คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันใหม่ๆ กับใครคนเก่า
ต้อนรับน้องใหม่
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ตัวอักษรสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ที่บรรจงเขียนไว้บนผืนผ้าสีขาว ถูกนำขึ้นไปผูกไว้กับต้นตะแบก 2 ต้นที่ปลูกไว้คู่กันหน้าโรงเรียน
ทางเข้าของโรงเรียนเต็มไปด้วยซุ้มดอกไม้นานาชนิด ที่มีม้าหินอ่อนอยู่ตรงกลางซุ้มนั้นๆ
“ ม.4 ลงทะเบียนตรงนี้นะครับ ” เสียงของรุ่นพี่คนหนึ่งพูดซ้ำไปซ้ำมากับประโยคนี้ พลางเดินไปมาเพื่อมองหาน้อง ม.4 ที่เริ่มเข้ามาเรียนที่นี่เป็นวันแรก
ฉันพยายามแทรกเข้าไปตรงที่ลงทะเบียน เพราะมีนักเรียนเยอะมากๆ
“ เดี๋ยวน้องเซ็นชื่อของตัวเองลงตรง 2 ช่องหลังนะครับ แล้วไปหยิบป้ายชื่อของน้องทางฝั่งโน้นนะ ” หลังจากที่ฉันเดินเข้าไปถึงโต๊ะที่ลงทะเบียนเรียนแล้ว รุ่นพี่คนหนึ่งก็อธิบาย แล้วชี้ไปทางรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง ที่กำลังเขียนชื่อของนักเรียนอยู่
“ ชื่ออะไรคะ ” รุ่นพี่ที่เป็นคนเขียนป้ายชื่อเอ่ยขึ้น หลังจากที่ฉันนั่งลงข้างหน้าพี่คนนี้
“ เปรี้ยว ค่ะ ” ฉันตอบออกไปก่อนที่จะรับป้ายชื่อ แล้วเดินไปที่หอประชุมของโรงเรียน
“ เปรี้ยว เปรี้ยว รอเราก่อนสิ ” พอฉันได้ยินเสียง ก็หันไปดู แล้วก็ได้พบกับ เมฆ เพื่อนเก่าของฉันเอง ที่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันตอน ม.ต้น
“ อ้าว เมฆ นายก็เรียนที่นี่เหรอ ” ฉันถามออกไปปนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่าจะดีใจหรือเสียใจดีก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ เมฆ ที่กำลังนั่งหอบแฮกๆ อยู่บนม้าหินอ่อน
เมฆพยักหน้า พลางก้มลงมองนาฬิกาของตัวเองที่บอกเวลา 7.00 น. แล้วฟุบหลับไปบนโต๊ะหินอ่อนสักพัก จึงค่อยเข้าไปหอประชุมในเวลา 7.30 น. พร้อมกับฉัน
มีอาจารย์ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ออกมาแนะนำตัวบนเวทีของหอประชุม พร้อมกับอธิบายระเบียบการของโรงเรียน และกฎข้อบังคับต่างๆ จนเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงแล้ว อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน จึงให้นักเรียนทุกคนแยกย้ายกันไปทานอาหาร
“ เปรี้ยว ไปกินข้าวกับเรามั้ย ” เมฆคว้ามือฉันเอาไว้ ก่อนที่จะถามคำถามออกมา
“ อะ เอ่อ เปรี้ยวเอาข้าวมากินเองน่ะ ” ฉันมองไปที่มือของเมฆที่กำลังจับมือฉันอยู่ แล้วจึงรีบสะบัดมือของฉันออก ก่อนที่จะเดินออกไปทานอาหารข้างนอก
ฉันเดินมาแถวๆ ซุ้มหน้าโรงเรียนที่ฉันเห็นเมื่อเช้านี้ เพื่อมาหาที่นั่งทานอาหาร แต่ไม่ยักกะมีที่ว่างเหลือให้ฉันนั่งบ้างเลยซักที่
