ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The White Rabbit

    ลำดับตอนที่ #21 : XX_เจ้าเป็นใคร!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 242
      2
      6 พ.ย. 58

      

    THE WHITE RABBIT

    XX

    เจ้าเป็นใคร!






           ลมหนาวยาวเหมันต์ดูพริ้วไหว ไปตามหิมะขาวที่ลอยล่องลงมาปกคลุมให้ทั่วพื้นที่ให้กลายเป็นสีขาว ช่างเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามน่าวิ่งเล่น เเต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่มีใครอยากมายืนโต้ลมที่หนาวเสียดกระดูกเช่นนี้(มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบรรยายฉากนี้ทั้งๆที่ยังอยู่ประเทศไทย...)

            เสียงถอนหายใจเบาท่ามกลางลมหนาวทำให้เกิดไอสีขาวคลุ้งก่อนจะจางหายไปอย่างเงียบๆ ลมออ่นทำให้ผมสีเงินยวงพริ้วไหว สีของมันดูเหมือนจะกลืนไปกับหิมะ ถ้าไม่ถูกอาภรสีดำคมเข้มตัดให้ดูสะดุดตากับเขาโค้งสีดำวาวที่โผล่ออกมาจากกลุ่มผมเป็นสิ่งเดียวที่เเสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่มนุษย์อย่างรูปลักษณ์ภายนอก

            "ทรูซ..." เสียงหนึ่งดับขึ้นกลางความเงียบงัน นั่นเป็นชื่อของเขาเอง ชายผมเงินจึงเปิดดวงตาสีนิลของเขาขึ้นเมื่อถูกรบกวน

             "มีอะไร" ทรูซตอบกลับโดยที่ไม่ได้หันไปมอง มันช่างดูไร้มารยาทสำหรับหญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง เเต่เธอก็ชินชากับนิสัยเเบบนี้เสียเเล้ว

             "คุณควรจะลดทิฐิลงบ้าง"หญิงสาวเอ่ยด้วยนํ้าเสียงออ่นโยน "เขายังเด็ก เขาเอาตัวรอดไม่ได้หรอก ตามเขากลับมาเถอะ" นํ้าเสียงที่เต็มไปด้วยความวิงวอนของหญิงสาวไม่ได้เข้าหูทรูซเลย เขายังคงตอบกลับมาด้วยความเงียบงัน     

             "ดี..." หญิงสาวเริ่มทนไม่ไหวกับท่าทีเเบบนี้ นํ้าเสียงเจือปนด้วยความโกรธ "ถ้าคุณไม่ไปตามหาเขา ฉันจะไปเอง" หญิงสาวพูดจบเเล้วรอท่าทีของทรูซอยู่สักพัก เมื่อเธอเจอเเค่ความเงียบงันที่ตอบกลับมา ก็รู้สึกเหมือนเป็นคนบ้าที่พูดอยู่คนเดียว หญิงสาวกระเเทกเท้าใส่หิมะหนา เเละเดินกลับทางเดิม       

           เมื่อเสียงฝีเท้านั้นหายไป ดวงตาสีนิลของทรูซก็ปิดลงเหมือนต้องการตั้งสมาธิเพียงลำพัง เเต่ก็ได้ไม่นาน...

           "ปากแข็งจังนะครับ"เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นขัดความคิดของทรูซ ชายหนุ่มผู้หนึ่งปรากฏตรงหน้าทรูซโดยที่เขายังไม่ยินเเม้เเต่เสียงของฝีเท้าของเด็กหนุ่มด้วยซํ้า "จะปล่อยนายหญิงไปจริงๆเหรอครับ" ชายหนุ่มถาม

            "นางไม่ได้ออ่นเเอ"

            "ยกเว้นกับเรื่องคุณเเละลูก" ชายหนุ่มพูดด้วยยิ้มเย็น ประโยคนี้มีความหมายกับทรูซไม่น้อยเขาเงียบไปพักนึง จนชายหนุ่มต้องเป็นผู้พูดทำลายความเงียบเสียก่อน

