คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : //// 2 ////
////// HEATERD ///////
//// 1 - 2 ////
ภายในห้องสีขาวของโรงพยาบาล ที่ข้างเตียงนอนของฮีซอลที่ยังคงไม่พื้นเสียที่แม้จะผ่านมาร่วมอาทิตย์แล้วก็ตามนับจากอุบัติเหตุวันนั้น เงาร่างเล็กปรากฏขึ้นที่ข้างเตียงร่างโปร่งใสเอาใบหน้าของตนค้ำไปบนเตียงใกล้กับใบหน้าสวยของคนที่นอนอยู่
“มะม๊า.ตื่นซิคะ มะม๊า.”
ฮันคยองที่ยืนค้างอยู่ที่หน้าประตูชายหนุ่มสะบัดหัวไปมาอย่างแรง ก่อนจะมองเข้าไปภายในห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าที่ตนเห็นนั้นเป็นแค่ตนตาฝาดไปเองแต่ทุกอย่างก็ยังคงเดิม เงาร่างเล็กๆนั้นยังคงอยู่ที่เดิม
“มะม๊า..”
เสียงเล็กๆที่ลอยมาตามลมกระทบเข้ากับประสาทการได้ยินของชายหนุ่ม เสียงเล็กๆที่แผ่วเบาและเนิบช้า ชวนเสียวสันหลังอยู่ไม่น้อย เงาร่างนั้นเงยหน้าขึ้นมองฮันคยองเล็กน้อยก่อนที่ร่างนั้นจะจางหายไปในอากาศ
“ปะป๋า ใจร้าย”
แม้เงาร่างเล็กๆนั้นจะหายไปแล้วแต่ฮันคยองก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่ประตูหน้าห้องจนเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังและมือเล็กๆของเจ้าของเสียงที่ออกแรงดันให้ก้าวเดินเข้าไปภายในห้อง
“พี่ฮันเข้าไปสิมายืนขวางประตูไว้ทำไมนี่”
ซองมินที่พอเข้ามาภายในห้องได้ก็รีบเดินตรงไปยังเตียงคนป่วยที่ยังคงนอนได้สติอยู่ทันที
“นี่จะเป็นอาทิตย์แล้วนะไหนหมอว่าไม่เป็นอะไรแล้วไงทำไมพี่ฮีซอลถึงยังไม่ฟื้นซะที”
ซองมินละจากเตียงคนป่วยมองมาทางพี่ชาย
“พี่ได้ถามหมอบ้างไหม”
ฮันคยองไม่ได้เอ่ยตอบน้องชายทำเพียงส่ายหน้าแทนคำตอบ
“นี่พี่ไม่คิดจะรับรู้อะไรบ้างเลยรึไง”
“
..”
ฮันคยองไม่ตอบน้องชายแต่กลับถามต่อ
“ทึกกี้ไปไหนทำไมไม่มาพร้อมกัน”
ซองมินมองหน้าพี่ชายก่อนจะเผยรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก
“เดี๋ยวมาคุณซีวอนกำลังไปรับ”
ฮันคยองพอได้ยินชื่อคนอีกคนก็หน้าตึงขึ้นมาทันที
“ซีวอน ซีวอน อะไรก็ซีวอนตั้งแต่ถูกมันขับรถชนนี่พบออกจากโรงพยาบาลได้นี่ติดกันแจเลยนะ อะไรอะไรก็ซีวอนไปซะทุกอย่าง”
ร่างสูงบ่นถึงคนรักด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“แหม...ก็คุณซีวอนเค้าออกจะเป็นคนดี”
ซองมินลอยหน้าลอยตาตอบพี่ชาย
“ซองมิน”
ร่างสูงจ้องหน้าน้องชายเขม็งซองมินเองก็จ้องตอบไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“อย่างน้อยนะคุณซีวอนเค้าก็รับผิดชอบในสิ่งที่เค้าทำไม่เหมือนคนบางคน”
ฮันคยองที่กำลังหมดความอดทนกับคำพูดเหน็บแนมของน้องชายตัวยืนกำหมัดแน่นแต่ก่อนที่จะได้ฝากรอยไว้บนใบหน้าของซองมินเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นซะก่อน
“หยุดนะฮัน”
ทึกกี้ที่เปิดประตูเข้ามาเห็นพอดีรีบตะโกนห้ามเสียงดังจนลืมไปว่ามีคนป่วยนอนอยู่ ซองมินที่ไม่ได้เกรงกลัวกับอาการของฮันคยองอยู่แล้วยกนิ้วชี้ของตนขึ้นจรดริมฝีปากแล้วหันมาทางผู้มาใหม่พร้อมกับส่งเสียง ‘จุ๊ๆ’พร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปทางเตียงสีขาวที่เจ้าของมันยังคงนอนไม่ได้สติอยู่
“ขอโทษที่เสียงดัง...ว่าแต่พวกนายทำอะไรกัน”
พอรู้เท่านั้นแหละว่าสองพี่น้องเค้าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรก้อเริ่มบ่นๆๆๆจนซีวอนต้องสะกิดเพื่อให้ร่างบางหยุดและหันมาสนใจตน
“มีอะไรเหรอซีวอน”
“ดูเหมือนเค้ากำลังจะฟื้นแล้วล่ะ”
ไม่พูดเปล่าดึงคนตาสวยมายังเตียงคนป่วย เมื่อเห็นว่าคนบนเตียงเริ่มแสดงอาการว่าจะฟื้นขึ้นมาจริงอย่างที่ร่างสูงว่าทึกกี้และซองมินรีบปราดเข้าไปหาร่างบางบนเตียงสีขาวทันที
...........
