ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☆ อนาเทอร์เลีย..โรงเรียนมหาเวทย์ ☆

    ลำดับตอนที่ #9 : วันเปิดเทอม และภารกิจแรก

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 52


    ตอนที่ 8 วันเปิดเทอม และภารกิจแรก

     

    หอวารี ฝั่งหอพักหญิง เวลา 20.09 นาฬิกา

     

    เห! เธอรู้จักซาโอรุอยู่ก่อนแล้วหรอ?”เสียงใสของซิลเวียร์ถามเสียงหลง หลังจากที่อารินเล่าให้พวกเธอฟังถึงเรื่องบัดดี้ ซึ่งก็คือ คาสึกิ ซาโอรุ

     

    อารินเล่าว่าเธอและซาโอรุเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อ-แม่ของทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน บ้านอยู่ติดกัน และเกิดในวันใกล้ๆกัน ซาโอรุนั้นถึงแม้จะดูเจ้าสำอางไปบ้าง แต่ถึงเวลาที่ต้องเอาจริง เขาก็จะตั้งใจแบบสุดๆ(ประโยคอันนี้เอามาจากอาริน)

     

    สรุปว่า…”ซิลเวียร์ลากเสียงยาวอย่างกวนประสาท ซาโอรุเป็นเพื่อน สนิทสุดๆกับอารินอยู่ก่อนแล้วคนพูดเน้นคำว่า สนิทสุดๆ อย่างแฝงความนัย

     

    ส่วนบีราเคิลกับที.เค.เอ่อ..ไม่ต้องพูดถึงดีกว่า แหะๆซิลเวียร์หัวเราะแหะๆ อย่างรับรู้ถึงจิตอาฆาตที่เริ่มแผ่ขยาย อารินเสริมขึ้นบ้างว่า

     

    เอริเคทกับเอเลนคงไม่ต้องห่วงอะไร...แล้วเธอกับลาเวน..?” อารินหันไปทางซิลเวียร์

     

    “…ฉันยังไม่เคยได้ยินเสียงหมอนั่นพูดแม้แต่คำเดียว =_= *…สงสังจะเป็นญาติกับพิกุลทองมั้ง...ประมาณว่า พูดแล้วกลัวดอกพิกุลทองจะร่วงอ่ะนะ ฮะๆ ซิลเวียร์พูด เพื่อนที่นั่งฟังดูมีสีหน้าและความคิดแตกต่างกันไป

     

    - O - "   << อาริน    ..คราวหน้าทำเป็นไม่รู้จักยัยนี่ดีกว่าแฮะ

    = _ =*  << บีราเคิล     ..ป่านนี้ สงสัยหมอนั่นคงจะนั่งจามอยู่ล่ะม้าง~

                    ^ ^ "    << เอริเคท     เอ่อ..คุณซิลเวียร์คะ

     

    หอพักวารี ฝั่งหอพักชาย เวลา 20.11 นาฬิกา

     

                    ฮะ...ฮัดชิ้ว!!!จู่ๆบุรุษผมน้ำเงินก็จามขึ้นอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ

     

                    ..เอ..สงสัยวันนี้จะเมาแดดแฮะ จู่ๆก็จามเฉยเลยอ่ะ

     

                    หรือจะมีใครนินทา?..คงไม่หรอก..(.มั้ง) ! ~ .. -_-*‘’

     

    …………………………..

     

    โรงเรียนศาสตร์แห่งเวทย์ อนาเทอร์เลีย เวลา 7.23 น.

     

                    โรงเรียนอนาเทอร์เลียในวันนี้เป็นวันเปิดเทอม รุ่นน้องปี 1 ทั้งหลายดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษ...ในวันนี้นักเรียนทุกคนแต่งกายในชุดนักเรียน นั่นคือ เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินเข้มแบบมีปกและมีกระดุมสีทองที่สลักตราโรงเรียน  เนคไทที่ผูกจะแบ่งตามหอพักของนักเรียน ...หอวารีจะผูกสีฟ้าเข้ม ..หอพฤกษาผูกสีเขียว และหออัคคีผูกสีแดง  ..กระโปรงและกางเกงของทุกคนมีสีเทา