             "ผมจะไปตามไทปัสเอง"

             "เจ้าไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวเด็กนั่นก็กลับมาเองน่า" ทรูซเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจ

              "นายหญิงพูดถูก คุณควรลดทิฐิลงบ้าง" เเต่ชายหนุ่มก็ไม่สะทกสะท้าน

               "..." ทรูซถึงกับเงียบไปพักนึง ชายหนุ่มปล่อยให้เขาคิด ทรูซห่วงลูกชายมากเพียงใด ทำไมเขาจะไม่รู้

              "ก็ได้..." ทรูซถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างยอมเเพ้ สิ่งนี้เรียกรอยยิ้มให้ชายหนุ่มได้ไม่น้อย

              "ไทปัสอยู่ที่ไหน บอกผมมาผมจะไปพาเขากลับมาเอง"

              คำถามของชายหนุ่มทำให้ทรูซลังเลไม่น้อย จนต้องถามเพื่อความเเน่ใจ

            "เจ้าเเน่ใจจริงนะว่าจะไป"

            "ครับ เเน่นอนอยู่เเล้ว"

            "เเม้สถานที่นั้นจะไม่ใช่ที่ๆเจ้าอยากไปก็ตามน่ะหรือ?"

            "นายท่าน ท่านช่วยชีวิตข้า ต่อให้ต้องไปนรกขุมไหน ข้าก็ยอม เเต่ขอเถอะ ขอให้ข้าได้ตอบเเทนพระคุณของท่าน" ชายหนุ่มยิ้ม เเต่ทรูซยังลังเล การที่หนหนึ่งเขาได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งไว้ นั่นเป็นเรื่องเล็กน้อย เเต่สำหรับเด็กคนนี้ มันคือทั้งโลกของเขา

             "ไทปัสอยู่เอริคาซี เจ้าเเน่ใจเเล้วหรือว่าจะกลับไปที่นั่น กัสติน..."

     

     

     

            "พอได้เเล้ว ต่อให้พลิกวังดูก็หาไม่เจอเเล้วล่ะ" มาคุสตะเบ็งเสียงเตือนสติเหล่าอัศวินที่ตามหามังกรน้อยอย่างไร้จุดหมาย

             "เวทย์เคลื่อนย้ายเช่นนั้นหรือ" ไมโครเดินเข้ามาข้างมาคุสที่ดูอารมณ์เเล้วคงขุ่นๆอยู่

             "ขอรับ เเถมยังกลบไอเวทย์ได้สมบูรณ์เเบบ ต่อให้เป็นข้าก็คงตามไม่ได้" มาคุสยอมรับ

             "อืม...เช่นนั้นก็ช่างเถอะ นั่นซิซเชียวนะ คงจับไม่ได้ง่ายๆหรอกนะท่าน" ไมโครส่ายหัวไม่ใส่ใจ

             "เหหห  เเต่มันน่าเสียดายน้า มังกรตัวนั้นสวยมากๆเลย"เดคเกียนเริ่มก่อกวน     

             "หายากด้วย" เดคเตอร์ทำหน้าที่รับ

             "เรื่อนั้นน่ะช่างเถอะ เเล้วเด็กคนนี้น่ะใครกัน ไปแอบทำลูกกันมารึไง" ไมโครชี้ไปที่เด็กชายตัวน้อยที่เกาะชายเสื้อองค์ชายหนึบ

            "โอ๊ะ ยังอยู่เหรอเนี่ย ตามมาไม่รู้ตัวเลยเเฮะ"

            "เจ้านี่มากับเด็กมังกรนั่นนะ อ๊ะเเกคงไม่ใช่มังกรรุ่นน้องหรอกนะ" เดคเตอร์กับเดคเกียนมองมาที่เด็กหนุ่มด้วยดวงตาประกายวาวแบบตัวร้ายคู่ลูกคู่รับ

             "ฮึก..มาม๊าาาาาา!!!!!!"เด็กน้อยเลยร้องไห้ใส่ซะเลย นี่เเหนะ

             "โอ๊ะโอ่.."

