“..ฟิคเรื่องนี้จะมีดราม่าจริงๆหรอ?”
ภาพจองกุกกำลังหักคอผู้ชายสองคนในคราเดียวที่ฉายชัดอยู่ตรงหน้าทำเอาผมอ้าปากค้าง เลือดสีแดงสดไหลลงมาอาบพื้นราวกับสายนํ้าจนกลายเป็นสีแดงน่ากลัว เสียงกรีดร้องโหยหวนของพวกเขาทำเอาผมรู้สึกกลัวไปด้วย —ตอนนี้สีหน้าของจองกุกไม่มีความปรานีอยู่เลยสักนิด มันมีแต่ความเย็นชาอำมหิตที่แฝงไปด้วยไอสังหารของมัจจุราชจนไม่เหลือคราบผู้ชายหื่นกามที่ชอบแกล้งเมียนั่นแล้ว
ใครก็ได้บอกทีว่านี่ก็แค่ฝันร้าย..
ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังมีสีหน้าแบบไหน ไม่รู้ด้วยซํ้าว่ากำลังตกใจหรือกลัวมากกว่ากัน บอกตามตรงว่าตอนนี้ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดใดๆได้อีกแล้ว —มันเต็มไปด้วยความตกใจ สับสน หวาดกลัวและตื่นตระหนกจนสติแตกกระเจิงไปหมดแล้ว ก็รู้อยู่หรอกนะว่าจองกุกหึงโหดแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดว่าจะโหดถึงขั้นฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นขนาดนี้..
..นี่ใช่จอนจองกุกผัวสุดที่รักของกูจริงๆเหรอ ทำไมถึงได้โหดสัสรัฐเซียอย่างกับในหนังซอมบี้เลือดสาดขนาดนี้วะ
ถึงจองกุกจะมีพลังเหนือกว่าทุกคนบนโลกที่ผมเคยเจอ และบางครั้งอาจจะบ้าพลังมากเกินจนดูโหดไปหน่อย แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่อ่อนโยนกับแฟนมากๆคนหนึ่ง คอยตามใจและดูแลเอาใจใส่ไม่มีบกพร่องครบสูตรพระเอกฟิคสุดเพอร์เฟ็ค เขาไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้เลยด้วยซํ้า
จองกุกค่อยๆหันหน้ามาสบตากับผมด้วยสีหน้าที่ไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ เขาเดินข้ามร่างไร้ชีวิตสามศพที่ตัวเองเพิ่งฆ่าไปหมาดๆราวกับมันเป็นขยะไร้ค่า แล้วมาหยุดตรงหน้าผมที่กำลังนั่งขดตัวอยู่ด้วยสายตาเฉยชาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนผมนึกกลัว —มันเย็นชามากราวกับว่า...ไม่ได้รักผมเลย
นี่ไม่ใช่จองกุกที่ผมรู้จัก..
ที่ผ่านมาจองกุกจะมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักราวกับว่าเป็นโลกทั้งใบของเขา ดวงตากลมๆเหมือนกระต่ายที่เหมือนจะใสซื่อน่ารักแต่กลับบ้ากามคู่นั้นมักจะมองมาอย่างรักใคร่เสมอ เขาไม่เคยใช้สายตาที่เยือกเย็นขนาดนี้มาก่อน แม้แต่เวลาโกรธหรือหึงมากๆ จองกุกก็ไม่เคยมองผมด้วยสีหน้าที่มีแต่ความเย็นชาและแข็งกร้าว...ราวกับว่าไม่ได้รักกันเลยสักนิดแบบนี้
และผมเกลียดสายตาแบบนี้ที่สุด..
'หมับ!'
“อ๊ะ!” ร้องออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อจองกุกใช้มือข้างหนึ่งที่ผมจับประจำบีบคอผมไว้อย่างไม่ออมแรงสักนิดราวกับจะฆ่ากันให้ตาย ก่อนจะออกแรงยกขึ้นจนร่างบางลอยเหนือพื้น ใบหน้าผมบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดบริเวณลำคอที่อาจแหลกสลายคามืออีกฝ่ายได้ในทุกนาทีในขณะที่จองกุกยังคงมีสีหน้าเฉยชาราวกับไม่รู้สึกอะไรเลย ฝ่ามือเรียวสีนํ้าผึ้งสั่นๆทั้งสองข้างค่อยๆยกขึ้นมาวางบนหลังมือหนาที่กำลังทำร้ายตัวเองไว้ การหายใจทำได้อย่างยากลำบากเมื่อต้องถูกบีบคอไว้ในสภาพนี้
นี่ไม่ใช่จองกุก...เขาไม่มีวันทำร้ายผมแน่
ผมรู้สึกเหมือนมีของเหลวอุ่นๆค่อยๆไหลออกจากดวงตาลงมาอาบแก้มตัวเองไว้ —ที่ร้องไห้ไม่ใช่เพราะความกลัวตายหรือความเจ็บ แต่เป็นเพราะผมเกลียดสายตาไร้ความรักแบบนั้นของอีกฝ่ายที่ตอกยํ้าความกลัวที่อยู่ลึกที่สุดในก้นบึ้งหัวใจ
กลัวว่าสักวันนึง...จองกุกจะหมดรักผมไป
“ฮึก ม..มึงจะทำร้ายกูยังไงก็ได้ จะฆ่าหมกท่อกูก็ได้”
“.............”
