ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] LES VACANCES. #BNIOR #JACKJAE #YUGMARK #MARKBAM

    ลำดับตอนที่ #5 : 0 4 | Le premier jour.

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 58




    04 | La premier jour.
     

     

    ไม่ลืมอะไรกันแล้วใช่มั้ย ?

     

    แจ็คสันเป็นเชิงย้ำทุกคน และเมื่อได้รับการส่ายหน้าจากทุกคนเป็นคำตอบ แบมแบมจึงจัดการล็อกประตูห้อง ทั้งเจ็ดคนลงมาจากคอนโดในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น แม้ว่าเมื่อคืนจะไม่มีใครนอนดึกก็ตาม

    ย้อนกลับเมื่อประมาณสองชั่วโมงที่แล้ว เจบีและมาร์คเป็นสองคนแรกที่ถูกปลุกโดยโทรศัพท์มือถือของแจ็คสันที่ตั้งปลุกเอาไว้ ซึ่งชาร์จแบตอยู่หน้าทีวีรวมกับโทรศัพท์ของทุกคน ทั้งสองหนุ่มจึงทำธุระส่วนตัว และไล่ปลุกทีละคน แจบอมรับหน้าที่ปลุกแบมแบม ยองแจ แจ็คสัน และยูคยอม ส่วนมาร์คอาสาปลุกจินยองที่นอนคนเดียว ส่วนเพราะเหตุผลอะไรนั้นก็ขอละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจตรงกัน

    เมื่อทุกคนทำธุระส่วนตัวกันจนเสร็จ แจ็คสันจึงเริ่มอธิบายสิ่งที่จะทำวันนี้คร่าวๆให้ทุกคนฟัง กิจกรรมละลายพฤติกรรมที่แจ็คสันเขียนเอาไว้ในตารางเวลาแท้จริงแล้วเป็นเพียงการเที่ยวสถานที่สำคัญๆในกรุงเทพฯเพื่อให้ทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกันเท่านั้นเอง

     

    และนี่จึงเป็นเหตุให้ทุกคนมานั่งจุมปุ๊กอยู่ที่ร้านโจ๊กข้างทางแต่เช้าตรู่

     

    แต่ความเป็นจริงแล้ว ทุกคนก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเช้าเกินไปนัก เพราะแม้ว่าจะเป็นเวลาเจ็ดนาฬิกาเศษๆ แต่ผู้คนก็เดินกันขวักไขว่ มีร้านอาหารตั้งขายตลอดข้างทาง รวมไปถึงการจราจรบนท้องถนนที่ติดขัด โจ๊กร้อนๆทุกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะ แม้ว่าร้านจะไม่ใหญ่นัก แต่ก็อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบในช่วงเช้า ยกเว้นพวกเขาที่มาในฐานะนักท่องเที่ยว จึงไม่ต้องรีบร้อนอะไรนัก

     

    ไอ้นี่มันคืออะไรน่ะ ?แจบอมหยิบปาท่องโก๋ที่ถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมโจ๊กขึ้นมาด้วยท่าทีสงสัย

    ปาท่องโก๋ครับ พี่ฉีกใส่ในโจ๊กได้เลยแบมแบมอธิบายให้คนต่างวัฒนธรรมที่มองอย่างสนอกสนใจ

    แต่ในคู่มือท่องเที่ยวไม่เห็นบอกเลยว่าโจ๊กกินกับปาท่องโก๋ได้ด้วยยูคยอมสวนขึ้นมาพร้อมยกหนังสือคู่มือท่องเที่ยวที่เขาซื้อติดตัวมาจากสนามบิน

    เอาน่า บางทีหนังสือพวกนี้ก็ไม่ได้บอกอะไรเราได้หมดนะ การท่องเที่ยวมันต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองต่างหากยองแจอธิบายให้รุ่นน้องฟัง

    แต่มันก็อร่อยดีนะจินยองที่กินคำแรกแล้วเงยหน้าขึ้นมาบอกทุกคนที่กำลังถกเถียงกัน

    ใช่มั้ยล่ะครับ

     

    แชะ !

     

    เสียงชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูปดังขึ้นจากบริเวณที่มาร์คนั่ง กล้องตัวเล็กในมือของมาร์คถูกเก็บลงกระเป๋าใส่กล้องอย่างดีหลังจากที่เพิ่งใช้งานมันเสร็จเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ กล้องตัวนี้ไม่ใช่กล้อง DSLR ของแบมแบม แต่เป็นกล้องฟิล์มที่มาร์คพกติดมาจากเกาหลี

     

    มาร์ค มึงทำอะไรแต๋วๆแบบนี้ด้วยเหรอวะ ? แจ็คสันถามคนที่เพิ่งถ่ายรูปเสร็จ

    แต๋วยังไง ?

    ก็แบบถ่ายรูปอาหารก่อนกินไง ฮ่าๆ

    กูถ่ายเก็บไว้ดูต่างหาก นานๆจะได้มาเที่ยวที่อื่นทั้งที

    เออ กูแซวเล่นเฉยๆ

    แบมแบม สั่งให้ฉันเพิ่มอีกชามได้มั้ย ?ยูคยอมที่กินหมดเป็นคนแรกหันไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าบ้านที่เพิ่งกินไปได้นิดเดียว

    กินหมดไวจัง ฮ่าๆพี่ครับ ขอเพิ่มอีกชามครับ

    เดี๋ยวๆ ฉันขอเพิ่มด้วยแจบอมที่กำลังกินคำสุดท้ายยกมือเบรกแบมแบมเพื่อให้รอตน

    อาเพิ่มเป็นสองเลยก็แล้วกันครับแบมแบมหันไปบอกเจ้าของร้านเป็นภาษาไทย และอีกไม่นานนักโจ๊กอีกสองชามก็ถูกนำมาวาง และก็หมดภายในเวลาสั้นๆอีกเช่นกัน

    เอาล่ะ ที่แรกที่เราจะไปกันคือ วัดพระแก้ว ซึ่งจะต้องเสียค่าเข้าชม 500 บาท ยกเว้นแบมแบมที่ได้เข้าฟรีเพราะเป็นคนไทย

    “500 บาทเลยเหรอครับ !?!” หลังจากฟังแจ็คสันพูดจบ ยูคยอมก็ถึงกับหน้าถอดสี เพราะราคานี้ถือค่อนข้างสูงสำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในสถานะนักศึกษาอย่างเขา

    นานๆจะมาต่างประเทศทั้งที อย่างกเลยน่า อีกอย่าง 500 บาทนี่ก็รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์หมดแล้วด้วย แถมแถวนั้นก็มีที่เที่ยวเยอะแยะ 500 บาทถือว่าคุ้มแล้วมาร์คที่ได้ช่องว่างสวนกลับยูคยอม แต่ก็ไม่ลืมที่จะแนบเหตุผลไปด้วย

