ตุ๊กตายางเจ้าแม่ - นิยาย ตุ๊กตายางเจ้าแม่ : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    ตุ๊กตายางเจ้าแม่

    เมื่อหุ่นสังหารมาในรูปตุ๊กตายาง แล้วยังถูกขโมยไปโดยชายหนุ่มคนหนึ่ง แถมยังถูกขโมยไปอีกต่อ ไปสวมชุดไทยเป็นเจ้าแม่ตะเคียนทอง การผจญจึงชุลมุนวุ่นวาย

    ผู้เข้าชมรวม

    594

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    594

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    9
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  21 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 มิ.ย. 67 / 10:40 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    องก์หนึ่ง

    ดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งเฉียดใกล้โลก

     

    1

    ยังไม่มีใครรู้ตัวว่าตุ๊กตายางโดนขโมยไป โดยหลักการ ยังไม่มีใครรู้ว่ามีตุ๊กตายางชนิดเหมือนคนเป๊ะอยู่ในบ้าน ตอนที่มันหายไปจึงไม่มีใครรู้

      เมพกลับมาบ้านในวันที่หก เร็วกว่ากำหนดหนึ่งวัน

    เขาบอกที่สัมมนาว่าไม่สบาย ข้ออ้างทั่วไป ข้ออ้างสิ้นคิด แต่เขามีใบรับรองแพทย์

    ก่อนนั้นเขาปวดหลัง ไปโรงพยาบาลเข้าเครื่องสแกนแล้วมีใบรับรองแพทย์ไว้ใช้อ้างในทุกกรณี เขากลับถึงบ้านโดยหวังว่าล็อตเต้จากไปแล้ว เพื่อนผู้ล้มเหลว เขาควรจะเติบโตแล้วเรียนรู้ พวกเขาไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว เมพคิดเช่นนั้น ก็เลยไม่ยินยอมให้ความช่วยเหลือเรื่องที่พักอีกต่อไป แต่นั่นแหละ ทั้งสองเป็นเพื่อนเก่าแก่ยาวนาน จะใจดำได้สักแค่ไหน เมพจึงอนุญาตให้ล็อตเต้พักต่อที่บ้านเขาอีกสักคืน ให้นอนดูหนังเฝ้าบ้านในตอนที่เขาต้องบินไปสัมมนาต่างจังหวัด แต่มีข้อแม้ว่าแค่คืนเดียวเท่านั้น

               ล็อตเต้จากไปแล้ว ตอนที่เมพกลับมาถึงบ้าน ตุ๊กตายางก็หายไปพร้อมกัน

     

    2

    ล็อตเต้แบกความชอกช้ำมาหาเมพ ตกเย็นย่ำค่ำคืน พวกเขาดื่ม สูบกัญชา ดูหนังแผ่นกันจนเกือบหมดตู้ เรื่องไหนชอบก็วนกลับดูซ้ำ นอนกองอยู่ที่โซฟา ทั้งสองนอนแช่เหมือนตอนวัยรุ่น ทำกับข้าวกินกัน ไก่ต้ม แกงส้มปลา สปาเกตตี้ คุ้ยออกมาทำจนหมดเช่นกัน กระทั่งว่ามาม่า ปลากระป๋อง ไข่ก็หมด ขนมปังหมด กลางวันเมพไปสอนตามปกติ เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้สอน เขาเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน งานเขาคือบริหาร จัดการนู่นนี่ ระหว่างปล่อยให้ล็อตเต้อยู่บ้าน เขาทำงาน ซื้อของมาเพิ่มตอนเลิกงาน ล็อตเต้ทำทุกอย่างได้เหมือนบ้านตัวเอง

    แต่ห้ามเข้าไปในห้องนอน

    พอครบสามวันเมพนึกสงสัยเล็กน้อยที่ยังไม่เห็นล็อตเต้เอ่ยปากลา ปกติเขาจะอยู่ไม่เกินสามวัน พวกเขาไม่ใช่เด็กกันแล้ว ที่จะอยู่ติดกันเป็นเดือนๆ แต่คราวนี้แปลก

