ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTS] "Noodle Project รักนี้ต้องลวก" ใหญ่แห้งไม่งอก | HOPEGA FT.BTS

    ลำดับตอนที่ #2 : ใหญ่แห้งไม่งอก : ชามที่หนึ่ง (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 58



       Chapter 1  
         

              ปัง!!!

    เสียงปิดประตูห้องนอนดังขึ้นด้วยฝีมือของยุนกิ หลังจากที่วันนี้ได้ขายก๋วยเตี๋ยวหมดแล้ว ผมจึงช่วยเตี่ยเก็บกวาด ล้างจาน และถูร้านเสร็จเรียบร้อย ก็รีบกลับบ้านมาอาบน้ำแต่งตัว ล้างเนื้อล้างตัวที่เต็มไปด้วยเหงื่อ เพื่อเข้านอน

    วันนี้ลูกค้าที่ร้านก็เยอะเหมือนทุกวันจนผมไม่ได้มีเวลาพักเลย  เมื่อนึกถึงแล้ว ผมรู้สึกดีใจมากๆ ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวประจำตระกูลขายดิบขายดีขนาดนี้ เพราะก่อนหน้าที่ผมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเตี่ยนั้น ลูกค้าไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่ แต่มันก็น่าสงสัยเมื่อจู่ๆ ลูกค้ากลับเต็มร้านในวันที่ผมออกไปทำก๋วยเตี๋ยวด้วยมือของผมเอง หลังจากนั้นเตี่ยเลยเป็นคนเตรียมของต่างๆ และให้ผมช่วยรับผิดชอบทำก๋วยเตี๋ยวแทน บางครั้งก็มียองแจมาช่วยด้วยอีกแรง


    ตือดึง!


    ผมหันไปมองตามเสียง จึงเดินไปล้มตัวนอนบนเตียงและหยิบโทรศัพท์เครื่องสีขาวขึ้นมาสไลด์ดู


    หนึ่งหมื่นล้านคนกำลังตื่น

    สองหมื่นล้านคนกำลังหลับ

    สามหมื่นล้านคนกำลังคุยโทรศัพท์

    แต่หนึ่งคนน่ารักกำลังอ่านข้อความนี้ จอง โฮซอก


                จองโฮซอก เด็กบ้านี่อีกแล้ว ขยันส่งไลน์มาหาผมได้ทุกวันจริงๆ ผมรู้ว่าเด็กนี่มันขี้เต๊าะ ชอบหยอดมุกเสี่ยวใส่คนอื่นไปทั่ว แต่ในบรรดาคนที่เข้ามาในชีวิตผม คงเป็นเด็กคนนี้ที่อยู่ได้นานที่สุด ซึ่งแวะเวียนมาที่ร้านผมทุกวัน ตั้งแต่ตอนผมอยู่มอหกจนปัจจุบัน ถ้านับรวมๆ ก็ประมาณหกปีแล้วที่ยังคงมาตลอดไม่เคยขาด

                ผมชอบเวลาเด็กคนนี้ทำหน้ามุ่ยตอนเห็นถั่วงอกที่ผมมักชอบแกล้งใส่ให้เยอะๆ มันน่าขำนะครับ ที่เด็กไม่ค่อยมีสติเหมือนคนบ้า กลับทำหน้าหงุดหงิดได้เพราะแค่เห็นถั่วงอก


                 ‘ไอ่บ้า มิน ยุนกิ


                ผมตอบไลน์โฮซอกกลับ หืม... น้องเปลี่ยนรูปนี่นา ผมกดเข้าไปดูรูปของโฮซอก เป็นรูปที่เจ้าตัวเซลฟี่เอง ใส่แว่นกันแดดสีดำ สวมเสื้อคลุมยีนส์ ใช้มือปาดผมหน้าม้าและฉีกยิ้ม ปัง... ปังมาก!!! โอ๊ย... หล่อมากมั้ง ผมเอามือปิดหน้าที่ขึ้นสีของตัวเอง ดิ้นไปมาอยู่บนเตียง สักพักก็ใช้นิ้วจิ้มหน้าจอกดเซฟรูป อ่า... ใจเต้นรัวเหมือนมีใครมายกขบวนตีกลองยาวในหัวใจเลย เดี๋ยวนะ แค่เห็นรูปเด็กบ้านั่นก็ใจเต้นแล้ว นี่ผมเป็นอะไรเนี่ย?

                วนอยู่ในความคิดตัวเองสักพักใหญ่เปลือกตาก็ปิดลงเรื่อยๆ ด้วยความเพลียที่ใช้พลังงานไปเยอะ ทำให้ร่างบางเผลอหลับไปในที่สุด

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

              ภายในห้องกว้างเรียบหรูสไตล์โมเดิร์นของคอนโดใกล้ตลาด เฟอร์นิเจอร์สีขาวตัดกับผนังห้องสีดำที่เจ้าของห้องชอบ แสงสะท้อนของดวงจันทร์ผ่านกระจกเข้ามาทางระเบียงกว้างที่ยังไม่ปิดม่าน ทำให้ห้องไม่มืดจนเกินไป ตรงข้ามกับเตียงนอนคิงไซส์ มีทีวีจอแบนขนาดใหญ่ ข้างๆ กันมีเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ชุดใหญ่โดยถัดไปเป็นโต๊ะทำงานที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ บรรยากาศเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ  โดยเจ้าของห้องที่กำลังนอนหลับตาฟังเพลงอย่างอารมณ์ดี จมอยู่ในความคิดของตนเอง

     

    ปฏิเสธหัวใจอย่างไรฉันทำไม่เป็น เพียงแค่เห็นเธอเข้ามาทักทาย

    เหมือนได้เห็นความฝันที่กลับกลายเป็นความจริง

    หัวใจที่ไม่เคยมีรัก กับอยู่ไม่เป็นจังหวะเพียงแค่เธอส่งยิ้มมา

    ไม่กล้าเปิดเผยใจกลัวเธอจะรู้ว่า คนที่ยืนอยู่ตรงนี้

    แอบหลงรักเธออยู่ เธอคงดูไม่ออก

    ซ่อนความรักไม่กล้าบอก กลัวเธอจะเปลี่ยนไป

    ห้ามใจยังไงให้ไหว เมื่อเธอน่ารักเกินกว่าใคร

    ปฏิเสธอย่างไร เมื่อรักเธอจนไม่อาจจะถอนตัว

     

    ครืด ครืด ... ครืด ครืด ...


    ผมสะดุ้งเพราะเสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือข้างหัวเตียงดังขึ้น ภาพหน้าจอที่เคยเป็นสีดำ ตอนนี้กลายเป็นรูปปาร์ค จีมิน เพื่อนสนิทเข้ามาแทนที่ เป็นสายเรียกเข้าจากเพื่อนรักของเขานั่นเอง จึงเหลือบสายตาไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่อยู่ข้างๆ กัน ก็สรุปได้ว่า นี่มันสี่ทุ่มครึ่งแล้ว เพื่อนเขาจะโทรมาทำไมเนี่ย


    "ฮัลโหล ไอ่เตี้ย ดึกๆ ดื่นๆ ทำไมมึงยังไม่นอนอีก แล้วโทรมามีอะไร?" ร่างสูงพูดทันทีที่กดรับสายโทรศัพท์

    กูคิดถึงเขานิดเดียวถึงกับต้องโทรมาขัดขวางกูเลยเหรอเนี่ยปาร์ค จีมิน หึไม่ได้พูดออกไปหรอกครับ ผมได้แต่นึกในใจ

    [คือกูจะโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้ตอนรับน้องเสร็จอ่ะ ไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็นเพื่อนกูด้วยนะไอ่โฮป กูคิดถึงยองแจว่ะ อยากเจอเขา]

    เออ กูก็ไปกับมึงทุกวันจนเป็นกิจวัตรนั่นแหละครับเพื่อนรักของกู ต่อให้ไม่ต้องโทรมาบอกกูก็รู้ว่ามึงต้องไปอยู่ดีไอ่เตี้ยอ่า... จริงๆ แล้วผมเองก็อยากจะไปเจอคนตัวเล็กนั่นเหมือนกันนะ

    [มึงนี่มันสมกับเป็นเพื่อนรักกูจริงๆ ไม่พูดอะไรก็เข้าใจกันทุกคำ ไม่เคยต้องถามก็ตอบมาได้ตรงใจ ไม่ต้องเรียกร้องก็ได้รับ กับสิ่งที่ดีมากมาย เข้าใจเมื่อได้รักเธอ 55555555555555555555555555555555 งั้นกูไม่กวนมึงแล้วดีกว่า  มึงรีบนอนนะไอ่โฮป พรุ่งนี้เปิดเรียนวันแรกอย่าสายนะเว้ย รักมึงนะเพื่อนโฮป จุ๊บๆ ]

    หลังจากมันร้องเพลงจบ ผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะรัวมาจากปลายสาย

    มาเป็นเพลงเลยนะมึง!!!  เออหน่า กูไม่ไปสายหรอก มึงอ่ะอย่าไปสาย เจอกันหน้ามหาลัยนะมึง ฝันดีไอ่เตี้ยพูดจบผมก็กดตัดสายทันที


    มึงมันตัวป่วนในชีวิตกูเลยครับปาร์ค จีมิน!!! แต่ถ้าขาดมันไปชีวิตผมก็คงเหงาหงอยน่าดูเลยเหมือนกัน ถึงจะไม่เคยบอกมันว่าผมรักมันและเป็นห่วงมันมากแค่ไหน เพราะผมมักแสดงออกทางการกระทำมากกว่า ถ้ามันไม่โง่ กินหญ้าแทนก๋วยเตี๋ยวก็คงจะรู้แหละมั้ง ใครจะกล้าพูดแบบมันล่ะครับ ผู้ชายบอกรักกันขนลุกจะตาย

    เฮ้อ แต่พอมานั่งคิดๆ ดูแล้ว โฮซอกเอ้ย แกควรเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างได้แล้ว จะปอดแหกแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย ห้ามยอมแพ้ไอ่เพื่อนเตี้ยนั่นดิวะ จริงๆ แล้ว ผมได้แต่บอกตัวเองแบบนี้มาหกปี หกปีที่เขาแอบชอบคนๆ นั้น หกปีที่แอบชอบพี่ยุนกิ...


    หกปีที่เต็มใจไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็นเพื่อนจีมินทุกวันเพราะอยากเห็นหน้าคนขายก๋วยเตี๋ยวเช่นกัน หกปีที่พยายามปิดบังมาตลอด แต่ยิ่งปิดบังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากบอกความลับนี้ให้พี่เขารู้มากขึ้นเท่านั้น ผมยิ่งชอบ ยิ่งคิดถึงพี่ยุนกิมากขึ้นทุกวัน จนตอนนี้หายใจเข้า หายใจออกก็มีแต่พี่ยุนกิ ในความคิดก็มีแต่พี่ยุนกิเต็มไปหมด


    ตอนเห็นคนอื่นจีบพี่เขาทีไร ผมอยากจะเข้าไปตบหัวมันให้ลงชามก๋วยเตี๋ยวซะเดี๋ยวนั้นเลยแต่ก็ทำไม่ได้ มันน่าอึดอัดจริงๆ !!!