    พูดแบบนี้แปลว่าพี่จะจ่ายให้ผมใช่มั้ย ?ยูคยอมถามพร้อมยิ้มแป้นใส่อีกคน

    นี่ฉันพยายามคุยกับนายดีๆแล้วนะ เลิกกวนประสาทสักวันเถอะ

    ผมกวนพี่ตรงไหน ? ผมก็แค่บอกว่ามันแพง แค่นั้นเองนะ

    ถ้ากลัวเปลืองเงินนักก็ไปยืนให้อาหารนกพิราบที่สนามหลวงก็ได้นะมาร์คเริ่มเปลี่ยนมาประชดประชันแทน

    โอเคๆ พอทั้งคู่ ไม่ต้องตีกัน โอเค้ ?แจ็คสันยกมือห้ามทั้งสองคนอย่างเหนื่อยใจ เพราะไม่มีครั้งไหนที่คู่นี้จะคุยกันโดยไม่ทะเลาะกันสักครั้ง

    “…”

    ยูคยอม นานๆจะมาสักที ยอมจ่ายเหอะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าวตอนกลางวันก็ได้แจ็คสันตบบ่าหลานรหัสซึ่งเด็กตัวโตก็ยอมพยักหน้าอย่างว่าง่ายเพราะข้อเสนอของรุ่นพี่

    โตแต่ตัว…” มาร์คพึมพำเบาๆแต่ก็ไม่พ้นหูของจินยอง

    เอาน่า น้องยังเด็กอยู่จินยองพยายามสงบศึกบนโต๊ะกินข้าว

    แบมแบม แถวนี้มีร้านขายปาท่องโก๋ต่างหากมั้ยยองแจหันไปถามแบมแบมถึงขนมที่ถูกนำมาเป็นเครื่องเคียงกับโจ๊ก

    ผมก็ไม่ค่อยได้มาแถวนี้เลยครับ ก็เลยไม่รู้ว่ามีรึเปล่า ?

    เฮ้ย โจ๊กชามเบ้อเร่อยังไม่อิ่มอีกเหรอแจ็คสันหันไปแซวรุ่นน้องที่ถามหาขนมพร้อมหัวเราะ

    ผมแค่อยากกินเฉยๆ เห็นว่ามันอร่อยก็เลย…”

    ผมก็อยากกินอีกนะคนที่กินโจ๊กไปสองชามพูดขึ้นมา

    ยูคยอม คือมึงยังไม่อิ่ม ?แจ็คสันหันไปถามเป็นเชิงประชด เมื่อเห็นว่าเด็กที่เพิ่งงอแงเรื่องเสียดายค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์กลับสามารถควักเงินซื้อของกินได้อย่างง่ายดาย

    พี่ว่าพี่เห็นร้านแล้วล่ะ งั้นพี่เลี้ยงปาท่องโก๋ยูคยอมก็แล้วกัน เดี๋ยวผมมานะ ฝากจ่ายค่าโจ๊กด้วยยองแจที่ชะเง้อมองหาร้านขายปาท่องโก๋เจอวางเงินค่าอาหารเช้าไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินออกไปซื้อของที่ต้องการ

     

    และแล้วมื้อเช้ามื้อแรกก็ผ่านไป พอดีกับที่ยองแจเดินกลับมาจากร้านขายปาท่องโก๋ ทั้งเจ็ดคนเดินศึกษาเส้นทางไปเรื่อยๆ ในขณะที่ถุงปาท่องโก๋ก็ถูกส่งวนไปยังทุกๆคนเพื่อแบ่งปันให้ได้กินด้วยกัน

     

    เอาล่ะ ต่อไปได้เวลาทำงานของแบมแบมแล้ว ปรบมือต้อนรับไกด์กิตติมศักดิ์ของพวกเราหน่อย วู้ !!” เมื่อเห็นว่าเริ่มได้เวลาอันสมควร แจ็คสันจึงเชิญคนเป็นเจ้าบ้านที่กำลังยืนกินปาท่องโก๋ให้มายืนด้านหน้ากลุ่มเพื่อนำทาง

    งั้นก่อนอื่นผมต้องขอบอกอะไรสักนิดก่อน เมื่อคืนนี้พี่มาร์คและพี่แจบอมบ่นกับผมว่าอยากขึ้นรถตุ๊กตุ๊ก แต่เนื่องจากทุกคนเป็นชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นราคาจะสูงมาก ผมก็เลยอยากเสนอให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าและนั่งเรือแทน ทุกคนจะโอเคกันใช่มั้ยครับ ?

    ถ้ามันลดค่าใช้จ่ายได้ก็โอเคแจบอมพูดขึ้นในขณะที่ทุกคนพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย

    จริงๆวัดพระแก้วสามารถไปได้หลายทาง แต่ผมขอแนะนำให้นั่งรถไฟฟ้าแล้วไปขึ้นเรือต่อก็แล้วกันนะครับ

     

    ทั้งเจ็ดคนเดินขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดของแบมแบมมากนัก แบมแบมเลือกที่จะพาทุกคนขึ้นรถไฟฟ้า หรือ ที่เรียกกันติดปากคนไทยว่า BTS ไปลงที่สถานีสะพานตากสิน แม้ว่าด้านในรถจะแออัดจนไม่มีที่นั่ง แต่เนื่องจากใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที จึงเหมาะสำหรับการเดินทางที่ต้องอาศัยการทำเวลาในครั้งนี้

    และในตอนนี้ทุกคนก็มาหยุดอยู่ที่ท่าเรือสาทรซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัด ก่อนที่จะลงไปยังเรือด่วนเจ้าพระยาซึ่งจะพาทุกคนไปยังวัดพระแก้วอันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แรกของวันนี้ ผ่านไปอีกไม่กี่นาที ทุกคนก็มาถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

     

    แขนเปียกหมดเลยจินยองพูดขึ้นหลังจากที่เดินออกมาจากท่าเรือแล้ว

    ลมโคตรแรงเลย ผมเสียทรงหมดแจ็คสันว่าพลางขยี้ผมที่มีอยู่น้อยนิดของตัวเอง

    ผมมึงมีแค่นี้ ยังจะมาบ่น ถุย !” แจบอมสวนกลับ

    โห คนเยอะมาก !” ยูคยอมที่มีท่าทีอิดออดในตอนแรกเพราะกลัวเสียเงินค่าเข้ากลับดูตื่นเต้นออกนอกหน้าตามประสานักท่องเที่ยวต่างชาติ ในมือของร่างสูงถือคู่มือนักท่องเที่ยวติดมือไว้ตลอดเพื่อแสดงให้เห็นว่าเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ตลอดเวลา