     ล็อตเต้ผมยาวมัดรวบหางม้า สวมเสื้อยืดสีน้ำเงินที่เป็นโลโก้กัปตันอเมริกา กับกางเกงยีนส์ซีดๆ คอนเวิร์สหนังสีดำที่พื้นสึกหมดแล้ว ชุดประจำชุดเดียวที่เขามี อย่างน้อยเมพก็เห็นแค่นั้น นั่นเป็นชุดที่เมพยกให้ หุ่นเริ่มบวมแล้ว ขนาดพุงและจำนวนหงอกบนหัวเท่าๆ กันทั้งสองคน เสื้อผ้าใส่กันได้ ทุกครั้งที่มาหา ล็อตเต้ไม่ต้องพกกระเป๋าเสื้อผ้า แน่นอน เขาไม่เคยมี เขาสะพายกระเป๋า แต่ข้างในไม่มีเสื้อผ้า เขาใส่เสื้อผ้าของเมพได้ตามสะดวก และใส่กลับไปชุดหนึ่งเสมอ

    ล็อตเต้มีเมีย ลูกสองคน ความสัมพันธ์กระท่อนกระแท่น หย่าแต่ยังคงอยู่บ้านเดียวกัน เขาให้เหตุผลว่าลูกยังต้องการพ่อ ไม่ใช่หรอก มึงไม่มีปัญญาไปหาบ้านเช่า เมพรู้เหตุผลที่แท้จริง ทุกครั้งที่ทะเลาะ เรียกง่ายๆว่าโดนไล่ออกจากบ้าน เมพจะเห็นล็อตเต้มาเคาะประตู เหมือนครั้งนี้

               ไม่ต้องพูดคุยมากมาย เมพดีใจที่ล็อตเต้มา พวกเขาดื่มกินและคุยกันยาว เมพอยู่คนเดียว ผู้อำนวยการหนุ่มที่เป็นโสด ไม่ได้เป็นเกย์แต่ไม่หาใครมาเป็นภาระ อยู่ในบ้านคนเดียว กับบอนไซ กับหนังแผ่น กับเพลง กับรูปวาด ไม่มีแมว ไม่มีหมา ไม่มีปลาทอง กับมีดดาบและขวานของสะสมเป็นตู้ เหล้าแจ๊คแดเนี่ยลอีกเป็นตู้

               จะว่าไปนั่นก็เป็นปัญหาในหน้าที่การงาน คนวัยสี่สิบแต่ไม่มีเมีย บ้าบอ ออกงานทีก็ลำบาก วงสังคมมีแต่เรื่องนินทา เมพจึงบอกทุกคนว่าเมียของเขาไปต่อปริญญาโทที่ฟิลิปปินส์ เขาตกแต่งห้องโดยมีรูปหญิงสาวคนหนึ่งแขวนอยู่ทั่ว เมียที่ไปทำปริญญาโท เมียผู้ไม่มีตัวตน ถ้าผ่านไปหลายปีมึงจะบอกคนว่าไง ปริญญาโทใบเดียวตั้งห้าปี ล็อตเต้เคยถาม

    ก็บอกว่าต่อปริญญาเอก แล้วก็ได้งานวิจัยที่คองโก

    วิจัยอะไรวะ การสำเร้จตัวเองของกอริลล่าเพศเมียหรือไง

    เมพส่ายหัว บอกว่าเขามีวิธีก็แล้วกัน

    เอาตัวมึงให้รอดเหอะ

    เข้าวันที่สอง เหล้าหมดตู้ กับข้าวหมดเกลี้ยง เมพคิดว่าสามวันน่าจะพอดีสำหรับการต้อนรับเพื่อนคนหนึ่ง อีกวันเขาต้องบินไปสัมมนาที่นครสวรรค์ เขาพูดออกเสียงดังๆ เน้นชัดๆ ว่าจะไม่อยู่หลายวัน ล็อตเต้ไม่พูดอะไร เลือกหนังแผ่นต่อ หมดหนังเก่าแล้วก็เปิดสตรีมมิ่ง เลื่อนหาโปรแกรมหนังน่าสนใจ

