ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The White Rabbit

    ลำดับตอนที่ #28 : XXVII_ซันนี...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 296
      2
      6 พ.ย. 58

    THE WHITE RABBIT
    XXVII
    ซันนี่...






             กัสตินดึงมีดที่ปักอยู่บนเเขนด้วยสีหน้าเรียบเฉย เเต่อัศวินที่อยู่ข้างเขาดูจะเฉยไม่ได้

             "องค์ชายได้โปรด ให้ข้าช่วยทำเเผล..."

             "ไม่เป็นไร" กัสตินบอกปัดๆ "มังกรนั่นไปทางไหนเเล้ว" กัสตินถาม ตอนนี้เขาวาบมาถึงลานประหาร เเต่สิ่งที่เขาพบกลับมีเเต่ความวุ่นวาย

             "เอ่อ... ไม่เห็นตัวเเล้วขอรับ เมฆหนาเช่นนี้ จะหามังกรขาวตัวนั้นคงเป็นเรื่องยาก" อัศวินตอบคำถาม

             นั่นสินะ... เเต่ก็ไม่ได้ยากเท่าไรหรอก

             กัสตินมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินไปหยุดที่พื้นนํ้าเเข็งใส เขาปัดหิมะที่คลุมนํ้าเเข็งออกเเล้วใช้กริชที่ไทปัสฝากไว้กับเขา กรีดลงไปบนพื้นนํ้าเเข็ง วงเวทย์ถูกวาดออกมาอย่างประณีตโดยกัสติน อัศวินที่ตามมาเเม้ไม่รู้ว่ากัสตินกำลังทำอะไร เเต่ก็ไม่ได้ทักท้วง

             เมื่อกริชคมกรีดอักขระสุดท้าย กัสตินก็ใช้มือข้างที่ถูกเเทงเป็นเเผลยื่นออกไปกลางวงเวทย์ เลือดสีเเดงหยดลงบนพื้นหิมะ ก่อนที่มันจะสว่างวาบเป็นสีเเดงเข้มเช่นเดียวกับสีเลือดของผู้ที่สร้างมัน

            เเสงสีเเดงเลือดค่อยๆจางหายไปเหลือเพียงร่างสีขาวที่ขนาดพอๆกับฝ่ามือมันค่อยๆขยับเเละสบัดหัวไปมา

            "มังกร..." อัศวินที่อยู่ในเหตุการณ์อุทานออกมาเบาๆ

            กัสตินก้มลงช้อนร่างมังกรน้อยก่อนจะช้อนมันขึ้นมา มันออ่นปวกเปียกเหมือนมังกรที่พึ่งฟักจากไข่

            'เจ้าปล่อยให้เขาหนี'

             กระเเสจิตถูกส่งเข้ามาในหัวกัสตินเมื่อเขาจ้องมองไปในดวงตาสีนิลของมัน

            "ข้าขออภัยนายท่าน" กัสตินเอ่ย ทำให้อัศวินที่คุมเชิงอยู่ข้างๆมองดูเขาอย่างงุนงง

            ใช่เเล้ว มังกรตัวนี้คือนายของข้าเอง... เเม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเขาก็ตาม

             ไม่มีอะไรที่นายท่านไม่รู้ นั่นคือสิ่งที่ข้าคิดทุกครั้งที่อยู่กับนายท่าน เเล้วเพียงเเค่ลูกชายเขาหนีออกมา นายท่านหรือจะไม่รู้ว่าเขาหนีไปไหน

             'ตามข้ามา'

              กระเเสจิตถูกส่งมาพร้อมร่างมังกรน้อยที่กระพือปีกจนร่างลอยขึ้นสู่อากาศ

              "ขออภัยที่ต้องรบกวนท่าน" กัสตินเอ่ย รู้สึกผิดกับนายตัวเอง งานเเค่นี้เขายังทำให้นายตัวเองไม่ได้ ช่างน่าละอายจริงๆ

              กัสตินออกเดินตามมังกรที่บินนํา เเต่มือของใครคนหนึ่งก็ฉุดรั้งเขาไว้

             "เจ้าจะไปไหนหรือ" โอลิเวียถาม สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีนัก คงเพราะนักโทษวันนี้ที่หนีไปได้

