ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic inuyasha] I promise (naraku x sesshomaru) Yaoi

    ลำดับตอนที่ #43 : ตอนที่ 26 : 3 เดือน (100% วะฮะฮ่า!!!!)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      5
      27 ม.ค. 52

    ตอนที่  26: 3 เดือน

                สัญญาพังทลายลง..เวลาเดียวกัน  ที่ข้าเหมือนตาย..

    .................

                3 เดือนผ่านมา

     

                ยามนี้อาณาจักรอัยชิกำลังแปรปรวน..

     

                บางวันฝนก็ตกติดต่อกัน..บางวันอากาศก็ร้อนจัดแทบเผาร่างไห้มอดไหม้  ถึงกับมีบางครั้งที่จู่ๆหิมะก็ตกหนักและพายุโหมกระหน่ำ..

     

    เหตุนั้นทำไห้อาณาจักรอัยชืที่แสนอ่อนโยนอบอุ่นกลับเริ่มร้างผู้คน  ถนนหนทางเมื่อยามอดีตเคยมากมายด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา  กลับปรากฏเพียงประปรายในปัจจุบัน  เทศกาลสีรุ้งไร้มลขลังแล้วหรือ?  ฟ้าอากาศของอัยชิจึงเลวร้ายแบบนี้  ถึงแบบนั้นก็ไม่มีใครรู้สาเหตุ..ยกเว้นบุคคลๆหนึ่ง

     

    ดวงตาสีดำสนิทมองท้องฟ้าอย่างสงบ  เส้นผมสีทองอร่ามปลิวตามลมที่เริ่มหอบกลิ่นไอฝนมาจากทางตะวันออก  อีกแล้วรึ?..

     

    ..เมื่อวานก็พึ่งร้อนไปหยกๆ  วันนี้ฝนยังจะมาตกอีก   ชายพเนจรหรืออีกชื่อเรียกสำหรับเมืองนี้คือ จิคาคุ  คิดในใจขณะมองท้องฟ้าที่เริ่มตั้งเค้าอีกครั้ง  ใบหน้าคมดูกังวลใจ  ก่อนรอยยิ้มจะแย้มบนริมฝีปากอย่างมีเลศนัย..

     

    ชายหนุ่มละจากด้านนอกเข้ามายังตัวโรงแรม sweet  paradise  ภายในแทบจะเรียกได้เลยว่าเงียบเหงาเดียวดาย  ถึงจะมีคนยู่บ้างแต่ก็น้อยนัก   ดวงตาสีดำเหลือบเห็นร่างอ้อนแอ้นหนึ่งก่อนจะยิ้วหวานหยด

     

    หวัดดีพี่สาว   พี่สาวที่ว่าหันมองก่อนแย้มปากสีสดอออกรับ 

     

    ใครใช้ไห้เจ้าเรียกข้าว่าพี่สาวเจ้าคนจรจัด.. มิซาเนะเอ่ยเสียงเย็น  จิคาคุนิ่วหน้าลงอย่างขัดใจ  อารมณ์บูดมาเลยรึ

     

    ไสหัวไปไห้พ้น.. แม้ใบหน้างดงามจะยิ้มเป็นมิตร  แต่น้ำเสียงกลับบอกความไม่ถูกชะตา  ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ราวไม่สนใจก่อนหยอดคำ  พลางยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    เอ๋?..อย่าบอกนะว่าหมอนั่นยังไม่เลิกพกริบบิ้นไปไหนมาไหน? จิคาคุส่ายหัวไปมา ก็แบบนี้ล่ะน้า~”

     

    ทั้งๆที่ไล่นกหนีไป  แต่ต้องมาขลุกกับอสรพิษคงเสียบรรยากาศ

     

    เพี๊ยะ!

     

    ใบหน้าคมไม่หันตามแรงตบแต่แก้มขวากลับปรากฏรอยแดงซ่าน  ดวงเนตรอนธการนิ่งสงบอย่างน่าตกใจแม้ยามนี้ก็ยังไม่ละจากใบหน้าหวานที่โกรธขึ้ง  มุมปากยกขึ้นราวกับเยาะเย้ย

     

    แทงใจดำรึ?

     

    ข้าบอกไห้ไสหัวไปไงเล่า!!” เสียงตวาดแข็งกร้าว  บวกกับดวงตาสีน้ำทะเลแหลมคมราวกับมีดทิ่มแทงผู้ถูกมองไห้พรุน  หากจิคาคุกลับยืนนิ่งไม่สะทกสะม้าน  จิคาคุรู้ดีว่าคำพูดนี้คงยิ่งกว่าบาดใจนาง.. ใช่..เพราะเรื่องเมื่อ สามเดือนก่อน

    -3 เดือนก่อน..-

     

    อะไรนะ?.. หางเสียงคำพูดสั่นพร่า  ดวงตาสีเลือดเบิกกว้างราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เข้าหู

     

    ไม่จริง..ไปแล้ว?

