คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Era 3 : Invade!!!
ตอนที่สามอัพครบแล้วนะค่ะ^o^
หวังว่าจะถูกใจคนอ่านบ้างเนอะ
เอามาลงให้ก่อนสอบค่ะ
เพราะช่วงสอบคงไม่ได้แต่งต้องอ่านหนังสือ
ตอนที่สี่พอเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วไว้หลังสอบเสร็จจะเอามาลงให้นะค่ะ
สุดท้ายนี้
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ^^
=============================================================
Era 3 : Invade!!!!
“Chocolate BL20 ตอนนี้หมดสต๊อกแล้วค่ะ” พนักงานขายที่ยืนอยู่บอกผม เธอมองผมด้วยสายตาหลาไหล = =
แต่ผมกลับมองที่มัตสึที่กำลังยืนดูโทรศัพท์ด้วยความสนใจ เค้ายังไม่คุยกับผมเลยนะ= =’’’
“แล้วLumigon ละครับ”
“มีค่ะ เดียวไปเอามาเช็คสภาพเครื่อง จะเอาเลยรึเปล่าค่ะ?”
“ครับเอาเลยครับ”
ซักพักนึงพนักงานก็เชิญผมให้ไปนั่งที่โต๊ะเพื่อรอโทรศัพท์ และแล้วพนักงานสาวสวยคนเดิมก็เดินเอาเครื่องมาให้ผม เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตัวใกล้ๆแล้วอธิบายโปรแกรม และการใช้งานอย่างละเอียด
ครืด~! ผลั๊ก~!!
เสียงลากเก้าอี้อย่างไม่เกรงใจประชี พร้อมทั้งร่างของมัตสึที่นั่งลงมาอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน
“ว้าว~~ เครื่อง ลูมิกอนตัวจริงเนี่ยสวยจริงๆเลยนะฮะ^o^”
มัตสึหันไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้วทำตาโตใส่^^’’’
ผมรู้ว่าหรอกว่าหมอนี่จงใจขัดบทสนทนา= =’’’
“ใช่ค่ะ การใช้งานก็เยี่ยมมากจริงๆ เออ.... นี่มาด้วยกันหรอค่ะ^^’’’”
“มัตสึ.... มาขัดคนอื่นเค้ามันเสียมารยาทรู้มั้ย”
“ผมไม่สน อีกอย่างผมโกรธคุณอยู่!! คุณยูยะ”
“= = ฉันไปทำอะไรให้นาย.....โกรธตอนไหน”
“เรื่องของผมมันไร้สาระ ยูยะก็อย่าไปใส่ใจนักเลย”
ฉึก!!! คำพูดแรงใช้ได้ แทงใจดำชะมัด แบบนี้ผมก็ผิดเต็มๆเลยนะสิ= =
“เออ.... ”หญิงสาวผู้อยู่ในบทสนทนาทักขึ้นมาอีกครั้ง
“มีอะไรหรอครับ^^”
มัตสึหันไปถาม
“โทรศัพท์ไม่ได้แถมซิมให้นะค่ะ”
“ครับ^^”
มัตสึยิ้มใน้พนักงานอีกครั้งแล้วกลับหันมามองผม
อะไร???
“จ่ายเงิน แล้วไปกันได้แล้ว......ไปซื้อซิม ยูยะ.... คงจะซื้อไม่เป็นหรอกใช่มั้ย”
ฉึก!!!!! ผมก็พอรู้เรื่องนี้บ้างเหมือนกันนะ!!!!
มัตสึเดินนำริ่วๆออกจากร้านทันทีพร้อมกับโทรศัพท์
โทรศัพท์ผม~~~ โดนมัตสึเปิดซิงแน่!!!
ผมจ่ายเงินเรียบร้อยได้ของพีเมี่ยมมา 1 อย่าง เป็น*ซองโทรศัพท์ตาลูติกอนสีดำ ลายวงกลมซ้อนทับกันสีขาว-เทา ดูคลาสสิคดี สามารถคล้องกับเข็มขัดได้ด้วย
ผมรีบวิ่งตามมัตสึออกไปจากร้าน ส่วนมัตสึกำลังกินไอติมรออย่างสบายใจ ไปซื้อมาตอนไหนเนี่ยไวมาก= =
จะบอกดีมั้ยน้า~ที่จริงผมก็มีซิมอยู่แล้ว~~~ ไม่เป็นไรซื้อใหม่ก็ได้
สถานที่ :: ร้านเครือข่ายรายย่อยของบริษัทแห่งหนึ่ง
“สวัสดีครับ”มัตสึเดินนำผมเข้าไปในร้านอย่าอารมณ์ดี
หายโกรธรึยังเนี่ย= =ผมเดาไม่ถูกนะ
“อ้าว~คุณหนูมัตสึดะ มาทำอะไรถึงที่ร้านลุงเลยละครับ”
คุณลุงที่อายุไม่น่าจะเกิน 50 เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง
“มาที่ร้านลุงก็ต้องมาซื้อซิมโทรศัพท์สิฮะ^^ ผมคงไม่ได้มาหาข้าวกินหรอก”
มัตสิล้อเล่นอย่างเป็นกันเองมากๆถ้าผมเป็นลุงนี่ผมคงโกรธเจ้าเด็กแก่แดดนี่ไปแล้ว แต่คุณลุงคนนั้นกลับยิ้มกว้างให้มัตสึ แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาซับเหงื่อที่ออกมาทั้งๆที่แอร์เย็นฉ่ำเท่านั้น คุณลุงผายมือออกเป็นเชิงเชิญให้มัตสึเข้าไปนั่งด้านในสุดของร้าน
“เออ..มาด้วยกันรึป่าวครับ”คุณลุงคนนั้นหันกลับมาถามผม
“....ค”
“เค้ามากับผมฮะ....”
มัตสึทำตัวไร้มารยาทอีกครั้งด้วยการชิงผมพูด บางทีอาจจะเป็นเพราะเค้าโกรธผมก็ได้มั้ง = =’’’’ ขอโทษนะครับคุณลงที่โดนเหวี่ยงแทนผมนะ
“เชิญเลยครับ...”
