ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Starry Ocean ค้นผืนฟ้า หาดวงดาว

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องเล่าจากภูตนำทาง

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 50


                    แก้ง...... แก้ง..... แก้ง..... 

    เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาตี  3  ทำให้แอนเฟียร์สะดุ้งตื่นขึ้นจากความหลับใหล  เธอปรือตามองออกไปนอกหน้าต่าง ที่เห็นเพียงแผ่นฟ้ามืดมิด ประดับไปด้วยดวงดาวพราวแพรว ในหัวยังแว่วเสียงเรียกเธอซ้ำไปซ้ำมา

    เฮ้อ....ท่าจะฝันร้าย

    เธอเหยียดแขนทั้งสองบิดขี้เกียจไปมาเพื่อไล่ความเมื่อย  สะบัดหน้าไปมาเพื่อขับไล่สิ่งที่เธอคลับคล้ายว่าจะฝัน แต่ก็รู้สึกเหมือนจริงจนหนาวสะท้าน หวังให้เป็นเพียงความฝันที่เมื่อถึงพรุ่งนี้ก็จะลืมเลือนไปได้  แต่ก่อนที่จะได้ลุกจากโต๊ะหนังสือที่ปลายเตียงไปยังเตียงนอน  ก็เหลือบไปเห็นวัตถุประหลาดนั่นเข้า  พลันก็วาบขึ้นในใจว่ามันไม่ใช่ความฝัน แล้วความทรงจำก็ย้อนกลับมา ถ้าเพียงแต่เธอไม่ไปพบเจ้าวัตถุประหลาดนั่น ไม่สัมผัสมันตั้งแต่ต้นก็คงจะไม่ต้องได้ยินเสียงประหลาดนั่น  แล้วก็เหมือนบางส่วนของเสียงแว่วกลับมาในหัวของเธออีก   

    เธอไม่อาจหลีกเลี่ยง......  งั้นเหรอ  ดีล่ะฉันจะหนีให้ดู หนีไปให้ไกล เพียงแต่รอให้ ฟ้าสว่างเท่านั้น

    แต่...มันสายไปเสียแล้ว!! 

    แก้ง...... นาฬิกาบอกเวลา 03.30น. 

     

    ได้เวลาแล้ว แอนเฟียร์

    .กรี๊ดด ~”

     

    แสงสีเขียวส่องวาบขึ้นที่หน้าต่างข้างโต๊ะเขียนหนังสือ  พาเอาแอนเฟียร์ร่วงลงไปกองกับพื้น  เธอตกใจสุดขีด  หลังจากลุกขึ้นได้อย่างยากเย็นก็รีบปีนขึ้นไปอยู่บนเตียงพลางฉวยหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดไว้หมายเป็นอาวุธที่จะโจมตีใส่อะไรก็ตามที่โผล่ขึ้นมาจากหน้าต่างบานนั้น!

     

     

    หวัดดีเจ้านาย   เสียงเล็กๆใสๆดังขึ้นก่อนเห็นตัว

    กรี๊ดดดดด ตัวอะไรกันหน่ะพอตัวปรากฎแอนเฟียร์ก็ถึงกับแหกปากลั่น 

    ภูตไงแสงมาจากแสงสีเขียวที่สว่างจนทำให้ตาพร่าเลือน

    กรี๊ดด ฉันยังไม่อยากตายนะ ออกไปนะๆ ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนะ ภารกิจบ้าบออะไรฉันไม่สนทั้งนั้นแหละ ฉันจะหนี หนีไป ไม่ให้เธอตามเจอ อย่ามายุ่งกับฉันนะไอ้ตัวประหลาด แอนเฟียร์พูดอย่างสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกต่อไปแล้ว

    ถามจริงๆเถอะ เจ้า... คิดว่าจะหนีข้าพ้นเหรอ  เสียงนั้นโต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัว  แอนเฟียร์..ได้เวลาของเจ้าแล้ว.. 

