คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [SF] OMG! ไม่จริงน่า ผมท้องกับแวมไพร์ (1/2)
Title : [SF] OMG! ไม่จริงน่า ผมท้องกับแวมไพร์
Hint : “ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาเป็นแบบนี้”
“ถ้ามันเกิดจากความไม่รู้แล้วเค้าจะเกิดมาทำไม”
Pairing: Yesung x Ryeowook
Rate : Romantic , PG มั่ง ?
Author : นายตะเกียบ
“ช้านจ่าบินนนนนนน บินไป อิอิ ...ฉันม่ายกลั๊วอ่าร๊ายยยยยยยยย เอิ๊ก!” ร่างบางเดินโซซัดโซเซเดินร้องเพลงไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนเมา มือข้างหนึ่งถือขวดเหล้าอีกข้างทำท่าทางบิน (??)
“ช้านนนนนนนนน ช้านนนนนนนน ช้านรายต่อดีอ่ะ ฮ่ะๆ คิดม่ายอ๊อกแล่วววว” ใบหน้าหวานที่กำลังแดงระเรื่อได้ที่หัวเราะคนเดียวเสียงดังลั่นอย่างมีความสุข
“คุณครับมาเดินในที่แบบนี้คนเดียวดึกๆ มันไม่ดีนะครับ” เสียงนุ่นติดทุ้มที่ดังมาจาก้านบนทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นไปมอง
“อ๊าๆๆ นายยยยยย ยืนอยู่บนน้านนนน ว้าวๆๆๆ” เรียวอุคชี้นิ้วออกไปด้วยความตื่นเต้น (?) ที่เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่บนดาดฟ้าสูงๆ ของบ้านหลังหนึ่ง เยซองที่กลัวจะตกเป็นที่สงสัยก็รีบกระโดดลงมาอย่างรวดเร็วสร้างความหวาดเสียวให้กับคนเมาที่ต้องยกมือขึ้นปิดตา
“แถวนี้มีโจรเยอะคุณรีบกลับบ้านเถอะ” ร่างหนาที่กระโดดลงมาอย่างปล่อยไปและสง่างามเตือนด้วยความหวังดี
“คิกๆ ม่ายมีหร๊อก แถววนี้ช้านเดินบ๊อยบ่อย อ่าอิอิ” ด้วยความเมาอยู่เป็นเท่าตัวและอยากอวดให้ชายแปลกหน้าได้รู้ว่าเค้าเดินบ่อยก็ลองเดินให้ดูแต่ก็ต้องพลาดท่าขาพันกันจนต้องลงไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับพื้นคอนกรีต
“เจ็บๆๆ อ่าไอ่พื้นบ้าาา!” ร่างบางถึงกันเจ็บจนลุกไม่ขึ้นก็ล้มกระแทกลงมาซะแรงเลยน่ะสิ
“มนุษย์หนอมนุษย์กินน้ำเมาแล้วเป็นแบบนี้กันหมดหรือยังไง” เยซองส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความไม่เข้าใจในสัจธรรมของมนุษย์ที่พวกเค้าไม่เคยได้เป็น มือหนายื่นไปหวังจะช่วยคนตรงหน้าแต่เหมือนที่เค้าว่ากันคนเมาจะสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวติดเบลอๆ ทำตาแบ๊วใส่เหมือนไม่รู้ว่ายื่นมือมาทำไม
“ดูใกล้ๆ แล้วนายหล่อจางงงงง ฮ่ะๆ แต่หน้ากล๊มกลมแหน่ะคิกๆ” เรียวอุคหยิกแก้มทั้งสองข้างของชายแปลกหน้าจนยืดไปหมดแล้วก็หัวเราะคิกๆ คนเดียวอีกตามเคย
“บ้านคุณอยู่ไหนน่ะผมไปส่งไหม” ร่างหนาที่เห็นว่าคนตรงหน้าคงลุกเองไม่ได้แล้วก็อาสามันซะเลย
“จูบ จูบกันมั้ยยย” ใบหน้าหวานหันมายิ้มแฉ่งให้กับประโยคที่ตัวเองพูดแต่คนตรงหน้านี่สิหัวใจกระตุกจนแทบจะร่วง
ชวนจูบเนี่ยนะ !??
“ห่ะห๊ะ! …คุณคงไม่ไหวแล้วล่ะ” ปากหยักยิ้มแห้งๆ อย่างหมดปัญญา ตกลงกูมาหาเหยื่อหรือว่ามาช่วยคนว่ะ
“อ่าาา ~ มาม้ะเดี๋ยวเรียวอุ๊คสอนห้ายน้าาา” สองแขนเรียวโผกอดรอคอร่างหนาไว้แน่นก่อนทาบทับริมฝีปากของตัวเองลงเบาๆ ที่ปากหยัก ลิ้นเล็กๆ ยื่นออกมาแตะเปลือกปากล่างอย่างลองเชิงแต่ปากหยักก็ไม่อ้าออกสักที
“ชริ! ห้ายความร่วมมือหน่อยเซ่!” เรียวอุคถอนปากออกมาบ่นอย่างขัดใจที่ร่างหนาได้แต่นิ่ง นิ่งแล้วก็นิ่ง!