คุณลุงฉีกยิ้มให้ผมก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้าน
“นายเป็นเจ้าของที่นี่หรอ”
ประโยคแรกที่ผมทักมัตสึหลังจากนั่งเงียบบนโซฟาตัวเดียวกันมานาน
“.......”
สัญญาณปี้บๆ ในตัวผมบงบอกว่าตอนนี้มัตสึน่ากลัว...สุดๆไปเลย=3= คงได้ฤกษ์ง้อคนก็คราวนี้ละมั้ง แล้วง้อ ทำยังไงฟระเนี่ย!!!!
“นี่มัตสึ~”
ผมเอามือไปจิ้มๆที่แขนมัตสึที่กำลังหันหลังให้ผมอยู่
“นายงอนฉันใช่มั้ยเนี่ย!= =”
“......”
“มัตสึ~~”
“........”
“’งั้นรออยู่นี่เปบนึงนะเดี่ยวผมมา”
ผมรีบวิ่งออกมาจากร้านทันที= = ถ้ามัตสึหันกลับมาดึงแขนผมแล้วบอกไม่ให้ไปก็ดีนะสิ แบบนี้เค้าเรียกยิ่งกว่าโกรธมากๆอีกนะเนี่ย สถานที่ที่ผมวิ่งไปนะหรอ~! ร้านเกี๊ยวซ่าไง! ไม่เอาด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลกันแล้วละครับทีนี้!!!
เกี๊ยวซ่ากลิ่นหอมฉุยท่าทางน่ากินถูกวางเรียงอยู่ในถาดโฟมอย่างเป็นระเบียบ ผมนะอุส่าห์ไปตบตีกับชาวบ้านเค้าเพื่อจะได้เกี๊ยวซ่าถาดนี้เลยนะ!! ผมลงทุนง้อคนนะเนี่ย!
ผมเดินเข้ามาในร้านอย่างมาดมั่น กลิ่นของเกี๊ยวซ่าฟุ้งไปทั่วทั้งร้าน แม้จะมีป้ายแปะบอกว่าห้ามนำอาหารเข้ามา แต่ว่า.....ใครสนกันละ?? มัตสึหันมามองตามกลิ่นของเกี๊ยวซ่า แต่พอเห็นผมเท่านั้นละ มัตสึก็หันหน้ากลับไปทางเดิม
จะได้ผลมั้ยนะ??? ผมง้อคนไม่เป็นนี่นา~~~ ใครก็ได้สอนผมที!!!
ผมวางเกี๊ยวซ่าตรงหน้ามัตสึ ที่กำลังทำเป็นไม่สนใจอยู่
“อ่ะ~ นี่ แทนคำขอโทษ”
มัตสึหันมามองหน้าผมด้วยใบหน้างงๆ
พอเห็นผมยิ้มให้มัตสึก็หันหน้ากลับไปอีกครั้ง
อะไรกัน! ผมไม่เคยยิ้มให้ใครเปลืองขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย!!!!
“.......”
“ในตอนนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายจิตใจนายหรอกนะ ยังไงซะก็ลองเอาไปคิดดูรึกัน”
“หรือถ้านายไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันแล้ว ฉันก็....จะไม่มายุ่งกับนายอีก”
ผมกัดฟันพูดออกไป
ผมพึ่งจะมีเพื่อนเป็นครั้งแรก...
ผมพึ่งจะเคยยิ้มอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก
และถ้ามันจะจบลงเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของผู้ฟัง ผม.... ผมก็จะ.....ไม่ยอมหรอก!!
เทโงชิ ยูยะ คนนี้!!!! ไม่ยอมหรอกกับคำพูดของผมเองไม่กี่คำจะตัดคำว่าเพื่อนออกได้หรอ!!! ไม่มีทาง!!!! ยูยะคนนี้อยากได้อะไรก็ต้องได้!!! เอาละ! ผมยอมมัตสึมามากพอแล้ว! ถึงเวลาเล่น”เกมส์” จริงๆกันซักทีแล้วนะครับ^^
ผมหันหลังแล้วเดินออกไปช้าๆ ทีละก้าว ทีละก้าว
ก้าวแรก.....
ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก้าวที่สอง......
ชักใจไม่ดีอีกไม่กี่ก้าวก็จะออกจากร้านแล้ว
ก้าวที่สาม......
“เดี่ยว~”เป็นไปตามคาดเอาไว้มัตสึเรียกผมเอาไว้
ผมหันกลับไปหามัตสึด้วยใบหน้านิ่งๆ
มัตสึก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่จะพูดอะไรต่อเช่นกัน
“......”
“....นี่.....โทรศัพท์นายผมหาซิมให้แล้ว....”
มัตสึหยิบโทรศัพท์ของผมมาวางไว้บนโต๊ะ
ผมมองอย่างช่างใจเล็กน้อย
ถ้าหยิบเจ้าโทรศัพท์นี่ไป ผมกับมัตสึก็คงจะขาดกันจริงๆซักทีแล้วสินะ
ผมก้มไปมองนาฬิกาข้อมือ 5 โมงเย็นแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะต้องออกไปหา”ข่าว”แล้ว ผมคงจะอยู่เล่นเกมส์ของผมต่อกับมัตสึไม่ได้ เรื่องนี้คงต้องเอาไปไว้ที่หลังซะแล้วสิ
ผมเดินไปหยิบมือถือของผม มัตสึมองมาทีผมเล็กน้อย
“ขอบคุณที่มาอยู่เป็นเพื่อนให้ทั้งวัน”ผมบอก
มัตสึตะลึงไปเล็กน้อย และก่อนที่มัตสึจะทันได้พูดอะไรอีกครั้ง ผมก็เดินออกจากร้านนี้ไปแล้ว พร้อมๆกับที่ ชายชุดดำ 2-3 คน เดินสวนเข้ามา พวกเค้าหันมามองผมซักพักแล้วเดินเลยไป ผมคุ้นๆลักษณะของเจ้าพวกนี้อยู่นะ ......