“แต่ขอร้อง ฮึก..อย่ามองกูด้วยสายตาเย็นชาแบบนี้ได้มั้ย..”
ทันทีที่ผมพูดจบ สีหน้าของจองกุกก็เปลี่ยนไปทันใด มันไม่ได้ดูน่ากลัวโหดเหี้ยมแบบเมื่อกี้แต่กลับเต็มไปด้วยความตกใจสุดขีด เขาเบิกตากว้างแล้วปล่อยผมลงโดยอัตโนมัติจนร่วงลงไปกระแทกกับพื้น
“โอ๊ย!” อีกฝ่ายมีท่าทีตกใจเมื่อเห็นผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ ผมไอออกมาอีกสองสามครั้งแล้วโกยอากาศเข้าปอดให้มากที่สุดจนแผ่นอกกระเพื่อมขึ้นลง สายตาของจองกุกเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วง เขาทำท่าจะเข้ามาช่วยพยุงแต่ก็หยุดตัวเองไว้ทันทีที่เห็นรอยแดงเถือกบนคอผมที่เป็นฝีมือของเขาเอง ผมจึงเป็นฝ่ายพยายามคลานลากสังขารเข้าไปหาแทนแต่กลับโดนคนตรงหน้าตวาดใส่
“อย่าเข้าใกล้กู!” จองกุกเม้มปากแน่น แววตาสั่นไหวไปด้วยความตื่นตระหนกและสับสน เขามองซากศพที่กองอยู่บนพื้นสลับกับมองหน้าผมด้วยตาที่เบิกกว้างอย่างกระวนกระวายและสับสนราวกับเพิ่งได้สติว่าตัวเองเพิ่งทำอะไรลงไป ก่อนจะหันมาสบตากับผมด้วยสายตาที่มีแต่ความเจ็บปวดแล้วค่อยๆถอยหลังไปสองสามก้าว
“นี่กู...ทำร้ายมึงหรอ”
นํ้าตาลูกผู้ชายของจองกุกที่ผมไม่เคยเห็นกำลังไหลลงมาอาบแก้ม สีหน้ามีแต่ความโศกเศร้าและรู้สึกผิดของอีกฝ่ายกำลังทิ่มแทงหัวใจผมซํ้าๆอย่างไม่ปรานี
ตลอดเวลาที่รู้จักกัน จองกุกไม่เคยดูเสียใจและเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้ง..
ผมไม่ชอบเวลาอีกฝ่ายใช้สายตาเย็นชาก็จริง —แต่กลับเกลียดสายตาที่เต็มไปด้วยเจ็บปวดแบบนี้ยิ่งกว่า
“จองกุก..” ขาเรียวที่แทบไม่เหลือแรงทั้งสองข้างพยายามฝืนพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างโซซัดโซเซ แล้วค่อยๆก้าวออกไปหมายจะเข้าไปกอดคนรักที่เพิ่งจะทำร้ายตัวเองไปแต่กลับโดนห้ามไว้อีกครั้ง
“บอกว่าเข้าใกล้กูไง!!” จองกุกตวาดออกมาอย่างเดือดดาลจนผมสะดุ้ง ใบหน้าของชายที่ผมรักสุดหัวใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจนผมรู้สึกทรมานไปด้วย “กูไม่อยากทำร้ายมึง ขอร้อง...อย่าเข้าใกล้กูอีกเลยนะ”
หึ...อย่าเข้าใกล้หรอ นี่จองกุกไม่รู้เลยรึไงว่าผมไม่มีวันทำแบบนั้นได้ —น่าขำสิ้นดี
ผมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วกลั้นใจเดินหน้าต่อไป แต่ไม่ทันที่ผมจะได้เข้าใกล้อีกฝ่าย ความรู้สึกปวดแผลตามเนื้อตัวที่ออกฤทธิ์ขึ้นเรื่อยๆตามเวลาก็ทำเอาผมเข่าทรุดแล้วล้มลงไปกองกับพื้นเย็นๆที่เต็มไปด้วยคราบเลือดเหม็นคาว แม้ว่าสายตาจะเริ่มพร่าเลือนเข้าไปทุกทีแต่ผมก็ยังใช้แรงเฮือกสุดท้ายพยายามคลานกระดึ๊บๆเข้าไปหาจองกุกเหมือนหนอนใกล้ตาย “ถ้าไม่อยากทำร้ายกู...ก็อย่าหนีกูไปสิ”
“.............”
“ถ้าไม่มีมึง ฮึก..แล้วกูจะอยู่ได้ยังไง”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่ผมจะหมดสติไป..
“อ๊ะ! ชิมชิม แทแทรู้สึกตัวแล้วค่ะซิส!!”
“เห้ยย! จริงดิฮยอง!? โอ๊ยยย ขอบคุณสวรรค์! ในที่สุดมันก็ตื่นซะที!”