“ ตรงนี้มีใครนั่งมั้ยค่ะ ” ฉันเดินเข้าไปตรงซุ้มแรกที่มีเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่เพียงผู้เดียว ผมสีน้ำตาลทองของเธอถูกมัดรวบไว้ผูกด้วยโบว์ผ้าลูกไม้สีขาว
“ ไม่มีค่ะ ” เธอหันมาตอบแล้วยิ้มให้ฉันนิดนึงก่อนที่จะลงมือทานข้าวของเธอต่อ ใบหน้าของเธอขาวใสอมชมพู เรียวปากสีชมพู ดวงตากลมโตสีน้ำตาล ซึ่งเป็นอีกอย่างที่ทำให้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนไทย 100% แน่ๆ
ฉันเดินไปนั่งตรงข้ามเธอ แล้วหยิบกล่องอาหารของตัวเองออกมา พลางนั่งกินกันอย่างเงียบๆ ก่อนที่ความเงียบจะสิ้นสุดลงด้วยเสียงของชายคนหนึ่ง
“ เปรี้ยว เรานั่งด้วยคนนะ ” เมฆที่คาดว่าคงเดินถือจานข้าวมาจากโรงอาหาร เดินเข้ามาพูดแล้วนั่งลง โดยไม่ถามความคิดเห็นของฉัน หรือผู้หญิงผมสีน้ำตาลทองคนนั้นซักนิด
เมฆสวาปามอาหารตรงหน้าเข้าไปอย่างไม่สนใจสายตาของฉันที่กำลังงงกับท่าทางของเมฆที่ทำอย่างกับว่า ตัวเองอดอยากมานาน จนข้าวที่มีอยู่พูนจาน หายไปในเวลาเพียงไม่กี่นาที
“ เปรี้ยวกินข้าวเร็วๆ หน่อยสิ ช้าไม่เปลี่ยนเลยนะ ” เมฆหันมาต่อว่าฉัน ก่อนที่จะอมยิ้มออกมาในทันทีที่เมฆหันไปพบหญิงสาวผมสีน้ำตาลทองคนนั้น
“ เธอเป็นเพื่อนของเปรี้ยวเหรอ ” เมฆหันไปถามหญิงสาวผมสีน้ำตาลทองคนนั้น พร้อมกับสายตาที่จ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา
แล้วเธอคนนั้นก็หันหน้ามาทางฉันเพื่อหลบสายตาของเมฆ แล้วก้มลงทานอาหารต่อพร้อมกับตอบคำถามของเมฆออกไป
“ คงงั้นมั้งคะ ” เท่านั้นแหละ คำตอบที่เธอตอบออกมา ทำเอาฉันโดนว่าอีกแล้ว
“ เปรี้ยว มีเพื่อนน่ารักอย่างนี้ก็ไม่บอกกันบ้างนะ ” เมฆถามฉันออกมาโดยที่สายตายังไม่ละจากเธอคนนั้นเลยแม้แต่น้อย
?? นายถามออกมาเคยเข้าใจความรู้สึกของฉันบ้างมั้ยล่ะ เมฆ ?? ประโยคนี้มันเป็นเพียงแค่ความคิดที่ฉันไม่สามารถที่จะพูดออกไปให้ เพื่อน คนนี้รับฟังได้
“ เธอชื่ออะไรเหรอ ” เมฆถามหญิงสาวคนนั้น พร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยนมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น
“ ชื่อ น้ำฝน ค่ะ ” หญิงสาวตอบออกมาเพียงสั้นๆ โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของคำถามซักนิด ว่าหน้าของเจ้าของคำถามตอนนี้ ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูแล้ว
“ ชื่อน่ารักดีนะ ” ฉันสังเกตเห็นได้ทันทีว่า หญิงสาวที่ชื่อว่า น้ำฝน หน้าแดงเกือบเป็นลูกมะเขือเทศเลยหล่ะ แต่ยังไม่ทันไร หน้าของน้ำฝนก็แดงยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศด้วยคำพูดของเมฆที่ว่า
“ น่ารักเหมือนเจ้าของชื่อเลยนะ ”
เมฆยังคงมองตามเธอที่กำลังลุกขึ้นเดินไปยังโรงอาหารเรื่อยๆ แล้วซักพัก เมฆก็เดินตามน้ำฝนไปโดยไม่ได้หันมามองหรือบอกฉันซักนิด ?? เมฆทำเหมือนกับว่าฉันไม่ได้มีตัวตนอยู่ตรงนี้ ??
ฉันยังคงนั่งกินข้าวคนเดียวต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องรีบไปยังหน้าอาคาร 3 เมื่อประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนได้ประกาศให้นักเรียนชั้น ม.4/3 ไปรวมตัวกันที่หน้าอาคาร 3 ในเวลานี้
ฉันต้องรีบวิ่งมาอย่างเร็วที่สุด เพราะอาคาร 3 กับที่ที่ฉันอยู่ตอนนี้ มันอยู่กันคนละฟากฝั่งของโรงเรียน พอวิ่งมาถึง ทำเอาฉันพูดไม่ออกเพราะอาการเหนื่อยของตัวเอง รุ่นพี่จะถามอะไรฉัน ก็เห็นว่าฉันยังเหนื่อย เลยไม่กล้าเข้ามาถามกัน
“ น้องๆ คะ พี่จะให้พวกเราจับคู่กัน ชายหญิง นะคะ ใครจับคู่ได้แล้ว ก็ให้เขียนลักษณะของคู่ตัวเองลงในกระดาษที่พี่แจกไปให้ เสร็จแล้วเอากระดาษแผ่นนั้นมาให้พี่นะคะ ” พอสิ้นเสียงรุ่นพี่สาวคนนี้ ฉันก็สังเกตเห็นได้ทันทีว่า พวกผู้หญิงไปมะรุมมะตุ้มอยู่ตรงที่ที่หนึ่ง ฉันคิดว่าคนที่ถูกรุมอยู่ คงจะหล่อมากๆ เลยทีเดียว แล้วก็จริงอย่างว่า ผู้ชายคนนั้นหล่อมากทีเดียว
“ ขอคู่ด้วยได้มั้ยครับ ” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของฉัน ฉันจึงเอี้ยวตัวหันไปมอง ไม่น่าเชื่อ ว่าจะมีคนหน้าตาดีอย่างนี้มาขอคู่กับคนอย่างฉัน
“ ได้ค่ะ ” แล้วนายคนนั้นก็ยื่นมือมาให้ฉัน แต่ฉันลุกขึ้นเองดีกว่า เขาก็เลยเดินตามฉันมาที่ในอาคารเรียนนี้
ฉันนั่งลงที่ระเบียง แล้วหยิบปากกาออกมา พร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มที่เป็นคู่ของฉัน แล้วเขียนบรรยายลักษณะของเค้าไปต่างๆนานา
เราทั้งคู่นั่งหันหน้าเข้าหากัน พลางมองหน้ากันเป็นพักๆ เพื่อที่จะเขียนลักษณะของแต่ละคนส่งรุ่นพี่
ฉันบรรยายลักษณะชายหนุ่มตรงหน้าไปว่า...
ชายคนนี้มีดวงตาชั้นเดียวสีน้ำตาล จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเรียวสวยได้รูป ผมรองทรงสีน้ำตาลทอง ผิวขาว น่าจะสูงประมาณ 180 ซม. มีเครื่องประดับติดตัวเพียงชิ้นเดียวเท่าที่เห็น คือ สร้อยรูปปลายขนนก
ส่วนชายหนุ่มคนนั้นบรรยายลักษณะของฉันมาว่า
เธอคนนี้น่ารักในสายตาผม ใบหน้าเรียว ดวงตากลมโตสีดำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเรียวบาง ผมยาวสีดำยาวลงมาจรดกลางหลัง ถูกมัดรวบไว้ด้วยโบว์สีขาว ผิวของเธอขาวอมชมพู สูงประมาณ 165 ซม. หุ่นของเธอเหมือนนางแบบมาก ใส่สร้อยข้อมือ ที่ทำด้วยลูกปัดสีชมพูรูปดอกไม้ร้อยต่อกัน
“ เธอชื่ออะไรเหรอ ” นายคนนั้นถามออกมาพลางเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษอีกแผ่นของตัวเอง
“ เราชื่อเปรี้ยว แล้วนายล่ะ ” ฉันสังเกตเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นมาเล็กน้อยจากใบหน้าของเขา แล้วได้รับคำตอบกลับมาว่า
“ เราชื่อ เอก ” พอฉันได้รับคำตอบแล้วจึงเก็บปากกาลงในกระเป๋า พลางเดินนำแผ่นดาษนั้นไปให้รุ่นพี่ที่หน้าอาคาร 3 แล้วจึงเดินไปยังประตูหน้าโรงเรียน เพื่อที่จะขึ้นรถกลับบ้าน เพราะกิจกรรมวันนี้ได้จบลงแล้ว
“ เปรี้ยว เดี๋ยวก่อนสิ ” ฉันหันกลับไปดูก็พบนายเอกกำลังวิ่งตามฉันมา แต่จะตามมาเพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ มีอะไรเหรอ ” ฉันถามเอกออกไป
“ เธอทำกระเป๋าสตางค์ตกไว้ตรงหน้าอาคารเรียนน่ะ ... อ่ะ ... ” นายเอกพูดพลางยื่นกระเป๋าสตางค์สีม่วงอมชมพู ประทับตราของผู้ผลิตไว้ที่มุมขวาด้านล่างของกระเป๋าสตางค์ ที่เจ้าของๆมันก็คือฉันเอง
ฉันยิ้มให้เขาแล้วหยิบกระเป๋านั้นมา และไม่ลืมที่จะขอบคุณที่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจเอามันมาคืนฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ขอบคุณเสร็จ ก็รีบเดินไปขึ้นรถต่อ
“ เปรี้ยว ” นายเอกตะโกนเรียกฉันไล่หลังมา
“ มีอะไรเหรอ ” ฉันเดินกลับมาถามเอกที่ยืนอยู่ตรงที่เดิม
“ เอ่อ... คือว่า... เปรี้ยวเป็นเพื่อนกับเรานะ ” นายเอกถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก ทำให้ฉันอดยิ้มไม่ได้กับท่าทางของเขา แล้วก็ทำให้ฉันตอบตกลงเป็นเพื่อนกับเอก
คำตอบตกลงที่ฉันบอกไป ทำเอาเจ้าของคำถามเมื่อกี้ ดีใจจนเวอร์ไปเลย แล้วเขาก็เลยยื่นมือมาจับข้อมือของฉันอีกครั้ง แต่ฉันก็กลับดึงมือตัวเองออกจากมือของเขา ซึ่งนั่นก็ทำให้เขางงกับการกระทำของฉัน และก็คงอดไม่ได้ที่จะถามฉันออกมา
“ ทำไมเหรอ ” เอกถามฉันออกไป พลางมองฉันที่ไม่กล้าสบตาเค้า
“ เป็นเพื่อนกัน จับมือไม่ได้เลยเหรอ ” เขาถามฉันแล้วมองไปข้างหน้า อย่างกับว่าเค้างอนฉัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันยื่นมือกลับไปง้อเอกเลยแม้แต่น้อย
ฉันกับเอกนั่งรถกลับบ้านคันเดียวกัน เอกไม่ได้ชวนฉันคุยอย่างที่ผ่านมาในวันนี้ เอกเอาแต่นั่งเงียบ ทำเอาฉันรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำไมเอกถึงเป็นอย่างนี้
“ กลับมาแล้วค่ะแม่ ” ฉันตะโกนบอกแม่ที่คาดว่ากำลังทำกับข้าวอยู่ในบ้านเพราะได้กลิ่นผัดกะเพราลอยมาจากในครัว พลางถอดรองเท้าเก็บไว้ในชั้นรองเท้าที่วางอยู่หน้าบ้าน
ฉันเดินเข้าไปในครัวแล้วเข้าไปหอมแม่ฟอดนึงก่อนที่จะหันไปหยิบนมในตู้เย็นมาอื่นหนึ่งกล่อง แล้วเดินขึ้นไปบนห้องของฉัน
โซฟานุ่มๆ ในห้องนอนยุบลงตามน้ำหนักตัวของฉัน เสียงเพลงดังขึ้นจากหูฟังที่ต่อกับเครื่องเล่น mp3 ที่วางอยู่บนตัวฉัน
ขณะที่ฉันกำลังจะเคลิ้มหลับไปพร้อมๆกับเสียงเพลงจาก mp3 เสียงโทรศัพท์ก็ดันดังขึ้นมากวนใจฉันอีก
“ มารักทำไมตอนนี้ ตอนที่จะเสียฉันไป ทั้งๆที่ฉันทุ่มให้หมดใจ แต่เธอกลับทิ้งมัน ไม่เคย...”
“ ฮัลโหล ” ฉันพูดออกไปโดยที่ยังไม่ได้ลืมตา ภายในใจก็คิดว่า ใครกันนะ โทรมากวนเวลานอนของฉันได้ จับได้ จะฆ่าให้ตายเลยคอยดู เอ๊ะ... สงสัยฉันจะกลายเป็นพวกโรคจิตซะแล้ว
“ เอกเองนะเปรี้ยว ” ใครกันหว่า เอก หรือว่า เฮ้ย !!! แล้วนายนั่นรู้เบอร์ฉันได้ยังไงอ่ะ
__________________________________
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า เม้นด้วยๆ อย่าลืมล่ะ
ความคิดเห็น