ตอนที่ 1 : บทบรรยาย ๑ : กระดาษสีชาด
รักเกิดที่เยาวราช
อ่านรักเกิดที่เยาวราชตอนที่ ๑๗ กระดาษสีชาด ที่จอยลดาก่อนนะคะ
เสียงดังโช้งเช้งดังออกมาจากศาลเจ้า ณ ย่านชุมชนคนจีนที่ตั้งอยู่กลางเมืองใหญ่ ไม่ว่าใครผ่านมาก็คงรู้ได้ว่าคืนนี้ที่ศาลเจ้าคงจะมีงานฉลองใหญ่โตเป็นแน่ หากแต่ว่าสิ่งที่น่าสะดุดตาที่สุด ณ เวลานี้คงจะเป็นรถยุโรปสีกาฬคันหรูและเด็กหนุ่มผมสีอ่อนที่กำลังเดินลงจากรถมาด้วยท่าทีทุลักทุเล ดูยังไงซะ แดเนียล ก็ยังดูเป็นสิ่งที่ดูไม่เข้ากันกับเยาวราชเอาเสียเลย ทั้งสีผม รูปร่างและกล้ามเนื้อที่สูงใหญ่กว่าคนเอเชียทั่วไป รวมถึงแก้วน้ำและถุงจากร้านสะดวกซื้อที่เขาเพิ่งจะบึ่งรถไปซื้อมาเมื่อครู่ด้วยความร้อนรนด้วยเช่นกัน
เด็กหนุ่มผมสีอ่อนมีท่าทางลังเลเล็กน้อยเมื่อหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งข้างศาลเจ้า เขาไม่แน่ใจว่าที่นี่คือ ‘ที่ๆ’ เฮียเสือพี่ชายร้านรังนกเป็นคนบอกเขาให้มาหรือไม่ แดเนียลกวาดตามองอาคารสามชั้นอย่างชั่งใจอีกครั้งก่อนที่จะก้าวขาเข้าไปในตัวอาคาร ไม่ใช่ว่ากลัวเรื่องลี้ลับอะไรทั้งสิ้นแต่สิ่งที่เขากลัวคือเขาคงจะประหม่าไม่น้อยถ้าหากเจอ ‘คนๆ นั้น’ อีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอมาหลายวัน
“อาเสือทำไมลื้อนานจังวะ อั๊วะง่วงจะตายอยู่แล้ว” ทันทีที่ปิดประตูก็มีเสียงที่แดเนียลคุ้นเคยดังขึ้น เสียง.. ที่แดเนียลมักคิดเสมอว่าน่ารักแม้เสียงของคนๆ นี้จะไม่ได้หวานเล็กแต่น้ำเสียงต่างหากที่ดูง้องอนตลอดเวลา บางทีเขาเองยังอดคิดไม่ได้เลยว่ามันก็เหมือนกับเสียงของแมว
“มีใครอยู่มั้ยครับ?” แดเนียลชะโงกหน้าเข้าไปยังห้องต้นเสียงพร้อมรอยยิ้มที่เล่นที่จริงที่เขามักจะชอบทำเป็นประจำ
“แด… อาฝรั่ง” ดวงตากลมของคนที่นั่งอยู่สั่นระริกเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าใบหน้าของคนที่นั่งอยู่จะเต็มไปด้วยเครื่องสำอางค์ที่ผ่านการแต่งมาอย่างดีให้สมกับที่เป็นนักแสดงของโรงงิ้ว แดเนียลก็มั่นใจว่าคนตรงหน้าก็คืออาอ๋งแน่นอน อาอ๋งคนที่เขาไม่ได้เจอมาหลายวัน
“เฮียเสือบอกให้ซื้อมาให้ครับ” ว่าพลางยกถุงเซเว่นที่บรรจุด้วยน้ำยาลบเครื่องสำอางขึ้น
“อ่อ ขอบใจลื้อนะ”
“ส่วนอันนี้แดนซื้อมาให้” เขาชูแก้วน้ำสเลอปี้ในมือขึ้นพร้อมยิ้มตาหยี
“ไม่กินอ่ะ กินเองดิ” คนที่นั่งอยู่ยืนขึ้นเต็มความสูงพลางบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วหยิบถุงเซเว่นจากมือแดเนียลมาเปิดดูว่ามีอะไรที่พอจะใช้ได้บ้าง
“อาอ๋งยังโกรธแดนอยู่เหรอครับ”
“ไม่ได้โกรธ อั๊วะเป็นอะไรทำไมต้องโกรธลื้อล่ะ”
“ก็เรื่องอายีนส์”
“…”
“ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็ที่แดนไปหึงอาอ๋งกับอายีนส์.. ครับ”
“รู้เหรอว่าหึงแปลว่าอะไร” คนตัวบางกว่าหัวเราะในความไร้เดียงสาของเขา ไม่สิเขาไม่ได้ไร้เดียงสาก็แค่อ่อนภาษา..