ปากบางจัดการรุกปากหยักก่อนอีกครั้งและเป็นที่น่าพึงพอใจเมื่อปากหยักยอมให้ลิ้นของเค้าได้รับรสแล้ว เยซองที่ตอนแรกดูจะตกใจไม่น้อยกับท่าทางบู่มบ่ามของร่างเล็กตรงหน้าแต่พอไปๆ มาๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์จากคนตรงหน้ามันเชิญชวนพอดี ลิ้นเล็กชิมความหวานไปทั่วปากอุ่นไม่เว้นแม้แต่กลีบปากหยักที่อยู่ด้านนอกต่างก็ถูกชิมมาหมดแล้ว เยซองประคองร่างเล็กให้นั่งอยู่ในท่าที่ถูกต้องคือนั่งคร่อมเพราะเหมือนว่าร่างเล็กจะเริ่มเมาจูบตัวเอง
“อื้มม มะ ม่ายอาวว ยะ หยุดก่อนเส่” มือเล็กพยายามพลักดันใบหน้ากลมๆ ของชายแปลกหน้าให้ออกจากซอกคอของเค้า แต่เหมือนกับหูของร่างหนาจะอื้อไปหมดไม่ได้ยืนเสียงหวานที่ร้องห้ามเลย
กลิ่มหอมๆ คอขาวๆ กลิ่นแบบนี้แหละ นี้แหละเหยื่อ !!
“ฮ่ะๆ จั๊กจี้น้าาา คิกๆ” เรียวอุคหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งเมื่อลมหายใจอุ่นของร่างหนารดอยู่แถวๆ คอของเค้าและก็ใบหู เยซองเงยหน้ามองร่างเล็กที่หัวเราะอย่างร่าเริงก็อดคิดไม่ได้ เนี่ยแหละเหมาะสมที่สุดแล้ว
“คุณนั่งดีๆ สิครับ” เรียวอุคที่เริ่มซนเหมือนลิงก็เริ่มถูไถร่องก้นให้เสียสีกับหน้าตักของร่างหนาที่เค้าคร่อมอยู่
“เอ๊? ทามมายอ่าา ...ตรงนี้มานจ่าตื่นหรออออ” พูดยังไม่พอยังมีนิ้วเล็กๆ ที่จิ้มๆ สะกิดตรงส่วนนั้นที่มันเริ่มปูดนูนขึ้นมาด้วย ตอนนี้เยซองได้ประจักแล้วว่าคนเมามักชอบยั่ว
“อิอิ มานตุงๆ แล้วล่าาา อยากกินนนนน อ้ำๆ อ้ามมมม” ปากบางขยับเหมือนเด็กต้องการอาหารตั้งท่าจะก้มไปงับส่วนนั้นของร่างหนา เยซองที่ตอนนี้เจอเหยื่อแล้วแล้วก็เกิดอารมณ์แล้วไม่รอช้ากอดร่างเล็กนี่ไว้แน่นปากหยักพึมพำอะไรบางและสักพักพื้นที่ที่ทั้งสองคนเคยอยู่กลับไม่มีแม้แต่คนเดียว มีเพียงขวดเหล้าญี่ห้อดีที่ถูกทิ้งไว้
“อะอะโอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!” เมื่อลุกขึ้นลงมาจากเตียงเสียงหวานก็ร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บเสียดๆ ที่เหมือนมีคนเอาอะไรมาเจาะที่กระดูกสันหลังและสะโพกเจ็บจนไม่อยากขยับไปไหนจนต้องล้มตัวนอนอีกครั้ง หางตาสวยมีน้ำตาไหลซึมออกมาจากความเจ็บที่แล่นขึ้น
“ทำไมเจ็บแบบนี้วะ!!” ไม่เข้าใจตัวเองว่าเมื่อคืนไปทำอะไรถึงได้เจ็บขนาดนี้ ทั้งที่ก็แค่ดื่มเหล้าแล้วก็เดินกลับบ้านแค่นั้นเอง สองขาเรียวพยายามยันให้ตัวเองเดินได้อีกครั้งถึงแม้ว่าจะกระโพลกกระเพลกก็ตาม
“กลิ่นอะไรน่ะหอมจัง” พอเดินได้แล้วก็สาวเท้าตามกลิ่นหอมๆ นั่นทันที
“อรุณสวัสดิ์” ร่างหนาปรากฏกายขึ้นต่อหน้าร่างบางทันทีเมื่อเรียวอุคแตะเท้าลงบนพื้นครัว
“ใคร! นะ นายเป็นใคร” เรียวอุคยืนงงชี้นิ้วไปที่เยซองอย่างตกใจ ชายร่างรูปร่างสูงดูอวบๆ อยู่ในชุดสูทตัวยาวสีดำเสื้อด้านในสีขาวพร้อมเนคไทสีแดงเพลิงและยังสีผมสีแดงนั่นอีก
“ผมน่ะหรอ? ผมคือเยซอง ปาร์คจองอุนครับคุณผู้หญิง” คุณผู้หญิง ? เรียวอุคหันซ้ายหันขวามองคุณผู้หญิงที่ชายแปลกหน้าพูดถึงแต่ก็ไม่พบ
“วันนี้ผมทำอาหารเช้าไว้ด้วยแหละ เชิญคุณมาทานเลยนะอ้อ...คุณอาบน้ำก่อนก็ดีนะครับ” เรียวอุคถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกที่จู่ๆ มีชายคนหนึ่งมาอยู่ในคอนโดของเขาจัดแจงนู่นนี่ให้อย่างดี ใครกันว่ะ?