....................
...........................
“ฮีซอลนายเป็นยังไงบ้าง”
“
..”
“พวกคุณเป็นใครกัน”
ร่างเล็กเอ่ยถามคนตาหวานข้างเตียง
“ฉันทึกกี้แล้วนี่ก็ซองมินไงเราเป็นเพื่อนของนายนะนายจำพวกเราไม่ได้เหรอ”
“ไม่ฉันจะจำพวกนายได้ยังไงในเมื่อฉันยังไม่รู้เลยว่าตัวฉันเป็นใคร”
ร่างเล็กบนเตียงพูดออกมาพร้อมกับหยาดน้ำใสที่ไหลหยดลงจากดวงตากลมสวย ร่างบางมองบุคคลคนทั้ง4คนไล่จากซองมินที่อยู่ใกล้ที่สุดทึกกี้ที่อยู่ถัดมาและซีวอนที่ยืนอยู่ใกล้ทึกกี้จนถึงชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไกลออกไปสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามของร่างบนเตียงทำให้คนตัวเล็กที่อยู่ใกล้ที่สุดพูดขึ้น
“ฉันซองมินน้องไงพี่ฮีซอล แล้วนี่พี่ทึกกี้เพื่อนสนิทของพี่นะ ...”
ยังไม่ทันที่ร่างเล็กจะได้พูดจบคนตาสวยก็แย่งพูดต่อทันที
“นี่ซีวอน..เอ่อเค้า”
เมื่อเห็นว่าคนตาสวยไม่สามารถพูดได้ต่อร่างสูงจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นเอง
“ผมเป็นคนขับรถชนพวกคุณ ผมขอโทษจริงๆครับผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณต้องเสียเค้าไป”
ร่างสูงก้มหัวให้ร่างบางพร้อมกับคำขอโทษหลายต่อหลายครั้ง ฮีซอลมองเลยผ่านซีวอนไปยังคนอีกคนที่ยืนนิ่งเงียบไปเอาคำใดๆตั้งแต่ที่ตัวเองรู้สึกตัวขึ้นมา ซองมินที่มองตามสายตาของฮีซอลไปหยุดลงที่ร่างสูงของพี่ชายตัวก่อนจะพูดขึ้น
“นั้นพี่ฮันคยองไงฮะคนรักของพี่ไง”
ฮีซอลมองหน้าคนพูดเล็กน้อยก่อนจะหันมองร่างสูง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นเพียงสายตาที่ว่างเปล่าของร่างสูงที่มองกลับมา
“จ.ริ...”
ริมฝีปากอิ่มกำลังจะเอ่ยถามเพื่อยืนยังสิ่งที่ซองมินบอกแต่คำถามก็ต้องถูกกลืนลงคอไปเมื่อร่างสูงเดินออกจากห้องคนป่วยไปทันทีที่ร่างบางกำลังจะเอ่ยถาม
ดวงตากลมสวยมองประตูห้องที่ปิดลงพร้อมกับร่างสูงที่เดินออกไป ดวงตากลมสวยบัดนี้เอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆที่พร้อมจะไหลรินลงมาได้ตลอดเวลา
‘จริงเหรอที่รักกัน’
ภายในจิตใจของร่างบางตอนนี้กำลังสับสน เค้ากับชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกไปรักกันแน่เหรอ ทำไมท่าทางของคนๆนั้นที่แสดงออกมามันดูยังไงก็ไม่เหมือนกับคนรักกัน แล้วทำไมตัวเองถึงรู้สึกเจ็บมากมายกับการกระทำของร่างสูงด้วยเจ็บๆจนแทบจะตายได้เลยทีเดียว
ในที่สุดหยาดน้ำใสๆก็ถูกปล่อยให้มันล่วงหล่นลงอาบใบหน้าสวย
............
................