ผมค่อยๆเปิดตาตาขึ้นมาช้าๆด้วยความวิงเวียน สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานห้องตัวเองและซอกจินฮยองกับไอ้จีมที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความดีใจอยู่ข้างเตียงราวกับถูกหวย —ดูเหมือนว่าพวกเขาจะดีใจกันมากเหลือเกินที่เห็นผมตื่น คงจะเป็นห่วงกูกันมากล่ะสิท่า ฮรึกกก มันน่าซาบซึ้งตรึงใจยิ่งนัก ㅠㅠ
“รู้มั้ยแทฮยอง ฮรึกกก ว่าตลอดสองคืนที่มึงหลับเหมือนควายจำศีล ฮรึกก..พวกกูต้องทรมานขนาดไหน” ไอ้จีมที่กำลังใช้ทิชชู่ซับนํ้าตาบนหน้าตัวเองเอ่ยขึ้นพลางส่งเสียงสะอื้นไปด้วย —ผมเพิ่งสังเกตว่าขอบตาของเพื่อนเลวมันดำผิดปกติ สภาพของมันในตอนนี้ดูกระเซอะกระเซิงเหมือนซากหมูอืดๆที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาหลายร้อยปี
จินฮยองพยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ “ยูรู้มั้ยว่าพวกไอถึงกับต้องซื้อที่อุดหูมาใส่เลยทีเดียว เสียงครางยูมันดังทากๆ”
ด..เดี๋ยวนะ
มันคงไม่ใช่อย่างที่กูคิดหรอกใช่มั้ย..
ผมหัวเราะแห้งๆพร้อมขมวดคิ้วราวกับจับใจความไม่ถูก “ม..หมายความไงอ่ะ”
“ก็มึงน่ะสิไอ้แท! นอนละเมอแล้วเอาแต่คราง 'จองกุกๆๆ ซี้ดดด! เสียวจังเลย อ๊าห์ๆๆ กระแทกแรงอีกสิคะผัวขา อื้มมม อ๊ะๆๆ ซี้ดดๆ—”
'หมับ!'
“กรี๊ดดดด!! หุบปากเดี๋ยวนี้นะโว้ยย!!” รู้ตัวอีกทีก็กระโดดลงจากเตียงแล้วตะครุบปิดปากหมาๆของเพื่อนเวรก่อนจะกรี๊ดอัดหูมันทันที คือบั่บบ โอ๊ยยย! นี่กูครางได้อุบาทว์ขนาดนั้นเลยหรอวะ ทำไมมันทุเรศงี้วะเนี่ยย!? แม่งน่าอับอายสุดไรสุดอ่ะ ฮรือออ อยากจิแทรกแผ่นดินหนีไปอยู่กับพวกไส้เดือนชิบหายเลย ฮรึกกก ㅠㅠ
“ไม่ต้องกังวลหรอกนะแทแท เสียงครางยูไม่ได้ลั่นบ้านสะเทือนบกขนาดนั้นหรอก —ห้องยูเก็บเสียง พวกไอก็ได้ยินไม่ชัดแต่มันก็ทำให้นอนไม่หลับกันเลยสักนิด เพราะพวกไอเอาแต่จินตนาการกันถึงความฝันของยูว่ากำลังเอากับจองกุกท่าไหนอยู่ คือบั่บบ! งื้อออ แค่คิดก็ฟินเฟร่อแล้วอ่ะข่ะซิส!” คุณพี่สะใภ้บิดไปบิดมาด้วยความฟินกับการมโนของตัวเองเหมือนผู้ป่วยโรงพยาบาลบ้า ก่อนจะชี้มาที่ผมอย่างคาดโทษ
“แต่เป็นเพราะยูเอาแต่ครางแท้ๆ ดูสิ! ขอบตาสวยๆของไอกลายเป็นหมีแพนด้าไปแล้วเห็นมะ!? —แต่ก็ดีแล้วล่ะทียูตื่นแล้ว ไอกับชิมชิมจะได้มีเวลานอนหลับกันซะที”
..สรุปคือสาเหตุที่สองคนนี้มันร้องไห้ฟูมฟายกันเหมือนหมาโดนเหยียบหางก็ไม่ใช่เพราะมันดีใจที่ผมดีขึ้นแล้ว —แต่มันดีใจที่จะไม่ต้องได้ยินเสียงครางอันน่ารบกวนของกูต่างหากใช่ปะ ฮรึกกก ไอ้สัด! เอาความซาบซึ้งของกูเมื่อกี้กลับม๊าา! ㅠㅠ
“..แต่จองกุกคงจะเด็ดจริงๆ ยูถึงได้หมกมุ่นกับเรื่องแบบนี้จนถึงกับละเมอออกมาได้ขนาดนั้น เห้ออ ไออิจฉาเลยนะเนี่ย”
ไม่ทันที่ผมจะได้เถียงคุณพี่สะใภ้ที่กำลังบิดไปบิดมาอย่างเขินอายอยู่ด้วยความเคลิบเคลิ้มเหมือนคนบ้า สกิลปากหมาของไอ้หมูแคระก็ทำงานขึ้นมาซะก่อน “ของมันแน่อยู่แล้วฮยอง! ก็ไอ้แทกับจองกุกแม่งเอากันทุกคืนแบบนั้น ไม่แปลกหรอกที่เมียมันจะรู้สึกหมกมุ่นจนเสพติดเซ็กส์ไปแล้ว :)” กรี๊ดดด!ๆๆ อย่าพูดเหมือนกูเป็นคนหื่นกามแบบนั้นนะโว้ยอีเพื่อนเล๊วว!!