    สะบัดความคิดออกไปจากหัวได้ ผมเลยจิ้มหน้าจอเข้าแอพยอดฮิตสีเขียว เช็คไลน์เหมือนทุกเช้าและทุกคืนก่อนนอน มีแจ้งเตือนจากทั้งเพื่อนตอนมัธยม ทั้งสาวสวยและหนุ่มสวย(?)เป็นร้อยกว่าข้อความ จึงกอดตอบเพื่อนไปบ้าง แต่สาวๆ และหนุ่มๆ คนอื่น ผมก็ไม่ได้กดเข้าไปอ่านและตอบสักเท่าไหร่หรอกครับ ทุกวันมีแต่คนเข้ามาจีบผมเยอะแยะไปหมด แต่ผมไม่อยากให้ความหวังเขา เพราะในใจผมมีแต่คนตัวเล็กตัวขาวคนเดียวนั่นล่ะ

    ผมได้แต่ไลน์ส่งข้อความเสี่ยวๆ ไปทุกวัน แต่พี่เขาคงไม่คิดว่าผมจริงจังล่ะมั้ง คิดไปคิดมาสายตาผมไปสะดุดกับรูปดิสไลน์ของคนๆ หนึ่ง จึงกดเข้าไปดู ไม่นานนักรูปก็ปรากฏเต็มหน้าจอ เป็นรูปของคนตัวเล็กผิวขาว ผมออกโทนสีส้มหน่อยๆ ใส่หมวกและใส่แว่นสีดำ สวมเสื้อยืดสีดำ คลุมด้วยเสื้อลายสก็อตทับอีกที

    ผมได้แต่มองรูปแล้วยิ้มเงิงออกอยู่คนเดียว พี่ยุนกิของผมน่ารักอีกแล้ว ป่านนี้คงนอนหลับฝันดีไปแล้วสินะ ผมคงต้องรีบนอนบ้างแล้วล่ะ จะได้เจอกับพี่เขาในฝัน มีเพียงความฝันเท่านั้น ที่ทำให้ผมและพี่เขาสามารถรักกันได้ สักวันผมก็อยากให้ความฝันมันเป็นจริงบ้าง

     

    ทันใดนั้นข้อความจากร่างบางก็เด้งขึ้นมา

    ไอ่บ้า มิน ยุนกิ

     

    เชี่ยเอ้ย! พี่เขาตอบกลับมาด้วยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!

     

    ผมอ่านแล้วอยากจะกรี๊ดออกมาแต่ก็กลัวจะเหมือนตุ๊ดเกินไป วันนี้พี่เขาตอบกลับมาด้วยแฮะทั้งๆ ที่ปกติมักจะอ่านแล้วไม่ตอบ เมื่อหันไปเห็นตัวเลขที่นาฬิกาดิจิตอลแล้ว ก็คิดได้ว่าเขาเองสมควรจะนอนก่อนที่จะดึกมากไปกว่านี้ พรุ่งนี้ผมเองต้องตื่นเช้า เพื่อไปเรียนมหาลัยวันแรก ก็จิ้มหน้าจอตั้งนาฬิกาปลุก จะได้ไม่ตื่นสายให้เพื่อนสนิทบ่นในตอนเช้า จากนั้นหันไปหยิบรีโมทแล้วกดปิดเพลงที่เปิดไว้ อ่า ผมหวังว่าพรุ่งนี้คงจะเจอเรื่องสนุกๆ นะ

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    ร่างสูงเดินทอดน่องยาวๆ ไปตามถนนหน้ามหาลัยชื่อดังย่านบางท่าน อากาศยามเช้าวันนี้แจ่มใสและเย็นสบาย บวกกับรอบๆ ตัวตอนนี้ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ทำให้ร่างสูงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เมื่อรู้สึกตัวว่าเดินมาถึงประตูทางเข้ามหาลัยแล้วก็ขยับข้อมือยกขึ้นมาดูนาฬิกา หันมองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอเพื่อนรักของตน ตอนนี้คงจะกำลังเดินทางมาแหละมั้ง ร่างสูงหยุดความคิดจากนั้นเดินเข้ามหาลัยไปหาที่นั่งสบายๆ เพื่อรอเพื่อนของตน

     

    ผ่านไปครึ่งชั่วโมง...

     

    นี่มันจะแปดโมงแล้ว ปาร์ค จีมินก็ยังมาไม่ถึง!!!  มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนเนี่ยหรืออาจจะรถติด? แต่ตามความคิดของเขาที่คบกันมานาน  เพื่อนรักของเขาต้องยังไม่ตื่นชัวร์เลย

    ไอ่เตี้ยนี่แม่งสายประจำ

    โฮซอกนั่งบ่นเพื่อนรักตัวดีที่มาสายตั้งแต่มอหนึ่งจนถึงมอหก ซึ่งวันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของมหาลัย พวกเขาสองคนสอบเข้าได้มหาลัยที่เดียวกันและคณะเดียวกัน กี่ปีผ่านไปปาร์ค จีมินก็ยังมาสายตามเคย

    ระหว่างที่นั่งบ่นอยู่คนเดียวนั้น โฮซอกรู้สึกได้ถึงสัมผัสเบาๆ ที่ต้นแขนตนเองเหมือนอะไรมาจิ้ม

    นี่ๆ นาย เอ่อ... ปีหนึ่งเหมือนกันใช่ป่ะ?”

    ผมหันไปตามเสียงก็พบชายหนุ่มคนหนึ่งและน่าจะเป็นคนที่สะกิดแขนผมนั่นเอง ชายหนุ่มที่รูปร่างสูงพอๆ กับเขา แต่กลับตัวบางกว่าเขามาก ดวงตากลมโต จมูกโด่ง ปากรูปหัวใจนั่นที่กำลังส่งยิ้มให้เขา บวกกับผมสีน้ำตาลและผิวสีแทนทำให้ชายหนุ่มคนนี้ดูน่ารักสะดุดตา  เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันแล้วมันช่างลงตัว ทำให้ดูดีกว่าคนอื่นที่ใส่เชิ้ตสีขาวเครื่องแบบนักศึกษาชายของมหาลัยแบบเดียวกัน

    นายมองอะไรอ่ะ หน้าผมมีอะไรติดเหรอ?” ร่างโปร่งถามขึ้นเพราะเห็นชายคนนี้นั่งจ้องหน้าเขาอยู่นานและไม่ตอบคำถามของเขาสักที

    เอ่อ... เปล่าๆ ไม่มีอะไรติดหรอก ผมแค่สงสัยว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า

    เราไม่รู้จักกันหรอกครับ แต่กำลังจะรู้จักกันนี่แหละร่างโปร่งพูดจบก็ยิ้มกว้างจนปากเป็นรูปหัวใจ รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้น่ารักจนทำให้โฮซอกแอบใจสั่นเบาๆ

    ขอถามตรงๆ เลยแล้วกันนะ จะจีบผมเหรอ? 555555555555555555555555555

    ผมหัวเราะ ถามกลับด้วยความมั่นใจ เพราะที่ผ่านมาก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายจำนวนมากเข้ามาทำความรู้จักเขา

     

    เป็นธรรมดาของลูกชายตระกูลจอง เจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจของเขามีทั้งที่ดินและบ้านเช่าตึกแถวอยู่หลายแห่งในประเทศ ไหนจะกิจการตลาดและห้างสรรพสินค้าดังๆ และยังไม่รวมกิจการส่วนตัวยิบย่อยอื่นๆ อีกมากมาย ทว่าก็ไม่ได้เปิดตัว โอ้อวดชาวบ้านชาวช่อง ไม่อยากให้ใครเข้าหาเพียงเพราะที่บ้านผมรวย อยากอยู่แบบสงบๆ  แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยจะสงบเท่าไหร่หรอก

    ถ้าเอ่ยถึงเรื่องหน้าตาแม้จะมีเงิงนิดหน่อย(?) ก็จัดอยู่ในระดับหน้าตาดีเลยทีเดียว ทั้งสามารถที่ผมมีเรื่องเต้นไม่เป็นที่สองรองใคร แค่นี้ก็ทำให้ใครหลายๆ คนเข้ามาทำความรู้จักอยากได้ไปควงทั้งนั้น แต่โฮซอกเองกลับไม่คบหากับใครเลยสักคน

    ฮ่ะๆ จีบบ้าจีบบออะไรของนาย หลงตัวเองอ่ะ ผมแค่ถามว่านายปีหนึ่งเหมือนกันใช่ป่ะ ก็แค่อยากทำความรู้จักเพื่อนร่วมมหาลัยเดียวกันแค่นั้นเองร่างบางหัวเราะเบาๆ แล้วสวนกลับ

    งั้นขอโทษนะ ผมเองก็ปีหนึ่งเหมือนกัน แล้วคุณรู้ได้ไงว่าผมก็ปีหนึ่งน่ะ?”

    ก็ดูจากการแต่งตัวถูกระเบียบเรียบร้อยขนาดนี้ น่าจะเป็นเฟรชชี่เหมือนกันไง

    ร่างบางตอบแล้วมองตนเองสลับกับโฮซอก พยักเพยิดหน้าให้อีกคนดูด้วยเพื่อบอกเป็นนัยๆ ว่ามันเป็นความจริงเหมือนประโยคที่ตนพูดไปเมื่อสักครู่นี้

    อ๋อ งั้นต่อไปเราก็เป็นเพื่อนร่วมมหาลัยเดียวกันแล้วเนอะ ผมจองโฮซอกหรือเรียกเจโฮปก็ได้ครับ ถ้ายังเรียกโฮซอกไม่ถนัดอีก เรียกที่รักเลยก็ได้ 5555555555555555555555 แล้วคุณ?”

    คิมแทฮยอง เรียกแทฮยอง หรือถ้ายาวไป เรียกวีเฉยๆ ก็ได้ แล้วแต่นายจะเรียก

    แทฮยอง แทแท... ชื่อน่ารักดีนะ เหมาะกับนายดี งั้นขอเรียกแบบนี้แล้วกัน เพราะอีกคนเป็นคนน่ารัก ทำให้ผมเผลอยิ้มโชว์เงิงชมออกไปโดยไม่รู้ตัว

    ชมผู้ชายว่าน่ารักเนี่ยนะครับ? ผมควรดีใจหรือเสียใจดี...

    แทฮยองพูดแก้เขิน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกชมว่าน่ารัก แต่ทำไมครั้งนี้กลับทำให้หัวใจเขาสั่นแปลกๆ

    ผมก็พูดไปตามที่เห็นแหละหน่า ผมเรียนคณะบริหาร แทแทล่ะ?”

    อ้าว! นี่เราเดียวคณะเดียวกันเลยอ่ะ ดีใจจังมีเพื่อนแล้วแทฮยองพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ ยิ้มตาหยีให้ร่างสูงตรงหน้า

    อุต๊ะอ่ะจ๊ะบ๊ะหึ้ยดีใจเหมือนกัน มีเพื่อนน่ารักร่างสูงพูดคนเดียวเบาๆ

    ห้ะ เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ?"