     

                    การเรียนที่นี่จะแบ่งเป็น 3 ปี... และในวันแรกของการเปิดเทอมสิ่งที่นักเรียนปี 1 ทุกคนต้องทำ คือ การรับภารกิจ ซึ่งเป็นธรรมเนียมประจำ...นั่นคือการปฏิงานบางอย่างให้สำเร็จคู่กับบัดดี้ของตน เพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีในเกิดในหมู่นักเรียน ...แต่ความจริงแล้วการที่เกิดภารกิจอย่างนี้ขึ้นก็เนื่องมาจากความรักสนุกของผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดอยากจะเห็นความ...วุ่นวายของนักเรียน...

     

                    ทางนี้ ซิลเวียร์!” เสียงเรียกจากบีราเคิลทำให้ซิลเวียร์หันไปมอง

     

                    ที่จริงก็เพราะบีราเคิลขอตัวออกมาสำรวจโรงเรียนก่อนและให้พวกซิลเวียร์ตามมาทีหลังโดยกำชับเพื่อนคนอื่นๆว่า ..ให้ออกมาโดยเร็วไม่งั้นจะสายนะ..และการมาสายในวันแรกของการเปิดเทอมน่ะมันแย่มากๆ.. และบทสวดอะไรอีกยาวเหยียดของคุณเธอที่ทำเอาเพื่อนๆเกือบจะยกมือขึ้นสวดตามเสียแล้ว...

     

                    ไปสำรวจอะไรมาบ้างล่ะคะเอริเคทถาม

     

                    ก็พวกห้องเรียน โรงอาหาร..แล้วก็..อ้อ!ห้องสมุด ใช่ๆ..มันวิเศษมากเลยนะ มีหนังสือมากมายทุกประเภทเลยล่ะเธอทำตาเป็นประกายอย่างถูกใจ..ในขณะที่ซิลเวียร์กับอารินทำท่าเหมือนโดนรัดคอ เอริเคทยิ้มอ่อนๆ

     

                    หวังว่าการเรียนวันแรกจะผ่านไปด้วยดีนะคะ

     

                    ด้วยดีงั้นหรอ..เฮอะ!ถ้าต้องมาคู่กับที.เค.เองบ้าง เธออาจไม่พูดแบบนี้ก็ได้นะเอริเคท -_- ”

                    อ่ะ..เอ่อ..คุณที.เค.ก็อาจจะมีข้อดีของเขานะคะเธอยิ้มแหยๆ

     

                    พูดได้ดีนี่..เจ้าหล่อนขึ้นเสียงสูง และเลิกคิ้วขึ้นแต่ใครจะไปดวงดีจับได้พ่อหนุ่มแสนสุภาพอย่างเธอกันล่ะจ้ะสาวน้อยบีราเคิลกล่าวล้อ ส่วนสาวน้อยที่ถูกล้อเริ่มหน้าแดงนิดๆ

     

                    สวัสดีตอนเช้าครับเสียงนุ่มฟังรื่นหูดังขึ้นทางด้านหลังกลุ่มสาวๆ

     

                    ..เสียงที่จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากเอเลน เลคอฟ ข้างๆตัวเขามีเพื่อนคนอื่นๆยืนอยู่

     

                    สวัสดีค่ะเอริเคทยิ้มสดใสรับ จนอารินกระแอมเบาๆเป็นเชิงว่า แหม...หวานไปแล้วนะ

     

                    เมื่อกี้ผมได้ยินประกาศให้นักเรียนปี 1ที่เป็นคู่บัดดี้กันไปที่ห้องโถงกลางแต่ละหอนะครับ

     

                    หรอคะ...งั้นก็พอดีเลยสิคะเนี่ย

     

                    งั้นพวกเราไปด้วยกันเลยไหมครับ

     

    …………………………

     

                    เอ..เขาจะให้เราทำอะไรกันเนี่ยซิลเวียร์บ่นหงุงหงิง เธอดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก เนื่องจากมีประกาศให้เด็กที่เป็นบัดดี้กันจับคู่พร้อมรอเรียกชื่อ ซึ่งซิลเวียร์และคู่หูแสนเงียบก็ถูกเรียกให้มานั่งอยู่ในห้องเล็กๆนี้ ที่มีเก้าอี้อยู่สองตัวพอดี ดังนั้นเธอจึงต้องนั่งลงอย่างเสียมิได้

