คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [OS] ที่รัก...ของใครสักคน☆
t h e m e © ` ( ユニか ) .
[OS] ที่รัก...ของใครสักคน
YUGYEOM x BAMBAM
คำว่ารักในโลกใบนี้มีน้อยไปไหม
ความรักวันนี้มันหายไปไหน
ถ้าหากว่ามีใครรู้ช่วยบอกที
คนที่เขามีรักเขาพบความรักที่ไหน
“มองหน้าพวกกูทำไมวะ?” เสียงแหบของชายหนุ่มรูปร่างสันทัดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเรียกสติของยูคยอมให้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง ดวงตาเรียวคมสีน้ำตาลกระพริบสองสามทีก่อนจะค่อยๆเผยรอยยิ้มบางที่มุมปาก
“อยาก...” ตอบไปสั้นๆ แล้วหยุดลงเหมือนคนจงใจเว้นช่วง แต่กลับไปสร้างความไม่พอใจให้คนฟังได้มากกว่าที่เจ้าตัวคาดไว้
“ไอ้เชี่ย! มึงหยุดเลยนะ มึงมองหน้าเอินของกูแล้วบอกว่าอยากเนี่ยนะ!? เชี่ยยูค มึงวอนตายหรอ?” ตะโกนเสียงดังแล้วควงกำปั้นขึ้นมาหมายจะอัดเข้าไปที่ใบหน้าหล่อของน้องรหัส ขาสั้นของแจ๊คสันหวังยันตัวลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ถ้าไม่ติดว่ามีมือเรียวของคนข้างๆเอื้อมมาดึงชายเสื้อเอาไว้ หวังรับรองได้...ว่าไอ้เลวคิมยูคยอมต้องถูกอัดลงไปนอนกองกับพื้นตั้งแต่เพิ่งพูดจบแล้ว
“เอินจะมาห้ามทำไม? ดูแม่งดิ่ ไอ้น้องรหัสเลี้ยงไม่เชื่อง จะทรยศกูหรอ?!!”
“หวัง...นั่งลง” เสียงนุ่มของต้วนอี้เอินออกคำสั่ง ในขณะที่ดวงตากลมตวัดไปจ้องใบหน้าของคนรักคล้ายบังคับให้ทำตามอยู่กลายๆ
“ไม่ได้หรอก ยังไงวันนี้ต้องได้ต่อยไอ้น้องเวรนี่ซักหมัด”
“หวัง”
“อะไรเอิน?”
“บอกให้นั่ง!”
“แต่...”
“โอ๊ย! ไอ้เชี่ยพี่แจ๊ค - -; ผมพูดแค่คำเดียวพี่ก็ของขึ้นจนเป็นบ้า ใครจะไปสนใจเอินของพี่วะ ที่ผมพูดว่าอยากน่ะ...ผมตั้งใจจะบอกว่าผมอยากรู้!” ยูคยอม คิม มนุษย์เอกโยธาที่เกือบจะโดนหมัดหนักๆของพี่รหัสต่อยเสยเอาที่ปลายคางรีบพูดออกมาด้วยความเอือมระอาในนิสัยของรุ่นพี่ใจร้อนนามแจ๊คสัน หวังคนกาก ผู้ชายตัวสั้นที่ไม่รู้ทำอีท่าไหนถึงไปคว้า ต้วนอี้เอิน หรือ ‘เอินเอิน’ คนงามแห่งคณะอักษรมาครองได้
ยูคยอมไม่เข้าใจ...
เอินรักพี่รหัสเขาลงไปได้ยังไงกัน?
