ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ϟ.Keeping room ' ห้ามเข้าเด็ดขาด !

    ลำดับตอนที่ #7 : [OS] ที่รัก...ของใครสักคน☆

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 356
      0
      5 มิ.ย. 58


    t h e m e © ` ( ユニか ) .
     


     




    [OS] ที่รัก...ของใครสักคน
    YUGYEOM x BAMBAM


     

    คำว่ารักในโลกใบนี้มีน้อยไปไหม

    ความรักวันนี้มันหายไปไหน

    ถ้าหากว่ามีใครรู้ช่วยบอกที

    คนที่เขามีรักเขาพบความรักที่ไหน

     

    “มองหน้าพวกกูทำไมวะ?” เสียงแหบของชายหนุ่มรูปร่างสันทัดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเรียกสติของยูคยอมให้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง ดวงตาเรียวคมสีน้ำตาลกระพริบสองสามทีก่อนจะค่อยๆเผยรอยยิ้มบางที่มุมปาก

    “อยาก...” ตอบไปสั้นๆ แล้วหยุดลงเหมือนคนจงใจเว้นช่วง แต่กลับไปสร้างความไม่พอใจให้คนฟังได้มากกว่าที่เจ้าตัวคาดไว้

    “ไอ้เชี่ย! มึงหยุดเลยนะ มึงมองหน้าเอินของกูแล้วบอกว่าอยากเนี่ยนะ!? เชี่ยยูค มึงวอนตายหรอ?” ตะโกนเสียงดังแล้วควงกำปั้นขึ้นมาหมายจะอัดเข้าไปที่ใบหน้าหล่อของน้องรหัส ขาสั้นของแจ๊คสันหวังยันตัวลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ถ้าไม่ติดว่ามีมือเรียวของคนข้างๆเอื้อมมาดึงชายเสื้อเอาไว้ หวังรับรองได้...ว่าไอ้เลวคิมยูคยอมต้องถูกอัดลงไปนอนกองกับพื้นตั้งแต่เพิ่งพูดจบแล้ว

    “เอินจะมาห้ามทำไม? ดูแม่งดิ่ ไอ้น้องรหัสเลี้ยงไม่เชื่อง จะทรยศกูหรอ?!!

    “หวัง...นั่งลง” เสียงนุ่มของต้วนอี้เอินออกคำสั่ง ในขณะที่ดวงตากลมตวัดไปจ้องใบหน้าของคนรักคล้ายบังคับให้ทำตามอยู่กลายๆ

    “ไม่ได้หรอก ยังไงวันนี้ต้องได้ต่อยไอ้น้องเวรนี่ซักหมัด”

    “หวัง”

    “อะไรเอิน?”

    “บอกให้นั่ง!

    “แต่...”

    “โอ๊ย! ไอ้เชี่ยพี่แจ๊ค - -; ผมพูดแค่คำเดียวพี่ก็ของขึ้นจนเป็นบ้า ใครจะไปสนใจเอินของพี่วะ ที่ผมพูดว่าอยากน่ะ...ผมตั้งใจจะบอกว่าผมอยากรู้!” ยูคยอม คิม มนุษย์เอกโยธาที่เกือบจะโดนหมัดหนักๆของพี่รหัสต่อยเสยเอาที่ปลายคางรีบพูดออกมาด้วยความเอือมระอาในนิสัยของรุ่นพี่ใจร้อนนามแจ๊คสัน หวังคนกาก ผู้ชายตัวสั้นที่ไม่รู้ทำอีท่าไหนถึงไปคว้า ต้วนอี้เอิน หรือ เอินเอิน คนงามแห่งคณะอักษรมาครองได้

    ยูคยอมไม่เข้าใจ...

    เอินรักพี่รหัสเขาลงไปได้ยังไงกัน?

