ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เพื่อนใหม่
                “เอ่อ  เธอนักเรียนใหม่ใช่ไหม”  เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาเปิดประตู
                “ครับ”  เขาตอบพลางมองเธอ  เขาคิดว่าเธอคงจะมีอายุประมาณ 40 กว่าแล้ว  ใส่แว่นด้วยทำให้ดูเป็นคนเคร่งขรึม
                “ทำไมมาสายล่ะ”  เธอว่า  สายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
                “คือผมเพิ่งจะลงทะเบียนน่ะครับ”
                “ดีจ้ะ  กรุณาแนะนำตัวด้วย”  เธอบอกพลางทำท่าให้ไปยืนที่หน้าห้อง
                “ผมชื่อเอก  วัชรพล  นามเทพ  ครับ”
                “เธอมาจากไหนจ๊ะ  ทำไมไม่มาเรียนตั้งแต่ต้นปี”
                “คือผมมาจากอีกโลกหนึ่งน่ะครับ  ผมข้ามมิติมา.....”
                “ฮ่าๆๆๆๆ”  เสียงจากนักเรียนในห้องหัวเราะเยาะเขา
                “เงียบก่อน”  เธอพูด
                “งั้นขอเชิญไปนั่งที่ได้แล้ว  เราจะได้เริ่มเรียนกัน”  เธอมองเขาแปลกๆ  แต่ก็ชี้ไปที่โต๊ะว่างตัวหนึ่ง  เขาเดินไปนั่งพลางหยิบคัมภีร์มาวางบนโต๊ะเหมือนกับคนอื่นๆ
                “สวัสดีจ้ะ  ฉันชื่อน้ำ  ยินดีที่ได้รู้จักนะ  ส่วนนี่ชื่อปุ๋ย”  น้ำบอก
                “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”  ปุ๋ยบอก
                “เช่นกันครับ”  เขาพูด
                “ส่วนผมชื่อต้น”
                “ผมชื่อแมค”
                “เอ้าๆ  พอแล้ว  ฉันจะเริ่มสอนแล้ว  กรุณาเงียบๆกันด้วยนักเรียน”  เธอว่าพลางมองมาที่เขา
                “วันนี้เราจะมาพูดกันถึงการควบคุมเวทมนตร์กันต่อนะ.....”  เธอสอนได้น่าเบื่อมากจนทุกคนแทบจะฟุบไปกับโต๊ะได้เลย  แต่เมื่อเธอกวาดสายตามองมาทุกคนก็จะนั่งตัวตรงทันที  สำหรับเขาซึ่งไม่เคยเรียนอะไรแบบนี้มาก่อนทำให้ตั้งใจฟังเป็นธรรมดา
                “.....เอาล่ะ  วันนี้พอแค่นี้  แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้า  วัชรพลอยู่พบฉันก่อน  เอ้า  เลิกเรียนได้”  ขณะที่นักเรียนต่างพากันออกไปจากห้อง  เธอได้เดินเข้ามาหาเขา
                “ฉันศาสตราจารย์วรารัตน์  เป็นศาสตราจารย์ประจำห้องของเธอปีนี้  เอ้านี่ตารางสอน  แล้วเรื่องอื่นๆเดี๋ยวก็เรียนรู้ไปแล้วกัน  ขยันหน่อยนะพยายามเรียนให้ทันเพื่อนด้วย  ไปได้”  เขารีบลุกออกมาจากห้องทันที  เพราะกลังเธอจะว่าอะไรเขา  ขณะกำลังปิดประตูห้อง  สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นน้ำ  ปุ๋ย  ต้น  และแมค  รออยู่
                “ไปเรียนต่อกันเถอะจ้ะ”  น้ำหันมาบอกเขา  แล้วยิ้มให้เขา  เธอเป็นคนหน้าตาน่ารักมากเหมือนปุ๋ย
                “นี่ๆ  นายมาจากโลกอื่นจริงๆหรอ  เหลือเชื่อเลยแฮะ”  ต้นว่า