“อ้าวไอ้เชี่ย ก็มึงไม่พูดมาให้ชัดๆวะ พูดว่าอยากมาคำเดียวกูก็ของขึ้นเลยดิ่ ห่า...ละมามองหน้าเมียกูอีก” พอรู้ความจริงแล้วน้ำเสียงเอะอะโวยวายเมื่อครู่ก็ถูกลดระดับกลับมาอยู่ในเวอร์ชั่นปกติ แจ๊คสันยักไหล่ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งข้างคุณแฟนที่รักด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ร่างบางข้างๆ หันมาดึงหน้าตึงใส่คนขี้โวยวายด้วยความรำคาญ
“โห่เอิน มองหวังงี้ทำไมไม่ด่ามาเลยล่ะครับ”
“เปลืองน้ำลาย” พูดแล้วก็เบือนหน้าหนี ไม่อยากจะยอมรับนักหรอกว่าตัวเองตกหลุมรักไอ้ผู้ชายเพี้ยนสติไม่เต็มตรงหน้า มีอย่างที่ไหนยังไม่ทันถามไถ่ให้รู้เรื่องก็ลุกพรวดจะไปใช้กำลังกับเขาแล้ว
อี้เอินเครียด...อี้เอินจะประสาทกิน
นี่ถ้าไม่ติดว่ารักนะ เขาจะทิ้งให้มันนั่งบ้าอยู่ตรงนี้คนเดียวไปเลย หึ้ย!
“เอินแม่ง! พูดงี้เดี๋ยวหวังเคลียร์กะไอ้น้องยักษ์นี่เสร็จเมื่อไหร่ เราสองคนได้กลับห้องไปคุยกันยาวแน่!”
“ตกลงพวกพี่จะให้ผมพูดต่อมะ?” รำคาญคู่รักคู่นี้เหลือเกิน - -;
“เออ พูดมา”
“ผมอยากรู้...พวกพี่ไปหาความรักมาจากไหนวะ?” ถามเสร็จก็ขมวดคิ้วแน่น จริงจังราวกับว่าเป็นเรื่องที่อาจารย์จะนำไปออกข้อสอบ ยูคยอม คิมหรี่ตา ตั้งใจรอฟังคำตอบจากคู่รักประหลาดสองคนตรงหน้าแบบสุดๆ
“ถามอะไรของมึงวะ” แจ๊คสันตกใจ ร้อยวันพันปีไอ้น้องรหัสตัวใหญ่ของเขามันก็เอาแต่ดูหนังฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อย ไม่เคยเห็นจะสนใจเรื่องความรักอะไรพวกนี้เลยซักครั้ง แล้วไหงวันนี้มันถึงถามงี้วะ?
“มาแปลกนะยูค” แม้กระทั่งเอินเอินเองยังอดสงสัยไม่ได้ ยูคยอมที่เขาเคยรู้จักมาไม่ใช่ผู้ชายอ่อนไหวประเภทที่จะมานั่งคิดเรื่องหัวใจอะไรแบบนี้นี่นา?
“ตอบๆผมมาเหอะ”
“จะให้ตอบยังไงวะ? คำถามมึงนี่ตอบง่ายมากเลยเน๊อะ”
“ก็พี่ไปหาความรักมาจากที่ไหน ทำไมใครๆก็มีวะไอ้ความรักเนี่ย ดูผมดิ่..อยู่มาจะยี่สิบเอ็ดปีแล้วยังไม่เคยรักใครซักคน ถามจริงๆนะพี่...ไอ้ความรักอะไรนี่มันหากันง่ายมากเลยหรอ?” ฟังจนจบแจ๊คสันยิ่งอยากยกมือขึ้นกุมขมับ ดูไอ้น้องตัวยักษ์มันถาม ละดูสีหน้ามันด้วย...จริงจังชิบหายเลยครับยูคยอม
“มัน...ก็ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากหว่ะ โอ๊ย! ไม่รู้เว้ย กูตอบมึงไม่ถูกเหมือนกัน” คงต้องพึ่งความหวังสุดท้าย มนุษย์แจ๊คสันหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคนรักทันที
‘งานนี้เค้ายกให้เอินเลย’
อืม...อี้เอินอ่านสายตามันออกว่าอย่างนั้น
ตลอด! พอเวลาที่สมควรจะพึ่งพาได้ เขาต้องเป็นฝ่ายออกโรงเองทุกที - -; ตกลงมึงหรือกูแมนกว่ากันครับแจ๊คสัน หวัง?
“ยูคมองหาอะไรอยู่ล่ะ?”
“หมายความว่ายังไงอะเอิน?” รุ่นน้องของคนรักทำหน้างง ดวงตาคมสีน้ำตาลดูสับสนและเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ อี้เอินได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่...
ใครหนอใครจับคนโง่สองคนมาเป็นสายรหัสกัน?
“ก็หมายความว่าที่ถามน่ะ ยูคกำลังมองหาอะไร? ความรัก หรือว่า...”
“........”
“คนรัก?”
“แล้วมันต่างกันตรงไหนอะ?”
“ต่างสิ ก็ถ้านายกำลังมองหาความรัก เอินจะแนะนำให้นายเลิกหา เพราะรอบตัวเราทุกคนมันเต็มไปด้วยความรักอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าก็มีคนที่พร้อมจะรักนายมากมาย ทั้งเพื่อน ทั้งพ่อแม่ โดยเฉพาะคนหน้าตาแบบยูคด้วยแล้ว...เอินคงไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่ามีทั้งคนนอกคนในคณะมาแอบชอบอยู่กี่คน” ร่างบางเลิกคิ้วสูง ในขณะที่ร่างโปร่งกดหัวคิ้วต่ำ อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่ายูคยอมจะทึ่มจนไม่รู้ว่ามีใครมาแอบชอบเขาบ้าง เขารู้หมดนั่นแหละ แต่ก็แค่…
ไม่สนใจ
“เออ คราวที่แล้วเด็กเภสัชยังมาขอให้กูช่วยเป็นพ่อสื่อให้เขากะมึงอยู่เลย” แจ๊คสันเสริม
“แล้วพี่ตกลง?”
“ไม่อะ..กูไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร ถ้าให้ช่วยเรื่องอื่นอาจจะได้ แต่เรื่องหัวใจของใครก็ของมัน” นานๆทีอี้เอินถึงจะรู้สึกว่าคนรักพูดจาเข้าท่าขึ้นมาบ้าง แบบนี้สิถึงจะควรค่าแก่การให้เขาคบหาเป็นแฟน
“แจ๊คสันทำถูกแล้วล่ะยูค ทีนี้นายฟังเอินพูดต่อ...ที่เอินบอกเมื่อกี้คือ ‘ความรัก’ ถ้ายูคไม่ใส่ใจความรักที่วิ่งวนอยู่รอบตัวแบบนี้ งั้นเอินจะถือเอาว่าสิ่งที่นายกำลังตามหาคือ ‘คนรัก’ ถูกต้องมั๊ย?”
“แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ?” ไม่เข้าใจ ยูคยอมก็ยังไม่เข้าใจอะไรมากขึ้นอยู่ดี
“นายไม่ได้มองหาความรักจากไหนก็ได้ แต่นายกำลังมองหาใครสักคนที่จะมาเป็นคนรัก และร่วมแชร์ความรักกับนายไงล่ะยูคยอม” เอินเอินดีดนิ้ว ไม่ผิดแน่...เขามั่นใจ
มนุษย์ตัวใหญ่นี่กำลังหวั่นไหวแบบสุดๆไปเลย
“ไอ้น้องชาย..อยากมีแฟนหรอวะ? โถๆๆ แล้วทำไมไม่บอกเฮีย เดี๋ยวเฮียจะช่วยน้องรหัสที่รักเอง” แจ๊คสันตบอกแปะๆ หมายมั่นอยากจะหาน้องสะใภ้มาเข้าสายรหัสจนตัวสั่น แต่กลับถูกดับฝันด้วยเสียงเย็นๆที่ดังชิดใบหูขึ้นมา
“ไหนบอกไม่ขี้เสือกไงครับหวังแฟนเอิน?”
“อึก...คะ ครับๆ หวังไม่ยุ่งแล้วคร้าบบบ” คนเจ้ากี้เจ้าการยกสองมือขึ้นเป็นสัญญาณว่ายอมแพ้ จะให้สู้กับอะไรหวังไม่มีถอย แต่ถ้าเป็นเอิน...หวังขอยอมให้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยแล้วกัน
ยอมหมด, ทั้งตัวและหัวใจ
ยอมให้มานานแล้วด้วย <3
ฮิ้วววววววว
“แล้วผมจะไปหาคนรักอะไรนั่นมาได้จากที่ไหน?” เด็กตัวใหญ่กอดอก เอนหลังลงไปพิงกับพนักม้าหินอ่อน ยูคยอมมองไปทางลานกีฬารวมของวิศวะกับสถาปัตย์ด้วยแววตาเหม่อลอย
เขาก็แค่เบื่อการอยู่คนเดียว...
