ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Elvis Magic world) เซียนต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 เจ้าหญิง

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 66


    "ข้าจะจำชื่อของเจ้าไว้ เอลวิส เฮลฟอร์ด"

     

    หลังเจ้าชายองค์ที่สี่เดินลับหายไป ทั้งหมดก็เริ่มเดินต่ออีกครั้ง แต่ในครั้งนี้บทพูดของโอลิเวอร์พูดถึงองค์ชายสี่มากขึ้น มันทำให้เอลวิสสนใจเป็นพิเศษ

     

    "มอร์แกน เจ้ารู้รึเปล่าว่าเจ้าชายสี่เนี่ยพิเศษกว่าใครในสายเลือดราชวงศ์รุ่นนี้เลยนะ"

     

    "โอ้ ทำไมละ?" มอร์แกนตอบกลับอย่างยิ้มๆ

     

    "ก็เพราะเจ้าชายสี่เขาเป็นอัจฉริยะนะสิ ตอนเขาวัดคุณสมบัติ เจ้าชายสี่มีพลังเวทย์ในร่างถึงแรงค์B ได้ธาตุแสงเป็นธาตุประจำตัว อีกทั้งการทดสอบสุดท้ายยังบอกได้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะด้านความเข้าใจในเวทย์มนต์เลยแหละ!"

     

    โอลิเวอร์พูดพร้อมยืดอย่างภาคภูมิใจ ราวกับว่าองค์ชายสี่เป็นลูกของเขาเอง

     

    มอร์แกนทำเพียงยิ้มเท่านั้น ก่อนถามต่อไป

     

    "ถ้าแค่นี้คงเรียกว่าอัจฉริยะขนาดนั้นไม่ได้หรอกมั้ง มีอะไรที่ยังไม่ได้พูดก็พูดมาเถอะ"

     

    "มอร์แกนเจ้านี่ข่างอ่านข้าออกจริงๆ 555 ตามจริงแลัวนั้นคุณสมบัติที่เจ้าได้ยินนั้นคือก่อนที่พลังจะ'ตื่น' ขึ้นนะ"

     

    เมื่อได้ยินในครั้งนี้มอร์แกนไม่ได้ยิ้มอีกแล้วสีหน้าเขาแสดงถึงความตกตะลึง! นี่คือขนาดพลังยังไม่ตื่นอีกหรอ?

     

    ต้องรู้ก่อนว่าพลังเวทย์ในร่างกายของมนุษย์ถูกแบ่งเป็นสองช่วง หนึ่งคือการที่พลังเวทย์ถูกปลุกขึ้นมา และครั้งที่สองหรือเรียกกันว่าการตื่นอย่างแท้จริง 

     

    ครั้งแรกนี้จะเกิดขึ้นตอนอายุ 10 ขวบ ซึ่งก็ถือเป็นการบอกด้วยว่าคนๆนั้นจะสามารถใช้เวทย์มนต์ได้ไหม

     

    ส่วนการตื่นอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นตอนไหนระบุไม่ได้ เกิดขึ้นตามแต่วาสนาหรือความพอใจของทวยเทพ บางคนก็เกิดขึ้นพร้อมกับครั้งแรก บางคนไม่เกิดเลยตลอดชีวิตก็มี แต่ส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงอายุ 15-25ปี หากเกินกว่านี้ต้องเป็นคนที่พิเศษสุดๆเท่านั้น

     

    อย่างไรก็ตามในครั้งแรกนั้นมันจะบ่งบอกถึงศักยภาพที่แฝงอยู่ภายใน หากได้พลังเวทย์สูงตั้งแต่ครั้งแรกนี้ เมื่อการตื่นอย่างแท้จริงมาถึงความแข็งแกร่งก็จะทรงพลังมากขึ้น เช่นครั้งแรกได้แรงค์ D หรือ C ตอนที่พลังตื่นอย่างแท้จริงอาจถูกกระตุ้นให้พลังเลื่อนไป1-2ระดับ แต่นั้นก็คือโชคดีมาก คนทั่วไปจะเลื่อนแค่1ระดับหรือไม่ขยับเลย

     

    คนทั่วไปที่ไร้พรสวรรค์มักจะได้รับแรงค์ F ในครั้งแรก และก็มักจะไม่เพิ่มขึ้น จะมีผู้โชคดีเพียงหนึ่งในพันเท่านั้นที่พลังจะเพิ่มขึ้นสักระดับ

     

    คนที่เริ่มต้นด้วยระดับ D ยิ่งหายาก และยากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ

     

    ว่ากันว่าคนที่ได้ระดับ A ในครั้งแรกนั้น เมื่อพลังของพวกเขาตื่นขึ้นอย่างแท้จริงระดับของพวกเขาคือแรงค์Sอย่างแน่นอน

     

    แรงค์S! ระดับที่เป็นตำนาน!

