ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    a fog hunter - ( AUDITION )

    ลำดับตอนที่ #2 : / prologue . สาปสาบานแห่งสายหมอก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 188
      2
      14 เม.ย. 56



    บทนำ

     

    สาปสาบานแห่งสายหมอก
    The cursing promise of the fog

     

     

                แมรีวีเซอร์ ไคลน์ เกลียดการรอคอย . . .

                เธอไม่เคยรู้สึกสนุกกับการจ้องมองเข็มนาฬิกาที่หมุนผ่านไปทีละรอบอย่างเชื่องช้าเลยสักนิด และให้ตายเถอะ! ตอนนี้มันก็น่าจะได้เวลาที่เขาจะมาถึงได้แล้วนี่

                “เดินพล่านเชียวนะ” เสียงทุ้มติดจะแหบต่ำจนฟังดูปร่าแปร่งพูดขึ้นกลั้วเสียงหัวเราะหึที่น่าขนลุก มือเรียวของเจ้าของเสียง สาดยินลงคอแก้วแล้วแก้วเล่า แม้จะมีโต๊ะตัวยาวขวางกั้น แต่แมรีวีเซอร์ก็เชื่อว่าเธอได้กลิ่นผลจูนิเปอร์ลอยออกมาพร้อมลมหายใจของเขาอย่างแน่นอน

                “หุบปากเถอะทรอย ท่านกำลังจะทำให้ข้าหงุดหงิดมากขึ้น”

                “หึ! อย่างกับข้าจะสนงั้นแหละ” ทรอย ฟิเดียโร ยกมือสั่งยินสีใสมาเพิ่มอีกห้าจอก เขาหมุนแก้วเปล่าเล่นคล้ายคนใจลอยในชั่วขณะหนึ่ง แต่วินาทีถัดมา ใบหน้าขาวเรียวตัดกับเส้นผมสีมิ้นท์แปลกประหลาดก็แสยะยิ้มเย้ยหญิงสาวทายาทร้านเหล้าอันดับหนึ่งแห่งคาเคซานด้วยความสะใจเหลือคณา

                “เจ้านี่มันน่าสมเพชจังนะ แมรี..”

                “ท่านหมายถึงอะไร?” แมรีวีเซอร์ตวัดเสียงห้วน มือเล็กกำแน่นจนตัวเธอเองยังรู้สึกเจ็บ

    “จุ๊ๆๆ เจ้าก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะแมรี่คนเก่ง จะมีอะไรน่าสมเพชไปกว่าการเพ้อฝันลมๆแล้งๆของเจ้าได้อีก” ทรอยส่ายหัวไปมาอย่างจงใจยั่วเย้า หญิงสาวตรงหน้าก็ไม่ต่างอะไรกับคนจมน้ำ ตะเกียกตะกายไขว่คว้าบางสิ่งที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีวันจะได้มาครอบครอง แบบนี้ไม่ให้เขาเรียกว่าน่าสมเพชแล้วจะเรียกอะไรได้อีก?

    “ข้า ไม่ ได้ ฝัน ลม ลม แล้ง แล้ง!!!!” แมรีวีเซอร์เน้นเสียงทีละคำ เธอพาร่างเพรียวระหงในชุดกระโปรงกำมะหยี่สีม่วงเข้มมาหยุดยืนหน้าชายหนุ่มตัวก่อเรื่อง เรียวขาขาวเนียนที่โผล่พ้นชายกระโปรงสั้นก้าวเข้าไปประชิดตัวร่างสูงอย่างไร้ความลังเลใดๆ

    “ข้าไม่ต้องการให้ท่านมาสมเพช คนดีแต่ปากเช่นท่านถือดีอย่างไรมาดูถูกหัวใจของข้า” มือเล็กขยุ้มคอเสื้อของทรอยขึ้นมาอย่างก้าวร้าว เธอเกลียดเขา เกลียดผู้ชายร้ายกาจตรงหน้าคนนี้เหลือเกิน

    “อย่างน้อยข้าก็ว่าข้าดูไม่ผิดล่ะนะ” พูดจบก็หัวเราะร่วน ก่อนจะยกมือหนาขึ้นมาปัดมือของคนตัวเล็กกว่าออกอย่างไม่ใยดี ทรอยเกลียดความโง่งมของแมรี่วีเซอร์ แต่เขาก็ชอบมันด้วยในขณะเดียวกัน

    “เจ้าทำให้ข้าหัวเราะได้ทุกครั้งที่เจอเลยนะแมรี่” ชายหนุ่มยกยินอีกแก้วขึ้นมาละเลียดจิบอย่างจงใจยั่วประสาทคู่สนทนา