             "ท่านพี่..." ข้าหยุดฝีเท้าเเล้วหันมากุมมือนาง "ข้าหายไปไม่นานเเล้วข้าจะกลับมา ได้โปรดเชื่อข้า" ข้าเเกะมือนางออก เเล้วหันกลับวิ่งตามมังกรน้อยที่ความเร็วไม่ได้น้อยตามตัวมันเลย

               "องค์หญิงให้ข้าตามไปหรือไม่ขอรับ" อัศวินหันมาถาม ถึงดูจากเสื่อครู่องค์ชายของเขาจะไวเกินมนุษย์ก็ตาม เเต่เขาถูกสั่งให้อารักขา หน้าที่ยังไงก็ต้องเป็นหน้าที่

               "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเขาก็กลับมา" โอลิเวียตอบเเล้วมองเเผ่นหลังของน้องชายที่หายลับไปอย่างรวดเร็ว

            เธอจะเชื่อเขา

     

     






             ถ้าผมอยู่บนเรือ ผมคงกลายเป็นโนอา

             ผมพูดจริงๆนะนอกจากผมกับน้องสาว นอกนั้นก็เป็นกระตาย เอ๋ย กระต่ายที่นอนนิ่งอยู่ มังกรที่บินเอื่อยเป็นพรมอาละดินให้ผม กับเเมวอีกตัวนึง...

             ครับ เจ้าหูเเมวที่ช่วยปลุกผม ตอนนี้มันกลายเป็นเจ้าเเมวดำตัวอ้วนกลมที่หน้าตาคุ้นๆ... เจ้าเมลโล่นั่นเอง (เเมวตะกละที่อยู่ตอนเเรกๆอ่ะ จำกันได้ไหม) เเถมตอนนี้มันยังกางเล็บเต็มที่เกาะตัวผมเเน่นเหมือนเป็นที่ยึดที่เดียวของมัน เเต่เเมวมันจะรู้ไหมว่าคนมันเจ็บอ่ะ

           "นี่ไทปัส ตํ่าลงหน่อยได้ไหม พวกนั้นคงตามไม่ทันเเล้วเเหละ" ผมบอกกับไทปัสที่อยู่ๆก็กลายเป็นมังกรไปซะงั้น

            จริงๆก็ไม่ได้น่าเเปลกใจเท่าไร น้องสาวผมเป็นเเม่มด พ่อผมเป็นอัศวินอะไรสักอย่างที่ฟื้นคืนชีพได้ ส่วนเพื่อนผมเป็นกระต่ายที่มีเวทย์กาลเวลา มันไม่เห็นจะเเปลกตรงไหนที่เเมวบ้านผมกับมังกรที่ผมใช้เป็นยานพาหนะอยู่จะเเปลงร่างเป็นคนได้บ้าง   

             ไทปัสค่อยๆร่อนตํ่าลงจนระดับพอๆกับยอดไม้ ดีที่เเถวนี้เป็นป่า ถ้าเป็นหมู่บ้านหรือเมืองคงฮือฮากันให้เเซด

             "เลิกเกาะได้เเล้ว สูงเเค่นี้นายคงไม่กลัวหรอกนะ"ผมดึงคอเจ้าเเมวออกจากตัวเเล้วเเปะมันลงบนหลังมังกร เจ้าเเมวพุงพลุ้ยก็กลายร่างเป็นคนที่กำลังถอนหายใจเเล้วก็ปาดเหงื่อเหมือนพึ่งรอดตายมาอย่างหวุดหวิด เเล้วมันก็มองหน้าผม

            "ไม่คิดจะตกใจหน่อยรึไง ที่รู้ว่าข้าเป็นใคร" เจ้าเมลโล่ทำหน้าเบ้ มันคงอยากจะเปิดตัวเเบบอลังการหน่อยล่ะมั้ง

            "ก็นิดหน่อย" ผมตอบ "นึกไม่ถึงเลยว่าเเกจะ... เป็นตัวผู้"

             ครับ ผมไม่เคยรู้เลยว่าเเมวที่บ้านเป็นตัวผู้ เเล้วก็จำไม่ได้ด้วยซํ้าว่าเลี้ยงเเมวตั้งเเต่เมื่อไร