“นายเรียกใครว่าคุณผู้หญิงฉันยังไม่เห็นมีผู้หญิงสักคนเลย”
“ก็เรียกคุณยังไงล่ะครับ คุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายหรอ” เยซองยิ้มให้จนตาหยีดูแล้วน่ารักแต่กลับเรียวอุคมันดูเอ๋อ
“ฉันเป็นผู้ชายเว้ย! ไอ่หน้าแป้น” ร่างบางเดินสะแทกส้นเท้าจะเข้าไปในห้องน้ำแต่ก็ถูกมือหนารั้งแขนเรียวเอาไว้
“คุณเป็นผู้ชาย ผู้ชายที่มีช้างน้อย ผู้ชายที่ชอบผู้หญิง”
“ก็เออน่ะสิว่ะ!” ตาคมมองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่เชื่อสายตา
ก็หวานออกทั้งตัวแบบนี้เนี่ยหรอผู้ชาย
“แล้วเด็กล่ะ” พอมองลงไปเรื่อยๆ ก็เห็นถึงท้องน้อยของเรียวอุคที่ตอนนี้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
“เด็กอะไรนายเลี้ยงลูกกรอกหรอ” คิ้วโก่งขมวดเข้าหากันกับคำพูดงงๆ ของเยซอง
“ก็เด็กในท้องนายไง ผมเพิ่งทำเมื่อคืนเองนะ” พูดแล้วก็ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ
“เด็ก ใน ท้อง ฉัน!! เพิ่งทำ ...เมื่อคืน”
“ช่ายยยยยยยย เหนื่อยเป็นบ้าน่ะแต่ก็เร่าร้อนดี” ปากบางอ้าเหวอกลับคำพูดที่แสนชวนชยะแชยง เขากับผู้ชายคนนี้มีอะไรกันอย่างนั้นหรอ? ถึงว่าล่ะตื่นเช้ามาเจ็บสะโพกชิบ!
“แก! ไอ่โจรโรคจิตไอ่โจรวิปริตผิดเพศ ไอ่หน้าแป้นนายออกไปจากห้องฉันเดียวนี้นะ!! ออกไปเลยไอ่หื่นกาม” เรียวอุคแทบจะยกเท้าถีบร่างหนาให้กระเด็นออกจากห้อง
กูเสียประตูหลังให้ผู้ชาย คิดแล้วอยากจะร้องไห้
ร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะอาหารก็เหลือบไปเห็นสปาเก็ตตี้มือเช้าที่ไอ่หน้าแป้นทิ้งเอาไว้ แต่พอจะจัดการเข้าปากซะหน่อยความรู้สึกพะอืดพะอมก็เกิดขึ้นจนต้องวิ่งตัวปลิวเข้าห้องน้ำ
เสียงโอกอ้ากดังออกมาเป็นระยะๆ ภายในห้องน้ำสีขาวแต่สิ่งที่ออกมากลับไม่มีอะไรเลยมีเพียงน้ำสีใสๆ เพียงเท่านั้น เรียวอุคทิ้งตัวลงนอนลงกับพื้นข้างๆ ชักโครกอย่างหมดแรง
ทำไมมันถึงรู้สึกเหนื่อยแบบนี้นะ
เปลือกตาสีขาวค่อยๆ ปิดลงทีละนิดทีละนิดจนในที่สุดก็ต้องเผลอหลับไปทั้งๆ อย่างนั้น
“หมอขอแสดงความดีใจด้วยนะครับคุณท้องได้ 3 สัปดาห์แล้ว มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่ผู้ชายจะท้องได้แต่มันเกิดขึ้นแล้วนะครับ เชิญคุณไปรับยาด้านนอกเลยนะครับ” หมอหนุ่มในชุดกราวสีขาวอมยิ้มให้กับคุณแม่มือใหม่ที่กำลังตั้งท้องอ่อนๆ อย่างเอ็นดู
“ผมท้องหรอครับหมอ มันมีโอกาสเกิดขึ้นด้วยหรอครับ”
“ครับ 0.000001 เปอร์เซ็นที่ผู้ชายจะท้องได้ คุณคือผู้โชคดีนะครับที่เป็นหนึ่งในนั้น แต่คุณต้องระวังหน่อยนะครับเพราะท้องของคุณไม่เหมือนเพศหญิงอาจจะแท้งได้ง่าย”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ร่างบางลุกขึ้นโค้งตัวให้กับหมอฝรั่งเศสที่ระบุว่าเข้าท้อง ตอนแรกมาหาหมอทั่วไปเพราะอาการคลื่นไส้ เวียนหัว และเหนื่อยง่าย แต่จู่ๆ หมออีกคนก็พาเขามาที่ห้องสูติ ความรู้สึกอึดอัดที่โดนสายตาของคนทั่วไปมองมาที่เขาเมื่ออกมาจากห้องตรวจครรภ์ ผู้ชายที่เดินออกมาจากห้องตรวจครรภ์
