังอยากให้อีกคนจะทำให้ตัวเองสบายใจ

                        "อือ.. แล้วทำไมต้องเลิกติดต่อกันด้วยล่ะไม่เห็นเข้าใจเลย"  ยูชอนถามพร้อมกับมองดูร่างสูงตาใส

                        "ก็เพราะ..."  ตั้งใจจะกล่าวว่าคนตรงหน้าเสียหน่อย  แต่เมื่อเห็นในท่าทีก็ต้องเงียบลง  และถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

                        "...ช่างเถอะครับ  แล้ววันนี้พี่กลับมืดหรือเปล่า"

                        "คงไม่หรอก... อีกอย่างตอนเย็นก็มีนัดด้วยนี่ ^ ^ "  ร่างบางบอกด้วยท่าทางมีความสุขอย่างมาก  แต่คนมองกลับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างแปลกใจ

                        "นัดอะไรเหรอครับ?"

                        "ก็นัดกินเค๊กกับชางมินไง... อย่าบอกนะว่าลืมแล้วน่ะ"  แก้มสีขาวใสเริ่มป่องขึ้นมาเล็กน้อย  ทั้งสายตาที่มองหน้าคู่สนทนายังมีแววงอนค้อนปรากฎให้เห็น

                        "อย่างงงอนสิครับ  ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ^ ^ "  คนบอกสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลัง

                        "ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเลย.. ที่จริงน่ะลืมไปแล้วใช่ไหมล่ะ"  คนถูกกอดทำหน้างอนนิดๆ

                        "เปล่าสักหน่อย.. อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ  เดี๋ยวผมก็อดใจไม่ไหวหรอก"  เอ่ยหยอกล้อเลียนคนในอ้อมกอดพร้อมกับยิ้มบาง

                        "งั้นเหรอ..."  คำพูดฟังดูเงียบนิ่งลงจนเกือบจะเรียกว่าเฉยชาเลยก็ได้

                        "เอ่อ.. พี่ยังโกรธผมอยู่อีกเหรอครับ"  จากล้อเล่นแปรเปลี่ยนเป็นหงอยลงทันทีเมื่อได้ฟังน้ำเสียงของคนรัก

                        "ฉันไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า..."  บอกเสร็จร่างบางลุกเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

                        "เฮ้อ... ปากนะปาก..."  ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่  นึกอยากจะตบปากตัวเองเสียจริงที่เผลอพูดเรื่องไม่สมควรสำหรับร่างบางออกมาเสียได้

                        ไม่นานนักร่างบางได้อยู่ในชุดที่พร้อมจะออกไปทำงานข้างนอก  และยืนแต่งผมอยู่หน้ากระจกบานใหญ่พลางฮัมเพลงเบาๆไปด้วย  มือขยับหวีเส้นผมสีนิลที่ยุ่งเล็กน้อยให้เข้าทรง  ร่างสูงมองดูท่าทีของยูชอนอย่างไม่เข้าใจนัก

                        "รู้สึกว่าพี่จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะครับ"

                        "หรืออยากจะให้อารมณ์เสียล่ะ"  ย้อนถามอีกฝ่ายในขณะที่ตรวจสภาพความเรียบร้อยของชุดที่ใส่และทรงผมหน้ากระจกเป็นครั้งสุดท้าย

                        "................."  ร่างสูงเงียบลงได้แต่มองดูในท่าทีแปลกๆ ของอีกฝ่าย

                        "โอเคแล้วล่ะมั้ง"  ยูชอนพึมพำพลางแลดูเงาตัวเองในกระจก

                        "...เดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าบ้านนะครับ"  ชางมินเผยยิ้มเล็กน้อย  เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่สดใสสักเท่าไร

                        "อืม"  ร่างบางตอบรับสั้นๆ ก่อนจะอมยิ้มหวานสดใส

                        "แล้วอย่าลืมเตรียมตัวสำหรับนัดตอนเย็นนะ"

                        "ครับ"  ชางมินตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มเช่นเดียวกัน

                        "ชางมิน..."  เอ่ยเรียกเสียงเบา  ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่อจางๆ

