ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] LES VACANCES. #BNIOR #JACKJAE #YUGMARK #MARKBAM

    ลำดับตอนที่ #12 : 1 1 | Pourquoi ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 859
      5
      31 ธ.ค. 58






    EP 11 | Pourquoi ?

     

    หลังจากที่แจบอมจัดการส่งแจ็คสันเข้าไปในห้องของยองแจด้วยฝ่าเท้าแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินตรงไปที่ซิงค์ล้างจานเพื่อทำงานตามที่ตัวเองรับปากกับคนอื่นๆไว้ แต่ยังไม่ทันที่จะไปยืนตรงหน้าอ่างล้างจาน ก็พบว่ามีใครบางคนยืนล้างจานอยู่ก่อนแล้ว และแจบอมก็มั่นใจว่าเขาจำคนๆนั้นได้ดี

     

    ฉันว่าฉันพูดไปแล้วนะ ว่าฉันจะเป็นคนล้างจานแจบอมพูดทักทายคนที่ยืนอยู่หน้าซิงค์

    “…” และคำตอบที่แจบอมได้จากคู่สนทนาก็คือ ความเงียบและไม่แม้แต่จะหันมามองหน้า มีเพียงเสียงจานที่เต็มไปด้วยฟองกระทบกับซิงค์ที่ยังไม่ถูกใช้งานอีกด้านหนึ่ง

    ไหนบอกว่า ถ้าคุยเรื่องอื่นจะคุยด้วยไง แล้วทำไมเงียบซะล่ะ ?

     

    คำถามของแจบอมยังคงไม่ได้รับคำตอบเช่นเดิม แต่ครั้งนี้คนที่ยืนหันหลังให้เขาเริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยการล้างมือแล้วเดินออกมาจากซิงค์ล้างจาน ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความเรียบเฉยมองคนที่เพิ่งทักทายเขาไปหมาดๆด้วยความเอือมระอา

     

    งั้นคุณก็ไปล้างต่อเถอะ ผมขอโทษก็แล้วกันที่มาแย่งหน้าที่ของคุณในที่สุดจินยองก็ตอบกลับ

    หรือจริงๆที่มาล้างจานเนี่ย เพราะได้ยินที่ฉันพูด ก็เลยหาทางเข้าหาฉันใช่มั้ยล่ะ จินยอง ?ใบหน้ายียวนและคำพูดของร่างสูงตรงหน้าทำให้จินยองกรอกตาไปหนึ่งทีอย่างระอาใจ

    ทำไมคุณไม่คิดว่า ที่ผมออกมาล้างจาน มันเป็นเพราะผมไม่ได้ฟังหรือสนใจในสิ่งที่คุณพูดล่ะ ?

     

    ประโยคตอบกลับของจินยองทำให้แจบอมสะอึกไปครู่หนึ่ง คำพูดที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆกับใบหน้าเรียบเฉยของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเก่าของเขาแต่กลับทำให้อิมแจบอมที่มีท่าทีมั่นใจในตอนแรกถึงกับหน้าชาจนไปต่อไม่ถูก

     

    เย็นชาเป็นบ้านี่ ใจคอจะคุยกับฉันดีๆไม่ได้เลยหรือไง ?

    แล้วที่ผมพูดตอนนี้มันไม่ดีเหรอครับ ?

    มันไม่ใช่แบบนั้น…”

    งั้นผมฝากล้างจานต่อด้วยก็แล้วกันนะครับ ขอโทษอีกครั้งที่ผมมาแย่ปล่อยนะ !!!”

     

    ยังไม่ทันที่จินยองจะพูดจบและเดินออกไป แจบอมที่เป็นฝ่ายยืนฟังรีบกระชากท่อนแขนขาวของคนที่กำลังจะเดินออกจากห้องครัวจนตัวของคู่สนทนาเซถลาเข้ามาใกล้ตน ก่อนจะใช้แขนทั้งสองข้างรวบตัวของคุณหมอหนุ่มที่ตั้งท่าทีเย็นชาใส่เขามาตลอดแน่นจนจินยองเผลอร้องออกมาเสียงหลง

     

    ถ้าขืนเสียงดังระวังคนอื่นๆจะได้ยินเอานะแจบอมกระซิบข้างใบหูของคนในอ้อมแขนอย่างเป็นต่อ

    “…”