เรียวอุคเดินเขามาในคอนโดหรูอย่างหมดแรง ไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่หมอพูดและไอ่โจรโรคจิตเคยพูดเมื่อ 4 วันก่อน หมอบอกว่าท้องได้ 3 สัปดาห์แต่เขาเพิ่งมีอะไรกันเมื่อ 4 วันก่อน แล้วไอ่ 3 สัปดาห์มามากจากไหน
“ผมบอกแล้วว่าคุณน่ะมีเด็ก” ใบหน้าสวยเงยหน้ามองคนตรงหน้าทันทีที่ได้ยินเสียง
“นายเข้ามาได้ยังไง! หรือว่านายงัดห้องเขามา”
“ผมแค่จะมาบอกว่าผมไม่ได้ตั้งใจให้เด็กเกิดขึ้นในร่างของคุณ ถ้าผมรู้ว่าคุณเป็นผู้ชายผมจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนั้นเกิดมา ผมขอโทษจริงๆ แต่คนที่ผมต้องการให้มีเด็กคือผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายอย่างคุณ”
“นายว่าไงนะ! ไม่ได้ตั้งใจงั้นหรอแล้วนายคิดมั่งมั้ยว่าผู้ชายอย่างฉันมันต้องเจอกับอะไรบ้างในสภาพคนท้องแบบนี้!! ผู้ชายที่เดินอุ้มท้องโตไปไหนมาไหนคนอื่นเค้าจะมองฉันยังไง!!” ร่างบางตะคอกใส่ร่างหนาจนหมดแรงความรู้สึกอดกลั้นอึดอัดมานาน ทั้งอาการบ้าๆ เหล่านี้ที่เขาต้องมาประสบพบเจอและสายตาผู้คนมากมายมันทำให้น้ำตาไหล
“อึก ..นายรู้มั่งมั้ยว่าฉันจะเจอกับสายตาแบบ ฮือ ...ไหนของคนในเมืองนี้ ฮึก! ฉันเป็นผู้ชายนะ!! ฉันเหนื่อย ฉันอึก ... ถ้านายไม่ต้องการเด็กในร่างฉันก็ดี! ฉันจะจัดการเค้าเอง”
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาแบบนี้”
“ถ้าเกิดจากความไม่รู้แล้วเค้าจะเกิดมาทำไมจริงมั้ย” นิ้วเรียวปาดน้ำตาใสของตัวเองออกไปลวกๆ ก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องไป
“อ้อ...ออกไปจากห้องฉันซะ!!!” พูดทิ้งท้ายอย่างไม่ใยดี พอเข้ามาถึงในห้องส่วนตัวความรู้สึกก็ไม่ต้องอดทนกับมันอีกต่อไปแล้ว ใบหน้าหวานซบอกกับปลอกหมอนนุ่มที่คอยเป็นเครื่องรองรับน้ำตาของคนอ่อนแอที่ซุกหน้าเอาไว้แล้วปล่อยเสียงสะอื้นออกมา
“ผมขอโทษ” เยซองที่แอบเดินเข้ามาก็พบว่าร่างบางหลับไปแล้วแต่หางตายังมีคราวน้ำตาที่ติดค้างไว้อยู่ ปากหยักกดจูบลงบนหน้าท้องแบนราบที่ตอนนี้มันเริ่มปูดขึ้นมาแล้ว
“อ้วกกกกกก แหว่ะ! อ๊อก” เสียงนี้เริ่มชินกับหูของทั้งสองข้างของเรียวอุคไปแล้ว ทุกเช้า ทุกกลางวัน ทุกเย็นถ้าไม่ได้อ้วกมันจะตายหรอไง
“อ่อกก โอกกกกกกก” ร่างบางโก่งตัวจนสุดแรงในการขย่อนน้ำสีใสให้ออกมา
“อึก! ทำไม..คนอย่างฉะ ฉันต้องเจอ ฮึก เรื่องนี้” ร่างบางก้มมองที่ท้องตัวเองที่ตอนนี้มันนูนขึ้นมาอีกแล้ว ความรู้สึกทุกอย่างถาโถมเข้าหาร่างบางจนยุ่งเหยิงไปหมด แต่เขาก็ตัดสินใจแล้ว
“มาทำอะไรที่นี่ครับ หรือว่าพาแฟนมา”
“ผมมาทำแท้งครับ” ถึงคุณหมอทำแท้งจะไม่เชื่อกับหูในสิ่งที่ได้ยินแต่เมื่อเงินมางานก็เดิน ร่างบางนอนลงบนเตียงสีขาวบริสุทธิ์โดยมีผ้าหนาปิดข้างล่างเอาไว้