    วันที่สามล็อตเต้ตื่นแต่เช้า เก็บจานชามไปล้าง กวาดบ้าน เก็บเสื้อผ้าไปซัก เมพแต่งตัวแล้ว กระเป๋าจัดแล้ว เขาคิดว่าล็อตเต้คงเข้าใจสถาณการณ์ จึงนั่งรอ

    ล็อตเต้ทำงานบ้านเสร็จก็มานั่งเลือกหนัง

    “กูจะออกไปสนามบิน มึงจะออกไปพร้อมกูไหม”

    “กูดูหนัง”

    เมพเหลือบดูประตูห้องนอน ลุกไปเช็คลูกบิดว่าล๊อคยัง กลับมานั่ง

    “กูไปหลายวัน”

    “เออ เดินทางปลอดภัย”

    เมพเงียบไปพัก จุดบุหรี่ หนังเริ่มไตเติ้ล ปรากฏดาวเคราะห์น้อยบนจอด้านบนขวาก่อน มันโคจรในความมืดเวิ้งว้างของอวกาศ บังหน้าจอมิดจนเห็นขอบคดโค้งและพื้นผิวตะปุ่มตะป่ำ พอมันผ่านไปก็ปรากฏโลกขึ้นด้านหลัง สีฟ้าเรืองรองกลางอวกาศดำมืด เป็นจุดเล็กๆ ก่อนจะขยายใหญ่

    วอยส์โอเวอร์เป็นเสียงหญิงสาวกำลังให้สัมภาษณ์ …ฉันคิดว่าเขารักฉัน

    “มึงปิดหนัง แล้วออกไปกับกู”

    ตอนนั้นเองที่เมพรู้ตัวว่าเขาต้องพูด เขารู้แล้วว่าจะจัดการเรื่องนี้แบบไหน มันไม่ใช่การไม่ยอมช่วยเหลือเพื่อน แต่มันคือการให้บทเรียน

    “มึงไล่กู”

    “กูเคยทำเหรอ”

    “มึงกำลังทำอยู่”

    “มึงโตแล้ว แก่แล้ว”

    “รุ่นเดียวกัน มึงกลัวว่าจะถูกมองเป็นเกย์หรือไง กูนอนในบ้านมึงเนี่ย”

    “กูไม่มีปัญหากับเรื่องเพศสภาพ ปัญหาคือกูอยากให้มึงโต”

    หล่อพอได้ คำพูดกู เมพคิด ตามองประตูห้องนอนอีกครั้ง

    “ในห้องมึงมีอะไร” ล็อตเต้จับสังเกตได้

    “ไม่มี มึงอย่าพูดเรื่องอื่น มึงต้องโต มึงจะอยู่กับกูทั้งชีวิตก็ได้ถ้ามึงยังโสด แต่นี่มึงมีลูก มึงมีปัญหากับเมีย เอาเถอะ กูไม่ยุ่ง เราไม่ยุงมัน นั่นมันเรื่องของเวรกรรม แต่ลูกมึง มึงต้องสร้างอะไรให้มันหน่อย อย่างน้อย อาชีพ หรือง่ายๆ มึงไปเช่าบ้านสักหลัง มึงแสดงตัวตนหน่อย”

    ล็อตเต้เงียบ เขาปล่อยหนังเดินไปเรื่อยๆ

    “เออ กูไป แต่ให้กูอยู่นี่ก่อน พรุ่งนี้กูไปแน่”