สถานที่ : THE IMAGE PUB & CASINO
ผับแห่งนี้อยู่ที่ด้านนอกของชาญเมืองกรุงโตเกียว ตกแต่งด้วยศิลปะของชาติตะวันตกและ ญี่ปุ่นอย่างลงตัว ภายในถูกจัดไว้เป็นสามส่วน คือ ผับ บ่อน และ โรงแรมขนาด 8 ดาว ภายในผับ ผมเคยเข้าไปอยู่ครั้งนึง มันเป็นห้องมืดๆสลัวๆ แสงสีเต็มไปหมด และแน่นอนสิ่งที่ต้องมีคือสิ่งบันเทิงใจผู้ชายอย่างเราๆ ผู้หญิงมากหน้าหลายตา กำลังเต้น(ดิ้น)อยู่บนฟลอร์อย่างเมามัน บ้างเพราะเมา บ้างเพราะความชอบส่วนตัว แต่มาผับ...จะให้มาทำอะไรได้นอกจากหาเครื่องดื่ม มองหาสาวๆซักคน และ ดิ้นจะเหมือนว่าโลกนี้มันจะแตกไปซะวันหน้า ในส่วน ของที่นั่งถูกจัดให้อยู่รอบฟลอร์วนเป็นรูปก้นหอย และที่นั่ง V.I.P. ถูกจัดในมุมที่สงบที่สุดของร้าน
ในส่วนของคาสิโน ส่วนที่เงินผลัดเปลี่ยนกันมือต่อมือมากทีสุด ถูกจัดไว้เป็นโซนๆอย่างดี แต่จะมีซักกี่คนกันที่เดินออกไปจากที่นี่โดยไม่เสีย หรือได้เงินออกไป และแน่นอน เมื่อได้ก็ต้องติดใจวันหลังมาใหม่เสียบ้างจึงไม่รู้สึกอะไรและกลายเป็น”ติด”การพนันไปซะอย่างนั้น แต่ใครจะรู้ละ คนที่ได้มากที่สุดโดยไม่ต้องเสีย ไม่ต้องเล่น ไม่มีความเสี่ยงเนี่ย คือเจ้าของบ่อนไม่ใช่หรือ???[Ps. อย่าไปเล่นกันนะมันไม่ดี:ไรเทอร์]
และส่วนสุดท้ายส่วนของโรงแรม มีไว้สำหรับสำรองไว้ให้แขกของทั้งผับ และ คาสิโน คงไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าเอาไว้ทำอะไร เพราะผมก็ยังไม่เคยเข้าไปเหมือนกัน
ผมเดินเข้าไปในส่วนของคาสิโนทุกอย่างรอบๆตัวถูกจัดเหมือนเป็นดั่งปราสาทหรูในยุโรปประตูทรงโกธิค โคมไฟระย้า เสาสลักแบบยุโรป แต่สิ่งที่ดูขัดกันเหมือนจะเป็น ประตูกันห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นรูปปลาคาร์ฟ และสวนที่จัดตามแบบสวนญี่ปุ่นอย่างพิถีพิถัน และชุดของพนักงานที่เป็นแบบยูกาตะ สีสันหลากหลายทั้งชายและหญิง
ผมเข้าไปในส่วนของรูเล็ต มันเป็นครั้งที่สามที่ผมได้เข้ามาเหยียบที่นี้ แต่ไม่ใช่ครั้งที่สามที่ผมเข้าคาสิโนแน่นอนครับ^0^ พ่อสั่งผมอย่างเด็ดขาดว่าไม่ให้เข้ามาเล่นที่นี่ ผมก็ไปเล่นที่อื่นสิครับ^o^ ผมนะเซียนจะตาย ผมวางเดิมพันเอาไว้ในช่องBlack เพื่อดูลู่ทางในการเล่นต่อ ดีลเลอร์เริ่มทำการปั่นลูกแล้ว ใจผมตุ้มๆต่อมๆว่ามันจะลงเลขอะไร
กริ๊กๆๆๆๆ
เสียงเจ้าลูกงาช้างนั้นถูไปกับรูเล็ต เหมือนกับเสียงหัวใจของผมที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
“5”
ดีลเลอร์ประกาศออกมา ผม ว๊า ออกมาเสียงดังไม่เกรงใจใครพร้อมกันที่เงินเดิมพันของผมถูก Rake กวาดไปจนเรียบ
“วางเดิมพันของคุณ” เสียงดีลเลอร์ประกาศอีกครั้ง
คราวนี้ผมวางเดิมพันครึ่งนึงของผมไว้ที่ ‘0’ อย่างมั่นใจ ตามหลักการของสูตร ศูนย์พิฆาต บวกกับ ดวงของผมอีกเล็กน้อย และความแม่นยำของดีลเลอร์ ผมมั่นใจว่าในครั้งนี้ผมจะได้ 36 ต่อแน่นอน
กริ๊กๆๆๆ
ดีลเลอร์เริ่มหมุนรูเล็ตอีกครั้ง
“Zero”
‘เยส’ ผมมวางมาดเล็กน้อย พร้อมกับชิบที่ไหลมาเทมาทางผม ผมมั่นใจว่าคืนนี้ผมจะมีเงินเล่น”ทั้งคืน”แน่นอน
สติของผมทั้งหมดถูกคาสิโนแห่งนี้คลุมไปเสียแล้ว เรื่องงานถูกยกเก็บไว้บนหิ้งและบูชาอย่างดี ไว้เงินหมดแล้วค่อยทำก็ได้นี่เนอะ ^^’’’’
หลังจากที่ผมทำเงินได้มหาศาลกับเกมส์รูเล็ตแล้วผมก็หันไปเล่นบาคาร่าต่อ บาคาร่านี้เล่นคล้ายป๊อกเด้ง แต่เจ้ามือที่ราเล่นด้วยจะเป็น baker(พนักงานของร้าน) สำรับที่เล่นจะเป็นการนำ 3-4 สลับเข้าไว้ด้วยกันโดยวิธีทางของร้าน เราจะชนะก็ต่อเมื่อเรามีแต้มในไพ่มากกว่า เบคเคอร์ แต่ถ้าเท่ากันเราก็จะจั่วเพิ่มแต่วิธีเอาเพิ่มนั้นแตกต่างกับป๊อกเด้งอยู่นิดหน่อย
เบคเคอร์เริ่มทำการแจกไพ่....
