*ถ้ารักคือการให้*
เค้าให้เธอได้ แม้กระทั่ง...ชีวิต
ผู้เข้าชมรวม
1,575
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ถ้า... รัก คือ การให้.. |
|
“แนน ใกล้วาเลนไทน์แล้วนะ....” จอย เพื่อนร่วมงานของแนนหันมาคุย แนนเงยหน้าขึ้นสบตาจอยพลางยิ้มพูดเบาๆ วาเลนไทน์...14 กุมภาพันธ์ วันที่กุหลาบทั่วโลกบานพร้อมกัน และเป็นวันที่กามเทพแผงศร ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ความรักของเขาและเธอ กำลังก่อตัวขึ้น “เธอๆ มาเล่นก่อกองทรายด้วยกันมั้ย” กำลังนั่งเล่นบนกองทรายสูงท่วมหัว “เธอชื่ออะไร เราชื่อเอ” เด็กผู้ชายแนะนำตัวเองก่อน “ฉันชื่อแนน” เด็กผู้หญิงแนะนำตัวเองบ้างพลางค่อยๆนั่งลง เด็กผู้หญิงวิ่งไปเอาน้ำมารดให้ทรายเปียกชุ่ม ให้ดินทรายที่เปียกค่อยๆก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง “เอ เดี๋ยวแนนประดับปราสาททรายเองนะ” “แนนๆ ตรงนี้เป็นห้องของแนนนะ กองทรายแห่งความฝัน “เอๆ ต้องทำสวนดอกไม้ตรงนี้ด้วย บ้านเราต้องมีสวนดอกไม้นะ” “แนนอยากได้สวนอะไร....อยากได้ดอกไม้อะไร” เอพูด “เอาดอกอะไรดี...เอ ช่วยแนนคิดหน่อยสิ” แนนมองหน้าเอด้วยแววตาใสซื่อ “อืม...ผู้หญิงต้องเหมาะกับดอกกุหลาบนะ” เอพูดพลางทำท่าคิด “ตกลงๆ สวนดอกกุหลาบนะ เราจะทำสวนดอกกุหลาบที่ลานหน้าบ้านของเรา” ทั้งคู่สร้างปราสาททรายแห่งความฝันของพวกเขาอยู่นาน ....นานจนกระทั่ง “เอ ไปได้แล้ว พ่อเสร็จงานแล้วลูก” “พ่อๆ ให้เอเล่นกันแนนอีกแป๊บนะ” ลูกชายออดอ้อนพ่อของตัวเอง “หน่า ไปได้แล้ว เดี๋ยววันหลังมาเล่นใหม่ก็ได้นี่” พ่อของเขานั่งยองลง “ตกลงครับ เดี๋ยวให้เอบอกแนนก่อนนะ” “แนน เดี๋ยวพรุ่งนี้เอมาหานะ พรุ่งนี้เอจะเอาดอกกุหลาบมา เอพูดพลางชี้นิ้วลงตรงลานหน้าปราสาททราย “ตกลงๆ พรุ่งนี้เจอกันนะ” แนนยิ้มพูดพลางพยักหน้า ทุกวัน เอและแนนจะมานั่งก่อปราสาททรายด้วยกัน “แนนๆ เมื่อวานแม่เราสอนให้เราเขียนหนังสือด้วยแหละ” เงยหน้าขึ้นมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่วิ่งเข้ามา “ไหนๆ แม่ของเอสอนเขียนคำว่าอะไร” แนนถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น “แม่เอสอนเขียนหลายคำ แต่เอจำได้คำเดียว” เอพูดพลางทำเสียงเศร้าๆ “เอจำคำไหนได้ เขียนให้แนนดูหน่อยสิ” แนนพูด เอค่อยๆก้มลงข้างๆกองทราย แล้วตวัดเป็นจังหวะเพียงชั่วครู่ “อ่านว่าอะไร เอ” แนนพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นและแปลกใจ “อ่านว่า รัก” เอพูดกระซิบข้างหูแนนเบาๆ “เหรอ อ่านว่ารักเหรอ....สอนแนนเขียนหน่อยสิ นะๆๆๆ” “มานี่ๆ เอจะสอน” เอพูดพลางหยิบเศษไม้เล็กๆให้แนนจับไว้ ตวัดบนกองทรายให้เกิดเป็นอักขระบิดพริ้ว “นี่ไง แนนเขียนได้แล้ว ดีใจจังเลย” “มันแปลว่าอะไรเหรอ เอ” แนนยังคงสงสัยไม่หายในความหมายของมัน “เอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่บอกว่ามันมี ความหมายมากนะ มากจนอธิบายไม่ได้” ความหมายมันคงมากมายเกินกว่าเด็กห้าขวบจะรู้ “สักวัน เราจะรู้ความหมายมัน แม่เอบอก” เอพูดพลางหันไปมองแนน “อืม สักวันนะ” แนนพูดพลางหันมายิ้มให้กับเอ ใช่