     

     นาราคุกระชากคอเสื้อเจ้าของโรงแรม  ก่อนตวาดลั่น! เจ้าโกหก! หมายความว่าไงที่ว่าเซ็ตโชมารุไปแล้ว!!”

     

    ขะ..ข้าไม่ได้ ไม่ได้โกหกขอรับนายท่าน!..ท่านชายคนนั้น..ขะ..เขาเช็คเอ้าออกไปแล้ว ชายเจ้าของโรงแรมส่ายหน้าพั่บๆ  ดวงตาสีเลือดดุดันเหมือนจะกลืนตัวไห้ตายทั้งเป็น  ทั้งๆที่จะพยายามตอบเสียงแข็งขัน  แต่ทั้งเสียงทั้งขากลับสั่นสะท้าน

     

    จะ..จริงๆนะขอรับ!” นาราคุนิ่งไป  ดวงหน้าคมดูสับสนทำอะไรไม่ถูก

     

    เจ้าของโรงแรมไม่จำเป็นต้องโกหกหรือมีเจตนาแบบนั้น  เขารู้เรื่องนั้นดีแต่..!

     

    บ้าเอ๊ย!” สิ้นเสียงสบถ  นาราคุรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองอย่างร้อนรนโดยไม่สนเสียงเรียกของมิซาเนะที่ดังลั่นอย่างหัวเสีย

     

    หญิงสาวกระซิบลอดไรฟันอย่างหงุดหงิด ถึงตัวจะไปแต่ก็ยังไม่วายขัดข้าอีกนะ เซ็ตโชมารุ..

    ..............

     

    ..ทำไม..?

     

    ปัง!

     

    บานประตูแทบจะหลุดจากบานพับเมื่อครึ่งอสูรหนุ่มถลันเข้ามาในห้อง  นาราคุตะโกนเรียกเสียงดังจนตัวเองลืมไปแล้วว่าเคยเรียกใครดังขนาดนี้มาก่อน

     

    เซ็ตโชมารุ!!”

     

    จะตะโกนอะไรนักหนา! หูข้าไม่ได้หนวก!”

     

    บนเตียงนั่นเสียงคุ้นหูตวาดกลับอย่างหัวเสีย  ดวงตาสีอำพันขุ่นเคืองถูกส่งมาจากเตียง  ใบหน้าสวยดูเย็นชาเหมือนเดิมไม่ต่างจากทุกครั้ง 

     

    เซ็ตโ.... รอยยิ้มคล้ายจะคลี่ออกพลันหายไป 

     

    ..ไม่มีใครอยู่ในห้องนั้น..ภาพติดตาของเซ็ตโชมารุค่อยๆเลือนลางหายไปเหลือแต่เตียงโล่งๆ..ไม่มีใคร..

     

    ไม่... ห้องที่แสนดำทมึนตอบรับเสียงกระซิบเขาด้วยความเงียบ  นาราคุกัดฟันกรอดและเหวี่ยงประตูปิดโครมใหญ่  กว่าจะรู้ตัว..นาราคุก็เข้ามาในเมืองอัยชิ   ดวงตาสีเลือดที่เคยแข็งกร้าวยามนี้สั่นไหวด้วยความกลัว..กลัวจนอยู่ไม่สุข..กลัวว่าความจริงนั้นมันช่างเลวร้าย

     

    เซ็ตโชมารุ!” ชายหนุ่มร้องเรียกนับครั้งไม่ถ้วน  ถามผู้คนมากหน้าหลายตาแต่ไม่พบ  มีแต่ความร้อนรนเท่านั้นที่มากขึ้นทุกทีๆ 

     

    ..บ้าที่สุด! เจ้าอยู่ไหนบอกข้าที!..

     

    ชายหนุ่มหยุดวิ่งอย่างเหนื่อยหอบและพิงต้นไม้ใกล้ๆเพื่อพักแรง  เพราะวิ่งจนลืมตัวทำไห้ปอดแสบร้อนไปหมด  ชั่วเวลาหนึ่งได้ยินแต่เสียงหอบถี่รัวของตัวเองกับความว่างเปล่ารอบกายที่ปราศจากใคร..นาราคุเงยหน้ามองฟ้าสีเทา  และหลับตาลง

     

    ไห้ตายสิ...ทำเหมือนคนบ้า..

     

                เปลือกตาปรือเปิดอย่างหัวเสีย  ก่อนจะเหลือบเห็นบางอย่างตกอยู่บนพื้นทำไห้ดวงตาสีแดงเบิกโพลงก่อนหยิบมันขึ้นมา

     

                ริบบิ้นเส้นนี้?.. มันเป็นริบบิ้นที่ดูคุ้นตา  อาจเพราะตัวเองเป็นคนซื้อมา..หรือมันอาจเคยเป็นของใครคนหนึ่ง..

    ..............................

     

                นาราคุเดินกลับไปที่ห้องในโรงแรมอย่างเงียบๆ  จิคาคุที่อยู่ใกล้ๆเดินเข้ามาหา เจอมั้ย?

     

                ......... ไม่มีเสียงตอบรับคำถาม  มีเพียงดวงตาสีแดงฉานที่เหลือบมองอย่างไม่อาจคาดเดาอารมณ์   นักพเนจรนิ่งงันไปขณะนาราคุเดินผ่านเข้าไปในห้องเดิม 

     

                นาราคุ มิซาเนะเอ่ยเรียก  หมายจะเดินตามเข้าไปแต่กลับถูกรั้งไว้

     

                ตอนนี้อย่าเลย จิคาคุมองบานประตูที่ปิดลงเบาๆ เจ้าคงไม่อยากเห็นหรอก..

    ............

                มือหนาวางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา  ร่างสูงทรุดร่างลงทอดมองเตียงสีขาวอย่างเหม่อลอย

     

    ..เจ้าเคยนอนที่นี่..

     

     ทุกครั้งเมื่อลืมตาตื่น  ผมสีเงินจะส่องประกายแยงตาอย่างน่าโมโห  แต่พอเห็นใบหน้ายามหลับนั่นความหงุดหงิดทั้งหมดก็หายไป  และไม่นานนักเจ้าก็จะตื่น...ขยับตัวไปมาเหมือนนึกรำคาญ  กระพริบตาอยู่หลายครั้งกว่าจะตื่นเต็มที่  และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา..เจ้าจะผลักข้าตกเตียงเสมอๆ....

     

    เตียงซึ่งอบอุ่น..

     

    นาราคุกำริบบิ้นในมือและตะโกนลั่น!

     

                ตอนนี้กลับเย็นชืด..

     

                ทำไม!!!”

     

                ..ไม่มีเจ้าอยู่

     

                ..ไม่มีอีกแล้ว..

               

                โธ่เว้ย!!!”

     

                โครม!  ตึง!

     

                ข้าวของที่อยู่ในห้องระเนระนาดเสียงดัง มิซาเนะถึงกับสะดุ้งโหยงจะเข้าไปห้ามกลับไม่กล้า..เพราะเสียงร้องของชายหนุ่ม มันช่างเกรี้ยวกราดอย่างน่ากลัว  ทั้งฟังไม่ได้ศัพท์  และประโยคก้นด่าตัวเองอย่างบ้าคลั่ง 

     

                เกรี้ยวกราดรึ? จิคาคุทวนเมื่อมิซาเนะหลุดปากออกมา  ริมฝีปากกระตุกขึ้นบางๆขณะมองห้องที่มาของเสียงอึกทึก ข้าว่าเป็นเสียงสัตว์บาดเจ็บซะมากกว่า..

     

                ขณะนั้นมีหญิงนางหนึ่งเดินเข้ามาถามอย่างกล้าๆกลัวๆ  เกิดอะไรขึ้นรึคะ?

     

                จิคาคุยิ้มไห้อย่างอบอุ่นก่อนตอบ ไม่อะไรมากหรอกครับ  ก็แค่..

     

                เผลอปล่อนไห้นกหนีไป...

    ....................................

     

                -ปัจจุบัน-

    นี่เจ้า! ถ้าจะไปหานาราคุล่ะก็ข้าไม่อนุญาตนะ!”  มิซาเนะรั้งแขนไว้เมื่อร่างสูงกำลังเดินไปที่ห้องของชายคนรัก  ทว่าเพียงขยับตัวนิดเดียว  มิซาเนะก็ไถลหลุดเกือบตกบันได 

     

    จิคาคุเคาะประตูอย่างน่าตาเฉย  และถลันเข้าไปทันทีไม่รอคำอณุญาตใดๆทั้งสิ้น

     

    หวา! บรรยากาศมาคุเชียว  นักพเนจรเอ่ยทักชายที่อยู่ในห้องทึมเมื่อมองเห็นในตัวห้อง  คนถูกทักเหลือบตาสีทับทิมเล็กน้อยก่อนเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเช่นเดิม   นาราคุนั่งตรงโต๊ะน้ำชาริมหน้าต่างอย่างเดียวดาย  นอกจากหน้าต่างที่เปิดออกเพียงบานเดียวนอกนั้นราวกับปิดตายไว้รวมทั้งแสงไฟจนห้องมืดทึมทึบไปหมด

     

    จิคาคุมองรอบห้องแล้วยิ้มน้อยๆก่อนเดินไปนั่งข้างๆอย่างอารมณ์ดี  มิซาเนะหัวเสียเรื่องของที่ระลึกของเจ้าน่ะ

     

    นาราคุไม่ตอบอันใด  แต่มือที่วางบนตักกำเข้าหากัน  จิคาคุมองปลายริบบิ้นที่โผล่แวมๆแล้วเอ่ยต่อ  ลูกน้องของเจ้าหาเซ็ตโชมารุไม่เจอใช่มั้ย?

     

    มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า.. เสียงทุ้มแต่แหบพร่าดังเบาๆแต่ทันที  จิคาคุเลิกคิ้วขึ้นแสร้งทำแปลกใจ

     

    ตอบข้าได้แล้วรึ? แปลว่าหาไม่เจอล่ะสิ..

     

    ................. ความเงียบเป็นคำตอบอีกครั้ง   ร่างสูงยิ้มเหมือนตลอดสามเดือนนี้เป็นเรื่องปกติ  จิคาคุยืนขึ้นเดินไปกลางห้องย่างเบื่อๆ ข้าขอถามเจ้าซักข้อสิ.. ดวงตาสีดำสนิทราวหุบเหวเบนมองร่างสูงสันทัดแล้วยิ้มออกมา

     

    เจ้าเจ็บเรื่องใดที่สุด? คนตอบยังคงไร้ซึ่งอารมณ์จะตอบ  จิคาคุจึงใส่ไฟลงไปอย่างนึกสนุก

     

    ข้อก.เซ็ตโชมารุจากเจ้าไปแบบไม่บอกไม่กล่าว

     

    ข้อข.คนที่ไปกับเซ็ตโชมารุคือ ชิคัง..

     

    ข้อค. ทั้งที่อยากเจอหน้ากลับไม่ได้เห็นเพราะหาไม่เจอ

     

    ข้อง.คนที่ทำไห้เซ็ตโชมารุไปคือ ตัวเอง

     

    เพล้ง!!

     

    กาน้ำชากระแทกกำแพงด้านหลังจิคาคุจนแตกเป็นเสี่ยง  หลังจากมันพุ่งผ่านหน้าเขาไปอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด  ดวงตาสีดำสนิทราบเรียบสบกับเนตรสีทับทิมลุกโชนเป็นเปลวเพลิงเพราะถูกจี้จุดใจดำ

     

    จิคาคุปาดหลังมือเช็กคราบตรงแก้มออกเบาๆ

     

    หรือ ข้อจ......ถูกทุกข้อ..

     

    ออกไปจากห้องข้า!” นาราคุตวาดเสียงดุดัน 

     

    แหม  แคนี้อย่าพึ่งยั๊วะสิพี่ชาย นาราคุลุกพรวดและเดินรี่เข้าหาจนจิคาคุต้องยกมือขอเวลานอก ล้อเล่นจ้า ล้อเล่น~”

     

                บอกธุระเจ้ามา  ถ้าไม่มีก็ออกไป!” เมื่อโดนไล่ก็ทำได้แค่ทอดถอนใจ 

     

                งั้นสุดท้าย  บอกข้าหน่อยสิว่าทำไมป่านนี้เจ้าถึงยังพกริบบิ้นนั่นอยู่?

     

                นาราคุที่เดือดพล่านนิ่งงันไป  ดวงตาสีเลือดหลุบลงอย่างไม่อาจคาดเดา  ร่างสูงหันหลังมองออกไปนอกหน้าต่างทะลุท้องฟ้าที่ตั้งเค้าฝนท่ามกลางความเงียบเชียบ ออกไป..

     

                คร้าบๆ นักพเนจรตอบเสียงยานและเดินไปที่ประตู  แต่ก่อนจะออกไปนั้นยังทิ้งท้ายไว้ เส้นทางของเจ้ามีสองทาง..คือลืม..กับไม่ลืม  หรือ ปล่อย  กับไม่ปล่อยเท่านั้นจำไว้..

     

                เสียงประตูปิดดังเวลาต่อมา  นาราคุยังคงมองไปที่จุดเดิมเงียบๆ  เหมือยท้องฟ้านั้นทำไห้นึกถึงเส้นผมสีเงินยวงสวยงามแสนคุ้นเคย   ดวงตาสีเลือดนกหรี่ลงและกำรบบิ้นในมือแน่นไม่มีปล่อย

     

                ป่านนี้ทำไมเจ้าถึงยังพกริบบิ้นนั่นอยู่?

     

                ก็เพราะตอนนั้น..ข้าไม่ได้ทำแบบนี้น่ะสิ

    .....................................

    ต่อนะ

    .....................................

     

    อีกด้านหนึ่งไกลจากอาณาจักรอัยชิ  ข้ามป่า  และภูเขาไป  ตัดผ่านแม่น้ำสายใหญ่จนมาถึงชายแดนที่ใครๆต่างเรียกว่า ขอบทอง

                     

                ทอง..ทองๆๆ  ทุกอย่างทองไปหมด เสียงหนึ่งดังท่ามกลางบรรยากาศอบอ้าวร้อนแห้งแล้ง  ร่างสูงโปร่งย่ำเท้าลงบนผืนทรายฉ่าร้อนก่อนจะเสยผมสีเทาอย่างหมดความอดทน ทอง!  ทองโว้ยทอง!”

     

                ทอง..ทะเลทรายสีทองสุดลูกหูลูกตา..ทอง..แสงทองอันร้อนเร่าอันแสนทรมานจากดวงอาทิตย์..ทอง..ก้นกระติกน้ำสีทองที่อำลาน้ำหยดสุดท้ายไปเมื่อชั่วโมงก่อน..

     

                ก็นึกว่าขอบทองจะหมายถึงการเปรียบเปรยความอุดมสมบูรณ์ที่เหมือนดั่งทองมีค่า  ใครจะไปรู้เล่าว่าจะหมายถึงสีทองอันโหดร้ายของทะเลทราย!

     

                ใหนบอกว่าแค่ดวงอาทิตย์ขนานฟ้าก็ถึงเมืองแล้วไง ชิคังที่อารมณ์เสียด้วยความร้อน  ก่อนชี้มือขึ้นฟ้าไปหาดวงอาทิตย์ แต่พระอาทิตย์มันถึงกลางหัวแล้วนะ  กลางหัว!  นี่มันถึงตรงไหน!”

     

                คนอารมณ์เย็นที่ปกติจะไม่โหวกเหวก  แต่ครั้งนี้เหมือนยิ่งเดินเหมือนยิ่งโหวกเหวกอยางผิดวิสัย  ชายหนุ่มตะโกนด่าท้องฟ้าด้วยความหัวเสียจนคนที่เดินอยู่ข้างหน้าคิ้วกระตุกปึด

     

                ชิคัง..

     

                ฮะ?

     

                ดวงตาสีเทาเบนจากฟ้าหันมามองร่างบางที่ห่มตัวด้วยผ้าสีมอๆกันทรายเช่นเดียวกันกับของเขา  ก่อนริมฝีปากได้รูปแต่ขาดน้ำจะพึมพำเสียงแผ่วทว่าหนาวเยือก

     

                ..หากเจ้ายังไม่เลิกโวยวายข้างหลังข้า  ปากของเจ้าจะไม่มีวันได้พูดอีกเลยชั่วชีวิต..

     

                ดวงตาสีทองงดงามยามนี้ดุจดั่งเพชฌฆาต  ราวกับถ้าเขาพูดขัดเพียงนิดเดียวเงาหัวที่ครบสมบูรณ์นี้จะหายวับไป  ร่างสูงพลันตัวลีบลงและปิดปากสนิททันที

     

                เซ็ตโชมารุหันกลับไปเดินตามทางอีกครั้ง  พาไห้คนหวิดไม่รอดถอนหายใจยาว

     

                ..นี่ก็ผ่านมากว่าสามเดือนแล้วที่ทั้งเขาและเซ็ตโชมารุออกจากอาณาจักรอัยชิมา  เขาซึ่งโอบร่างบางมาตลอดทางได้แต่นิ่งไม่อาจพูดอะไรได้เมื่ออสูรหนุ่มไม่ยอมปริปากพูดอะไรกับเขาเลยจนน่ากังวล  ตอนแรกตัวเขานึกว่าโดนรังเกียจเพราะเผลอไปบอกรัก  แต่ในรุ่งเช้าของวันต่อมาร่างบางกลับพูดจากับเขาเหมือนปกติ  แถมยังบอกไห้รีบตามหาตัวผู้ติดตาม  รินหรือจาเก็นอะไรนี่แหละได้หน้าตาเฉยอีก..จนอดโล่งใจที่ไม่ได้ถูกเกลียด

     

                แต่...

     

                ชายหนุ่มปัดเส้นผมปรกหน้าออกอย่างหงุดหงิด

     

                ....อารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก..นับตั้งแต่เวลาสามเดือนใจของเราไม่เคยสงบกลับยิ่งร้อนขึ้นทุกนาที..รู้ตัวว่าอารมณ์ร้อนขึ้น  เรื่องที่ไม่เคยโมโหกลับควบคุมอารมณ์ไม่อยู่..สิ่งที่ไม่เคยสนกับสนได้อย่างน่าตาเฉย..แม้แต่อากาศร้อนแค่นี้เรายังโวยวายราวกับเป็นเรื่องใหญ่...

     

                ..เรากำลังโมโห..

     

                ชิคังมองแผ่นหลังบางเบื้องหน้า  ตอนนี้เจ้าตัวกำลังสาละวนกับการสะบัดผ้าคลุมไปมาอย่างนึกรำคาญ เมื่อมันคอยพันร่างไห้ก้าวลำบากเสมอๆ

     

                ไม่เข้าใจว่าทำไม..แต่..