                “แต่ฉันเคยได้ยินว่ามีคนที่ทะลุมิติมาได้เหมือนกันนะ”  ปุ๋ยว่า
                “เดี๋ยวเราต้องไปเรียนห้องไหนกันนะ”  แมคถาม
                “ห้อง 33708 ครับ  วิชา วรษ.  แล้วมันเป็นวิชาอะไรหรอครับ”  เขาบอก
                “งั้นพวกเราต้องรีบๆแล้วล่ะ  มันคือวิชาเวทมนตร์รักษาจ้ะ  เรียนเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ในการรักษาการบาดเจ็บต่างๆอ่ะจ้ะ  ฉันชอบเรียนวิชานี้มากที่สุดเลย”  น้ำบอก
                “แหม  ก็เธอเรียนวิชานี้เก่งนี่นา”  ต้นว่า
                “ที่โรงเรียนนี่เรียนอะไรกันบ้างครับ”  เขาเพิ่งรู้สึกว่าเขายังไม่รู้อะไรเลย
                “เรียนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอ่ะจ้ะ  จะมีวิชาที่เรียนเมื่อกี้คือวิชาการควบคุมการใช้เวทมนตร์ (คชว.)  ซึ่งวิชานี้บังคับให้เรียนเป็นคาบแรกของสัปดาห์ทุกชั้นและอาจารย์ประจำห้องจะเป็นผู้สอน  แล้วก็มีวิชาคาถาพื้นฐาน (คพฐ.)  วิชาการฝึกทักษะการใช้เวทมนตร์ (ทชว.)  วิชาประวัติศาสตร์ (ปวศ.)  วิชาการศึกษาอาวุธสมัยใหม่และสมัยโบราณ (อมบ.)  วิชาการผสมผสานระหว่างสิ่งใหม่และเก่า (ผมก.)  วิชาเวทมนตร์รักษา (วรษ.)  วิชาการศึกษาภาษาเวทมนตร์ (ศภว.)  อืม  ก็มีเท่านี้ล่ะจ้ะ  แล้วเดี๋ยวเรียนไปก็จะรู้เอง”  น้ำบอกให้ฟัง  แต่เขารู้สึกว่ามันเยอะมากจนจำไม่ค่อยได้
              “แหม  เธอลืมวิชาการเล่นแร่แปรธาตุ (รปธ.)ไปได้ไงเนี่ย”  แมคทำหน้าเคร่งเครียด  เมื่อเห็นหน้าแมค  ทุกคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน  เอกรู้สึกดีขึ้นที่ได้สนุกกับเพื่อนของเขา  เขารู้สึกว่าเพื่อนใหม่ยอมรับเขา  หลังจากที่ได้เรียนวิชาเวทมนตร์รักษาแล้ว  วิชาแต่ละวิชาน่าสนใจมาก  เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโรงเรียนแบบนี้
              “เฮ้  เอกจะทานไร  เดี๋ยวฉันไปเอามาให้”  ต้นถาม
              “ไม่เป็นไร  ฉันขอไปดูด้วยดีกว่าว่ามีอะไรมั่ง”  เอกตอบ
              “อืม  ก็ได้” 
              “นี่เอกมาทางนี้สิ  ร้านนี้อร่อยนะจะบอกให้”  น้ำแนะนำ  พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะไปต่อแถวร้านนั้น
              “เจอกันอีกแล้วนะจ๊ะเอก”  เสียงของนาพูดขึ้น  เธอต่อแถวอยู่หน้าพวกเขา
              “ครับ  ผมนึกว่าจะไม่เจอกันแล้วซะอีก  นี่เพื่อนของผมครับ  น้ำ  ปุ๋ย  ต้น  แมค  แล้วนี่ นา ครับ”
              “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”  นาพูด
              “เช่นกันค่ะ/ครับ”  น้ำ  ปุ๋ย  ต้น  แมค  ตอบพร้อมกัน
              “คุณนาเป็นลูกศาสตราจารย์ดนัยรึเปล่าคะ”  ปุ๋ยถาม