คนรอบตัวก็พากันมีความรักไปหมด ไม่ว่าจะเป็นพี่รหัสอย่างแจ๊คสัน หวัง หรือแม้แต่เพื่อนสมัยเด็กอย่างชเวยองแจ
ทุกคนดูมีความสุข, แววตาของทั้งพี่แจ๊คสันและยองแจต่างก็เต็มไปด้วยประกายเมื่อพูดชื่อคนที่เป็นเจ้าของหัวใจออกมา
บางทียูคยอมอาจจะอิจฉา...
และบางทียูคยอมอาจจะอยากลองสัมผัสความรู้สึกเวลาได้เป็นห่วง คิดถึง และหึงใครอีกคน
‘ใคร’ คนที่เขายังหาไม่เจอ
“ใครจะบอกได้ล่ะ? คำถามนี้นายต้องตอบด้วยตัวของนายเอง”
“แต่ว่าผม...” ยังพูดไม่ทันจบคำยูคยอมก็หยุดนิ่งเสียจนคู่สนทนางงตามไปด้วย ร่างสูงรีบยันตัวลุกขึ้นยืนพรวดพราดจนแจ๊คสันตกใจ ก่อนจะออกวิ่งไปทางสนามกีฬาอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย! ไปไหนวะเชี่ยยูค?” ตะโกนถามไล่หลังไป แล้วแจ๊คสันก็ได้คำตอบ เมื่อสายตาของเขามองเห็นร่างโปร่งน้องรหัสวิ่งไปหยุดอยู่ที่ข้างสนามกีฬา ยูคยอมค่อยๆย่อตัวลงตรงหน้าของร่างบางที่ถูกชนจนหกล้มลงไปอย่างแรง
“อ่าวเอิน...เด็กคนนั้นคือ?”
“น้องแบมแบมไง”
“แบมแบม...รูมเมทไอ้ยูคอะนะ?”
“อืม” เอินเอินพยักหน้ารับเมื่อแจ๊คสันถาม ดวงตากลมของเด็กอักษรคนสวยจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มรุ่นน้องสองคนที่ค่อยๆประคองกันเดินมาจากสนามกีฬาที่คนตัวเล็กล้มลงไปนอนกองเมื่อครู่ มือหนาโอบเข้าที่เอวบางของเพื่อนร่วมห้อง สายตาดูทุกข์ร้อนเสียจนคนมองรู้สึกสงสัย
“เอินว่าเอินรู้แล้วล่ะหวัง”
“หืม? เอินรู้อะไรหรอครับ?”
“เอินรู้แล้วว่าจะหา ‘คนรัก’ จากไหนมาให้ยูคยอม” พูดจบพร้อมกับที่เด็กสองคนเดินมาถึงโต๊ะพอดี อี้เอินจึงรีบทำสายตาส่งไปหาแจ๊คสันว่าห้ามเอ่ยปากถามอะไร
ทำเอาคนขี้สงสัยหุบปากฉับแทบจะไม่ทัน - -;
เอินนะเอิน...ไม่ยอมบอกละจะมาหลอกให้เขาอยากรู้ทำไมวะ?