    "ผมบอกว่าดีจังที่มีเพื่อนใหม่น่ะครับ"

    "แล้วนี่โฮซอกรอใครอ่ะ? ผมเห็นนั่งอยู่ตั้งนานแล้ว"


    แทฮยองถามด้วยความสงสัย มันก็สิบห้านาทีแล้วหลังจากที่เขาลงจากรถมามหาลัยแล้วเจอผู้ชายคนนี้นั่งอยู่ เขาเลยแอบมองอยู่ห่างๆ โดยที่โฮซอกไม่รู้ตัว เห็นนั่งคนเดียวอยู่นานเลยถือเป็นโอกาสในการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ จึงเดินเข้ามาทักซะเลย

    ผมรอเพื่อนน่ะ นัดกันไว้หน้ามหาลัย มันก็เรียนคณะเดียวกัน เดี๋ยวถ้ามันมาถึงจะแนะนำให้รู้จัก

    รอเพื่อนเหรอ งั้นขอนั่งรอเป็นเพื่อนโฮซอกนะแทฮยองแอบดีใจไม่น้อยกับคำตอบของคนตรงหน้า

    ได้สิ ตามสบายเลย ร่างสูงผายมือไปที่เก้าอี้อีกตัวตรงข้าม แทฮยองจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตามคำตอบรับ

    นี่ ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้ว ผมว่าเราเลิกคุยกับแบบทางการดีไหม มันดูเหินห่างยังไงไม่รู้

    ฮ่าๆ ตามนั้นก็ได้ ฉันเองก็อึดอัดเหมือนกัน

    ผมส่งยิ้มมุมปากให้แทฮยอง ถ้าไม่นับเรื่องเพื่อนสนิทที่มาสายแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องดีๆ ของวันนี้เช่นกัน ตอนที่เห็นแทฮยองครั้งแรก บอกเลยว่าเผลอมองนานไปหน่อย การที่มีคนหน้าตาน่ารักเข้ามาทำความรู้จักมาคุยข้างๆ แบบนี้ทำเอาผมใจเต้นอยู่ไม่น้อย ที่บอกไปว่าน่ารักเมื่อกี้ก็พูดไปตามที่เห็นเพราะเพื่อนใหม่ของเขาคนนี้น่ารักจริงๆ ยิ่งเวลายิ้มยิ่งน่ารัก ทำให้ไม่อาจละสายตาจากปากรูปหัวใจนั่นได้จริงๆ

     

    นานมาแล้วที่ไม่ได้เจอใครที่ทำให้เขาหัวใจเต้นได้เหมือนตอนเจอกับพี่ยุนกิ...

     

    หิวจัง นายหิวป่ะ?” แทฮยองบ่นแล้วลูบท้องตนเอง

    แทแทหิวเหรอ? ฉันมีแต่นี่ กินแทนข้าวไปก่อนได้ไหมล่ะ?”

    พอได้ยินที่อีกคนถาม ผมเลยเปิดกระเป๋าหยิบห่อขนมปังออกมาชูให้อีกคนดู ผมมักจะพกของกินติดกระเป๋าไว้เสมอ เพราะไอ่เพื่อนตัวเตี้ยมันชอบหิวบ่อย กินอะไรเข้าไปก็ย่อยเร็ว ไม่รู้ว่ากระเพราะมันรั่วรึเปล่า กินได้ทั้งวัน

    เฮ้ย ให้ฉันแล้วโฮซอกไม่กินเหรอ?”

    ไม่ล่ะ ฉันกินข้าวมาแล้ว ที่พกขนมปังไว้ก็เพราะเพื่อนฉันอีกคนมันชอบหิวอ่ะ

    ดีจังเลยนะ มีเพื่อนแบบโฮซอกเนี่ย

    ดียังไงหืม?” ร่างสูงจ้องตารอคำตอบจากอีกคน

    ก็โฮซอกจะทำอะไรก็นึกถึงเพื่อนตลอดเลยอ่ะ

    ต่อไปแทแทก็จะเป็นอีกคนที่ฉันนึกถึงตลอดเหมือนกัน ฮิ้วววววว ผมหยอดมุกแล้วเอ่ยแซวเองเลยครับ 555555555555555555555555555555555555

    อ่า ฉันรู้สึกว่าฉันสำคัญขึ้นมาทันทีเลยอ่ะ 55555555555555”  แทฮยองหัวเราะร่าแล้วเอื้อมมือหยิบห่อขนมปังจากมืออีกคน

    เผื่อแทแทจะไม่อิ่มร่างสูงวางกล่องนมบนโต๊ะแล้วเลื่อนไปตรงหน้าของแทฮยอง

    ขอบใจนะ

    ไม่เป็นไรครับ

     

    หลังประโยคสั้นๆ ของโฮซอกจบลง แทฮยองจึงแกะซองขนมปังและกัดเข้าปากไปเงียบๆ โฮซอกเห็นเพื่อนใหม่กำลังกินอยู่เลยหันไปมองคนรอบข้างที่ตอนนี้เดินกันไปมาจนเริ่มตาลาย

    ว่าแต่เพื่อนโฮซอกทำไมมาช้าจัง นี่มันใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วนะ” 

    แทฮยองละจากหลอดดูดนมที่เจ้าตัวดูดจนหมดกล่องแล้วและขนมปังที่ร่างสูงให้มาตอนนี้ได้ลงไปอยู่ในท้องของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เมื่อเหลือบไปเห็นเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตนเองเลยเอ่ยถามขึ้นมา

    ตั้งแต่คบกับมันมา มันสายแบบนี้ประจำแหละ แทแทจะเข้าเรียนก่อนก็ได้นะ ฉันนั่งรอมันคนเดียวได้” ผมบอกไปเพราะเกรงใจเพื่อนใหม่ที่อาจจะต้องขาดเรียนวิชาเรียกเพราะเพื่อนของเขา

    ไม่เอาหรอก เป็นเพื่อนกันแล้วก็ต้องเข้าเรียนพร้อมกันดิ จะให้ไปเรียนก่อนได้ไงแทฮยองยักคิ้วให้โฮซอก

    แต่วันนี้มันวันแรกของวันเปิดเรียนนะ

                แล้วยังไงล่ะ? เพื่อนกันต้องไปไหนก็ไปด้วยกัน โฮซอกยังนั่งรอเพื่อน ฉันก็จะนั่งรอเป็นเพื่อนไง

                งั้นก็แล้วแต่แทแท อย่ามางอแงตอนหลังนะถ้าโดนอาจารย์หักคะแนน ไม่รู้ว่าวันแรกอาจารย์เขาจะเช็คชื่อรึเปล่าน่ะผมยักไหล่ด้วยท่าทางชิวๆ เรื่องโดดเรียนน่ะ ผมโดดจนชินไปแล้วล่ะ


    ไม่นานนักสายตาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนตัวเตี้ยของเขาเดินผ่านประตูมหาลัยเข้ามาด้วยสภาพหัวฟู บ่งบอกได้ว่ารีบมาจนไม่ได้สนใจผมเผ้าหน้าตาตนเองเลย


                ครืด ครืด ... ครืด ครืด ...


                แรงสั่นจากหยิบโทรศัพท์มือถือทำให้ผมขยับตัวหยิบมันจากกระเป๋ากางเกงและเงยมองเพื่อนสนิทที่กำลังเอาโทรศัพท์มือถือแนบหูหันซ้ายหันขวาเหมือนมองหาอะไรสักอย่าง จึงทำให้รู้ว่าสายเรียกเข้านี่คือจีมินนั่นเองที่โทรเข้ามา ใจจริงผมอยากจะแกล้งไม่รับสายมันซะหน่อย


                [เจโฮป!!! กูขอโทษที่มาสายนะเว้ย กูตื่นสายอ่ะ]

                ผมแอบขำเพื่อนสนิทที่ยืนทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้อยู่กลางลานกว้าง

                อือผมตอบกลับด้วยเสียงนิ่งๆ

                [เฮ้ย มึงโกธรกูเหรอ? อย่าโกธรดิวะ วันหลังกูจะไม่มาสายแล้ว]

                มึงพูดแบบนี้มากี่ปีแล้วไอ่เตี้ย? กูก็เห็นมึงมาสายทุกที

                [ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ อย่าโกธรกูเลยเจโฮปเพื่อนรัก]

                “…” ผมแกล้งเงียบไม่ตอบมัน อยากจะรู้ว่าถ้าผมโกธรมันจริงๆ มันจะทำยังไง

                [อย่าเงียบดิมึง กูขอโทษจริงๆ ถ้าไม่หายโกธรกูร้องไห้จริงๆ นะเว้ย…]

    ปาร์ค จีมินเบะปาก เผลอกดเลื่อนนาฬิกาปลุกเพราะความงัวเงีย  ทำให้หลับต่อจนตื่นสาย ทั้งๆ ที่คิดไว้ว่าขึ้นมหาลัยแล้วจะเลิกนิสัยตื่นสายและอยากทำอะไรให้ตรงเวลา แต่วันนี้ก็พลาดจนได้

    จะร้องไห้ก็เรื่องของมึง ไม่เกี่ยวกับกูนี่

    [เจโฮป กูสัญญาเลย ต่อไปจะไม่สายอีกแล้ว ยกโทษให้กูนะ]

                “...”

                [โฮซอก...]

                ผมมองเพื่อนสนิทที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมาจริงๆ ก็ตกใจ เพราะตั้งแต่คบกันมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่จีมินเรียกผมด้วยชื่อจริง ไม่ใช่เจโฮปเหมือนปกติ

                อะไร? มึงหันหน้ามามองกูได้แล้วไอ่เตี้ย ยืนตัวตันเป็นหลักกิโลอยู่กลางลานอยู่ได้ เกะกะชาวบ้านเขา

                ปาร์ค จีมินหันซ้าย หันขวาอีกรอบก็เห็นร่างสูงของโฮซอกนั่งมองมาทางตนเองอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นเลยกดตัดสายแล้วเดินดุ่มๆ เข้าไปหาทันที

                กูขอโทษร่างอวบของปาร์คจีมินเอ่ยขึ้นทันทีที่นั่งลงข้างโฮซอก

                ไม่ต้องขอโทษหรอก ยังไงกูก็โกธรมึงไม่ลงอยู่ดี

                ไม่โกธรจริงๆ นะ?”

                เออ มึงเลิกทำท่าเหมือนจะร้องไห้แล้ว

    ผมพูดแล้วเอื้อมมือไปยีผมมัน สงสัยครั้งนี้จะแกล้งแรงไปหน่อย ให้ตายเถอะ ผม เกือบจะทำมันร้องไห้แล้วเชียว

    แล้วเราต้องเข้าเรียนกี่โมงวะ?” จีมินถามพลางจัดทรงผม ผูกเนคไทใหม่ของตนเองให้เข้าที่เข้าทาง จนลืมสังเกตว่ามีอีกหนึ่งคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

    มึงมาถึงก็เก้าโมงแล้ว เริ่มเรียนวิชาแรกแปดโมงครึ่งครับเพื่อนรัก

    จริงดิ?!!!”