ผมทำหน้าเบ้เมื่อเห็นไอ้จีมกับจินฮยองหัวเราะคิกคักกันด้วยรอยยิ้มชั่วๆ —คิมแทกำลังจะอ้าปากด่าอยู่แล้ว แต่กลับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ซะก่อน
“กุกกี้อยู่ไหนอ่ะ” เพราะตอนนี้เป็นเวลากลางวัน ผมจึงถามหากุกกี้แทนที่จะเป็นจองกุก —จำได้ว่าวันก่อนน้องยังงอนผมอยู่ สงสัยงานนี้คงต้องง้อกันยาวแน่ๆ ฮรึกกก ㅠㅠ
รอยยิ้มกรุ้มกริ่มของเพื่อนเลวกับพี่สะใภ้หายไปทันทีที่ได้ยินคำถามนี้ พวกเขามองหน้ากันแวบนึงแล้วหัวเราะออกมาแห้งๆเพื่อกลบเกลื่อนอะไรบางอย่าง
แม่งโคตรมีพิรุธ...คิมแทสัมผัสได้
“โอ๊ะ! ไอ้แทดูสิ วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าล่ะ!” นิ้วป้อมๆของจีมินชี้ไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจราวกับตลอดชีวิตนี้แม่งไม่เคยท้องฟ้ามาก่อนจนกูต้องตบหน้าผาก —คือบั่บบ โอ๊ยย! ก็รู้อยู่หรอกนะว่ามันกำลังพยายามเปลี่ยนเรื่อง แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้มันเนียนกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง!!? (#`Д´)ノ
ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเลือกที่จะเปลี่ยนเป้าหมายแทน “จินฮยองครับ...ตอบคำถามแทมา”
สายตาผมที่จิกกำลังกดดันอีกฝ่ายสุดฤทธิ์ทำเอาคุณพี่สะใภ้ถึงกับไปไม่เป็น เขามีท่าทีอึกอักและกระวนกระวายอยู่พักหนึ่ง ไอ้จีมส่ายหน้าให้จินฮยองรัวๆด้วยสีหน้าอ้อนวอนราวกับเป็นการห้ามไม่ให้ตอบผม จินฮยองสบตากับพวกผมทั้งสองคนอย่างลำบากใจว่าตกลงพวกมึงจะให้กูทำไงกันแน่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างห้ามไม่อยู่แล้วเลือกที่จะตอบผมแทน “จองกุกหายไปสองวันแล้ว”
ชั่วขณะนึงผมรู้สึกคันยุบยิบบริเวณอกซ้ายแต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว “หาย? หมายความว่าไง วันก่อนเรายัง..”
และในวินาทีนั้นเอง —ภาพเหตุการณ์ร้ายๆในวันนั้นก็ฉายชัดเข้ามาในหัวเป็นฉากๆจนผมเบิกตากว้าง ใบหน้าของจองกุกที่เต็มไปด้วยนํ้าตาแห่งความเจ็บปวดตอนเห็นว่าตัวเองเผลอทำร้ายผมกำลังกรีดแทงหัวใจน้อยๆของคิมแทซํ้าๆอย่างไร้ปรานี ตอนนี้ในหัวผมมีแต่คำที่ว่า..
'จองกุกอยู่ไหน'
กูคิดถึงมึงจะแย่อยู่แล้ว..
“จีมิน...ซอกจินฮยอง..” เสียงอันสั่นเครือที่เรียกชื่อจริงของอีกฝ่ายทำเอาอีกสองคนตัวแข็งทื่อ เจ้าของชื่อมองหน้ากันอย่างกระวนกระวายก่อนที่คนแก่กว่าจะรีบปลอบผมทันที
“เอ่อ...อีกไม่นานเดี๋ยวผัวยูก็กลับมาเองแหละน่า ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะซิส”
ไอ้จีมพยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ “ใช่ๆ จองกุกติดมึงจะตาย เดี๋ยวมันก็กลับมาเอง—”
'หมับ!'
ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดจบ ผมก็คว้าคออีกฝ่ายไว้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วเขย่าๆไปมาอย่างไม่ออมแรงจนหัวทุยๆของไอ้จีมโยกคลอนไปตามแรง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วตะคอกถามออกไปชัดๆด้วยคำถามที่ฟังดูชะนี๊ชะนี
“ผัว-กู-อยู่-ไหน!!!?”
Loading...50%
“..สรุปเรื่องมันเป็นมายังไง ไหนเล่ามาซิ” คิมแทโบกพัดในมือไปมาขณะนั่งไขว่ห้างบนโซฟาด้วยมาดคุณนายสุดๆ สายตามองตํ่าลงไปยังบ่าวไพร่ทั้งสองที่กำลังนั่งคุกเข่าแทบเท้าอยู่อย่างเชิดๆ
—ก็ช่วยไม่ได้นี่ คนที่ไม่ยอมบอกดีๆว่าผัวกูหายไปไหนก็ต้องเจอแบบนี้แหละ! เชอะ!!
