คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 19 วางแผน
นี่คือวิกฤตแห่งการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์!
เอลวิสคิดถึงข้อมูลที่ได้รับมาช่างน่าตกใจจริงๆ แต่อย่างน้อยในครั้งนี้ยังเป็นแค่การโจมตีจากตัวตนที่อยู่ในแรงค์S หลายคนเท่านั้น
ต่อให้พวกเขาจะมีแรงค์ S หลายสิบคน แต่การจะกวาดล้างมนุษย์ยังคงทำได้ยากอยู่ แตกต่างกับเทพ หากตัวตนระดับเทพลงมือเผ่าพันธุ์มนุษย์จะหายไปในเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น
แต่เอาเข้าจริงนอกจากไปทำให้เทพขุนเคืองโดยตรงหรือพยายามกวาดล้างเผ่าพันธุ์ที่เทพปกครองอยู่ก็ยากที่จะมีเทพสักองค์จะลงมือด้วยตัวเอง
พระราชาจะไม่ลงจากบัลลังก์มาฆ่าขอทาน
เอลวิสนั่งคิดว่าจะทำอะไรต่อไป การเข้าร่วมสงครามของเขาในตอนนี้จะเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น แค่เศษสะเก็ดจากการปะทะกันของแรงค์ B คงจะทำให้เขาตายได้ง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงแรงค์ A หรือ S เลยด้วยซ้ำ
จะให้ไปรวมตัวกับคนอื่นที่ล่วงหน้าไปแล้วสองเดือนกว่าจะตามทันก็คงนาน เอลวิสเดาว่าพวกคนที่มีอำนาจคงใช้พลัง หรือสมบัติวิเศษอพยพคนไปไกลแล้ว
ส่วนเรื่องของเวลาที่หายไปสองเดือนเอลวิสเดาว่าเป็นเพราะ "กฎ" ที่ถูกแทรกแซงและปรับเปลี่ยนในหอสมุดนั้น
ตอนที่อยู่ในนั้นเอลวิสลืมกฎข้อสำคัญไปเลย
ไม่มีสิ่งใดฟรี มีเพียงการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมเท่านั้น
การที่เขาเข้าไปในที่แห่งนั้นสิ่งที่เขาจ่ายคงเป็น "เวลา"
สองวันเท่ากับสองเดือน หากอยู่สิบสองวันก็หนึ่งปี ความต่างหนึ่งร้อยเท่าช่างเป็นราคาที่สูงจนน่าใจหาย
น่าแปลกที่เรื่องนี้ไม่มีการบันทึกไว้เลย ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสำคัญ อย่างไรก็ตามตอนนี้สิ่งนั้นไม่ใช่ที่สำคัญที่สุด ตอนนี้สิ่งที่สำคัญจริงๆคือเขาควรจะไปไหน หากจะไปรวมกลุ่มกับมนุษย์คนอื่นก็ห่างออกไปเกือบหมื่นกิโลเมตร
หากให้เขาวิ่งไปเต็มที่คงใช้เวลาเดินทางเป็นหลักปีเป็นแน่
แต่ตอนนั้นคิดเรื่องนี้เอลวิสคิดเรื่องนึงขึ้นมาได้
"ทำไมต้องพามนุษย์ทุกคนไปด้วย?"
การพามนุษย์ทุกคนไปหมายถึงภาระด้านอาหารของคนหลักร้อยล้านคน นั้นไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถจัดการได้ง่ายๆ แม้จะดูโหดร้ายแต่การทิ้งคนส่วนมากไว้ย่อมจะดีกว่า
หรือมันจะมีความลับอะไรที่เอลวิสยังไม่รู้ และคนทั่วไปก็ไม่รู้กันแน่
ต่อให้เป็นนักบุญขนาดไหนการพาคนนับร้อยล้านไปซ่อนไว้ในที่ที่เดียวก็ยังดูแปลกมากเกินไป ทั้งอาหาร สุขภาพ และอื่นๆอีกมากที่ต้องดูแลพวกเขาเหล่านั้น
หากดูแลไม่ดีอาจเกิดจราจน ภาวะขาดแคลน หรือเกิดโรคระบาดได้เลย
เรื่องนี้มีความลับและเบื้องหลังมากกว่าที่เขาคิดซะแล้ว การอพยพครั้งนี้ดูท่าจะไม่ใช่การสมัครใจแต่เป็นการบังคับมากกว่าด้วย
อย่างไรก็ดีตอนนี้คิดไปก็ไม่มีประโยชน์ เทือกเขาหมื่นสรรหาอยู่ทางทิศเหนือห่างจากตัวเขาไปสามพันกิโลเมตร ไม่ต้องพูดถึงว่าจะเข้าร่วมสงครามได้ไหม แค่ไปให้ถึงยังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาในตอนนี้
ในส่วนของผู้คนที่อพยพกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ซี่งเป็นทางตรงข้ามของสงคราม ห่างจากสถานที่สู้รบคงประมาณกมื่นกิโลเมตร หรือห่างจากเอลวิสเจ็ดพันกว่ากิโล
