ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:Baramos]>>My Sweet Heart<<

    ลำดับตอนที่ #5 : My sweet:U R the Princess of Mine.

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 49



              "ท่าทางจะHappy Endingแล้วนะ"หัวขโมยสาวเอ่ยขึ้นหลังจากแอบฟังการสนทนาในห้องของเพื่อนซี้กับเจ้าหญิงคนงาม

              "เป็นแค่ขโมยก็ไม่อาจมองการไกลได้หรอก ได้แต่ใช้ชีวิตไปวันๆ"เสียงเปรยเย็นๆจากเจ้าชายน้ำแข็งดังขึ้น เรียกอารมณ์เฟรินเริ่มพุ่ง

              "อ้าว ถ้าไม่มีวันนี้แล้วจะมีอนาคตได้ไงล่ะ"

              "อนาคตเปลี่ยนแปลงเสมอ"คาโลพูดจบก็เดินจากไป โดยไม่สนใจเสียงตะโกนของเฟรินแม้แต่น้อย

              "ไม่ตามไปเหรอ"แม่มดสาวแห่งวิทช์เอ่ยขึ้นหลังจากการจากไปของเจ้าชายหนุ่ม

              "ใครอยากจะไปตามไอ้หมอนั่นก็เชิญ แต่เสียใจที่ไม่ใช่ชั้น"เฟรินตอบงอนๆ เรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าหญิงอเมซอนได้อย่างดี

              "ชั้นว่าเธอกับคาโลก็เข้ากันดีออก เจ้าหญิงเฟลิโอน่า"มาทิลด้าพูดกลั้วหัวเราะ ทำเอาเฟรินหันไปถลึงตามอง ก่อนเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

              "แล้วเธอกับเจ้าชายขอทานชั้นก็ว่าเข้ากันดีน้า"ลงเสียงยั่วไปนิดๆหน่อยๆ ยิ้มอย่างมีความสุขกับไปหน้าแดงก่ำ"แล้วเธอล่ะ เป็นไงบ้าง"เจ้าตัวดีหันไปยั่วทางแองจี้บ้าง แต่ความสนุกของเธอจบลงแค่นั้นเมื่อแองจี้สะกิดเธอเบาๆ

              "มีอะ...ไร"น้ำเสียงทอดลงต่ำเมื่อสบตาบุรุษและหญิงสาวตรงหน้า

         ...เอื๊อก...คิล กับ เรนอน มาเมื่อไหร่วะ...

              "เอ่อ...งั้นชั้นไปดีกว่า บ๊ายบาย"พูดเสร็จสับ กำลังจะออกตัววิ่งก็โดนมือของนักฆ่าคว้าเอาไว้เสียแล้ว ...หนอย ไอ้คาโล แกจะหนีก็ไม่มีเตือน...เฟรินคิดอย่างแค้นใจ

              "มาแอบฟังกันงั้นหรือ"เสียงเรียบๆไม่อาจเดาอารมณ์ได้ดังจากปากของทายาทนักฆ่า

              "อะไรกัน...จริงหรือคะ คุณเฟลิโอน่า มาทิลด้า แองจี้"เจ้าหญิงแห่งคาโนวาลมีอาการตกใจอย่างเก็บไม่มิด

              "เอ่อ...ไม่ใช่นะ มีคาโลอีกคน มันแอบหนีไปก่อน"เฟรินรีบพูดหลังจากเห็นจำเลยอีก2คนเลือกที่จะเงียบ และพยักหน้าหงึกกับคำพูดของหัวขโมย

              "พวกเธอมาแอบฟังตั้งแต่เมื่อไหร่"คำถามตรงประเด็นของคิล ฟิลมัส ทำเอาคนที่เหลือกระอักกระอ่วน