    เมพมองไปที่ประตูห้องนอนอีกครั้ง

    “มึงออกไปพร้อมกูเลย”

    “ขออีกวันเดียว กูเพิ่งซักผ้า”

    “มึงไปเลือกในตู้เลย กี่ชุดก็เอาไป แล้วออกไปพร้อมกู”

    “กูอยากดูหนังนี่ เหลือสามสี่เรื่อง กูจะเขียนเกี่ยวกับมัน” ล็อตเต้เป็นนักเขียนบทหนัง จะว่าอย่างนั้นก็ได้ อาชีพที่ลอตเต้ทำนั้นมีหลายอย่าง ทำเพื่อหาเงิน แต่สิ่งที่พอจะเรียกว่าเป็นตัวตนของเขานั่นคือนักเขียนบท

    และนั่นน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่เมพยอมรับ เขาถือว่าการช่วยเหลือเพื่อนก็เป็นการสนับสนุนให้ศิลปินคนหนึ่งได้มีโอกาสสร้างสรรค์งาน เขาถอนใจ

    “ก็ได้ แค่วันเดียว แต่พรุ่งนี้มึงต้องไป กูไม่มีกุญแจ มึงออกไปก็ล๊อค ประตูอัตโนมัติ มันล๊อคแล้วเปลี่ยนรหัสเองส่งตรงไปหาโทรศัพท์กู มึงเข้าไม่ได้อีก”

    “เออ มึงไปเหอะ ไม่ต้องห่วงในตู้ยังมีของกิน กัญชาหมดยัง”

    “หมด มึงต้องออกไปนะพรุ่งนี้”

    “เออ”

    “อีกอย่าง มึงอย่า” เมพพูดค้างแค่นั้น เขารู้ว่าถ้าห้ามไม่ให้เข้าห้อง ล็อตเต้มันจะยิ่งอยากเข้า

    “อีกอย่างอะไรวะ”

    “เปล่า มึงอย่าเบี้ยว พรุ่งนี้ต้องไป” เมพลุกไปที่ประตู

    “กูทำเพื่อมึงนะ มึงต้องเติบโตให้ลูกมึงเห็น”

    เมื่ออยู่ข้างนอก เมพแทบจะต่อยหน้าตัวเอง เขาไม่อยากเชื่อว่าจะพูดแบบนั้นกับเพื่อน เขาเคยแบ่งปันมากกว่านี้ ทำไมจู่ๆ เขาจึงมือสั้นตีนสั้นไม่เผื่อแผ่ ไอ้ข้ออ้างนั่นดูดี แต่นั่นมันเพื่อนของเขา เพื่อนที่เคยแบ่งแม้กระทั่งผู้หญิง

    เมพตัดใจ ขับรถไปสนามบิน

    เมพไปแล้ว ล็อตเต้ฟังเสียงรถแล่นออกไป เขาเลิกสนใจหนังแล้วเดินไปหน้าห้องนอน อะไรอยู่ข้างใน

    ล็อตเต้จับลูกบิดแล้วหมุน มันล๊อค ไม่มีปัญหา ในหนังใช้บัตรเครดิตเปิดประตู บางเรื่องเอาไหล่กระแทกทีเดียว หรือไม่ก็เอาลวดเขี่ยๆ ออกทุกเรื่อง

    เขาล้วงบัตรเดบิตออกมา มีอยู่หลายใบ เกือบครบหมดทุกธนาคารในประเทศนี้ แต่มีเงินในนั้นไม่เกินร้อยเครดิต ไม่มีปัญหา ประตูไม่ได้อยากรู้ยอดเงิน แค่สอดมันไปที่ช่องระหว่างประตูกับวงกบ ตรงล๊อคของลูกบิด สอดเข้าไปแล้วรูดปึ๊ด เหมือนรูดบัตรเครดิต ประตูก็จะเปิดออก

    ในหนังมันทำแบบนั้น

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น