“มันอาจจะเจ็บนิดๆ นะครับ” เมื่อคุณหมอเริ่มที่จะปฏิบัติการก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นนั่นคือไฟดับ เรียวอุครู้สึกถึงแรงกระชากแขนของเขาอย่างแรงจนตัวปลิวตามไปด้วย
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไงเรียวอุค! คุณกำลังฆ่าเด็กที่จะเกิดมานะ”
“แล้วที่นายทำมันไม่ใช่ฆ่าฉันทั้งเป็นหรอ ก็ในเมื่อนายไม่ต้องการฉันไม่ต้องการแล้วจะให้เค้าเกิดมาทำไม” ดวงตากลมสวยคลอไปด้วยน้ำตามองหน้าเยซอง
“แต่ยังไงเค้าเป็นลูกของคุณไม่ใช่หรอ” เยซองเริ่มผ่อนเสียงลง เพราะเขาเองก็สงสารเรียวอุคเหมือนกัน
“ถ้าเค้าเป็นลูกฉันแล้วนายมาห้ามทำไมถ้าฉันกำลังจะไม่เอาเค้าแล้ว” ร่างบางทำท่าจะเดินกลับไปที่เดิมสถานที่ที่เขาโดนพาตัวออกมาแต่จู่ๆ ลมไม่รู้มาจากไหนพัดผ่านรอบๆ ตัว
“เค้าก็ถือว่าเป็นลูกผมเหมือนกัน ผมจะดูแลเค้าเอง” เยซองที่เป็นคนจัดการมาเรียวอุคมาที่รัง รังของพวกเขารังของแวมไพร์
“ที่นี่ที่ไหน ทำไมมันไม่เหมือน...”
“บ้านคนผม เมืองของแวมไพร์อ้อ...คุณมาสามีเป็นแวมไพร์ด้วยแหละ”
“นายเป็นพวกเสียสติหรอ เพ้อฝันคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนใช่ไหม” ถึงแม้ว่าตอนนี้ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์จะมีข่าวเกี่ยวกับแวมไพร์เริ่มออกมาหากินในฝรั่งเศส แต่จะให้เขาเชื่อได้ยังไงเมื่อคนที่บอกว่ามีอะไรกับเขาเป็นแวมไพร์
“พูดออกมาให้เหมือนที่คิดหน่อยสิคุณ”
“นายรู้หรอว่าฉันคิดอะไร” เรียวอุคยกยิ้มอย่างลองเชิง
“ก็คิดว่ามีใครบางคนกำลังอยากจะออกจากที่นี่แล้วไปเป็นอาหารของแวมไพร์ตัวอื่นน่ะสิ” ร่างบางถึงกับสะดุ้งเมื่อคำพูดนั้นมันตรงกับความคิดเขาพอดี
“เลือดคุณหอมมากเลยนะ ตัวคุณก็หอมแถมยังหวานอีก” ใบหน้ากลมเคลื่อนเข้ามาพูดใกล้ๆ กระซิบข้างหูจนเรียวอุคหน้าแดงเถือกไปหมด
“จะให้ฉันนอนห้องไหน! แล้วเมื่อไหร่จะปล่อยฉันกลับไปที่บ้าน”
“มีอยู่สองห้องห้องนู่นของพ่อกับแม่ผมส่วนอีกห้องของผมเอง” เยซองชี้นิ้วไปตามห้องที่ระบุ
“งั้นนายไปนอนที่โซฟา โชคดีราตรีสวัสดิ์” พูดจบเรียวอุคก็ปลีกตัวเข้าไปนอนบนที่นอนนุ่มทันทีโดยไม่ลืมที่จะล็อคห้องเอาไว้ด้วย แต่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาโอบรัวเอวของเขาไว้อยู่
“คุณดูอ้วนขึ้นนะ” เสียงทุ้มพูดขึ้นมาเบาๆ ด้านหลัง
“โอ๊ย! ปล่อยฉันนะไอ่บ้าอย่ามานอนกอดฉันแบบนี้ได้ไหมมันอึกอัดนะเว้ย!” เรียวอุคพยายามดิ้นหนีให้หลุดออกมาจากอ้อมกอดที่รัดแน่นแต่เหมือนยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ต้องยอมให้เยซองกอดต่อไป
“ผมกอดลูกของผมตังหาก ไม่ได้กอดคุณสักหน่อยนะ”
“เออ! อยากกอดก็กอดไป” ร่างบางกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจก่อนจะพายามข่มตาหลับภายในอ้อมกอดอุ่นนั้น
“แหวะะะะ ...โอ๊กกกกกกกกก อ้วก”