“จ..ใจเย็นๆก่อนนะคะซิส” จินฮยองยิ้มเกร็งๆพร้อมกับบีบนวดต้นขาน้องสามีไปด้วยเผื่อจะช่วยให้หัวเย็นลงบ้าง แต่อันที่จริงกูก็หัวเย็นลงตั้งนานแล้วเพียงแต่ในหัวใจยังร้อนรุ่มไปหมด ฮรึกกก คือกูคิดถึงแฟนอ่ะเข้าใจป้ะ!? ถ้าคุณมีจองกุกเป็นของตัวเองก็จะเข้าใจความรู้สึกนี้เองแหละ แต่เผอิญว่าเขาเป็นของกูคนเดียวอ่ะเนาะ โฮะๆๆๆ
“..เอ่อ คือว่านะแทฮยอง กูว่ามึงใจเย็นลงหน่อยเหอะ —จองกุกคงไม่กลับมาในเร็วๆนี้หรอก” จีมินที่กำลังนั่งเหงื่อตกเอ่ยขึ้นจนต้องหันไปมองแทบไม่ทัน
“ทำไมถึงไม่กลับวะ” คือไม่เข้าใจเลยอ่ะ มันไม่คิดถึงบ้านคิดถึงเมียบ้างเลยรึไง ฮรืออ ใจรว้ายที่สุด! ㅠㅠ
“ก็จองกุกเค้ากลัวว่าจะคลั่งขาดสติแล้วเผลอทำร้ายยูอีกน่ะสิ” คุณพี่สะใภ้ถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าอกเศร้าใจ “อย่างว่าแหละนะ ถูกสร้างมาเป็นเครื่องมือสังหารซะขนาดนั้น —ไม่แปลกที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวอันตราย น่าสงสารจริงๆ”
คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันทันทีในขณะที่สายตาก็ตวัดไปมองคนแก่กว่าอย่างสงสัย “ถูกสร้างมาเป็นเครื่องมือสังหาร? นี่ขนาดจินฮยองเพิ่งรู้จักจองกุกได้ไม่นานก็รู้ในสิ่งที่แม้แต่แทเองยังไม่รู้แล้วหรอ”
จินฮยองกับจีมินหันมองหน้ากันโดยอัตโนมัติอย่างกระอักกระอ่วน ฮึ่ยยย! ให้ตายสิ ทำไมสองคนนี้ถึงมีความลับกับกูเยอะขนาดนี้วะ มิหนำซํ้าก็น่าหงุดหงิดเข้าไปอีกพอมันเป็นเรื่องของแฟนผมด้วย
จองกุกจะปิดบังอะไรผมก็เชิญ...แต่ทำไมต้องบอกคนอื่นโดยไม่ให้ผมรู้ด้วยล่ะ
—มีพิรุธจริงๆด้วยแฮะ ยิ่งคิดอีช้อยก็ยิ่งรู้สึกอยากเสือกขึ้นเรื่อยๆซะแล้ว
“พวกมึงรู้อะไร เล่ามาเดี๋ยวนี้!”
“เอ่อ คือว่า..” จินฮยองเกาหัวแกรกๆอย่างลำบากใจ เขาสบตากับไอ้จีมเป็นการขอความช่วยเหลือแต่ก็ได้รับเสียงถอนหายใจกลับมาแทนคำตอบ
..หากแต่ผมก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รับคำถามที่มาพร้อมกับสีหน้าจริงจังของจีมินต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ “มึงแน่ใจแล้วหรอว่าพร้อมที่จะฟังน่ะแทฮยอง”
ผมเม้มริมฝีปากแน่น ก็นึกว่าจะเป็นแค่ความลับที่อาจจะฟังดูเลวร้ายเหมือนในฟิคทั่วๆไปไรงี้ แต่สองคนนี้กลับทำราวกับว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายซะงั้น
..มันเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ
“ท..ทำไมต้องซีเรียสขนาดนั้นด้วยล่ะ”
“เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับจองกุกอย่างเดียว...มันเกี่ยวกับพ่อแม่มึงด้วย”
!!!!
..ร้อยวันพันปี ไม่เคยมีใครเล่าเรื่องพ่อแม่ให้กูฟังสักแอะจนผมถึงกับเคยสงสัยว่าพวกเขามีตัวตนอยู่จริงๆรึเปล่า —แม้แต่น้าชอนซา แม่ของไอ้จีมที่เป็นเพื่อนสนิทพ่อผมยังไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย แล้วอยู่ดีๆเจ้าสองคนนี้ก็จะเล่าขึ้นมาเสียดื้อๆ มิหนำซํ้ามันเป็นเรื่องที่ยังเกี่ยวข้องกับจองกุกด้วย คือบั่บบ โอ๊ยยย!! ประสาทกูจะแดก!
“ม..มีอะไรก็เล่าๆมาเหอะน่า! อย่าลีลาสิ”
เพื่อนสนิทกับพี่สะใภ้มองหน้ากันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จินฮยองจะยกมือผมไปกุมไว้ด้วยสีหน้ากังวลใจ
“ถ้าได้ฟังแล้ว...ยูจะรับได้รึเปล่าล่ะ”
ผมนิ่งงันไปครู่หนึ่งแต่ก็พยักหน้าให้รัวๆ “แน่อยู่แล้วสิ”
“กูเองก็อยากเล่าให้มึงฟังอยู่หรอกนะ แต่...”