    “ข้าเกลียดท่านเหลือเกิน” แมรีวีเซอร์ครางออกมาอย่างเหลืออด ในขณะที่ทรอยกลับแสยะยิ้มรับ พร้อมกับพ่นเสียงหัวเราะออกมาอีกพรืดใหญ่ ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลของเขาพราวระยับราวดับถูกอกถูกใจเสียเต็มประดา ชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นไปเกี่ยวเส้นผมสีบลอนด์ซีดของแมรี่วีเซอร์ ก่อนจะกระตุกหัวเธอเข้ามาใกล้อย่างรุนแรง

    “โอ๊ย!” คนถูกดึงผมร้องลั่น ใบหน้าสวยเฉี่ยวที่บรรจงแต่งแต้มมาเพื่อใครบางคน กลับถูกชายหนุ่มน่ารังเกียจคนหนึ่งบีบไว้แน่นจนไม่น่ามอง ลมหายใจกลิ่นจูนิเปอร์เป่ารดปลายจมูกของเธอ ยามเมื่อใบหน้าของเขาใกล้เข้ามาจนหน้าผากของคนทั้งสองชิดกัน

    “เจ้าเกลียดข้าไปเถอะ บอกแล้วไงว่าข้าไม่เห็นจะสนใจเลย” ทรอยจงใจขยับริมฝีปากมาพูดใกล้ๆกับใบหูของร่างเล็ก แม้จะตกใจจนเผลอสะดุ้งสุดตัว แต่มือบางก็ยังเอื้อมไปจิกไหล่ของเขาสุดแรง ด้วยหวังจะเอาคืนคนตรงหน้าให้ได้แม้สักนิดก็ยังดี

    “ข้าบอกแล้วว่าเจ้ามันช่างโง่งม..แมรี่” พูดจบทรอยก็กดริมฝีปากเย็นเหยียบลงมาบดขยี้กลีบปากสีแดงสวยของแมรีวีเซอร์อย่างดุดัน ลมหายใจเจือแอลกอฮอล์จากจูบของเขากำลังมอมเมาร่างบางในอ้อมแขน ทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น นอกจากสัมผัสก้าวร้าวนั่น แมรีวีเซอร์ก็ไม่อาจรู้สึกถึงสิ่งใดได้อีก

    “สวัสดี” แต่แล้วเสียงนุ่มละมุนที่เธอแสนจะโหยหาก็ดังขึ้น แมรีวีเซอร์รีบผลักทรอยออกอย่างแรง ยามเมื่อเสียงของคนคนนั้นเรียกสติสัมปะชัญญะที่แตกกระเจิงของเธอกลับมา

    “ไม่ทันแล้วล่ะ” ทรอยหัวเราะร่วน เมื่อเห็นใบหน้าถอดสีของผู้หญิงตรงหน้า ดูราวกับว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจตายไปเสียตรงนั้นให้ได้ ร่างสูงยกยินแก้วสุดท้ายขึ้นมาเทลงคอรวดเดียวหมด ก่อนจะล้วงมือลงไปในกระเป๋า หยิบเอาเหรียญทองหนึ่งถุงใหญ่ออกมาจ่ายค่าเครื่องดื่มของคืนนี้

    “ไม่ต้องทอนล่ะ ที่เหลือนึกเสียว่าเป็นค่าความบันเทิงที่เจ้าทำให้ข้าสนุกได้อย่างนึกไม่ถึง” แหงล่ะ ภาพที่ชายหนุ่มในสังกัดเดียวกันกับเขามองแมรีวีเซอร์ด้วยสายตาว่างเปล่ามันช่างสะใจเสียจริงๆ ก็อย่างที่เขาบอกว่าเธอน่ะโง่ และในสายตาของเขา...

    “ความโง่ของเจ้ามันช่างน่าสมเพชสิ้นดี” ทรอยก้มลงไปกระซิบข้างใบหูเล็กของสตรีที่บัดนี้ยืนตัวแข็งไปเสียแล้ว ร่างสูงโยนถุงเหรียญลงไปที่โต๊ะไม้ตัวยาว ก่อนจะก้าวขาผ่านเธอไปอย่างไม่สนใจอะไรอีก

    “....” แมรีวีเซอร์ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน สองมือขยุ้มชายกระโปรงตัวโปรดไว้แน่นราวกับว่ามันเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้าย ดวงตาเรียวสีแอลมอนด์ที่มองเธออย่างเย็นชาคู่นั้น ทำเอาแมรีวีเซอร์อยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดเสียตรงนี้