ผมได้ 3 ข้าวหลามตัด และ 5 โพธิ์แดง
ถึงจะได้แค่ต่อเดียวแต่ ผมว่าวันนี้ผมโชคดีสุดไปเลย~
เบคเคอร์จับไพ่รายคนและให้หงายไพ่ในมือออก
เบคเคอร์ได้ 7 ... แต้ม
มีใครบางคนเดินผ่านหลังเบคเคอร์ไป เล้นผมสีน้ำตาลเข้ม ตัดเป็นทรงหัวกระหล่ำปี ที่ผมคุ้นเคย พร้อมกับชายชุดดำอีกสองคน เดินตัดผ่านไปหลังฉากกั้นลายปลาคาร์ฟ ถ้าผมจำไม่ผิด นั้นเป็นส่วนของผับ และถ้าผมจำไม่ผิด ไม่สิผมจำไม่ผิดหรอก.....
ผมตัดสินใจเดินตามไปอย่างไม่ลังเล ชิบที่กำลังจะได้มาถูกวางกองไว้บนโต๊ะอย่างไม่เหลียวแล
มัตสึ....มาทำอะไรของเค้านะ
สถานที่ : Club
เสียงเพลงที่เปิดดังกระหึ่ม จนรู้สึกได้ว่าเจ้าขี้หูกำลังลุกออกมาเต้น แสง และ สี ที่ทำให้รู้สึกลายตา และมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังตามชายชุดดำ และ นายหัวน้ำตาลนั้น มาอย่างเงียบๆ
พวกเขาเดินมาที่ส่วน V.I.P. สั่งของกินกับแก้มมาซักสองสามอย่าง และ เหล้า เบียร์ อีกเป็นโหล และเริ่มพูดคุยอะไรบางอย่างกัน
ผมเข้าไปใกล้มากกว่านี้ไม่ได้เพราะอาจจะตกเป็นที่สงสัย การ์ดชุดดำ สองคนยืนอยู่ฝั่งซ้ายของโต๊ะ และพนักงานหญิงในชุดยูกาตะสีส้มสองคน ทางฝั่งขวา
พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินผละออกไป ผมรีบตามไปทันที เธอเดินเข้าไปในส่วนของพนักงาน ผมมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครมองเห็นผม แล้วเดินตามเข้าไป เธอหยิบโซจูในตู้แช่มาสามขวด และกำลังจะเดินออกมา
“ผลั่ก!”
ผมแอบอยู่หลังประตู แล้วจัดการน๊อคเธอด้วยสั่นมือ ผมหยิบถาดโซจู ออกก่อนที่มันจะแตก จัดการถอดชุดยูกาตะของเธอออก หยิบผ้าแถวๆนั้นมาคลุมตัวเธอไว้ แล้วจัดการมัดปาก แขน และ ขา ด้วยสก๊อตเทปที่ผมหยิบติดมือมาจากบ้าน แล้วยัดเธอไว้ในห้องเก็บของที่ดูเหมือนจะถูกเปิดใช้น้อยสุด
ผมมองเจ้าชุดยูกาตะอย่างชั่งใจ.... ที่จริงมันไม่ใช่สีส้มหรอกครับ พอมาโดนแสงเข้าจริง มันเป็นสีชนพูหวานแหว่วมากๆ T^T และสิ่งที่ผมต้องตามหาอีกอย่างก็คือ.... วิก ผมต้องการวิก ด่วน!!!!
ผมยืนมองผู้หญิงผมสีทองยาวถึงกลางหลังที่มัดผมไว้อย่างลวกๆ หน้าที่พึ่งแต่งเสร็จใหม่ๆ ซึ่งก็พอดูได้สำหรับฝีมือผู้ชายแต่งหน้า และเธอหน้าสวยคนนั้นก็กำลังจ้องผมอยู่ ผ่านกระจกนี่ไง!!!!!
ผมสุ่มค้นกระเป๋าของผู้หญิงคนหนึ่ง ในนั้นมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวิก ตะข่ายคลอบผม เครื่องแต่งหน้าสาระพันชนิด สงสัยว่าเธอคงจะเป็นนักคอสละมั้ง
ผมมองตัวเองในกระจกอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าเหมือนผู้หญิงที่สุดแล้วแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ
ผมเสริฟโซจูทั้งสามขวดวางไว้บนโต๊ะและเหล่มองที่ละคน คนแรกคือมัตสึ ที่ยังอยู่ในชุดไปรเวทตัวเดิมที่ไปเที่ยวกับผม คนที่สองผมซอยสั้นปะบ่าผมไม่ค่อยอยากจะบอกสีซักเท่าไหร่เพราะมันคงไม่ตรงแน่ๆ ดวงตา ท่าทางทันคน และมีความรู้เกินวัย ที่สำคัญหน้าหวานเอาซะมากๆ แต่ผมมั่นใจว่าเค้าเป็นผู้ชาย เพราะเสียงเค้านี่ต่ำแบบไม่ไหวจะเคลียร์ ชายชุดดำอีกคน เป็นคนท่าทางขี้เล่นผมยาวเล็กน้อย เสียงของพวกเค้าถ้าผมจำไม่ผิด ผมคิดว่าน่าจะเป็นสองคนที่มารับมัตสึกลับบ้านในวันนั้น
“เซกิจัง ทำไมช้านักละ”
“อ๋อ พอดีว่ามีปัญหานิดหน่อยแต่เรียบร้อยแล้วจ๊ะ”
หญิงสาวในชุดยูกาตะถามผม เมื่อผมไปยืนข้างเธอ ท่าทางเธอจะไม่รู้จริงๆว่าผมเป็นคนละคนกับเธอที่ถูกผมน๊อคสลบอยู่ในห้องเก็บของ ผมเลยต้องพยายามดัดเสียงให้หวานๆตอบกลับเธอไป
“ไม่มีปัญหาอะไรแล้วใช่มั้ย”
(- -)(_ _)(- -)