“โว้ยยย!! อะไรนักหนาวะไอ้จีม! ความลับไม่มีในโลกหรอกนะ —ต่อให้วันนี้มึงไม่บอก สักวันกูก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละ”
จีมินเม้มปากแน่นอย่างประหม่า เขามีท่าทีลังเลก่อนจะถอนหายใจอย่างจำยอมแล้วเริ่มเล่าด้วยสีหน้าจริงจังประดุจเล่าเรื่องผี
“..เรื่องทั้งหมดมันเริ่มมาจากพ่อแม่มึงเป็นนักธุรกิจผิดกฎหมาย พวกเขาอยากมีนักฆ่าฝีมือดีไว้กำจัดคู่แข่งทางธุรกิจ แล้วบังเอิญไปเจอเด็กทารกคนนึงที่ถูกแม่ตัวเองจับไปขายอวัยวะกับพวกค้ามนุษย์เพื่อหาเงิน”
“.............”
“เด็กคนนั้น...คือจองกุก”
!!!!!
เดี๋ยวนะ..
ไม่น่าล่ะ ตอนนั้นวันที่ขอเป็นแฟนกันจองกุกถึงได้บอกกับผมว่าแม่ไม่ได้รักเขาเลย และเขาเองก็ดูเหมือนจะมีปมเรื่องครอบครัวด้วย
ฮรือออ!! ทำไมชีวิตแฟนผู้แสนดีของกูถึงต้องมาเจอเรื่องโหดร้ายแบบนี้ตั้งแต่เด็กด้วยวะเนี่ยย ㅠㅠ
“พ่อมึงเห็นว่าไหนๆเด็กคนนี้ก็ต้องถูกนำไปขายเป็นสินค้าไร้ค่าอยู่แล้ว เลยซื้อตัวจองกุกมาโดยจะเปลี่ยนให้เขา...กลายเป็นอาวุธทำลายล้าง”
จีมินเล่าต่อไปโดยมีจินฮยองคอยสังเกตสีหน้าของน้องสามีอยู่ตลอดเวลาอย่างระมัดระวัง ริมฝีปากบางของผมเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก —จะว่าตกใจก็ใช่ เพราะถึงจองกุกจะไม่ได้เป็นมนุษย์ต่างดาวหรือลูกธานอสในแบบที่กูมโนไว้ แต่ก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าคนที่ทำให้จองกุกกลายเป็นแบบนี้...จะเป็นพ่อแท้ๆของผมเสียเอง
..แม่งพีคเชี่ยๆเลย
“พ่อมึงใช้จองกุกเป็นหนูทดลองมาตลอดสองปี พยายามทำทุกวิถีทางให้เด็กคนนี้มีพลังเหนือมนุษย์เพื่อจะได้กลายเป็นอาวุธไร้เทียมทานเอาไว้ฆ่าศัตรูทางธุรกิจ —แต่อยู่มาวันนึง...ตำรวจก็บุกมาพร้อมหลักฐานเอาผิดพ่อแม่มึงโทษฐานทำธุรกิจผิดกฎหมาย พวกเขากำลังจะพานัมจุนฮยองซึ่งยังเด็กหนี แต่ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเพราะจู่ๆจองกุกก็หนีออกมาจากห้องทดลองได้ เขาเหมือนคนคลั่งขาดสติ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า แถมยังฆ่าคนรับใช้ในบ้านมึงทิ้งไปสองคน” จีมินกลืนนํ้าลายลงคออึกใหญ่ “ซึ่งกูเองก็เพิ่งมารู้ทีหลังเหมือนกันว่า...พวกเขาคือพ่อแม่ยุนกิฮยอง”
.........
โอเค เรื่องมันจะไปกันใหญ่ละ
“จองกุกทำร้ายพ่อแม่มึงจนบาดเจ็บสาหัส ร่างกายแม่ซึ่งกำลังท้องแก่ก็คลอดมึงออกมาเสียตอนนั้นก่อนจะเสียชีวิตจากการตกเลือดในไม่กี่นาทีต่อมา —ส่วนพ่อมึงที่พยายามหลบหนีก็ถูกตำรวจยิงตาย แต่ก่อนจะตายก็ได้สั่งเสียไว้กับแม่กูว่าให้ช่วยดูแลนัมจุนฮยองกับมึงแทนเขาด้วย เขารู้สึกผิดที่ต่อจากนี้มึงต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า เลยขอร้องแม่กูให้ช่วยทำให้จองกุกปกป้องมึงแทน เพื่อที่เขาจะได้สบายใจว่ามึงจะไม่ถูกจองกุกทำร้าย”
ผมกัดริมฝีปากล่างด้วยความรู้สึกตื้นตันแปลกๆในอก —นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เด็กกำพร้าอย่างผมรู้สึกได้รับความห่วงใยจากบุพการีที่ไม่เคยเห็นหน้า
..บางทีการเกิดเป็นเด็กไร้พ่อแม่ก็เป็นเรื่องยากกว่าที่ใครหลายคนจินตนาการได้เหมือนกัน
ไอ้จีมกำลังจะเล่าต่อแต่จินฮยองกลับขัดขึ้นมาเป็นฝ่ายเล่าเสียเองด้วยนํ้าเสียงตื่นเต้นเหมือนเล่านิทานให้เด็กอมมือฟัง “แล้วในตอนนั้นเอง!! จองกุกที่กำลังอาละวาดก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จึงเดินตามเสียงนั้นไป สิ่งแรกที่เขาเห็นคือทารกเพิ่งคลอดที่ถูกทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ท่ามกลางความหนาวเหน็บในสวนหลังบ้าน จองกุกเห็นแบบนั้นก็อุ้มเด็กขึ้นมาหมายจะฉีกทิ้งออกเป็นเสี่ยงๆ —แต่เสี้ยววินาทีนั้นโลกกลับหยุดหมุนไปทันใดเมื่อเด็กน้อยในอ้อมแขนค่อยๆลืมตาขึ้นมาสบตากับมนุษย์โดยหารู้ไม่ว่าจะกลายเป็นสามีในภายหลัง—”