     

                มัวเหม่ออะไรอยู่..ชิคังสะดุ้งโหยง  ก่อนลมหายใจแทบขาดห้วงเมื่อดวงตาคู่คมสีทองกำลังจ้องตาเขาในระยะประชิด  ดวงหน้าสวยดูเรียบเฉยแต่แทบทำไห้ร่างสูงอ้ำอึ้ง

     

                อะ..เอ่อ

     

                ดูนั่นสิ.. เซ็ตโชมารุชี้ไปตรงกลางทะเลทราย  ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะหยีตามองฝ่ากลุ่มทรายสีทองไป  ก่อนจะเบิ่งกว้าง โอเอซิสต์!”

     

                ต้นมะพร้าว  ต้นปาล์ม กับพุ่มไม้เตี้ยๆขึ้นประปรายเป็นบริวเณกว้างท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ  สิ่งที่เป็นประกายต้องแสงคือทะเลสาบนาดใหญ่สดใสราวกับเป็นน้ำหล่อเลี้ยง  โดยไม่ต้องพูดใดๆ  ร่างสูงคว้าแขนร่างบางและลากไปทันที  คำทัดทานเสียงหลงของเซ็ตโชมารุดูเหมือนจะผ่านหูชิคังไป  เมื่อร่างสูงเหาะขึ้นกลางอากาศและกระโดดพรวดเดียวไปถึงโอเอซิสต์  แต่ดูเหมือนไม่พอใจ  ชิคังลอยไปกลางทะเลสาบ  และปล่อยร่างตัวเองและอสูรหนุ่มลงน้ำทันที

     

                ว๊าก!”

     

                ซู่ม!

     

                น้ำแตกกระจายเป็นวงกว้างพัดระลอกคลื่นไห้กระทบฝั่งจนกระจาย  เซ็ตโชมารุที่จมลงรีบว่ายขึ้นผิวน้ำเพื่อหาอากาศหายใจ

     

                ทำอะไรของเจ้า  นี่ถ้าข้าว่ายน้ำไม่เป็นไม่ตายเลยเรอะ!” ร่างบางหันมาตวาดคนขี้เล่นที่ยิ้มเผล่อย่างกวนโทโส

     

                น่าๆ  แก้เครียดกันบ้าง ไม่ว่าเปล่ายังว่ายนวยๆรอบร่างบางเป็นวงกลมราวจงใจแหย่  เซ็ตโชมารุไม่ขัดศรัทธา  จัดจแงถีบส่งร่างที่อยู่ใต้น้ำด้เวยความหมันไส้ก่อนว่ายขึ้นฝั่ง

     

                ไม่มาว่ายน้ำเหรอ?  สบายดีนา เสียงกวนโทโสพาไห้ร่างบางหลุบตาลงอย่างเหลือออดก่อนหันมาตวาด

     

                เชิญว่ายไปคนเดียวเถอะ!!”

     

    .............................

     

                เวลาก้าวเข้าสู่ยามเย็น  ทว่าพระอาทิตย์กลับลาลับขอบฟ้าไปก่อนที่ช่วงเวลากลางคืนแท้จริงจะมาถึง  กลางโอเอซิสต์ในแดนทะเลทราย  กองไฟเล็กๆถูกจุดขึ้นใกล้ทะเลสาบโดยมีผู้พำนักทั้งสองนั่งอังไฟบรรเทาความหนาวเย็นของแดนทะเลทรายที่ตอนเช้าก็แสนร้อน  แต่พอกลางคืนกลับหนาวจนสั่น!

     

                เจ้าแน่ใจนะว่าไม่?

     

                จะไห้ข้าย้ำหลายทีทำไมว่า ไม่’ ”

     

                แน่ใจนะ?

     

                ใช่

     

                แน่นะ?

     

                แน่..

     

                จริงนะ?

     

                คนที่ถูกซักไซ้ถลึงตาอย่างหงุดหงิด  ก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง ข้าไม่กินของแบบนั้นหรอก แล้วไม่ต้องมาถามข้าอีก

     

                ร่างสูงเบ้หน้าต่อความดื้อแพ่งไม่เปลี่ยนแปลงของอสูรหนุ่ม  เขารึสู้อุตส่าหวังดีเห็นไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายวัน ออกไปสมบุกสมบันหาอาหารมาแต่คนเบื้องหน้ากลับปฎิเสธอย่างไม่ใยดี เลือกกินนี่.. เขาบ่นอุบ  แต่กลับไม่พ้นหูคนประสาทไวอย่าเซ็ตโชมารุ

     

                เจ้าว่าใคร? ใบหน้าจัดไปทางงดงามดูขุ่นเคือง ถ้าเจ้าคิดว่างูกับซาลาแมนเดอร์ย่างเป็นอาหารถูกสุขอนามัยล่ะก็  กินไปคนเดียวเถอะ!”  ร่างบางเมินหน้าหนีสัตว์เลื้อยคลานเสียบไม้ที่มีกลิ่มหอมกรุ่น  แต่ลักษณะน่าผะอืดผะอม  แถมยังมีการกระตุกเมื่อเจอไฟร้อนอีกต่างหาก

     

                แต่ข้าอุตส่าหามาไห้นะ

     

                ข้าไม่ได้ขอนี่..

     

                เฮ้ งั้นไม่ห่วงข้าเลยเรอะไง?

     

                หาเอง กินเองสิ.. และการทะเลากันก็เป็นอันจบลงอย่างรวดเร็ว

     

                ชิคังจึงตัดใจกินเองเสียหมดด้วยตัวเองหวังจะประชด  แต่คนที่รู้ว่าประชดเพียงหังเราะเยาะเขาที่แทบบ้วนซาลาแมนเดอร์ย่างทิ้งแทบไม่ทัน!

     

                ข้าไม่ได้หัวเราะนะ..

     

                ก็เห็นอยู่ว่าหัวเราะ!” คนที่โกหกหน้าตายกลั้นหัวเราะเต็มที่  จนชิคังเบ้หน้าก่อนยิ้มเจ้าเล่ห์  ก่อนกวักมือเรียกด้วยท่าทางไม่น่าไว้ใจเซ็ตโชมารุ  มานี่ซิ

     

    ร่างบางหยุดการหัวเราะลงทันทีและพูดด้วยเสียงที่เรียบเฉยและประหม่าถ้าเจ้าคิดเล่นพิเรนท์ หยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้..

     

                เอ๋?  พิเรนท์เหรอ? เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเอียงคอก่อนพุ่งตัวเข้าหาเซ็ตโชมารุอย่างไม่ตั้งตัว แบบนี้น่ะเรอะ!”

     

                ร่างบางเอนตัวหลบแต่ก็ไม่พ้นความมือไวของชายหนุ่ม  ก่อนจะรู้ตัว  คนร่างสูงก็จับเขาไว้ใต้ร่างและขึ้นคร่อม  รอยยิ้มชวนหนาวร้อนผุดขึ้นตรงมุมปากก่อนบางอย่างโจมตีที่ช่วงท้อง!

     

    อุ๊บ  ฮะ ฮ่าๆ หยุด..หยุดนะ!” อสูรหนุ่มที่แทบไม่เคยหัวเราะ  บัดนี้กลับต้องหลุดเสียงหัวเราะออกมาเพราะมือพิฆาตของชิคังที่กางออกเป็นกรงเล็บและจั๊กจี้ไปทั่วตัวเซ็ตโชมารุอย่างขี้เล่น  ร่างสูงหัวเราะร่าและเอ่ยคาดคั้น

     

                ใหน เมื่อกี้หัวเราะข้าใช่มั้ย? ใช่มั้ย?

     

                คิก ข้า ฮะๆๆๆ

     

                เอ้า! พูดซี่

     

                โอ๊ย  ข้าขอโทษ  ไม่หัวเราะแล้วๆ! ฮะๆร่างบางพยายามกลั้นหัวเราะและดิ้นออกจากกรงเล็บของร่างแบ่งภาคหนุ่ม  แต่ชิคังดูเหมือนยังไม่พอใจจึงยิ่งจั๊กจี้เข้าไปอีก  เสียงหัวเราะที่หายากทำไห้ชิคังแทบไม่รู้ตัวว่าเผลอมองเสี้ยวหน้าต้องแสงไฟนานเท่าไหร่  รอยยิ้มที่ปรากฏบนริมฝีปากได้รูปสีอ่อนทำไห้ชิคังหยุดมือและกลั้นหายใจ  พร้อมเสียงหัวใจที่เต้นแรง

     

    เซ็ตโช.. ไม่ทันตั้งตัว  ร่างบางใช้โอกาสทีเผลอนั้นผลักร่างสูงออกและขึ้นคร่อม

     

                ดวงตาสีเทามีแววตื่นตระหนกทันทีเมื่อถูกสลับบทบาท  ดวงหน้าสวยมีประกายไม่น่าไว้ใจก่อนจะคว้าบางอย่างหงิกๆงอๆขึ้นมาไว้ในมือ ไหนๆก็กินเข้าไปแล้ว  กินเข้าไปไห้หมดเลยละกัน เจ้าซาลาแมนเดอร์ย่างเนี่ย พูดเสร็จก็ดึงเนื้อหยึยๆตั้งท่าเตรียมยัด

     

                ดะ..เดี๋ยวสิ  เรื่องนี้เราคุยกันได้ ชิคังเหงื่อตก  แต่ชายหนุ่มเบื้องบนกลับตัดบท

     

                กินเข้าไปซะ!”