              “ใช่ค่ะ  รู้ได้ไงคะ”  นาตอบ
              “ก็เห็นตอนนั้นพูดคุยกับเหมือนพ่อลูกเลย”  ปุ๋ยบอก
              “เดี๋ยวคุณนาไปกินที่โต๊ะเดียวกับพวกเรานะครับ  จะได้คุยอะไรกันได้ถนัด”  ต้นชวน
              ขณะที่พวกเขารับประทานอาหารกันอยู่  เอกก็ได้เล่าเรื่องที่เขามาที่นี่ให้เพื่อนฟัง
              “จริงหรอครับ  คุณนาช่วยเอกไว้หรอครับ”  ต้นถาม
              “ค่ะ”  นาตอบ
              “แหม  เก่งจังเลยค่ะ”  น้ำชื่นชม
              “คุณพ่อก็ช่วยด้วยค่ะ”  นาเขินจนหน้าแดง
              “เย็นนี้ใครจะไปเล่นเกมบ้างครับ”  แมคถาม
              “ก็ไปกันให้หมดนี่แหละค่ะ  ครบทีมพอดีเลย 6 คน”  ปุ๋ยว่าหลังจากที่นับจำนวนคนแล้ว
              “งั้นเราไปเจอกันที่ตึกเกมเลยแล้วกันนะคะ”  น้ำนัดแนะบอกนา  แล้วพวกเขาก็คุยกันต่อเรื่องเกมอย่างสนุกสนาน  เอกเห็นความเป็นกันเองในหมู่เพื่อนก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขโดยลืมเรื่องอื่นๆได้หมดสิ้น  พวกเขายอกล้อกันก่อนจะแยกไปเรียนวิชาของตน 
                                                                        ********************
//ขอโทษทุกๆคนที่หายไปนาน 
ขอบคุณทุกคำติชมนะคะ
ข้าพเจ้าขอน้อมรับไว้และจะนำไปแก้ไขในเรื่องที่จะเขียนต่อไป
ที่หายไปนานเพราะย่ากลับจากรพ.แล้ว  ต้องดูแลเพราะอัมพาตซีกซ้าย  แล้วก็เป็นแผลกดทับ
แล้วที่รพ.ตาก็เป็นอัมพาตช่วงล่างมานานแล้วแต่ดันมาเป็นแผลกดทับที่ลึกซะด้วย  เพราะตาไม่รู้สึก
ตอนนี้ต้องวิ่งเข้าวิ่งออกรพ.กับแม่อยู่ตลอด  เราว่าเราเหนื่อยแล้วแต่แม่นี่สิเหนื่อนอีก10เท่าแน่เลย
แม่ต้องเข้าเวรด้วยแล้วก้ต้องเช็ดตัวและทำแผลทั้งย่าและตา  เพราะป้าต้องดูแลยายที่เป็นอัมพาตอยู่ที่บ้านอีก
เราไม่รู้นะว่าพวกคุณจะคิดยังไงกับครอบครัวเรา  คุณอาจจะไม่เชื่อก็ตามใจ  เราก็ไม่ได้หวังให้ใครมาเห็นใจหรอก
อืม...แล้วเราจะมาเล่าทำไมเนี่ย  พอดีตอนนี้เครียดมากเลย  เพิ่งกลับจากกรุงเทพก็เลยรีบเอามาลงต่อ
สำหรับบางเรื่องอาจจะยังไม่ได้เข้าไปอ่านในวันนี้ก็ขอโทษด้วยนะคะ
จะเปิดเทอมแล้วขยันกันด้วยนะ  บายค่ะ//
                “ครับ”  เขาตอบพลางมองเธอ  เขาคิดว่าเธอคงจะมีอายุประมาณ 40 กว่าแล้ว  ใส่แว่นด้วยทำให้ดูเป็นคนเคร่งขรึม
                “ทำไมมาสายล่ะ”  เธอว่า  สายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
                “คือผมเพิ่งจะลงทะเบียนน่ะครับ”
                “ดีจ้ะ  กรุณาแนะนำตัวด้วย”  เธอบอกพลางทำท่าให้ไปยืนที่หน้าห้อง
                “ผมชื่อเอก  วัชรพล  นามเทพ  ครับ”
                “เธอมาจากไหนจ๊ะ  ทำไมไม่มาเรียนตั้งแต่ต้นปี”
                “คือผมมาจากอีกโลกหนึ่งน่ะครับ  ผมข้ามมิติมา.....”