“ใครดึงผมเปียแนน” มองแทบจะพร้อมกันกับเจ้าของผมเปีย หัวเราะกันคิกคักพลางชี้นิ้วมาที่แนน “ทำไมๆ เราดึงเอง จะทำไม” หนึ่งในเด็กสามคนพูดพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “แกล้งผู้หญิง ได้ไง” เอยืนขึ้นชี้หน้าด่า “แล้วจะทำไม” เด็กทั้งสามกรูกันมายืนหน้าเอ “ไม่เอาเอ อย่าไปยุ่งกับพวกนั้น” แนนพูดพลางเกาะแขนเอไว้แน่น ปั้ง...หนึ่งหมัดปล่อยออกไป คล้ายเป็นการประกาศสงครามของคนสองกลุ่ม เกลื่อนกลาดคนละทิศคนละทาง “หยุด!!” มีอำนาจมากพอจะทำให้ทั้งสี่คนหยุดการตะลุมบอนกัน “พวกเธอทำอะไรกัน อันธพาลกันใหญ่แล้วนะ” “เอ เจ็บมั้ย” แนนวิ่งเข้ามาทันทีที่ครูประจำชั้นเดินออกไป “ไม่เจ็บหรอก” เอพูดพลางก้มหน้าหลบสายตาแนน “ไม่เจ็บอะไร เลือดไหลใหญ่แล้ว ไปห้องพยาบาลนะ แนนจะทำแผลให้” เปรอะเปื้อนเสื้อนักเรียนสีขาวของเอ “โอ๊ย...เจ็บ อย่าจับสิ” “โอ๊ย แสบ” เมื่อแนนค่อยๆกดสำลีชุบแอลกอฮอลงบนแผลของเอ “แสบก็ทนสิ อยากหาเรื่องเค้านี่นา” แนนพูดพลางยิ้ม ทุกครั้งที่มีคนแกล้งแนน เอจะยืดอกปกป้องแนนเสมอ “แนนๆ แฮปปี๊วาเลนไทน์นะ” พลางยืนกุหลาบแดงให้กับมือหญิงสาว “อีตาบ๊อง อย่ามาทำหวานใส่ฉันหน่า” แนนพูดกวนๆพลางยิ้ม “อ้าว ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ เอพูดพลางยิ้ม ทั้งมือทั้งแขนแทบจะไม่มีที่เก็บ “หวานกับเค้าก็เป็นเหรอ เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นนะ” “เอรักแนนนะ” เอพูดพลางจับมือแนนขึ้นมาเขียนรูปหัวใจไว้ที่ฝ่ามือ แต่ยังพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตัวเอง “เหรอ....เขียนคำว่ารักตรงนี้ ดูไม่ซึ้งเลย” แนนพยายามบ่ายเบี่ยง
ใต้ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีโต๊ะหินอ่อนวางเรียงรายเป็นแนว บ้างอ่านหนังสือ บ้างหยอกล้อกินขนมกัน... “เอ เย็นนี้แนนไปทำรายงานกับเพื่อนนะ” แนนพูดพลางเก็บหนังสือ “ไปทำรายงานกับใคร” เอเงยหน้าขึ้นมองแนนทันที “ไปกับกิ๊ฟหนะ นะๆๆๆ” แนนพูดพลางเดินไปนั่งข้างๆเอ “ให้เอไปส่งมั้ย เอว่างนะ” เอพูดพลางยิ้ม ลูบผมแนนเบาๆ “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกิ๊ฟเอารถมา” แนนพูดพลางซบหน้าลงบนบ่าของเอ “นี่ แล้วกินข้าวเสร็จแล้ว เอพูดพลางจ้องหน้าแนนด้วยสีหน้าจริงจัง “ค่ะ หัวหน้า สั่งจริงๆเลย” แนนพูดพลางยิ้ม “กิ๊ฟๆ แฟนแกเป็นงัยบ้าง” “กิ๊ฟจะเลิกๆเลยดีไม๊จะได้ไม่กลุ้ม”กิ๊ฟเสนอความเห็นกับแนน “แต่ก้อเอาเถอะหน่า....