              "เอ่อ...ตั้งแต่แรกเลยแหละ"แองจี้อาสาพูดโดยไม่กล้าแม้แต่สบตาผู้พิพากษาคดีนี้

              "อืม...งั้นเหรอ"คิลพูดเสียงเรียบๆ ก่อนจะเกาหัวแกรกๆ เมินหน้าไปทางอื่น"งั้นชั้นไปล่ะ"ว่าแล้วก็เดินจากไป โดยซ่อนสีหน้าแดงก่ำไว้ไม่ให้ใครเห็น

              "เดี๋ยวสิคะ คุณคิล"เรนอนรีบวิ่งตามไปโดยมีสีหน้าแดงไม่แพ้กัน ท่ามกลางความตกตะลึงของจำเลยทั้ง3ที่รอดพ้นมาได้เพราะความอายของนักฆ่า...โชคช่วยจริงๆ...

                                                    oOoOoOoOoOo

              "เฮ้อ แกนี่น้า...จะหนีก็ไม่เคยบอก"เฟรินเริ่มบ่นเมื่อกลับมาถึงห้อง แล้วเจอคาโลนั่งอ่านหนังสืออยู่

              "เออ...เอาเถอะ...ออกไปก่อน ชั้นจะเขียนจดหมาย"เฟรินถอนใจเมื่อเจ้ชายตรงหน้าไม่สนใจจะพูดอะไรทั้งสิ้น

              "จดหมาย!?...ถึงใคร"คาโลว่าหลังจากปิดหนังสือ

              "เออน่า...เรื่องของชั้น....เอ๊ะ บอกก็ได้ ชั้นเขียนถึงเจ้าชายรูปหล่อ พ่อจน แม่รวย พี่หน้าตาอุบาท พี่สะใภ้หน้าตาสวย...รู้จักป่ะ"น้ำเสียงอย่างใฝ่ฝันดังขึ้นจากเจ้าหญิงบารามอส...การยั่วที่ดีเราต้องแต่งนี่นิดเติมนี่หน่อยถึงจะสะใจ ...เฟรินคิดพลางข่มเสียงหัวเราะไว้

              "วิเวียนเหรอ"อ้าว หมอนี่ รู้ทันแฮะ 

              "เออ รู้ก็ดี ไปได้แล้ว"เปลี่ยนน้ำเสียงฉับพลันทันใด

              "รู้มั๊ย บางเรื่องถ้ามันไม่มีทางจะเป็นไปได้ ถ้าจะพยายามต่อไป รังแต่จะทำให้เกิดทุกข์"คาโลเปรยเบาๆอย่างนุ่มนวล

              "แต่ถ้าไม่พยายามแล้วจะรู้ได้ไงล่ะ"เฟรินเริ่มเถียง

              "เพราะได้พยายามแล้ว ถึงรู้ว่าเป็นไปไม่ได้"คาโลว่าต่อ

              "อาจจะยังไม่พอ"

              "คนเราจะรู้เองว่าเมื่อไหร่ควรพอ โดยเฉพาะคนฉลาดอย่างเค้า"

              "นักปราชญ์ยังพลั้งได้ ทำไมเค้าจะพลาดบ้างไม่ได้"เธอที่ไม่ยอมลดละ ทำเอาคาโลถอนใจเบาๆอย่างเซ็งๆ

              "กษัตริย์ห้ามผิดคำพูด และเมื่อเค้าตั้งใจแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนได้"

              "ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อเค้าเคยแล้วครั้งหนึ่ง มีครั้งที่1ย่อมมีครั้งที่2...หรือว่าไม่จริง"

              "คนเราจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด เมื่อเค้าผิดไปแล้วครั้งหนึ่ง เค้าคงจะไม่ต้องการผิดเป็นครั้งที่2"คำพูดที่นุ่มนวลของคาโลทำเอาน้ำใสๆเริ่มคลออยู่ไนเบ้าตาเธอ

              "ทำไมล่ะ ทำไมถึงจะลงเอยอย่างมีความสุขไม่ได้"