    หมดกัน...สิ่งที่เธอเฝ้าประคบประหงมมาตลอดสองปี ความสัมพันธ์อันเบาบางระหว่างเขาและเธอถูกผู้ชายสารเลวคนหนึ่งกระชากมันให้ขาดไปเสียแล้ว น้ำตาหยาดใสไหลรินออกมาจากดวงตาสีอำพันอย่างกลั้นไม่อยู่ เธอรู้ บทสรุปของคนโง่อย่างเธอมันจะออกมาในรูปแบบไหน และถึงแม้จะรู้ แต่เธอก็ไม่สามารถทำใจยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดนี้ได้เลย

    “แพนโดร่า...ข้า..ขอโทษ....” เสียงสั่นเครือดังลอดริมฝีปากบางออกมาพร้อมอาการสะอื้น ทว่า.. แพนโดร่า แมกโดวอลล์ ยังคงมีเพียงใบหน้าเรียบเฉย และดวงตาอันแสนเย็นชาเหลือไว้ให้แมรีวีเซอร์เท่านั้น เขาเกลียดการทรยศ และจะยิ่งเกลียดเมื่อการทรยศนั้นเกิดมาจากคนใกล้ตัว เดิมทีชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเนี้ยบราวกับเทวดาก็ไม่ใช่คนที่จะไว้ใจใครง่ายๆอยู่แล้ว กว่าเขาจะยอมให้แมรีวีเซอร์เข้าใกล้ยังใช้เวลาร่วมสองปี แต่นี่ . . .

    “เอาคืนไป...เอาความรู้สึกทุกอย่างของเจ้าคืนไป” แม้จะใช้โทนเสียงราบเรียบนิ่งสนิท แต่ความโหดร้ายที่ออกมาพร้อมคำพูดนั้นกลับจู่โจมแมรีวีเซอร์ได้อย่างสาหัส จากที่สะอื้นเสียงแผ่ว ก็กลับกลายเป็นสะอื้นไห้จนตัวโยน วินาทีนั้นคงไม่มีใครเจ็บปวดใจเท่ากับเธอได้อีกแล้ว

    “นับตั้งแต่วินาทีนี้ไป ข้าไม่รู้จักเจ้าตลอดกาล!” พูดจบแพนโดร่าในชุดเสื้อคลุมสีดำยาวก็หมุนตัว หันหลังกลับไปที่ประตูร้านอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงเรียกของแมรีวีเซอร์ ชายหนุ่มยังคงเดินออกไปอย่างมั่นคงไร้ความลังเลสงสารใดๆ

    . . . เพราะใครที่หักหลังเขา จะไม่เคยมีวันได้รับการให้อภัย . . .

    “ฮึก..แพนโดร่า....ข้ารักท่าน..ข้ารักท่านได้ยินไหม!!!!?” แมรีวีเซอร์กรีดร้อง เธอสะอึกสะอื้นเสียงดังบนพื้นไม้สนขัดเงาอย่างไม่สนใจสายตาใคร ร่างบางกัดริมฝีปากสีแดงสดของตนจนแตกช้ำ นอกจากหัวใจจะสลาย เธอยังนึกชิงชังใครบางคนไปด้วยตลอดเวลา

    “ทรอย ท่านจะต้องตาย ตายด้วยมือของข้า!!!” แมรีวีเซอร์สาบานกับตัวเอง ความแค้นครั้งนี้จะต้องถูกชดใช้ เธอขอสาบานด้วยชีวิต ไม่ว่าจะอีกนานแสนนานแค่ไหน เธอก็จะตามไปกรีดหัวใจของเขาให้เละไม่เหลือชิ้นดี เหมือนอย่างวันนี้ . . .

    เหมือนอย่างที่เขาทำกับเธอ

    “ท่านทำให้ข้าสูญเสียเขาไป ข้าก็จะทำให้ท่านสูญเสียนางเช่นกัน!” ไม่ว่านางจะเป็นใคร ไม่ว่านางจะมาถึงเมื่อใด แมรีวีเซอร์สาบานว่าจะคอยเฝ้าดู และทำให้อนาคตของผู้ชายสารเลวคนนั้นแหลกสลายยิ่งกว่าที่เธอกำลังรู้สึก

    “ข้าขอสาบานกับสายหมอก...ข้าขอสาบาน!” พูดจบร่างบางก็ทิ้งตัวลงนอนร้องไห้กับพื้นไม้เย็นเยียบอย่างไม่สนใจสิ่งใดอีก ไม่สนใจแม้กระทั่งเสียงกระดิ่งแผ่วเบาที่ดังระรัวผ่านหน้านางไป