    เดี๋ยวทุกคนไปซื้อตั๋วตรงนั้นนะครับ ผมจะยืนรออยู่ตรงนี้

     

    แบมแบมชี้ไปยังจุดขายตั๋วสำหรับชาวต่างชาติเมื่อเดินมาถึงวัด ซึ่งมีคนยืนต่อแถวเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ทุกคนได้ตั๋วกันครบแล้ว จึงตกลงกันว่าจะแยกย้ายกันเดินตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นฉายเดี่ยวอย่างจินยองและแจบอมที่แยกไปเดินคนเดียว หรือไปเป็นคู่อย่างมาร์คกับแบมแบม โดยทั้งคู่ให้เหตุผลว่าอยากแลกเปลี่ยนเทคนิคการถ่ายรูป (ซึ่งคาดว่าคนที่ได้ประโยชน์น่าจะเป็นแบมแบมฝ่ายเดียวเสียมากกว่า) หรือไปแพ็คสามอย่างแจ็คสัน ยองแจ และยูคยอม

    แจบอมเดินมองงานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมไปเรื่อยๆอย่างสนอกสนใจตามประสาสถาปนิกที่หายใจเข้าออกเป็นแบบงาน และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเก็บบรรยากาศเพื่อนำไปเป็นไอเดียสำหรับงานชิ้นใหม่ๆ

    ทางด้านมาร์คกับแบมแบมก็กำลังสนุกกับการทดลองเล่นกล้อง โดยมีมาร์คเป็นคนคอยแนะนำเทคนิคถ่ายภาพให้ และเป็นตากล้องส่วนตัวให้แบมแบมไปโดยปริยาย และมีบ้างที่แบมแบมเปลี่ยนผลัดมาถ่ายให้มาร์คโดยที่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้

     

    พี่มาร์คครับ

    หืม ?มาร์คขานรับโดยที่ยังคงก้มหน้ามองหน้าจอกล้อง DSLR ของแบมแบมเพื่อดูรูปภาพ

    ทำไมพี่ถึงไม่เอากล้องโปรหรือ DSLR มาล่ะครับ ?แบมแบมถามขึ้นเมื่อเห็นว่ากล้องที่มาร์คคล้องคออยู่ไม่ใช่กล้องโปรตัวละหลายหมื่นหรือกล้อง DSLR ซึ่งเหมาะกับคนที่ชำนาญอย่างเขา แต่กลับเป็นเพียงกล้องฟิล์มตัวเล็กๆที่ค่อนไปทางเก่านิดๆ

    ไม่รู้สิ บอกตรงๆเลยว่าบางทีพี่ก็ไม่ค่อยชอบกล้องพวกนั้นเท่าไหร่

    ทำไมล่ะครับ ?แบมแบมถามด้วยความอยากรู้ ซึ่งมาร์คก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญแต่อย่างใดกับปฏิกิริยาของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

    บางทีอธิบายอย่างเดียวคงจะเข้าใจยาก

     

    แชะ !

     

    กล้องขนาดใหญ่ในมือมาร์คถูกหันมาหาแบมแบมก่อนที่จะกดชัตเตอร์ โดยที่แบมแบมยังไม่ทันตั้งตัวใดๆ

     

    เดี๋ยวสิครับ !!” แบมแบมออกอาการเหวอเมื่อถูกถ่ายภาพโดยไม่ทันตั้งตัว

    ทีนี้ลองยืนโพสต์ท่าดูนะมาร์คสั่งอีกคน ก่อนจะยกกล้องฟิล์มที่คล้องคอตนอยู่ขึ้นมาตั้งรอ เมื่อเห็นว่าคนเป็นน้องยืนโพสต์ท่าเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงกดชัตเตอร์ลงไปอีกหนึ่งครั้ง

    ทำไมเหรอครับ ?แบมแบมถามอย่างงุนงงเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่กลับถ่ายรูปเขาไปถึงสองครั้ง

    ถ้าพี่ใช้กล้องโปรหรือกล้อง DSLR พี่จะถ่ายกี่รูปก็ได้ แล้วพี่ก็ค่อยมาเลือกลบทีหลัง เหมือนที่พี่ทำบ่อยๆเวลาไปถ่ายตามงาน กดชัตเตอร์ไปเป็นร้อยๆรูป เอาเข้าจริงๆใช้ได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ

    “…”

    เพราะพี่จะถ่ายตอนไหนก็ได้ ถ่ายจากมุมไหนก็ได้ แล้วก็คิดแค่ว่า ค่อยไปตามลบทีหลัง เหมือนที่พี่ถ่ายแบมไปเมื่อกี๊นี้มาร์คยิ้มนิดๆพร้อมหันหน้าจอแสดงผลที่มีรูปแบมแบมทำหน้าเหวอให้ดู คนในภาพจึงทำได้แค่ยืนเขินกับรูปหลุดๆของตัวเอง

    พี่มาร์ค ลบเถอะครับ…”

    แต่ถ้าใช้กล้องฟิล์ม พี่ต้องคอยระวังตลอดเวลาที่จะถ่าย ถ้าพลาดแล้วคือพลาดเลย เสียฟิล์มไปเปล่าๆ เพราะกล้องฟิล์มมันถ่ายได้จำกัดและลบไม่ได้

    “…”

    พี่ถึงต้องบอกให้แบมยืนโพสต์ท่าก่อนถ่าย รูปจะได้ไม่เสีย

    “…”

    เข้าใจที่พี่พูดรึเปล่า ?

    คือ…” แบมแบมได้แต่กะพริบตาปริบๆ เป็นเชิงว่า เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ยังไม่เข้าใจทั้งหมด

    เอาเป็นว่า ที่พี่ใช้กล้องฟิล์มเพราะเวลาถ่ายรูปจะได้ระวังและมีสมาธิมากขึ้น มันทำให้พี่ต้องคิดทุกครั้งก่อนจะถ่ายแต่ละรูป ทำให้พี่ได้มองไปรอบๆ ได้เห็นบรรยากาศทั้งหมด และเลือกถ่ายในสิ่งที่อยากจะเก็บมันไว้จริงๆ ไม่ใช่สักแต่กดถ่ายโดยไม่สนใจรอบข้าง ถ้าทำแบบนั้นจะถือว่ามาเที่ยวได้ยังไง จริงมั้ย ?