             "ใครก็ได้เอาเด็กนี่ไปหาเเม่ที!!" เสียงร้องของเด็กน้อยชั่งพลังทำลายรุนเเรงนัก ไม่นานอัศวินสองสามคนก็วิ่งมาสานต่องาน เเกะเด็กน้อยออกจากองค์ชายได้

              "ฮู้..."เดคเกียนปาดเหงื่อ ถอนหายใจออกมาหนักๆ "ดูท่าคงไม่ใช่มังกรหรอก"

             "เเล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่" เดคเตอร์ถาม พอตนเองกลับมาเมืองนี้ก็เเทบพังพินาศเเล้ว

              "อย่าถามเพราะข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าดีใจที่พวกเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย เเต่... หลังจากนี้พวกเจ้าห้ามไปไหนจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ เข้า-ใจ-นะ" ไมโครขึ้นบทโหด จนสองพี่น้องต้องกลืนนํ้าลายก้อนใหญ่ลงคอ

             "จะ..เจ้า มะ... ไม่มีสิทธิ์มาห้ามเรานะ"เดคเกียนตัวเเสบเเย้งมาก่อน

            "นี่เป็นคำสั่งของราชา เจ้าจะค้านหรือ" เสียงเย็นเยือกวาดผ่านกระดูกของสองเดคเข้าไปจนต้องเป็นอันหุบปากเเละโดนเผด็จการโดยไร้ข้อโต้เเย้งใดๆ

            หึ!! ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครพี่ใครน้อง!!

            ไมโครยืดอกอย่างผู้ชนะ เเล้วสะบัดผ้าคลุมหันหลังกลับไปเท่ๆ พร้อมเรียกให้มาคุสตามมาด้วย ปล่อยให้สองแฝดยืนกอดกันตัวสั่นงักๆอยู่ข้างหลัง     

             "มีอะไรหรือองค์ราชา" มาคุสเป็นฝ่ายถามก่อน มองเเผ่นหลังของราชาเดินนิ่งๆไปเรื่อย โดยไม่หยุดพูดอะไรซักคำ

             "ข้ามีเรื่องสงสัย เกี่ยวกับศิษย์ท่านน่ะ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม" ไมโครยังเดินสบายๆไปเรื่อย

             "ไวซานน่ะหรือ.... เอ่อ เขาเป็นน้องชายของเพื่อนข้า ข้าพึ่งเจอเขาได้ไม่นานนี้เอง เเต่เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ที่น่าจับตามอง วันนี้ท่านก็คงเห็นเเล้ว... หึหึหึ ดูท่านสนใจศิษย์ข้าไม่น้อยนี่"         

            "ก็คงใช่ ... นี่ท่านมาคุส ศิษย์ของท่านได้ใช้เวทย์เเปลงกายอะไรทำนองนี้รึเปล่า"

            "หือ? ไม่หรอก ถ้าเขาใช้ข้าก็ต้องรู้อยู่เเล้ว" มาคุสตอบด้วยความมั่นใจ

            "ต่อให้เป็นเวทย์ที่สมบูรณ์เเบบหรือได้นักเวทย์ที่เเข็งเเกร่งเเค่ไหนก็ตามน่ะหรือ" เเต่ไมโครก็ยังไม่เเน่ใจเต็มร้อย

            "เเน่นอน เวทย์มนต์ก็คือเวทย์มนต์องค์ราชา ต่อให้กลบไอเวทย์ได้มิดชิดเเค่ไหน ก็กันได้เเค่ไม่ให้ใครตามได้เท่านั้น เเต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปกปิดการใช้เวทย์ได้เสียหน่อย"

             "เเสดงว่าท่านเเน่ใจว่าศิษย์ท่านไม่ได้ใช้เวทย์เเปลงกายเเน่นอน"

              "เเน่นอน ไม่มีเวทย์ไหนที่จะหลุดรอดสายตาข้าไปได้หรอก" มาคุสตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรมากมาย

             เเต่ไมโครก็ใช่ว่าจะยอมเชื่อง่ายๆ ก็คนมันตัดสินใจด้วยความรู้สึกตัวเองนี่นะ เหตุผลจะยังไงเขาไม่สนหรอก

             "ท่านมาคุส ท่านให้ศิษย์ท่านมาเป็นนักเวทย์ของข้าได้หรือเปล่า"

     

     



     

     

           ซ้าย ขวา โล่ง... ทางสะดวก

           ผมย่องเบาเดินออกมาด้วยยิ้มกรุ่มกริ่ม ช่วงนี้พวกอัศวินที่รักษาการอยู่ในวังหายเงียบไปเกือบหมด คงเพราะสถานการณ์ข้างนอกเลยวุ่นวายกันหน่อย จนเเทบไม่มีใครอยู่เฝ้าในตัววัง

            พอเวซานออกไปผมก็โกยอแกมาจากที่นั่นทันที เเต่เขตอาคมยังทำงานอยู่ เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงอะไรมาก ตราบใดที่ผมยังไม่ตายเขตอาคมก็ไม่หายไป ตอนนี้จุดมุ่งหมายผมก็อยู่ที่... ไปคืนหนังสือ

            เอาล่ะ คงจำกันได้ที่เจ้าบักกี้ไป 'ยืม' ตำราในหอสมุดของพระราชวัง หนังสือเวทย์อะไรพวกนั้นน่ะล่ะ ไหนๆก็เข้าวังมาเเล้วมาคืนหนังสือให้เรียบร้อย เเล้วค่อยย่องออกไป ก็เเล้วกัน ผมรู้สึกผิดจริงๆนะที่เเอบเข้าไปแล้วยังไม่ได้มาคืนซะนานนมขนาดนี้

             พระราชวังตอนนี้ไม่ได้เปลี่ยนเเปลงอะไรมาก ถึงผมจะหายไปเกือบๆสี่เดือนเเต่ก็พอจำทางคร่าวๆได้อยู่ เเละสวนในวังที่ผมโผล่ขึ้นมาก็อยู่ไกล้ๆหอสมุดซะด้วย ใช้เวลาไม่นานผมก็มาโผล่ที่สมุดดังใจหมาย ผมมองซ้ายขวาดูให้เเน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ ถึงค่อยล้วงเจ้าหนังสือจิ๋วที่ถูกย่อส่วนออกมา เเล้วคลายเวทย์มนต์ให้มันทีละเล่มก่อนจะเอาไปวางให้ถูกที่ตามระเบียบ

             "อืมเล่มนี้..." ผมถือหนังสือไว้ในมือ ตัวหนังสือที่ตวัดอยู่บนปก ผมอ่านมันออกได้ชัดเจน ไม่น่าเชื่อว่าใช้เวลาเเค่สี่เดือนจะอ่านออกเขียนได้ไวขนาดนี้ เเต่คงต้องขอบคุณบักกี้มากกว่า กระต่ายขาวตัวนั้นเป็นครูที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

            ผมพลิกหนังสือในมือไปมาหน้าปกของมันเขียนไว้ว่า 'รวบรวมสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่หายากที่สุดในโลก' ส่วนภาพประกอบก็เป็นภาพวาดของเจ้ากระต่ายขาว

            โห... เล่มนี้ยังไม่ได้ลองอ่านเลยเเฮะ

            ผมกรีดนิ้วไปตามหน้าหนังสือ ให้มันผ่านตาไปทีละหน้า จนกระทั่งไปสะดุดอยู่กับภาพภาพหนึ่งในหนังสือ ภาพของสิ่งมีชีวิตตัวเล็กคล้ามนุษย์เเคระ เเต่กลับมีเขี้ยวเเหลมดวงตากลมโต เเล้วก็ปีกค้างคาว

           นี่มันปีศาจค้างคาวนี่? โอ๊ะ ในนี้มันเขียนว่า 'เวตาล' นี่นา ไหนอ่านหน่อยสิ

           เผ่าพันธุ์:เวตาล

           รูปลักษณ์คล้ายปีศาจค้างคาว เเต่เฉลียวฉลาดกว่า มักอยู่กันเป็นฝูง ฝูงหนึ่งสามารถกินมนุษย์ได้ทั้งเมือง ไม่ค่อยออกมาล่าเหยื่อตอนกลางวัน สิ่งมีชีวิตนี้ไม่ชอบเเสงที่จ้ามาก หากเจอแนะนำให้ใช้ระเบิดเเสง จะสามารถหยุดพวกมันได้ชั่วขณะ

          สถานะ:สูญพันธุ์

           โห... กินคนได้ทั้งเมืองเชียวเหรอเนี่ย ดีนะที่สูญพันธุ์ไปแล้ว สยองวุ้ย

          "เจ้าเป็นใคร!" เสียงตะเบ็งดังขึ้นด้านหลังผม หนังสือในมือหล่นลงพื้นทันทีด้วยความตกใจ โดยไม่รู้ตัวดาบสีเงินวาวก็พาดอยู่บนบ่าผมเเล้ว

             เวรล่ะ มีคนอยู่เหรอเนี่ย ทำไมไม่ได้ยินเสียงเลยนะ เเถมยัง.... ไวมากด้วย       

             "ผมเป็นศิษย์ของท่านมาคุสครับ" เเหม มาคุสนี่ใช้ประโยชน์ได้ทุกสถานการณ์จริงๆ

             "เจ้าเข้ามาที่นี่ทำไม ไม่รู้หรือว่าสถานที่นี้จำกัดสิทธิ์เเค่คนในวัง"บุคคลที่อยู่ข้างหลังผมกดดาบลงมาเรื่อยๆ ผมได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาที่ขยับเข้ามาใกล้

             "เอ่อ...ผมไม่ทราบจริงๆ ผมเเค่...เอ่อ... หลงทาง" อืม ฟังขึ้นมาหน่อยล่ะมั้ง

             "หลงทาง...เจ้าหลงทางมาในหอสมุดนี่นะ พิลึก"

             พิลึกจริงๆเเฮะ ประตูทางออกมีอยู่มากมาย เเต่กลับเข้ามาในหอสมุดที่ขึ้นป้ายชื่อตัวเบ้อเร้อ

             ฮะฮะฮะ เอาไงต่อดีล่ะทีนี้

             "ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย" ผมคุมนํ้าเสียงให้ฟังดูน่าเชื่อถือที่สุดเท่าที่จะทำได้         

              "เเต่ก็ยังน่าสงสัย..." เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาไกล้ผม ดาบที่เสียดสีกับบ่าเคลื่อนย้ายตำเเหน่งของมัน เพื่อให้ผู้ถือมันมาอยู่ตรงหน้าผมโดยที่ตัวมันเองยังจ่อคอผมอยู่ ผมเหลือบตาขึ้นมอง ผู้ที่พาดดาบบนคอผมเป็นชายหนุ่มผมทองท่าทางเหมือนคุณชายจากที่ไหน เเต่คงไม่ใช่เพราะเกราะที่เขาใส่อยู่บอกผมว่าเขาเป็นอัศวิน

            "เจ้าช่างน่าสงสัยจริงๆ เจ้ากางเขตอาคมคลุมรอบเมืองได้ ทั้งๆที่นักเวทย์ของเราร่วมมือกันยังทำไม่ได้เลย คนนอกอย่างเจ้าน่ะ ช่างน่าสงสัย"

             เอ้า ผมช่วยเมืองคุณไว้นะ อะไรเนี่ย ขอบคุณซักคำก็ไม่มี ทำคุณบูชาโทษชัดๆ

             "ผมเป็นคนนอกเเล้วยังไง คนที่คุณสงสัยควรจะเป็นคนในมากกว่า ดูอย่างเหตุปลงพระชนครั้งนั้นสิ ได้ยินว่าท่านไวเนอร์..."