     

                    “…..” ไม่มีเสียงตอบรับ

     

                    นี่ๆ

     

                    “…..” คราวนี้ลาเวนหันมามองเธอ...แล้ว

     

    ...นิ่ง

     

                    ถึงตอนนี้ ซิลเวียร์ก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

                    ...หรือฉันจะเป็นบัดดี้กับก้อนหินกันหว่า??...

     

                    เจ้าค่าเอ๊ย !~ ฟังทางนี้... เสียงห้าวๆดังมาจากลำโพงภายในห้อง ขอให้ทุกคนเดินเข้าไปในช่องมิติที่เราจะทำการสร้างให้ด่วน...

     

                    ที่กำแพงห้องเรียบเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นช่องบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายๆอุโมงค์มิติ  ซิลเวียร์กระพริบตาปริบอย่างงงๆ ก่อนจะเหลือบมองคนข้างตัวที่ยังคงนั่งหน้าตายเหมือนที่เคยเป็น แต่แล้วเสียงจากลำโพงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

                   

                    เร็วๆสิ รุ่นน้องทั้งหลายเดี๋ยวปั๊ดจะเดินไปลากเข้าช่องมิติเองซะเลยนิ ชักช้านักไอ้พวกนี้ รู้ไหมว่าชั้นต้องเสียสละเวลามานั่งเรียกพวกแกเนี่ยมัน........ฉอดๆๆ!!” เท่านั้นซิลเวียร์ก็ลุกขึ้นยืนและตรงดิ่งไปยังช่องมิติตรงหน้าโดยไม่ลืมที่จะลากลาเวนซึ่งทำท่าจะไม่ขยับไปไหนด้วย

     

                    เมื่อเข้าไปในนั้น ก็ปรากฏทางเดินยาวซึ่งทอดไปข้างหน้าเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมาย

     

                    นายน่ะ รีบมาเร็วๆสิลาเวนออกเดินมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ซิลเวียร์จึงเอื้อมมือบางไปดึงแขนบุรุษผู้หน้าตายมาอย่างรีบเร่ง

     

                    นานเท่าไหร่ที่เดินมาซิลเวียร์ไม่อาจทราบ แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีจากที่ดึงแขนเฉยๆกลับกลายเป็นว่าเธอและลาเวนกลับเดินจับมือกันมา(ตลอดทาง)เสียแล้ว

     

                    ...ไวเท่าความคิด เจ้าหล่อนก็ปล่อยมือออกโดยพลัน...ใบหน้าขึ้นสีเรื่อนิดๆ ทว่าความมืดในที่นั้นคงทำให้ไม่มีใครมองเห็น

     

                    เมื่อไหร่จะ..อ๊ะ!”พูดไม่ทันจบ ร่างบางก็ทรุดลง ทรมานราวกับมีบางอย่างจุกแน่นอยู่ในอกมือเรียวสองข้างเอื้อมมากุมคอเสื้อและจิกแน่นอย่างทรมาน..เหมือนพลังทั่วร่างถูกสูบออกไปจนหมด

     

                    เบื้องหน้า...ภาพที่เธอไม่อาจมองเห็น

     

                    ทางเดินซึ่งเป็นมิติที่ถูกสร้างเริ่มกลายเป็นภาพที่บิดเบี้ยวและเลือนราง...

     

    มิติกำลังสั่นคลอน!!

     

                    หากร่างกายของเจ้าหล่อนก็อ่อนเพลียเกินกว่าจะรับรู้...

     

    ..เกิดอะไรขึ้นนะ   เธอคิด หากความคิดก็หยุดลงพร้อมๆกับสติที่ดับวูบ

     

                    ...อะไรจะเกิดต่อไปก็คงมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้...

     

    ...หากแต่คนที่กำหนดชีวิตมนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า...แต่คือตัวมนุษย์เอง!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×