ผมพยักให้ผู้หญิงคนนั้นแทนคำตอบ และแล้วผมก็เริ่มทำการแอบฟังอยู่เงียบๆ
“โอ๊ะๆๆๆ นึกยังไงถึงให้พวกฉันพามาที่นี้เนี่ย ทุกทีไม่เห็นว้อน”<<<ชายขี้เล่น
“อย่ารู้เลยน่า”<<<มัตสึ
“เดี่ยวนี้หัดมีความลับกับเพื่อนหรอ มัตสึ!” <<<ชายหน้าหวาน
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร” <<<มัตสึ
“ไม่จริง ใครจะไปเชื่อ ทุกทีมีแต่บอกว่าเกลียดกับเกลียดที่นี้ แม้แต่ปลายผมซักนิดเดียวก็ไม่เคยคิดที่จะให้เข้ามาเหยียบ ทำไมวันนี้ถึงนึกคึกอยากจะมาลองอะไรแปลกใหม่กับเค้าบ้าง เนอะ เคย์จัง เนอะ” <<<ชายหน้าหวาน
“ใช่ๆๆ” <<<ชายขี้เล่น
“พวกนายไม่รู้จะดีกว่า รู้ไปเดี่ยวก็ถึงหูพ่อกับพี่ มีแต่ซวยกับซวย” <<<มัตสึ
“พวกเราไม่เอาไปบอกใครหรอกมัตสึ เนอะ ที่รัก เนอะ” <<<ชายขี้เล่น
“ฉันไม่อนุญาตให้พูดคำนั้นในที่สาธารณะ!!! บอกไปแล้วไม่ใช่เร้อ!!!” <<<ชายหน้าหวาน
“คร้าบๆ~”<<<ชายขี้เล่น
“ตกลงนายจะบอกไม่บอกมัตสึ ไม่งั้นฉันเอาเคย์จังตายแน่” <<<ชายหน้าหวาน
“แฟนนายนี่นายจะเอาไปปู้ยี่ปู้ยำทำอะไรมันไม่เกี่ยวกับฉัน” <<<มัตสึ
“โหปู้ยี่ปู้ยำเลยหรอ <<<ชายขี้เล่น(ถูกเมินไปชั่วขณะ)
“ให้มันน้อยๆหน่อย อย่าคิดเปลี่ยนเรื่องนายจะบอกหรือไม่บอกฮ๊ะ!!” <<<ชายหน้าหวาน
“ไม่!!!” <<<มัตสึ
“นายเนี่ยมันดื้อจริงๆเลยนะมัตสึ” <<<ชายหน้าหวาน
“นายจะบอกตอนที่นายยังสติครบดีอย่างตอนนี้ หรือนายจะบอกตอนที่นายเมาแล้วนายก็เลือกเอารึกัน” <<<ชายหน้าหวาน
“ไม่!! ฉันจะไม่หลงกลไปกับจิตวิทยานาย ชิเงะจัง” <<<มัตสึ
“เคย์จัง ช่วยฉันที” <<<นายหน้าหวาน
“นายมันดื้อ” <<<นายขี้เล่น
“......”<<<มัตสึ
“ถ้านายไม่บอกฉันจะเอาเรื่องที่เจอนายที่ร้านลุงวันนี้ไปบอกพ่อนาย” <<<ชายขี้เล่น
“พี่นายด้วยนะ” <<<ชายขี้เล่น
“นายติดนิสัยมาจากชิเงะรึป่าว” <<<มัตสึ
“ก็เราเป็นคู่กันนี่นา ใช่ม๊าชิเงะจังคนสวย~”<<<ชายขี้เล่น
“เฮ้อ~”<<<ชายหน้าหวาน
“ในฐานะที่ฉันเป็นเพื่อนนาย ฉันจะรับปรึกษาทุกปัญหาเท่าที่เพื่อนคนนึงจะสามารถทำได้ ดังนั้น...” <<<ชายหน้าหวาน
“ทำไม นายจะทำอะไรฉัน ฉันไม่บอกหรอก นายจะเอาอะไรไปฟ้องพี่ ฟ้องพ่อก็เชิญตามสบายเลย” <<<มัตสึ
“ปล่าวๆ แค่จะบอกว่า ถ้านายยังไม่ยอมบอกอะไร ฉันจะไม่ให้นายกินอะไรก็ตามที่นายสั่งมา ทุกอย่างเลย” <<<ชายหน้าหวาน
“ชิเงะจัง~ ขี้โกง” <<<มัตสึ
“ฉันไม่อยากฟังจากปากนายตอนนายเมาแล้วนะมัตสึ ฉันอยากให้นายบอกกันด้วยตัวเอง” <<<ชายหน้าหวาน
“ซึ้งอ่ะ~ แต่ช่วยไปซึ้งกับโคะแทนฉันได้มั้ย” <<<มัตสึ
“มัตสึ!!!!” <<<ชายหน้าหวาน
“โอเคๆ ยอมบอกแล้วๆ” <<<มัตสึ(ทนสายตาพิฆาตทั้งสองคู่ไม่ไหว)
“เล่าโลด~!!!”<<<ชายขี้เล่น
“พวกนาย.... ออกไปก่อนนะ”ชายหน้าหวานออกปากไล่พวเราที่คอยยืนบริการอยู่
“เดี่ยว!! เหลือเมดไว้คนนึงด้วย”มัตสึค้านก็ที่พวกผมจะเดินผละออกมา
“เซกิจังไปสิ”
พนักงานบริการออกไปไล่ให้ผมไปทำงานต่อ ผมเอามือชี้ตัวผมอีกรอบเพื่อถามให้แน่ใจ
“ใช่ๆ เซกิจังนั้นละ”
อย่างนี้ก็เสร็จโก๋นะสิครับ
ผมเดินเข้าไปจัดโต๊ะและบริการเสริฟน้ำแข๊ง และอาหารให้
มัตสึก็เริ่มเล่าต่อไป.......
...............................
..........................
................
........
“ฮะๆๆๆๆ เป็นถึงลูกเจ้าของผับและคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แค่เรื่องแค่นี้ ไปไม่เป็นหรอฮะ ฮ่าๆๆๆๆ”โคะพูดไปหัวเราะไป
- //// -
“พอเถอะโคะ มัตสึหน้าแดงใหญ่แล้ว”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ปล่อยมันไปเถอะมัตสึ ฉันขอถามนายหน่อยนะ นายยังอยากเจอกับเค้าอยู่เพราะอะไร”
“ก็....เค้าน่าสนใจดี....มั้ง”
“นายอยากขอโทษเค้ามั้ย???”