    “…” แบมแบมพยายามประมวลผลคำพูดของมาร์ค ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

    เด็กๆนี่เข้าใจอะไรยากจัง ช่างเถอะ เดินเที่ยวต่อดีกว่ามาร์คยิ้มให้รุ่นน้องที่ยืนทำหน้าเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เขาพูด มือหน้าเอื้อมไปขยี้กลุ่มผมของคนเป็นน้องเบาๆก่อนจะเดินนำหน้าออกไป ทิ้งให้แบมแบมยืนค้างไปครู่หนึ่ง

    อ้าว ทำไมไม่เดินมาล่ะ เดี๋ยวหลงกับพี่ไม่รู้นะ

    อาครับๆ

     

    แปลกดี

     

    คำสั้นๆที่แบมแบมนิยามให้กับมาร์คผุดขึ้นมาในหัวพร้อมรอยยิ้มบางๆที่ปรากฏบนหน้าแบมแบมที่กำลังวิ่งตามมาร์ค เขายอมรับว่าไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่มาร์คพูดออกมาเท่าไหร่นัก แต่เขากลับรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่แปลกแต่ก็น่าสนใจมากจริงๆ

     

    น่าสนใจ

     

    จริงๆนะ

     

     

    ทางด้านของแจ็คสัน ยองแจ และยูคยอมที่จับกลุ่มมาเดินด้วยกันก็มองจะสนอกบรรยากาศรอบข้างเป็นพิเศษ ยองแจกำลังยืนจดโน้ตลงสมุดบันทึกที่เขาบอกกับทุกคนว่า ใช้จดไอเดียสำหรับการเขียนนิยาย ยูคยอมที่ถ่ายเซลฟี่ตลอดเวลาและอัพเดทลง Instagram อย่างรวดเร็วตามประสาวัยรุ่นวัยเรียน และแจ็คสันที่พยายามเรียนรู้ภาษาไทยในหนังสือคู่มือนักท่องเที่ยวของยูคยอม

     

    ซาหวัดดีคับ ?แจ็คสันก้มอ่านหน้าก้มตาอ่านแล้วพึมพำกับหนังสือ ทำให้ยองแจที่ยืนอยู่ข้างๆหันมามองแล้วหัวเราะเบาๆ

    ทำอะไรของพี่น่ะ ?

    ก็ลองพูดภาษาไทยดูไง ฟังนะ ซาหวัดดีคับแจ็คสันพูดด้วยสำเนียงที่เจ้าตัวคิดว่าชัดเจนที่สุด ส่วนยองแจก็ได้แต่อมยิ้มกับรุ่นพี่ที่พยายามพูดอย่างตั้งใจ

    ถ้ามีความสุขก็ทำไปเถอะยองแจว่าพลางร่างภาพด้วยลายเส้นที่เขาเข้าใจมันอยู่คนเดียวลงสมุดบันทึกขนาดเล็กที่เขาหยิบมันติดมาด้วย

    ย้า !! พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงฮะ ชเวยองแจ !”

    ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรพี่เลยนะ

    พี่แจ็คสัน พี่ยองแจ ถ่ายรูปกันยูคยอมที่เซลฟี่กับโทรศัพท์มือถืออยู่พักใหญ่เรียกให้รุ่นพี่รุ่นน้องที่กำลังจะตีกันให้หันมามอง และทั้งคู่ก็พบว่าตอนนี้ในมือของยูคยอมมีกล้องโพลารอยด์สีขาวขนาดเล็กอยู่

    หือ ? มีของแบบนี้ด้วยเหรอ ?แจ็คสันถามเมื่อเห็นของในมือหลานรหัส

    ยืมเพื่อนที่มหาลัยมาอีกทีฮะ มาเที่ยวทั้งทีก็อยากมีรูปเก็บไว้บ้างยูคยอมยิ้มแป้นจนตาหยี ก่อนจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงให้ช่วยถ่ายรูปให้ และแล้วรูปใบแรกก็ถูกล้างออกมาจากกล้องขนาดเล็ก

    ทำไมหน้าพี่เป็นแบบนี้ล่ะ ?ยองแจโวยวายเมื่อเห็นใบหน้าที่เขาไม่ค่อยมั่นใจว่ามันดูดีเท่าไหร่นักบนรูป

    หน้าพี่แจ็คสันตลกกว่าพี่ยองแจอีก ฮ่าๆ

    พูดงี้หมายความว่าไงวะแจ็คสันว่าพลางดีดแขนยูคยอมเป็นเชิงหยอกล้อ

    ผมล้อเล่น ไปกันต่อเถอะ แถวนี้คนเริ่มเยอะแล้ว

    เออ ยูคยอม ขอยืมโพลารอยด์แป๊บดิแจ็คสันขัดขึ้นมาเสียก่อน พร้อมเอ่ยปากขอยืมของของหลานรหัส

    เอาไปทำอะไร ?ถึงจะถามแบบนั้น แต่ยูคยอมก็ส่งมันให้กับแจ็คสันอยู่ดี

    ยองแจ มานี่เดี๋ยวดิแจ็คสันกระดิกนิ้วเรียกรุ่นน้องอีกคนที่ก้มหน้าก้มตาจดบันทึกอยู่

    ว่าไงพี่ ?” แจ็คสันไม่พูดพร่ำทำเพลง ชายหนุ่มเดินเข้าไปกอดคอรุ่นน้องที่กำลังอยู่ในโลกส่วนตัว คนที่ถูกกอดคอจึงเงยหน้าขึ้นมา และพบว่ากล้องโพลารอยด์สีขาวกำลังถูกชูขึ้นเป็นมุมสูงเพื่อเตรียมจะถ่าย

    มองกล้องหน่อย

    เฮ้ย อย่าเพิ่งกดนะยองแจรีบห้ามพร้อมใช้มือปัดผมเพื่อจัดทรงให้เข้าที มือบางเริ่มสั่นเล็กน้อยเพราะเริ่มลนลานกับเหตุการณ์ตรงหน้า

    เสร็จยัง ?

    เสร็จแล้วๆเมื่อเห็นว่าอีกคนพร้อมแล้ว แจ็คสันจึงนับจังหวะก่อนที่กดชัตเตอร์ และใช้เวลาไม่นานนัก รูปใบเล็กๆก็ถูกล้างออกมาจากกล้องอีกครั้ง

     

    รูปคู่รูปที่สองของแจ็คสันกับยองแจ

     

    อะไรกันเนี่ย เห็นผมเป็นส่วนเกินกันเหรอ ?ยูคยอมหยอกพร้อมเบะปาก

    เปล่าน่า พอดีฉันนึกอะไรขึ้นมาได้ตอนถ่ายโพลารอยด์น่ะแจ็คสันหันไปอธิบาย ส่วนยองแจเองก็ได้แต่ยืนงงกับอีกคนที่ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน

    “…”

    อ่ะ ยองแจ ให้แจ็คสันยื่นโพลารอยด์ที่เพิ่งถ่ายเมื่อครู่นี้ให้กับยองแจ

    ให้ผม ?