“เดี๋ยวๆๆ ทำไมบรรยายละเอียดงี้อ่ะฮยอง อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยรึไง” คิมแทอดจะถามไม่ได้เพราะภาษาที่พี่แกใช้เล่ามามันฟังดูลิเกผิดปกติยังไงไม่รู้
“อ้าว! จะเล่าฉากที่ยูเจอกับผัวครั้งแรกทั้งทีก็ต้องเล่าให้มันสละสลวยหน่อยสิคะซิส!!” จินฮยองถอนหายใจพลางโบกพัดในมือไปมา “ต่อนะ จองกุกมองแทฮยองตัวน้อยตาค้างก่อนจะได้สติเมื่อได้เห็นรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของอีกฝ่าย มันทำให้เขาได้สติว่าเพิ่งทำอะไรลงไป และรู้ตัวอีกทีก็ถูกยิงด้วยยาสลบจนหมดสติไปหลายวัน
หลังจากเหตุการณ์นั้นแม่ของชิมชิมที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ก็พยายามสุดความสามารถเพื่อให้จองกุกไม่กลับมาคลั่งอีก แล้วก็ทำตามสัญญาด้วยการเซตระบบให้จองกุกมีหน้าที่ปกป้องยู —ดังนั้นถ้ายูตกอยู่ในอันตรายแล้วผัวไม่มาช่วย จองกุกก็จะตายทันทีเหมือนถูกปิดสวิตช์
แต่แน่นอนว่าการดัดแปลงมนุษย์อย่างผิดธรรมชาติแบบนี้มันมีข้อเสีย — ระบบในร่างกายจองกุกเลยรวนๆสลับกันไปมาโดยตอนกลางวันจะอยู่ในร่างหุ่นยนต์หรือก็คือกุกกี้ —ถ้ายูสังเกตดีๆก็จะรู้ว่ากุกกี้ไม่มีชีพจร ส่วนร่างของจอนจองกุกเวอร์ชั่นโคตรผัวที่ยูรู้จักคือร่างที่แท้จริงของเขา ร่างที่เป็นตัวเขาจริงๆ มีชีพจรและทุกอย่างครบถ้วนเหมือนคนปกติทั่วไป ทั้งสองร่างมีพละกำลังมหาศาลเหมือนกันแต่กุกกี้จะมีแรงเยอะกว่าเพราะไม่ใช่มนุษย์นั่นเอง —ทีนี้เข้าใจรึยังคะซิส”
..ฟังไปฟังมาสมองอันน้อยนิดของกูก็รู้สึกมึนๆเบลอๆยังไงไม่รู้อ่ะ โอ๊ยย กูปวดเฮดด! (#`Д´)ノ
“อันที่จริงแม่กูตั้งใจจะกีดกันไม่ให้จองกุกได้เจอมึงอีกเลยด้วยซํ้าเพราะไม่อยากให้มึงได้รับอันตราย” ไอ้จีมถอนหายใจยาวเหยียด “แต่ผัวมึงมันดื้อ วันๆเอาแต่พรํ่าเพ้อถึงมึงตลอด แค่จองกุกไม่ได้เห็นหน้ามึงวันเดียวก็จะลงแดงตายให้ได้จนกูต้องลำบากพามึงมาเล่นบ้านกูบ่อยๆให้มันได้มาแอบมองมึงเงียบๆตามประสาคนแอบรักแต่ไม่กล้าเข้าใกล้ —แม่งทั้งรักทั้งหลงเมียตั้งแต่เด็กยันโตอ่ะ”
..หลายครั้งทำให้ผมรู้สึกว่าจองกุกรักผมมาก —รวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เขารักผมมานานกว่ายี่สิบปีในขณะที่คิมแทเพิ่งจะรักเขากลับเมื่อไม่นานมานี้เอง
คิมแทฮยองก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่น่ารำคาญคนนึง ขี้เอาแต่ใจ แถมยังปากไม่ตรงกับใจอีก...ไม่เข้าใจเลยว่าจองกุกรักคนอย่างผมไปได้ยังไง
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสงสาร สงสัยจากนี้ไปต้องออนท็อปให้มันบ่อยๆซะแล้ว ฮรึกกก ㅠㅠ
“ว่าแต่ทำไม....จู่ๆวันนั้นกุกกี้ถึงมาถูกฝังอยู่ในสวนหลังบ้านกูได้ล่ะ” ผมหรี่ตามองอย่างจับผิด “เป็นแผนของมึงใช่มั้ยไอ้จีม”
“ก..ก็กูอยากให้จองกุกมันสมหวังนี่!” จีมินลุกขึ้นมานั่งข้างๆผมแล้วจับไหล่เพื่อนตัวเองไว้แน่น สีหน้าของเขายังคงจริงจังตามเดิม “แล้วกูก็เป็นเพื่อนมึง กูเห็นมึงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยจนตอนนี้หอยเท่าฝาบ้าน —แน่นอนว่ากูอยากให้มึงมีคนที่รักมึงจริงๆมาเป็นคู่ชีวิตอยู่แล้ว กูเลยอยากให้มึงได้เจอกับจองกุกซึ่งชิปเปอร์อย่างกูเชื่อเลยว่ายังไงซะมึงก็ต้องชอบเขาเหมือนกันแน่ๆ แต่จองกุกมันกลัวเข้ากระดูกดำว่าจะเผลอทำร้ายมึงเข้าเลยไม่ยอมเข้าใกล้มึงสักนิด —จนกระทั่งแม่กูคิดค้นยาที่สามารถทำให้ผัวมึงไม่คลุ้มคลั่งได้ ก็เป็นตอนนั้นเองแหละที่จองกุกยอมมาเจอมึง”
งั้นก็แสดงว่ายาที่จองกุกกินบ่อยๆนั่น..ก็มาจากน้าชอนซาล่ะสิ
จะว่าไป พอย้อนกลับไปนึกถึงวันแรกที่ผมได้เจอกับจองกุกแล้วก็อดขำไม่ได้ —ตอนนั้นกูกลัวมันแทบตาย แต่ตอนนี้กลับโหยหามันซะงั้น
ความรักสามารถเปลี่ยนคนได้จริงๆ..
