ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Memory in my dream (เมโมรีอินมายดรีม)

    ลำดับตอนที่ #5 : ...บิน...

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 48


                    เช้าวันรุ่งขึ้น..............



                    “เอกจ๊ะ  ตื่นยัง  วันนี้ฉันจะเข้าไปในตัวเมืองนะ  เธอจะไปกับฉันไหม”



                    “ไปก็ได้ครับ  ถึงยังไงผมก็ไม่มีอะไรทำ”  ที่จริงเขาไม่อยากบอกเธอต่างหากว่าที่จริงเขาอยากอยู่กับเธอมากกว่า



                    “รีบๆหน่อยแล้วกันนะ  เสื้อผ้าต่างๆอยู่ในตู้อ่ะจ้ะ  เมื่อคืนฉันได้บอกเธอแล้ว”



                    “ผมเสร็จแล้วครับ”  เขาพูดพลางเปิดประตูออกมา



                    “งั้นไปทานข้าวก่อนนะ  แล้วค่อยไปกัน”



                    “เราจะไปกันยังไงครับ”  เขาพูดขณะที่นั่งกินข้าวกันอยู่พลางคิดว่าตั้งแต่มาที่นี่เขายังไม่เห็นรถสักคันเลย



                    “ก็ไปโดยใช้เวทมนตร์ไง”  เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเอก  เธอก็รีบพูดต่อ



                    “ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจะเป็นคนสอนให้เอง  เธออิ่มหรือยังล่ะจ๊ะ”



                    “อิ่มแล้วครับ”  แล้วเธอก็เดินไปหยิบอะไรสักอย่างที่ห้องของเธอ  เมื่อถือออกมาเขาก็เห็นว่าเป็นหนังสือเล่มขนาดประมาณฝ่ามือ



                    “นี่จ้ะ”  แล้วเธอก็ยื่นหนังสือเล่มนั้นมาให้



                    “นี่คืออะไรครับ”  เขาถามพลางรับมาดู



                    “นี่คือคัมภีร์สำหรับผู้ศึกษาเวทย์เล่ม1  ที่จริงนักเรียนปี1 ทุกคนต้องมีติดเอาไว้แต่เดี๋ยววันจันทร์เธอก็คงจะได้”



                    “ถึงผมได้ก็คงจะใช้ไม่เป็นอยู่ดี”



                    “ไม่มีอะไรมากหรอกจ้ะ  ก็ฉันกำลังจะสอนให้เธออยู่นี่ไง  อย่างแรกเมื่อเธอได้มันแล้วก็คือเปิดมัน  เจ้าของเท่านั้นนะจ๊ะที่จะเปิดได้  เพราะหลังจากที่ลงทะเบียนเรียนแล้วเลขทะเบียนจะถูกลงอยู่ในนี้และมันได้ลงเวทมนตร์ไว้ให้คนที่มีเลขทะเบียนเหมือนมันเท่านั้นที่จะเปิดได้”  เธอว่าพลางเปิดให้เขา



                    “หลังจากนั้นเธอต้องการจะรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์เรื่องอะไรก็บอกไปจ้ะ  เช่น  การเดินทาง”  แล้วคัมภีร์ก็มีตัวหนังสือปรากฏมากมาย



                    “นี่เป็นวิธีการเดินทางว่ามีวิธีอย่างไรบ้าง  อย่างที่เห็นนี่จะมี  การหายตัว  การบิน  และการเคลื่อนที่ด้วยเวทมนตร์  ส่วนตัวหนังสือข้างหลังนี่  ก็จะเป็นการแนะนำแต่ละวิธีว่ามีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง  เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะใช้วิธีไหนก็บอกไป  การบิน”  แล้วหน้ากระดาษก็เปลี่ยนไปอีก  แล้วเอกก็เห็นตัวอักษรอย่างหนึ่งซึ่งเขาไม่เคยเห็นรวมอยู่ด้วย



                    “เอ่อ  คุณนาครับ”



                    “อะไรหรอจ๊ะ”



                    “คือตัวอักษรนี่ผมไม่เคยเห็น  แล้วผมจะอ่านออกได้ไงครับเนี่ย”



                    “ไม่เป็นไรจ้ะ  ตอนนี้ฉันจะอ่านให้ฟังไปก่อน  เมื่อเธอได้เข้าเรียนแล้วก็จะอ่านออกเองแหละจ้ะ”  เธอให้กำลังใจเขา



                    “พร้อมจะบินหรือยังจ๊ะ”



                    “พร้อมแล้วครับ”



                    “งั้นพูดตามฉันนะ  โอ้  เทพธิดาแห่งสวรรค์...”