    ไม่ล่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น แอนเฟียร์โต้อย่างไม่ลดละ

    แอนเฟียร์ เจ้าจะหลีกหนีชะตาของตนเองงั้นเหรอ ชะตาที่ฟ้ากำหนดหน่ะมันหนีไม่ได้หรอกนะ เหมือนที่ข้าเดินทางมายังโลกแห่งนี้ มานำทางเจ้าตามภารกิจนี้ คิดหรือว่าข้าเลือกได้ เจ้าจะหลีกเลี่ยงมันไปไม่ได้หรอกนะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกกำหนดขึ้นมาแล้ว และมันก็จะยังคงเป็นอย่างนั้นต่อไป เจ้าไม่เป็นอะไรหรอก ข้ามาก็เพื่อช่วยเหลือและดูแลเจ้าระหว่างทำธารกิจนี้ยังไงล่ะ เจ้าคิดซะว่า...ทำเพื่อคนที่เจ้ารัก เพื่อมนุษย์ เพื่อกาแล็กซีทางช้างเผือกแห่งนี้  เพื่อข้านะ..

    เสียงนั้นดูอ่อนโยนขึ้น แต่ฟังดูเศร้าหมองชอบกล

    ข้าไม่ใช่ยมฑูตนะ ข้าเป็นภูตนำทาง มานำเจ้าทำภารกิจ ไม่ได้พาไปสวรรค์ นรกที่ไหนเพราะงั้นเลิกโวยวายและไม่ต้องมาตกใจกลัวข้าด้วย

    เสียงนั้นกลับมาเป็นปกติอีกครั้งแต่ยังคงความอ่อนโยน นุ่มนวลไว้ 

    นะ  แอนเฟียร์ เจ้านายของข้า

     

    เอ่อ...อืม...ขอบใจนะนี่ฉันไปขอบใจมันทำไม มันทำอะไรให้เราหรือ ท่าทางเจ้านี่จะมีความหลังอยู่เหมือนกันนะ แล้ว เธอ...เอ่อ ชื่ออะไรเหรอ หรือว่าภูตไม่จำเป็นต้องมีชื่อ แอนเฟียร์ถามอย่างลังเล

    ข้าชื่อ อะมาลเทีย ภูตนำทางแห่งระบบสุริยะจักรวาล สังกัดอยู่ภายใต้ท่านเทพจูปิเตอร์ แห่งดาวพฤหัสบดี พลางแสงสีเขียวก็จางลง ปรากฎให้เห็นภูต อะมาลเทีย ส่วนสูงประมาณเด็กประถม ยืนอยู่บนดาวหางสีเขียวกลมโต ซึ่งดูก็รู้ว่าไม่ใช่ดาวหางธรรมดาๆ  ต้นตอแห่งแสงสีเขียวบาดตานั่นเอง เธอแต่งกายด้วยเสื้อสีเขียวอ่อนเข้ากับดาวหางที่ยืนอยู่ เหนืออกมีสิ่งที่คล้ายๆกับอัญมณีสีเขียวมรกตติดเอาไว้ พร้อมถุงมือที่ยาวจนเกือบถึงข้อศอก สวมกระโปรงยาวสีดำตรงปลายเป็นริ้วๆ ซึ่งใส่แล้วดูเป็นผู้ใหญ่อย่างประหลาดตา ผมของเธอมีสีน้ำตาลอ่อนยาวถึงเอว แอนเฟียร์คิดขึ้นมาทันทีว่า ภูตตนอื่นจะแต่งกายแบบเดียวกับเธอรึไม่ เพราะเธอดูน่ารักเกินกว่าจะเป็นภูตธรรมดาๆ

     

    เอาละนะ ได้เวลาต้องเดินทางแล้วล่ะเจ้านาย เราช้ามามากแล้ว เสียงนั้นพูดขึ้นตัดความคิดของเธอ

    ไม่ต้องเรียกฉันอย่างนั้นหรอกนะอะมาลเทีย เรียกฉันว่า แอนเฟียร์เถอะ เพราะเรียกอย่างนั้นแล้วฉันฟังดูขัดหูชอบกลๆ ว่าแต่เราจะเดินทางกันยังไง ไปไหน อีกอย่างฉันมีอะไรจะถามเธอเยอะแยะเลย อย่างเอ่อ...เสียง...