“แกเป็นอะไรไปน่ะเยซอง” เจ้าบ้านใหญ่ประจำตระกูลปาร์คถึงกับตกใจพอตื่นมาได้ยินเสียงเหมือนคนอ้วกแต่เช้าซึ่งมันก็ดังออกมาจากห้องของลูกชายเค้าซะด้วย
“อ่อก! อ้วกกกกก แค่กๆ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรครับท่านพ่อ” เยซองตะโกนกลับออกไปด้านนอกแล้วหันมาลูบหลังให้คนท้องที่โก่งตัวอ้วกอยู่
“แล้วนั่นเสียงอะไร ถ้าแกไม่เป็นอะไรแล้วเสียงมันมาจากใคร” เมื่อเจ้าบ้านปาร์คเดินเข้ามาถึงในห้องน้ำก็ต้องผงะกับร่างมนุษย์ร่างเล็กที่หายใจรวยรินซบอยู่ที่อกลูกชายของเขา
“เอ่อ...เดี๋ยวค่อยคุยกันนะครับ” เยซองโอบอุ้มร่างบางที่หลับไปแล้วขึ้นลอยจากพื้นก่อนจะวางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา
“ใคร แกพาใครมา” เมื่อมาถึงห้องโถงใหญ่ประจำบ้านคุณปาร์คก็ไม่ปล่อยให้เยซองได้นั่งเลย
“เรียวอุคครับ คือว่าผมพาเค้ามาอยู่ด้วย”
“แกก็รู้ไม่ใช่หรอว่าเค้าเป็นมนุษย์แล้วพามาที่นี่ แกกำลังจะฆ่าคนหรอไง” ดวงคาตมเรียวหรี่ตามองเยซองอย่างคาดคั้น
“แต่ถ้าผมไม่พาเค้ามาเค้าก็จะฆ่าคนเหมือนกัน”
“มีอะไรจะเล่าไหมเยซอง” เยซองถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“จะผลิตทายาทแต่ดันผิดเพศไปหน่อยว่างั้น”
“ก็...ผมไม่รู้นี่ครับท่านพ่อ ก็เค้าออกจะ เอิ่ม” เจ้าบ้านปาร์คถึงกับหัวเราะในลำคอกับอาการเขินอายของลูกชายตัวเอง
“น่ารัก อื้มอันนี้พ่อว่าเค้าน่ารักจริงๆ แต่ก็ระวังหน่อยล่ะที่นี่ไม่ใช่บ้านเค้านะ”
“แล้วท้องนานหรือยัง”
“ก็ตั้งแต่วันนั้นแล้วยาที่ผมให้เรียวอุคกินก็น่าจะ 3 เดือนได้แล้วครับ”
“งั้นก็แสดงว่าที่แกไม่ได้กลับบ้านไปนอนกกกับเค้ามาหรอ” เจ้าบ้านปาร์คร้องอ๋อขึ้นมาทันที ก็หลายวันก่อนเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องหายไปไหนก็ไม่รู้ก็เพิ่งมาโผล่หัวเอาวันนี้
“ไม่ใช่ครับ ผมแค่ไปดูเค้าห่างๆ ก็เท่านั้นเองรายนั้นไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมสักเท่าไหร่” ร่างหนาเบ้ปากไปยังประตูห้องนอนที่มีเรียวอุคนอนหลับอยู่
“ถ้าเป็นพ่อ พ่อก็คงเกลียดแกเหมือนกัน”
“โธ่! ท่านพ่อครับ”
“คุณค่ะ! อย่าทำหน้าดุใส่ลูกสิ” เสียงร้องแหลมของคุณนายปาร์คร้องดังขึ้นเมื่อเห็นลูกชายสุดที่รักทำหน้าแบะเหมือนจะร้องไห้
“ผมคิดถึงท่านแม่จัง” ร่างหนาโผกอดหญิงผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง
“ตัวหอมจังพ่อลูกชายแต่เดี๋ยว! นี้มันกลิ่นมนุษย์ไม่ใช่หรอ” คุณนายปาร์คทำจมูกสูดดมไปทั่วจนเข้าไปพบกับร่างบางที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น
“นะนี่ๆ นี่มัน”
“คุณมานี่มาเดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง” เจ้าบ้านปาร์คยิ้มอย่างสุขุมให้กับภรรยาที่ยืนสั่นระริกด้วยความตกใจเมื่อเห็นมนุษย์นอนอยู่
“เช็ดตัวให้เค้าสิ แล้วก็ทำอาหารด้วยล่ะ” เจ้าบ้านปาร์คพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะหายตัวไปพร้อมกับคุณนายปาร์ค