     

    แต่คนที่ได้แรงค์Aตั้งแต่การทดสอบครั้งแรกนั้นคือเรื่องราวเมื่อสองร้อยปีก่อน ตอนนั้นเรียกได้ว่า เมื่อผลการทดสอบกระจายออกไป มันได้สร้างความโกลาหลให้กับมนุษย์ทั้งทวีป

     

    เผ่าพันธุ์มนุษย์มีแรงค์Sไม่เท่าจำนวนนิ้วบนมือข้างเดียวด้วยซ้ำ เพราะแบบนั้นตัวตนระดับนั้นถึงเป็นตำนาน

     

    ที่มอร์แกนตกใจเป็นเพราะการที่องค์ชายสี่มีพลังเวทย์ถึงแรงค์Bตั้งแต่ตอนนี้กล่าวอีกนัยคือเขามีโอกาสที่จะเลื่อนเข้าสู่แรงค์S! โอกาสอาจจะเป็นแค่หนึ่งในล้านหรือ 0.0001% แต่โอกาสแค่นี้ก็มากพอให้ผู้คนหวาดกลัว 

     

    โอกาสก็คือโอกาส อีกทั้งมันคือการรับประกันว่าองค์ชายสี่แทบจะเป็นแรงค์Aแน่นอนในอนาคต แค่นี้ก็น่ากลัวมากแล้ว ธาตุประจำตัวขององค์ชายสี่ยังเป็นธาตุแสงที่เป็นธาตุพิเศษอีก

     

    ยามใดที่เขาก้าวสู่แรงค์A เขาจะสามารถบดขยี้ผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันได้อย่างไม่ยากเย็น เว้นแต่คนผู้นั้นจะครอบครองธาตุพิเศษเหมือนกัน

     

    พรสวรรค์ที่มากมายแบบนี้ทำให้ผู้คนทั่วหล้าต้องอิจฉาจนแทบคลั่งตาย

     

    เอลวิสฟังเข้าก็ตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าคนที่พึ่งเดินผ่านเขาไปนั้นจะทรงพลังมากมายขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้เลิศด้วยพรสวรรค์อย่างแท้จริง

     

    เขาแอบคิดว่าการผูกมิตรกับองค์ชายคนนี้ไว้ย่อมไม่เสียหายอะไร

     

    การมีสหายที่เก่งกาจ ดีกว่ามีศัตรูที่แข็งกล้า

     

    ทั้งสามคนเดินไปเรื่อยๆ ตลอดทางโอลิเวอร์ก็ยังคงพูดโม้อย่างไม่หยุด มีเสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังออกมาให้เอลวิสได้ยินตลอดทางที่เดิน

     

    จนเดินมาได้อีกสักระยะนึง เอลวิสพบเด็กหญิงคนนึงกำลังเดินสวนทางมากับเขา ข้างหลังมีองครักษ์แบบที่องค์ชายสี่มี

     

    'อย่าบอกนะว่า?'

     

    ไม่นานเกินไป ความคิดของเอลวิสก็ได้รับการยืนยัน มอร์แกนและโอลิเวอร์คุกเข่าลุกกับพื้นทำความเคารพ พร้อมเปล่งเสียงออกมาพร้อมกัน

     

    "น้อมเคารพเจ้าหญิง"

    "น้อมเคารพเจ้าหญิง"

     

    เจ้าหญิง! ในอาณาจักรอครีเวียมีเจ้าชายและเจ้าหญิงรวมกัน5คน สี่คนแรกเป็นเจ้าชาย คนสุดท้องเป็นเจ้าหญิงจึงเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิเป็นอย่างมาก 

     

    เอลวิสไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาแค่มาทดสอบคุณสมบัติเวทย์มนต์จะทำให้เขาเจอผู้มีเชื้อสายราชวงศ์ถึงสองคนในวันเดียว!

     

    แต่ถึงจะประหลาดใจเขาก็ไม่ได้เสียมารยาท ทำการโค้งตัวทำความเคารพแบบเดียวกับที่ทำกับองค์ชายสี่

     

    เจ้าหญิงผู้นี้มีอายุที่ใกล้เคียงกับเขามาก เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีอายุเท่ากัน รูปร่างสมส่วนดูดีมีความน่ารัก สวมชุดกระโปรงสีชมพูดแต่งแต้มด้วยลวดลายสีแดงและทองผสมกัน ทั้งชุดถูกประดับไปด้วยสิ่งของเลอค่าเช่นเพชรพลอย หรือมณี

     

    ผมของเธอมีสีทองอ่อนคล้ายกับองค์ชายสี่ก่อนหน้านี้ ดวงตาทั้งสองข้างมีสีแดงอัญมณี ราวกับดวงตาสองข้างนั้นคือเพชรมณีที่สวยงามที่สุดเท่าที่โลกจะให้กำเนิดได้ เมื่อผู้ใดจ้องมันหรือโดนดวงตาสองข้างนั้นจดจ้อง ช่างทำให้ราวกับตกอยู่ในมนต์บางอย่าง

     

    การพบเจอเธอทำให้ผู้คนหลงละเมอคิดว่านี่คือความฝัน

     

    ขนาดเอลวิสเองหัวใจเขายังเหมือนหยุดเต้นไปชั่ววินาทีนึง ลมหายใจยังต้องขาดช่วง สติราวกับหลุดลอยไปจากตัวของเขา

     

    อย่างไรก็ตามภายในหนึ่งวินาทีที่สติหายไป มันก็กลับมาทันที ดวงตาของเอลวิสหรี่ลงเล็กน้อย สติของเขาเฉียบคมขึ้น ห้วงความคิดถูกตรึงแน่นไม่ให้ไปหลงยึดกับรูปลักษณ์ภายนอกขององค์หญิงผู้นี้

     

     

    องค์หญิงคนนั้นมองมาทางเอลวิสอย่างสนใจ เธอยิ้มมุมปากแล้วเดินผ่านไป

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×