ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] LES VACANCES. #BNIOR #JACKJAE #YUGMARK #MARKBAM

    ลำดับตอนที่ #8 : 0 7 | La question.

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 58





    07 | La Question.
     

    “…”

     

    ความเงียบคือคำตอบที่แจบอมได้รับมาจากจินยอง ดวงตากลมโตของคนตรงหน้าค่อยๆช้อนขึ้นมามองแจบอมหลังจากที่พยายามหลบสายตามาตลอด แต่ใบหน้าขาวก็ยังคงนิ่งและปราศจากรอยยิ้มหรือความรู้สึกใดๆเช่นเดิม

     

    “…”

    ผมไม่เล่น

    “…” คำตอบของจินยองทำให้แจบอมที่ยิ้มออกในตอนแรกต้องหุบยิ้มลงอีกครั้ง

    อย่าพยายามเลยนะแจบอม มันไม่เหมือนเดิมแล้วจริงๆคำพูดภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งของจินยองแจบอมจึงทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ

    ขอโอกาสให้ฉันซักครั้งไม่ได้จริงๆเหรอจินยอง ?เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายรู้ทันความคิดของเขา ก็คงไม่มีเหตุผลที่แจบอมจะแกล้งทำเป็นเฉไฉอีกต่อไป

    แล้วแจบอมเคยให้โอกาสฉันพูดอะไรในตอนนั้นบ้างมั้ย ?

    “…”

    ฉันให้โอกาสแจบอมในฐานะเพื่อนของแจ็คสันแล้ว อย่าเอาโอกาสที่ฉันให้มาทำร้ายฉันเป็นครั้งที่สองเลย

    “…”

    แก้วที่มันแตกไปแล้ว มันต่อกลับมาเหมือนเดิมได้ยาก แจบอมเคยได้ยินประโยคนี้ใช่มั้ย ?ไม่มีคำตอบใดๆออกมาจากแจบอมนอกจากการพยักหน้าเบาๆ

    แต่แก้วมันก็คือแก้ว ต่อให้มันแตกไปแล้ว ยังไงมันก็ยังถูกเรียกว่าแก้วอยู่ดี

    ฉันไม่เข้าใจแจบอมขัดขึ้นมา ใบหน้าหล่อเริ่มขมวดคิ้วเป็นปมเหมือนได้ยินคำพูดที่ยากจะเข้าใจของอีกฝ่าย เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ละเอียดอ่อนพอที่จะเข้าใจคำพูดซับซ้อนแบบนั้น

    บางทีทั้งฉันและแจบอม เราอาจจะยังรักกันอยู่ก็ได้ แต่ความรู้สึกที่มันเสียไปแล้ว จะทำยังไงมันก็คงเอาคืนไม่ได้

    “…”

    ถือว่าฉันขอร้องนะแจบอม…”

    “…”

     

    ให้เรื่องของเรามันเป็นแค่ความทรงจำเถอะนะ

     

     

    .

    .

    .

     

     

    หมดเวลาของช่วงเช้าที่ถนนข้าวสาร ทั้งเจ็ดคนจึงพากันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยขออาศัยห้องน้ำจากบ้านใกล้เรือนเคียงบริเวณนั้น ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ก่อนจะพากันขึ้นรถตู้ไปยังสถานที่ต่อไปตามตารางนัดหมายที่แจ็คสันกำหนดไว้

    บรรยากาศภายในรถตู้โดยสารค่อนข้างเงียบ เพราะนอกจากจะมีพวกเขาทั้งเจ็ดคนแล้ว ยังมีผู้โดยสารคนอื่นๆที่ต้องใช้บริการรถตู้โดยสารประจำทางด้วยเช่นกัน เนื่องจากการจราจรที่ติดขัดเป็นอย่างมากเพราะถนนหนทางหลายสายถูกปิดด้วยมวลมหาประชาชนที่ออกมาเล่นน้ำในวันสงกรานต์ ทำให้ทุกคนต้องนั่งกระจัดกระจายกันไป

    และแล้วทุกคนก็มาถึงสถานที่ต่อไป แต่ภาพตรงหน้าก็ทำให้ทั้งเจ็ดหนุ่มต้องหยุดหายใจไปชั่วขณะ เพราะภาพที่เห็นนั้นเรียกได้ว่าเป็นความแออัดของประชาชนที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยพบเจอ ผู้คนนับหมื่นคนที่เบียดเสียดกัน บวกกับอากาศที่ร้อนระอุของประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร เป็นอะไรที่ไม่เข้ากันอย่างถึงที่สุด

     

    ผมขอถอนตัว…” คนที่ดูจะตื่นเต้นที่สุดในตอนแรกอย่าง ยูคยอม ถึงกับเอ่ยปากออกมาหลังจากยืนมองภาพตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง

    เหมือนกันทั้งยองแจและแจบอมพูดขึ้นมาพร้อมกัน

    “…” รวมไปถึงมาร์คและจินยอง ที่แม้ว่าจะไม่ต้องพูดอะไร แต่สีหน้าและสายตาของทั้งสองคนก็เป็นเหมือนคำประท้วงอยู่กลายๆ