    อย่างเพิ่งถาม เดี๋ยวข้านี่แหละจะเป็นคนตอบคำถามเธอทุกอย่างและเล่าเรื่องราวให้ฟังเอง ตอนนี้เราช้ามากๆๆแล้ว อ่ะนี่ใส่เสื้อชุดนี้นะ ถ้าแต่งตัวอย่างที่เป็นอยู่นี่มีหวังได้หนาวหรือไม่ก็ร้อนตายพอดี

    ขอบใจนะ

    ชุดๆนั้นเป็นเสื้อสีฟ้าแขนยาว ชายเสื้อยาวเกือบถึงหัวเข่า กับกางเกงสีครีม พร้อมเสื้อคลุมยาวให้อีกตัวที่อะมาลเทียบอกว่าไว้ใส่กันหนาวเวลาเดินทางไปห่างดวงอาทิตย์มากๆเข้า

     

    เอาละ ต่อจากนี้เจ้าต้องเชื่อข้านะ เริ่มไว้ใจกันได้แล้ว เพราะถ้าไม่ฟังกันมีหวังเป็นอันตรายถึงชีวิตแน่ เอาละตอนนี้ขึ้นไปนั่งบนดาวหางได้เลย ไม่หล่นหรอกน่า ต่อไปนี้เราจะไปท่องอวกาศกัน......

     

    แล้วทั้งสองก็เริ่มออกเดินทางสู่อวกาศ  ที่แตกต่างจากในจินตนาการของแอนเฟียร์และคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง  เพราะนี่นั่น  ไม่ร้อน ไม่หนาว อากาศอบอุ่นสบาย อาจเป็นเพราะเสื้อรึป่าวทำให้เธอรู้สึกอย่างนั้น  และดวงดาวต่างๆ นับร้อยนับพัน  ดูงดงาม สดใส ไม่เศร้าหมองเหมือนมองดูผ่านชั้นบรรยากาศของโลก  หรือมองผ่านกล้องดูดาวยักษ์ในหอดูดาว

     

     

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

     

     

    อะมาลเทีย เล่ามาได้แล้ว ตกลงมันยังไงกันแน่ แล้วเสียงที่เรียกฉัน มันจะหายไปมั้ย แอนเฟียร์ซักไซ้หลังจากออกเดินทางมาได้สักพัก

     

    คืออย่างงนี้นะ เสียงที่เรียกเจ้า มันจะหายไป เพราะเขาผู้นั้นได้ทำพาเธอสู่ภารกิจเรียบร้อยแล้ว และ เมื่อถึงเวลาอันสมควร เจ้ารู้เอง ว่าเขาผู้นั้นเป็นใคร อะมาลเทียจบประโยคอย่างรู้ทันแอนเฟียร์ว่าจะถามตน

    แล้วชิ้นส่วนสีฟ้านี่ล่ะ มันมีที่มาอย่างไรกันแน่

     

    เรื่องหน่ะ มันมีอยู่ว่า.............................

     