ฮันคยองที่พอเดินออกมาแล้วก็นั่งอยู่ที่ม้านั่งหน้าห้องไม่ได้ไปไหนไกล ฮันคยองที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนกระทั่งซีวอนเดินตามออกมา
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คุณต้องการอะไรกันแน่”
ซีวอนที่เดินมาหยุดตรงหน้าฮันคยองพูดขึ้น ฮันคยองมองหน้าซีวอนก่อนจะพูดขึ้น
“นั่นมันฉันควรจะเป็นฝ่ายถามนายมากกว่า”
“ผมรักเค้า..ผมรักทึกกี้”
ซีวอนพูดออกไปทันทีที่คู่สนทนาพูดจบ
“ฮึ พูดได้เต็มปากเชียวนะว่ารัก นายนะรู้จักทึกกี้มากี่วันกันนายเอาอะไรมาวัดความรักของนายกัน”
ฮันคยองทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะพูดสวนซีวอนแทบจะทันที
“รักก็คือรัก ถึงผมจะรู้จักทึกกี้ได้ไม่นานก็ตาม”
“แล้วนายรู้รึเปล่าว่าทึกกี้กับฉันเป็นแฟนกัน”
ฮันคยองพูดออกไปพร้อมกับรอยยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า
“รู้”
ซีวอนตอบออกมาสั้นๆและได้ใจความ
“รู้แล้วก็ยัง..”
ยังไม่ทันพูดจบซีวอนก็เอ่ยต่อทันที
“รัก.....ความรู้สึกของฉันก็คงไม่ต่างจากฮีซอลเท่าไหร่นักหรอก รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังรัก รักทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องเจ็บ แต่จะแตกต่างกันก็ตรงที่ทึกกี้ไม่เคยปฏิเสธความรู้สึกของฉันเค้าไม่เคยทำร้ายจิตใจของฉันเหมือนที่คุณทำกับฮีซอล ถึงแม้ว่าตอนนี้ทึกกี้เค้าจะยังไม่ตอบรับความรักของผมแต่เค้าก็ไม่เคยแสดงท่าทีรังเกลียดเหมือนที่คุณแสดงออกกับฮีซอล”
ฮันคยองมองหน้าซีวอนนิ่ง
“ผมล่ะอยากรู้จริงๆเวลาที่คุณกอดเค้าคุณรู้สึกยังไง แต่อย่างคุณคงไม่รู้สึกอะไรเลยมากกว่าคงจะเห็นเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์”
ซีวอนยังคงพูดต่อไปโดยทำเป็นมองไม่เห็นสายตาที่แสดงความโกรธออกมาอย่างชัดเจนของฮันคยอง
“ซีวอน”
เอ่ยเรียกชื่อคนที่พูดปาวๆด้วยโทนเสียงที่ถูกข่มให้ต่ำเพื่อให้รู้ว่าเค้าไม่พอใจ ซีวอนยังคงทำเป็นไม่สนใจแล้วก็เริ่มพูดต่อ
“ถึงผมจะรู้จักทึกกี้แค่ช่วงเวลาสั้นๆแต่ผมก็รู้ตัวว่าผมรักเค้าและรู้ว่ารักเพราะอะไร แล้วคุณละฮันคยองคุณรักทึกกี้แน่เหรอ”
‘รักสิ’ฮันคยองคิดตามในใจ
“แล้วฮีซอลล่ะคุณรู้ไหมว่าเค้ารักคุณมากแค่ไหน”
‘รู้สิ’
“แล้วคุณรักเค้าไหม”
‘
ไม่
’
“ตอนนี้คุณอาจจะพูดได้นะฮันคยองแต่ผมอยากให้คุณคิดให้ดีๆว่าสิ่งที่คุณทำลงไปคุณไม่เคยมีความรู้สึกอะไรกับคนๆนั้นเลยเหรอ”
ซีวอนพูดราวกับว่าอ่านความคิดของอีกคนออก
‘แกจะมากล่อมให้ฉันรักหมอนั้นใช่ไหมแกจะได้คบกับทึกกี้ละสิฝันไปเถอะ’
“คุณกำลังคิดว่าผมจะยุให้คุณรักฮีซอลล่ะสิ ผมไม่ทำแบบนั้นหรอกเพราะถ้าคุณมั่นใจว่าคุณไม่ได้รักเค้าก็คงไม่มีใครสามารถไปบังคับใจคุณได้ แต่คุณแน่ใจแล้วเหรอคำตอบในใจของคุณน่ะมันชัดเจนแล้วเหรอ ผมอยากให้คุณคิดดูดีๆสิ่งที่คุณทำมันเกิดจากอารมณ์หรือความรู้สึก”
เมื่อพูดย้ำทิ้งท้ายไว้แล้วก็เดินจากไปปล่อยให้ฮันคยองจมอยู่กับความคิดของตัวเองอีกครั้ง
2b con
ดีไม่ดีเม้นบอกกับบ้างนะ
ความคิดเห็น