                    “โอ้  เทพธิดาแห่งสวรรค์...”  เขาพูดตาม



                    “ขอจงมอบปีกให้กับข้า…”



                    “ขอจงมอบปีกให้กับข้า...”  



                    “ผู้แสวงหาการบิน...”



                    “ผู้แสวงหาการบิน...”



                    “วิงส-ฟรอ-สกาย-ไฮ”  



                    “วิงส-ฟรอ-สกาย-ไฮ”



                    เมื่อสิ้นเสียง  เขารู้สึกคันๆที่ข้างหลังอย่างไรชอบกล  เมื่อเขาหันไปมองนา  เขาก็เห็นปีกสีขาวโผล่ออกมาที่ข้างหลังทั้งสองข้างของเธอ  และเมื่อเขาหันไปมองตัวเองก็พบปีกสีขาวเช่นเดียวกัน  



                    “ลองขยับปีกดูสิจ๊ะ”  เธอว่าพลางทำให้ดู  เขาลองใช้กล้ามเนื้อข้างหลังขยับ  แต่ปีกของเขากระพือตั้งแต่เขาส่งความรู้สึกไปที่ข้างหลังแล้ว



                    “ไปกันเถอะจ้ะ”  เธอว่าพลางเปิดประตู”



                    “เออ  แล้วคัมภีร์นี่ละครับ”



                    “อ๋อ  ฉันพอจะจำมนตร์ที่สำคัญบางอันได้แล้ว  แต่เธอจะเอาไปด้วยก็ได้เผื่อเธอต้องการอยากรู้อะไรอีก”



                    “ให้ผมเอาไปเองหรอครับ”



                    “ใช่  เดี่ยวฉันจะเปิดให้เอง  เรารีบไปกันเถอะ”  เธอว่าพลางบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเอกจึงบินขึ้นไปบ้าง  มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อกี้มากนัก  เป็นความรู้สึกที่สดชื่น  เป็นอิสระ  เขามีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  ก็แน่ละสิ  ใครจะบินได้บ้างในโลกที่เขาจากมาล่ะ  เขาคิด



                    “คุณนาครับผมเห็นในคัมภีร์มันยังมีวิธีอื่นอีกนี่ครับ  ทำไมไม่เลือกใช้วิธีอื่นล่ะครับ”  เขาถาม  แต่ในใจเขาคิดว่าถ้าเป็นเขา  เขาก็คงจะเลือกวิธีนี้เช่นกัน



                    “เออ  คือฉันใช้วิธีนี้ได้อย่างเดียวอ่ะ  เพราะฉันก็เพิ่งจะเริ่มเรียนเหมือนกัน  แล้วอีกอย่างนะวิธีอื่นต้องมีคนสอนด้วย  เพราะว่ามันมีความผิดพลาดสูง  ฉันคงจะทำเองไม่ได้  แต่วิธีนี้ฉันชอบที่สุดแล้วล่ะ”



                    “แล้วผมจะเรียนทันคนอื่นไหมเนี่ยครับ”



                    “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ  โรงเรียนเพิ่งเปิดได้แค่ 2 สัปดาห์เอง  แล้วเราก็อยู่กันแค่ปี 1  ช่วงแรกเลยเป็นแค่การแนะนำก่อน  ยังไม่ได้เรียนอะไรมาก”



                    “แล้วผมไม่มีเงินเลยแล้วจะเรียนที่นี่ได้หรอครับ  เสื้อผ้าก็ไม่มี”  เขาใจหายวูบเมื่อนึกถึงเรื่องนี้



                    “ที่นี่เรียนฟรีจ้ะ  เสื้อผ้าต่างๆ  รวมทั้งเครื่องแบบนักเรียนจะมีให้ทุกคน  ไม่ต้องห่วง  แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เธอก็ต้องไปพักที่หอพักนักเรียนชายแล้ว  ปกตินักเรียนทุกคนจะกลับบ้านได้สัปดาห์ละ 2 ครั้งในวันเสาร์-อาทิตย์  เป็นโรงเรียน ประจำเลยอ่ะนะ  ฉันก็ต้องกลับไปพักที่หอเหมือนกัน  ที่หอจะมีอาหารและเสื้อผ้าให้กับนักเรียนทุกคน  เธอจึงไม่ต้องใช้เงิน  ยกเว้นแต่ของฟุ่มเฟือยต่างๆที่ต้องซื้อหาเอง  แล้วเงินนี่ก็จะหาได้จากงานต่างๆ  ซึ่งสามารถเลือกทำได้ทั้งเสาร์-อาทิตย์  จะมีมาเสนอให้ตลอดล่ะจ้ะ  รวมทั้งกิจกรรมในโรงเรียนและเกมที่เล่น  ก็จะได้เงินเหมือนกันนะถ้าทำได้ตามที่กำหนด”  เธอพูดรวดเดียวจบ



                    “ผมไม่มีบ้าน  ผมขออยู่ที่โรงเรียนเลยได้เปล่าครับ”



                    “ก็บ้านฉันไงล่ะจ๊ะ   เธอก็กลับมาพร้อมกับฉันเลยสิจ๊ะ  แต่ถ้าจะอยู่ที่โรงเรียนก็ได้เพราะเขาไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องกลับ  บางคนก็กลับเดือนละครั้งก็มี  บางคนก็ปีหนึ่งเลยถึงจะกลับที  เพราะบางคนอยู่ทำงานในวันหยุดตลอด  อย่างเด็กผู้ชายนี่ส่วนมากก็จะติดเกม  ก็จะทำงานเพื่อจะเอาไปซื้ออุปกรณ์ตกแต่งเกม  เนื่องจากเงินที่ได้จากเกมมันก็ไม่ค่อยมาก  ส่วนเด็กผู้หญิงก็จะเอาไปซื้อของใช้ต่างๆ  นี่ฉันได้ยินมาจากคุณพ่ออ่ะจ้ะ”  เธอบอก



                    “ที่นี่มีเกมด้วยหรอครับ”  เขาคิดว่าที่อย่างนี้ไม่น่าจะมีเทคโนโลยีอะไรอย่างเช่นเกมเลย



                    “มีจ้ะ  เกมพวกนี้เป็นเกมที่เอามาจากโลกที่เธออยู่น่ะ  เป็นเทคโนโลยีเพียงไม่กี่อย่างหรอก  ส่วนมากนักเรียนจะไปเล่นกันตอนเย็น  ไปกันแทบทั้งโรงเรียนเลยอ่ะจ้ะ  เพราะว่าอยู่ติดกับหอพักหรือไม่ก็ไปเล่นเพราะไม่มีอะไรทำ  แล้วก็มีเรื่องอื่นๆอีกเธอก็ค่อยๆเรียนรู้กันไปแล้วกัน  ตอนนี้ถึงเมืองแล้ว  เดี๋ยวเราจะบินลงไปข้างล่างกันนะจ๊ะ”  



                    เขามัวแต่ฟังนาพูดจนเพลิน  เลยไม่ได้มองอย่างอื่นที่บนท้องฟ้ามีคนที่บินเหมือนเขากันมากมาย  มีบางคนก็กำลังบินลงไป  บางคนก็หิ้วอะไรเยอะแยะมากมายขึ้นมาแล้วก็บินจากไป  ที่นี่ต่างไปจากธรรมชาติบ้านนา  ที่นี่ส่วนใหญ่จะมีแต่ตึกกับบ้าน  มีร้านขายของมากมาย  เขาเห็นคนเดินอยู่ข้างล่างเพียบเลยเหมือนกับเป็นตลาดนัดอะไรสักอย่าง



                    “ลงไปกันเถอะจ้ะ”  เธอว่าบอกบินลงไปข้างล่าง  เขาจึงบินตามเธอลงไป





                                                                            ********************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×