    ใช่

    ทำไมเหรอครับ ?รูปใบเล็กๆตรงหน้าที่ถูกยื่นมาให้ รูปที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร กลับทำให้หัวใจของยองแจเต้นไม่เป็นจังหวะ

    ก็พี่นึกขึ้นมาได้ว่า วันที่พี่เรียนจบพี่ถ่ายโพลารอยด์คู่กับทุกคน แต่ตอนที่ถ่ายนายดันไม่อยู่ หลังจากนั้นถึงได้ให้รูปเดี่ยวไปแทนเพราะหานายไม่เจอไง

    “…”

    ทีนี้ก็มีรูปคู่กันสักทีนะ

    ขอบคุณนะครับยองแจค่อยๆเอื้อมไปรับรูปโพลารอยด์จากแจ็คสันพร้อมโค้งให้

    อ่ะแฮ่ม !” ยูคยอมที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่แกล้งกระแอมขึ้นมา ทั้งแจ็คสันกับยองแจจึงหลุดหัวเราะออกมาพร้อม ทั้งสามคนจึงรีบเดินชมด้านในของวัดพระแก้ว รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ด้านในกันต่อ

     

    ทางด้านของจินยองที่แยกตัวออกมาเดินคนเดียวนั้น ในตอนนี้เขากำลังเดินดูงานจิตรกรรมฝาผนัง แต่ด้วยความไม่เคยชินกับสถานที่ที่มีคนเป็นจำนวนมาก แถมรอบข้างของเขายังเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ทำให้ร่างบางเริ่มรู้สึกอึดอัดและพยายามหาทางออกมาเดินด้านนอกในที่สุด

    และก็เป็นโชคร้ายของจินยองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อเขาพบว่า คนที่เขาไม่อยากเจออย่างอิมแจบอม กำลังยืนถ่ายรูปอยู่ด้านนอก และแจบอมเองก็รู้ตัวว่ามีคนกำลังมองเขาอยู่ ทั้งคู่ยืนมองหน้ากันอยู่พักหนึ่งท่ามกลางผู้คนมากมาย และจินยองก็เลือกที่จะเดินออกไปจากบริเวณนั้น แจบอมพยายามเดินตามเพื่อไม่ให้อีกคนหลุดออกไปจากระยะสายตา แต่เขาก็ไม่สามารถสู้กับจำนวนของนักท่องเที่ยวรอบๆวัดได้ และในที่สุดเขาก็คลาดกับจินยองอีกครั้ง

    ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เมื่อทุกคนเดินเที่ยวชมด้านในของวัดพระแก้ว พิพิธภัณฑ์ด้านใน รวมไปถึงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเสร็จเรียบร้อย จึงมาพบกันยังจุดนัดหมายที่อยู่ด้านหน้าวัดในสภาพเหนื่อยล้า เพราะอากาศที่ค่อนข้างร้อนเนื่องจากเป็นช่วงเดือนเมษายน และผู้คนจำนวนมากเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นช่วงเวลาเที่ยวของคนไทย รวมไปถึงชาวต่างประเทศ ทำให้ทุกคนเพลียไปตามๆกัน

     

    เป็นไง ?แจ็คสันออกปากถามเพื่อนๆทุกคน

    เหนื่อยดิ ถามได้แจบอมตอบสั้นๆ

    สนุกดี ได้รูปมาเยอะเลย แล้วนี่จะไปที่ไหนกันต่อ ?มาร์คถามถึงสถานที่ต่อไป

    เอาล่ะ ที่ต่อไปที่เราจะไปกันก็คือ ตลาดน้ำขวัญเรียม เป็นตลาดน้ำที่เพิ่งเปิดเมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา อยู่ที่มีนบุรี ซึ่งรอบนี้เราจะนั่งรถตู้กันไป พวกนายโอเคใช่มั้ย ?แจ็คสันอธิบายถึงที่เที่ยวที่ต่อไป ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

    งั้นก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวไปกินข้าวเที่ยงที่นั่นเลยก็แล้วกัน แบมแบม ฝากนำทางด้วยแจ็คสันหันไปขอความช่วยเหลือจากคนเป็นเจ้าบ้านอีกครั้ง

    ได้ครับแบมแบมพยักหน้าพร้อมยิ้มให้ทุกคน ก่อนที่จะเริ่มต้นการเดินทางอีกครั้ง

     

    หลังจากนั่งรถตู้มาพักใหญ่ เนื่องจากการจราจรที่เริ่มติดขัดเพราะเป็นเวลาเที่ยงวัน และเป็นช่วงเทศกาล ในที่สุดทุกคนก็มาถึงยังตลาดน้ำขวัญเรียม ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่ดูค่อนข้างใหม่เนื่องจากเพิ่งสร้างเมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมากพอประมาณ ซึ่งจุดที่น่าสนใจของที่นี่ก็คือ สะพานที่ถูกจำลองเป็นรูปเรือเชื่อมทั้งสองฝั่งที่ขนาบด้วยวัด ทุกคนจึงไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกันโดยขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ก่อนที่จะเดินเข้าสู่ตัวอาคารไม้ที่เป็นตลาด

     

    จะกินข้าวด้วยกันหรือแยกกันกินดี ทุกคนว่ายังไง ?แจ็คสันซึ่งเป็นหัวหน้าการเดินทางครั้งนี้ถาม

    ฉันว่าทุกคนคงอยากกินอะไรไม่เหมือนกัน แยกย้ายกันเดินเหมือนเดิมมั้ย ?จินยองเสนอ ซึ่งเหตุผลเป็นเพราะว่า เขาอยากเดินคนเดียวเหมือนเดิม

    เอางั้นก็ได้ แต่รอบนี้ฉันอยากเดินกับจินยอง ขอไปด้วยคนได้มั้ย ?มาร์คหันไปถามคนที่เสนอความคิดเมื่อครู่

    “…” จินยองทำตาโตพร้อมชี้ที่ตัวเองเป็นเชิงสงสัย

    ถ้านายไม่โอเคก็ไม่เป็นไรนะมาร์คพูดด้วยเสียงที่ติดจะเศร้านิดๆ ทำให้จินยองรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย

    อาคือถ้านายไม่กลัวอึดอัด มาเดินด้วยกันก็ได้นะจินยองตอบด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะเขากลัวว่าจะทำให้อีกคนอึดอัดถ้ามาเดินด้วยกัน