“รู้ครับ” เด็กหนุ่มเดินตรงไปพลางยึดมืออาอ๋งของเขามากุมเอาไว้
“แต่อั๊วะไม่รู้ว้อย ไม่คุยกับลื้อละ” อ๋งพยายามสะบัดมือแดเนียลออกแล้วเดินหนีไปอีกฝั่งนึงของห้อง ทำไมไอ้เด็กนี่มันฉวยโอกาสเก่งจังเลยวะ
“แดนขอโทษ”
“ปล่อยมือก่อน จะลบหน้า”
“ครับ”
ไม่สบายใจ.. แดเนียลรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย ทำไมครั้งนี้คนตรงหน้าถึงดูใจแข็งกว่าทุกครั้ง เขาได้แต่นั่งมองคนที่ง่วนอยู่กับการหาอุปกรณ์ต่างๆ มาเช็ดหน้าอย่างยากลำบาก ด้วยความที่ชุดของอาอ๋งตอนนี้เป็นชุดผู้หญิงที่ใช้ตอนแสดงเมื่อครู่ มันก็ทำให้เกะกะรุ่มร่ามพอตัว และถ้าให้สารภาพความคิดของแดเนียลตอนที่มองคนตรงหน้าตอนนี้เองก็ รุ่มร่าม เหมือนกัน แต่ก็ทำได้เพียงคิดไว้ในใจถ้าทำอะไรบ้าๆ ไปอีกมีหวังคราวนี้เขาคงจีบอาอ๋งไม่ติดสักทีและคงเป็นไอ้ฝรั่งกากดังเช่นที่เพื่อนๆ ของเขาเคยด่าไว้ ที่ทำได้ก็แค่นั่งมองคนตรงหน้านั่งเช็ดเครื่องสำอางค์ด้วยสายตาอ้อนวอนสินะ..
“โอ๊ย! แม่ง”
“อาอ๋งเป็นอะไรครับ”
“เหมือนมันไหลเข้าตาอั๊วะอ่ะ มันแสบ”
“เดี๋ยวแดนดูให้ครับ อยู่นิ่งๆ ก่อน ถ้าขยี้ตามันยิ่งไม่ดีนะ” ว่าพลางจับแขนไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะขยี้ตาให้แดงไปมากกว่านี้ เขาหันซ้ายหันขวาแล้วหยิบทิชชู่มาค่อยๆ เช็ดบริเวณรอบดวงตาให้กับคนตรงหน้าอย่างเบามือ
“…”
“อย่าหลับตาแบบนี้ครับ ลืมตานะ มองตาแดน” คนที่ถูกรวบแขนไว้ทำตามอย่างว่าง่าย ตอนนี้ความแสบของสารเคมีมันเข้าไปจนน้ำตาเขาแทบจะไหลอยู่แล้ว
“…”
เมื่อกี๊มันมีอุบัติเหตุนิดหน่อยก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้หน้าก็ใกล้กันซะจนเริ่มจะคิดอะไรแล้วล่ะ
“ไม่แสบตาแล้ว”
“ครับ”
“ขอบใจลื้อนะ เดี๋ยวอั๊วะเช็ดต่อเอง”
“แดนเช็ดให้ดีกว่า เดี๋ยวโดนตาอีก”
“ลื้อเช็ดเป็นหรือไง”
“ไม่น่าจะยากนะครับ”
“งั้นแบมือมา”
“ครับ?”