    ฉันก็กำลังจะพูดแบบนั้นพอดีแจ็คสันที่เป็นตัวตั้งตัวตีวางกำหนดการการเที่ยวในครั้งนี้ว่า และแบมแบมที่เป็นเจ้าบ้านก็พยักหน้าเบาๆ

     

    บทสรุปจึงลงเอยที่การยกเลิกแผนที่เล่นสงกรานต์ต่อที่ ถนนสีลมเพราะพวกเขารู้ตัวดีว่าคงจะไม่สามารถสู้กับประชาชนนับหมื่นคนที่เบียดเสียดกันยาวเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร

     

    งั้นไปเดินสยามแทนก็แล้วกัน ยังไงพวกเราก็เปลี่ยนชุดแล้ว นั่ง BTS ไปคงไม่มีปัญหาอะไร

    กูว่ามีนะ…” แจบอมท้วงขึ้นเมื่อได้ยินเพื่อนของตนพูดประโยคก่อนหน้า

    มึงหมายถึง ?แจ็คสันหันไปหาคนที่เพิ่งขัดเขาขึ้นมา

    นั่นไง

    ชิบหาย…”

     

    แจบอมชี้นิ้วไปยังทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า และคำอุทานก็หลุดออกมาจากปากของแจ็คสันทันทีหลังจากหันไปมองตาม นอกจากด้านล่างของถนนสีลมที่เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว แม้แต่บริเวณทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าและด้านในสถานีก็ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่กำลังเดินทางเพื่อมาเล่นสงกรานต์ที่นี่

     

    แล้วจะเอายังไงล่ะ ?มาร์คเองก็กลุ้มใจไม่แพ้กัน มันคงจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นักถ้าหากพวกเขาต้องวิ่งฝ่าผู้คนเหล่านั้นเพื่อขึ้นรถไฟฟ้า

    มันก็ไม่มีทางเลือกแล้วป่ะครับ ?และก็เป็นอีกครั้งที่มาร์คต้องหัวเสีย เมื่อรู้ว่าคนที่กำลังขัดเขาอยู่คือใคร

    ไม่ได้ขอความเห็นคนผมแดงหันไปตอกกลับเด็กหนุ่มตัวสูงที่ยืนควงปืดฉีดน้ำอยู่

    เสนอให้คนอื่นฟัง พี่ไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟังสิ

    คิมยูคยอม !”

    ว่าไงครับคุณต้วนอี้เอิน ?

    อย่าลามปาม ไม่สนิทอย่าติดตลก

    แล้วนี่ผมทำตัวตลกตรงไหน ?”              

    ไม่กวนประสาทฉันมันจะตายมั้ย ?

    ก็แล้วผมไปกวนพี่ตอนไหนล่ะครับ ?

    แล้วไอ้ที่ทำอยู่นี่ไม่ได้กวนเลยว่างั้น ?

    ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ได้กวนนะยูคยอมตอบพร้อมยิ้มจนตาหยี ยิ่งทำให้มาร์คอารมณ์เสียมากขึ้นไปอีก

    บอกเลยว่าครั้งนี้ฉันจะไม่ห้ามแล้วนะ หมดแรงจะห้ามแจ็คสันพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจโดยมีแบมแบมและยองแจยืนหัวเราะแห้งๆ

    ก็คงต้องยอมฝ่าเข้าไปนั่นแหละครับ วิ่งให้ไว ระวังเปียกกันด้วยนะครับ

     

    แบมแบมสรุปให้อย่างรวบรัด ทั้งเจ็ดคนจึงต้องยืนทำใจกันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงออกตัววิ่งขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้า ฝ่าฝูงชนนับพันคนที่ยืนกันอยู่แน่นขนัดตั้งแต่บันไดทางขึ้นไปจนถึงทางออกของสถานี โดยที่ต้องคอยหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกปะแป้งหรือโดนฉีดน้ำไปด้วย เนื่องจากทางสถานีรถไฟฟ้ามีกฎว่าไม่ให้คนที่ตัวเปียกใช้บริการโดยสารรถไฟฟ้า และทุกคนก็สามารถฝ่าเข้ามาได้สำเร็จ

    เนื่องจากเป็นเวลาบ่ายเศษๆ และผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังคงเล่นสงกรานต์กันอยู่ ภายในขบวนรถจึงไม่ค่อยมีผู้โดยสารมากนัก ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีจึงเดินทางมาถึงสถานีสยาม ซึ่งเป็นศูนย์รวมที่เรียกได้ว่า ย่านรวมตัวของชาวกรุงที่แทบจะครบวงจรเลยทีเดียว ทั้งอาหารการกิน ห้างสรรพสินค้า และอื่นๆอีกมากมาย ยิ่งเป็นวันเทศกาลแบบนี้ จึงไม่น่าแปลกที่จะมีผู้คนเป็นจำนวนมาก

     

    เอ้า ตามสบาย ทางใครทางมัน ใครอยากเล่นสงกรานต์ต่อก็ตามใจแจ็คสันว่า

    งั้นรอบนี้ผมขอไปเดินคนเดียวนะ ว่าจะไปหาพล็อตนิยายสักหน่อยยองแจพูด ก่อนจะเดินแยกตัวออกไปเป็นคนแรกตามประสาคนที่ต้องการใช้ความคิด

    ผมว่าจะไปหาอะไรกิน มีใครจะไปด้วยกันมั้ยฮะ ?