มือหนาบรรจงลูบผ้านุ่มลากผ่านเรียวหน้าหวานที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ เสื้อตัวยาวก็ถูกถกขึ้นมาเหนือแผ่นอกแล้วก็ลูบไล้อยู่อย่างนั้น
“อื้ออ ~ จัมโบ้มานอนน้า” เรียวอุคพลิกตัวหันหน้าเข้ามาเยซองสองแขนเรียวกอดเอวหน้าไว้แน่น
“นี่คุณ! ปล่อยผมก่อนสิ” พอเยซองจะขยับตัวหนีร่างบางก็จะส่งเสียงอู้อี้ออกมาอย่างขัดใจจนเยซองต้องนั่งอยู่นิ่งๆ ให้เรียวอุคกอดอยู่อย่างนั้น
“อื้อออออ ~ เหม็น! มะไหวแล้ว” เรียวอุคที่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็รู้สึกพะอืดพะอมกับกลิ่นเหม็นๆ อีกตามเคย
“อ่อกกกกกกกกก โอกกกก!” เยซองสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงอ้วกของเรียวอุคจนต้องรีบวิ่งเข้าไปดู
“เรียวอุค คุณเป็นยังไงมั่ง” นัยน์ตาหวานมองค้อนหามาร่างหนาที่ถามคำถามโง่ๆ
“อ๊อก อ้วกกกกกกกกก โอ่กกก” พอความพะอืดพะอมหมดไปร่างบางก็นิ่งลงข้างชักโครกอีกตามเคย
“ฉะ ฉันเหนื่อยอึก! ฉันไม่ชอบอึก ...ไม่ชอบเลย” พอนั่งอยู่เงียบๆ ได้ไม่นานร่างบางก็ปล่อยโฮออกมาจนเยซองต้องโอบเอาหัวทุยแบนเข้ามาชิดอกของตน
“ผมรู้ เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันนะ”
“ฮึก ... ฉันไม่อยากปะ เป็นอึก แบบนี้ฮือ” ร่างบางสั่นไหวไปตามแรงสะอื้นจนน่าสงสาร ปากหยักพรมจูบตามกองผมนุ่มของคนในอ้อมกอด
“อั่ก! เหม็น!! ตัวนายเหม็นออกไปนะ!” จู่ๆ แมวน้อยที่ซบหน้าลงกับอกของเขาก็ผลักออกซะกระเด็นแล้วก็หันหน้าไปอ้วกใหม่
“คุณ! ผมเหม็นที่ไหนออกจะหอมนะ” เยซองรู้สึกเสียหน้าขึ้นมากะทันหันที่มีคนมาบอกว่ากลิ่นตัวของเขาเหม็น
“ไม่! อ๊อกกกกก อย่าอยู่ใกล้ฉันนะ! เหม็นเว้ยยยยยยยยยยยย” เรียวอุคยกมือขึ้นบีบจมูกตัวเองกับความเหม็นจากตัวเยซอง
“เสียงอะไรน่ะ อ้าวพ่อลูกชายทำไมไม่ดูแลเมีย” คุณนายปาร์คที่ได้ยินเสียงโวยวายก็เดินเข้ามาดูทันทีแต่ก็พบว่าเยซองนั่งคอตกอยู่ปลายเตียง
“เขาบอกว่าผมเหม็นครับท่านแม่ ผมก็เลยถูกไล่ออกมาเนี่ย” คุณนายปาร์คหัวเราะอย่างสะใจกับท่าทางของลูกชายที่ดูจะหัวเสียเอาการ
“ยังไม่ออกไปอีกหรอ! บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าฉันเหม็นนายน่ะ!!! อ้าว...สวัสดีครับ” ร่างบางโค้งตัวให้กับหญิงนางหนึ่งที่ยืนอยู่ในท่าสง่าสามและยังมีชุดสีแดงเพลิงที่ทำให้เค้าดูเด่น
“เป็นยังไงมั่งจ้ะ ช่วงแรกๆ ก็ทนเอาหน่อยล่ะกันนะตอนแม่ท้องเจ้าเยซองก็เหนื่อยแบบนี้แหละ” คุณนายปาร์คยิ้มตอบทำให้อาการเกร็งของเรียวอุคหมดไป
“มากินข้าวกันแม่เตรียมขออร่อยไว้เพียบเลย” คุณนายปาร์คกวักมือเรียวอุคที่ยืนเอ๋ออยู่ให้เดินตามมา
“ตาถึงนะเราน่ะ” เสียงกระซิบเบาๆ ข้างๆ หูเยซอง ร่างหนายิ้มออกมานิดๆ กับคำพูดของท่านแม่ก็อดขำไม่ได้
“ขำไรไอ่หน้าแป้น” เรียวอุคเดินออกมาชนไหล่เยซองอย่างหมั่นไส้ แต่ก็โดนดีโดนเยซองรวบตัวเองมาติดแผ่นหลังจนได้