    แต่ถ้าอยากให้คนอื่นมาเห็นเราสองคนในสภาพนี้ฉันก็ไม่ว่าอะไรนะ

    คุณนี่มัน…” จินยองขบฟันกรามเพื่อระงับอารมณ์โกรธของคนที่กำลังใช้กำลังแบบอ้อมๆกับเขา ใบหน้าหวานแสดงอาการบึ้งตึงแบบไม่มีปกปิดถึงความไม่พอใจในตอนนี้จนแจบอมยิ้มกริ่มอย่างพออกพอใจ

    จินยองอา…”

    พวกเราไม่สนิทกันถึงขั้นที่จะเรียกแบบนั้น ปล่อยผม !” จินยองพูดในขณะที่พยายามดิ้นอย่างแรง แต่ยิ่งจินยองออกแรงเท่าไหร่ แจบอมก็ยิ่งกอดรัดเขาแน่นขึ้นเท่านั้น

    ขอเวลาให้ฉันอธิบายบ้างได้ไหม ?

    “…”

    “…”

    ตอนนั้นเราก็พูดคำนี้กับแจบอมเหมือนกันเสียงสั่นเครือของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนสรรพนามและลักษณะการพูดทำให้แจบอมชะงักไป

    “…”

    แต่แจบอมไม่ให้เราอึกพูดอะไรเลยฮึกร่างในอ้อมแขนที่ตัวสั่นระริกทำให้แจบอมค่อยๆกระชับแขนให้แน่นขึ้น เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของคนที่พยายามหนีหน้าเขามาตลอดกำลังทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก

    สองปีสองปีที่เราพยายามลบชื่ออิมแจบอมออกจากความทรงจำ แต่อึก…”

    “…”

    เราคิดว่าตัวเองลืมแจบอมได้แล้ว แต่พอเรามาเจอแจบอมที่นี่ ทุกอย่างฮึกมันพังหมดเลย สองปีที่เราพยายามลืม มันหายไปหมดเลย

    พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นนะจินยองร่างสูงค่อยๆคลายแขนออก ก่อนจะจับเข้าที่ไหล่ของคนที่ยืนร้องไห้ให้หันหน้าเขาหาตน แล้วจึงดึงคนตัวเล็กกว่าเข้าไปกอดพร้อมลูบหัวปลอบประโลม

    อย่าฮึก…”

    “…”

    อยอย่าฮึกทำกับเราแบบนี้ ฮือๆสัมผัสแผ่วเบาบนกลุ่มผมนุ่มยิ่งทำให้จินยองร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ท่าทีเย็นชาและนิ่งเงียบในตอนแรกที่แจบอมประสบมาตลอดหลายวันหายไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงคนที่กำลังแสดงด้านอ่อนแอของตัวเองออกมาจนไม่เหลือเค้าเดิมในตอนแรก

    จินยอง ฉันขอโทษ

    ออกไป แจบอม ขขอร้องฮึก…” มือบางทั้งสองข้างที่กำแน่นพยายามทุบตีแผ่นอกของคนที่กอดเขาอยู่ในสภาพที่หมดเรี่ยวแรง ขาทั้งสองข้างทรุดลงไปนั่งกับพื้นโดยที่ยังคงอยู่ในอ้อมแขนของอดีตคนเป็นแฟนที่พยายามลูบหัวลูบหลังเพื่อปลอบให้จินยองสงบลง

     

    เดิมทีแจบอมตั้งใจจะแกล้งเย้าแหย่จินยองเพียงเท่านั้น แต่เขากลับไม่คิดว่าจะได้เห็นจินยองในสภาพที่อ่อนแอถึงขนาดนี้ ร่างสูงได้แต่นั่งกอดปลอบคนที่ร้องไห้ราวกับจะขาดใจอย่างสงสารจับใจ อีกทั้งความรู้สึกผิดที่ตีขึ้นมาจนจุกอกยิ่งทำให้แจบอมโมโหตัวเองขึ้นมาอีกด้วย

     

    จินยอง... ฉันรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว ให้โอกาสฉันแก้ตัวอีกครั้งนะ ฉันขอโทษแจบอมพูดในขณะที่มือหนายังคงลูบศีรษะของร่างบางอย่างแผ่วเบา

    ฮึกฮือๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำที่กำลังขอร้องจินยองยิ่งทำให้คนฟังร้องไห้หนักมากขึ้นไปอีก

