คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14 ภูมิปัญญา
"เมื่อกี้ข้ากำลังคิดอยู่นะอะไรนะ......"
เอลวิสสงสัยอย่างมากภายในใจ เพียงแต่คิดเท่าไหร่ก็ไม่ออก ราวกับมีความทรงจำบางส่วนที่ถูกตัดให้แหว่งเว้าไปเลย
รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ขาดหายไปในความทรงจำ แต่เขาไม่รู้ว่าอะไรที่หายไป มันแค่รู้สึกเท่านั้น
หลังเหาะลอยอยู่ตรงนั้นชั่วครู่เอลวิสก็เลิกคิดต่อ มันเสียเวลาเกินไป การจะเข้าสถานที่นี้ไม่ใช่ทำได้ตลอดเวลา
แต่ก่อนจากไปเอลวิสลอยไปยังเท้าของรูปปั้นพร้อมกราบไหว้ไปครั้งนึง
นี่คือความเคารพต่อเทพ แต่ไม่ใช่การเคารพหรือจำนนต่อความแข็งแกร่ง เป็นการเคารพเพื่อขอบคุณสิ่งที่เทพแห่งปัญญาประทานให้หมื่นเผ่าพันธุ์ หากไม่มีหอสมุดนี้ ไม่รู้ว่าจะมีกี่เผ่าพันธุ์ที่ล่มสลายหรือกลายเป็นเพียงทาสให้กับเผ่าพันธุ์ที่อยู่สูงกว่า
ในส่วนระดับของเผ่าพันพันธุ์แบ่งคร่าวๆสามระดับ
หนึ่ง เผ่าพันธุ์ระดับต่ำ ไม่มีเทพเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่มีผู้ที่แข็งแกร่งสุดเป็นแรงค์ A~S
สอง เผ่าพันธุ์ระดับกลาง มีเทพหนึ่งองค์เป็นของตัวเอง และมีแรงค์ S หลายสิบคน
สาม เผ่าพันธุ์ระดับสูง มีเทพมากกว่าหนึ่งองค์ และมีแรงค์ S หลักร้อยคน
เห็นได้ชัดเลยว่าการที่เผ่าพันธุ์ที่สูงกว่าจะทำร้ายเผ่าพันธุ์ที่ต่ำกว่านั้นง่ายดายแค่ไหน ต่อให้เหล่าเทพไม่ได้ลงมือด้วยตัวเองก็ตาม
หากสังเกตุเผ่ามนุษย์เอง ที่จริงก็มีแรงค์ S ประมาณ 4 คน หากนับประธานสมาคมกิลล์นักผจญภัย และจักรพรรดิของอาณาจักรข้างเคียง
ใช่แล้ว! นอกจากอาณาจักรของอครีวึยที่เอลวิสอยู่ ยังมีอาณาจักรอีกอาณาจักรของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อาศัยอยู่ติดกัน จักรพรรดิทั้งสองคนล้วนมีพลังระดับแรงค์ S ทั้งสิ้น
หากว่ากันตามตรง เปรียบเทียบดูจากพลังรบโดยรวมของเผ่าพันธุ์มนุษย์อาจเทียบเคียงกับเผ่าพันธุ์ระดับกลางที่อ่อนแอได้ด้วยซ้ำ
แต่ที่มนุษย์ยังเป็นเผ่าพันธุ์ระดับต่ำเพียงเพราะพวกเขาขาดซึ่งผู้นำ ขาดซึ่ง"เทพ" ผู้จะเป็นศูนย์กลางให้กับพวกเขา และหากยังไม่มีเทพเป็นของตัวเอง วันไหนมีเทพสักองค์เกิดไม่พอใจที่พวกเขายกตนมาเสมอ พวกเขาอาจสิ้นเผ่าพันธุ์เพราะการโจมตีเดียวของเทพองค์นั้นก็ได้
ต่อให้แรงค์ S หลายร้อยคนจะรวมตัวกันห่ำหั่นกับเทพมันก็ยังเหมือนกับฝูงมดพยายามทำร้ายยักที่สูงหลายร้อยเมตร ช่องว่างห่างกันเกินไป
กลับมาที่เอลวิสหลังทำความเคารพรูปปั้นเทพแห่งปัญญาเสร็จ เขาเหาะไปอ่านหนังสือโดยรอบนั้น หลังจากอ่านผ่านตามาระดับนึงมีหนังสือมากมายที่น่าสนใจ แต่บางเล่มก็ชวนผู้คนให้คิดว่าจะเขียนมันขึ้นมาทำไม
"ร้อยแปดวิธีพิชิตใจวิซาร์ตสาว"
"หกสิบสี่วิธีแก้เชือกที่พันหาง"
"มหาโลกเซเลนเทียกลมหรือแบน"
เอลวิสได้แต่คิดและสงสัยเล็กๆภายในใจ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงหยิบหนังสือบางเล่มที่น่าสนใจขึ้นมาอ่าน ไม่ว่าจะเป็น "ความรู้ทั่วไปของมหาโลกเซเลนเทีย" "จุดเด่นของหมื่นเผ่าพันธุ์" หรือ "ตำนานทวยเทพแห่งปฐมต้นกำเนิด" ซึ่งแต่ละเล่มมีความหนาหลายพันหน้าทีเดียวอแค่ขนาดของหนังสือก็สูงและใหญ่กว่าตัวของเอลวิสแล้ว
เขานั่งอ่านมันอย่างไม่รู้เวลา เขานอนอ่านบ้าง ลอยไปบนอากาศเพื่ออ่านบ้าง ตลอดเวลาที่เขาอ่านนั้นไม่มีใครเข้ามาหาเรื่องหรือทำให้เขาเสียสมาธิ อาจจะเพราะด้วยตัวตนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในเผ่าพันธุ์ระดับต่ำนับว่าเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว
หลังจากอ่านมาสักพักนึงเขาสรุปได้ว่าความรู้ทั่วไปของมหาโลกนั้นคือ การบอกถึงลักษณะภูมิประเทศของทวีปต่างๆ หรือความกว้างใหญ่ของโลกใบนี้ก็ตาม
มหาโลกเซเลนเทียแห่งนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางหลายร้อยล้านกิโลเมตร มีมหาทวีปสี่แห่ง และทวีปหยิบย่อยหลายสิบแห่ง
เผ่ามนุษย์ตั้งอยู่ในมหาทวีปอินโฟสเทีย มหาทวีปที่โดดเด่นในด้านการใช้เวทย์มนต์ไฟที่รุนแรงกว่าใครในมหาทวีปอื่น มหาทวีปทั้งสี่ เป็นสี่ตัวแทนของธาตุ
เพราะงั้นแต่ละมหาทวีปจึงมีจุดเด่นต่างกัน และมักจะไม่ลงรอยกันด้วย
แม้เทพจะทรงอำนาจ แต่มหาโลกก็คือผู้ที่ประทานพลังให้เทพ เพราะงั้นเทพจึงอยู่ภายใต้กฎของโลก แม้จะมีกฎบางข้อที่เทพที่แข็งแรงสามารถแทรกแซงได้ก็ตาม แต่กฎบางข้อก็แข็งแกร่งเกินกว่าจะแทรงแซงได้ เทพจึงอำนวยพรหรือประทานอำนาจให้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองได้อย่างมีขีดกำจัด ไม่งั้นเผ่าพันธุ์ที่มีเทพจะไม่สร้างตัวตนระดับ S นับหมื่นแล้วหรอ? สำหรับมหาโลกนั้นคือความวุ่นวายที่ไร้สิ้นสุด จึงมีกฎที่จำกัดอำนาจในส่วนนี้ของเทพไว้
เหล่าเทพส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่กับเผ่าพันธุ์ของตัวเอง แต่รวมตัวกันอยู่บนต้นไม้ที่เป็นแกนกลางของโลกใบนี้ ตั้งอยู่กึ่งกลางของมหาทวีปทั้งสี่
มหาพฤกษาเซเลนเทีย!
สิ่งนี้แก่นกลางของมหาโลกทั้งใบ ทวยเทพก็อาศัยพลังจากแก่นกลางของมัน หรือกล่าวในอีกนัยนึงได้ว่า หากแกนกลางของมหาพฤกษานี้ตายกรือหายไป ทวพเทพก็จะหายไปด้วย แม้กระทั้งมหาโลกก็จะเสื่อมโทรมกลายเป็นเพียงโลกระดับต่ำเท่านั้น
แต่การจะเข้าไปทำลายมหาพฤกษาก็เป็นเรื่องที่โง่เขลาอย่างมาก แม้กระทั่งความคิดยังเป็นไปไม่ได้เลย เพราะการจะเข้าไปได้นั้นมันหมายความว่าจะต้องทะลวงฝ่าเทพนับร้อยที่ร่วมมือกันเพื่อกำจัดผู้บุกรุก
แม้กระทั่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่สามารถรับมือเทพร้อยองค์พร้อมกันได้
ข้อมูลคร่าวๆของความรู้ทั่วไปของมหาโลก ก็มีประมาณนี้ ข้อมูลหยิบย่อยที่ไม่ได้ใช้งานเอลวิสไม่ได้ใส่ใจ เพราะอย่างไรก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว จำไปมีแต่เสียเวลาเท่านั้น
ส่วนของ"จุดเด่นของหมื่นเผ่าพันธุ์"นั้น เขาจำมันพอได้บ้างแล้ว พอถึงเวลาจริงคงได้ใช้ มันคือการบอกจุดเด่นของเผ่าพันธุ์ต่างๆตามที่ปกของมันเขียนไว้นั้นแหละ
แต่หนังสือเล่มสุดท้ายคือสิ่งที่น่าพิศวงที่สุด มันเขียนด้วยตัวอักษรที่เอลวิสไม่รู้จัก ตัวอักษรเหล่านั้นให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่ง โบราณ และน่ายำเกรง ต้องรู้ว่าโลกใบนี้ใช้ภาษาและอักษรร่วมกันทั้งมหาโลก เป็นภาษาที่มหาโลกประทานให้เมื่อครั้งที่ทุกเผ่าพันธุ์ยังอ่อนแอ ภาษานี้จึงแปลกประหลาด
แต่เอลวิสได้รู้ความลับนึงมาจากหนังสือ "ความรู้ทั่วไปของมหาโลก" ว่า แท้จริงแล้วมหาโลกไม่ได้มีเพียงหนึ่งภาษา แต่ภาษาที่สองคือภาษาที่เหล่าเทพใช้สื่อสารกัน สิ่งมีชีวิตที่ต่ำกว่าจึงไม่มีสิทธิ์ไปเรียนรู้ มีเพียงการเข้าถึงการเป็นเทพจึงจะเข้าใจและจะใช้หรืออ่านมันได้
เอลวิสตั้งปณิธาณสักวันเขาจะกลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้ เขานำมันกลับไปเก็บที่เดิมก่อนเหาะทะยานหาหนังสือเล่มต่อไป
ความคิดเห็น