    ไหนๆ ก็สายแล้ว โดดวิชาแรกไปเลยแล้วกัน เออนี่กูจะแนะนำเพื่อนใหม่ให้รู้จัก ชื่อ แทฮยอง


    ผมบอกแล้วชี้ไปทางร่างโปร่งที่นั่งมองพวกผมสองคนคุยกันอยู่


    สวัสดี ฉันปาร์ค จีมินนะจีมินแนะนำตัวแล้วยิ้มบางๆ ให้อีกคน

    อื้อ สวัสดี ฉันคิมแทฮยอง จะเรียกวีก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะ

    แทฮยองแนะนำตัวแล้วยิ้มกว้าง หลังจากมองเพื่อนใหม่สองคนคุยกันแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ดูทั้งสองคนจะสนิทและรักกันมาก เพราะเท่าที่ฟังแล้วโฮซอกเหมือนจะเป็นห่วงจีมิน ส่วนจีมินเองก็แคร์โฮซอกเช่นกัน

    หน้าตาคุ้นๆ นะเนี่ย แล้วนี่ไปรู้จักกันตอนไหน?” จีมินเอ่ยถามด้วยความสงสัย

    ฉันเห็นโฮซอกนั่งอยู่คนเดียวเลยเข้ามาทักดูอ่ะ เลยรู้ว่าเรียนคณะเดียวกัน

    อ๋อ ขอโทษที่ทำให้แทฮยองต้องโดดวิชาเรียกไปด้วยเลยนะ

    ไม่เป็นไรหรอกแทฮยองส่ายหัว

    มึงกินข้าวมารึยังเนี่ย?” ผมถามเพื่อนสนิทและคิดว่ามันน่าจะยังไม่กินมาแน่ๆ

    ยังว่ะ กูจะเอาเวลาไหนไปกิน ตื่นสายชิบหายละ” 


    ร่างอวบยักไหล่เมื่อโฮซอกถามถึงเรื่องอาหารมื้อเช้าของเขา โฮซอกมักจะห่วงเรื่องมื้อเช้า พูดกรอกหูเขาบ่อยๆ ว่ามื้อเช้าสำคัญต่อสุขภาพแค่ไหน ถ้าหากวันไหนยังไม่ได้กินก็จะมีขนมปังหรือนมให้ผมกินแทนมื้อเช้าเสมอ

    ต้องให้บอกอีกกี่สักรอบว่าต่อให้ยังไงก็อย่าลืมทานมื้อเช้าน่ะ เพราะแบบนี้ไงถึงไม่โต หมาโกลเด้นยังตัวสูงกว่ามึงอีก

    โห ไอ่เงิงบาน กูไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นป่ะ?!”

    ไม่เชื่อมึงก็ถามแทแทดิ จีมินมันเตี้ยเนอะแทแทผมถามแทแทที่ทำตาโตเพราะไม่คิดว่าจะลากให้มาอยู่ฝ่ายผม

    เอ่อ... ก็ไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นอ่ะ แฮะๆแทฮยองยกมือเกาหัวแบบงงๆ จู่ๆ ก็ลากเข้าไปในบทสนทนา เป็นใครก็งง

    แทฮยองน่ารักว่ะ มึงอย่าลากแทฮยองเข้าไปเกี่ยวดิ ไอ่เงิงบาน 555555555555555555555555555555

    ผมมองเพื่อนสนิทที่หัวเราะใส่หน้าแล้วตบหัวมันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้

    กูไม่ได้เงิงบาน แค่หนาวแล้วฟันออกปาก...

    โอ๊ย ขำ หนาวเหี้ยอะไรของมึง ไม่เห็นจะหนาวเลย 5555555555555555555555555555555555555” < จีมิน

    แซะตัวเองได้ด้วยเหรอคนเรา 55555555555555555555555555” < แทฮยอง

     “หัวเราะกันเข้าไปเห็นดังนั้นผมเลยทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เพื่อนทั้งสอง ที่แซะตัวเองเพราะอยากให้อารมณ์ดีไง!!!

    ฮ่ะๆ โอ๊ย ปวดท้องจีมินยกมือกุมท้องตนเองเพราะอาการหัวเราะมากไป

    ฮื่อ ฮ่ะๆ หะ หยุดขำไม่ได้เลย 555555555555555555555555แทฮยองพูดติดๆ ขัดๆ เพราะยังคงหัวเราะอยู่

    จะนั่งหัวเราะอีกนานไหม ไปหาอะไรทำกันเหอะ กว่าจะเรียนอีกทีก็ตอนบ่ายนู้นเลยว่ะ

    นั่งดูทั้งสองคนหัวเราะจนผมเอือม เพิ่งรู้จักกับแทฮยองได้แค่แปปเดียว ไม่อยากเปิดเผยตัวตนให้แทฮยองเห็นมากหนัก กลัวเพื่อนใหม่จะตกใจ

    งั้นไปเดินสำรวจมหาลัย ส่องสาวสวยกันเถอะจีมินเสนอความคิดออกมาด้วยสีหน้าทะเล้น

    ฉันเองก็ยังเดินดูไม่ทั่วเหมือนกันอ่ะแทฮยองพยักหน้าเห็นด้วยกับจีมิน

    งั้นลุกสิย๊ะ เพื่อนสาวทั้งสอง เจ๊จะไปเช็คเรตติ้งผมแกล้งดัดเสียง ทำท่าสะดิ้งเอาผมทัดหู ปัดหน้าม้า ขยับแว่นตาให้เข้าที่แล้วลุกขึ้นยืน

    แหม อย่ารีบสิโฮปปี้ มินนี่ขอเสริมสวยก่อน”  จีมินเห็นเพื่อนสนิทเล่นแบบนั้นจึงแกล้งทำบ้าง

    เจ๊รีบ เดี๋ยวหนุ่มหล่อๆ โดนชะนีสอยไปหมดนะนังมินนี่!” < โฮซอก

    กรี๊ด!!! ชะนีหน้าไหนก็ไม่สวยเท่าพวกเราหรอกย่ะ” < จีมิน

    ฉันเองยังสวยกว่าแกอีกนังตุ๊ดเตี้ย แล้วนี่จะนั่งอีกนานไหมแทแท รีบลุกสิโฮซอกพูดแล้วดึงมือให้แทฮยองลุกขึ้นยืน

    ร่างโปร่งของแทฮยองมองผมสองคนอย่างอึ้งๆ หลุดปากถามออกมาตามความคิด

    เอ่อ... เป็นจริงป่ะเนี่ย?”

    เป็นอะไรล่ะจ๊ะแทแท” < จีมิน

    เป็น... เจ๊เป็นคนสวย 5555555555555555555555555555555555555555” <โฮซอก

    “…………………….” < แทฮยอง

    ผมเห็นแทฮยองยืนนิ่งอ้าปากค้าง

    ฮ่าๆ ช็อคเลยเหรอ แกล้งเล่นเฉยๆ หน่า หล่อขนาดนี้ แมนทั้งแท่งขนาดนี้จะเป็นได้ไงผมบอกแล้วเสยผมเก๊กหล่อเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง

    แต่เหมือนมากเลยนะ...แทฮยองหรี่ตามองผมสองคน

    อย่าบอกว่าเชื่อนะ 5555555555555555555555555”  จีมินหัวเราะ

    มีสาวสวยเข้ามาจีบไม่ขาดสายจะเป็นได้ไง

    ผมยกมือยีผมแทฮยอง ก็คนตรงนี้หน้าผมดูน่ารักน่าแกล้งดีเลยแกล้งซะหน่อย ใจจริงอยากสนิทกับเขาเร็วๆ น่ะ

    เชื่อก็ได้... ไปกันเถอะแทฮยองพยักหน้าแล้วชวนเพื่อนทั้งสองคนให้เดินไปด้วยกัน

    ผมเดินตามแทฮยองกับจีมินที่คุยกันไปแบบเงียบๆ ลอบมองแทฮยองเป็นพักๆ บางทีการปรากฏตัวของคนๆ นี้ อาจจะทำให้เกิดเรื่องสนุกขึ้นมาก็ได้

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    หลังจากที่เดินทั่วรอบมหาลัยแล้ว ชายหนุ่มทั้งสามคนก็พากันไปทานมื้อเที่ยงและเข้าเรียนให้คลาสบ่ายจนเวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ


    16.00 น.

     

    เฮ้ย น้องๆ มาทางนี้เลย!!! เดินมาหาคนหล่อทางนี้เลยโว้ย!!!

    เสียงทุ้มของรุ่นพี่ตะโกนเรียกน้องๆ ที่กำลังทยอยเดินออกมาจากห้องที่อาจารย์สอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว


    ผมและเพื่อนทั้งสามคนก็เดินตามเพื่อนร่วมคลาสไปเรื่อยๆ จนรุ่นพี่เขาสั่งให้นั่งเรียงกันเป็นแถว ผมเลยดันจีมินให้นั่งคนแรกและต่อด้วยแทฮยอง ส่วนผมก็นั่งหลังแทฮยองอีกที

    นั่งกันเรียบร้อยแล้ว กรุณาเงียบเสียงด้วย!!! พวกคุณไม่เคยเข้าที่ประชุมกันเหรอ มารยาทน่ะมีไหม!!!” ชายหนุ่มคนเดิมตะโกนว๊ากเสียงดังเพราะรุ่นน้องส่งเสียงคุยกันดังลั่น


    ผมเงยหน้ามองหน้าเจ้าของเสียงทุ้มนั่นก็อึ้งไปสิบวิ จะไม่ให้อึ้งได้ยังไง ขนาดผู้ชายด้วยกันเองยังคิดว่าเบ้าหน้าพี่เขาหล่อใช้ได้เลยทีเดียว รูปร่างหุ่นดี จมูกโด่ง ผิวขาว คิ้วเข้ม ขนาดทำหน้าดุยังหล่อแต่น้อยกว่าผมอยู่ดี สาวๆ ชอบผู้ชายตลกแถมหน้าตาดีแบบผมเว้ย  55555555555555555555555555555

     “ยินดีต้อนรับน้องๆ เข้าสู่มหาลัยและคณะบริหารของเรา พี่ชื่อ มาร์คต้วน อยู่ปีสี่ พี่เป็นประธานคณะครับ

     

    กรี๊ดดดดดดดด แกพี่เขาหล่อมากเลย

    ขุ่นพระ ทำไมพี่เขาหล่อจัง

    นั่นพ่อของลูกฉันเลย!’

    ฉันเห็นพี่เขาแล้วอยากประจำเดือนไม่มาสักเก้าเดือนเลยอ่ะแก กรี๊ด

    ‘ !@$$^E’[g#@%&ETRQ’

     

    หลังจากมาร์คพูดจบ รุ่นน้องผู้หญิงต่างกรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่เพราะรุ่นพี่หน้าตาดีที่ยืนอยู่ด้านหน้า

    พี่คะ มีแฟนรึยังคะ? รุ่นน้องหญิงสาวใจกล้าคนหนึ่งตะโกนถามหนุ่มหล่อ

    ยังไม่มีครับมาร์คตอบกลับพร้อมโปรยรอยยิ้มให้แก่รุ่นน้อง

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!