                        "หืม... ว่าไงครับ"  ร่างสูงถามกลับอย่างสงสัย

                        "เอ่อ... ระ.. รัก.. รักนะ"  สีแดงจางๆ เริ่มเข้มขึ้นและกระจายไปทั่วพวงแก้มอย่างรวดเร็ว  ร่างบางก้มหน้างุด

                        "ผมก็รักพี่ครับ"  ร่างสูงยิ้มกว้างพร้อมกับสวมกอดอีกคนอย่างมีความสุข

                        "รู้มานานแล้วล่ะ..."  ร่างบางซุกหน้าเข้าหาความอบอุ่นอ่อนโยนพร้อมทั้งยิ้มบาง

                        "ไปทำงานได้แล้วล่ะครับ  เดี๋ยวสาย"  ชางมินดึงตัวร่างบางออกมายอย่างเบามือ  ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบไหล่แทน  จากนั้นจึงพากันเดินออกไปจากห้อง



                        "แหม! พอดีกันแล้วทำอะไรไม่เกรงใจคนอื่นบ้างเลยเนอะ"  เสียงแหลมแซวมาจากตรงโซฟาหน้าโทรทัศน์  เมื่อเห็นชางมินโอบไหล่ยูชอนเดินออกมาจากห้อง

                        "ทำไมต้องเกรงใจด้วยล่ะ  หรือว่านายอิจฉา"  ชางมินถามกลับหน้าตาย  ส่วนยูชอนเริ่มหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย

                        "คนอุตส่าห์ช่วยให้คืนดีกัน  แทนที่จะขอบคุณกลับมาย้อนใส่ผู้มีพระคุณอีกเหรอ"  โลมาทำทีเป็นทวงหนี้บุญคุณด้วยท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย

                        "ขอบคุณนะครับคุณจุนซู  แล้วจะให้ผมตอบแทนคุณยังไงดีล่ะครับ"  ร่างสูงเอ่ยถามแกมประชด

                        "เลี้ยงเค๊ก..."  สั้นๆ ง่ายๆ ได้กินฟรีอย่างที่โลมาชื่นชอบ  ชางมินมองดูจุนซูอย่างชั่งใจ  ก่อนจะหันมามองหน้ายูชอนเพื่อขอคำปรึกษา

                        "ถ้างั้น.. เย็นนี้ให้จุนซูไปกับพวกเราได้ไหมครับ"

                        "ก็ได้นี่... คนเยอะๆ สนุกดีด้วย"  ร่างบางตอบรับด้วยรอยยิ้มหวาน

                        "คิดจะไปกันแค่นี้  ไม่ชวนคนอื่นด้วยเลยหรือไง"  เสียงจากแจจุงดังมาแต่ไกล  ก่อนเจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก

                        "เรื่องกินน่ะไวเลยนะเพ่! "  โลมาทำหน้ารู้ทันในความคิดของคนที่ตัวเองเรียกว่า 'เพ่'

                        "มันก็ไม่ต่างไปจากนายสักเท่าไรหรอกไอ้โลมา"  แจจุงบอกพลางยักคิ้ว

                        "แล้วยุนโฮล่ะแจ"  ยูชอนเอ่ยพร้อมกับมองหาหมีน้อย

                        "ยังหลับอยู่น่ะ  ไม่อยากปลุกเห็นกำลังหลับสบายเลย"

                        แต่แล้วท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าอันสดใสเสียงกริ่ง(อาถรรพ์... ดังเมื่อไรเรื่องต้องมี)  ก็ได้ดังขึ้นก้องตัวบ้านทันที  

                                                                 

    แถมท้ายด้วยหมีน้อย >///<   นับวันทำไมยิ่งน่ารักอย่างนี้น้า  เห็นแล้วจาลาลาย  *0*

    แบบว่าต้องขอโทษทุกคนด้วยเน้อที่ดองนานไปหน่อย (รสชาติกำลังได้ที่เลย)
    ยังไงก็ขอถ่ายโทษด้วยรูปตุ๊กต่ายกับหมีนะ
    และก็ฉากรักหวานๆ (หรือเปล่า?)

    เสียงออดอาถรรพ์ดังขึ้นอีกแล้ว  รับรองงานนี้มีเรื่องอีกแน่
    (มันดีหรือเปล่าฟะ -*- )

    ขอบคุณทุกคนนะที่ยังติดตามกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×