    นานมาแล้ว เหล่าภูตประจำดวงดาวแต่ละดวงในระบบสุริยะแห่งนี้ ได้มีหน้าที่ปกป้องเทพประจำดาวทั้ง 8 ได้แก่ดาวพุธ ศุกร์ โลก อังคาร พฤหัสบดี เสาร์ มฤตยูหรือดาวยูเรนัส และดาวเกตุหรือดาวเนปจูน และมีหน้าที่ในการช่วยเหลือเทพในการปกครองดูแลดาว ท่านเทพจูปิเตอร์แห่งดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นราชันแห่งระบบสุริยะแห่งนี้นั้น ได้มีความคิดว่าดาวทั้ง 8 ต้องการดาวอีกหนึ่งดวงซึ่งจะสร้างสมดุลกับระบบสุริยะให้เธอช่วยเนปจูนดูแลวัตถุที่โคจรอยู่ในระบบสุริยะไกลออกไป จำพวกวัตถุในเข็มขัดไคเปอร์และดาวหางในหมู่เมฆออร์ต  และเพื่อช่วงดูแลเหล่าดาวเคราะห์วงนอก  ให้จัดระเบียบการโคจรเข้ามาภายในระบบสุริยะของเหล่าดาวหาง ให้เป็นไปตามขั้นตอน  จูปิเตอร์จึงสร้างท่านเทพคาร์นีราแห่งดาว คาร์มี ขึ้นมาหวังให้เป็นผู้ดูแลดาวหาง และวัตถุไคเปอร์ทั้งปวง หวังให้เป็นราชันแห่งเคหะวัตถุทั้งหมดในกาแล็กซีนี้ ซึ่งดาวคาร์มีนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากดาวเนปจูนมากมายนัก  แต่แล้วดาวดวงนี้ที่จูปิเตอร์สร้างขึ้นมาได้ไม่นาน ได้ถูกรุกราน เพราะเทพคาร์นีรานั้นยังอ่อนแอ  พลังเวทก็ไม่แก่กล้าเหมือนองค์อื่นโดยเทพจากระบบสุริยะอื่นที่มารุกรานมีนามว่า เอล และดาวคาร์มีถูกทำลายไปในที่สุด เทพคาร์นีราก็หายสาบสูญไปไม่มีเทพองค์ใดเห็นเธออีก โดยคาดว่าพวกเอลจับตัวเธอไป แต่เมื่อเทพทั้ง 8 ออกค้นหาพวกเขาก็ได้หายไปอีกเช่นกัน ชาวภูตประจำดาวต่างๆก็ไม่กล้าออกค้นหา กลัวว่าจะถูกจับไปอีก  ได้แต่ช่วงดูแลและปกครองดาวของท่านเทพทั้ง  8 จนบัดนั้นมา กว่า 370,000 ล้านปีมาแล้วก็ยังไม่มีใครพบพวกเขาอีก จนแม้แต่เอล ก็ได้กลับไปยังระบบสุริยะของตนเองแล้ว ก็ยังไม่เห็นร่องรอยของเทพทั้ง 8 ชาวภูตพบว่าเทพเอลได้ขโมยบางสิ่งบางอย่างจากดาวคาร์มีไปด้วย  ซึ่งเป็นสิ่งมีค่าและสำคัญยิ่ง  หาได้ยากจากดาวทั่วไป  แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดนัก

    เชื่อกันว่าเศษชิ้นส่วนของดาวคาร์จะช่วยปลดปล่อยเทพแต่ละองค์และนำท่านกลับมายังดาวของตนเองได้ แต่ชิ้นส่วนเหล่านั้นได้กระจัดกระจายไปตามดวงดาวต่างๆทั่วระบบสุริยะ และเชื่อว่าเทพแต่และองค์ก็ถูกผนึกอยู่ในดาวของตนอย่างเร้นลับ รอการปลดปล่อยจากผู้ที่มีอำนาจมากพอ หรือเราชาวภูตเรียกท่านผู้นั้นว่า ท่านผู้ถูกเลือก ปัจจุบันนี้ภูตประจำดาวจึงมีหน้าที่ดูแลดาวเหล่านั้นแทนท่านเทพเรื่อยมา.. และแน่นอนว่าชิ้นส่วนนั่นที่เธอพบ เป็นชิ้นส่วนของดาวคาร์มีที่หลงมายังดาวโลกและหน้าที่ของเธอซึ่งเป็นผู้ถูกเลือกก็คือ รวบรวมชิ้นส่วนที่เหลือให้ครบทั้ง 8 เพื่อปลดปล่อยเหล่าเทพ และเพื่อช่วยคืนชีพให้กับดาวคาร์มี เพื่อค้นหาท่านเทพคาร์นีรา เพื่อหาสิ่งที่พวกเทพเอลขโมยไปจากพวกเรา แอนเฟียร์ เจ้าจงพาเหล่าเทพกลับมา เพื่อความสงบสุขแห่งทวยราษฎร์ เพื่อระบบสุริยะของเรา  เพื่อกาแล็กซีของเรา............

     

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

    หลังจากหายไปหลายเดือน (หลายเดือนจริงๆ) ก็กลับมาอัพอีกครั้ง ตามการไล่จี้ตลอดปีของ คุณ ราชัน 5 5+  แล้วตอนที่ 2 ก็ออกมาปรากฏจนได้  เป็นอย่างไรบ้างคะ  ตอนนี้ก็พยายามเขียนอย่างเต็มที่เลย  จะแนะนำอะไรก็เชิญตามสบายเลยนะคะ     ขอบคุณมากค่ะ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×