“..ส่วนไอ้เรื่องที่ว่าตอนนี้จองกุกหายไปน่ะ” ไอ้จีมกลอกตาเบ้ปากเหมือนคนเบื่อโลก “สาเหตุก็คือผัวมึงชอบคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อแม่มึงตาย —ถ้าวันนั้นเขาไม่ได้ทำร้ายพ่อแม่มึง พวกเขาก็อาจจะหนีไปได้ทันเวลา มึงก็จะไม่กำพร้า และที่สำคัญ...จองกุกกลัวว่ามันจะทำร้ายมึงแบบวันก่อนอีก”
คิ้วเรียวขมวดมุ่นทันทีอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ก็เลยหายไปแบบนี้เนี่ยนะ”
จินฮยองสบตากับไอ้จีมแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าให้ผม คือบั่บ โอ๊ยยย! จองกุกกลัวจะเผลอทำร้ายเมียตัวเองอีก แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้เขาเองก็กำลังทำร้ายผมอยู่เหมือนกัน
จองกุกกำลังทำร้ายจิตใจผมด้วยการทำให้คิดถึงใจแทบขาด —และสาบานได้ว่ามันทรมานกว่าการถูกทำร้ายร่างกายเป็นไหนๆ
เมื่อไหร่มึงจะกลับมาซะที...ไหนสัญญาว่าจะไปเอากันในที่สาธารณะไง!? ตอนนี้กูยอมแล้วนะ เอาในห้างหรือกลางถนนก็ได้ ฮรือออ ㅠㅠ
“แทแท...ยูไหวรึเปล่า” คุณพี่สะใภ้เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยจนผมได้แต่เม้มปากแน่น ดวงตากลมมองมือทั้งสองข้างของตัวเองที่ประสานกันอยู่บนตักอย่างเหม่อลอยแล้วเบะปาก
“ไม่รู้สิฮยอง...การรอใครสักคนน่ะ ยากยิ่งกว่าเพาะพันธุ์ยุงมังสวิรัติอีกนะ”
“อ่า...ว่าแล้วเชียวว่ายูต้องเป็นแบบนี้” จินฮยองลุกขึ้นไปนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม เขาหยิบพัดขึ้นมากางแล้วโบกไปมาอย่างผู้ดีด้วยรอยยิ้มชั่วๆ
ความชิบหายกำลังจะมาเยือนแน่ๆไอ้แทเอ๊ย...
“ไม่ต้องลำบากใจหรอกนะน้องรัก —เชื่อสิว่าเดี๋ยวจองกุกจะมาหายูเองในไม่ช้านี้แหละ”
“.............”
จินฮยองโน้มตัวมาข้างหน้าแล้วหัวเราะเสียงแหลมจนกูแทบยกตีนขึ้นมาปิดหู “เพราะไอจะทำให้ผัวยู...ติดใจเมียจนขาดยูไม่ได้เลยล่ะ :)”
..เรื่องนี้ต้องไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพตูดกูแน่ๆ —คิมแทสัมผัสได้
100%
TALK : 2
ฟิคเรื่องนี้ยังไงก็หนีไม่พ้นความไร้สาระกับความกามจริงๆ5555555
อีกแค่ตอนหรือสองตอนก็จบแล้วนะจ๊ะทุกคน ฮืออ เราใจหายมากๆ แต่งมาเจ็ดเดือนแล้ว อยากแต่งต่อไปเรื่อยๆไม่มีสิ้นสุดเลย แต่ก็นะ...งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ㅠㅠ
ตอนนี้อาจจะน่าเบื่อไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ แหะๆ
แต่เดี๋ยวเราจะแต่งเอ็นซีเพิ่มเป็นตอนพิเศษด้วย รีดๆว่าไงคะ หุหุหุ
และๆๆ ขอขายของนิสนุงงง เราเปิดฟิคกุกวีเรื่องใหม่แล้วนาจา เป็นแนวแฟนตาซี+คอมเมดี้+ผจญภัย ฯลฯ ไปลองอ่านกันได้เน้อ <3
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และแท็กสกรีมนะคะ
#กุกกี้น้อยจอมพลัง
I purple you ค่ะ (・∀・)
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย