คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [SF] OMG! แก่กว่าแล้วไง ? (2/4)
Title: [SF] OMG! แก่กว่าแล้วไง ? 2
Author Note: แต่งตอนวันวาเลนไทน์พอดีใหม่เกิดอาการอิ๊ดซี่คู่รักต่างๆ นาๆ ที่พากันถือดอกไม้ช่อโตหมั่นซ้ายยยยยยยยยย ! ไม่ไหวจะเคลียร์เลยแต่งเย่เรียวเอาให้แซงทางโค้งไปเลย = =;
อย่าถือสาในการบ้าของใหม่ที่อยากจะเอาพี่เย่กับน้องเรียวชนะคู่รักคนอื่น แค่นี้ก็หวานแล้วเนอะพี่เปาเย่
5 ปีผ่านไป
“เราไปก่อนนะดงแฮ บ๊ายบายจ้ะ” มือบางข้างหนึ่งโบกลาเพื่อนซี้คู่หูแล้วเดินออกมาจากหน้าประตูโรงเรียนมัธยมเพื่อมาหาใครบางคนที่ยืนพิงประตูรถรออยู่
“รอเรียวอุคนานมั้ยฮะพี่เยซอง” ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อสีใสๆ ผุดขึ้นตามใบหน้าคงไม่ต้องบอกว่าไปทำอะไรมาถ้าไม่ใช่วิ่งหนีกลุ่มบรรดาแฟนคลับที่รายล้อมให้ดอกไม้เขาในวันวาเลนไทน์
“พี่เพิ่งมาเองครับ เอาของมาเดี๋ยวพี่ช่วยถือนะ” ร่างหนายื่นมือเข้าไปช่วยหิ้วกล่องต่างๆ และดอกไม้ช่อโตทั้งหลายแหล่จากมือบาง
ยิ่งโตเหมือนยิ่งเสน่ห์แรงขึ้นทุกที ทุกๆ ปีตั้งแต่ขึ้นมัธยมไม่เคยมีปีไหนที่เรียวอุคจะไม่ได้ดอกไม้ กลับมีแต่ได้เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น ปากบางอิ่มสีแดงราวกับลูกเชอรี่ ดวงตากลมโตที่นับวันยิ่งดูสวยขึ้น ผิวขาวราวน้ำนมที่เปล่งปลั่ง เอวบางที่เคยจับก็ยิ่งคอดลงไปทุกที กลุ่มผมสีดำขลับที่ถูกซอยประยาวถึงบ่าก็ยิ่งทำให้ใบหน้าหวานนั้นยิ่งหวานเข้าไปใหญ่ ...แฟนใครน่ะสวยจริงๆ
“วันนี้อยากไปไหนหรือเปล่าครับเรียวอุค” เมื่อทั้งสองคนนั่งประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้วสารถีก็หันมาถามร่างบางที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“ไม่รู้สิฮะ พี่เยซองอยากพาเรียวอุคไปไหนล่ะ” ร่างบางที่กำลังเอาหน้าอกจ่อช่องแอร์โยนคำถามมาที่เยซองอีกที
“งั้นไปโรงแรมกัน”
“พะ พี่เยซอง!” มือบางทุบไปที่ไหล่หนาดังตุบกับความคิดทะเล้นๆ ของเยซอง
“โอ๊ย! พี่หมายถึงไปดินเนอร์กันไงครับ คิดอะไรเนี่ยเรียวอุค” ปากหยักยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อกับความคิดลามกของตัวเอง
“ก็เปล่านี่ฮะ จะไปก็ไปสิ” เสียงหวานพูดออกมาอ้อมแอ้มเบาๆ อยากจะมุดพรมในรถหนีจริงๆ
ณ โรงแรมพาราซ่าโนเวล
“มากี่ที่ครับ” บริกรชายที่คอยรับแขกโค้งให้กับเยซองและเรียวอุคเล็กน้อยพอเป็นพิธี
“จองไว้แล้วคิมจองอุน” เสียงทุ้มพูดออกไปเสร็จศัพท์ทั้งชื่อของคนจอง
“อ๋อ ครับๆ ทางด้านนี้เลยครับ” บริกรชายเดินนำหน้าคนทั้งสองที่ยังห้องอาหารสุดหรูที่ประดับตกแต่งด้วยกลีบกุหลาบสีขาวแดงชมพูปะปนกันไป บรรยากาศภายในห้องที่ถูกตกแต่งมาเป็นอย่างดีอยู่ติดกับกระจกที่มองไปเบื้องหน้าจะเห็นแม่น้ำไหลผ่านและวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวง
“สวยจังฮะพี่เยซอง” ตาหวานเบิกกว้างขึ้นกับสิ่งที่เห็นแสงไฟมากมายที่ส่องเป็นประกายยามค่ำคืนตัดกับผิวน้ำที่สะท้อนมาอีกที
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับเรียวอุค” ร่างบางหันไปมองตามเสียงของเยซองก็ต้องตกใจกับดอกลิลลี่ช่อโตที่อยู่ชิดใบหน้า มือหนาค่อยๆ ลดระดับช่อดอกไม้ในต่ำลงมาเรื่อยๆ จนเห็นใบหน้าหวานที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่
“ขอบคุณฮะพี่เยซอง” มือบางรับช่อดอกไม้นั้นเข้ามาอยู่ในมือสูดดมมันเบาๆ แล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความชอบใจ
“ไม่เป็นไรครับเพื่อเรียวอุคพี่ทำได้” เยซองเขยิบตัวเข้าไปชิดกับเรียวอุคมากกว่าเดิม สวมกอดเบาๆ ที่เอวบาง
“อ่า ...พี่เยซองเรียวอุคเขินนะ” ใบหน้าหวานถูกปกปิดด้วยช่อลิลลี่ช่อโตเพราะไม่อยากให้คนร่างหนาเห็นว่าตอนนี้เขาหน้าแดงขนาดไหน
“เรียวอุคของพี่น่ารักอีกแล้ว” พูดไปก็กระชับอ้อมกอดของตัวเองให้แน่นขึ้นจนร่างบางเริ่มหายใจไม่ค่อยสะดวก
“เอ่อ...ขอโทษครับรายการที่สั่งไว้ได้แล้ว” บริกรชายคนเดิมถือถาดอาหารเข้ามาด้วยก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้าจึงรีบข้อโทษขอโพยเป็นการใหญ่ที่เข้ามาขัดจังหวะ
“Les Escargot au Beurre d’Ail 1 ที่นะครับ
Les Cuisses de Grenouille au Beurre d’Ai 2 ที่นะครับ
Confit de Canard 2 ที่ แล้วก็ Boeuf Bourguignon อีก 1 ที่นะครับ ได้ตามรายการที่สั่งไปครบนะครับ”
“พี่ขอน้ำส้ม 1 ที่แล้วก็ Château Mouton Rothschild, Pauillac ด้วยขวดหนึ่งนะ” บริกรชายโค้งตัวให้เล็กน้อยรับออเดอร์เพิ่มก่อนจะเปิดประตูออกไป
“Les Escargot au Beurre d’Ail ทำมาจากหอยทากที่ฝรั่งเศสเลยนะ ลองทานดูสิครับ” มือบางหยิบมีดหั่นสเต็กขึ้นมาอย่างงงๆ ไม่รู้ว่าจะจัดการเอาเปลือกหอยทากออกยังไง
“ไม่ใช่ๆ เรียวอุคต้องเอาคีมอันนี้รีดเปลือกหอยไว้แล้วก็เอาส้อมอันนี้จิ้มเข้าไปนี่ไงครับ อ้าปากสิ” คิ้วโก่งขมวดขึ้นอยากไม่ชอบใจแต่ก็ยอมอ้าปากงับเนื้อหวานละมุนของหอยเข้าปาก
“พี่เยซองแกล้งเรียวอุค” ร่างบางนั่งกอดอกจ้องมองอาหารบนโต๊ะที่เขายังไม่เคยเตะมันเลยสักนิด
“ก็พี่คิดว่าเรียวอุคคงเบื่ออาหารอิตาเลียนไปแล้วก็เลยลองชวนมาทานอาหารฝรั่งเศสไงครับ”
“มันกินยากง่ะ!” เรียวอุคที่นั่งกอดอกอยู่จ้องมองอาหารบนหน้าแล้วก็หันกลับมามองเยซองอีกครั้ง นัยน์ตาหวานจ้องมองมาที่เขาอย่างสื่อความหมาย ...ขี้อ้อนจังนะ
“ครับๆ เดี๋ยวพี่ป้อนนะ” ปากบางคลี่ยิ้มออกมาจนคนมองอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม มือหนาจับมีดหั่นขึ้นมาก่อนจะลงมือหั่นเจ้าขากบที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ( Les Cuisses de Grenouille au Beurre d’Ai ) ที่นำมาทอดให้กรอบนอกนุ่มในแล้วราดด้วยน้ำซอกกลิ่นหอมก่อนจะป้อนให้กับร่างบางที่นั่งรออยู่
“น้ำส้มและ Château Mouton Rothschild, Pauillac ได้แล้วครับ” บริกรชายเปิดจุกไวน์ออกเบาๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ไวน์สีแดงสดถูกรินลงมาบนเก้าไวน์ใสทรงสูง เรียวอุคมองตามขวดไวน์นั้นแล้วหันมามองแก้วข้างๆ ตัวเอง
“ทำไมพี่เยซองดื่มอันนั้นแล้วเรียวอุคดื่มอันนี้ล่ะ” ถามไปด้วยความสงสัยและความไม่รู้
“เรียวอุคยังเด็กอยู่ดื่มน้ำส้มไปเถอะครับ” พูดจบก็ยกแก้วบรรจุไวน์ขึ้นมาจิบเล็กๆ
“เรียวอุคโตแล้วตั้งหาก บู้” ปากบางอิ่มยู่ปากใส่เล็กน้อยก็ไปจัดการกับอาหารอีกอย่างหนึ่งที่อันนี้เขารู้จักดีเป็ดน้อยจานโปรดที่เขาชอบกิน ( Confit de Canard )
“พี่เยซองลองกินอันนี้สิอร่อยนะฮะ” มือบางยื่นส้อมที่มีเนื้อวัวตุ๋นไวน์แดงไปตรงปากของเยซอง ปากหยักยิ้มออกมาชั่วครู่แล้วก็งับชิ้นเนื้อนั้นเข้าปาก (Boeuf Bourguignon )
“อร่อยจริงด้วย พี่ว่าต้องเป็นเพราะเรียวอุคป้อนพี่แน่ๆ เลย”
“มะ ไม่ใช่สักหน่อย ...พ่อครัวเค้าทำอร่อยตังหาก” ถึงจะปฏิเสธออกไปแบบนั้นแต่แก้มขาวเนียนกลับขึ้นสีระเรื่อ
“ครับๆ ไม่ใช่เพราะเรียวอุค” เยซองที่จ้องมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้กำลังแดงได้ที่ก็อดขำไม่ได้
“เพราะเรียวอุคอุคตังหาก” เสียงหวานพูดออกมาเบาๆ แต่ก็ทำเป็นไม่ใส่ใจในคำพูดของตัวเองเมื่อกี้
“ฮ่ะๆ เรียวอุคของพี่เขินน่ารักจังครับ”
“พี่เยซองอ่าา~” ปากบางยิ้มออกมาอย่างอายๆ ก็ได้แต่ก้มหน้าหนี
“Cherry Jubilees served ได้แล้วครับ” เยซองจิบไวน์เข้าปากเล็กน้อยแล้วหันไปมองหน้าพนักงานด้วยความงวยงง
“รู้สึกว่าผมยังไม่ได้สั่งนะครับ” เสียงทุ้มเริ่มปฏิเสธออกไปทันทีเพราะคิดว่าคงเสิร์ฟโต๊ะผิด
“มันเป็นช่วงโปรโมชั่นของทางร้านเราน่ะครับ ตอนรับเทศกาลวาเลนไทน์” พูดจบก็วางจานของหวานที่ตกแต่งหน้าเป็นรูปหัวใจราดด้วยซอกสตอเบอรี่สีหวานรอบนอก
“อ๋อครับ”
“งั้นผมขออนุญาตเก็บจานนะครับ” บริกรหนุ่มโค่งตัวให้อีกครั้งแล้วตั้งหน้าตั้งตาเก็บจานที่ทานเสร็จจนเหลือแต่ Cherry Jubilees served จานของหวานไว้เท่านั้น
“เรียวอุคกินเถอะครับพี่อิ่มแล้ว” ร่างหนาดันจานของหวานตรงเลื่อนไปอยู่ตรงหน้าของเรียวอุค
“น่ากินจังฮะพี่เยซอง” ใบหน้าหวานเอียงคอและยิ้มออกมาเล็กน้อย มือบางจัดการถือส้อมและมีดเอาไว้อย่างดีก่อนจะลงมือกินมันเข้าไป ลูกเชอรี่ลูกโตถูกส่งเข้าปากบางอิ่มลูกแล้วลูกเล่าตามด้วยเหล่าคัสตาร์ดครีมสีครีมขาว
“กินเลอะจังนะเรียวอุค” เยซองที่นั่งเอามือประสานกันไว้ตรงคางยื่นออกมาเช็ดที่มุมปากบางเบาๆ
“เรียวอุคป้อนนะ อ้าอ้ำ คิกๆ” ร่างบางหัวเราะคิกคักกับรอยเปรอะตรงจมูกของเยซองที่เขาจงใจทำไว้
“เอ๋? แกล้งพี่ทำไมละครับ อย่าให้พี่เอาคืนนะ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างคาดโทษแต่มีหรือที่เรียวอุคจะกลัว เพราะกี่ครั้งแล้วที่ร่างหนาพูดไว้แต่ก็ไม่เคยเห็นจะเอาคืนสักที เสียงหัวเราะยังคงดังออกมาเรื่อยๆ จากห้องอาหารของทั้งคู่ ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเสียงหวานของเรียวอุคก็ตาม
“พี่เยซอง เรียวอุคง่วงนอนจัง” เปลือกตาสีน้ำนมที่จะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่หันไปมองใบหน้าของคนขับรถก่อนจะเอียงตัวซบใบหน้าหนุนหัวไหล่หนาเป็นที่นอน
“ทำไมไม่ปรับเบาะละครับเรียวอุค นอนแบบนี้เดี๋ยวปวดคอนะ” ดวงตาคมเหล่มองร่างบางที่หลับอยู่ตรงไหล่ของเขาอย่างอ่อนใจแต่ถึงอย่างนั้นปากหยักก็คลี่ยิ้มออกมาบางๆ
ยังขี้อ้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ
“อื้อ~ พะ พี่เยซองงง ~” เสียงหวานละเมอออกมาเบาๆ มือบางจับอยู่ตรงเอวหนาแน่น
“ฝันอะไรเนี่ย เรียกซะหวานเลย” เยซองส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจในตัวเองว่าทำไมต้องรู้สึกใจเต้นแปลกๆ และขนลุกซู่เมื่อได้ยินเสียงหวานของเรียวอุคที่ละเมอออกมา
“เรียวอุคอยากกินช็อก อื้อออ~” นั่นไง...สงสัยที่เรียกเสียงหวานขนาดนี้คงกำลังฝันว่าอ้อนเขาแล้วเรียกร้องช็อกหรือช็อกโกแลตล่ะมั่ง
“ช็อกอื้อ กินนะพี่เยซองงง ~” พูดเสร็จแล้วก็เงียบจนเยซองแปลกใจแต่ก็ต้องสะดุ้งขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นตรงลำคอแกร่งของตัวเองที่มีลิ้นเล็กเลียอย่างเอร็ดอร่อย เท้าข้างที่อยู่ตรงเบรกรีบเหยียบลงทันทีจนรถสปอร์ตคันหรูหยุดชะงักล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนจนดังเอี๊ยด
“ช็อกอร่อยย ย อ้ามม~” ลำคอแกร่งชุ่มเต็มไปด้วยน้ำหนาวเหนียวที่อยู่ลิ้นเล็กนำมาละเลงเอาไว้ เหมือนจะกินจนอิ่มแล้วลิ้นเล็กก็หยุดไปเองแต่ยังมีบางอย่างที่ยังไม่หยุด
ตึก ตึก ตึก ...
มือหนายกขึ้นกุมหน้าอกตัวเองทางด้านหัวใจที่ตอนนี้มันเต้นระส่ำจนน่าใจหายกลัวว่าหัวใจจะวาย ปากหยักค่อยๆ ผ่อนลมเข้าผ่อนลมออกตามจังหวะการเต้นเหมือนกับคนเพิ่งออกกำลังกายมาหมาดๆ เหงื่อสีใสไหลออกมาตามใบหน้าจนผมด้านข้างเริ่มชุ่มไปด้วยน้ำ ว่าเปิดแอร์ก็เย็นแล้วแต่แปลกที่ในตัวกลับร้อนรุ่ม
“อื้ออ~ พี่เยซองเรียวอุคหนาวอ่ะ” เปลือกตาสวยที่ปรือขึ้นเล็กน้อยมองไปที่ช่องแอร์ที่ถูกเปิดจนสุดสร้างความหนาวเหน็บให้ไม่น้อย สองแขนเล็กๆ ยกขึ้นมาลูบต้นแขนตัวเองช้าๆ เพื่อกลบความหนาวแต่มันก็ไม่ช่วยเลย
“คะ ครับ เอาเสื้อพี่ไปคลุมก่อนนะ” ร่างหนาเอี้ยวตัวไปทางด้านเบาะหลังหยิบเสื้อสูทนักศึกษามาคลุมร่างบางที่เอนเบาะนอนอยู่ข้างๆ นิ้วหนาเกลี่ยปอยผมสีดำสนิทที่ตกลงมาอยู่บนใบหน้าเรียวให้ออกไปอยู่ข้างๆ แทน ร่างบางยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะปิดเปลือกตาลงไปอีกรอบ
“ถึงบ้านแล้วพี่ปลุกนะครับ” เยซองจูบเบาๆ ที่หน้าผากเนียนของร่างบางที่หลับตาพริ้มอยู่ก่อนจะขับเคลื่อนรถมุ่งหน้าไปต่อ
“น้ารบกวนด้วยนะเยซอง” คุณนายลีจินแม่ของเรียวอุคที่ออกมาดูประตูหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถของเยซอง
“ไม่เป็นไรครับคุณน้า งั้นเดี๋ยวผมพาเรียวอุคขึ้นไปบนห้องเองก็ได้ครับ” ร่างหนาที่ตอนนี้แบกเรียวอุคลอยขึ้นเนื้อพื้นบริเวณอกอาสาพาคนที่นอนหลับปุ้ยไปส่งถึงห้องซึ่งคุณนายลีจินเองก็ไม่ว่าอะไร
เยซองค่อยๆ วางร่างบางของเรียวอุคลงกับฟูกนิ่มเบาๆ เพราะเกรงว่าคนที่กำลังหลับจะตื่นขึ้นกลางคันเสียก่อน
“หาเรื่องไม่อาบน้ำอีกแล้วนะเรียวอุค” หลังจากจัดการท่านอนของเรียวอุคเรียบร้อยแล้วก็นั่งอยู่บนเตียงข้างๆ เปลือกตาสีสวยค่อยๆ เปิดขึ้นทีละนิดละนิดจนเห็นนัยน์ตาสีนิลหวานชัดเจน
“แหะๆ ก็เรียวอุคง่วงนอนจริงๆ นี่พี่เยซอง ถ้าอาบน้ำมันต้องสร่างแน่ๆ เลย” พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่เผอิญว่ามันฟังไม่ขึ้นเอาซะเลย
“จริงๆ เลยนะวันหลังไม่ทำแบบนี้นะครับ งั้นพี่คงต้องกลับแล้วล่ะนอนดีๆ ล่ะครับ”
“นะ นะนอนกับเรียวอุคไม่ได้หรอพะ พ ...พี่เยซอง” เสียงหวานพูดออกมาอย่างเบาๆ ถึงมันจะดูตระกุกตระกักไปเล็กน้อยก็ไม่แปลกเพราะคนพูดในตอนนี้กำลังเขินน่าแดงเลยทีเดียว
“พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนนะครับ แล้วพี่ก็ต้องไปมหาลัยด้วยนอนกอดซารังไปก่อนสิ” เยซองลูบหัวทุยที่โผล่พ้นผ้านวมนิ่มของเรียวอุคเบาๆ เหลือบไปมองหัวเตียงอีกฝั่งที่มีเจ้าหมีสีชาวขนปุยตัวบิ๊กไซร์อยู่ ถึงแม้ว่าจะผ่านมากี่ปี กี่ครั้ง กี่หนเรียวอุคก็ยังดูแลของที่เขาให้อย่างดี