           เมลโล่ทำหน้าหงอยนิดๆที่โดนเมินจากเจ้านายสุดที่รักมาทั้งชีวิต

           "เมทริซไม่เป็นไรนะ" เมลโล่ถาม

           "ไม่เป็นไร คงจะเหนื่อยล่ะมั้ง" ผมตอบพร้อมมองน้องสาวที่นอนซบไหล่ผมอยู่ผม ขนาดนี้คงไม่ใช่เเค่เหนื่อยหรอก น่าจะสลบไปมากกว่า

           "มือเจ้า...ให้ข้าช่วยไหม" เมลโล่ชี้ไปที่มือผม ผมมองลงตาม เเล้วก็พบว่ามันมีเลือดไหลอาบทั่วทุกนิ้ว รอยเเผลนั่นเหมือนเอานิ้วไปฝนกับอะไรมา... เเล้วผมมีเเผลนี้ตั้งเเต่เมื่อไรกัน...

             "มันเกิดอะไรขึ้นกับผมเนี่ย" ผมถามเมลโล่

             "ตอนที่เจ้าโดนสิงน่ะ เจ้าเอามือไปขูดกับพื้นหิน ถ้าผมไม่ช่วยล่ะก็คงเเย่กว่านี้เลยน้า" เจ้าเมลโล่เล่า  

             "โดนสิง? ใครสิงผม?" เฮ้ หลอนนะเนี่ย

             "ไม่รู้สิ เป็นผู้หญิงผมสีขาวๆ เเล้วก็ชุดขาวๆ"

             ผู้หญิงผมขาว... เธอคงเป็นวิญญานสินะ ถึงบอกว่าตัวเองมีตัวตน... เเต่เธอสิงผมทำไม ถามไปเจ้าตัวข้างหน้านี่ก็คงไม่รู้

             "เเล้วนายเข้ามาในความฝันผมได้ยังไง?"    

             "เผ่าพันธุ์ของข้าคือไนท์เเมร์เชียวนะ เรื่องความฝันน่ะของถนัดอยู่เเล้ว"

              ไนท์เเมร์เหรอ... ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นปีศาจฝันร้ายอะไรเทือกนั้น เเต่...

             "ไนท์เเมร์นี่ต้องเป็นม้าไม่ใช่เหรอ?"

             "ความผิดพลาดตอนเเบ่งเซลล์น่ะ" เมลโล่ยักไหล่ไม่สนใจ

             ความผิดพลาดตอนเเบ่งเซลล์? มันผิดพลาดขนาดไหนกันล่ะครับจากม้าถึงกลายเป็นเเมวได้น่ะ

             "เเล้วรู้ได้ยังไงว่าผมเป็น...เอริค" นั่นน่ะสิ เวทย์ของเจ้ากระต่ายเห็นโม้ว่าดีนักดีหนาไม่ใช่เหรอ

             "ถึงเจ้าจะเปลี่ยนไปเยอะเเต่ข้าจำกลิ่นเจ้าได้นะ เเต่ก่อนเราก็นอนด้วยกันทุกคืนเลยไม่ใช่เหรอ..."

             หยุดเดี๋ยวนี้เลย!! ผมไม่เคยนอนกับผู้ชายตัวโตอย่างหมอนี่เเน่นอน ผมเคยนอนเเต่กับเเมวตัวนึง กับเเมวน่ะเข้าใจไหม เเมว!!

             พอเลิก ไม่ถามอะไรต่ออีกเเล้ว นี่ผมเลี้ยงเเมวเเบบนี้มาได้ยังไงเนี่ย...

            "เเล้วเเผลนั่นจะให้ช่วยรักษาไหม" เมลโล่ถาม เมื่อผมเงียบไป ผมยื่นมือไปให้ส่งๆ อย่างน้อยเเมวบ้านผมก็ทำเเผลเป็น...

             เมื่อเมลโล่ดึงมือผมขึ้นมา เเต่เเทนที่มันจะล้างเเผล ใส่ยา หรือใช้เวทย์ฟื้นฟูอะไรทำนองนี้ มันกลับไม่ได้ทำ...

             เมื่อเจ้าเเมวได้มือผมไปมันก็จัดการ 'เลีย' ครับ

             "ทำอะไรของนายเนี่ย!!" ผมชักมือกลับทันทีที่ลิ้นอุ่นๆนั่นเเตะปลายนิ้ว

             โอเค ผมขอถอนคำพูดที่ว่าเเมวบ้านผมทำเเผลเป็น

              "ก็เลียไง" เมลโล่ตอบพลางกระพริบตาปริบๆ

              "ไหนบอกจะรักษาไง!"ผมตวาดกลับ

              "จุ๊ๆ ไม่รู้อะไรซะเเล้ว นํ้าลายของข้าเป็นยาดีนะ ช่วยรักษาบาดเเผลได้ดีกว่าเวทย์ฟื้นฟูซะอีก"

              ...เอาอะไมเลสของนายไปย่อยเเป้งเหมือนเดิมเถอะ

              "มานี่ยื่นมือมา" เมลโล่ยื้อมือผมไว้

              "มะ... ไม่เป็นไร ฉันใช้เวทย์ย้อนเวลาเอาก็ได้"

              "เอ๊ะ เจ้านี่ดื้อจริง ข้าบอกจะช่วย เจ้าก็ต้องให้ข้าช่วย"

             ยื้อยุดกันอยู่นาน เจ้าเมลโล่ก็เป็นฝ่ายชนะ มันดึงมือผมไปเเล้วก็ลากลิ้นทำความสะอาดให้ก่อนตั้งเเต่คราบเลือดที่หยดไหลลงจาถึงข้อมือ ลิ้นอุ่นนั่นลากจากข้อมือผมขึ้นมาเเล้วมันก็ขบเข้าเบาๆอย่างขี้เล่นเเถมยังดูดด้วย มันถอนปากออกเเล้วก็ลากลิ้นขึ้นมาที่อุ้งมือ เเล้วก็อมเข้าที่นิ้วผม ลิ้นของเมลโล่ทั้งเลียทั้งดูดดุนเข้ามา....

            ...

            โอเค พอ ไม่บรรยายละ

            "เสร็จเเล้ว" กว่าเมลโล่จะปล่อยมือผม ผมก็เเทบชักตาย ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ในที่สุดผมก็อยู่ในสถานการณ์ที่ปกติสักที...

            กรรรร!!!

            เออ! เอาเข้าไป!!

           ผมเกาะหลังมังกรขาวเเน่นเมื่อจู่มันก็เบรกอย่างกะทันหันจนตัวโก่ง เมลโล่ตกใจกว่าผมอีก จากร่างคนมันก็กลับมาเป็นเเมวที่จิกเล็บเข้ากับกะบาลผมเหมือนเดิม

           "เกิดอะไรขึ้นน่ะไทปัส" เออสิ ข้างล่างนี่ไม่ได้มีเบาะรองรับนะครับ ตกไปก็เจ็บสิ

           กรรรรรร!!!!!

           มังกรขาวยังขู่อยู่คงจะพูดอะไรซักอย่าง เเต่ผมไม่เข้าใจ ผมคว้าเมทริซที่จะร่วงขึ้นมา เธอยังไม่ตื่นเเสดงว่าสลบของจริง ผมเกาะเกร็ดมังกรเเน่น จนกระทั่งมันนิ่งผมถึงได้รู้ว่าข้างหน้ามีอะไร

            เป็นมังกรน้อยตัวหนึ่ง ผมพยายามเพ่งมองมัน มันบินนิ่ง เเต่กลับทำให้มังกรใหญ่อย่างไทปัสคำรามเดือดดาลอย่างนี้ได้...

             ไม่ใช่ธรรมดาเเน่...    

              บูมมมม!!

              โดยไม่รู้ตัวลูกไฟลูกใหญ่ก็วาบเข้ามาในลำคลองสายตา ไม่ทันที่ผมจะได้ป้องกันมันก็เเผดเผาเข้าที่ปีกข้างหนึ่งของมังกร

              กรรรรรร!!!

              มังกรขาวกรีดร้องลั่น มันกระพือปีกอีกข้างเพื่อพยุงตัว เเต่เปล่าประโยชน์ มันกำลังร่วง

              ตูมมม!