                “ฮ่าๆๆๆๆ”  เสียงจากนักเรียนในห้องหัวเราะเยาะเขา
                “เงียบก่อน”  เธอพูด
                “งั้นขอเชิญไปนั่งที่ได้แล้ว  เราจะได้เริ่มเรียนกัน”  เธอมองเขาแปลกๆ  แต่ก็ชี้ไปที่โต๊ะว่างตัวหนึ่ง  เขาเดินไปนั่งพลางหยิบคัมภีร์มาวางบนโต๊ะเหมือนกับคนอื่นๆ
                “สวัสดีจ้ะ  ฉันชื่อน้ำ  ยินดีที่ได้รู้จักนะ  ส่วนนี่ชื่อปุ๋ย”  น้ำบอก
                “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”  ปุ๋ยบอก
                “เช่นกันครับ”  เขาพูด
                “ส่วนผมชื่อต้น”
                “ผมชื่อแมค”
                “เอ้าๆ  พอแล้ว  ฉันจะเริ่มสอนแล้ว  กรุณาเงียบๆกันด้วยนักเรียน”  เธอว่าพลางมองมาที่เขา
                “วันนี้เราจะมาพูดกันถึงการควบคุมเวทมนตร์กันต่อนะ.....”  เธอสอนได้น่าเบื่อมากจนทุกคนแทบจะฟุบไปกับโต๊ะได้เลย  แต่เมื่อเธอกวาดสายตามองมาทุกคนก็จะนั่งตัวตรงทันที  สำหรับเขาซึ่งไม่เคยเรียนอะไรแบบนี้มาก่อนทำให้ตั้งใจฟังเป็นธรรมดา
                “.....เอาล่ะ  วันนี้พอแค่นี้  แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้า  วัชรพลอยู่พบฉันก่อน  เอ้า  เลิกเรียนได้”  ขณะที่นักเรียนต่างพากันออกไปจากห้อง  เธอได้เดินเข้ามาหาเขา
                “ฉันศาสตราจารย์วรารัตน์  เป็นศาสตราจารย์ประจำห้องของเธอปีนี้  เอ้านี่ตารางสอน  แล้วเรื่องอื่นๆเดี๋ยวก็เรียนรู้ไปแล้วกัน  ขยันหน่อยนะพยายามเรียนให้ทันเพื่อนด้วย  ไปได้”  เขารีบลุกออกมาจากห้องทันที  เพราะกลังเธอจะว่าอะไรเขา  ขณะกำลังปิดประตูห้อง  สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นน้ำ  ปุ๋ย  ต้น  และแมค  รออยู่
                “ไปเรียนต่อกันเถอะจ้ะ”  น้ำหันมาบอกเขา  แล้วยิ้มให้เขา  เธอเป็นคนหน้าตาน่ารักมากเหมือนปุ๋ย
                “นี่ๆ  นายมาจากโลกอื่นจริงๆหรอ  เหลือเชื่อเลยแฮะ”  ต้นว่า
                “แต่ฉันเคยได้ยินว่ามีคนที่ทะลุมิติมาได้เหมือนกันนะ”  ปุ๋ยว่า
                “เดี๋ยวเราต้องไปเรียนห้องไหนกันนะ”  แมคถาม
                “ห้อง 33708 ครับ  วิชา วรษ.  แล้วมันเป็นวิชาอะไรหรอครับ”  เขาบอก
                “งั้นพวกเราต้องรีบๆแล้วล่ะ  มันคือวิชาเวทมนตร์รักษาจ้ะ  เรียนเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ในการรักษาการบาดเจ็บต่างๆอ่ะจ้ะ  ฉันชอบเรียนวิชานี้มากที่สุดเลย”  น้ำบอก
                “แหม  ก็เธอเรียนวิชานี้เก่งนี่นา”  ต้นว่า
                “ที่โรงเรียนนี่เรียนอะไรกันบ้างครับ”  เขาเพิ่งรู้สึกว่าเขายังไม่รู้อะไรเลย
                “เรียนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอ่ะจ้ะ  จะมีวิชาที่เรียนเมื่อกี้คือวิชาการควบคุมการใช้เวทมนตร์ (คชว.)  ซึ่งวิชานี้บังคับให้เรียนเป็นคาบแรกของสัปดาห์ทุกชั้นและอาจารย์ประจำห้องจะเป็นผู้สอน  แล้วก็มีวิชาคาถาพื้นฐาน (คพฐ.)  วิชาการฝึกทักษะการใช้เวทมนตร์ (ทชว.)  วิชาประวัติศาสตร์ (ปวศ.)  วิชาการศึกษาอาวุธสมัยใหม่และสมัยโบราณ (อมบ.)  วิชาการผสมผสานระหว่างสิ่งใหม่และเก่า (ผมก.)  วิชาเวทมนตร์รักษา (วรษ.)  วิชาการศึกษาภาษาเวทมนตร์ (ศภว.)  อืม  ก็มีเท่านี้ล่ะจ้ะ  แล้วเดี๋ยวเรียนไปก็จะรู้เอง”  น้ำบอกให้ฟัง  แต่เขารู้สึกว่ามันเยอะมากจนจำไม่ค่อยได้