              "โลกนี้ไม่ใช่ทุกสิ่งต้องลงเอยอย่างมีความสุข จำที่ไฮคิงเคยพูดได้มั๊ย'สละส่วนน้อย เพื่อรักษาส่วนใหญ่'ปรัชญาในการเป็นกษัตริย์...บัดนี้เค้าได้สละตัวเองและความสุขของตัวเองเพื่อประชาชนแล้ว"

              "รู้ได้ไงล่ะว่าประชาชนจะมีความสุข!...เฮอะ ก็เป็นแค่โลกสวยหรูของกษัตริย์เท่านั้นแหละ รู้ได้ไงว่าพวกเค้าจะไม่ทุกข์ เมื่อกษัตริย์ของพวกเค้ามีทุกข์ รู้ได้ไงว่าพวกเค้าจะมีความสุข เมื่อกษัตริย์ของพวกเขาคอยช่วยเหลือยามที่พวกเขาทุกข์ แต่พวกเค้าเองกลับไม่สามารถช่วยเหลือยามท่านทุกข์ได้...ไม่สิ แม้จะรับรู้ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ!"หยาดน้ำตาเริ่มหลั่งริน กับความจริงที่เธอสงสัยมาตลอด ความจริงที่ทำให้เจ้าชายแห่งคาโนวาลอึ้งสนิท

         เมื่อเจ้าชายตรงหน้าเงียบสนิท เธอจึงรีบปาดน้ำตาที่หลั่งไหล"อย่างน้อย ขอให้ชั้นได้ลองหน่อยเถอะ ขอให้ชั้นได้เห็นความจริงของพวกเค้าทั้ง2...เจ้าชายโรเวน ฮาเวิร์ด...องค์จักพรรดินีวิเวียนนานิย่า โบแด็ง..."ก่อนเธอจะหันกลับไปเขียนจดหมายต่อ

         ...เฟลิโอน่า..เมื่อใดที่เธอได้ขึ้นครองบัลลังค์ เธอคงได้เป็นกษัตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เธอผู้เข้าใจหัวอกประชาชนอย่างแท้จริง...คาโลคิดพลางอมยิ้มกับการจ้องมองเจ้าหญิงผู้เป็นที่รัก

              "โว้ย ไอ้ปากาเฮ็งซวย"เฟรินตะโกน ก่อนสบถด่ามันอีกเป็นชุด หลังจากอาการที่เรียกว่า'หมึกหมด'ของปากกา

         ...มั้ง...คำเสริมด้วยความไม่แน่ใจโลดแล่นอยู่ในหัวสมองทันที

              "นี่คาโล"คำเรียกที่ดึงคาโลกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง

              "มีอะไร"

              "รู้สึกว่าชั้นจะบอกให้แกออกไปไม่ใช่หรอ"คำง่ายๆเรียบๆที่ทำคาโลสะดุ้งนิดๆ

              "แล้วถ้าชั้นจะอยู่..."คาโลลองเชิง

              "เออ ช่างแกเหอะ ไม่อยากทะเลาะด้วยแล้ว ชั้นจะไปส่งจดหมาย เดียวมา เจ้าชายปากหมา"เฟรินว่าพลางเชิดเดินออกไป ขณะที่อีกฝ่ายกำลังงุนงงกับคำด่า...ปากหมา นั่นมันเธอไม่ใช่เรอะ...