ให้โอกาสอีกสักครั้ง” “โอกาสสักครั้ง รอบที่ล้าน” เสียงหัวเราะดังขึ้นเกือบพร้อมกัน “แล้วแนนล่ะ แหม...เค๊าเอาใจเธอดีนะ” “โอ๊ย รายนั้นไม่รู้กี่ปีแล้ว ยังจับไม่ได้สักทีว่ามีกิ๊กเก็บไว้ที่ไหน” “แปลได้สองอย่าง...ถ้าแฟนเธอไม่รักเธอคนเดียว “เอี๊ยยดดด.....” เสียงเบรกลากล้อดังยาวจากด้านข้างตัวรถ อย่างเห็นได้ชัด.... “แนนๆ” เสียงกระซิบเบาๆดังข้างหู ทำให้แนนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา “อยู่ไหน....โอ๊ย เจ็บ” แนนค่อยๆอ้าปากพูด แต่ไม่ชัดนัก “ใจเย็นๆ แนน เธอสลบไปสองเดือน” .....สองเดือน สองเดือน “แล้ว สรุปว่าฉันเจ็บคนเดียวใช่มั้ย” แนนพยายามพูด “อืม...”กิ๊ฟพยักหน้าเบาๆ กำมือแนนไว้นิ่งๆ “เอ ล่ะ เออยู่ไหน” แนนเพิ่งนึกขึ้นได้ แฟนเธออยู่ไหน “เอมาหาเธอครั้งเดียว วันแรกที่ชน แล้วหายไปเลย” กิ๊ฟพูดพลางลูบหัวแนนเบาๆ
“อืม...” น้ำตาค่อยๆกลั่นตัวหยดลงมาจากนัยน์ตาของแนน เขาเก่งมากจริงๆ เก่งมากที่หลอกแนนมาหลายปี ทำไมผู้ชายทั้งโลกถึงนิสัยเหมือนกันหมดเลย เสียดาย เสียดาย เสียดาย “คุณแนน ค่อยๆก้าวนะครับ ช้าๆ” บุรุษพยาบาลพยายามพยุงแนนขึ้นเดิน “ระวังล้มนะครับ จับผมไว้ดีๆ” “คุณบุรุษพยาบาลค่ะ นี่ฉันสลบไปนานถึงขั้นต้องกายภาพบำบัดกันเลยเหรอ” “โห คุณไม่ได้เดินสามเดือนนี่ มันนานนะครับ” บุรุษพยาบาลตอบด้วยความสุภาพ “จะว่าอะไรมั้ยค่ะ ถ้าจะถามชื่อเล่น คือถ้าเรียกว่าคุณบุรุษพยาบาล “ผมชื่อ กอล์ฟ ครับ” บุรุษพยาบาลตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงเรียบๆ นับจากวันนั้น แนนและกอล์ฟเริ่มสนิทกัน “คุณแนนค่ะ น้ำดื่มค่ะ” พยาบาลชุดขาวเดินถือแก้วน้ำมาวางข้างๆเธอ “กอล์ฟๆ ไปกินข้าวกัน” แนนพูดทันทีที่เห็นกอล์ฟเดินออกมา แนนก็ได้แต่รับไหว้ด้วยสีหน้างงเล็กน้อย “ไปสิครับ” กอล์ฟพูดพลางค้อมตัวลง ผายมือไปที่ห้องอาหารของทางโรงพยาบาล จนบางครั้งแนนก็อยากให้กอล์ฟมาแทนที่เอ บ่อยครั้งที่แนนคิดถึงเอ เอก็ไม่โทรมา ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที ปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ “แนนๆ วาเลนไทน์ปีนี้ ว่างหรือเปล่าครับ” เสียงกอล์ฟดังตามสายโทรศัพท์ “ว่างค่ะ ทำไมค่ะ” แนนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “พอดีผมมีของจะให้แนนนะครับ กอล์ฟเสนอความเห็น “ตกลงค่ะ” แนนพูดพลางกดวางสาย วันวาเลนไทน์ วันที่กุหลาบแดงบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วโลก “ขอโทษค่ะ มาสาย” แนนพูดพลางยิ้มก่อนดึงเก้าอี้ออกมานั่ง “ไม่เป็นอะไรครับ” กอล์ฟพูดพลางยิ้ม “อืม...ว่าแต่มีอะไรจะให้แนนเหรอ” หากกอล์ฟมีพิรุธ แนนจะจับได้ทันที “อันนี้ของแนนนะครับ” ดอกกุหลาบสีแดงถูกดึงออกมาจากถุงอย่างช้าๆ “หมายความว่ายังไงค่ะ จะขอหัวใจแนนเหรอ” แนนพูดติดตลกพลางยิ้ม “ผมคงไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอก” กอล์ฟพูดพลางยิ้ม แต่กลับทำให้แนนงง “อ้าว...