“ตอนนี้ก็อยากอยู่นิดๆ แต่ฉันไม่กล้าหรอกนะชิเงะ”
“ทำซะสิ ถ้านายยังอยากเจอเค้าอยู่”
“ยังไงละ แม้แต่ชื่อจริงๆของเค้าฉันก็ยังไม่รู้เลยนะ จะรู้ได้ไงว่าตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหน”
‘ยืนฟังอยู่นี่ไง’ ผมแอบถียงในใจ
ชิเงะหยิบมือถือของมัตสึขึ้นมา
“นายเป็นคนเลือกเบอร์มือถือ ให้เค้าเองกับมือไม่ใช่หรอ... โทรไปขอโทษซะสิ”
“ฉันไม่กล้าหรอกชิเงะจัง เค้าคงจะโกรธฉันมากแน่ๆ”
“ก็นายไปทำนิสัยอย่างนั้นใส่เค้าทำไมเล่า”
“ฉันผิดไปแล้วนี่นา”
“ถ้าไม่กล้าโทร นายก็พิมพ์ข้อความส่งไปสิง่ายจะตาย แล้วหลังจากนั้น นายจะไปทำอะไร ไปเล่นบทโศกที่ไหน จะเมาหัวลาน้ำยังไง ฉันก็จะไม่ว่านายเลย”
“นายจะเมาเป็นเพื่อนฉันอ่ะดิ นายถึงไม่ว่า”
“เอาเหอะๆ อย่ามัวแต่ทิฐิ อย่ามั่วแต่หัวสูง ส่งไปเลยเร็วๆเข้า!!!”
“อื้มๆเข้าใจแล้วๆ”
‘ติ้ดๆ!!! ส่งข้อความเรียบร้อย’
“แล้วถ้าเค้าไม่รับคำขอโทษของผมละ ชิเงะจัง”
“นั้นมันเรื่องของเค้า ตอนนี้เรามาเมากันให้หมาเมินกันไปเลยดีกว่า เอิ๊กๆ”โคะที่เริ่มซดเหล้าแทนน้ำตั้งแต่โดนชิเงะเมินพูดแทรกขึ้นมา
“โคย่ามา!!! ถ้านายเมาฉันจะไม่แบกนายนะ!!!!”
“ฉันไม่เมาหรอก เธอนั้นแหละคนสวย ที่ฉันคงต้องอุ้มกลับบ้าน”
“บ้า~!! ฉันไม่ได้คออ่อนขนาด...นั้น”
“มาๆ ไหนลองดูซิ”
โคะยืนแก้วสีใส่ที่บรรจุน้ำอาพันธ์เอาไว้เกือบเต็มให้ชิเงะ
“ไหนลองกินให้ผมดูหน่อยสิครับที่รัก~~” โคะเริ่มบังคับตัวเองไม่ได้จากฤทธิ์น้ำเมานั้น
“อ่ะฉันบอก..ว...”
โคะจ้องชิเงะอย่างไม่วางตา
“ที่รักจะดื่มเอง หรือที่รักจะให้ผมป้อนครับ”
อึก~!
ชิเงะกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“ฉันกินเองได้นายไม่ต้องป้อน”
พอชิเงะพูดจบก็ยกเจ้าน้ำสีอำพันธ์นั้นลงคอไปจนหมดแก้ว
หน้าชิเงะเริ่มแดงขึ้พร้อมกับสติที่หลุดลอยไปช้าๆเช่นกัน
โคะยิ้มอย่างได้ใจเมื่อมอม ‘ที่รัก’ ตัวเองสำเร็จแล้วเล็งเป้าหมายมาหามัตสึที่นั่งเขี่ยกับแกล้มกินเล่น
“มัตสึ!!! วันนี้นายมาเมาไม่ใช่หรอ~ นายก็ต้องเมาให้มันเต็มที่หน่อยเซ่~~~”
“อ่า~ เคจังเมาแล้วรึปล่าวฮะ”
“หึๆๆๆๆๆๆ”
โคะทำเสียงแปลกๆออกมาจากคอ
“อ่ะ!!! นั้น เรียวจัง!!! เรียวๆๆๆๆ ทางนี้ๆ”โคะโบกมือโบกไม้ให้ชายอีกคนที่พึ่งเดินผ่านไป
“มีอะไร...หืม”ผู้ชายอายุราวๆ20กว่าๆ แต่ดูแล้วหน้าออกจะ....ดูแกเกินกว่าอายุจริงไปซักนิด
“นายมากินเหล้าเป็นเพื่อนพวกฉันหน่อยเร้ว~~”
“ใครชวนมาเนี่ย”
“มัตสึงาย~~~”ชิเงะที่พึ่งสามารถกลับมาพูดได้อีกครั้งบอก
“มัตสึเนี่ยนะ”เรียวทำหน้าไม่เชื่อพร้อมมองไปที่มัตสึที่ทำหน้าแหยๆใส่
“ช่ายแล้วววววว”ชิเงะตอบอีกแล้วพร้อมกับยกแก้วในมือที่เต็มอีกครั้งด้วยฝีมือของ ‘ที่รัก’ ขึ้นมาดื่ม
เรียวส่ายหน้าระอาแล้วเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆกับมัตสึ
“นาย.....”
“หืม”
“กินดิ!!! หรือจะให้ฉันจับกรอกใส่ปาก”
“เรียวจังใจร้าย~”
“นายชวนมากินดังนั้น นายไม่กินก็ถือว่านายไม่ได้ชวน กินซะ!!!”
ไม่ว่าเปล่ายังหยิบแก้วไวน์ทที่บรรจุเตกิล่าอย่างดีลงไป(ไรท์เตอร์:เรียวจังจะมอมมัตสึแล้วแง่ง)
“ดื่มซะ ให้วันนี้ที่แปลกกว่าทุกวัน”
มัตสึมองของเหลวที่ถูกยัดใส่เข้ามาในมืออย่างชั่งใจ แล้วยกขึ้นจิบ
“โห เรียวจัง มันแรงมากเลยนะ เรียวจังจะมอมผมร้อ”
เรียวมองมัตสึด้วยแววตาแวววับอย่างกับได้ของเล่นใหม่
“นายจะให้ฉันง้างปากนายมั้ยมัตสึ!!!”