                                        oOoOoOoOoOo

              "ตามมาทำไม"เฟรินถามเมื่อเห็นคาโลเดินตามมาข้างหลัง

              "ชั้นจะมาแก้ความเข้าใจผิดของเธอ"คาโลตอบเรียบๆ

              "ชั้นเข้าใจอะไรผิดตั้งแต่เมื่อไหร่"เธอว่าพลางทำถ้าครุ่นคิด ก่อนดีดนิ้วเปาะ"อ้อ เรื่องปากหมานะเหรอ"

              "ใช่ คนที่ปากหมาน่ะคือเธอ เข้าใจไว้ซะด้วย ไม่ใช่ชั้น"

              "อืมม์ รู้อย่างนี้พูดด้วยง่าย"คำสวนที่ทำเอาเจ้าชายเริ่มงุนงง ขณะที่เจ้าหญิงเริ่มหัวเราะร่า กับท่าทีนั้น

              "แต่ไม่บอกดีกว่า"เธอปฏิเสธทันควัน เพระนานๆทีจะได้เห็นหน้าแบบอื่น นอกจากหินสลักจากบุรุษคนนี้

              "ก็แล้วแต่เธอ"คาโลเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นรูปสลักเหมือนเดิม ทำเอาอารมณ์เฟรินเริ่มพุ่ง...รู้งี้บอกมันแต่แรกดีกว่า แต่จะแก้ลำตอนนี้ก็ไม่ได้...เฟรินคิด

              "หมดธุระแล้วไม่ใช่เหรอ ตามมาทำไม"อารมณ์เริ่มบูดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่มีคำตอบใดๆ หลุดรอดจากริมฝีปากคาโล

              "เออๆ ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ"เธอว่าก่อนเร่งฝีเท้า เดินหนีจากคาโล แต่เขาก็ไม่ได้เดินตามมา ซึ่งทำให้เธอหันกลับมามอง ซึ่งภาพเบื้องหน้าทำเอาเธออึ้งไปพักใหญ่ ก่อนรีบออกตัววิ่ง...คาโล กับเอฟิน่า(ถูกป่าวหว่า ไม่รู้ง่ะ เจ้าหญิงเอเธนส์)ทำไมๆ...เฟรินคิด ขณะที่มีเสียงดังลอดมาเข้าหูทั้งๆที่ไม่อยากได้ยิน"กรี้ด เจ้าชายคาโลสุดหล่อ ว้าย อยู่กับคุณเอฟิน่าซะด้วย เข้ากันจริงๆนะค่ะ"

              "เอาล่ะ ขอให้ไปส่งทันทีเถอะ"เฟรินขอพร ทั้งที่ไม่เคยเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลย ก่อนจะส่งจดหมายให้ผู้ส่งสารของเวนอลที่โชคดีมาส่งสารให้โรงเรียนพอดี

              "ครับ จดหมายฉบับนี้จะถึงมือองค์จักพรรดินีภายในค่ำนี้แน่นอนครับ องค์หญิงมิต้องเป็นกังวล"ผู้ส่งสารคนนั้นยิ้มตอบ แต่โดยไม่ทันสังเกตหน้าบูดบึ้งของคนที่ป็น'เจ้าหญิง'มังกรจันทราก็บินลับฟ้าหายไป

              "สวยจัง"เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ

              "ไม่เท่าเธอหรอก องค์หญิงเฟลิโอน่า"เสียงตอบรับ้บาๆที่ดังจากข้างหลังทำเอาเธอสะดุ้งหันไปมอง และภาพที่เห็นทำให้เธอหน้าแดงเรื่อ และสบัดหน้าไปทางอื่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นหน้าที่แดง

              "เฮอะ แล้วเจ้าหญิงเอฟิน่าของเธอล่ะ"เฟรินว่างอนๆ ซึ่งทำเอาคาโลหัวเราะพรืด

              "ทำไมอีกล่ะ"เฟรินถามเมื่อเห็นคาโลหัวเราะ

              "หึงรึไง"คำตอบที่ไม่ตรงประเด็น ทำให้หน้าเธอร้อนเป็นไฟ

              "เปล๊า แค่ไม่คิดว่าคาโนวาลเมื่องนักรบ คิดจะเจริญสัมพันธไมตรีกับเอเธนส์เมืองนักบวชก็แค่นั้น"คำตอบที่ไม่ตรงกับใจแม้แต่นิดเดียว และคนตรงหน้าก็รู้ เมื่อเขาตรงเข้าสวมกอดเธอ