    ฉันรู้เรื่องของผู้ชายคนนั้นหมดแล้ว ฉันรู้ตัวว่าฉันใจร้ายกับจินยอง แต่ถ้าย้อนกลับไปได้ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก ขอโอกาสน…”

    มันไม่มีแล้วแจบอม อึกฮือๆ มันมันไม่มีแล้ว…”

    “…”

    เราเคยบอกว่า เรายังรักแจบอมอยู่

    “…” คำพูดของคนในอ้อมแขนคำนี้มันอาจจะทำให้แจบอมรู้สึกดีถ้าหากมันไม่ใช่เวลานี้ และร่างสูงก็เดาได้ไม่ยากว่าประโยคต่อมาจะเป็นรูปแบบใด

    แล้วเราก็ดีใจ ที่ได้เจอแจบอมที่นี่อีก

    “…”

    แต่ถ้าเป็นไปได้ หลังจากจบทริปนี้ ขอให้เราเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันอีกนะ…”

    จินยอง…”

     

    ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตากับดวงตาที่บวมช้ำ อีกทั้งจมูกที่แดงก่ำจากการร้องไห้อย่างหนัก สบเข้ากับใบหน้าหล่อคมที่ครางเรียกชื่อของอีกฝ่ายออกมาเบาๆราวกับคนที่ถูกทำร้ายจนเจ็บและชาไปทั้งตัว คนสองคนที่เจ็บปวดไม่แพ้กัน หนึ่งคนที่ดูนิ่งขรึมและดูดุในสายตาของคนอื่น กับอีกหนึ่งคนที่รักสันโดษและดูนิ่งสงบเยือกเย็นกำลังมองหน้ากันในสภาพที่หมดเรี่ยวแรง

     

    และภาพดังกล่าวก็ทำให้ยองแจที่เดินผ่านมาเห็นถึงกับยืนนิ่งไป

     

    พวกพี่…”

     

    สิ้นเสียงของยองแจที่กำลังยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้า จินยองที่ได้สติก่อนรีบผละออกจากแจบอมแล้วลุกขึ้นเดินไปอยู่ตรงหน้ายองแจ และสภาพใบหน้าของยองแจที่ย่ำแย่ไม่ต่างไปจากจินยองทำให้ทั้งแจบอมและจินยองรู้ว่ายองแจก็คงเจอเรื่องราวบางอย่างมาเหมือนกัน

     

    ผมเข้ามาผิดเวลา หรือเปล่าครับ ?ยองแจพยายามหลบสายตาของชายหนุ่มทั้งสองคนที่เขาค่อนข้างกลัวและเกร็งเมื่ออยู่ต่อหน้าทั้งคู่ พอยิ่งมาเจอเรื่องที่ไม่ควรเจอ บวกกับปัญหาของตัวเอง ยิ่งทำให้ยองแจยืนตัวสั่นและเข่าอ่อนจนอยากจะรีบหนีออกไป

    “…” และการที่แจบอมไม่ตอบอะไรก็ทำให้ยองแจต้องพยายามหาจุดโฟกัสสายตาเพื่อเลี่ยงการมองหน้ากับรุ่นพี่หน้าดุที่เขาแอบกลัว

    ไม่เป็นไรหรอก แล้วดึกป่านนี้จะออกไปไหน ? จินยองจับข้อมือของยองแจเบาๆเพราะดูออกว่ารุ่นน้องตรงหน้ากำลังเกร็งและกลัวอย่างเห็นได้ชัด พลางเหลือบมองนาฬิกาที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆสี่ทุ่มแล้ว

    คือ…” ยองแจนิ่งไปครู่หนึ่งเพราะไม่รู้จะพูดเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร และเป็นจินยองอีกครั้งที่จับสังเกตได้

    พี่ว่าจะลงไปเดินเล่นข้างล่าง จะไปด้วยกันมั้ย ?

