ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ϟ.Keeping room ' ห้ามเข้าเด็ดขาด !

    ลำดับตอนที่ #13 : [OS] Kiss me under the dark .

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 565
      1
      27 พ.ค. 58


    © Tenpoints!

     

    /1/

    [OS] Kiss me under the dark


     

     

     

    แบมแบมเหมือนคนถูกสะกดจิต...

    ดวงตากลมโตสีน้ำตาลดูเลื่อนลอย นัยน์ตาหวานสั่นไหวน้อยๆยามเมื่อจับจ้องไปที่ใครอีกคน

    “ยูคยอม”

    “อ่าวแบม..ยังไม่กลับอีกหรอ เรานึกว่าจะไม่มีใครอยู่ในตึกแล้วซะอีก” เสียงนุ่มที่ตอบกลับมายิ่งทำให้แบมแบมหายใจติดขัด บวกกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่อีกฝ่ายส่งมาให้..

    เขายิ่งเหมือนจะไปต่อไม่เป็น !

    ตรงหน้าของแบมแบมคือเพื่อนร่วมคณะเจ้าของความสูง 182.5 เซนติเมตร ผู้ชายที่มาพร้อมเส้นผมสีบลอนด์ทองอันโดดเด่น รับกับโครงหน้าหล่อเหลาของเจ้าตัวได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ที่สุด ยังไม่นับรวมจมูกโด่งเป็นสัน กับดวงตาคมสีเข้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์คู่นั้น ที่เผลอมองทีไรก็แทบจะทำให้เขาหยุดหายใจทุกที

    ยูคยอม คิม, ปี 3 ภาคเซรามิค คณะศิลปกรรมศาสตร์

    คือชื่อของผู้ชายที่อยู่ในหัวใจของแบมแบมมาตลอด 3 ปี

    “อะ..อ่า เรายังปั้นงานไม่เสร็จน่ะ เลยยังไม่ได้กลับเหมือนคนอื่น” ตอบแล้วก็ยกสองมือที่เปื้อนดินเหนียวขึ้นมาโชว์ให้คนตัวโตดูเป็นหลักฐาน ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มแหยๆ หัวเราะแฮะๆให้กับฝีมือที่ไม่ได้เรื่องของตน

    ไม่รู้จะโง่มาลงวิชา Pottery เป็นเลือกเสรีของคณะทำไม - -;

    ทั้งที่นั่งเขียนแบบดีไซน์เสื้อผ้าน่ะสบายกว่ากันเห็นๆ พลาดซะแล้วล่ะกันต์พิมุกต์ ภูวกุล

    “แต่แบมทำมาตั้งแต่บ่ายแล้วนะ น่าจะเสร็จได้แล้วนี่ มีอะไรให้เราช่วยรึเปล่า? บอกได้นะ” ยูคยอมอาสาช่วยเหลือตามนิสัยคนมีน้ำใจเป็นปกติ แบมแบมก็รู้...

    แต่ที่ไม่รู้ก็คือ ทำไมกับเรื่องแค่นี้หัวใจเขาถึงต้องเต้นรัวเหมือนกลองด้วย

    เต้นแรงจนจะทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว !

    “เกรงใจอ่ะ ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่นายเหอะ..ทำไมยังไม่กลับอีก?”

    “เราลืมแบบร่างไว้เลยกลับมาเอา อ่า...เจอละ อยู่นี่ไง” ดวงตาคมปราดมองไปทางชั้นวางของที่อยู่ข้างประตู ไม่นานนักก็เจอกระดาษแผ่นยักษ์ที่ตนเองวางลืมเอาไว้

    “ค่อยยังชั่ว นึกว่าต้องทำใหม่ซะอีก” หัวเราะหึในลำคอด้วยความโล่งอก แต่หารู้ไม่ว่าเสียงหัวเราะที่ดังออกมา มันไปกระตุกหัวใจของใครบางคนเข้า

    - - ตึกตัก ตึกตัก - -

    โอ๊ยแบมแบม! นายจะหวั่นไหวมากไปแล้วโว้ย!!!!

    คนหน้าเหมือนแมวโวยวายเสียงดังอยู่ในใจ นึกอยากจะยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองแรงๆ เผื่อว่าอาการ เคลิ้ม ไปกับทุกอิริยาบถของใครอีกคนมันจะหยุดลงได้สักที

    แม้ว่าตลอดหลายปีมานี้...มันจะไม่เคยได้ผลเลยก็ตาม

    เจอหน้ายูคยอมทีไร หัวใจของแบมแบมก็มีอาการเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมใส่ไปจนเต็ม มันพองฟู เบาหวิว พร้อมจะลอยติดมืออีกฝ่ายไปด้วยเสมอ

    บางทีแค่เผลอสบตายูคยอมเข้า แบมแบมยังเก็บเอาไปฝันเป็นเรื่องเป็นราวอยู่หลายต่อหลายคืน

    ฝันว่าได้เดินจับมือกัน ได้คบกัน ได้กอดกัน และที่สำคัญ...

    เขายังฝันว่าได้จูบกับยูคยอมด้วยเถอะให้ตาย !!!!

    จะให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้ ไม่งั้นกันต์พิมุกต์คงได้อายไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนตัวใหญ่ไปทั้งชาติ!

    “ว่าแต่นายจะไม่ให้เราช่วยจริงๆหรอแบม ผลงานนายมัน...เอ่อ.....ดูเหมือนจะต้องการความช่วยเหลืออย่างมากนะ” คิมยูคยอมพูดพลางชี้นิ้วไปทางกองดินแห้งๆที่แตกกระจุยอยู่บนแท่นหมุน คิ้วเรียวของเขาขมวดเข้าหากันเบาๆ คล้ายกับไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าจะออกมาเป็นผลงานประเภทไหน?

    “ให้เราช่วยน่าจะดีกว่าเน๊อะ?” หนุ่มนักปั้นแห่งภาคเซรามิคจ้องตาแบมแบมในระหว่างที่รอคำตอบ ส่วนเด็กภาคดีไซน์คนที่ถูกจ้องอะหรอ...

    นู่น! หน้าแดงแจ๊ดไปถึงหูแล้วจ้า

    กว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอ ไม่รู้ว่าแบมแบมปล่อยให้ยูคยอมยืนรอไปกี่นาที

    “แฮะๆ ก็จริงอะแหละ แต่เราเกรงใจนายอ่ะ ไม่ได้สนิทกันจะขอให้มาช่วยก็น่าเกลียดปะวะ?” พูดแล้วก็ยกมือเกาหัวแก้เก้อ ลืมไปละว่ามือกำลังเลอะอยู่ - -; มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ดินเปื้อนผมเหนียวหนึบไปแล้ว ทีนี้จะทำยังไง? แบมแบมเริ่มจนปัญญา

    “เอ้า! หัวเลอะหมดแล้วแบม ฮ่าๆ เราตัดสินใจละ เดี๋ยวเราช่วยแบมเอง” แบมแบมอยากตบปากยูคยอม ใครสั่งใครสอนให้พูดจาน่ารักแล้วมาฉีกยิ้มสดใสแบบนั้นให้เขากัน

    ไอ้คนบ้า!

    ไม่รู้หรอว่ากำลังฆ่าเราทางอ้อมน่ะ!!!

    :’( ป๊าม๊าช่วยแบมด้วย แบมกำลังจะตายเพราะผู้ชายชื่อยูคยอม!

    “แต่เราเกรงใจ”

    “จะเป็นไรไป เราก็เพื่อนแบมนะ ต้องเกรงใจด้วยหรอ?” ว่าแล้วก็เดินดุ่มๆเข้ามาประชิดตัวร่างบางที่ยังตามสถานการณ์ไม่ทัน ได้แต่ยืนอ้าปากค้าง ทำท่าเหมือนว่าอยากจะพูดอะไรสักอย่างออกมา

    “มาเหอะ ให้เราช่วยแบมดีกว่า อีกสองชั่วโมงตึกจะปิดแล้วนะ เดี๋ยวงานไม่เสร็จติดอยู่ในตึกนี่หิวตายเลย” ยิ้มตาปิดแล้วถือวิสาสะคว้าเก้าอี้อีกตัวมานั่งลงข้างที่เดิมของแบมแบม ร่างสูงผู้ถนัดวิชาปั้นควานมือลงไปในกล่องใส่อุปกรณ์ด้านหลังจนเจอผ้ากันเปื้อนอีกตัว

    “เราพร้อมละ แบมนั่งเลย”

    “แต่..” ร่างเล็กพูดเสียงค่อยแบบคนกล้าๆกลัวๆ จะไม่ให้กลัวยังไงไหวล่ะ ก็คนที่ชอบมาอยู่ใกล้ขนาดนี้ ฮืออ แอบรักมาตั้งสามปีแบมแบมยังไม่เคยได้พูดกับยูคยอมเยอะเท่าวันนี้เลยนะ จะบอกให้!

    ทุกครั้งที่เดินสวนกันตรงลานคณะ ก็แบมแบมนี่ล่ะที่เป็นคนเดินเลี่ยงไปก่อน

    กลัวไง...กลัวอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวโคตรจะดัง

    แล้วนี่ต้องมานั่งข้างกัน มีหวังความลับที่เก็บไว้มานานคงได้แตกเอาก็วันนี้แหละ

    ป๊าจ๋า ม๊าจ๋า... แบมป๊อดสุดๆเลย !

    “ถ้าบอกว่าเกรงใจอีกทีเราจะโกรธแล้วนะ”

    “อ่า..กะ ก็ได้ๆ ฝากตัวด้วยนะยูคยอม” จนแล้วจนรอดแบมแบมก็ไม่กล้าปฏิเสธเจ้าของเส้นผมสีบลอนด์ตรงหน้า กลัวว่าจะถูกอีกคนโกรธ กลัวว่าจะถูกอีกคนเมินใส่

    ขนาดแค่คิดยังทนไม่ได้...แล้วแบมแบมจะมีแรงอะไรไปดื้อใส่ยูคยอมกัน?

    “เราห่วยมากเลยนะ นายคงต้องทำใจมากๆไว้ก่อน แฮะๆ” ยิ้มแหยอีกรอบและอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่ามือเลอะ ร่างเล็กคงยกขึ้นมาเกาจมูกแก้เขินด้วยแล้ว แต่เมื่อเห็นอีกคนพยักหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร แบมแบมจึงย่อตัวนั่งลงบนเก้าอี้เวิร์คชอปของตัวเองเงียบๆแทน

    “แล้วแบมคิดยังไงถึงมาลงวิชานอกภาคเนี่ย?” ร่างสูงจัดที่นั่งให้ไม่เบียดร่างบางจนเกินไป ก่อนจะเอื้อมมือไปจุ่มลงถังน้ำ แล้วคว้าก้อนดินก้อนใหม่ลงมาวางบนฐานปั้นด้วยท่าทางคล่องแคล่ว

    ก็จะไม่ให้คล่องได้ยังไงไหว...ในเมื่อนี่มันคือวิชาบังคับของเด็กภาคเซรามิคปี 1 นี่นา

    “เด็กดีไซน์ปกติไม่เห็นเคยมีใครยอมให้ดินเลอะมือ” พูดไปเรื่อยๆ พลางเหลือบตามองแบบร่างที่แบมแบมวาดไว้ ยูคยอมกะไซส์ของดินที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะเริ่มพรมน้ำให้ดินเปียกจนได้ที่ ในขณะที่เด็กดีไซน์เจ้าของผลงานได้แต่นั่งตัวแข็งไม่รู้จะเอามือไม้ไปวางไว้ตรงไหน

    แล้วนี่ยูคยอมจะให้เขาตอบว่าอะไร?

    จะให้เขาตอบออกไปจริงๆหรอว่าที่โง่มาลงวิชานี้ เป็นเพราะอยากมาใช้ห้องภาคเซรามิคบ่อยๆ เผื่อว่าจะได้เจอใครบางคนที่แอบชอบน่ะ?

    บ้า! เขานี่ล่ะที่บ้าไปแล้ว

    “เราอยากลองทำอะไรใหม่ๆดูบ้างน่ะ แล้ววิชาของภาคนายก็ดูน่าสนใจดี” โกหกน่ะ โกหกหมดเลยล้วนๆ สำหรับแบมแบมที่น่าสนใจน่ะไม่ใช่วิชา...แต่เป็นใครบางคนที่เรียนภาคนี้ต่างหาก

    “จริงดิ่? เรานึกว่าอย่างแบมจะลงวิชาของพวกกราฟฟิคซะอีก เห็นสนิทกับคนในภาคนั้นหลายคน”

    อืม พูดอีกก็ถูกอีก, แบมแบมชอบวิชาของภาคกราฟฟิคมากกว่าจริงๆ

    แต่เดี๋ยวนะ! แล้วยูคยอมรู้ได้ยังไงว่าเขาสนิทกับพวกกราฟฟิคหลายคน?!!

    คงไม่ใช่ว่า...

    “แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเราสนิทกับพวกกราฟฟิคอะ?” แบมแบมคิดว่าเขาไม่ได้ตาฝาด ชั่ววินาทีหนึ่งยูคยอมดูชะงักค้างไปเหมือนว่าเขาพูดจี้จุดอะไรเข้า แต่แปปเดียวก็กลับมาส่งยิ้มสบายๆให้เขาเหมือนเดิม อย่างกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    เอ๊ะ? หรือว่าเขาจะตาฝาดไป..

    “ก็แบมดังไง สนิทกับใครคนทั้งคณะก็รู้หมดอยู่แล้ว”

    “อ่อ..นั่นสินะ” เสียใจอะ หน้าแตกปะวะเฮ้ย! แอบคิดไปเองว่าเขาก็สนใจเราเหมือนกัน ที่ไหนได้...ก็แค่รู้มาจากปากคนอื่น

    หวังอะไรโง่ๆอีกแล้วหว่ะแบม L

    คิดได้ยังไงว่าเขาอาจจะคอยมองเราอยู่เหมือนกัน, คิดได้ยังไงว่าคนอย่างเราจะไปอยู่ในสายตาของยูคยอม

    แบมแบมก็แค่เด็กภาคดีไซน์ที่ไม่เคยอยู่ในวงโคจรเดียวกับยูคยอมอยู่แล้วนี่

    โว้ย! ขี้ประชดเหมือนตุ๊ดเลยหว่ะแบม

    “งั้นถ้าไหนๆก็ยอมมือเลอะดินแล้ว ขยับมานี่สิ เดี๋ยวเราสอนปั้นให้” มือใหญ่กวักเรียกคนตัวเล็กสองสามที ถ้ามองไม่ผิด เหมือนว่าแบมแบมจะเห็นประกายวิบวับออกมาจากดวงตาของยูคยอมด้วย

    “จะดีหรอ? แต่เราห่วยอะ”

    “ห่วยก็ฝึกสิ เราเป็นใคร? ยูคยอมภาคเซรามิคเลยนะ ได้ครูดีอย่างเราแบมเก่งแน่ เรารับประกัน!” ชมตัวเองเสร็จก็หัวเราะเสียงดังกลบความเขิน คนตัวโตไม่รอให้แบมแบมตอบตกลง ก็เอื้อมมือใหญ่มาคว้าข้อมือของร่างบางให้เขยิบไปนั่งใกล้ๆทันที

    “แบมต้องขยับมานั่งข้างหน้าเรา ไม่งั้นสอนไม่ถนัด”

    “อ่าๆ ตรงไหนอะ?”

    “ตรงนี้”

    ตรงนี้?

    ตรงนี้??!

    ตรงนี้????!!!!!

    “ตรงนี้อ่ะนะ? พูดจริงปะเนี่ย?!” จะไม่ตกใจเลย จะไม่สติแตกงี้ด้วย ถ้าไอ้ ตรงนี้ ที่ว่า...มันไม่ใช่ที่นั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน กลางระหว่างขาของยูคยอมอ่ะ!!!

    ไอ้บ้า!!!!!!!!!!!!!!!!

    นี่ล้อกันเล่นใช่มั๊ยเนี่ย?

    “จริงดิ่ ไม่งั้นเราจะสอนไง? แบมต้องมานั่งขึ้นทรงดิน ละเดี๋ยวเราจะช่วยประคองมือ” ตาคมจ้องตาหวานกลับมาด้วยแววตาใสแป๋ว ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่มีอะไรซ่อนอยู่ในการกระทำ

    มีแต่แบมแบมนี่แหละ...มีแต่เขาคนเดียวนี่แหละที่คิดออกนอกกาแลคซี่ไปโน่นแล้ว!

    ก็มันน่ามั๊ยล่ะ? ถ้ากะอิแค่จะปั้นไหหนึ่งอันมันต้องนั่งประชิดตัวกันขนาดนี้ ทำไมยูคยอมถึงไม่ให้เขานั่งตักไปซะเลย

    L จะได้ตกใจตายไปเลยทีเดียว ไม่ต้องมาค่อยหัวใจกระตุกทุกครั้งที่เข้าใกล้แบบนี้เนี่ย! หึ้ย..

    “หรือแบมจะนั่งตักเราดี?”

    “เออก็แค่นั้นแหละ... ห๊ะ!!! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นายพูดว่าอะไร?” ร่างเล็กของลูกแมวขนฟูกระโจนแง้วขึ้นมาสุดตัว แบมแบมยืนขึ้นแล้วรีบหันกลับมาจ้องหน้าเพื่อนตัวโตที่นั่งยิ้มไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดด้วยความสงสัย...

    ตกลงเมื่อกี้เขาแค่หูฝาดไป หรือว่ายูคยอมพูดมันออกมาจริงๆ?

    “เราถามว่า...แบมจะนั่งตักเรามั๊ย? ถ้าเกิดว่าเก้าอี้มันแคบนั่งเบียดกันสองคนไม่ถนัด จะนั่งตักเราก็ได้นะ เราไม่ถือ”

    แต่!

    เรา!

    ถือ!!!!!

    แบมแบมกรีดร้องโหยหวนอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากจะเขย่าตัวยูคยอมแรงๆนัก ไอ้คนบ้า..ไอ้คนนิสัยไม่ดี พูดจาแบบนี้ออกมาได้ยังไง เราจะร้องไห้แล้วนะ

    ถามมาได้ว่าอยากนั่งตักมั๊ย?

    จะให้ตอบว่ายังไง? อยากนั่งจะตายแล้ว อะไรแบบนี้อะหรอ?

    เออนั่นแหละ..แบมแบมอยากนั่งตักยูคยอมจะตายแล้วจริงๆ

    “มะ...มะ ไม่เป็นไร เบียดนิดนึงเราทนได้ นายอ้าขาหน่อย เรากลัวทับขานายเจ็บ” แบมแบมพูดตะกุกตะกัก ในขณะที่ยูคยอมก็ทำแค่หัวเราะรับ แล้วขยับขาออกให้แบมแบมแทรกตัวนั่งลงมาตรงกลาง

    “โอเคมั๊ย?”

    “อะ...อืม โอเคๆ” พอร่างเล็กตอบแบบนั้น ร่างสูงก็กดเปิดสวิตช์เครื่องหมุน ก่อนจะเอื้อมแขนไปคว้ามือเล็กของแบมแบมขึ้นมากุมเอาไว้

    “เดี๋ยวเราประคองมือแบมขึ้นทรงดินนะ ไม่ต้องเกร็ง แปปเดียวก็เสร็จ” สาบานว่าแบมแบมไม่ได้คิดอะไรกับประโยคกำกวมนี้สักนิด! เกร็งอะไร? เสร็จอะไร? แบมแบมไม่รู้... แบมแบมใสใส

    “เดี๋ยวเราทำเองก็ได้ นายไม่ต้องจับมือเราหรอก”

    “แน่ใจหรอว่าจะไม่พังแบบอันที่แล้ว?”

    “อะ...เอ่อ ก็ไม่แน่ใจ”

    “งั้นก็ให้เราประคองแบบนี้แหละ เราบอกแล้วไงว่าจะสอน แบมแค่ทำตามที่เราบอกก็พอ”

    “อือ” รับคำแบบว่าง่ายๆ แบมแบมปล่อยให้มือร้อนของยูคยอมประคองไปขึ้นทรงไหที่ตัวเขาเองพยายามทำมาตั้งแต่เที่ยง ดวงตากลมโตโฟกัสไปที่ดินเหนียวในอุ้งมือ ค่อยๆใจจดใจจ่อกับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของมันทีละนิด พลางนึกสงสัยว่าทำไมตอนที่ปั้นเองคนเดียวมันดูไม่น่าสนใจแบบนี้

    คงเป็นเพราะคนข้างหลังนั่นแหละ..แบมแบมหาข้อสรุปอื่นไม่เจอแล้วจริงๆ

    “แบมต้องไม่ใจร้อน ค่อยๆกลึงมัน ค่อยๆเลี้ยงให้มันขึ้นรูป ถ้าอยากให้ขอบสวยแบมต้องเอามือข้างนึงประคองไว้ อีกข้างก็แผ่ดินออกมาจากด้านใน งงมั๊ย? ถ้างงเราจะอธิบายให้ฟังอีกที” เสียงนุ่มของยูคยอมพูดขึ้นที่ข้างใบหู ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหรที่ใบหน้าของคนตัวใหญ่เข้ามาใกล้แบมแบมถึงขนาดนี้ ร่างเล็กเริ่มรู้สึกถึงความร้อนที่ลามไปทั่วทั้งใบหน้า ยามที่สายตาเหลือบไปเห็นริมฝีปากสีอ่อนของอีกฝ่าย

    “ก็..เริ่มเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วล่ะมั้ง” ตอบเสียงเบาหวิว ในขณะที่สายตาค่อยๆเลื่อนไปสำรวจทั่วทั้งใบหน้าของยูคยอม

    เขาคงไม่รู้ตัวหรอกใช่มั๊ยว่าเราแอบมอง...ก็ตั้งใจสอนเราปั้นดินอยู่ถึงขนาดนั้นเลยนี่นา

    แบมแบมปล่อยให้มือนุ่มของตัวเองขยับไปตามการควบคุมของมือหนาที่คอยโอบกุมไว้ ยูคยอมแทบจะไม่ได้ละสายตาไปจากไหที่กำลังหมุนคว้างอยู่กลางแท่นเลยสักนิด แต่ดวงตาสีดำสนิทของคนตัวใหญ่กลับดึงดูดความสนใจของแบมได้ไม่ต่างกับที่เคยเป็นมา

    แบมแบมน่ะชอบแววตาของยูคยอมตอนที่กำลังตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆออกมาเป็นที่สุด !

    ชอบสีหน้าจริงจัง ชอบท่าทางการเม้มริมฝีปากในยามที่ร่างสูงกำลังใช้ความคิด ชอบวิธีการขยับมือ ชอบน้ำเสียง ชอบไหล่กว้างๆ

    จริงๆแล้วแบมแบมก็ชอบหมดทุกอย่าง..

    อะไรที่เป็นยูคยอมแบมแบมก็ชอบทั้งนั้น

    “ตรงไหนที่ยังเบี้ยวอยู่แบมก็ต้องค่อยๆกลึงไปนะ ส่วนพวกปากไหถ้าไม่ชัวร์เดี๋ยวปิดเครื่องก่อนแล้วค่อยมาเช็คดูอีกรอบก็ได้ว่ามันดีแล้วหรือยังไม่โอเค เผื่อว่าถ้าดินแข็งไปจะได้พรมน้ำเพิ่มเลยทีเดียว แล้วก็นะ...” ยูคยอมพูดอะไรตามมาอีกตั้งมากมาย แบมแบมฟังพอจะจับใจความได้ก็เรื่องเกี่ยวกับการใช้กระดาษทรายแต่งผิวดินนี่ล่ะ แต่ให้บอกรายละเอียดนี่ไม่สามารถจริงๆ เพราะตอนนี้หูของแบมแบมมันอื้อจนไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไปแล้ว

    เหมือนเวลาทั้งหมดจะหยุดลง, โลกหยุดหมุนไปพร้อมๆกับตอนที่แบมแบมจ้องมองริมฝีปากของยูคยอมขยับไปมาตามจังหวะการพูด เหมือนโดนสะกดจนละสายตาออกมาไม่ได้

    ...แค่เพียงลองนึกภาพในฝันที่เขาได้จูบกับคนตรงหน้า...

    แก้มใสก็ขึ้นสีแดงจัดทันตาเห็น !

    I can’t hear a single word

    Just know you’re talking ‘cause your lips keep moving

    ไม่ได้ยินเสียงยูคยอมพูดอะไรเลย มีเพียงการขยับปากของยูคยอมที่เท่านั้นที่ทำให้แบมแบมรู้ว่าคนตัวสูงยังคงตั้งใจเลคเชอร์เขาเรื่องหลักการปั้นที่ถูกต้องอยู่

    Everything I thought I’d learned

    Goes out the window

    All I want is one thing

    ไม่ใช่แค่ตอนนี้แบมแบมฟังอะไรไม่รู้เรื่อง แต่ไอ้ที่คนผมทองสอนเขามาทั้งหมดก่อนหน้านี้ มันก็ได้ปลิวหายออกหน้าต่างไปหมดเกลี้ยงแล้ว

    จะให้ทำยังไงได้ล่ะ? ในเมื่อหัวของเขาตอนนี้มันมีแต่ภาพของยูคยอมเต็มไปหมด

    ทั้งความร้อนที่โอบแนบอยู่ชิดกับแผ่นหลัง ทั้งความแข็งแกร่งของวงแขนที่โอบรอบตัวเขาอยู่ตอนนี้ แบมแบมควรจะโฟกัสที่ไหนหรอ? แบมแบมควรจะตั้งสติยังไงถึงจะไม่เคลิ้มไปกับสัมผัสของอีกฝ่ายที่คลอเคลียเขาอยู่ไม่ห่าง

    ใช่...ยูคยอมอาจไม่คิดอะไร

    แต่บอกได้เลยว่าแบมแบมน่ะคิดไปเต็มๆ

    You can promise castle, treasures, babies

    I don't care

    Cause right now you're just enough for me

    I want you near

    “ตรงคอแจกันต้องค่อยๆใช้นิ้วกลึงแบบนี้นะแบม อย่าเผลอกดแรง...” พูดไปเถอะ ยูคยอมอยากจะพูดอะไร อยากจะให้แบมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แบมแบมยอมทำตามทุกอย่าง

    ขอแค่...ขอแค่ได้อยู่ใกล้ยูคยอมนานขึ้นอีกนิด

    ได้อยู่ชิดกันมากขึ้นแม้จะอีกแค่ 1 มิลลิเมตรก็ยังดี

    Like a fairytale to feel your breath right on my neck

    You remember what I love so baby takes me back

    เหมือนกับความฝันเลย ใครจะกล้าคิดว่าตอนนี้มันจะเกิดขึ้นจริงๆ?

    แบมแบมที่เคยทำได้แค่คอยแอบมองยูคยอมจากที่ไกลๆ ไม่ให้อีกคนสังเกตเห็น.. ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่แบมแบมทำได้ก็คือคอยทำตัวเป็นเหมือนอากาศ คอยโอบล้อมรอบตัวยูคยอม คอยส่งขนมให้ คอยนั่งรอในเวลาที่อีกคนต้องทำงานดึก

    ยูคยอมไม่รู้ตัวหรอก...ไม่มีทางรู้แน่ๆ ว่าที่แบมแบมชอบอาสาทำกิจกรรมของภาคเพื่อที่จะได้อยู่คณะจนดึกดื่นน่ะ เขาทำไปเพียงเพราะว่าจะได้เดินกลับบ้านพร้อมกัน

    ยูคยอมไม่รู้หรอก ว่าแบมแบมน่ะแอบเดินตามอยู่ห่างๆมาตลอด เขาซ่อนตัวเก่งจะตาย เพื่อนในภาคแบมคนไหนก็รู้...

    จะว่าไปแล้วก็อย่างที่ยูคยอมเคยพูด, แบมแบมเป็นคนดัง สนิทกับใครคนทั้งคณะก็ต้องรู้อยู่แล้ว

    แต่ที่ยูคยอมไม่รู้ก็คือ.. แบมแบมแอบรักใคร คนทั้งคณะก็รู้หมดแล้วเหมือนกัน

    มีแต่เจ้าตัวนั่นแหละ,

    มีแต่เด็กเซรามิคตัวยักษ์คนนี้นี่แหละที่ไม่เคยเอะใจอะไรเลย L

    “แบม...ฟังเราอยู่รึเปล่า?” เสียงนุ่มที่เรียกชื่อเขาเสียติดใบหูเล็ก ทำให้เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งโหยง ไหล่ลาดหดหนีลมหายใจร้อนของคนตัวใหญ่ที่เป่ารดลงมาแถวซอกคอโดยไม่ตั้งใจ แบมแบมหน้าขึ้นสี ยามเมื่อตกอยู่ภายใต้การจ้องมองของดวงตาที่มีเสน่ห์ยิ่งกว่าใคร

    แบมแบมรักดวงตาของยูคยอม

    ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน...

    “แบม”

    “ฟะ...ฟังสิ เราฟังอยู่”

    Turn the lights down low and kiss me under the dark

    Cause when you're touching me baby I see sparks

    - ฟึ่บ! -

    “เฮ้ย!” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร จู่ๆไฟในตึกก็ดับพรึ่บลงเสียอย่างนั้น แบมแบมตกใจจนต้องรีบกำมือยูคยอมไว้แน่นทันที

    “ยังไม่สี่ทุ่มเลยนะ ทำไมไฟดับทั้งตึกแบบนี้”

    “ไฟตกมั้งแบม ไม่ต้องกลัวหรอก อีกแปปเดียวก็คงติด” ร่างหนารั้งตัวร่างเล็กเข้ามาแนบอก เห็นท่าทางตกใจเหมือนลูกแมวแบบนั้นแล้วเขาอดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ

    “แต่...แต่นี่มันมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลยนะ”

    “เห็นสิ นี่ไงเรายังมองเห็นแบมเลย โชคดีที่ห้องนี้มีหน้าต่าง แสงจากข้างนอกเลยพอจะส่องเข้ามาให้เห็นลางๆได้บ้าง” ยูคยอมว่าพลางยกยิ้มที่มุมปาก อ้อมแขนร้อนกระชับร่างน้อยของคนตัวหอมให้เข้ามาใกล้มากขึ้น ในขณะที่คนถูกกอดได้แต่ก้มหน้างุดๆ ซุกอยู่กับแผงอกแกร่งเหมือนลูกแมวกำลังหาที่พึ่ง

    “นั่งอยู่แบบนี้จนกว่าไฟจะมาก็ได้ เดี๋ยวเราอยู่กับแบมเอง”

    “ขะ...ขอบคุณนะ”

    “แบมกลัวความมืดหรอ?”

    “เปล่าหรอก...เรา.....แค่ไม่ชอบเวลาที่มองอะไรไม่เห็น” อาการสั่นน้อยๆ ยืนยันคำพูดของแบมแบมได้เป็นอย่างดี

    “แบมเงยหน้าสิ ซุกอยู่กับอกเราแบบนั้นจะไปมองเห็นอะไร” ยูคยอมพูดเจือเสียงหัวเราะ ร่างสูงขยับตัวห่างออกจากแบมแบมเล็กน้อย พอให้ร่างบางในอ้อมกอดได้ขยับตัวเงยหน้าขึ้นมา

    “เงยแล้วก็ยังมองไม่เห็นอยู่ดี” แค่มือตัวเอง..เพ่งแทบตายแล้วแบมแบมยังมองไม่เห็นเลย

    “มองดีๆสิแบม มองหน้าเรา” คราวนี้คนผมสีฟ้าขยับตัวดุ๊กดิ๊ก ละสายตาออกมาจากมือเรียวของตน แล้วหันหน้าไปทางต้นเสียง ยังไม่ทันจะหรี่ตาเพ่งฝ่าความมืด แสงจันทร์ที่ส่องลอดบานหน้าต่างเข้ามาก็ช่วยให้แบมแบมมองเห็นยูคยอมได้ในทันที

    แม้จะเป็นแค่เงาเพียงลางๆ แต่แบมแบมก็ยังเห็นนัยน์ตาที่เปล่งประกายวิบวับเหมือนกับดาวตกดวงใหญ่คู่นั้นได้ชัดเจน ไม่ใช่แค่นั้น...แม้แต่สันจมูกโด่ง และปรอยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผาก แบมแบมก็ยังมองเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...

    ริมฝีปากของยูคยอมที่ปรากฎอยู่ในระดับเดียวกับสายตา

    แบมแบมคิดไปว่าตัวเขาเองกำลังต้องมนต์สะกดอีกครั้ง เหมือนถูกตรึงให้คอยมองเพียงแค่ยูคยอมคนนี้คนเดียว

    น่าแปลกที่ถึงแม้จะมีคนเข้ามาจีบเยอะแยะ แต่แบมแบมกลับไม่เคยหวั่นไหว, คงเป็นเพราะหัวใจเขามันไม่อยู่กับตัวตั้งแต่แรกแล้วล่ะมั้ง แม้ว่าจะไม่เคยได้มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ แต่แบมแบมก็พบว่าการแอบรักยูคยอมอยู่ห่างๆ ไม่เคยทำให้เขารู้สึกรักน้อยลงไปเลย

    ตรงกันข้าม... ความรู้สึกในหัวใจเขามันมีแต่จะมากมายขึ้นทุกวัน

    ยิ่งได้มองเห็นความดีของยูคยอมที่มีต่อเพื่อนร่วมคณะทุกคน มองเห็นความพยายามและการไม่ย่อท้อต่องานหนัก มองเห็นความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาของชายตัวยักษ์คนนี้ ยูคยอมจึงค่อยๆ ก้าวเข้ามาเติมพื้นที่หัวใจของแบมแบมจนเต็ม

    บางทีตอนนี้มันอาจจะถึงเวลาที่เขาต้องแสดงความรู้สึกออกไปให้ชัดเจนแล้วก็ได้

    3 ปีที่ผ่านมาสำหรับแบมแบม, ไม่ใช่แค่ความรู้สึกชั่วครั้งชั่วคราว

    กับคิมยูคยอมแล้ว แบมแบมไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่จะคงอยู่ตลอดไป

    เจอกันตอนเช้าแบมแบมก็รัก

    นั่งทานข้าวใกล้กันในโรงอาหารแบมแบมก็รัก

    เต้นสันทนาการด้วยกันตอนออกค่าย แบมแบมยิ่งรักเข้าไปใหญ่...

    ไม่มีช่วงเวลาไหนของคิมยูคยอมที่กันต์พิมุกต์จะไม่ตกหลุมรักเลย

    ไม่มี...