“ขี้เกียจพอดี เช็ดให้อั๊วะหน่อย”
“ครับ”
สิ้นเสียงตอบรับของแดเนียล อ๋งก็ยื่นหน้าไปให้เขาเช็ด ถ้าให้สารภาพตรงๆ ก็คือแดเนียลเองก็เช็ดไม่เป็นหรอกเครื่องสำอางน่ะ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลยด้วย เมื่อกี๊ที่ไปซื้อมาได้ก็เพราะให้พนักงานเซเว่นลูกน้องพี่ชายตัวเองเป็นคนเลือกให้อีกที
“…”
เด็กหนุ่มค่อยๆ ใช้มือข้างที่ซ้ายที่ว่างอยู่ประครองหน้าของคนตัวผอมเพื่อให้เห็นหน้าให้ชัดขึ้น ส่วนมืออีกข้างก็เช็ดคราบเครื่องสำอางให้อย่างเบามือ ให้ตายเถอะ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาคงไม่เสนอตัวเช็ดให้แบบนี้แต่แรกเพราะตอนนี้จิตใจด้านมืดมันก็ชนะด้านสว่างออกมาควบคุมตัวเขาอีกครั้งและแดเนียลคงควบคุมตัวเองไม่ให้โลภไม่ได้แล้ว..
“…”
เครื่องสำอางบางส่วนบนใบหน้าของอาอ๋งเริ่มหลุดออกไปแล้ว แดเนียลค่อยๆ ลูบใบหน้าด้านซ้ายของคนตรงหน้าตรงจุดที่เขาคิดว่ามันอาจจะเป็นดวงดาวสามดวง เป็นดวงดาวที่เขาหลงไหล
“…”
“…”
“แดน.. จูบอาอ๋งได้มั้ยครับ”
“…”
“..นะครับ”
“…”
“ถ้าให้ก็หลับตานะ”
“…”
ลูกชายโรงงิ้วไม่ได้โต้ตอบอะไรแต่ก็หลับตาเป็นเชิงอนุญาต วินาทีนั้นแดเนียลคิดว่าถ้าเขาแข่งโอลิมปิคเขาคงจะเป็นผู้ชนะเหรียญทองแบกความภาคภูมิใจกลับประเทศชาติไปแล้ว
แดเนียลค่อยๆ ประคองหน้าอาอ๋งของเขาให้เงยขึ้นเล็กน้อยเพื่อรับสัมผัสจากริมฝีปากของเขา คนตัวบางกว่าทำตัวไม่ค่อยถูกนัก ทันทีที่ปากสัมผัสกันราวกับมีไฟฟ้าสถิตอันรุนแรง แดเนียลกำลังแย่ เหมือนกับหลงไปในวังวนที่ไม่มีทางออก ริมฝีปากของคนตรงหน้ามันหวานเหลือเกิน ชักเริ่มไม่แน่ใจว่าเพราะนี่เป็นจูบครั้งแรกของอาอ๋งหรือเพราะแดเนียลหลงคนตรงหน้าจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ทันทีที่มือเล็กของอาอ๋งวางลงบนหน้าอกของเขา ก็เรียกได้ว่าความอดทนที่เด็กหนุ่มสะสมเอาไว้ก็หมดลง
ถ้าแค่ปากแตะเฉยๆ วันนี้คงนอนไม่หลับแน่ๆ ขอโทษนะครับ
เขาถอนจูบครั้งแรกแล้วจูบลงไปอีกครั้ง เป็นครั้งที่รุนแรงกว่าเพราะครั้งนี้แดเนียลปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความรู้สึก ริมฝีปากของทั้งสองเริ่มบดเบียดกันอีกครั้ง คล้ายจะเร่งเร้าแต่ก็ผ่อนคลาย เหมือนคนตัวบางกว่าคงจะตกใจกับสัมผัสอุ่นชื้นที่ล่วงล้ำเข้ามา ไม่ได้จูบแดเนียลตอบแต่ก็ไม่ปฏิเสธ หากเพียงแต่ปล่อยให้เป็นไป อีกครั้งและอีกครั้ง..