              "นี่ ปล่อยนะ"เฟรินเริ่มดิ้น แต่เป็นการดิ้นที่ทำพอดูป็นพิธี เมื่อเธอไม่ได้ออกแรงเพื่อให้หลุดพ้นเลยแม้แต่น้อย

              "คาโนวาลไร้เหตุผลที่จะเจริญสัมพันธไมตรีกับเอเธนส์"คาโลพูดเบาๆ เรียกเอาเฟรินเริ่มโกรธ...อ้อ ให้มันได้งี้สิ... ไม่ขาดคำเธอก็เริ่มดิ้นสุดแรงเกิดในอ้อมแขนเจ้าชายผู้จีบสาวไม่เป็นแม้แต่น้อย..แต่ก็มิอาจหลุดพ้นจากอ้อมกอดได้ เธอจึงหยุด ขณะที่คาโลเริ่มแง้มรอยยิ้ม

              "เอาน่า คาโนวาลก็ไม่ค่อยอยากเจริญสัมพันธไมตรีกับบารามอสสักหน่อย..ยิ่งเดมอสยิ่งแล้วใหญ่....แต่ชั้นอยาก....ชั้นรักเธอคนเดียว"คำเปรยที่ค่อยๆลดเสียงลงเมื่อใบหน้าทั้ง2เข้าใหล้กันเรื่อยๆ ก่อนทุกอย่างจะเงียบลง...

              "รู้มั๊ย ถ้าคาโนวาลไม่ชอบบารามอสกับเดมอส ถ้าเธอชอบ เธออาจไม่ได้เป็นคิงนะ"

              "คาโนวาลไม่ใช่เจมิไน"คาโลตอบ ขณะที่เฟรินยิ้มกริ่ม

              "นั้นแหละ ดังนั้นถ้าประชาชนเจมิไนชอบวิเวียนก็โอเคแล้วใช่มั๊ย"...ดูมัน ดึงเข้ามาเรื่องนี้อีกจนได้...

              "ก็อาจจะใช่"คาโลตอบตามความจริง 

              "แล้วถ้างั้นประชาชนเจมิไนชอบวิเวียนรึเปล่า"

              "ไม่รู้"คาโลตอบสั้นๆ

              "แล้วถ้าประชาชนเจมิไนไม่พอใจที่โรเวนไม่เลือกวิเวียน เค้าก็อาจจะไม่ได้เป็นคิงใช่มั๊ย"

              "ก็เป็นไปได้"คาโลตอบ โดยมีเจ้าตัวดีดีดนิ้วเปาะ

              "งั้นใช่เป็นเหตุผลได้ใช่มั๊ย"

              "แต่มันยังมีช่องโหว่อยู่เยอะ"คาโลพยักหน้า ขณะที่เฟรินครุ่งคิดชั่วครู่

              "ไม่เป็นไร มีเวลาอีกวันนึง ค่อยคิดทีหลัง..แต่ว่า..เรื่องเรา..เอ่อ..มาต่อกันมั๊ย"เธอถามขณะที่หน้าเริ่มแดงก่ำ

              "ไม่"คำตอบเรียบๆที่ทำเธอตีหน้าบึ้ง"หมดอารมณ์ตั้งนานแล้ว"พูดเสร็จเดินหนีเฉย โดยไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกตามหลัง...ดูมัน อยากมาก็มา อยากไปก็ไป เอาแต่ใจชะมัด ใครได้เป็นผัวซวยตาย...เธอคิด โดยยิ้มกับตัวเอง เมื่อคิดว่าควีนคาโนวาลจะซวยแค่ไหนกัน กับกษัตริย์เอาแต่ใจพันธุ์นี้...แต่เหมือนเธอลืมเรื่องที่สำคัญที่สุด...

                                          oOoOoOoOoOo



        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×