    “อ้าวไอ้เชี่ย ก็มึงไม่พูดมาให้ชัดๆวะ พูดว่าอยากมาคำเดียวกูก็ของขึ้นเลยดิ่ ห่า...ละมามองหน้าเมียกูอีก” พอรู้ความจริงแล้วน้ำเสียงเอะอะโวยวายเมื่อครู่ก็ถูกลดระดับกลับมาอยู่ในเวอร์ชั่นปกติ แจ๊คสันยักไหล่ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งข้างคุณแฟนที่รักด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ร่างบางข้างๆ หันมาดึงหน้าตึงใส่คนขี้โวยวายด้วยความรำคาญ

    “โห่เอิน มองหวังงี้ทำไมไม่ด่ามาเลยล่ะครับ”

    “เปลืองน้ำลาย” พูดแล้วก็เบือนหน้าหนี ไม่อยากจะยอมรับนักหรอกว่าตัวเองตกหลุมรักไอ้ผู้ชายเพี้ยนสติไม่เต็มตรงหน้า มีอย่างที่ไหนยังไม่ทันถามไถ่ให้รู้เรื่องก็ลุกพรวดจะไปใช้กำลังกับเขาแล้ว

    อี้เอินเครียด...อี้เอินจะประสาทกิน

    นี่ถ้าไม่ติดว่ารักนะ เขาจะทิ้งให้มันนั่งบ้าอยู่ตรงนี้คนเดียวไปเลย หึ้ย!

    “เอินแม่ง! พูดงี้เดี๋ยวหวังเคลียร์กะไอ้น้องยักษ์นี่เสร็จเมื่อไหร่ เราสองคนได้กลับห้องไปคุยกันยาวแน่!

    “ตกลงพวกพี่จะให้ผมพูดต่อมะ?” รำคาญคู่รักคู่นี้เหลือเกิน - -;

    “เออ พูดมา”

    “ผมอยากรู้...พวกพี่ไปหาความรักมาจากไหนวะ?” ถามเสร็จก็ขมวดคิ้วแน่น จริงจังราวกับว่าเป็นเรื่องที่อาจารย์จะนำไปออกข้อสอบ ยูคยอม คิมหรี่ตา ตั้งใจรอฟังคำตอบจากคู่รักประหลาดสองคนตรงหน้าแบบสุดๆ

    “ถามอะไรของมึงวะ” แจ๊คสันตกใจ ร้อยวันพันปีไอ้น้องรหัสตัวใหญ่ของเขามันก็เอาแต่ดูหนังฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อย ไม่เคยเห็นจะสนใจเรื่องความรักอะไรพวกนี้เลยซักครั้ง แล้วไหงวันนี้มันถึงถามงี้วะ?

    “มาแปลกนะยูค” แม้กระทั่งเอินเอินเองยังอดสงสัยไม่ได้ ยูคยอมที่เขาเคยรู้จักมาไม่ใช่ผู้ชายอ่อนไหวประเภทที่จะมานั่งคิดเรื่องหัวใจอะไรแบบนี้นี่นา?

    “ตอบๆผมมาเหอะ”

    “จะให้ตอบยังไงวะ? คำถามมึงนี่ตอบง่ายมากเลยเน๊อะ”

    “ก็พี่ไปหาความรักมาจากที่ไหน ทำไมใครๆก็มีวะไอ้ความรักเนี่ย ดูผมดิ่..อยู่มาจะยี่สิบเอ็ดปีแล้วยังไม่เคยรักใครซักคน ถามจริงๆนะพี่...ไอ้ความรักอะไรนี่มันหากันง่ายมากเลยหรอ?” ฟังจนจบแจ๊คสันยิ่งอยากยกมือขึ้นกุมขมับ ดูไอ้น้องตัวยักษ์มันถาม ละดูสีหน้ามันด้วย...จริงจังชิบหายเลยครับยูคยอม

    “มัน...ก็ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากหว่ะ โอ๊ย! ไม่รู้เว้ย กูตอบมึงไม่ถูกเหมือนกัน” คงต้องพึ่งความหวังสุดท้าย มนุษย์แจ๊คสันหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคนรักทันที

    งานนี้เค้ายกให้เอินเลย

    อืม...อี้เอินอ่านสายตามันออกว่าอย่างนั้น

    ตลอด! พอเวลาที่สมควรจะพึ่งพาได้ เขาต้องเป็นฝ่ายออกโรงเองทุกที - -; ตกลงมึงหรือกูแมนกว่ากันครับแจ๊คสัน หวัง?

    “ยูคมองหาอะไรอยู่ล่ะ?”

    “หมายความว่ายังไงอะเอิน?” รุ่นน้องของคนรักทำหน้างง ดวงตาคมสีน้ำตาลดูสับสนและเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ อี้เอินได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่...

    ใครหนอใครจับคนโง่สองคนมาเป็นสายรหัสกัน?

    “ก็หมายความว่าที่ถามน่ะ ยูคกำลังมองหาอะไร? ความรัก หรือว่า...”

    “........”

    คนรัก?

    “แล้วมันต่างกันตรงไหนอะ?”

    “ต่างสิ ก็ถ้านายกำลังมองหาความรัก เอินจะแนะนำให้นายเลิกหา เพราะรอบตัวเราทุกคนมันเต็มไปด้วยความรักอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าก็มีคนที่พร้อมจะรักนายมากมาย ทั้งเพื่อน ทั้งพ่อแม่ โดยเฉพาะคนหน้าตาแบบยูคด้วยแล้ว...เอินคงไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่ามีทั้งคนนอกคนในคณะมาแอบชอบอยู่กี่คน” ร่างบางเลิกคิ้วสูง ในขณะที่ร่างโปร่งกดหัวคิ้วต่ำ อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่ายูคยอมจะทึ่มจนไม่รู้ว่ามีใครมาแอบชอบเขาบ้าง เขารู้หมดนั่นแหละ แต่ก็แค่

    ไม่สนใจ

    “เออ คราวที่แล้วเด็กเภสัชยังมาขอให้กูช่วยเป็นพ่อสื่อให้เขากะมึงอยู่เลย” แจ๊คสันเสริม

    “แล้วพี่ตกลง?”

    “ไม่อะ..กูไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร ถ้าให้ช่วยเรื่องอื่นอาจจะได้ แต่เรื่องหัวใจของใครก็ของมัน” นานๆทีอี้เอินถึงจะรู้สึกว่าคนรักพูดจาเข้าท่าขึ้นมาบ้าง แบบนี้สิถึงจะควรค่าแก่การให้เขาคบหาเป็นแฟน

    “แจ๊คสันทำถูกแล้วล่ะยูค ทีนี้นายฟังเอินพูดต่อ...ที่เอินบอกเมื่อกี้คือ ความรักถ้ายูคไม่ใส่ใจความรักที่วิ่งวนอยู่รอบตัวแบบนี้ งั้นเอินจะถือเอาว่าสิ่งที่นายกำลังตามหาคือ คนรัก ถูกต้องมั๊ย?”

    “แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ?” ไม่เข้าใจ ยูคยอมก็ยังไม่เข้าใจอะไรมากขึ้นอยู่ดี

    “นายไม่ได้มองหาความรักจากไหนก็ได้ แต่นายกำลังมองหาใครสักคนที่จะมาเป็นคนรัก และร่วมแชร์ความรักกับนายไงล่ะยูคยอม” เอินเอินดีดนิ้ว ไม่ผิดแน่...เขามั่นใจ

    มนุษย์ตัวใหญ่นี่กำลังหวั่นไหวแบบสุดๆไปเลย

    “ไอ้น้องชาย..อยากมีแฟนหรอวะ? โถๆๆ แล้วทำไมไม่บอกเฮีย เดี๋ยวเฮียจะช่วยน้องรหัสที่รักเอง” แจ๊คสันตบอกแปะๆ หมายมั่นอยากจะหาน้องสะใภ้มาเข้าสายรหัสจนตัวสั่น แต่กลับถูกดับฝันด้วยเสียงเย็นๆที่ดังชิดใบหูขึ้นมา

    “ไหนบอกไม่ขี้เสือกไงครับหวังแฟนเอิน?”

    “อึก...คะ ครับๆ หวังไม่ยุ่งแล้วคร้าบบบ” คนเจ้ากี้เจ้าการยกสองมือขึ้นเป็นสัญญาณว่ายอมแพ้ จะให้สู้กับอะไรหวังไม่มีถอย แต่ถ้าเป็นเอิน...หวังขอยอมให้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยแล้วกัน

    ยอมหมด, ทั้งตัวและหัวใจ

    ยอมให้มานานแล้วด้วย <3

    ฮิ้วววววววว

    “แล้วผมจะไปหาคนรักอะไรนั่นมาได้จากที่ไหน?” เด็กตัวใหญ่กอดอก เอนหลังลงไปพิงกับพนักม้าหินอ่อน ยูคยอมมองไปทางลานกีฬารวมของวิศวะกับสถาปัตย์ด้วยแววตาเหม่อลอย

    เขาก็แค่เบื่อการอยู่คนเดียว...

    คนรอบตัวก็พากันมีความรักไปหมด ไม่ว่าจะเป็นพี่รหัสอย่างแจ๊คสัน หวัง หรือแม้แต่เพื่อนสมัยเด็กอย่างชเวยองแจ

    ทุกคนดูมีความสุข, แววตาของทั้งพี่แจ๊คสันและยองแจต่างก็เต็มไปด้วยประกายเมื่อพูดชื่อคนที่เป็นเจ้าของหัวใจออกมา

    บางทียูคยอมอาจจะอิจฉา...

    และบางทียูคยอมอาจจะอยากลองสัมผัสความรู้สึกเวลาได้เป็นห่วง คิดถึง และหึงใครอีกคน

    ใครคนที่เขายังหาไม่เจอ

    “ใครจะบอกได้ล่ะ? คำถามนี้นายต้องตอบด้วยตัวของนายเอง”

    “แต่ว่าผม...” ยังพูดไม่ทันจบคำยูคยอมก็หยุดนิ่งเสียจนคู่สนทนางงตามไปด้วย ร่างสูงรีบยันตัวลุกขึ้นยืนพรวดพราดจนแจ๊คสันตกใจ ก่อนจะออกวิ่งไปทางสนามกีฬาอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ย! ไปไหนวะเชี่ยยูค?” ตะโกนถามไล่หลังไป แล้วแจ๊คสันก็ได้คำตอบ เมื่อสายตาของเขามองเห็นร่างโปร่งน้องรหัสวิ่งไปหยุดอยู่ที่ข้างสนามกีฬา ยูคยอมค่อยๆย่อตัวลงตรงหน้าของร่างบางที่ถูกชนจนหกล้มลงไปอย่างแรง

    “อ่าวเอิน...เด็กคนนั้นคือ?”

    “น้องแบมแบมไง”

    “แบมแบม...รูมเมทไอ้ยูคอะนะ?”

    “อืม” เอินเอินพยักหน้ารับเมื่อแจ๊คสันถาม ดวงตากลมของเด็กอักษรคนสวยจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มรุ่นน้องสองคนที่ค่อยๆประคองกันเดินมาจากสนามกีฬาที่คนตัวเล็กล้มลงไปนอนกองเมื่อครู่ มือหนาโอบเข้าที่เอวบางของเพื่อนร่วมห้อง สายตาดูทุกข์ร้อนเสียจนคนมองรู้สึกสงสัย

    “เอินว่าเอินรู้แล้วล่ะหวัง”

    “หืม? เอินรู้อะไรหรอครับ?”

    “เอินรู้แล้วว่าจะหา คนรักจากไหนมาให้ยูคยอม” พูดจบพร้อมกับที่เด็กสองคนเดินมาถึงโต๊ะพอดี อี้เอินจึงรีบทำสายตาส่งไปหาแจ๊คสันว่าห้ามเอ่ยปากถามอะไร

    ทำเอาคนขี้สงสัยหุบปากฉับแทบจะไม่ทัน - -;

    เอินนะเอิน...ไม่ยอมบอกละจะมาหลอกให้เขาอยากรู้ทำไมวะ?

    หวังล่ะเซ็ง

    “สวัสดีครับพี่แจ๊คสัน สวัสดีครับพี่เอิน” คนตัวเล็กเจ้าของเส้นผมสีเขียวมิ้นต์เหมือนขนมหวานเอ่ยทักพี่ชายทั้งสองด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะร้องเหวอขึ้นมาเมื่อถูกเพื่อนตัวโตฉุดให้ลงไปนั่งกองอยู่บนตักอุ่น พอทำท่าจะขยับหนี สองแขนแกร่งก็รีบอ้อมมารัดเอวบางเอาไว้แนบตัว

    “นั่งตักเรานี่แหละ เก้าอี้มันแข็ง เดี๋ยวที่ล้มลงไปเมื่อกี้จะเจ็บเข้าไปใหญ่” พูดเองเออเองจนจบ ยูคยอมดึงโมเดลบ้านออกมาจากมือของร่างบาง แล้ววางลงบนโต๊ะอย่างถือวิสาสะทันที

    “ไม่น่าจะเจ็บเท่าไหร่แล้วมั้ง” แบมแบมพึมพัมเสียงเบา จะว่าไปที่ล้มเมื่อกี้เขาก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว มีก็แต่ความรู้สึกเจ็บแปลบๆตรงข้อเท้านี่แหละที่แบมแบมยังรู้สึกว่ามันยังไม่บรรเทาลงไป

    “ห้ามดื้อกับเรา”

    “ง่ะ ก็เราอายนิ่ ไม่ใช่ที่ห้องนะเราถึงจะได้มานั่งตักคยอมแบบนี้อะ” คิดว่าพูดเสียงเบาแล้ว แต่ไม่รอด...

    คนที่รอฟังจนหูผึ่งอย่างหวังกับเอินนี่ได้ยินไปชัดๆเต็มๆ

    O__o;

    “เอิน...เอินได้ยินแบบที่หวังได้ยินมั๊ย?” กระซิบเบาๆข้างหูคนตัวขาว แต่สายตาวาวๆของแจ๊คสันยังไม่ละไปจากเด็กยักษ์กับเด็กจิ๋วตรงหน้า

    “ทีนี้เข้าใจที่เอินพูดเมื่อกี้แล้วรึยัง?” ต้วนอี้เอินหรี่ตาลงเหมือนคนกำลังใช้ความคิด ใบหน้าหวานจับจ้องที่ร่างของสองรุ่นน้องอย่างพินิจพิจารณา

    หรือว่า...เด็กพวกนี้จะไม่รู้ตัว?

    “นั่งไปเถอะ ไม่เห็นต้องอายอะไร เราเป็นคนให้นั่งเรายังไม่อายเลย”

    “บ้า” ว่าเข้าให้แล้วก็ได้แต่ซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง ทำไมแบมแบมจะไม่เห็นสายตาที่พี่ชายทั้งสองคนมองมา น่าอาย...น่าอายสุดๆไปเลย

    “ไปไงมาไงแบมแบมถึงไปล้มแบบนั้นได้ล่ะ?” อี้เอินถามอย่างเป็นมิตร เขาเคยเห็นเด็กสถาปัตย์ตัวเล็กนี่อยู่หลายครั้ง เคยทักกันก็หลายหน แต่วันนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่อี้เอินจะทำความรู้จักกับแบมแบมแบบจริงจังเสียที

    เผื่ออะไรๆมันจะได้กระจ่างขึ้น

    “ก็...” คนแก้มป่องเงยหน้าขึ้นมาหมายจะตอบคำถาม แต่กลับถูกคนข้างๆแย่งตอบแทนเสียอย่างนั้น

    “ก็ไอ้เชี่ยภาคไฟฟ้าตาขีดเดียวมันวิ่งมาชนแบมไง แม่ง...นึกแล้วอยากจะลุกไปต่อย ขอโทษสักคำก็ไม่มี” ยูคยอมกัดฟันกรอด ถ้าเมื่อกี้เพื่อนตัวเล็กล้มลงไปกระแทกขอบสนามจะทำยังไง ถ้าเขาไม่ได้นั่งตรงนี้แล้วใครจะเข้าไปช่วยพยุงแบมแบม?

    ยิ่งคิดดวงตาคมก็ยิ่งขุ่นมัว

    ยิ่งเห็นแบบนั้นเอินเอินก็ยิ่งชอบใจ

    “เอินว่าเขาน่าจะอยากขอโทษแล้วล่ะ” นิ้วเรียวชี้ไปทางด้านหลังของยูคยอมกับแบมแบม พอทั้งสองคนหันตามไปดู ก็พบกับร่างสูงของเจ้าของเส้นผมสีดำสนิทในชุดบอลของคณะวิศวะกำลังเดินใกล้เข้ามา

    “”

     

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×