    “หมอกพลันรับรู้คำขาน นานแสนนานไม่ลืมเลือน หมอกบีบรัดลวงดวงใจ หมอกช่วงชิงลมหายใจและดวงวิญญา แมรีวีเซอร์ ไคลน์ สายหมอกจะเฝ้ามองเจ้าเช่นกัน” คำกลอนเปล่าไร้สัมผัสดังแผ่วคลออยู่กับสายลมหนาวบาดผิว ท่ามกลางเรื่องราววุ่นวายจะมีใครทันสังเกตเห็นร่างเลือนลางราวฝุ่นควัน ที่ยืนนิ่งอยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีเทาขมุกขมัวสักนิดก็หาไม่ ดวงตาสีแดงที่ซ่อนอยู่ในเงามืดมองแมรีวีเซอร์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหายตัวจากไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้ก็เพียงแต่เสียงกระซิบแหลมเล็กที่ทิ่มแทงเข้าไปกลางหัวใจของร่างบางอย่างหนักหน่วง

    “เมื่อคำสาบานต้องห้ามถูกเอื้อนเอ่ย วังวนแห่งคำลวงจะเริ่มหมุนอีกครา . . .”

     

     

     

    นานแสนนานมาแล้ว . . .

    สายหมอกโอบอุ้มความบิดเบี้ยวในหัวใจของผู้คน จนเริ่มกัดกินตนเอง

    และนานแสนนานมาแล้วเช่นกัน . . .

    ที่สายหมอกคุ้มคลั่งนั้น เฝ้ารอคอยวันหวนกลับคืน

    มนุษย์เอ๋ย . . จงเอื้อนเอ่ยนามข้า จงเรียกหาหมอกและควัน

    จงปลุกข้านั้นให้ฟื้นคืน !!!!











     




     

     


    ความรักมันเจ็บปวดใช่มั๊ยคะ? เพราะมันเจ็บปวดเราถึงได้รักมันมากขึ้นไปอีก . .
    แมรีวีเซอร์ก็เช่นกัน, ยิ่งเจ็บเท่าไหร่ ก็ยิ่งทุ่มรักให้มากไปเท่านั้น ^ ^ ยูกลัวทุกคนจะมองคู่นี้ไม่ดี
    เลยจับมาเท้าความเปิดเรื่องให้ซะเลย 555555555555
    แพนโดร่าใจร้ายเน๊อะ? ; w ; ทั้งที่มีอะไรน่าจะคุยกันได้แท้ๆ ยังไงก็เห็นแมรีเป็นคนพิเศษไม่ใช่หรอ . .
    แปลกใจมั๊ยคะที่ทรอยเลว =,.= #ยูเชื่อว่าทุกคนคงไม่แปลกใจอะ #ยูหลอกอีกแล้ว !
    อร๊ายยยยยยยยยยยย, เห็นหน้าท็อปแล้วมันหมั่นเขี้ยว >///< ไม่ให้มารับบทเลวมันก็วุ่นวายใจยังไงอยู่
    สุดท้ายเฮียแกเลยร้ายทะลุจอ ! 555555555 สงสารแมรีจัง T^T แต่อย่าห่วงค่ะ, ใช่ว่าเธอจะโดนคนเดียว
    เหยื่อของอิตาทีโอพียังมีอีกโขอยู่ และที่ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนก็จะได้ชมความใจแข็ง
    แบบเหนือขั้นของแพนโดร่าด้วย / รู้สึกยิ่งแต่งนิยายจะยิ่งโรคจิต = =; ไม่เคยให้ตัวละครสุขสบายใจกะเขาเลย
    มาคราวนี้ยูเปลี่ยนวิธีบรรยายด้วยนะเอิ้ว, ติดมาจากนิยายสามเรื่องที่กำลังติดงอมแงมเลย
    แต่พอแต่งออกมาแล้วรำคาญตัวเอง -____- ไม่แน่ตอนหน้าเค้าอาจจะกลับไปใช้ภาษาแบบเดิมๆนะคะ!
    ทุกคนช่วยติเค้าได้นะ ถ้าอะไรมันขาดมันหายไป >,.< รับฟังเสมอๆเลยฮ้าบบบ . .
    จะว่าไปอิตาหมอกนี่เป็นใครรู้ปะให้ทาย ^ ^ จ้างให้ก็ทายไม่ถูกหรอกยูท้าเลย,
    ใครทายถูกจะให้นัวเนียกะคุณหมอกด้วยนะฮึ่ย(????)

    สุดท้ายอยากให้ทุกคนเอาใจช่วยแมรีวีเซอร์ มารอดูความอึดความมั่นคงของนางกัน,
    นอกจากนั้นก็อยากให้รอดูดราม่าคู่อื่นๆ เค้ารับรองว่ามันร้าวได้ใจเลย /*ชั่วโมงโฆษณา*/ -,.- อิอิอิ !
    รักทุกคนเหมือนเดิมนะคะ >[ ]< เลิ้บยู. และสุขสันต์วันสงกรานต์กันถ้วนหน้านะค๊า !






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×