    ไม่เคยมี

    “ยูคยอม”

    “หื้ม?” แค่เพียงเสียงตอบรับเบาๆเท่านั้น แบมแบมก็ไม่อาจสั่งให้ตัวเองเก็บงำความรู้สึกได้อีกต่อไป ร่างน้อยเอื้อมวงแขนขึ้นไปรั้งคอคนตัวใหญ่ให้โน้มลงมา ก่อนจะพาริมฝีปากที่สั่นระริกของตัวเองไปทาบทับลงบนกลีบปากร้อนของใครอีกคนที่เขาเคยฝันถึงมาตลอด มือบางกระชับรอบต้นคอของร่างสูงแน่น ท่ามกลางความมืดที่บดบังสายตา ณ ตอนนี้...แบมแบมได้เห็นชัดเจนแล้ว

    เห็นหมดแล้วว่า...ในหัวใจของเขาได้ถูกคิมยูคยอม ปี 3 จากภาคเซรามิคยึดครองไปแล้วจนเต็มทุกพื้นที่ ไม่มีเหลือให้ใคร ไม่แม้แต่จะเหลือเอาไว้รองรับการถูกปฏิเสธด้วยซ้ำไป

    ริมฝีปากเย็นเฉียบค่อยๆย้ำจูบลงไปบนริมฝีปากร้อนจัดของคนตัวโตกว่า แบมแบมไม่กล้าลืมตา ไม่กล้าคาดหวังว่าจะได้เห็นสีหน้าแบบใดจากยูคยอม

    อาจจะถูกเกลียด

    หรืออาจจะถูกโมโหใส่

    ช่ามันเถอะ...อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้แบมแบมก็จะไม่กังวลอีกแล้ว

    “เรารักนาย” กระซิบแนบชิดติดริมฝีปากของอีกคน แบมแบมหลับตาลงเหมือนคนยอมรับความจริง ยูคยอมจะพูดอะไร จะทำสีหน้าแบบไหน เขาก็จะรับให้ได้ทุกอย่าง

    ขอแค่...

    “เรารักนายมาตลอด 3 ปี” แค่คำๆนี้ แบมแบมขอแค่มีโอกาสได้พูดออกมา

    ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไรก็ตาม...

    “......” ยูคยอมมีเพียงความเงียบแทนคำตอบ แต่วงแขนร้อนนั้นกลับไม่ได้เงียบตามไปด้วย ร่างสูงฉวยโอกาสในตอนที่แบมแบมกำลังรอคอยให้เขาพูดอะไรกลับไปสักอย่างล็อคเอวของร่างบางเอาไว้ ริมฝีปากที่เป็นฝ่ายถูกทาบจูบลงเมื่อกี้ กลายเป็นฝ่ายที่คอยป้อนจูบหอมหวานกลับคืนไปให้คนน่ารักในอ้อมกอดแทน

    ยูคยอมแทบจะไม่ปล่อยให้แบมแบมได้หายใจ คนตัวใหญ่บดเบียดเก็บเอาทุกความหวานที่ได้จากร่างหอมกรุ่นตรงหน้าไปอย่างหนักหน่วง มือหนากดลงตรงท้ายทอย เกร็งมือไว้ไม่ให้ใบหน้าน้อยๆของแบมแบมมีโอกาสหนี

    ในขณะที่คนถูกจูบกลับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ แบมแบมกำมือขยุ้มเสื้อของยูคยอมไว้แน่น ปากเล็กพยายามจะผละออกห่าง ตั้งใจว่าจะทวงถามถึงสาเหตุที่อีกคนทำแบบนี้กับเขา แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกมา แบมแบมก็ต้องกลืนคำพูดทุกอย่างลงไปเมื่อคนผมทองกดจูบลงมาอีกครั้งและอีกครั้งโดยที่เขาไม่มีโอกาสตั้งตัว

    แต่อย่างว่า...ถึงมีโอกาสแบมแบมก็คงไม่ผลักยูคยอมออกอยู่ดี

    คิดแบบนั้นก็ตัดสินเลิกประท้วง แบมแบมหลับตา ปล่อยให้คนตัวสูงกว่าเป็นคนนำพาเขาให้ล่องลอยไปกับจูบที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับขนมสายไหมพองฟู

    ...ทั้งอุ่น ทั้งนุ่ม ทั้งหวาน...

    นี่มันดียิ่งกว่าที่เขาเคยจินตนาการเอาไว้ในความฝันซะอีก!!!

    “อร่อยจัง” ถอนจูบออกมาช้าๆ ก่อนที่หมีตัวโตจะกระซิบเสียงแหบพร่าชิดใบหูของลูกแมวตัวน้อยที่ทั้งหวาน ทั้งอร่อยกว่าขนมทุกอย่างที่ยูคยอมเคยชิมมา

    “น่ะ...นายหมายความว่ายังไง”

    “ก็หมายความว่าแบมอร่อยไง”

    “มะ...ไม่ ไม่ใช่สิ”

    “หื้ม?”

    “เราถามว่านายจูบเราทำไม? มันหมายความว่าอะไรกัน?” แบมแบมงงไปหมดแล้ว ดวงตากลมใสจับจ้องฝ่าความมืดไปยังใบหน้าของคนที่เพิ่งถอนจูบออก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×