    ยูคยอม ฉันไปด้วยและผู้ร่วมทางของยูคยอมก็ยังไม่พ้นเพื่อนวัยใกล้เคียงกันอย่างแบมแบม

    ฉันคิดถึงจินยองม้ากมาก~ งั้นรอบนี้ขอไปกับจินยองก็แล้วกันแจ็คสันที่ถูกทอดทิ้งมาแล้วรอบหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปหาจินยองที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง ซึ่งคนตัวบางก็ได้แต่ยืนยิ้มให้เพื่อนสนิท

    เหลือฉันกับนาย จะเอายังไง ?มาร์คหันไปหาแจบอมที่กำลังกวาดสายตามองบรรยากาศรอบๆ

    ก็ไปมันด้วยกันนี่แหละน้ำเสียงติดกระแทกนิดๆของแจบอมทำให้มาร์คถึงกับหลุดหัวเราะในลำคอ

    ก็นึกว่าอยากจะเดินคนเดียว

    “…”

    ขอโทษก็แล้วกันที่ฉันไม่ใช่จินยอง แล้วก็เอาแต่ยืนมองแบบนั้น เขาคงจะมาเดินด้วยหรอก ประสาทเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังเอาแต่มองคนสองคนที่เดินนำหน้าออกไปแล้ว ก็ทำให้มาร์คอดคันปากที่จะจิกกัดสักเล็กน้อยไม่ได้

    บางที ฉันว่าคนที่พูดจากวนประสาทมันไม่ใช่ยูคยอมหรอก แต่เป็นนายมากกว่า

    เงียบไปเลย !”

    “…”

    แล้วเมื่อกี๊ไปเล่นสงกรานต์กับจินยองมา เป็นยังไงบ้าง ?

     

    บางทีแจบอมก็อดคิดไม่ได้ว่า เขาเริ่มปรับอารมณ์ตามมาร์คไม่ค่อยทันเสียแล้ว ตั้งแต่มาอยู่ด้วยกันสามวัน เขารู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้มีหลากหลายอารมณ์เสียเหลือเกิน จะเรียกว่าติสท์แตกมันก็ไม่เชิง แต่จะว่ามีหลายบุคลิกก็ไม่ใช่ ต้องเรียกว่า มาร์คจะปรับพฤติกรรมและอารมณ์ของตัวเองตามคนที่กำลังอยู่ด้วยเสียมากกว่า

     

    ก็ไม่มีอะไรแน่นอนว่าแจบอมไม่มีทางบอกเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับจินยองให้อีกฝ่ายฟังแน่ๆ

    แห้วชัวร์คำพูดสองพยางค์ของมาร์คทำให้แจบอมถึงกับต้องส่งสายตาไปมองทันที

    “…”

    ไปกันเถอะ ที่นี่วิวสวยดี ฉันอยากถ่ายรูปเล่น

     

    มาร์ครีบเดินนำหน้าโดยที่ไม่ลืมหยิบกล้องฟิล์มคู่ใจติดมือไว้ด้วย แจบอมได้แต่ถอนหายใจที่จะต้องมารับมือกับคนหลากหลายอารมณ์อย่างมาร์ค เขาจึงทำได้แค่เดินตามอีกคนไปเงียบๆ ในขณะที่สายตาก็มองสิ่งก่อสร้างและคิดอะไรต่อมิอะไรในหัวไปด้วยตามประสาสถาปนิกบ้างาน

    ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง มาร์คและแจบอมก็มาหยุดนั่งพักกันที่ม้านั่งภายในห้าง ไม่มีบทสนทนาใดๆออกมาจากทั้งสองคน ต่างฝ่ายต่างก้มหน้าก้มตาดูสมาร์ทโฟนของตน

     

    แชะ !

     

    เสียงชัตเตอร์จากกล้องโทรศัพท์ของมาร์คทำให้แจบอมเงยหน้าขึ้นมามองคนที่นั่งข้างๆที่กำลังยืนถ่ายรูปบรรยากาศภายในห้างโดยใช้เพียงโทรศัพท์มือถือเท่านั้น

     

    ทำไมไม่ใช้กล้องถ่ายล่ะ ?แจบอมอดที่จะถามไม่ได้

    จะอัพโหลดรูปลง Facebook กล้องฟิล์มมันทำแบบนั้นไม่ได้

    รายงานความเป็นไปให้โลกโซเชียลรับรู้ว่างั้นเถอะ

    เปล่า จะลงเพจส่วนตัว นานๆจะมีวันหยุดพักผ่อนมาเที่ยวทั้งที

    มีเพจด้วยเหรอ ?แจบอมถามด้วยน้ำเสียงที่ติดไปทางไม่เชื่อคำพูดอีกฝ่าย

    ก็นะ ช่วยไม่ได้ งานที่ทำอยู่มันจำเป็นต้องมี

    อ๋อ ไอ้งานช่างภาพอิสระของนายน่ะเหรอ ?แจบอมพยักหน้าเบาๆพลางนึกไปถึงวันแรกที่แจ็คสันแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน

    ใช่ จริงๆไม่ค่อยอัพหรอก แต่เดี๋ยวเพจมันจะร้าง ก็เลยว่าจะลงสักรูป

    เป็นเพจช่างภาพ แต่ลงรูปที่ถ่ายด้วยกล้องโทรศัพท์ มันจะน่าเชื่อถือเหรอ ?