    ขอบใจนะ แบมแบม รอบนี้จะมาเดินกับพี่มั้ย ?คนผมแดงหันไปถามรุ่นน้องอีกคนที่เปลี่ยนสถานะกลายเป็นลูกศิษย์ของเขาไปเสียแล้ว

    รอบนี้ผมขอไปเดินกับพี่ยองแจก็แล้วกันครับแบมแบมว่าพร้อมหันไปมองหน้ายองแจ เพราะพวกเขาตกลงกันมาตั้งแต่อยู่บนรถตู้แล้ว

    รอบนี้ไปกับใครดี…” ยูคยอมที่คิดไม่ตกเริ่มลังเล จะไปกับแจบอม เขากับผู้ชายคนนั้นก็ไม่ค่อยจะได้คุยกัน รอบที่แล้วก็เพิ่งไปกับแจ็คสันและยองแจมา จะขอไปกับจินยองก็ดันติดที่ว่ามีมาร์คอยู่ด้วย

    ไปกับพวกเรามั้ย เดี๋ยวจะพาไปหาขนมอร่อยๆกินแบมแบมชวนคนตัวโตที่ยืนคิดอยู่พร้อมข้อเสนอที่เชิญชวนอีกคนได้เป็นอย่างดี

    จริงเหรอ ?ท่าทางเหมือนเด็กของยูคยอมทำให้ทุกคนหัวเราะออกมา

    งั้นฉันเดินกับแจบอม ตกลงตามนี้ ทางใครทางมัน เจอกันไม่เกินบ่ายสาม บ๊ายบายแจ็คสันถือวิสาสะเดินไปกอดคอแจบอม ก่อนจะบอกลาทุกคนแล้วเดินหายเข้าไปเป็นคู่แรก

    พวกเราจะกินอะไรกันดี ?ยองแจถามแบมแบมและยูคยอม

    ข้างในมีของกินเยอะแยะเลย เดี๋ยวเข้าไปแล้วจะเลือกไม่ถูกแบมแบมพูดพลางหัวเราะ ในขณะที่ยูคยอมกำลังชะเง้อมองจากด้านนอกว่าด้านในตลาดมีลักษณะเป็นอย่างไรอย่างสนอกสนใจ

     

    ทั้งสามคนเดินเข้าไปในตลาด ตอนนี้ด้านนอกจึงเหลือเพียงจินยองกับมาร์คที่ต่างคนต่างเงียบ และแล้วก็เป็นมาร์คอีกครั้งที่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบเช่นเคย

     

    กินข้าวกลางวันมั้ย ?

    ก็ดีนะ ฉันก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกันเมื่อเห็นว่าจินยองตอบเป็นรูปประโยคที่ยาวขึ้น ก็เริ่มทำให้มาร์คเบาใจ

    กินร้านนั้นมั้ย ?มาร์คชี้ไปยังร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจินยองก็พยักหน้ากลับอย่างว่าง่าย มื้อเที่ยงของทั้งสองคนจึงไปจบลงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวด้านหน้าตลาดน้ำ

     

    หลังจากกินเสร็จ มาร์คกับจินยองพากันเดินดูรอบๆตลาดน้ำที่มีร้านขายของต่างๆนานาตลอดทาง ทั้งของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม และขนมสารพัดชนิด โดยที่มาร์คหยุดเดินเป็นระยะๆเพื่อถ่ายรูป ซึ่งจินยองก็ไม่ได้ว่าอะไร

     

    จินยอง มองกล้องหน่อยมาร์คหันกล้องมาทางจินยอง

    ไม่เอาดีกว่าจินยองส่ายมือน้อยๆเป็นเชิงปฏิเสธ

    นานๆจะมาทั้งทีนะ สักรูปเถอะเมื่อเห็นว่าปฏิเสธไม่เป็นผล จินยองถึงทำได้แค่ยิ้มบางๆ ก่อนที่เสีงกดชัตเตอร์จะดังขึ้น

    เวลายิ้มนายดูดีนะ หัดยิ้มบ้างก็ดี

    “…”

    “…”

    ทำไมถึงเลือกมาเดินกับฉันล่ะ ?จินยองเป็นฝ่ายถามออกมา หลังจากที่เขาเก็บความสงสัยเอาไว้อยู่พักใหญ่

    นึกว่าจะถามอะไร

    “…”

    อันนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน

    “…”

    แต่ฉันว่านายก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แค่พูดน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง

    แค่นั้นเหรอ ?

    จะให้ฉันพูดความจริงเลยมั้ยล่ะ ?มาร์คถามกลับเมื่อถูกอีกคนย้อนกลับมา

    ความจริงอะไรล่ะ ?

    นายกับแจบอมนิสัยเหมือนกันมาก ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าพวกนายสองคนเคยเป็นแฟนกันจริงๆหรืออะไรก็ตาม ฉันเดาได้แค่ว่าพวกนายรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อคืนตอนที่นอนในห้องนั่งเล่น ฉันก็เลยรู้ว่า แจบอมเป็นคนคุยเก่งนะ เสียแค่ว่าฉันต้องเป็นฝ่ายชวนหมอนั่นคุยก่อน

    “…” คำตอบของมาร์คทำให้จินยองถึงกับพูดไม่ออก หลังจากที่ได้ยินประโยคแรกแล้วก็ทำให้จินยองไม่ได้ฟังอะไรต่อจากนั้นอีก

    “…”

    จริงๆแล้ว ฉันกับแจบอมเคยคบกันมาก่อน เหมือนที่นายเข้าใจนั่นแหละ

    โชคดีที่ฉันเดาไว้ถูก 50% ก็เลยไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่ ส่วนอีก 50% ขอตกใจกับความโลกกลมก็แล้วกันนะมาร์คหัวเราะออกมาเพราะไม่คาดคิดว่าจินยองจะเป็นฝ่ายบอกเขาเสียเอง

    แต่จบกันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ก็เลยมองหน้ากันไม่ค่อยติดอย่างที่เห็นนั่นแหละ

    แต่ก็ยังลืมกันไม่ลงใช่มั้ยล่ะ ?

    “…”

    หน้าตาพวกนายสองคนมันแสดงออกชัดเจนนะ

    จริงเหรอ ?

    ถ้าช่างสังเกตพอน่ะนะ คนอื่นๆคงไม่สงสัยกันหรอก

    “…”

    ช่างเถอะ ฉันขอโทษก็แล้วกันที่ดันพูดเรื่องนี้ออกมา อยากไปหาอะไรกินมั้ย ?มาร์คพยายามเลี่ยงประเด็นเพื่อไม่ให้จินยองรู้สึกไม่สบายใจ

    ฉันอิ่มแล้ว นายอยากกินอะไรอีกรึเปล่าล่ะ ?