     

    เสียงกรี๊ดจากสาวๆ ดังขึ้นอีกครั้ง

    อ้าว น้องๆ ครับ เงียบ!!!” เสียงของรุ่นพี่อีกหนึ่งคนตะโกนดังขึ้นมาพร้อมเดินไปยืนข้างๆ มาร์ค

    ขอบคุณทุกคนที่ฟังคำสั่ง พี่ขอแนะนำตัวบ้าง พี่ชื่อแจ็คสัน อยู่ปีสี่ เป็นรองประธานคณะ หล่อ โสด ใจดี สปอร์ต รักสนุก ไม่คิดผูกพัน บ้านขายทองครับ

    ด้วยใบหน้าที่หล่อไม่แพ้มาร์คต้วนเพื่อนของเขาแต่แพ้เรื่องความสูงนี่น้อยกว่าหลายคืบ ทำให้น้องๆ บางคนก็กรี๊ดกร๊าดบ้างและบางคนหัวเราะกับคำแนะนำตัวของรุ่นพี่

    โห บ้านขายทองหยิบทองหยอดอ่ะดิมึงอ่ะ พูดให้จบด้วย ไม่ใช่บอกแค่ขายทอง 55555555555555555555555 จริงๆ แล้วบ้านพี่ก็ขายทองเหมือนกันนะ ไม่ใช่ทองหยิบทองหยอดแบบมันด้วย มาร์คพูดแซวเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ

    ครับๆ พี่มาร์คต้วนบ้านขายทอง... ทองคำเปลวพร้อมชุดถวายสังฆทานสินะเพื่อนมาร์ค 555555555555555555555555555555555”  แจ็คสันที่ไม่ยอมให้เพื่อนแซวตนเองฝ่ายเดียวก็พูดแซวเพื่อนตนเองกลับ

    จะให้กูดูหล่อหน่อยก็ไม่ได้นะไอ่เหี้ยนี่มาร์คตบหัวแจ็คสันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้

    พอเลยไอ่ต้วน กูอายน้องเขา ตบหัวกูแบบนี้เดี๋ยวน้องเขาไม่เคารพกูแจ็คสันพูดกระซิบกับเพื่อนตัวสูงให้ได้ยินกันสองคน

    ได้ยินดังนั้นมาร์คจึงหันหน้ากลับไปหารุ่นน้องที่ดังมองพวกเขาสองคนคุยกับอยู่

    เอาล่ะ นอกจากพี่สองคนแล้ว รุ่นพี่คนอื่นๆ จะมีป้ายชื่อห้อยคอเหมือนที่พี่ห้อยอยู่นะครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา พี่ๆ ครับ ช่วยแจกป้ายแล้วเขียนชื่อให้น้องหน่อยครับ

    ร่างสูงของมาร์คปรบมือเป็นสัญญาณให้รุ่นพี่ทำตามหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายไว้

     

    สิบนาทีผ่านไป

     

    ได้ป้ายชื่อครบกันทุกคนแล้วนะครับ น้องๆ อาจจะรู้จักพวกพี่กันแล้ว แต่พี่อยากรู้จักพวกน้องบ้าง พี่อยากให้น้องทุกคนแนะนำตัวแล้วครีเอทท่าของตัวเอง เริ่มจากน้องคนนั้นแล้วกัน น้องที่ผมสีน้ำตาลคนนั้นอ่ะครับ ที่ยิ้มน่ารักน่ะ ออกมาเลยครับ เอ้า! ปรบมือให้เพื่อนหน่อย


    ทุกคนพร้อมใจกันปรบมือหันหน้ามาทางเด็กหนุ่มที่โดนชี้ แทฮยองสะดุ้งเล็กน้อยที่โดนรุ่นพี่ชี้ให้ออกไปเป็นคนแรก หันหน้าไปหาโฮซอกพร้อมเบะปาก

    ทำไงดีโฮซอก ทำไงๆๆๆๆๆ ฉัน ไม่กล้าออกไป ฮือออออ

    เอาหน่า ไม่เป็นไรหรอก รีบออกไปก่อนที่จะโดนพี่เขามาลากนะ สู้ๆ

    ผมเห็นแทฮยองตัวสั่นเล็กน้อย คงเพราะเป็นคนขี้อายละมั้ง เลยพูดปลอบใจแล้วลูบผมสองสามทีให้อีกฝ่ายหายตื่นกลัว

    อ้าวน้อง เร็วๆหน่อย ถ้าไม่ยอมออกมาพี่จะเข้าไปอุ้มแล้วนะคะ มาร์คพูดพร้อมส่งยิ้มมุมปากให้แทฮยอง

    ออกไปได้แล้วแทฮยอง!”

    จีมินหันหลังกลับมาดันให้อีกคนลุกขึ้น แทฮยองค่อยๆ ลุกขึ้นตามแรงดันช้าๆ หันไปมองโฮซอกอีกครั้ง ก็เห็นว่าโฮซอกกำลังยิ้ม พูดโดยไม่ออกเสียงว่า สู้ๆ นะแล้วชูสองนิ้วให้ จากนั้นแทฮยองก็หายใจเข้าและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก้าวเดินไปหารุ่นพี่หน้าหล่อ

    พี่จะให้แจ็คสันทำเป็นตัวอย่างนะครับมาร์คดันเพื่อนออกไปข้างหน้าเล็กน้อย เอ้า กลองมา!!!”

     

    ผมชื่อแจ็คสัน ผมชื่อแจ็คสัน ชอบคันอวัยวะ เอ้า! ชอบคันอวัยวะ

    ผมชื่อแจ็คสัน ผมชื่อแจ็คสัน ชอบคันอวัยวะ เอ้า! ชอบคันอวัยวะ

     

    แจ็คสันเมื่อได้ยินเสียงกลองจากเพื่อนที่ตีเป็นจังหวะก็ร้องเพลงออกมาแล้วเต้นหน้านิ่งร่อนเอวเลื้อยไปมาเมามันส์อยู่คนเดียว ทุกคนที่ให้ความสนใจแก่ชายหนุ่มนั้นก็อึ้งไปตามๆ กันที่เห็นท่าเต้นของเขา

     

    เอ่อ... เพื่อนแจ็คใจเย็นๆ ฟ้ายังไม่มืด มันยังไม่ใช่เวลาเว้ยมาร์คที่ได้สติก่อนใครเพื่อนก็ลากเพื่อนให้กลับมายืนที่เดิม

    นี่กูเต้นแค่เบาๆ เองนะมึง แจ็คสันยักไหล่ราวกับว่าที่ทำออกไปเมื่อกี๊เป็นเรื่องชิวๆ

    แล้วนี่กูบอกแล้วว่าเวลาอาบน้ำให้ฟอกสบู่ มึงจะได้ไม่คัน 5555555555555555555555555555555555”

    ทันทีที่มาร์คพูดจบ ทุกคนก็หัวเราะรัวกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ทำให้แจ็คสันรู้สึกเขินเล็กน้อย ได้แค่เกาท้ายทอยตัวเองทำหน้ามึน

                “ต่อไปถึงเวลาของคนน่ารักแล้วครับ พร้อมไหมหืม?มาร์คหันไปถามรุ่นน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ ตนเองที่เป็นคนชี้ให้ออกมา

                ถ้าผมบอกว่าไม่พร้อมอ่ะพี่... ผมอายจริงๆ นะ ไม่กล้าทำอ่ะ

                แทฮยองแกล้งทำหน้าหงอยเผื่อว่ารุ่นพี่จะเห็นใจให้กลับเข้าไปนั่งที่เดิม

                ลองดูสักหน่อยหน่า ไม่มีอะไรต้องอายหรอก มีแต่เพื่อนๆ ทั้งนั้นเนี่ย มาร์คกระซิบข้างหูแทฮยองเบาๆ

                “แต่ผม.. พี่มาร์ค.. แต่....”

                “แต่เราก็หากันจนเจอใช่ไหมครับน้องวี มันนานแค่ไหนที่คอยคนน่ารักแบบน้องวีมาเป็นรุ่นน้องพี่” มาร์คร้องเพลงพลางกุมมือร่างบางขึ้นมา

                “ไอ่เพื่อนต้วนครับ เนียนแต๊ะอั๋งน้องอีกแล้วนะมึง” แจ็คสันเข้าไปดึงมือมาร์คต้วนออกจากร่างบางแล้วไล่สายตาตรวจเช็คตั้งแต่หัวจรดเท้า

                “ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับน้อง พี่แจ็คสันอยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัวนะน้อง ใครแต๊ะอั๋งน้องบอกพี่ครับ พี่แจ็คสันจะไปกระทืบมันเอง”

                ผมว่าอยู่กับพี่อ่ะแหละจะไม่ปลอดภัย โฮซอกตะโกนดังขึ้น


                   อยากจะเดินไปดึงแทฮยองกลับมานั่งที่เดิมจริงๆ เลย!


                เฮ้ย พี่บอกให้พูดเหรอ หุบเงิงและหุบปากเลยน้อง แจ็คสันสวนกลับ

                ก็ได้... เต้นนิดเดียวพอนะพี่ ขอรอบเดียวด้วย อย่าแกล้งผมนะ แทฮยองพยักหน้าด้วยความไม่เต็มใจ

                “น้องพร้อม กลองพร้อม เอ้า หนึ่ง สอง สาม!”

     

    ผมชื่อวี ผมชื่อวี ชอบสีอวัยวะ เอ้า! ชอบสีอวัยวะ

    ผมชื่อวี ผมชื่อวี ชอบสีอวัยวะ เอ้า! ชอบสีอวัยวะ

     

    แทฮยองร้องเพลงตามเสียงกลองแล้วเต้นขยับแขนและเอวบางพลิ้วเหมือนปลาหมึกว่ายน้ำ

    ฮิ้ววววววววววววว น่ารักว่ะเสียงจากเพื่อนผู้ชายรุ่นเดียวกันดังขึ้นแซวร่างบาง

    อย่าแซวดิวะ!!!” แทฮยองทำท่าจะเข้าไปหาเรื่อง

    ฮ่าๆ กลับไปนั่งที่ได้แล้วค่ะน้องวี คนต่อไปเลยครับ คนที่นั่งหลังน้องวีที่หน้ายาวๆ ฟันเงิงน่ะ ร่างสูงของประธานคณะหัวเราะเบาๆ ที่เห็นคนน่ารักเต้น เขาชักจะถูกใจเด็กคนนี้เข้าแล้วสิ

     

    ว่ากูฟันเงิง เดี๋ยว... เดี๋ยวพี่ต้วนจะเจอกู!!!

     

    ครับพี่ โฮซอกรีบตอบรับด้วยใบหน้าเจี๋ยมเจี้ยม

    พี่เขาเรียกดีๆ ทำไมต้องเอาฟันชี้หน้าด้วยวะ หาเรื่องเหรอ ร่างกายต้องการปะทะเหรอ?!!!” แจ็คสันแกล้งเดินไปตะโกนใส่หน้าโฮซอก

    เมื่อได้ยินดังนั้นโฮซอกก็ลุกขึ้นยืนทันที ก้มหน้ามองอีกคนที่เตี้ยกว่า

    พี่ว่ายังไงนะครับ?ร่างสูงของโฮซอกเดินก้าวเข้าไปใกล้

    อ้าว น้องไม่เคารพพี่เลยว่ะ เดี๋ยวพี่มาแปป!!! wait a minute.” แจ็คสันพูดจบรีบวิ่งเข้าไปเกาะแขนมาร์ค

    ต้วน! น้องเขาไม่เคารพกู น้องเขายืนค้ำหัวกู แจ็คไม่ยอมอ่ะ แจ็คจะไม่ยอม!!!” 