“ขำคุณน่ะสิ ไอ่แมวอ้วนท้องป่องใหญ่แล้วๆๆ”
“ไอ่หน้าแป้นหยุดลูบเดี๋ยวนี้มันจั๊กจี้เว้ย” ร่างบางโวยวายขึ้นทันทีเพราะมือหนามันไม่ได้ลูบแค่ท้องน่ะสิ
“ลูกดิ้นรึยังอ่ะคุณ” เรียวอุคหยุดดิ้นแล้วลองเอามือไปทาบท้องป่องของตัวเองช้าๆ
“มะ ไม่รู้สิ” ร่างบางก้มลงมองท้องตัวเองเล็กน้อย
“ไปกินข้าวกันเถอะคุณลูกหิวแล้ว” เยซองเลื่อนมือมากุมมือบางเอาไว้หลวมๆ แต่ดูอบอุ่นสำหรับคนท้อง
“แม่ก็คิดว่าไปทำอะไรกันมากว่าจะออกมาได้ นั่งสิ” เยซองเลื่อนเก้าอี้ด้านข้างตัวเองให้กับร่างบาง
“เอ่อ...ขอบคุณครับ” คุณนายปาร์คและท่านชายปาร์คต่างคอยตักอาหารที่มีประโยชน์กับเรียวอุคจนเจ้าตัวกินไม่ทัน
“มายืนตากลมทำไมตรงนี้ล่ะคุณ” ห้องนอนที่ถูกประดับไฟไว้เพียงสลัวๆ มีอากาศที่หนาวเหน็บพัดผ่านเข้ามาจากบานหน้าต่างนอกระเบียงที่ถูกเปิดอ้าไว้โดยมีร่างบางยืนชมจันทร์อยู่
“ทำไมนายต้องมีอะไร ...กับฉันด้วยล่ะ” เมื่อรู้สึกถึงเจ้าต้นตันเหตุเข้ามายืนข้างๆ เรียวอุคก็รีบถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน
“ก็วันนั้นคุณเมาแล้วเดินมาทางผมพอดี แล้วด้วยความที่คุณเมามั่งเลยมาจูบกับผมน่ะ”
“ตอนแรกผมก็ไม่คิดจะมีอะไรกับคุณหรอกแต่ว่ากลิ่นตัวคุณน่ะมันยั่วยวนผมเอง ต้องโทษที่ตัวคุณนะ” ร่างหนาจิ้มนิ้วเข้าไปที่หัวทุยจนเซเล็กน้อย
“แล้วตอนที่นาย เอ่อ ...ตอนนั้นน่ะนายไม่รู้เลยหรอว่าฉันเป็นผู้ชาย” เรียวอุคแกล้งก้มมองลงไปที่พื้นเบื้อบงล่างเพราะไม่อยากให้คนๆ นี้เห็นว่าเขาหน้าแดงแค่ไหน
“เพราะอารมณ์ตอนนั้นล่ะมั่งก็คุณเล่นหวานไปทั่วตัวนี่ ครางก็หวาน หวาน หวานไปหมด พูดแล้วผมก็เริ่มหิวนะ” ลิ้นหนาแลบเลียปากตัวเองช้าๆ
“ไอ่บ้า! อย่ามาทำหื่นแถวนี้นะไอ่หน้าแป้น!! ฉันท้องอยู่นะเฟ้ย” เยซองหัวเราะน้อยๆ ในลำคอ
“ท้องก็ทำได้นะคุณไม่รู้หรอ เวลาคลอดจะได้คลอดง่ายๆ” พูดจบร่างหนาก็รวบร่างบางไปวางบนเตียงตามด้วยตัวเองที่ทับลงมา
“ลุกออกไปนะมันอึดอัด หนักนะเว้ย!” มือบางยกขึ้นดันไหล่หนาให้ออกจากร่างแต่ก็ดันถูกรวบมือขึ้นไปไว้บนศีรษะ
“อะไรกันคุณ ที่ตอนนั้นผมโถมทั้งตัวคุณยังไม่บ่นว่าหนักเลยนะ แถมยังออกแรงมากซะด้วย”
“ไอ่แวมไพร์ลามก! พูดจาบ้าอะไรของนายห๊ะ!!” จมูกโด่งเริ่มออกอาการซุกซนสูดดมความหอมหวานไปทั่วคอขาว เคี้ยวแหลมงอกออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้ครูดไปตามเนื้อผิวนุ่ม
“อื้อ~ ไม่เอา” ร่างบางเริ่มนอนบิดดิ้นไปมากับความเสียววาบ ทุกช่วงจังหวะที่ปากหยักสร้างรอยแดงประทับไว้
“อ่าาา ยะ เยซองไม่เล่นนะ” ปากหยักกดจูบลงบนปากบางอิ่มเป็นที่สุดท้ายแล้วพลิกตัวลงมานอนข้างเรียวอุคโดยที่จะไม่ลืมคว้าร่างบางเข้ามากอดเหมือนเมื่อคืน
“เหนื่อยก็นอนสิ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้วไม่ใช่หรอ” ร่างหนาพูดยิ้มๆ ให้กับร่างบางที่เงยหน้ามามองเขา
TBC.
ความคิดเห็น