    “…”

     

    มาร์คไม่ได้พูดอะไรนอกจากส่งสมาร์ทโฟนที่เปิดรูปภาพล่าสุดให้แจบอมดู และภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์โดยฝีมือของมาร์คก็ทำให้แจบอมถึงกับเงียบไป แม้ว่าภาพจะไม่สวยเท่ากับการถ่ายด้วยกล้องตัวเขื่องราคาแพง แต่ภาพมันก็ออกมาดูดีเกินกว่าที่จะบอกได้ว่าถ่ายโดยโทรศัพท์มือถือ

     

    โอ้โห…” แจบอมพึมพำอยู่หน้าหน้าจอโทรศัพท์ ในขณะที่สายตาก็มองรูปไม่วางตา

    มันอยู่ที่คนถ่าย ต่อให้มีกล้องตัวละหลายล้านวอน แต่ถ้าถ่ายไม่เป็น ยังไงก็ไม่สวย

    “…”

    ว่างๆก็ไปกดไลค์แฟนเพจให้บ้างนะ หาลูกค้าให้ด้วยก็ดี

    ทำไปแล้วฉันจะได้ประโยชน์อะไร ?

    ภาพถ่ายจินยองสัก 5 รูปเป็นไง ? คำตอบของมาร์คทำให้แจบอมแทบจะฉุนกึก

    ฉันไม่ใช่พวกโรคจิต

    นั่งมองเขาแทบจะตลอดเวลา ฉันว่ามันก็ใกล้เคียงกับคำนั้นแล้วล่ะ

    เออๆ กดไลค์ให้ก็ได้ เอาชื่อเพจมาด้วย

    เพจของฉันชื่อ…”                      

     

     

    .

    .

     

     

    แบมแบมกับยูคยอมที่ตั้งใจจะมาหาของกินในตอนแรก แต่เพราะเป็นวันเทศกาล และร้านอาหารก็เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งสองคนจึงตัดสินใจเดินเข้ามานั่งในร้านกาแฟขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ภายในห้าง ทำให้กาแฟเย็นและขนมเค้กกลายเป็นอาหารมื้อกลางวันของทั้งคู่ไปโดยปริยาย

     

    แบมแบม ฉันขอยืมพาวเวอร์แบงค์หน่อยได้รึเปล่า ?ยูคยอมเอ่ยขอยืมวัตถุชิ้นหนึ่งที่กลายเป็นปัจจัยที่ 6 ของมนุษย์ยุคไอที (ปัจจัยที่ 5 คือ เงิน) ซึ่งแบมแบมก็ส่งให้โดยไม่ได้ซักถามอะไร

     

    ทั้งสองคนต่างคนต่างก้มหน้าเพื่อเข้าสู่โลกของตัวเองเช่นเดียวกับหลายๆคนในร้านกาแฟที่เรียกได้ว่า แทบจะนั่งอยู่ในท่าเดียวกัน และก็เป็นยูคยอมที่เป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาก่อน

     

    แบมแบม…”

    มีอะไรเหรอ ?

    ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนกันเหรอ ?ยูคยอมถาม ก่อนจะก้มหน้ามองโทรศัพท์ครู่หนึ่ง แล้วจึงเงยหน้ามามองคู่สนทนาอีกครั้ง

    ถ้าเป็นห้างที่เรานั่งอยู่ตอนนี้ก็สยามพารากอน

    แล้วพวกเรากำลังอยู่ชั้นไหนของห้างล่ะ ?จู่ๆสีหน้าของยูคยอมก็เปลี่ยนไป รวมไปถึงท่าทางที่ดูลุกลี้ลุกลน

    ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นชั้นที่หนึ่งนะ มีอะไรรึเปล่า ?

    ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไร

    โกหกไม่เก่งเลยนะยูคยอม

    คือ…” ยูคยอมได้แต่นั่งเกาหัวเมื่อถูกจับไต๋ได้ มือหนาส่งโทรศัพท์ให้แบมแบม โดยเปิดหน้าแอพลิเคชั่น Facebook ค้างไว้

    อะไรเหรอ ?แบมแบมรับมาดูแบบงงๆ

     

     

    mtuan93_photo add a new photo.

    9 mins. – Siam paragon.

     

     

    เพจนี้ทำไมเหรอ ?

    ลองดูที่โลเคชั่นของเขาสิ

    อาฉันเห็นแล้วล่ะ สยามพารากอน ก็ที่นี่ไง

    ฉันควรจะอธิบายให้นายฟังยังไงดี ท่าทีลุกลี้ลุกลนของยูคยอมทำให้แบมแบมพอจะปะติดปะต่ออะไรได้บ้างเล็กน้อย ร่างเล็กจึงค่อยๆยิ้มออกมา

    ฉันพอจะเดาได้แล้วล่ะ นายอยากเจอแอดมินเพจนี้เหรอ ?

    “…” คำถามของแบมแบมทำให้ยูคยอมพยักหน้าเบาๆพร้อมก้มหน้าลงมองจอโทรศัพท์

    ไม่น่าเชื่อว่ายูคยอมจะสนใจอะไรแบบนี้เหมือนกันนะ ชอบถ่ายภาพเหรอ ?เท่าที่แบมแบมสังเกตจากแฟนเพจดังกล่าว เดาได้ว่าเพจที่ยูคยอมส่งมาให้เขาดูคงจะเป็นเพจของพวกช่างภาพที่ชอบลงภาพถ่าย

    เปล่าหรอก

    “…”

    ฉันตามเฉพาะเพจนี้เท่านั้นแหละ

    แต่เพจนี้ถ่ายภาพสวยดีนะ

    “…”

    แล้วไปรู้จักเพจนี้ได้ยังไงล่ะ ?

    คือ…” ยูคยอมได้แต่ส่งยิ้มแบบเขินอายพลางก้มหน้า

    ยิ้มแบบนี้ ต้องมีอะไรแน่ๆเลย

    แบมแบมรู้จัก ซอนมีนูน่า รึเปล่า ?

    ซอนมีนูน่าหมายถึงนักร้องเกาหลีใช่มั้ย ? ถ้าใช่ ฉันเคยได้ยินอยู่นะ

    ใช่ๆ คือจริงๆแล้วฉันเป็นแฟนคลับของซอนมีนูน่าน่ะ

    เห~ จริงเหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อว่ายูคยอมจะเป็นแฟนบอยด้วยเมื่อได้ที แบมแบมก็แกล้งแซวยูคยอมจนคนที่อายุน้อยกว่าต้องก้มหน้าก้มตาเพื่อปิดบังอาการเขินอาย

     

    ถ้าจะให้ย้อนความแบบคร่าวๆแล้ว ก็คงจะบอกได้ว่า ยูคยอมเป็นเพียงแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่มีความชื่นชอบในตัวศิลปินนักร้องเหมือนกับคนทั่วๆไป แต่ยูคยอมโชคดีมากกว่านั้นไปอีกหนึ่งขั้นตรงที่ เขามีโอกาสได้ตามไปดูงานแสดงต่างๆของนักร้องสาวคนดังอย่าง ซอนมี ทั้งงานโชว์เคส คอนเสิร์ต งานแถลงข่าว งานโชว์ตัว แม้ว่าจะไม่ได้ไปทุกงาน แต่ก็ถือว่าเยอะพอสมควรสำหรับหมู่แฟนคลับด้วยกัน

    และหนึ่งในสิ่งที่อยู่คู่กับศิลปินที่นอกเหนือจากแฟนคลับแล้ว ก็ยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า แฟนไซต์ ที่คอยตามถ่ายภาพศิลปินทุกงาน และยูคยอมที่เป็นแฟนคลับก็เป็นกลุ่มคนที่ต้องคอยติดตามแฟนไซต์ไปด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะได้ชื่นชมรูปถ่ายสวยๆจากบรรดาแฟนไซต์ที่มีมากมายหลายสิบไซต์ แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคน

    และนอกจากแฟนไซต์แล้ว ก็ยังมีรูปถ่ายจากพวกนักข่าวหรือช่างภาพอิสระที่ถูกเชิญมาเป็นครั้งคราวตามงานต่างๆที่ศิลปินของเขาได้ไปร่วมงาน ซึ่งมาตรฐานการถ่ายภาพของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ยูคยอมได้พบกับแฟนเพจของช่างภาพอิสระคนหนึ่งจากการแนะนำของแฟนคลับด้วยกัน

    mtuan93_photo เป็นแฟนเพจของช่างภาพอิสระที่ไม่ขึ้นตรงกับสังกัดใด และเป็นช่างภาพที่มักจะถูกผู้จัดงานเชิญไปในฐานะสื่อมวลชนบ่อยๆ ยูคยอมจึงกดไลค์เอาไว้เพื่อติดตามภาพถ่ายของซอนมีนูน่าของเขาเท่านั้น

    แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป ภาพถ่ายจากแฟนเพจดังกล่าวที่ผ่านตาของคิมยูคยอมทุกวัน ทั้งภาพถ่ายบุคคล ภาพวิวทิวทัศน์ รวมไปถึงวัตถุต่างๆนานาที่ถูกนำมาลงในแฟนเพจอย่างต่อเนื่อง จะกลายเป็นสิ่งเสพติดที่ยูคยอมรู้สึกขาดไม่ได้ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่า ภาพถ่ายเหล่านั้นมันสวยมากเสียจนเขาลุ่มหลง หรือเหตุผลอื่นๆที่ทุกวันนี้เขาก็ยังหาคำตอบไม่ได้ เพียงแต่

     

    เขามักจะเข้าไปเช็คแฟนเพจนี้เสมอเวลาเข้า Facebook

    เขากดไลค์ทุกรูปภาพที่มีการอัพเดท

    เขากด Get Notifications เอาไว้เพื่อติดตามทุกความเคลื่อนไหว

    เขาชอบรูปภาพเหล่านั้นมากเสียจนไม่ต้องมีคำบรรยายประกอบรูปภาพ

     

    แต่เหตุผลอื่นใดที่ทำให้ยูคยอมรู้สึกผูกพันกับแฟนเพจนี้ กลับเป็นเพียงข่าวลือที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ และเป็นสิ่งที่หลายๆคนพูดต่อกันมา

     

    เจ้าของเพจนี้เป็นผู้หญิง

     

    เขาเชื่อว่าแบบนั้น และมีผู้คนอีกมากมายที่เชื่อแบบนั้นเช่นกัน ซึ่งยูคยอมเองก็ไม่รู้ว่า อะไรที่ทำให้เขามั่นใจและเชื่อข่าวลือที่ไม่มีมูล เพราะไม่มีใครเคยเห็นตัวจริงของแอดมินเพจนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของเพจนี้คือใคร แต่ภาพถ่ายที่ดูนุ่มนวลและมีเสน่ห์จนยูคยอมพูดได้อย่างเต็มปากว่า เขาตกหลุมรักภาพถ่ายเหล่านั้น มันกลับทำให้เขาเชื่ออย่างสนิทใจ

    มีคำพูดหนึ่งกล่าวไว้ว่า รอยยิ้มที่สวยงามของคนหน้ากล้อง คือรอยยิ้มที่มอบให้คนหลังกล้อง คำพูดนั้นยิ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ยูคยอมเชื่อมากขึ้นไปอีกว่า เจ้าของเพจคนนั้นจะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์มากๆ เพราะทุกรูปภาพที่เป็นภาพถ่ายบุคคล มักจะมีรอยยิ้มสวยๆของคนในรูปแฝงมาเสมอ

     

    คุณว่ามันแปลกไหมล่ะ ?

     

     

    ฉันขอร้องนะแบมแบม อย่าขำเชียวนะยูคยอมแทบจะยกมือขึ้นขอร้องให้แบมแบมรูดซิปปากหลังจากที่เขาเล่าให้ฟัง

    จะขำทำไมล่ะ ไม่เห็นจะน่าขำเลย

    แต่ฉันอายจริงๆนะ

    ฟังๆแล้วก็โรแมนติกดีนะ ถ้าฉันเป็นยูคยอม ฉันก็อาจจะเชื่อเหมือนกันก็ได้ว่าเจ้าของเพจจะต้องเป็นคนที่สวยมากแน่ๆ

    ใช่ไหมล่ะ ? ตอนนี้อยู่ที่เดียวกันด้วย ฉันอยากไปลองตามหาเธอคนนั้นดูจัง

    แต่ที่นี่มันกว้างมากเลยนะ

    “…”

     

    คำพูดสั้นๆของแบมแบมทำให้ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มของยูคยอมต้องหุบลงในทันที แต่ในเมื่อมันเป็นความจริงที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะรั้นไปตามหา มิหนำซ้ำเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ความเป็นไปได้ที่จะได้พบเจอจึงมีค่าเป็นศูนย์

     

    ค่อยไปตามหาที่เกาหลีทีหลังก็ได้

     

     

    .

    .

    .

     

     

    ยองแจที่ขอแยกตัวมาเดินคนเดียวหมดเวลาหนึ่งชั่วโมงไปกับการนั่งหาไอเดียสำหรับเขียนนิยาย ร่างเล็กเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่กว้างซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสามของสยามพารากอน เนื่องจากวันนี้เป็นวันเทศกาล ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ออกไปเล่นสงกรานต์ด้านหน้ามากกว่า ดังนั้น ร้านหนังสือในตอนนี้จึงค่อนข้างเงียบพอสมควร และมันก็เป็นบรรยากาศที่ยองแจชอบมากเสียด้วย

    ร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่ถูกจัดแบ่งโซนไว้อย่างชัดเจน และมีลูกค้าหลากหลายวัยกำลังเลือกซื้อ หรือยืนอ่านอยู่ในร้าน ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนไทย หรือชาวต่างประเทศ เพราะเป็นร้านหนังสือที่เรียกได้ว่า มีหนังสือแทบทุกภาษา ทั้งไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ภาษาเกาหลีเองก็เช่นกัน

    ร่างเล็กเจ้าของแก้มกลมเดินตรงไปยังโซนที่รวมหนังสือภาษาเกาหลีเอาไว้ ทั้งหนังสือแบบเรียน พ็อคเก็ตบุ๊ค หรือหนังสือแปล และยองแจก็สะดุดเข้ากับหนังสือนิยายเล่มหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา

     

    สายลมห่มฟ้า

     

    ชื่อหนังสือที่เด่นหราอยู่บนหน้าปกทำเอายองแจยิ้มออกมาจนตาแทบจะเป็นเส้น และเมื่อมองลงไปด้านล่าง ก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวฉีกยิ้มมากขึ้นไปอีก

     

    ผู้แต่ง : CYJ_96

     

    เขินจัง

     

    ยองแจที่เก็บอาการไม่อยู่ยิ้มจนแก้มปริเมื่อเห็นหนังสือนิยายเล่มหนาวางอยู่บนชั้นหนังสือ แถมมีนามปากกาของตนเขียนไว้บนหน้าปกอีกด้วย ใครจะไปคิดว่านิยายที่ตนเองเขียนจะได้มาวางแผงหนังสือในต่างประเทศด้วย

    ร่างเล็กเก็บอาการดีใจเอาไว้แต่เพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินหาหนังสืออ่านเล่น และอีกไม่กี่นาทีต่อมา หนังสือนิยายเล่มหนาทั้งสามเล่มในมือก็ถูกนำไปชำระเงินที่เคาท์เตอร์ เมื่อได้ของที่ต้องการ ยองแจจึงเดินออกมาจากร้านหนังสือ

    ด้านข้างของร้านหนังสือเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ อันที่จริงแล้ว ต้องเรียกว่า ร้านกาแฟเป็นส่วนหนึ่งของร้านหนังสือเสียมากกว่า เพราะไม่มีกระจกหรือประตูใดๆมากั้นทั้งสองร้าน และลูกค้าของร้านกาแฟส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าที่มาจากร้านหนังสือ เพราะบนโต๊ะล้วนมีถุงของทางร้านหนังสือวางอยู่แทบทั้งสิ้น

     

    และหัวใจดวงน้อยๆของยองแจก็ต้องทำงานหนักอีกครั้ง

     

    เมื่อพบว่าคนที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟคือ จินยอง

     

    กับ แจ็คสัน

     

     

    .

    .

    .

     

     

    ภายในมุมของร้านกาแฟที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงพูดของแจ็คสันที่ดังเจื้อยแจ้วและพูดได้ไม่รู้จักหยุดหย่อน โดยมีจินยองนั่งท้าวคางฟังอยู่เงียบๆพร้อมรอยยิ้ม

     

    ยังพูดมากเหมือนเดิมเลยนะจินยองแซวเพื่อนสนิทที่ยังไม่หยุดพูดตั้งแต่มานั่งในร้านกาแฟ

    ก็มันคิดถึงนี่ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ

    อืมก็จริง

    นายยังพูดน้อยไม่เปลี่ยนเลยนะจินยองอา~

    ปกติฉันชอบฟังคนอื่นพูดมากกว่า

    แต่นี่นายเล่นปล่อยให้ฉันพูดคนเดียวจนจะเหมือนคนบ้าอยู่แล้วนะ

    แล้วทุกวันนี้ยังไม่บ้าอีกรึไง ?

    จินยอง !” แจ็คสันแยกเขี้ยวใส่อดีตรูมเมทที่นั่งหัวเราะอยู่

    ฉันล้อเล่นน่า

    มันต้องทำโทษหน่อยแล้ว !” แจ็คสันว่าพลางยื่นแขนไปหยิกแก้มขาวๆของคุณหมอหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม

    โอ๊ย เจ็บๆจินยองบ่นพร้อมลูบแก้มป้อยๆ

    แล้วตอนนี้นายเป็นยังไงบ้าง ?แจ็คสันเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง

    หมายถึง เรื่องงาน หรืออะไรล่ะ ?

    ก็ทุกอย่างนั่นแหละ

    เรื่องงานมันก็โอเคนะ แค่ไม่ค่อยเวลาเท่านั้นเอง

    แล้วจินยองมีแฟนหรือยัง ? คำถามของแจ็คสันทำให้จินยองถึงกับเงียบไป

    คือ…”

     

    โอ๊ะ นั่นยองแจนี่ ยองแจอา !! ’

     

     

    ยังไม่ทันที่จินยองจะได้ตอบอะไร แจ็คสันก็เหลือบไปเห็นคนมาใหม่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันกับร้านกาแฟ ชายหนุ่มลุกขึ้นโบกมือเรียกคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าร้านกาแฟ คนที่ถูกเรียกได้แต่ยืนมึนงงอยู่เล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาในร้าน

    นับว่าเป็นโชคดีของจินยองที่ยองแจมาในเวลานี้ คำถามล่าสุดของแจ็คสันเป็นอะไรที่เขาพยายามจะหลีกเลี่ยงและไม่อยากตอบมากถึงมากที่สุด เพราะมันทำให้เขานึกถึงใครบางคน ที่เป็นคนแรก และเป็นคนเดียวของเขาจนถึงวันนี้

     

    อิมแจบอม

     

    แฟนคนแรก และ คนเดียวของปาร์คจินยอง

     

     

    ยองแจ นั่งเลยๆ อยากกินอะไรสั่งได้ มื้อนี้พี่เลี้ยงเองแจ็คสันเรียกรุ่นน้องเข้ามาในร้าน พร้อมทั้งจัดแจงหาเก้าอี้นั่งให้เสร็จสรรพ ตอนนี้บนโต๊ะจึงมีแจ็คสัน จินยอง และผู้มาใหม่อย่างยองแจ

    ไม่เป็นไรดีกว่าพี่ ผมยังไม่หิวยองแจว่าพร้อมกลบเกลื่อนด้วยการหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาจากในถุง

    ไม่กินจริงดิ พี่เลี้ยงจริงๆนะ

    นายสองคนนี่ตกลงยังไงกันเนี่ย ?จินยองรีบเปลี่ยนประเด็นโดยพุ่งเป้าหมายไปที่ทั้งสองคนแทน

    “…” ใครจะรู้ว่า คำพูดเล่นๆของจินยอง กลับทำให้ยองแจถือกับมือไม้สั่น แถมใบหน้ายังร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ

    เด็กฉันเอง ฮ่าๆ

    อะไร ใครเด็กพี่ยองแจรีบหันไปปฏิเสธ ก่อนจะก้มหน้าลงอ่านหนังสือเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน

    ยองแจมาก็ดีเลย แจ็คสันจะได้ไม่ต้องนั่งคนเดียว คือฉันจะขอไปเข้าห้องน้ำสักหน่อยน่ะจินยองขัดขึ้นมา

    อ้าว แล้วก็ไม่บอก ฉันนั่งคนเดียวได้ แต่มียองแจก็ดี จะได้ไม่เหงา รีบไปรีบกลับนะแจ็คสันว่าพร้อมบอกเพื่อนสนิทที่กำลังลุกออกจากโต๊ะไป

     

    บรรยากาศเงียบๆเริ่มเข้ามาปกคลุมโต๊ะอีกครั้งเมื่อเหลือแค่ยองแจกับแจ็คสัน คนแก้มป่องที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือทำให้แจ็คสันเริ่มอึดอัด แต่แจ็คสันเองก็รู้ตัวดีว่า เขาไม่สามารถอยู่เงียบๆได้เป็นเวลานาน

     

    ยองแจอา สนใจพี่บ้างดิแจ็คสันเริ่มทำลายความเงียบก่อน

    ครับ ?ยองแจค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองหน้าแจ็คสัน

    หนังสือน่าสนใจกว่าพี่ตรงไหนกันคนเป็นรุ่นพี่เริ่มงอแงเหมือนเด็กๆ

    ก็ทุกตรงครับ

    ย้า !! ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ

    ผมล้อเล่น…”

     

    ยองแจยิ้มบางๆให้แจ็คสันเมื่อเห็นคนเป็นรุ่นพี่ตั้งท่าง้องแง้งเหมือนเด็กๆ สำหรับยองแจแล้ว แจ็คสันเป็นคนที่น่าสนใจเสมออยู่ตลอดเวลานั่นล่ะ แต่ใครมันจะบ้าพูดออกไปแบบนั้นกับคนที่ตัวเองชอบอยู่กันล่ะ

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้ยองแจรู้สึกอึดอัดจนอยากจะลุกออกไปจากโต๊ะและไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะหนีแจ็คสัน ทั้งๆที่ตอนนี้เป็นโอกาสที่เขาจะได้อยู่กับคนเป็นรุ่นพี่ แต่มันกลับเป็นเวลาที่เขาไม่ต้องการเสียอย่างนั้น

     

    อย่าเงียบดิ ชวนพี่คุยหน่อยแจ็คสันพยายามอ้อนคนเป็นน้อง

    ผมไม่รู้จะชวนพี่คุยอะไรนี่ยองแจพยายามบ่ายเบี่ยง

     
     

    เพราะเหตุผลที่เขาไม่อยากคุยกับแจ็คสันในตอนนี้

     
     

    งั้นผมขอถามอะไรพี่สักอย่างได้มั้ย ?

     
     

    ก็เพราะว่า

     
     

    ว่ามาดิ

     
     

    พี่ยังชอบพี่จินยองอยู่รึเปล่า ?







    เอ้าาาาาาาาาา !!!!
    สาปค่ะ อนุญาตให้สาปเต็มที่ 555555555555555555

    ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยอย่างสุดซึ้ง
    ช่วงนี้ไรท์เตอร์อยู่ในโหมดลาพักร้อน (จากการเป็นติ่ง) 3 วัน
    เมื่อวานมาลงสปอยล์ไว้
    ไปๆมาๆดันมาลืมลงเนื้อเรื่อง 55555555
    โอ๊ยยย หนูขอโต้ด /หลบรองเท้าไรท์เตอร์

    สำหรับตอนนี้ไม่รู้จะทอล์กอะไร
    คราวที่แล้วทอล์กยาวเกิน เม้นท์น้อยมาก
    รอบนี้งอน จิ๊ ;_____;)
    ใช่ซี้ /ดูดชาเขียวอย่างก้าวร้าว

    สามารถเม้าท์มอยได้ที่ @mookiizsgc7 ถิ่นเก่าเจ้าเดิม หรือแฮชแท็ก #ฟิคโลกกลม ค่า

     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×