    เพื่อนแจ็คมึงเก็บอาการหน่อยเพื่อน คีพลุคหน่อยมาร์คพูดเตือนสติเพื่อน

    เออว่ะ กูลืมตัว

    จริงๆ น้องเขาก็เคารพมึงนะ ไม่ได้ยืนค้ำหัวมึงหรอก แต่มึงอ่ะ... เตี้ย

    ความเตี้ยไม่มีผลในแนวราบเว้ย แนวตะแคงกูก็ได้ ตีลังกากูก็ถนัด

    พอละมึง คีพลุค ท่องไว้คีพลุค เอ้า เก็บฟันแล้วเดินออกมาเลยครับน้องมาร์คกวักมือเรียกโฮซอก

     

    ผมเห็นรุ่นพี่เรียกก็เดินไปยืนข้างหน้า ระดับโฮซอกไม่มีคำว่าอายครับ!!! คนหล่อทำอะไรก็หล่อ

    พี่อยากจะรู้ชื่อน้องจริงๆ พร้อมนะ หนึ่ง สอง สาม

     

    ผมชื่อโฮซอก ผมชื่อโฮซอก ชอบปอกลอกอวัยวะ เอ้า! ชอบปอกลอกอวัยวะ

    ผมชื่อโฮซอก ผมชื่อโฮซอก ชอบปอกลอกอวัยวะ เอ้า! ชอบปอกลอกอวัยวะ

     

    ร่างสูงของโฮซอกร้องเพลงหันหลังกางขาออกและย่อเข่าเล็กน้อยจากนั้นเต้นส่ายเอวไปมา ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนต่างส่งเสียงเฮฮาที่เห็นท่าเต้นของร่างสูง รุ่นพี่ที่ตีกลองเห็นดังนั้นเลยตีกลองเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น โฮซอกที่ได้ยินก็เต้นแรงขึ้นเพิ่มความสนุกสนานให้กับทุกคน

    สุดยอดจริงๆ ไอ่เด็กนี่ พี่ชอบว่ะ กลับไปนั่งที่ได้ มาร์คตบบ่าโฮซอกแล้วดันให้โฮซอกเดินกลับไปนั่งที่เดิม

    ระหว่างที่โฮซอกกำลังเดินกลับไปนั่งที่ เพื่อนๆ ต่างพูดแซวไม่หยุดปากรวมทั้งเพื่อนสนิทของเขาด้วย

    โฮป มึงเจ๋งจริงๆ ไม่เสียแรงที่ไปเต้นตามงานวัดบ่อย 5555555555555555555555555555555” จีมินเอ่ยขึ้นเมื่อโฮซอกนั่งที่เดิมหลังแทฮยอง

    ทำไปได้ไง ไม่อายเลยเหรอโฮซอก 555555555555555555555555555” แทฮยองพูดบ้าง

    แล้วแทแททำไปนั่นไม่อายเหรอ? ไหนบอกอายไง เห็นเต้นนี่เหมือนคนลืมพกสติมาด้วย 5555555555555555555555555555555” ร่างสูงไม่ยอมให้โดนคนน่ารักแซวอยู่ฝ่ายเดียวเลยแซวกลับ ทำให้แทฮยองฟาดแขนไปหนึ่งที

    อย่าแซวดิ!!!”

    เจ็บนะเนี่ย ฟาดมาได้ 55555555555555555555555555555555”

    เด็กหนุ่มสามคนหัวเราะได้ไม่นาน จีมินก็โดนแจ็คสันเรียกให้ออกไปแนะนำตัวบ้าง

    เฮ้ย พี่เห็นว่าเรากับพี่คล้ายกัน อยากรู้ว่าจะเจ๋งเหมือนพี่รึเปล่า แจ็คสันพูดกับจีมินที่ยืนอยู่ข้างๆ ตนเอง

    ของแบบนี้ต้องลองครับ ดนตรีมาเลยพี่!” จีมินยักคิ้วให้รุ่นพี่แล้วปรบมือขอเสียงกลอง

     

    ผมชื่อจีมิน ผมชื่อจีมิน ชอบกินอวัยวะ เอ้า! ชอบกินอวัยวะ

    ผมชื่อจีมิน ผมชื่อจีมิน ชอบกินอวัยวะ เอ้า! ชอบกินอวัยวะ

     

    ร่างอวบตะโกนร้องเพลงหน้านิ่ง ขยับช่วงไหล่และสะโพกเต้นสวนทางกัน คนทั้งคณะต่างส่งเสียงเฮฮาเช่นเดียวกับที่เห็นโฮซอกออกลวดลายเต้น

                ‘วู้วววววววววววว โคตรฮาเลยว่ะ

                ‘กรี๊ดดดด  ผู้ชายบ้าบอ ชอบอ่ะแก!!!’

                ‘โอ๊ย แกตัวตันๆ เต้นน่ารักอ่ะ น้องน่ารักมากค่า!! 555555555555555555555555555’

                เอาอีก!!! เต้นอีก!!!‘

                เสียงทั้งจากผู้หญิงและทั้งผู้ชายต่างตะโกนบอกจีมินคนตัวอวบที่ยังคงเต้นไม่หยุด

     

                แทฮยองที่หัวเราะจนเหนื่อยเอนตัวพิงโฮซอกที่นั่งอยู่ข้างหลังตนเอง ร่างบางพยายามหยุดหัวเราะ โดยที่โฮซอกลูบหัวอีกคนเบาๆ

                เดี๋ยวก็หายใจไม่ทันหรอกแทแท

                ก กะ...ก็ฉันขำจีมินอ่ะ ไม่คิดว่าจะบ้าขนาดนี้ แต่ก็ยังบ้าไม่เท่าโฮซอกนะ 55555555555555555555555”

                นั่นไง ค่อยๆ หายใจ หยุดหัวเราะได้แล้ว

                กำลังพยายามอยู่ไง ฮ่ะ..ฮ่าๆ โอ๊ย! เหนื่อยอ่ะ ร่างบางยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความหัวเราะหนักจนเกินไป พลางพูดกับโฮซอกไปด้วย

                คิดถูกรึเปล่าที่เข้ามาทำความรู้จักฉันกับจีมินน่ะ บ้าทั้งคู่เลยนะ 55555555555555”

                “ฉันว่าฉันคิดผิดเหมือนกันนะ แต่อยู่กับนายสองคนก็สนุกดี

    แทฮยองหันหน้าไปหาร่างสูงก็ต้องชะงักไป ทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หน้าของเขาทั้งสองคนห่างกันไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือด้วยซ้ำ

     


    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ...



    เอ่อ... ฉันขอโทษ สบตากันได้ไม่นานแทฮยองที่ได้สติก่อนลุกขึ้นนั่งหลังตรงเก้าท้ายทอยด้วยความเขินแล้วพูดออกมาเบาๆ

    ขอโทษทำไมหืม? โฮซอกเอียงตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อพูดให้อีกคนได้ยิน

    ก็ที่ฉันพิงนายไง มันเผลอตัวน่ะ... ร่างบางก้มหน้าปิดบังใบหน้าแดงของตนเอง

    ไม่เป็นไรหรอก แต่เผลอตัวบ่อยๆ ก็ดีนะ ฉันชอบ 5555555555555555555555”

    เพราะนิสัยพูดปากหวานของผมเลยพูดออกไปให้อีกคนเขินเล่นๆ ผมสารภาพเลยว่าเมื่อกี๊ผมเองก็เผลอไผลไปเหมือนกัน ตอนสบตากันผมทำอะไรไม่ถูกเลย!!! เหมือนโดนใครสักคนขโมยสติไปหมด ผมหวังว่าเมื่อกี๊จะไม่มีใครสังเกตเห็นหรอกนะ

     

    หลังจากจีมินกลับมานั่งที่แล้ว รุ่นพี่ก็เรียกคนอื่นๆ ให้ออกไปแนะนำตัวจนครบทุกคน การทำความรู้จักของรุ่นพี่และรุ่นน้องวันนี้มีแต่ความสนุกสนานและไม่รู้สึกถึงความกดดันจากรุ่นพี่

    พี่อยากให้พวกเราอยู่กันเหมือนครอบครัว พวกเราคณะเดียวกัน ถ้าไม่รักกันแล้วใครจะมารัก มาร์คบอกน้องๆ ที่นั่งเงียบฟังคำพูดของรุ่นพี่หน้าหล่อ

    นอกจากความสนุกที่พี่ๆ อยากให้น้องผ่อนคลายและไม่ต้องเกรงกลัวรุ่นพี่ ยังมีเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่อง!” แจ็คสันพูดแทรกขึ้นมาบ้าง

    เรื่องสำคัญในวันนี้คือ พี่จะให้คำใบ้น้องทุกคนเพื่อไปตามหาพี่รหัสของตนเองครับ ใครหาไม่เจอภายในหนึ่งอาทิตย์จะมีบทลงโทษที่ทุกคนคาดไม่ถึง เชิญน้องๆ ต่อแถวบอกชื่อแก่พี่ตรงนั้นแล้วรับคำใบ้ไปเลยครับ ได้คำใบ้เสร็จแล้วกลับมานั่งที่เดิมนะมาร์คชี้ไปยังเพื่อนที่นั่งรอทำหน้าที่อยู่

     

    น้องทุกคนลุกขึ้นต่อแถวยาวเพื่อรับคำใบ้ของตนเอง ระหว่างที่รอก็พูดคุยกันด้วยความสนิทสนมที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมในวันนี้ ไม่อึดอัดเหมือนช่วงเช้าที่ต่างคนต่างเงียบใส่กัน

    จีมินและแทฮยองรับคำใบเรียบร้อยแล้ว กำลังยืนห่างๆ รอผม แต่เมื่อผมจะรับคำใบ้ รุ่นพี่ผู้หญิงที่ทำหน้าที่แจกคำใบ้ก็พูดขึ้น

    น้องชื่อ จองโฮซอก ใช่ไหมคะ? พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?

    จะถามอะไรครับพี่?

    พี่ชื่อ ดาซม น้องมีแฟนรึยังคะ?

     

    ผมว่าแล้วเชียว... ไม่ว่าไปที่ไหนต้องมีคนเข้ามาจีบทุกที เกิดมาหน้าตาดีนี่มันเหนื่อยจริงๆ 55555555555555555555555555555555555555555

     

    ยังครับผมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

    อ้าว แล้วน้องผมสีน้ำตาลคนที่นั่งข้างหน้าน้องไม่ใช่แฟนน้องหรอกเหรอคะ?

    เฮ้ย ไม่ใช่ครับ ทำไมพี่ถึงคิดแบบนั้น 55555555555555555”

    อ๋อ เปล่าค่ะ พี่อยากทำความรู้จักโฮซอกมากกว่านี้ งั้น... พี่ขอไลน์หน่อยได้ไหม?