              หิมะฟุ้งตลบขึ้นมาผมกอดเมทริซเเน่นก่อนที่ร่างจะร่วงลงสู่พื้นดิน ต้องขอบคุณที่มีหิมะรองรับ เเละต้องขอบคุณในความกลัวความสูงของเมลโล ที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกที่จะให้มังกรบินตํ่าลงเเละผมก็ล่วงลงมาโดยครบสามสิบสองทั้งฟันทั้งอวัยวะ 

             ผมดูว่าเมทริซเป็นอะไรรึเปล่า เธอไม่บาดเจ็บ ผมพยายามลุกขึ้น เมลโล่กระเด็นไปอีกทาง เจ้ามังกรก็ร้องโอดโอยอยู่กับพื้น ส่วนเจ้ากระต่ายก็ร่วงตุบไปอีกทาง

             โอ้ว เเย่ล่ะสิบักกี้มันยิ่งชํ้าในอยู่ด้วย...

             ผมเลือกที่จะลุกไปดูบักกี้ก่อน เหมือนข้อเท้าผมจะผิดรูปไปหน่อยก็เลยได้เเต่เดินกระโผกกระเผกช้าๆ

              ยังไม่ทันที่จะถึงตัวบักกี้ใครบางคนก็มาขวางผมไว้ก่อน... ผมสีดำหยักศกกับดวงตาสีเเดง เเละรอยยิ้มที่ดูจะโหดขึ้นทุกวัน

              "เป็นไปไม่ได้น่า..."

             เขาคือกัสติน...

             ถ้าเขาวิ่งตามผมมานั่นไม่ต่างจากวิ่งตามเครื่องบินสักลำ หรือถ้าเขาใช้เวทย์เคลื่อนย้าย การหาตำเเหน่งของผมก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร

            "มันเป็นไปเเล้วไวซาน" กัสตินตอบเเล้วก็ฉีกยิ้ม

            ไม่ได้การละ เวทย์หยุดเวลาด่วน...

            เปรี๊ย...

           "โอ๊ย!" ผมอุทานออกมา ยังไม่ทันได้ร่ายเวทย์ ก็เหมือนมีเสียงอะไรเเตกอยู่ในหัวผม

           "ไปกับข้า!" กัสตินกระชากเเขนผมเข้าหาตัว ผมพยายามจะใช้เวทย์อีก

           เปรี๊ยย...

           ผลลัพธ์เหมือนเดิม ผมกุมหัวตัวเอง มันเหมือนสมองผมเป็นกระจกที่มีใครกำลังพยายามระเบิดมันจากข้างใน

           เปรี๋ยย...

           คราวนี้เป็นทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ร่ายเวทย์ ผมล้มลง มือข้างหนึ่งกุมหัวตัวเอง        

           "นี่เจ้าจะมาไม้ไหนเนี่ย"กัสตินพูดเเล้วฉุดกระชากลากถูผมไปด้วย       

            เเต่ผมยังนั่งกุมขมับอยู่ที่เดิม นี่ผมไม่ได้มาไม้ไหนนะมันเจ็บจริงๆนะเฮ่ย

            เมื่อเห็นว่าผมยังนั่งกุมขมับอยู่กัสตินก็เริ่มสงสัยจนต้องก้มลงมามองใกล้

            "นี่เจ้า..."

            ปึก!

            "อ๊ากกก!"

           กัสตินร้องเสียงหลงเมื่อผมต่อยเข้าที่ตาเขาเต็มเเรง กัสตินปล่อยมือออกทันทีผมสบโอกาสก็เลยถอยห่างออกไป

            ก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมอยู่ๆผมถึงใช้เวทย์ไม่ได้ เเต่เวทย์ไม่มีก็ใช้กำลังไว้ก่อน...

           อืม... เเล้วไงต่อล่ะ

          "นี่เจ้า!!" กัสตินโวยวายออกมา ผมเห็นมังกรขาวตัวเล็กตัวหนึ่งมาเกาะบนไหล่เขา ผมมองมัน ถึงมันจะดูเหมือนมังกรน้อยที่พึ่งฟักจากไข่ เเต่ไอเวทย์ที่เเผ่ออกมานั่นไม่ธรรมดาเลย

          "เจ้าต้องการให้ข้าใช้กำลังหรือไง" กัสตินพูดด้วยนํ้าเสียงหงุดหงิด

          เฮ้ เปล่านะ ก็นายเลือกวิธีรุนเเรงก่อนนี่

          กัสตินเดินเข้ามาทำท่าจะฉุดผมไปอีก เเต่ยังไม่ทันที่เขาจะมาถึงตัวผม ใครคนหนึ่งก็เตะเขากระเด็นไปเสียก่อน