การจะตามให้ทันดูเพ้อฝันนิดหน่อย การที่เคลื่อนที่ไกลและรวดเร็วขนาดนี้คงใช้เวทย์มนต์มิติเท่านั้นถึงจะรวดเร็วที่สุด อีกทั้งเอลวิสเดาว่าผู้คนส่วนใหญ่ก็คงเดินทางโดยใช้วิธีนี้
แต่ตอนนี้เขายังใช้มันไม่ได้ อำนาจและพลังเวทย์ของเขายังต่ำต้อยเกินไป การจะหาคนช่วยยิ่งยากเข้าไปใหญ่ การจะเจอคนสักคนว่ายากแล้วจะให้คนๆนั้นใช้เวทย์มนต์มิติระยะไกลขนาดนั้นได้คงยากยิ่งกว่า
มันโอกาสน้อยกว่าที่แรงค์Aสักคนจะถือกำเนิดใหม่ซะอีก
เท่าที่พิจารณาดูแล้วคงเหลือทางเลือกเดียวคือการไปที่เผ่าพันธุ์ครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห่างออกไปพันกิโลเมตรจากจุดที่เขาอยู่ แม้จะไกลและใช้เวลาเดินทางน่าจะร่วมเดือนแต่มันก็ปลอดภัยที่อยู่ห่างจากสงคราม
หากไม่นับเรื่องที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองเผ่าพันธุ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก เนื่องจากมนุษย์ชอบแอบลักลอบและเข้าไปลักพาตัวคนจากเผ่าครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์มาประมูลขายเป็นทาส
เผ่าครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์หรือเรียกสั้นๆว่าเผ่าครึ่งสัตว์นั้น มีลักษณะทางกายภาพคล้ายมนุษย์แต่มีหูหรือหางโผล่ออกมา แต่หูหรือหางนั้นจะไม่ได้ลักษณะพิเศษอื่นใดๆ นอกจากของสัตว์ชนิดนั้น
เช่นการที่มีหูของหมีก็ทำให้ฟังเสียงได้รอบด้านขึ้น ไม่ได้ช่วยให้แข็งแรงมากขึ้นหรืออะไร ไม่ได้มีความสามารถพิเศษของเผ่าพันธุ์อื่นๆ
เช่นเผ่าผีเสื้อประกายแสงที่เป็นเผ่าพันธุ์ระดับกลาง พวกเขาความสามารถพิเศษเกี่ยวข้องกับภาพมายา หลอกลวงผู้คนให้จมดิ่งไปสู่ภาพที่ไม่รู้จัก
แตกต่างจากเผ่าพันธุ์ครึ่งสัตว์ที่ได้ลักษณะทางกายภาพแต่ไม่ได้ความสามารถพิเศษมา
เหตุที่มนุษย์ชอบจับมาเป็นทาสเพราะรูปร่างที่ดูดีบ้าง หรือเพราะร่างกายที่จะถือว่าแข็งแรงกว่ามนุษย์ทั่วไป
การที่มนุษย์มีการจับเผ่าครึ่งสัตว์มาเป็นทาสเยอะ ทำให้เผ่าครึ่งสัตว์รวมตัวกันจนกลายเป็นเผ่าพันธุ์ได้ และทำข้อตกลงร่วมกัน แต่ก็ยังมีความเกลียดชังในอดีต และการที่ยังมีการลักลอบหรือลักพาตัวอยู่ ก็ทำให้สองเผ่าไม่ลงรอยกัน
การที่เอลวิสที่เป็นมนุษย์จะไปที่แห่งนั้นอาจเสี่ยงการถูกทำร้าย แต่ดีกว่าต้องตายคนเดียวกลางป่าโดยไม่ได้รับรู้ถึงข่าวสารภายนอกเลย
แต่ที่แห่งนั้นจะทำให้ได้รับข่าวสารเสมอๆ เมื่อไหร่ที่เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้วอาจไปช่วยในสงครามหรือไปรับแม่ของเขามาดูแลก็ได้หากเขาสามารถตั้งตัวได้แล้ว
ถึงจะเสี่ยงไปบ้างแต่น่าลองดู มันก็แค่ความขัดแย้งและอคติ คงไม่ถึงขั้นฆ่าแกงกันกลางเมืองหรอก
เอลวิสคิดแล้วตัดสินใจ นี่แหละคือแผนของเขา พรุ่งนี้ค่อยเริ่มออกเดินทาง วันนี้ก็พักผ่อนหรือฝึกฝนรวบรวมพลังเวทย์ไปก่อน การเดินทางครั้งนี้คงใช้เวลาเดือนหนึ่งพอดี เอลวิสหวังว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นสักสิบเท่าได้ เพื่อจะสามารถรับรองความปลอดภัยให้ตัวเอง
โลกนี้จะยืนหยัดได้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง จะรอหวังพึ่งใครไม่ได้ เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ดูแข็งแกร่ง ตัวตนแรงค์ S ที่ไกลเกินเอื้อมถึงเมื่อสองวันก่อนตอนนี้ทำได้แค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น
คิดแลัวยิ่งทำให้เอลวิสมีไฟในการพัฒนาความแข็งแกร่งมากขึ้น
ความคิดเห็น