              "หุปปาก!!"

               ไม่เห็นต้องใส่อารมณ์ขนาดนั้นเลย

              "เดินออกไปซะเจ้าผู้บุกรุก เจ้าเข้ามาที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาติ ยังไงก็ต้องได้รับโทษ!!" ท่านอัศวินตะเบ็งเสียงอีกครั้งก่อนจะกระชากข้อมือของผมรวบไว้ที่หลัง มือของเขาบีบเเน่นก่อนจะผลักผมออกให้เดินต่อไป

             เดี๋ยวสิยังไม่ได้เก็บหนังสือเลย ที่หล่นอยู่ตรงนั้นน่ะ รู้ไหมมันไม่ดีนะ คุณบรรณารักษ์ต้องลำบากเเค่ไหนหลังจากการเก็บหนังสือไม่เป็นที่เป็นทางของพวกเเกน่ะ!...เดี๋ยวสิที่นี่มีบรรณารักษ์ด้วยเหรอ?

              "เดินไปได้เเล้ว"

              คร้าบๆ

              ผมถอนหายใจยาวๆเมื่อโดนลากออกมา ก็ไม่น่าห่วงเท่าไร ถ้าผมโดนโยนลงคุก ไม่เวซานก็มาคุสคงโดดมาช่วยเอง อาจจะเจอกันตามทางเดินก็ได้นะ ถ้าเป็นมาคุสก็คงจะตะเบ็งเสียงใส่เจ้าอัศวินหน้าตี๋นี่ว่า 'ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้นะ!!' เเน่เลย

               "ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้นะ!!"

               นั่นไงมาไวจริงๆ เอ๊ะ เดี๋ยวเสียงนี่มัน

               "องค์ราชา"อัศวินที่จับผมไว้อุทานออกมา

               อีกเเล้วเหรอเนี่ย...

               "เอกอน เจ้าจะทำอะไรเขา" ไมโครถามเสียงดุ

               อืม ... เอกอนเหรอ อ๋อ เจ้าคนที่เป็นองครักษ์คนใหม่ของไมโครนี่เอง ให้ตายเถอะ ทำไมผมถึงได้มีเรื่องกับเหล่าองครักษ์ของไมโครซะทุกที เลยนะ คราวนี้ทั้งเฮลเลสทั้งเอกอนได้ร่วมมือกันฆ่าผมเเน่

               "บุคคลผู้นี้บุกรุกเข้าหอสมุดโดยไม่ได้รับอนุญาติขอรับ องค์ราชา ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องลงโทษตามกฏ" เอกอนเอ่ยด้วยนํ้าเสียงหนักเเน่น ไมโครหันมามองผม ส่วนผมก็ทำตาปริบๆอย่างเด็กไร้เดียงสา เจ้าตัวจึงหันกลับไปดุเอกอนต่อ

                "ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้" ไมโครเอ่ยเสียงเย็น

                "องค์ราชา ท่านไม่ควรไว้ใจคนนอก..."

                "ไม่ เขาไม่ใช่คนนอกอีกต่อไป" ไมโครเท้าเอวมองสบตาผมจังๆ "ข้าจะให้เขามาเป็นนักเวทย์ของข้า... 'ไวซาน'เจ้าจะตกลงใช่ไหม" ไมโครมอบรอยยิ้มเย็นเเกมขู่บังคับมาให้ผม ส่วนผมจะตอบยังไงน่ะเหรอ ก็มีคำตอบเดียวนั่นล่ะครับที่ผมจะตอบ คำตอบนั้นก็คือ....

             "ผมขอปฏิเสธ"

    ---------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×