“กะ ก็..ก็ซารังกอดแล้วไม่อุ่นเหมือนพี่เยซองนี่” ร่างบางพลิกตัวเข้าหาเยซองส่งแขนเรียวโอบรัดเอวหนาไว้แน่นเหมือนเด็กหวงของ ใบหน้าหวานซุกอยู่กับหน้าท้องแกร่งที่แบนราบถูๆ ไถๆ อย่างออดอ้อน
“อย่าดื้อสิครับคนเก่ง ไว้คราวหลังพี่จะมานอนด้วยนะครับ” มือหนาเกลี่ยปอยผมออกเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ ให้กับร่างบางที่ทำหน้ามุ่ยเหมือนโดนขัดใจ
“นะ น่านะพี่เยซอง นอนกับเรียวอุคหน่อยนะฮะ” ต่อให้ใจแข็งแค่ไหน ต่อให้ใจร้ายขนาดไหนแต่ถ้าเจอสายตาเว้าวอนแบบนี้เข้าไปจะเหลือหรอ
“เอ่อ...แต่มันดึกแล้วนะเรียวอุค” ใจหนึ่งก็อยากอยู่กับร่างบางนี่ต่ออีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะไปมหาลัยสายเพราะมันชั่งไกลจากบ้านเรียวอุคเหลือเกิน
“นะฮะพี่เยซอง ไม่งั้นคืนนี้เรียวอุคนอนไม่หลับนะ” พูดแล้วก็ทำตาแป้วใส่ด้วยท่าทางที่ไร้เดียงสาเกินกว่าคนรักเด็กอย่างเยซองจะใจแข็งได้
“ครับ คืนนี้พี่นอนกับเรียวอุคก็ได้” ว่าแล้วก็เตรียมตัวที่จะลุกไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้มานอนกับร่างบางที่นอนยิ้มแก้มปริอยู่
“ถ้าเรียวอุคไม่ได้อาบน้ำพี่เยซองก็ห้ามอาบสิฮะ จะได้เหม็นกันทั้งสองคนฮ่ะๆ” มือบางกระตุกข้อศอกเยซองสองสามครั้งให้มานอนได้แล้วซึ่งร่างหนาเองก็จำนนคลานมาบนเตียงช้าๆ สอดร่างกายเข้าไปอยู่ใต้ผ้านวมหนาลายการ์ตูน
“พี่เยซองอุ่นจังคิกๆ” พอได้ท่านอนที่ดีแล้วร่างบางก็ส่งแขนตัวเองมากอดเยซองแบนใบหน้าของตนซบกับอกหนาด้วยความน่ารักแล้วปิดเปลือกตาเพื่อที่จะนอน
“เรียวอุคของพี่ตัวนิ่มจังเลยน้า” เยซองเองก็ไม่น้อยหน้าสอดแขนข้างหนึ่งเป็นหมอนรองศีรษะของเรียวอุค แขนอีกข้างก็โอบกอดร่างบางจนแทบจะกลืนกินเป็นร่างเดียวกัน ปากหยักกดจูบลงที่แก้มเนียนใสอีกครั้งหนึ่งแล้วก็ข่มตาให้หลับภายใต้ความมืดนั้น
คุณนายลีจินที่ขึ้นมาสำรวจความเรียบร้อยของห้องลูกชายก็อมที่จะยิ้มออกมาไม่ได้กับความน่ารักของคนทั้งคู่ที่ให้ความอบอุ่นกันด้วยการกอด เพราะรู้จักกันมานานจึงไม่ว่าอะไรที่เจ้าลูกเขยอย่างเยซองจะมานอนกอดกับลูกชายของหล่อนจนกลมเกลียวขนาดนี้ ถึงจะรู้ว่าเรียวอุคยังเด็กไปสำหรับเยซองแต่เพราะว่าเชื่อใจว่าคนอย่างเยซองจะเป็นสุภาพบุรุษพอและมันก็จริงตั้งแต่ไหนแต่ไรเจ้าลูกเขยก็มีแต่กอดกับหอมเท่านั้นแหละ (หรอ?)
Tbc.
ความคิดเห็น