              “แหม  เธอลืมวิชาการเล่นแร่แปรธาตุ (รปธ.)ไปได้ไงเนี่ย”  แมคทำหน้าเคร่งเครียด  เมื่อเห็นหน้าแมค  ทุกคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน  เอกรู้สึกดีขึ้นที่ได้สนุกกับเพื่อนของเขา  เขารู้สึกว่าเพื่อนใหม่ยอมรับเขา  หลังจากที่ได้เรียนวิชาเวทมนตร์รักษาแล้ว  วิชาแต่ละวิชาน่าสนใจมาก  เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโรงเรียนแบบนี้
              “เฮ้  เอกจะทานไร  เดี๋ยวฉันไปเอามาให้”  ต้นถาม
              “ไม่เป็นไร  ฉันขอไปดูด้วยดีกว่าว่ามีอะไรมั่ง”  เอกตอบ
              “อืม  ก็ได้” 
              “นี่เอกมาทางนี้สิ  ร้านนี้อร่อยนะจะบอกให้”  น้ำแนะนำ  พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะไปต่อแถวร้านนั้น
              “เจอกันอีกแล้วนะจ๊ะเอก”  เสียงของนาพูดขึ้น  เธอต่อแถวอยู่หน้าพวกเขา
              “ครับ  ผมนึกว่าจะไม่เจอกันแล้วซะอีก  นี่เพื่อนของผมครับ  น้ำ  ปุ๋ย  ต้น  แมค  แล้วนี่ นา ครับ”
              “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”  นาพูด
              “เช่นกันค่ะ/ครับ”  น้ำ  ปุ๋ย  ต้น  แมค  ตอบพร้อมกัน
              “คุณนาเป็นลูกศาสตราจารย์ดนัยรึเปล่าคะ”  ปุ๋ยถาม
              “ใช่ค่ะ  รู้ได้ไงคะ”  นาตอบ
              “ก็เห็นตอนนั้นพูดคุยกับเหมือนพ่อลูกเลย”  ปุ๋ยบอก
              “เดี๋ยวคุณนาไปกินที่โต๊ะเดียวกับพวกเรานะครับ  จะได้คุยอะไรกันได้ถนัด”  ต้นชวน
              ขณะที่พวกเขารับประทานอาหารกันอยู่  เอกก็ได้เล่าเรื่องที่เขามาที่นี่ให้เพื่อนฟัง
              “จริงหรอครับ  คุณนาช่วยเอกไว้หรอครับ”  ต้นถาม
              “ค่ะ”  นาตอบ
              “แหม  เก่งจังเลยค่ะ”  น้ำชื่นชม
              “คุณพ่อก็ช่วยด้วยค่ะ”  นาเขินจนหน้าแดง
              “เย็นนี้ใครจะไปเล่นเกมบ้างครับ”  แมคถาม
              “ก็ไปกันให้หมดนี่แหละค่ะ  ครบทีมพอดีเลย 6 คน”  ปุ๋ยว่าหลังจากที่นับจำนวนคนแล้ว
              “งั้นเราไปเจอกันที่ตึกเกมเลยแล้วกันนะคะ”  น้ำนัดแนะบอกนา  แล้วพวกเขาก็คุยกันต่อเรื่องเกมอย่างสนุกสนาน  เอกเห็นความเป็นกันเองในหมู่เพื่อนก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขโดยลืมเรื่องอื่นๆได้หมดสิ้น  พวกเขายอกล้อกันก่อนจะแยกไปเรียนวิชาของตน 
                                                                        ********************
//ขอโทษทุกๆคนที่หายไปนาน 
ขอบคุณทุกคำติชมนะคะ
ข้าพเจ้าขอน้อมรับไว้และจะนำไปแก้ไขในเรื่องที่จะเขียนต่อไป
ที่หายไปนานเพราะย่ากลับจากรพ.แล้ว  ต้องดูแลเพราะอัมพาตซีกซ้าย  แล้วก็เป็นแผลกดทับ
แล้วที่รพ.ตาก็เป็นอัมพาตช่วงล่างมานานแล้วแต่ดันมาเป็นแผลกดทับที่ลึกซะด้วย  เพราะตาไม่รู้สึก
ตอนนี้ต้องวิ่งเข้าวิ่งออกรพ.กับแม่อยู่ตลอด  เราว่าเราเหนื่อยแล้วแต่แม่นี่สิเหนื่อนอีก10เท่าแน่เลย
แม่ต้องเข้าเวรด้วยแล้วก้ต้องเช็ดตัวและทำแผลทั้งย่าและตา  เพราะป้าต้องดูแลยายที่เป็นอัมพาตอยู่ที่บ้านอีก
เราไม่รู้นะว่าพวกคุณจะคิดยังไงกับครอบครัวเรา  คุณอาจจะไม่เชื่อก็ตามใจ  เราก็ไม่ได้หวังให้ใครมาเห็นใจหรอก
อืม...แล้วเราจะมาเล่าทำไมเนี่ย  พอดีตอนนี้เครียดมากเลย  เพิ่งกลับจากกรุงเทพก็เลยรีบเอามาลงต่อ
สำหรับบางเรื่องอาจจะยังไม่ได้เข้าไปอ่านในวันนี้ก็ขอโทษด้วยนะคะ
จะเปิดเทอมแล้วขยันกันด้วยนะ  บายค่ะ//
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น