    จะดีเหรอครับ? คนสวยๆ แบบพี่ยังโสดอยู่อีกเหรอเนี่ย ผมไม่เชื่อนะ 55555555555555555”

    พี่กำลังจะไม่โสดก็ตอนเจอโฮซอกนี่แหละค่ะ ฮ่าๆสาวสวยหัวเราะเล็กน้อยเพราะคำพูดของรุ่นน้อง

    แหม พูดแบบนี้กับหนุ่มๆ บ่อยสินะครับ

     

    หึหึ ผมรู้ทันหรอกหน่า สวยแบบนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะโสดหรอก 

     

                “รับคำใบ้ไปก่อนแล้วกัน ไว้คุยกันหลังจากกิจกรรมจบนะ ดาซมยื่นคำใบ้ให้ร่างสูง

                ผมยื่นมือไปรับคำใบ้แต่ก็ต้องก้มมองสัมผัสที่มือ พี่ดาซมจับมือผมไม่ยอมปล่อย ผมเลยพูดออกไป

                งั้นโอเคครับ ไว้คุยกันนะ พี่ปล่อยมือผมได้แล้วครับพี่ดาซมคนสวย เพื่อนผมจะได้รับคำใบ้ต่อจากผม

                ผมพูดหลังจากนั้นค่อยๆ ดึงมืออกจากมือขาวนั่นแล้วเดินไปหาจีมินกับแทฮยอง

                คุยอะไรกันวะมึง? จีมินถามออกมาด้วยความสงสัยที่เห็นเพื่อนยืนคุยกับรุ่นพี่สาวสวยตั้งนาน

                ก็เหมือนเดิมอ่ะมึง คนสวยชอบอ่อยเหยื่อ

                ไปที่ไหนก็มีแต่คนเข้าหาตลอดจริงๆ เพื่อนกู ป่ะ ไปนั่งกันเถอะ

                จีมินสะกิดแทฮยอง จากนั้นเดินนำเพื่อนทั้งสองคนไปนั่งที่เดิม แทฮยองที่กำลังงงกับบทสนทนาเมื่อสักครู่ได้แค่ขมวดคิ้วเดินตามไปเงียบๆ

                ผมเห็นแทฮยองทำหน้างงที่ผมคุยกับไอ่เพื่อนเตี้ยก็แอบยิ้ม ทำไมน่าเอ็นดูขนาดนี้นะแทฮยอง... ผมจึงเดินไปนั่งหลังแทฮยองเช่นเดิม

     

                ผ่านไปสิบนาที

     

                หลังจากที่ได้คำใบ้ไปแล้ว ตามหาพี่รหัสให้เจอนะครับ เอาล่ะ ก่อนที่พี่จะปล่อยให้กลับบ้าน เรามาสนุกกันอีกสักหน่อย เชิญน้องๆ ยืนเลยครับ!!!”

                รุ่นน้องต่างลุกขึ้นยืนกันด้วยความมึนงง หันซ้ายหันขวาไปมาเพื่อสังเกตว่ารุ่นพี่จะให้ทำอะไร

     

                ทุกคนพร้อมนะ เพลงพร้อมไหมเพื่อนแจ็ค?!” มาร์คตะโกนถามเพื่อนที่ยืนอยู่หน้าเครื่องเสียง

                “พร้อมแล้ว จัดหนักเลยนะเว้ย!!!”

                ยินดีต้อนรับน้องๆ ทุกคนจากใจจริงครับ มาสนุกกันเลย เปิดเพลงเลยเพื่อนแจ็ค!”

     

                หลังจากสิ้นเสียงทุ้มของหนุ่มหล่อ เพลงจังหวะสามช่า ก็ดังกระหึ่มไปทั่ว มาร์คขยับแขนขาเป็นคนแรก ตามด้วยรุ่นพี่คนอื่นๆ เริ่มอวดลวดลายเต้นของตนเองโดยไม่สนใจรุ่นน้องที่ทำหน้างง

                วู้ววววววววววว ออกสเต็ปเลยครับน้อง ยืนงงกันทำไม! Dance!!! ” แจ็คสันตะโกนแล้วหันไปเต้นบ้าง

               

    Your body looking amazing when you dancing like that

    Girl get up on the stage and go ahead do your thang

    Sexy beautiful lady won't you bring it right back

    Go 'head pull a 180

    You're my boomerang

    Boomerang

    Boomerang

    I see you from across the party
    Bring it back, you're my boomerang

     

                หลังจากที่เห็นรุ่นพี่เต้นเหมือนคนบ้าแล้ว รุ่นน้องก็เต้นกันอย่างเมามันส์โดยไม่สนใจใคร จีมินและเจโฮปเองก็ออกสเต็ปโดยไม่ยอมแพ้ใคร มีเพียงแทฮยองที่ยืนโยกไปมาเบาๆ เท่านั้น

                แทฮยองเต้นแบบนั้นจะสนุกได้ยังไง ไม่ต้องอายหน่า ดูดิไม่มีใครมาสนใจสักหน่อย เต้นไปเลย เต้นเร็วเต้นจิมันจับมือแทฮยองให้เต้นตามแรงบังคับ

                ไม่เอาจีมินนนนนนนน ฉันเขิน!!!” แทฮยองขัดขืนแรงจากจีมิน

                สักนิดก็ได้ ไม่ต้องเขิน ไม่ต้องกลัว มีฉันสองคนอยู่หน่า มาสนุกๆ กันนะ ผมพยักหน้าโยกตามจังหวะ

                แทฮยองที่ได้ยินดังนั้นก็ยอมเต้นนิดหน่อย แต่ผ่านไปสักพักแทฮยองที่สนุกได้ที่ เต้นออกมาเหมือนปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงของตนเอง

                “เฮ้ย กูว่าแทฮยองไม่ใช่คนเรียบร้อยแล้วว่ะ 5555555555555555555” จีมินเต้นเขยิบไปใกล้โฮซอกแล้วกระซิบบอก

                ห้ะ อะไรนะ? มึงพูดใหม่ดิ๊ไอ่เตี้ย ผมที่กำลังเต้นก็ถามซ้ำอีกรอบเพราะไม่ได้ยินที่มันพูด

                กูบอกว่าแทฮยองน่าจะไม่ใช่คนเรียบร้อย มึงดูแทฮยองดิ จีมินเพิ่มเสียงขึ้นมานิดหน่อย แล้วชี้ไปยังแทฮยองที่เต้นจนลืมตัว

                “กูว่าน่ารักดีนะมึง ปล่อยให้เต้นไปเถอะ อย่าไปทักนะเว้ยเดี๋ยวจะเขินหยุดเต้นแล้วหมดสนุก 555555555555555555555555555”

                เออ แต่กูเห็นพี่มาร์คมองมาทางแทฮยองหลายครั้งแล้วว่ะ เพื่อนผมเหล่ตาไปทางมาร์คต้วนที่แอบมองแทฮยองเป็นระยะๆ

                กูว่าพี่ต้วนมันชอบแทฮยองแน่ๆ ไม่น่าไว้ใจว่ะมึง แทฮยองยิ่งอึนๆ อยู่เนี่ย ผมหันไปมองทางไอ่พี่ต้วนแล้วทำเนียนเต้นลากจีมินเขยิบไปประกบสองข้าง เพลงที่รุ่นพี่จัดมายังคงเล่นไปอย่างต่อเนื่อง

     

    ไอ้ผมนั่นมันก็เริ่มสับสน เป็นความคิดชอบกลของคนที่ไม่เข้าใจ ตกลงพวกผม

    นั่นเล่นอะไรคับ ตกลงพวกผมนั่นเล่นอะไร เร็กเก้ใช่ไหมหรือว่าสกา

    เฮ้ย นี้มันเป็นเพลงอะไร บางคนฟังแล้วเขาก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน

    ไม่รู้ว่าใครเอามันเข้ามา บางคนเขาก็เรียกเร็กเก้ บางคนเขาก็เรียกสกา

    กระโดดฉีกแข้งฉีกขา เค้าเรียกสกาหรือว่าเร็กเก้

                ร่างบางที่ไม่รับรู้เรื่องราวรอบตัวเลย เมื่อเห็นโฮซอกกับจีมินมาวนอยู่ใกล้ๆ ก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ  ปากรูปหัวใจยิ้มกว้างออกมาทันที เอื้อมไปจับมือของเพื่อนทั้งสองเต้นไปมาราวกับเด็ก ผมกับจีมินเลยทำตามใจร่างบาง เพื่อให้แทฮยองสนุกได้เต็มที่

               

    ผมอาจจะไม่ได้เป็นคนเดียวหรอกมั้งที่อยากเห็นแทฮยองเป็นตัวของตัวเอง สายตาที่จีมินมันมองแทฮยองเองก็เอ็นดูแทฮยองไม่น้อยกว่าผมเลย การมีคนน่ารักคนนี้เข้ามาเป็นเพื่อนอีกคน คงมีสีสันมากกว่าตอนผมอยู่กับมันแค่สองคน

     

     

    เวลาผ่านไปแสงสว่างของดวงอิทตย์น้อยลงเรื่อยๆ จนท้องฟ้ามืดมิด หลังจากได้ปลดปล่อยกันทุกคน  ตอนนี้มีแต่รอยยิ้มที่มอบให้กันและกันระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง กิจกรรมวันนี้สร้างสานสัมพันธ์ระหว่างคนในคณะให้เหนียวแน่นมากขึ้น

    พี่ขอบคุณสำหรับน้องๆ ที่ให้ความร่วมมือกับพี่ในวันนี้นะครับ น้องเคารพและให้เกียรติรุ่นพี่ ส่วนรุ่นพี่เองก็ช่วยดูแลรุ่นน้องด้วยนะครับ อย่าลืมตามหาพี่รหัสให้เจอล่ะ อาทิตย์หน้าเจอกันใหม่ วันนี้กลับบ้านได้เลยครับ เมื่อมาร์คพูดจบ คนทั้งคณะก็ปรบมือให้และแยกย้ายกันกลับบ้านของตนเอง

     

    ป่ะ กลับบ้าน แทฮยองบ้านอยู่แถวไหนเดี๋ยวพวกเราไปส่ง จีมินลุกขึ้นยืนจากนั้นยื่นมือไปให้แทฮยองจับ

    บ้านฉันอยู่หลังตลาดบางท่านนี่เอง ไม่ต้องไปส่งหรอกแทฮยองจับมือจีมินแล้วลุกขึ้นตามแรงดึง

    ดึกแล้วจะกลับคนเดียวได้ยังไง เดี๋ยวไปส่ง ห้ามดื้อด้วย ผมพูดดักการปฏิเสธของร่างบางทันที

    อื้อ ก็ได้ แล้วจะไปยังไงอ่ะ?

    เดินไปไง เดินไหวรึเปล่าแทแท ถ้าเดินไม่ไหวเดี๋ยวให้ขี่หลังไอ่จีมิน 5555555555555555555” ผมตอบแล้วยีผมร่างบาง

    จริงๆ วันนี้ผมก็เอารถมานั่นล่ะ... แต่จะทำยังไงได้ ไม่อยากให้ใครรู้ฐานะทางบ้านของผม ขนาดเพื่อนสนิทแบบจีมินเองยังไม่รู้เลยเพราะผมทำตัวติดดิน

     

    น้องวี กลับบ้านยังไงหืม ให้พี่ไปส่งไหม? มาร์คกับแจ็คสันเดินเข้ามาถามแทฮยองที่กำลังยืนคุยกับโฮซอกและจีมินอยู่

    เอ่อ... ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ แทฮยองโบกไม้โบกมือปฏิเสธรุ่นพี่หน้าหล่อ

    แหม คนกันเอง ไม่เห็นต้องเกรงใจเลยค่ะ

    เดี๋ยวผมเดินไปกับเพื่อนดีกว่าครับ บ้านผมอยู่ใกล้ๆ มหาลัยนี่เอง

    จะเดินให้เหนื่อยทำไมล่ะคะ พี่เอารถมา เดี๋ยวขับไปส่งดีกว่านะ

    ให้แทฮยองกลับบ้านกับพวกผมคงจะปลอดภัยกว่านะพี่ต้วน ยังไงก็เพื่อนผม พวกผมไม่ทำอะไรเพื่อนอยู่แล้ว ผมสวนกลับแล้วจ้องมองหน้ารุ่นพี่พร้อมรอยยิ้ม

     

    ไอ่พี่ต้วนนี่มันชักจะเอาใหญ่ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงอยากจะแอ้มเพื่อนกูเนี่ย!

     

    ผมอยากเดินกลับพร้อมเพื่อนมากกว่าอ่ะ ขอโทษด้วยนะครับ แทฮยองโค้งให้รุ่นพี่

    โอเค ก็ได้ครับ ถ้าวันไหนอยากนั่งรถกลับบ้านแบบสบายๆ ก็บอกพี่ได้นะ จะได้ไม่ต้องเดินให้มันเหนื่อย มาร์คพูดจบก็มองหน้าโฮซอกด้วยสายตาแข็งกร้าว

     

    มองแบบนี้ไอ่พี่ต้วนอยากเปิดศึกกับกูสินะ... ได้ครับได้ เดี๋ยวกูจัดให้ หึหึ

     

    กลับบ้านกันเถอะเพื่อนมาร์ค กูหิวข้าว แจ็คสันที่เห็นบรรยากาศดูไม่ค่อยดีก็แอบสะกิดจีมิน

    ใช่ๆ กลับบ้านกันเถอะ พี่ทั้งสองคนกลับบ้านดีๆ นะครับ จีมินที่รู้สึกถึงแรงสะกิดจากแจ็คสันก็เอ่ยขึ้น จึงจับหัวโฮซอกและแทฮยองโค้งให้พี่ทั้งสองคน  รีบลากเพื่อนทั้งสองคนออกมา

     

    น้องมันคงเป็นห่วงเพื่อน มึงอย่าไปอะไรกับโฮซอกมากนะเว้ยมาร์คแจ็คสันยืนมองเด็กหนุ่มสามคนที่เดินออกไปจากมหาลัยพลางพูดกับเพื่อนตัวสูง

    มึงก็เห็นว่าน้องมันเริ่มก่อน

    ก็มึงไปตื้อเพื่อนน้องเขานี่หว่า ยิ่งมีเพื่อนน่ารักแบบนั้นก็ต้องหวงป่ะวะ ถ้าเป็นกู กูก็ห่วงเหอะ

    มึงแน่ใจว่ามันคิดแค่เพื่อน สายตาของมันที่มองน้องวีก็ไม่ต่างจากกูเท่าไหร่หรอก

    เอ้า แล้วกูจะรู้ป่ะวะ

    วันนี้กูจะยอมปล่อยไป มึงก็รู้ว่าถ้ากูบ้าเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครห้ามได้

    กูแค่เตือนไว้ เด็กสองคนนั้นไม่ใช่คนที่ควรไปหาเรื่อง มึงเชื่อกูเถอะ กูรู้จักเด็กสองคนนั้น

    มันจะแน่สักแค่ไหนเชียววะ กูก็ไม่ได้กระจอก

    แล้วมึงจะคาดไม่ถึงกับเด็กบ้าสองคนนั้น แจ็คสันตบบ่าเพื่อนแล้วเดินไปยังรถของมาร์ค รอให้อีกคนเดินตามมาและพาเขาไปส่งที่บ้านสักที

    จองโฮซอก... ฉันอยากรู้ว่าแกคิดกับน้องวีแค่เพื่อนจริงๆ รึเปล่า

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    บรรยากาศระหว่างทางที่เดินไปส่งแทฮยองมีแต่เสียงของจีมินและแทฮยองที่คุยกัน ส่วนโฮซอกได้แต่เดินตามหลังเงียบๆ หงุดหงิดในใจอยู่คนเดียว

     

    ตอนนี้พี่ต้วนรุกแค่นี้ ถ้าต่อไปมันรุกหนักขึ้นมาจะทำยังไงวะ แทฮยองจะเอาตัวรอดได้ไหม...


    ผมมองแทฮยองที่คุยกับจีมินเรื่องทางกลับบ้านก็ได้แต่คิดในใจ ใช่ครับ... ผมเป็นห่วงแทฮยอง กลัวจะโดนพี่ต้วนมันหลอก ผมไม่อยากให้คนดีแบบแทฮยองตกไปเป็นเหยื่อของผู้ชายแบบนั้น

    หลังจากที่ได้ยินพวกรุ่นพี่ผู้หญิงคุยกันเรื่องของมาร์คต้วน ได้ยินมาแว่วๆ ว่า มาร์คต้วนเป็นคนเจ้าชู้เพราะหน้าตาหล่อ เป็นที่ต้องการของผู้หญิงและผู้ชายอีกหลายๆ คน มักชอบเก็บแต้ม ฟันแล้วทิ้ง เริ่มออกหาเป้าหมายในบรรดารุ่นน้องที่เข้าปีหนึ่งใหม่เป็นประจำ

    ผมได้ยินดังนั้นเลยคิดว่าเป้าหมายต่อไปนั้นคือ แทฮยอง เพื่อนผมไม่ผิดแน่ๆ

     

    โฮซอก... โฮซอกได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่าเนี่ย? แทฮยองโบกมือไปมาหน้าร่างสูงของโฮซอก

    ห้ะ หืม ว่าไง? ผมได้สติเมื่อร่างบางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ

    ฉันถามว่ามีอะไรจะคุยกับฉันรึเปล่า เห็นมองหน้าตั้งนานแล้วอ่ะ แทฮยองถอยห่างไปหนึ่งก้าว

    อ้อ ไม่มีอะไร แค่คิดว่ามืดๆ แบบนี้มองไม่ค่อยเห็นแทแทเลยอ่ะ ยิ้มหน่อยสิ ฉันจะได้มองเห็นว่าแทแทอยู่ตรงไหน 555555555555555555555555555”

    เอ๊ะ! นี่ว่าฉันดำเหรอ?”

    ใช่เลยแทฮยอง ไอ่โฮปมันบอกว่ามองไม่เห็นในความมืด มันว่าแทฮยองดำอ่ะ จีมินพยักหน้าฟ้องแทฮยอง

    ไอ่เตี้ย มึงจะยุทำไมวะผมตบหัวมันไปหนึ่งที ไอ่เตี้ยนี่ได้เพื่อนใหม่แล้วทิ้งกูเลยนะ

    โอ๊ย แทฮยองดูดิ โฮปมันชอบรุนแรงอ่ะ ฮึกๆ ร่างอวบเกาะแขนแทฮยองแล้วแกล้งร้องไห้

    พอเลยมึง ไม่ต้องตอแหลไอ่เตี้ย ฉันไม่ได้ว่าแทแทนะ แค่พูดเล่นเฉยๆ หน่า

    ประโยคแรกผมพูดกับไอ่เพื่อนตัวดี ส่วนประโยคต่อมาก็หันไปบอกแทฮยอง

     

    ร่างบางหรี่ตามองโฮซอกแล้วพยักหน้าเหมือนไม่สนใจกับคำพูดเล่นของร่างสูง แล้วเดินควงแขนไปกับจีมิน

    เฮ้ย มันจะมากไปแล้วไอ่จีมิน น้อยๆ หน่อย ต่อหน้ากูเลยนะ ได้เพื่อนใหม่แล้วทิ้งกูเลยดิ๊ ผมโวยวายที่โดนทิ้งไว้คนเดียว

    มึงมันไม่น่ารักเหมือนแทฮยอง คุยกับมึงฟันจะทิ่มหน้ากูอยู่แล้ว เก็บเงิงหน่อยเพื่อนรัก 55555555555555555555555555555”

     

    อื้อหือ... พูดขนาดนี้เดี๋ยวก็เอาฟันเฉาะหน้าซะเลย

     

    มึงหยุดเลยนะไอ่จีมิน อย่าวิ่งหนีสิโว้ย ผมตะโกนเมื่อเห็นจีมินมันวิ่งลากแทฮยองไปด้วย

    เห็นดังนั้นผมเลยหัวเราะออกมาที่เห็นเพื่อนสองคนวิ่งหนี คนหนึ่งตัวอวบขาสั้น ส่วนอีกคนก็ผอมบางร่างน้อยซะเหลือเกิน  มองดูแล้วมันน่ารักแปลกๆ ยืนมองได้ไม่นานผมก็วิ่งตามไป

    ถึงวันนี้จะเหนื่อยแต่ก็สนุกไปอีกแบบ  ลืมคิดไปเลยว่า ...

     

    ไอ่ชิบหายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!

     

    วันนี้ผมยังไม่ได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านพี่ยุนกิ!!! ผมยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา นี่มันจะสามทุ่มแล้ว  จากมหาลัยไปบ้านแทฮยอง ทั้งๆ ที่ก็อยู่ไม่ห่างกันมากแต่ก็ใช้เวลานานไปพอสมควร

    ส่งแทฮยองเสร็จค่อยไปก็ได้วะ ขากลับยังไงก็ต้องผ่านตลาดอยู่ดี  วันนี้จะมีคนมาจีบพี่ยุนกิกี่คนกันเนี่ย...

     

    โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!

     

    แค่คิดก็อยากจะแร็พด่า!!! โฮซอกของขึ้นโว้ย

     

    ปกติแล้วผมและจีมินจะไปนั่งเฝ้าทุกวันจนร้านปิด ใครเข้ามาจีบพี่ยุนกิแบบจริงจัง ผมจะจำหน้าไว้และไปสั่งสอนหลังจากที่อีกฝ่ายออกจากร้าน จนไม่กล้าเข้ามาจีบพี่ยุนกิอีกเลย

     

                บอกเลยว่า โฮซอกย่านตลาดบางท่านสายโหดนะครับผม!

     

                หวังว่าจะยังไม่ปิดร้านนะพี่ยุนกิคนดีของโฮซอก ...

     

     

     

    TBC


     

    ตอนที่หนึ่งมาแล้วจ้า!!!

    ใครนึกท่าเต้นของแทฮยองไม่ออก ดูลิ้งค์นี้เลยนะ นาทีที่ 0:39 https://www.youtube.com/watch?v=oKfRBMJb5Zk

    ส่วนท่าของแจ็คสัน โฮซอก และจีมิน ดูลิ้งค์นี้เลย แจ็คสันท่าพยาธิสาดแสง โฮซอกท่าผมรักเมืองไทย ส่วนจีมินท่าผู้บ่าวไทยบ้าน https://www.youtube.com/watch?v=cPns5DxGOP0

     พาร์ทที่เต้นปลดปล่อยก็เหมือนในลิ้งค์เดียวกับท่าของสามหนุ่ม เมามันส์กันแบบนั้นเลย 55555555555555555555555555555555555555555

    แต่ความน่ารักของแทฮยองที่ทำให้สองหนุ่มมองด้วยความเอ็นดูเราอยากให้ดูจากลิ้งค์นี้นะ วีเต้นบ้าบอน่ารักมากเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยย T/////T httุps://www.youtube.com/watch?v=heTHSxEJIew

    เมนชั่นมาคุยกันที่ทวิตแอค @_doubleep หรือ @friend9X  เลยก็ได้นะตัวเอง

    เราอยากรู้ว่าทุกคนชอบหรือไม่ชอบ สนุกหรือไม่สนุกมาคุยกันในแท็กเลยค่ะ #ฟิคใหญ่แห้งไม่งอก

    โปรเจคนี้ตั้งใจแต่งสุดๆ เลยนะ! ฝากแชร์ ฝากเม้น ฝากโหวต ด้วยน้า / - \

    ขอบคุณมากนะคะ รัก. ♥ 

     

     


    © themy ?butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×