     

    และยองแจก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาตอบตกลงโดยการพยักหน้าให้จินยอง ก่อนที่จินยองจะจูงมือยองแจออกจากโซนที่เป็นครัวโดยไม่ได้พูดอะไรให้หลังกับแจบอมอีก ทั้งสองคนออกจากห้องไป ในห้องตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่มาร์คกับแบมแบมที่หลับอยู่บนโซฟา แจ็คสันที่ขังตัวเองอยู่ในห้อง และแจบอมที่เดินออกไปสูบบุหรี่บริเวณรั้วด้านนอกของห้องพัก

    จินยองกับยองแจลงลิฟท์มาชั้นล่างสุดที่บรรยากาศตอนนี้กำลังเงียบสงบ บวกกับอากาศรอบๆที่เริ่มเย็นลงกว่าเมื่อช่วงกลางวัน จินยองจึงเดินหายเข้าไปในมินิมาร์ท และออกมาพร้อมกาแฟสองกระป๋อง ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เป็นมื้อดึกประจำวันสำหรับคนทำงานกลางคืนอย่างเขาและยองแจ แล้วจึงเดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวยาวด้านหน้าที่ทางคอนโดฯจัดไว้

    พี่โอเคมั้ยครับ ?หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งเงียบมาพักใหญ่ ในที่สุดยองแจจึงเป็นฝ่ายชวนคุยก่อน

    อื้ม…” ร่างบางข้างๆพยักหน้าแล้วจึงเอ่ยถามต่อ แล้วยองแจล่ะ โอเคขึ้นหรือยัง ?

    “...”

    เรื่องแจ็คสันใช่มั้ย ?จินยองพยายามชวนคุยต่อเพราะเขารู้ว่ายองแจกำลังเกร็งเวลาอยู่กับเขาเป็นอย่างมาก

    ก็ครับยองแจตอบกลับไปเพราะถึงเขาจะบ่ายเบี่ยงอย่างไรคนฉลาดแบบจินยองก็คงจับได้อยู่ดี

    เห็นยองแจเป็นแบบนี้ พี่จะไม่ถามก็แล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นจินยองรู้ดีว่าลึกๆแล้ว ยองแจคิดกับเขาอย่างไร เพราะยองแจก็คงรู้เรื่องระหว่างเขากับแจ็คสันเมื่อสองปีก่อน และเขาเองก็เข้าใจความรู้สึกของยองแจดี

    ผมเคยคิดว่าพี่แจ็คสันเขาโง่นะครับ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้…” คำพูดของยองแจทำให้จินยองถึงกับหลุดขำออกมาเล็กน้อย

    ไม่ใช่แค่ยองแจหรอก วันนี้พี่ก็เพิ่งด่ามันไป

    “…”

    พี่ไม่รู้นะว่ายองแจคิดกับพี่ยังไง แต่พี่กับแจ็คสัน เราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ

     

    คำพูดของจินยองยิ่งทำให้ยองแจพูดอะไรไม่ออก ยอมรับว่าช่วงแรกๆเขาเคยคิดตั้งแง่ อคติกับจินยอง และหลีกเลี่ยงที่จะต้องพูดคุยกับจินยองในการมาเที่ยวครั้งนี้ แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่นี้บวกกับที่เจอจินยองและรุ่นพี่หน้าดุอย่างอิมแจบอมในห้องพัก ยองแจจึงเริ่มเปลี่ยนความคิดกับจินยองทันที

     

    พี่ดูออกตั้งนานแล้วว่าแจ็คสันชอบยองแจ พี่ถึงได้ปฏิเสธมันไปเมื่อสองปีก่อน

    ครับ ?ยองแจเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

    เมื่อสองปีที่แล้ว แจ็คสันมันมาบอกชอบพี่ แต่มันไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามันแคร์ยองแจมากกว่าพี่ด้วยซ้ำ

    “…”

    มันบ่นให้พี่ฟังทุกวัน ว่ายองแจหายไปไหน ทำไมยองแจไม่ยอมรับโทรศัพท์ หรือตอนวันที่มันเรียนจบ พี่เห็นมันตะโกนเรียกยองแจตลอด ถามหาแต่ยองแจทั้งวัน ทุกวันจะต้องมีชื่อของยองแจหลุดออกมาจากปากของแจ็คสันตลอด แต่พี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่รู้ตัวเองสักที

     

    ยิ่งได้ฟังจากปากของจินยอง ทำให้ยองแจรู้สึกเขินจนก้มหน้าลงมองแต่พื้นดินไปมา เป็นภาพที่น่าเอ็นดูสำหรับจินยองไม่น้อย คนเป็นพี่จึงได้แต่นั่งยิ้มกับท่าทีของยองแจ

     

    บางทีเขาอาจจะแค่สงสารผม เหมือนที่เขาบอกว่า เขาสงสารและอยากปกป้องพี่จินยองก็ได้มั้งครับถึงอย่างนั้น ยองแจก็ไม่กล้าที่จะเข้าข้างตัวเองอยู่ดี

    อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับยองแจแล้วล่ะ ว่าจะเชื่อใจและเชื่อในความรู้สึกของแจ็คสันหรือเปล่า

    “…”

    แจ็คสันไม่ใช่คนฉลาด แต่พี่มั่นใจ ว่าความรู้สึกที่แจ็คสันมีกับยองแจมันไม่ใช่ความสงสารจินยองยิ้มบางๆเมื่อเห็นท่าทีของยองแจที่เริ่มอ่อนลงและคล้อยตามไปกับคำพูดของเขา ถึงแม้ว่าจะมีสีหน้าไม่มั่นใจ แต่แววตาของยองแจก็เริ่มฉายแววที่มีความหวังออกมา

    เอ่อ…”

    มีอะไรจะถามพี่หรือเปล่า ?

    คือ…”

    “…”

    ถ้าผมจะถามเรื่องของพี่กับพี่แจบอม…” ยองแจพูดได้เพียงแค่นั้น ก่อนจะรีบหลบตาไปทางอื่น เมื่อเห็นว่าจินยองที่ยิ้มในตอนแรกเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นนิ่งเฉยจนยองแจเริ่มรู้สึกกลัวคือถ้าพี่ไม่โอเค พี่ไม่ต้องเล่าก็ได้นะครับ

    ก็อย่างที่ยองแจเข้าใจนั่นแหละ

    หมายถึงพี่สองคนเคยเอ่อ…”

    ฮื่อ เคยเป็นแฟนกันมาก่อนน่ะ แต่มันก็เป็นอดีตไปแล้ว พี่ไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจที่ยองแจถามพี่หรอก อย่าคิดมากจินยองพูดดักเมื่อเห็นท่าทีลนลานของยองแจ

    จริงๆผมก็เคยสงสัยว่าพวกพี่มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ตั้งแต่มาถึงที่นี่ ผมยังไม่เคยเห็นพี่สองคนคุยกันเลย

    ก็ไม่รู้จะคุยอะไรน่ะคุณหมอหนุ่มตอบพลางดื่มกาแฟกระป๋องที่เริ่มพร่องลงไปเรื่อยๆ

    เอ่อแล้วพี่แจ็คสันเขาไม่รู้เหรอครับว่าพี่สองคน…”

    พี่ไม่เคยบอกใครว่าคบกับแจบอม แม้แต่แจ็คสันที่เป็นรูมเมทและเพื่อนสนิท พี่ก็ไม่เคยบอก

    “…”

    จริงๆมันก็เป็นความผิดของพี่เอง ถ้าพี่รู้ว่าแจบอมจะมาที่นี่ พี่ก็คงไม่มา…”

    บางทีการที่เราหนีมันไม่ได้แปลว่าเราจะลืมไม่ใช่เหรอครับ ?

    แต่บางอย่าง ถ้าเราลืมไม่ได้ เราก็เลือกที่จะไม่เห็น ไม่ดีกว่าเหรอ ?

    “…”

    ช่างมันเถอะ อย่าใส่ใจเลย สุดท้ายพี่กับแจบอมก็เป็นได้แค่อดีตจริงๆ จะเก็บมาคิดต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

     

    พูดจบ จินยองก็ลุกขึ้นเดินไปทิ้งกระป๋องกาแฟ แล้วจึงหันหน้ามาหายองแจโดยแฝงคำถามชวนกลับห้องพักเพราะเห็นว่าเริ่มดึกแล้ว ซึ่งยองแจก็พยักหน้าแทนคำตอบแล้วเดินตามหลังจินยองกลับเข้าห้องพักไป

    ภายในห้องพักมีแต่ความเงียบสงบ มาร์คกับแบมแบมยังคงงีบหลับอยู่บนโซฟา แจ็คสันที่อาบน้ำไปก่อนหน้านี้เองก็คงจะหลับไปแล้ว ส่วนแจบอมที่นั่งดื่มเบียร์อยู่ตรงระเบียงห้องด้านนอกหันมามองคนที่เพิ่งเข้ามาในห้องทั้งสองคนเพียงเล็กแล้วจึงหันกลับไปโดยไม่พูดอะไร จินยองและยองแจจึงแยกย้ายเข้าห้องนอนของตนเพื่อไปพักผ่อนเช่นกัน

     

    .

    .

    .

     

     

    ร่างโปร่งที่อยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาค่อยๆลืมตาขึ้นพลางกะพริบสองสามทีพอให้ปรับโฟกัสสายตาได้ ก่อนที่คนเพิ่งตื่นจะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดอยู่บนหัวไหล่ และพบว่าเป็นรุ่นน้องที่เพิ่งคุยกันก่อนที่เขาจะเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

    มาร์คกวาดสายตามองรอบห้องและไม่พบใคร บรรยากาศภายในห้องที่เงียบเชียบทำให้มาร์คเหลือบไปมองนาฬิกาแขวนผนัง และก็ทำให้เขาถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าขณะนี้เป็นเวลาเกือบตีสาม มาร์คจึงค่อยๆจัดท่านอนให้แบมแบมบนโซฟาเพื่อให้รุ่นน้องหลับสบายขึ้น แล้วถือวิสาสะเดินไล่เปิดประตูห้องนอนทุกห้องให้เบาที่สุดเพื่อมองหาใครบางคน แต่มาร์คก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะเขาไม่พบคนที่ตัวเองกำลังตามหา

     

    ยังไม่กลับมาอีกเหรอวะ ?

     

    มาร์คพึมพำด้วยสีหน้าร้อนรน ยิ่งมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้รุ่งสางยิ่งทำให้ร่างโปร่งรู้สึกไม่สบายใจ มาร์คจึงตัดสินใจคว้าเสื้อกันหนาวใส่ทับ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์แล้วรีบเปิดประตูห้อง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า

    ร่างสูงใหญ่ของเด็กที่โตเกินวัยที่นั่งหลับอยู่หน้าประตูห้อง โดยที่กอดกระเป๋าเป้เอาไว้แน่น ผิวขาวละเอียดของเด็กหนุ่มที่มีรอยแดงๆประปรายอยู่ตามตัวที่เกิดจากการถูกยุงกัดในช่วงเวลาค่ำคืน ยูคยอมที่มาร์คมักมองว่าเป็นเด็กปากเก่งและน่ารำคาญ ในยามนี้กลายเป็นเพียงลูกหมาตัวโตที่ดูน่าสงสารจนความผิดเริ่มเข้ามาสะกิดในใจของมาร์ค

     

    ยูคยอม…” นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อยูคยอมด้วยน้ำเสียงที่ไม่กระแทกกระทั้นหรือบ่งบอกถึงความหงุดหงิดในยามที่ต้องสนทนากับเด็กคนนี้

    “…” และเสียงหายใจเบาๆของคนที่กำลังหลับก็เป็นคำตอบที่มาร์คได้รับ

    ยูคยอมครั้งนี้มาร์คใช้มือสะกิดไหล่ของคนที่ตัวโตกว่าตัวเองเบาๆ และยูคยอมก็มีปฏิกิริยาตอบรับ เด็กหนุ่มเขย่าศีรษะสองสามที ก่อนจะใช้มือขยี้ตาเหมือนเด็กที่เพิ่งถูกแม่ปลุกในยามเช้า

    อือ…” ร่างสูงครางรับเบาๆในสภาพสะลึมสะลือ

    ทำไมไม่เคาะประตูห้ ?

     

    ยังไม่ทันที่มาร์คจะถามจบ ยูคยอมก็ยื่นกระเป๋าเป้ที่เขานอนกอดในตอนแรกให้มาร์คโดยที่ไม่พูดอะไร มาร์คชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่เพราะยูคยอมไม่ยอมพูดอะไร แต่มือก็พยายามจะส่งกระเป๋าให้เขา จนมาร์คต้องรับมาอย่างไม่เข้าใจ

     

    อะไร ?

    เอาไปซ่อมมาให้แล้วยูคยอมตอบแบบนิ่งๆ ซึ่งเป็นภาพที่มาร์คไม่คุ้นตาเอาเสียเลย ถึงกระนั้นเขาก็แอบตกใจอยู่ดีเมื่อได้ยินในสิ่งที่ยูคยอมพูด

    “…”

    ขอโทษที่มันไม่เหมือนเดิมทุกอย่าง ช่างบอกว่าต้องเปลี่ยนชิ้นส่วน ขอโทษที่ทำได้แค่นี้ พยายามแล้วจริงๆ มาร์คนิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดของยูคยอม พร้อมกับกล้องในมือที่ยังคงเป็นกล้องตัวเดิมของเขา โดยที่มีชิ้นส่วนเล็กน้อยที่เปลี่ยนไปซึ่งดูไม่มีความเปลี่ยนแปลงเมื่อมองดู

    ผมเข้าห้องละนะ ง่วง…” ยูคยอมลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินเข้าห้อง แต่กลับถูกมาร์คดึงชายเสื้อเอาไว้

    เดี๋ยว...”

    ว่า ?ยูคยอมหันมามองรุ่นพี่ตัวเล็กที่กำลังดึงเสื้อของตนอยู่

    “…”

    “…”

    คือ…”

    ถ้าพี่ไม่พูดผมจะเข้าห้องแล้วนะ

    จริงๆ…”

    “…”

    เรื่องนี้ฉันก็ผิดเหมือนกันนั่นแหละ !” มาร์คพูดด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนจนดูน่าขันในสายตาของยูคยอม ถึงกระนั้นร่างสูงก็ยังคงตีหน้านิ่งต่อ

    แล้ว ?ยูคยอมถามพลางเลิกคิ้ว

    ก็…”

    “…”

    ก็จะขอโทษนี่ไงเล่า !”

    ทำตัวน่ารักก็เป็นนี่นา คุณอี้เอิน~และสุดท้ายยูคยอมก็ดีแตกจนมาร์คถลึงตาใส่ไปหนึ่งที

    อย่ามาลามปาม !”

     

    มาร์ครีบเดินนำหน้าเข้าห้องโดยไม่ลืมเอากระเป๋าเป้ที่ใส่กล้องเข้าไปด้วย ทิ้งให้เด็กตัวโตยืนมองตามก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทีของมาร์คที่เขาเห็นมาตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ซึ่งมันไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยเท่านั้น แต่เขาได้รับสิทธิ์ให้ได้พบกับมาร์คในโหมดนี้มาตั้งแต่ที่สนามบินก่อนเดินทางเสียด้วยซ้ำ

    มาร์คเดินเข้ามาปลุกแบมแบมที่นอนบนโซฟา และไล่ให้เด็กที่เริ่มจะงอแงเพราะถูกปลุกกลางดึกไปอาบน้ำ โดยให้เหตุผลว่ากลัวแบมแบมจะไม่สบาย สุดท้ายคนที่เป็นเจ้าบ้านก็ต้องตามคำสั่งของแขกที่มีอายุมากกว่า ก่อนที่มาร์คจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเพื่อรออาบน้ำต่อ และก็เห็นว่ายูคยอมที่เดินตามเข้าห้องมาทีหลังกำลังเปิดโน้ตบุ๊คที่เจ้าตัวนำมาจากที่เกาหลีด้วย

    ท่าทีของร่างสูงที่นั่งดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความจริงจังกลับสะกดให้มาร์คเหลือบมองอย่างไม่วางตา และทำให้เขาค้นพบว่า ยูคยอมในเวลาที่อยู่ในโลกส่วนตัวมันดูมีเสน่ห์และดูเป็นผู้ใหญ่เอาเสียมากๆในสายตาของเขา ดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความขี้เล่นในเวลาปกติกลับดูดึงดูดสายตาคนมองในยามที่เจ้าตัวกำลังจดจ้องสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างจริงจัง ขับด้วยโครงหน้าหล่อที่ดูเพอร์เฟคต์เสียจนมาร์คแอบอิจฉาอยู่เนืองๆ แต่ดูเหมือนเขาจะมองอีกฝ่ายแบบชัดเจนไปหน่อย เพราะยูคยอมละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ออกมามองเขากลับ

     

    มองผมทำไม ?ยูคยอมถามคนที่กำลังนั่งมองเขาจากบนโซฟาอยู่

    อะไร ใครมอง ?มาร์คกลบเกลื่อน

    ก็เห็นอยู่ว่านั่งมอง

    เหอะ…”

    เออ พี่ ผมขออาบน้ำต่อจากแบมแบมได้ป่ะ ?ยูคยอมเปลี่ยนหัวข้อในการพูดคุยโดยการขอแซงคิวอาบน้ำที่มาร์คกำลังนั่งรออยู่