“ชอบนะครับ” แดเนียลกระซิบ
“...”
“อื.. อาฝรั่ง”
“เรียกแดนนะครับ”
“แดน.. หายใจ.. ไม่ออก”
“…”
“แดนครับ พอ.. ก่อนนะ…”
“ครับ”
แดเนียลถอนจูบออกมาอย่างว่าง่าย ไอ้ลูกหมาค้นพบว่าสิ่งที่เอาชนะจิตใจด้านมืดของเขาได้ก็คือน้ำเสียงออดอ้อนของคนตรงหน้า เด็กหนุ่มมองสำรวจใบหน้าของอาอ๋งที่ตอนนี้พวงแก้มขึ้นสีเข้มกับดวงตากลมที่ดูอ่อนลงและฉายแววลังเลอย่างเห็นได้ชัด บางทีเขาก็อยากสบถเป็นภาษาที่เค้าคุ้นเคยไปเลยให้รู้แล้วรู้รอดเพราะยิ่งนานวันเข้าเขาก็ยิ่งรู้สึกว่า อาอ๋งน่ารัก น่ารักมากเหลือเกิน
“อาอ๋งลื้ออยู่ข้างในหรือเปล่า?” เสียงหวานของหญิงมีอายุดังขึ้นมากจากประตูด้านหน้า
“ม๊าเหรอ?” อาอ๋งมีสีหน้าตกใจ แต่ก็คงไม่ตกใจเท่าเด็กฝรั่งตัวแสบที่ยืนอยู่ด้วยกันกับเขา
“ทำไงดี”
“งั้นแดนต้องไปแล้วล่ะ”
“ป.. ประตูด้านหลังมันเชื่อมกับที่ศาลเจ้านะ ออกไปทางนั้น”
“ไว้เจอกันนะครับ” แดเนียลเกาหัวอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนที่จะรีบเดินออกไปยังประตูหลัง ไม่ใช่ว่าเพราะเขาไม่รู้จักอาหงส์แม่ของอาอ๋งหรอกนะ แต่ถ้าอีมาเห็นสภาพแบบนี้มันคงจะไม่ดีเท่าไหร่ ใช่มั้ย?
“เดี๋ยว อาฝรั่ง.. ปากลื้อ..”
“สงสัยจะไม่ได้ยินว่ะ..”
-----------------------------------------------------------------
“ไอหยา อาอ๋ง ทำไมปากลื้อเลอะแบบนี้ล่ะลูก”
“…”
“กี่ปีๆ ลื้อก็เช็ดเครื่องสำอางไม่เป็นสักทีนะ ไม่มีม๊าแล้วใครจะเช็ดให้”
“…”
“ลื้อยิ้มอะไร ได้ฟังที่ม๊าพูดมั้ยเนี่ย”
“อั๊วะยิ้มเหรอม๊า”
“ก็ใช่น่ะสิ มา เดี๋ยวม๊าเช็ดให้”
#รักเกิดที่เยาวราช
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อาอ๋งมีคนเช็ดเครื่องสำอางค์ให้แล้วน้าา