           ผมมองไปที่ผู้ช่วยเหลือ เธอมีร่างออ้นเเอ้นของเด็กสาว เธอใส่ชุดเมด เเล้วก็ถักเปียยาว เธอหันหลังให้ผม เเต่ถึงผมจะไม่เห็นหน้า เเต่ก็จำได้ทันที

            "ซันนี่..." ผมเรียกชื่อเธอ

             อ้อ เดี๋ยวผมจะเเนะนำให้รู้จักครับ สาวน้อยคนนี้คือซันนี่ น้องสาวของบักกี้นั่นเอง ผมขอเตือนว่าอย่าดูถูกเธอเพียงเเค่รูปร่าง เพราะลูกเตะของเธอเคยเตะก้นบักกี้จนกระเด็นไปหลายโยชน์มาเเล้ว

           เอาล่ะ นายไม่รอดเเน่กัสติน เตรียมเขียนพินัยกรรมได้เลย

            "คนคนนี้คือใครหรือเจ้าคะ" ซันนี่ถามทั้งๆที่ไม่ได้มองมาที่ผม เธอจ้องกัสตินนิ่ง นี่คือซันนี่ เธอจะไม่ละสายตาจากศัตรูจนกว่าศัตรูจะสู้ไม่ไหว... หรือตาย

            "นี่เจ้า!!" ผู้ที่ตอบไม่ใช่ผม เเต่เป็นกัสตินเอง เขาลุกขึ้นมาโซเซอยู่พักนึง ใบหน้าของเขามีรอยเเดงพาดอยู่ จมูกก็มีเลือดกำดำไหลออกมา ผมชักสงสารเขาเเล้วเเฮะ

             "ข้าจะไม่ทนอีกแล้ว..." กัสตินขบฟันอย่างเกรี้ยวกราด ผมได้ยินเขาร่ายเวทย์เเบบใส่อารมณ์ลงไปสุดๆ

             อุณหภูมิรอบตัวสูงขึ้น ลมพัดเเรงอย่างน่าประหลาด เกิดพายุลูกย่อมๆตามการร่ายเวทย์ที่เร่งเร็ว

             เเต่มันไม่ใช่พายุธรรมดาน่ะสิ... มันเป็นพายุไฟที่สูงเกือบห้าสิบเมตร

             อย่างกับเปลี่ยนฤดูกะทันหัน นํ้าเเข็งละลายทันที ต้นไม้เเห้งลุกติดไฟ ผมรู้สึกถึงลมร้อนที่เข้าปะทะหน้า เเต่ซันนี่ยังยืนนิ่ง เธอยืนต้านเเรงลมด้วยสีหน้าเฉยเมย

            เเละเเล้วเธอก็เริ่มวิ่ง กัสตินได้เเต่นิ่งอึ้งไม่นึกว่าจะมีใครกล้าวิ่งเข้าใส่เวทย์อันตรายอย่างเวทย์พายุไฟของเขา

            เเต่เปล่าเลย ซันนี่ไม่ได้วิ่งเข้าใส่พายุไฟ เธอวิ่งเข้าใส่กัสติน ตีลังกาครั้งนึงก่อนจะใช้เท้าทั้งสองข้างของเธอเหยีบลงที่ไหล่ซ้ายขวาของกัสตินจนเขาล้มลงในท่าที่ถูกเธอยืนเหยียบไหล่อยู่ เจ้าของเวทย์ลูกไฟล้มลงง่ายๆ เเละเวทย์ลูกไฟสุดยอดไม้ตายของเขาก็หายไปง่ายๆเช่นกัน

            เเละในวินาทีนั้นเองกัสตินก็หน้าเเดงเป็นมะเขือเทศเขารับรู้ได้ถึงความน่าอัปยศของตัวเอง สิ่งที่หยุดสุดยอดเวทย์ของเขาไม่ใช่เวทย์มนต์มหัศจรรย์อะไร หรือว่าเวทย์มนต์ของปรมจารย์ที่ไหน...

            เเต่เป็นไม้ตายอันดับสองของเด็กสาวคนนึง

            กกน. ลายสตอเบอรี่นั่นเอง...

    ---------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×