แล้วกุหลาบสีแดงนี่...” ไม่ทันแนนจะพูดจบ “ผมไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอกครับ เพราะหัวใจของแนนไม่ใช่ของแนน” “หัวใจของคุณ คือเจ้าของกุหลาบดอกนี้” “ตอนคุณประสบอุบัติเหตุเข้ามาที่โรงพยาบาล “มีผู้ชายคนนึง วิ่งเข้ามาบอกว่าเป็นแฟนคุณ บอกให้ช่วยคุณให้ได้ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า... เขายอมจ่ายไม่อั้น ไม่ว่าทางเราจะขออะไร “ผมยอมแลกทุกอย่างกับชีวิตเธอ - เขายอมแลกทุกอย่างกับชีวิตคุณ” “เขายอมทุกอย่างจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่าทางเราหาเลือดไม่พอให้คุณ กอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงปกติ สายตามองไร้จุดหมาย “สุดท้ายเราตรวจเลือดของเขา พบว่าตรงกับของคุณพอดี เขาบอกให้ทางเราเอาไป ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ” กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่พยายามกลั้นน้ำตา.... แต่นัยน์ตาแนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำใสๆ “ต่อมา...ตอนพวกผมถ่ายเลือดให้คุณ หัวใจคุณเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ ทำใจว่าเขาจะต้องเสียคุณ” นัยน์ตาแนนเริ่มแดงก่ำ “เขาถามหมอว่า เธอต้องการอะไร.....” ใช่ เอถามหมอว่าแนนต้องการอะไร “เธอต้องการ หัวใจครับ หัวใจเธอเต้นไม่ปกติ การสูบฉีดล้มเหลว “ตกลง ผมหาให้ เขาตอบสั้นๆโดยไม่ลังเลเลย” เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อจะทำให้เธอ “คุณรู้มั้ย ว่าคำพูดของเขาทำให้ผมและหมออึ้งกันไปหมด เขาจะมีปัญญาที่ไหนหาหัวใจให้คุณได้” ตอนนี้กอล์ฟเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว “เขาถามเลขบัญชีของโรงพยาบาลกับหมอ.... เขาไม่ได้โอนเงินมาซื้อหัวใจเทียมให้คุณ “นานา” คุณดูดีๆ คำว่า แนน และ เอ กับคนที่เขารัก...เพราะไม่มีหัวใจเทียมสำรอง” เปี๊ยง....แนนโดนสะกิดต่อมความจำเข้าเต็มเปา... ดูแลเธอดีเสียจนน่าแปลกใจ “ทันทีที่มีการยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีทางโรงพยาบาล แนนปล่อยโฮออกมาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างๆ “เขายอมแลกทุกอย่างกับคุณจริงๆ” “ผมคงไม่กล้าขอหัวใจคุณหรอก “กุหลาบดอกนี้ เขาบอกผมก่อนไปเข้าห้องน้ำว่า...วาเลนไทน์ที่จะถึง ทิ้งแนนนั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง “เอรักแนนนะ” “เอรักแนนนะ” “เอรักแนนนะ” แนนค่อยๆคลี่จดหมายออกอ่าน.... “หัวใจเอ...เขียนคำว่ารักไว้ เขียนให้แนนคนเดียว” |
ผลงานอื่นๆ ของ aKiKo_hehe ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ aKiKo_hehe
ความคิดเห็น