    เรื่องอะไร ทำไมต้องให้ ฉันก็ง่วงเหมือนกัน

    ผมอุตส่าห์เอากล้องออกไปซ่อมให้เลยนะ ร้อนก็ร้อน ยุงกัดจนคันทั่วไปหมดแล้ว ขออาบน้ำก่อนนะพี่ เนี่ย เหม็นเหงื่อไปหมดละยูคยอมว่าพลางทำจมูกฟุดฟิดไล่ไปตามตัวตัวเองจนมาร์คหลุดยิ้มออกมา ก่อนจะตีหน้านิ่งเพื่อไม่ให้ยูคยอมเห็น

    เออๆ ก็ได้ ให้ไวๆด้วย ฉันง่วงจะตายอยู่แล้ว

     

    มาร์คเหยียดตัวนอนจนเต็มโซฟา พร้อมกับที่แบมแบมเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพงัวเงียแม้ว่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และเด็กหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากโบกมือลามาร์คกับยูคยอมแล้วตรงเข้าห้องนอนไป ส่วนยูคยอมก็ลุกขึ้นไปหยิบของใช้ส่วนตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำต่อจากแบมแบมทันที

    คนที่นอนรออาบน้ำบนโซฟาเริ่มรู้สึกเบื่อกับการรอคอยเพราะความง่วงที่เริ่มมากขึ้นทุกขณะ มาร์คจึงเดินตรงเข้าไปในโซนครัวเพื่อดื่มน้ำพอให้แก้ง่วง แต่ดวงตากลมโตก็ต้องไปสะดุดกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ของยูคยอมที่เปิดเข้า Facebook ทิ้งไว้ และภาพที่ปรากฏบนหน้าจอมันก็ทำให้เขารู้สึกคุ้นๆอย่างบอกไม่ถูก

    สาบานเลยว่ามาร์คไม่ได้คิดที่จะทำตัวเสียมารยาท แต่เขาดันหันไปเห็นเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ร่างโปร่งมองซ้ายมองขวาอยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อพบว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น มาร์คจึงเดินเข้าไปดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แบบชัดๆ และภาพที่ปรากฏบนหน้าจอก็คือ หน้าแฟนเพจ Facebook หนึ่งที่มาร์คมั่นใจว่าเขารู้สึกคุ้นตามากเสียจนน่าตกใจ

     

    ลองทายดูสิ ว่าเขาเจออะไรปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของยูคยอม… ?



    พบกับอีพีส่งท้ายปี 2558 เนาะ
    ขอบคุณทุกคนจริงๆที่ติดตามกันมาจนถึงจุดนี้
    ฟิคเรื่องใกล้จะถึงคราวลาทุกคนเต็มทีแล้ว
    อยากให้ทุกคนติดตามกันจนจบนะคะ
    ถึงแม้ว่าตอนที่แล้วเราจะแอบน้อยใจกับยอดคอมเม้นท์นิดๆก็ตาม
    แต่สำหรับเรา ความสุขของคนอ่านต้องมาก่อนค่ะ
    จะงอนก็ไม่ได้ ฮลึก ;_____;)

    สำหรับตอนหน้า เราจะทำแบบสอบถามจองฟิครวมเล่มมานะคะ
    ราคาอยู่ที่ 420 - 450 บาท
    รายได้จากการหักค่าใช้จ่ายจะนำไปทำบุญและโดเนทโปรเจคต์ต่างๆของ GOT7 ค่ะ
    ยอดขั้นต่ำอยู่ที่ 20 เล่มนะคะ


    และสุดท้ายนี้ มุกคงไม่ได้เข้ามาอัพฟิคในวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว
    ก็เลยอยากจะอวยพรทุกคนล่วงหน้าค่ะ
    ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆตลอดปี 2016 นี้
    อยู่ติดตามและรัก GOT7 รวมไปถึงฟิคของมุกนานๆนะคะ
    หลังจากจบเรื่องนี้ เรามีโปรเจคต์ต่อไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
    ขอให้เงินไหลมาเทมา ได้แฟนหล่อๆรวยๆ 5555555555
    ได้โมเม้นท์กัซแบบฟินๆถ้วนหน้า
    และเราอยากจะบอกว่า

    ในปีนี้ ทุกคนคือ #BestMemoriesof2015 ของเราค่ะ <3




    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×