    อืมฉันอยากกินน้ำมะพร้าวร้านนั้น ถ้ายังไง นายนั่งรอตรงนี้ไปก่อนนะ ฉันไปซื้อก่อน เดี๋ยวกลับมา

    ก็ได้จินยองพยักหน้าอย่างว่าง่าย ก่อนที่มาร์คจะเดินออกไป

     

     

    ทางด้านแจ็คสันกับแจบอมที่เดินตะลุยหาของกินจนได้ขนมและของฝากเต็มไม้เต็มมือเดินทอดน่องไปเรื่อยๆหลังจากที่พวกเขาเดินกันมาทั่วตลาด ในมือยังคงถือถุงน้ำอัดลม เดินมองบรรยากาศรอบๆไปด้วยความเพลิดเพลิน และแวะถ่ายรูปบ้างเป็นบางจุด ก่อนที่ทั้งสองคนจะพบเห็นบุคคลคุ้นหน้ากำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในระยะสายตา

     

    นั่นมันจินยองนี่หว่าแจ็คสันชี้ไปยังคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ

    แล้วไงวะ ?ถึงปากจะถามแบบนั้น แต่ดวงตาคมกลับจ้องไปยังคนที่นั่งคนเดียวอยู่ไม่วางตา

    แล้วไอ้มาร์คมันหายไปไหน ?

    จะไปรู้เหรอวะ แต่ตอนนี้กูเมื่อยแล้ว แวะไปนั่งก็ดีนะแจบอมเสนอ

    เออ กูกำลังจะบอกมึงแบบนั้นพอดี แจ็คสันว่า ก่อนที่ทั้งสองหนุ่มเดินเข้าไปหาจินยองที่นั่งพักริมทางอยู่คนเดียว

    จินยอง~~

    อ้าว แจ็คสัน …” จินยองหันไปทักทายเจ้าของเสียง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อพบว่ามีอีกคนเดินมากับแจ็คสันด้วย

    “…”

    คุณแจบอม…” จินยองทักทายคนที่เดินมากับแจ็คสันอย่างเลี่ยงไม่ได้

    นั่งด้วยนะแจ็คสันไม่รอให้จินยองอนุญาต แต่กลับวางของในมือและทิ้งตัวลงนั่งข้างๆจินยอง

    ตามสบายเลย

    อ้าว แจบอม มึงจะยืนเป็นเสาหินทำไมวะ นั่งสิเฮ้ย

    เสาหินพ่อง !” แจบอมขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินชื่อแปลกๆออกมาจากปากเพื่อน ก่อนจะนั่งลงข้างๆแจ็คสัน ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าแจ็คสันกำลังนั่งคั่นระหว่างทั้งสองคนอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของจินยอง แต่กลับทำให้แจบอมรู้สึกขัดใจมากจนหงุดหงิด

    จินยอง แล้วมาร์คหายไปไหนล่ะ ?

    เห็นว่าไปซื้อน้ำทางนั้น เดี๋ยวก็คงมา แล้วนี่นายซื้ออะไรมาเยอะแยะไปหมดเลย

    ของฝากพ่อแม่ เพื่อนที่ทำงาน แล้วก็ของที่ระลึก มาทั้งทีก็ต้องซื้อให้คุ้ม ใครจะไปเหมือนไอ้ตี๋ข้างๆที่ซื้อแต่ของกิน…” ไม่วายที่แจ็คสันจะหันมาแขวะเพื่อนอีกคนที่นั่งเคี้ยวขนมตุ้ยๆอยู่เงียบๆ

    เสือก…” คำด่าสั้นๆของแจบอมที่หงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้แจ็คสันถึงกับหดลงไปทันทีก่อนจะเบะปากออกมา

     

    อิมแจบอมกูขอสาปมึง !!!

     

     

    ในขณะที่ฝั่งของแบมแบม ยูคยอม และยองแจ ที่ได้ของกินเต็มไม้เต็มมือกำลังเดินเที่ยวอย่างมีความสุข และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกิน อีกทั้งยังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานตามประสาคนอายุยังน้อยและยังมีเรี่ยวมีแรงเดินเที่ยวได้เรื่อยๆ ยองแจยังคงมุ่งมั่นกับการจดบันทึกเช่นเคย ส่วนยูคยอมก็พยายามให้แบมแบมสอนพูดภาษาไทยเพื่อใช้ต่อรองราคาและเรียกความเอ็นดูจากแม่ค้าป้าๆยายๆ ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะนอกจากที่ยูคยอมจะได้ของกินในราคาของคนไทยแล้ว เขายังได้ของแถมเล็กๆน้อยๆจากทุกร้านมาอีกด้วย

     

    ยูคยอมได้ขนมเต็มมือเลยแบมแบมแซว

    เพราะแบมแบมนั่นแหละ ขอบใจมากนะ ฉันกะว่าจะเอาไปแบ่งให้ทุกคนกินที่ห้องนั่นแหละ

    นั่นใช่พี่มาร์ครึเปล่า ?ยองแจชี้ให้ทั้งสองคนดูผู้ชายผมแดงคนหนึ่งที่กำลังยืนคุยกับแม่ค้าด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ

    ฉันว่าใช่นะ…” ยูคยอมชะโงกมอง และเขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าสีผมแบบนั้นคงมีอยู่คนเดียว

    เหมือนว่าพี่เค้าจะกำลังมีปัญหาอยู่นะแบมแบมที่เห็นท่าทางไม่ดีของมาร์คจึงเริ่มเป็นห่วง ทั้งสามคนจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา

     

    มาร์คที่เดินแยกออกมาซื้อน้ำมะพร้าวกำลังประสบปัญหาใหญ่เป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณป้าวัยกลางคนซึ่งเป็นเจ้าของร้านไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับเขาได้ และคนรอบข้างที่เขาพยายามจะเข้าไปขอความช่วยเหลือต่างก็เดินเลี่ยงเมื่อเห็นว่าเขาเป็นคนต่างชาติ

     

    คำพูดที่บอกว่า คนไทยกลัวชาวต่างชาติมากกว่าผีนี่เป็นเรื่องจริงสินะ

     

    “Sorry , how much ?” มาร์คพยายามพูดช้าๆชัดๆเพื่อให้เจ้าของร้านฟังรู้เรื่อง แต่ก็ไม่เป็นที่ประสบผลสำเร็จ

    “what ??” แม่ค้าพูดคำที่มาร์คได้ยินมาประมาณสิบกว่ารอบ

     

    เหตุการณ์ดังกล่าวตกอยู่ในสายตาของทั้งสามคนที่เดินเข้ามาหามาร์ค ในขณะที่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัว มาร์คเริ่มอารมณ์เสียกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาก็ยังอยากที่จะลองกินน้ำมะพร้าวอยู่

     

    ยูคยอม ไปช่วยพี่มาร์คหน่อยสิแบมแบมผลักลูกศิษย์ของตัวเองไปด้านหน้า

    เดี๋ยวสิ !”