หวังล่ะเซ็ง
“สวัสดีครับพี่แจ๊คสัน สวัสดีครับพี่เอิน” คนตัวเล็กเจ้าของเส้นผมสีเขียวมิ้นต์เหมือนขนมหวานเอ่ยทักพี่ชายทั้งสองด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะร้องเหวอขึ้นมาเมื่อถูกเพื่อนตัวโตฉุดให้ลงไปนั่งกองอยู่บนตักอุ่น พอทำท่าจะขยับหนี สองแขนแกร่งก็รีบอ้อมมารัดเอวบางเอาไว้แนบตัว
“นั่งตักเรานี่แหละ เก้าอี้มันแข็ง เดี๋ยวที่ล้มลงไปเมื่อกี้จะเจ็บเข้าไปใหญ่” พูดเองเออเองจนจบ ยูคยอมดึงโมเดลบ้านออกมาจากมือของร่างบาง แล้ววางลงบนโต๊ะอย่างถือวิสาสะทันที
“ไม่น่าจะเจ็บเท่าไหร่แล้วมั้ง” แบมแบมพึมพัมเสียงเบา จะว่าไปที่ล้มเมื่อกี้เขาก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว มีก็แต่ความรู้สึกเจ็บแปลบๆตรงข้อเท้านี่แหละที่แบมแบมยังรู้สึกว่ามันยังไม่บรรเทาลงไป
“ห้ามดื้อกับเรา”
“ง่ะ ก็เราอายนิ่ ไม่ใช่ที่ห้องนะเราถึงจะได้มานั่งตักคยอมแบบนี้อะ” คิดว่าพูดเสียงเบาแล้ว แต่ไม่รอด...
คนที่รอฟังจนหูผึ่งอย่างหวังกับเอินนี่ได้ยินไปชัดๆเต็มๆ
O__o;
“เอิน...เอินได้ยินแบบที่หวังได้ยินมั๊ย?” กระซิบเบาๆข้างหูคนตัวขาว แต่สายตาวาวๆของแจ๊คสันยังไม่ละไปจากเด็กยักษ์กับเด็กจิ๋วตรงหน้า
“ทีนี้เข้าใจที่เอินพูดเมื่อกี้แล้วรึยัง?” ต้วนอี้เอินหรี่ตาลงเหมือนคนกำลังใช้ความคิด ใบหน้าหวานจับจ้องที่ร่างของสองรุ่นน้องอย่างพินิจพิจารณา
หรือว่า...เด็กพวกนี้จะไม่รู้ตัว?
“นั่งไปเถอะ ไม่เห็นต้องอายอะไร เราเป็นคนให้นั่งเรายังไม่อายเลย”
“บ้า” ว่าเข้าให้แล้วก็ได้แต่ซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง ทำไมแบมแบมจะไม่เห็นสายตาที่พี่ชายทั้งสองคนมองมา น่าอาย...น่าอายสุดๆไปเลย
“ไปไงมาไงแบมแบมถึงไปล้มแบบนั้นได้ล่ะ?” อี้เอินถามอย่างเป็นมิตร เขาเคยเห็นเด็กสถาปัตย์ตัวเล็กนี่อยู่หลายครั้ง เคยทักกันก็หลายหน แต่วันนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่อี้เอินจะทำความรู้จักกับแบมแบมแบบจริงจังเสียที
เผื่ออะไรๆมันจะได้กระจ่างขึ้น
“ก็...” คนแก้มป่องเงยหน้าขึ้นมาหมายจะตอบคำถาม แต่กลับถูกคนข้างๆแย่งตอบแทนเสียอย่างนั้น
“ก็ไอ้เชี่ยภาคไฟฟ้าตาขีดเดียวมันวิ่งมาชนแบมไง แม่ง...นึกแล้วอยากจะลุกไปต่อย ขอโทษสักคำก็ไม่มี” ยูคยอมกัดฟันกรอด ถ้าเมื่อกี้เพื่อนตัวเล็กล้มลงไปกระแทกขอบสนามจะทำยังไง ถ้าเขาไม่ได้นั่งตรงนี้แล้วใครจะเข้าไปช่วยพยุงแบมแบม?
ยิ่งคิดดวงตาคมก็ยิ่งขุ่นมัว
ยิ่งเห็นแบบนั้นเอินเอินก็ยิ่งชอบใจ
“เอินว่าเขาน่าจะอยากขอโทษแล้วล่ะ” นิ้วเรียวชี้ไปทางด้านหลังของยูคยอมกับแบมแบม พอทั้งสองคนหันตามไปดู ก็พบกับร่างสูงของเจ้าของเส้นผมสีดำสนิทในชุดบอลของคณะวิศวะกำลังเดินใกล้เข้ามา
“”
ความคิดเห็น