“ผมกินเองดีกว่า.....”
มัตสึกลั้นใจซดเตกิล่าไปอึกใหญ่
และผลที่ตามออกมาก็ไม่ต่างจากชิเงะจังมากนัก
ทั้งสองคนโดน มอมไปแล้วละครับ........
ภายในสองชั่วโมงต่อมา
ขวดเหล้า เบียร์ ไวน์ และของมึนเมาทุกชนิด ถูกวางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะ แต่ท่าทางสองคอทองแดงโบกปูนคงจะไม่ยอมเลิกลาเอาง่ายๆ ต่างจากอีกสองคนที่คอพับคออ่อนขอสลบแยกวงออกไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วแล้ว
“เมียนายสลบไปแล้วนะเฟร้ย อ้ายโคะ~~”
“เมียตรู ตูดูแลได้เฟ้ย”
“แล้วไอ้หมีอ้วนนี่ละ ไม่ใช่ทั้งของกุ และของมรึ้ง~”
“ปล่อยแม่งไว้เฮ้อ~~ แม้จะไม่มีพวกเรา เดี่ยวอ้ายพวกนี้ก็ช่วยกันแบกไปส่งถึงเตียงได้ละ เอิ๊กๆๆ”
“เดี่ยวพ่อมันจะมาด่าพวกเรานะ เฟร้ย~”
“นายท่านนะหรอ... เออวะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“นายมันบ้า ไอ้แมวตาบรือ~~~”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“เอิ๊กๆๆๆๆๆ”
“พอเฮ้อ~ มาช่วยกันแบกอ้ายหมีอ้วนนี่ดีกว่า แค่เห็นก็หนักละ”
“เออวะ กลิ้งมันไปแทนได้ป่าวว้า~~~”
“เชี่ย!!! เดี่ยวมานบอบช้ามมมม กูและมึงจะซวย~”
“ซวยกันไปทั้งโคตร เย่ๆๆๆ”
เรียวจัดการหิ้วปีกมัตสึไว้ข้างนึง
“อ้าวอ้ายโคะ มึงไปหนายของมึงฟะ”
“กูก็มีภารกิจของกูเหมือนกันนะเว้ย”
โคะที่ยังพอมีสติอยู่ หันไปอุ้มชิเงะไว้แนบอก
“แม่ง...เลี้ยนวะ”
“กุจาเลี้ยนของกูมึงจาทามมาย”
“แล้วใครจะมาแบกไอ้หมีนี่กับกูว้า~ สัด”
“เฮ้ย!! น้องๆ”
เรียวเรียกผมที่ยืนอยู่แถวนั้นให้เข้าไป
“เอ็งมาช่วยข้าแบก เจ้านายแกหน่อยดิ๊”
ผมรีบปลีเข้าไปหิ้วปีกอีกข้างของมัตสึทันที
ผม เรียว และมัตสึ มาถึงห้องได้อย่างทุลักทุเล เท่าที่เรียวบ่นมาให้ผมฟัง นี่คือห้องของมัตสึ ทุกอย่างดู สะอาดเรียบร้อย ทุกอย่างถูกจัดเข้าที่และเก็บเป็นระเบียบอย่างกับห้องผู้หญิง และมัตสึถูกเรียวโยนขึ้นไปบนเตียงอย่างไม่ใยดี
“อูย....หนักชิบ”
“เธอไปเอาน้ำอุ่นๆมาเช็ดตัวมันด้วยนะ!!!”
ผมเดินออกไปหาผ้าและน้ำอุ่นตามที่เรียวสั่ง
“อ้ายตัวหนักนี่เป็นไงม้าง”โคะถามเรียวที่นั่งเฝ้ามัตสึอยู่
“แฮงค์เป็นหมีนอนตายอยู่นี่งาย ฉันสั่งให้คนไปเอาน้ำอุ่นมาแล้ว~”
“เมียมุงล้า”
“เก็บใส่รถและ เดี่ยวจะกลับบ้าน”
“บ้านแก หรือบ้านเงะ”
“บ้านไหนบ้านไหนก็บ้านเดียวกันละโว้ยยยย”
“อย่าทำอะไรเงะมากนะเฟร้ย เดียวพรุ่งนี้มันมาทำงานไม่ได้”
“กูไม่ชอบลักหลับเฟร้ย”
“อ้อหรอ~ กูจะคอยดู”
ก่อนที่โคะจะทันแก้ต่างให้ตัวเอง
ปั้ง!!
ผมกลับมาพร้อมกลับอ่างน้ำใส่น้ำอุ่นใบใหญ่และผ้าอีกสองสามผืน กว่าผมจะไปหามาได้ ผมต้องวิ่งไปถามคนนี้คนนั้นไปทั่ว
“เธอมาก็ดีและๆ ฝากดูแลด้วยนะ เช็ดตัวให้มันด้วย”
“ค่ะ”
“ไปโคะ มุงไปส่งกูที่บ้านด้วย”
“เชี่ย รถแกไม่มีขับไงวะ”
“ขี้เกียจ กุเมาอยู่ด้วย”
“กูกะเมานะไอ้เฮ้”
“เออน่า ช่วยกันดูทางๆ”
“ชิ!!!”