    ใช้ภาษาไทยที่ฉันสอนมาไง เอาเลย นายทำได้ พี่มาร์คจะได้เลิกหมั่นไส้นายสักทีไง โอกาสทำคะแนนนะแบมแบมชี้ทางให้ยูคยอมเพราะเขารู้ดีว่า จริงๆแล้วยูคยอมอยากคุยกับมาร์คแบบปกติ ถึงแม้ว่าวิธีการแสดงออกจะแปลกไปสักหน่อยก็ตาม (และมันก็ทำให้บทสนทนาของทั้งสองคนจบลงด้วยการทะเลาะกันทุกครั้ง)

    ฉันพูดตอนไหนว่าอยากคุยกับเขาดีๆ ?

    ฉันคิดแทนนายเอง ไปเถอะน่าแบมแบมหัวเราะพร้อมผลักยูคยอมเข้าไปใกล้มาก จนคนผมแดงที่ยืนอยู่ถึงกับสะดุ้งเมื่อพบว่าคนที่มายืนอยู่ข้างๆตนเป็นใคร

    “…”

    ขอโทษนะคร้าบ อันนี้ กี่บาทคั่บ ?ยูคยอมพยายามพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงที่เขาพยายามทำให้มันชัดเจนที่สุดกับแม่ค้า มาร์คหันไปมองหน้าร่างสูงด้วยสีหน้างุนงงปนไม่เข้าใจ

    “oh … twenty baht !” แม่ค้าพยายามตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งมันทำให้มาร์คหัวเสียมากกว่าเดิม เพราะแม่ค้าดันไม่เข้าใจคำถามของเขา แต่กลับตอบไอ้เด็กตัวโตคนนี้เป็นภาษาอังกฤษได้เสียอย่างนั้น

    พี่จะเอากี่ถุง ?ยูคยอมถามร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆตน

    สองถุงมาร์คตอบอย่างเจ็บใจ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบหน้าเด็กคนนี้ก็ตามที แต่สถานการณ์ในตอนนี้มันทำให้เขาไม่มีทางเลือก

    เอาซองถุงคั่บยูคยอมบอกคุณป้าแม่ค้าเป็นภาษาไทยพร้อมชูสองนิ้ว และการซื้อขายครั้งนี้ก็จบลงหลังจากที่มาร์คจ่ายเงินเป็นจำนวนสี่สิบบาท

    ขอบคุณนะค่าบ~ ยูคยอมไม่ลืมที่จะไหว้พร้อมพูดขอบคุณเป็นภาษาไทยตามที่แบมแบมสอน เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนขายได้เป็นอย่างดี

    เอ้า…” มาร์คยื่นน้ำมาให้ยูคยอมหนึ่งถุง

    หืม ?

    ให้…”

    ให้ผม ?

    ให้ลิงมั้ง ก็ยื่นให้ตรงหน้าเนี่ยมาร์คเริ่มฉุนอีกครั้งเมื่อถูกคนตรงหน้าทำหน้าเหรอหราใส่

    ให้เพื่อ ?

    ตอบแทนที่ช่วย พอใจยัง ?

    “…”

    ไม่เอาก็ไม่เป็…”

    เอาครับเอา ขอบคุณนะคร้าบ~ คุณต้วนอี้เอิน~ยูคยอมยิ้มหวานจนตาปิดก่อนจะรับถุงน้ำมาจากมาร์ค โดยไม่ลืมทิ้งลายความกวนเอาไว้

    อย่าลามปาม !”

     

    มาร์คสวนกลับก่อนจะเดินออกมาจากร้านเพื่อกลับไปหาจินยอง แบมแบม ยองแจ และยูคยอมจึงเดินตามมาด้วยเช่นกัน และการท่องเที่ยวในวันแรกของทั้งเจ็ดคนจึงจบลงเพียงเท่านี้

    หลังจากกลับมาถึงคอนโด ทุกคนก็แยกย้ายกันทำกิจกรรมของตัวเอง มาร์คกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างนอก ส่วนแจบอมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่กลายเป็นเตียงนอนของเขา ส่วนคนที่เหลือก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตัวเองเพื่อพักผ่อน

     

    มาร์ค…”

     

    มาร์คหันไปมองต้นเสียงที่ดังขึ้น และพบว่าคนที่เรียกเขาคือ จินยอง ร่างเล็กโผล่หัวออกมาจากประตูห้องที่แง้มไว้เพียงเล็กน้อย คนผมแดงเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปหาจินยองใกล้ๆ และทุกเหตุการณ์ก็ถูกจับจ้องโดยแจบอมเช่นเคย

     

    ว่า ?”

    คือ…”

    “…”

     

    คืนนี้มานอนกับฉันได้มั้ย ?






    ตายแล้ว !!! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
    หรือเรื่องนี้จะกลายเป็นมาร์คเนียร์ !?!
    โอ้ไม่นะ ขุ่นพระช่วย ... /โดนรุมกระทืบ

    หลอกค่ะหลอก
    ไม่บอกหรอกว่าจบคู่ไหน ลงเอยยังไง
    ไปลุ้นเอาเองนะ
    แต่บอกเลยว่าตอนหน้าห้ามพลาดจริงๆค่ะ ใครไม่อ่านนี่พลาดมากบอกเลย
    เพราะเราจะเริ่มพาคุณกลับไปยัง Side Story ของทุกคนแล้วนะคะ

    และต้องขออภัยที่ลงช้าด้วยนะคะ
    ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ขัดข้อง (หล่อนนั่งดูโดเรม่อน หยั่มมาแตหลอ !!!)
    สัญญาว่าตอนต่อไปจะมาไม่เกินวันพุธนี้ค่ะ
    เผลอๆจะมาพรุ่งนี้ (ถ้าไม่ขี้เกียจ)
    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมากๆนะคะ
    ตอนหน้าต้องตั้งตารออ่านนะ
    สปอยล์ว่าเป็นพาร์ทที่หลายๆคนรอคอย (รึเปล่า ??) //ช่างหลงตัวเองอะไรแบบนี้

    ยังสามารถเจอกันได้ที่แท็ก #ฟิคโลกกลม และทวิตของไรท์ @mookiizsgc7 นะคะ
    รักมาก รักมาย รักไม่น้อย แต่รักนานนะเออ /อะไรเอ๊ง !!



    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×