“ดูแลมันให้ดีละ”
โคะและเรียวหันมาสั่งเสียกับผมก่อนที่จะทยอยกันออกไป
ผมมองหน้าแดงๆของมัตสึตอนเมาแล้วนึกขำ ทีตอนจะงอนไม่เห็นนึกหน้านึกหลังให้ดีก่อนเลยนะ
ผมหยิบโทรศัพท์ที่พึ่งเปิดซิงใหม่ของผมออกมาผมยังไม่ทันได้เปิดเครื่องเลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นมันวุ่นๆนิดหน่อย แต่ก็โชคดีที่ใครๆต่างก็ไม่รู้ว่าผมเป็นผู้ชาย
‘พรุ่งนี้ ช่วยออกมาเจอผมที่โรงหนัง POLO
หน่อยได้มั้ยครับ ผมมีอะไรจะบอกคุณนะ
P.S.นี่เบอร์ผมนะครับ
มัตสึ’
ผมนึกขำกับข้อความที่ส่งมา ตั้งใจว่าจะขอโทษ แต่เอาเข้าจริงก็คงอยากขอโทษต่อหน้ามากกว่าทางโทรศัพท์สินะ
ติ๊ดๆๆๆๆ
ผมพิมพ์ข้อความตอบกลับไป และไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ให้ด้วย
ผมถอดเสื้อออกให้มัตสึช้าๆ ถึงแม้ว่าผมจะเคยถอดให้แล้วทีนึง แต่สถานการณ์ครั้งนี้มันแตกต่างกัน........
จ๋อม~
ผมปิดผ้าให้หมาดน้ำแล้วเริ่มเช็ดตัวตั้งแต่หน้า....คอ.....หัวไหล่....หน้าอก.......แขนทั้งสองข้าง และขาท่อนล่าง ผมคงจะไม่กล้าขนาดถอดกางเกงมัตสึออกหรอกครับ เราเป็นแค่เพื่อนกันนินา
“อื้ม~~~”มัตสึครางออกมาเบาๆ
ผมเช็ดตัวให้มัตสึอีกรอบ มัตสึกำลังยิ้มกับอะไรซักอย่างในโลกแห่งความฝัน แต่อยู่ๆกลับทำหน้าเบ้ๆซธอย่างนั้น
“อย่านะ!!!”
มัตสึละเมอออกมาเสียงดังพร้อมกับจับหมับเข้าที่แขนของผมที่กำลังเช็ดซอกคอให้อยู่ ซักพักมัตสึก็คลายมือออกให้ผมได้เช็ดตัวเค้าต่อไป
“อะ....อย่า...อย่าไปเลย....ผม...ผมขอโทษ”
มัตสึควนครางออกมาเสียงเบา พร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสาย
“ผมขอโทษ~~~~”
“อย่าทิ้งผมไป....ผมขอโทษ.....”
“ผมจะไม่งี่เง่าอีกแล้ว.....ผมขอโทษ....”
มัตสึยังคงละเมอต่อไปและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ผมเช็ดน้ำตาให้มัตสึอย่างเบามือ ความรู้สึกบางอย่างในตัวผมเริ่มก่อขึ้นมาช้าๆทีละน้อยๆ
ผลึบ!!!!!
อยู่ดีๆมัตสึมัตสึกก็กระเด้งขึ้นมากอดผมทั้งๆที่ยังคงพูดคำว่าขอโทษ ซ้ำไปซ้ำมา
กายชิดกาย หน้าของมัตสึที่คลอเคลียอยู่บนอกผมกำลังหลับพริ้ม พร้อมกับกระซิบๆเบาๆ
“อย่าไปไหนนะ... ขอร้อง.... ผมขอโทษ....”
หยาดน้ำใสหล่นออกมาจากดวงตาที่หลับพริ้มอยู่นั้นอีกครั้ง
อาการตกใจเพราะโดนกอดยังจางไปไม่หายผมทำอะไรไม่ถูกไปชั่วนขณะก่อนที่จะ กอดมัตสึพร้อมกับลูบหัวเบาๆ ทั้งๆที่เป็นคนขี้อ้อนมากขนาดนี้ แต่ก็ขี้งอนมากไม่แพ้กัน ผมเอื้อมมือไปลูบหัวมัตสึอย่างเบามือแล้วกระซิบตอบเบาๆ
“ฉันไม่โกรธนายหรอกนะ”
มัตสึยิ้มบางๆขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับร้องไห้ต่อไปไม่หยุด
ผมจัดการแกะเจ้ามือปลาหมึกของมัตสึออก พร้อมกับวางมัตสึลงบนเตียงเบาๆ
ผมลืมไปเลยนะเนี่ยว่านายนี่กำลังละเมออยู่
จากฝันร้ายคงจะกลายเป็นฝันดีได้ซักทีนะ ^^
ผมจัดการห่มผ้าให้มัตสึ ใบหน้านั้นกลับมายิ้มแย้มอีกครั้งเมื่อโผเข้าสู่เตียงอุ่นๆ
ผมไล่มือไปตามใบหน้ามัตสึช้าๆ
เหตุการณเมื่อกี้มันบอกให้รู้ว่ามัตสึเสียใจมากๆที่ทำแบบนั้นลงไป ผมเองก็เสียใจไม่แพ้กันหรอกนะ อยากให้เวลาเดินเร็วกว่านี้ อยากให้พรุ่งนี้มาถึงไวๆ
ในที่สุดแค่เพียงคำพูดไม่กี่คำที่ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลาพูดออกมา มันทำให้ผม อยากจะเป็นมากกว่าเพื่อนของเค้าซะแล้ว.... นายผิดเองนะ....มัตสึดะ....
บางสิ่งบางอย่างในตัวผมสั่งให้ผมก้มหน้าลงไปช้าๆ ปีศาจร้ายในตัวเริ่มออกมาเผล้นพล่าน ด้วยการ...
ไม่ได้ๆ ผมจะทำแบบนี้ไม่ได้ ผมและเค้าพึ่งจะรู้จักกันเอง มีคงไม่ดีถ้าผมจะรวบรัดตัดตอนเอาซะตอนนี้
ผมผละออกมา แล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
ผมอยากจะรู้จักเค้ามากขึ้นกว่านี้ มากขึ้นอีก มากขึ้นทุกวัน แม้ตอนนี้ฉันยังพูดว่า รัก นายไม่ได้ แต่ซักวันนึง ซักวันนึง ถ้าความรู้สึกเราตรงกัน ... ผมภาวนาให้เป็นอย่างนั้นอยู่ในใจ.....
==================================================
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย^o^
จบด้วยตอนหวานๆของยูยะกับมัตสึ
หวังว่าทุกคนจะชอบนะค่ะ
หรือถ้ามันหวานไปก็บอกได้นะจะได้ลดน้ำตาลลงนิดนึง^o^
ความคิดเห็น