     

                แว๊ก อุ๊บ  แค่กๆ แหวะ!” รสชาติที่เกินบรรยายซาบซ่านไปทั่วปาก  ทั้งรสไหม้และบางอย่างมันๆเยิ้มปากจนแทบอ้วก  แถมคนที่ถูกแกล้งคราแรกยังดึงเอาตัวซาลามนเดอร์ยัดเข้าไปทั้งตัวจนสำลัก

     

                ร่างบางลุกออกจากร่างสูงที่บ้วนสัตว์เลื้อยคลานไม่น่าภิรมณ์ก่อนปล่อยเสียงหัวเราะเต็มที่เมื่อชายหนุ่มทำหน้าผะอืดผะอม  ทันใดนั้นดวงตาสีเทาเรืองวาบก็ตวัดขวับมองร่างบางที่หัวเราะร่วน  เซ็ตโชมารุที่มัวแต่หัวเราะพอสบกับดวงตาคู่นั้นถึงกับสะอึกก่อนจะค่อยๆเดินถอยหลังหนีคนที่เริ่มลุกยืน พร้อมปล่อยรังสีทมึนไม่น่าไว้ใจ

     

                หึๆ  เล้นงี้ใช่มั้ยเซ็ตโชมารุ ชิคังพูดเสียงเจ้าเล่ห์และเดินเข้าใกล้ร่างบางซึ่งเดินถอยหนีไปเรื่อยๆ  ก่อนร่างบางจะตัดสินใจหันหลังวิ่งทันที

     

                อย่าหนีเซ่!”

     

                เจ้าก็อย่าไล่ตามข้าสิ!” ร่างบางแหวชายที่วิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ คนละทีก็เจ๊าแล้วนี่นา!”

     

                เสียงประท้วงกับเสียงตะโกนไห้หยุดดังอย่างต่อเนื่องไปตลอดค่ำ  มองดูแล้วเป็นภาพที่แปลกตาเมื่อใครๆมาเห็นภาพการวิ่งไล่จับอันแปลกประหลาดนี้  เซ็ตโชมารุที่เริ่มเหนื่อยชะลอความเร็วลงอย่างลืมตัวเป็นจังหวะเดียวกันที่ชิคังคว้ากอดหมับจากด้านหลัง

     

                จับได้แล้ว!” คนพูดยิ้มกริ่มแต่คนถูกจับกลับชักสีหน้าไม่พอใจ  และดิ้นขลุกขลัก ปล่อย! เลิกเล่นได้แล้วน่า!”

     

                ไหงงั้นล่ะ?!  ข้าอุตส่าจับได้ทั้งที  งานนี้ไม่ปล่อยหรอกเจ้าโดนแน่ ชิคังหัวเราะหึ  ก่อนจะยกเซ็ตโชมารุจนตัวลอยขึ้นพาดบ่า

     

                เดี๋ยว!” ร่างบางร้องลั่น ปล่อยข้าลง  ชิคัง!”

     

                ไม่มีทาง  ข้าจะอุ้มเจ้าแบบนี้ทั้งคืนเลยคอยดูสิ

     

                เจ้าบ้า!!”เซ็ตโชมารุด่าแต่ร่างสูงกลับไม่รู้สึกรู้สาแถมยังหมุนตัวไปรอบๆเพื่อแกล้งร่างบางที่กอดเขาหมับและหลับตาเพราะกลัวตก ถ้าข้าลงไปได้เมื่อไหร่ล่ะก็..!” ชิคังเพียงหัวเราะร่าต่อคำขู่ ไมท่รู้ว่าเหตุใดใจของเขาตอนนี้มันกลับสงบและเต็มตื้นด้วยความสุขยังไงไม่รู้ ยิ่งได้เห็นทีท่าน่ารักนั้นก็ยิ่งอยากแกล้งจึงหมุนตัวสามร้อยหกสิบองศาเรียกเสียงด่าจากร่างบางบนบ่าได้หลายดอก 

     

    แต่เพราะความอยากแกล้งมากเกินไปจึงไม่ดูทางอันเป็นเหตุทำไห้เกิด...

     

                ปึก!

     

                หวา!!”

     

                หินที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนขัดไห้ชิคังล้มลงโดยพาเซ็ตโชมารุล้มตามไปด้วย  แต่เพราะสถานที่ที่ทั้งสองยืนอยู่เป็นเนินสูงของโอเอซิสต์  ร่างทั้งสองจึงกลิ้งขลุกๆตามเนินอย่างไม่อาจควบคุม  ทรายสีทึมคลุ้งตลบไปทั่วบริเวณ  ขณะใจกลางกลุ่มฝุ่นนั้นกำลังมุ่งตรงไปยัง..ทะเลสาบ

     

                ก่อนจะ..

     

                อยากบอกนะว่า..!”

     

                ซู่มมมม!!!

     

                น้ำเย็นเจี๊ยบสัมผัสร่างตั้งหัวจรดเท้าจนร่างกายเหมือนมีหนามแทงเป็นครั้งที่ 2 ของวัน  ชิคังสะบัดหัวไล่น้ำก่อนจะร้องในใจ ยะ..เย็น!!’ ไม่นานก็นึกขึนได้  ดวงตาสีเทาหันรีหันขวามองร่างอีกร่างหนึ่ง ก่อนะปะทะกับชายหนุ่มที่ลอยครึ่งตัวอยู่ในน้ำไม่ไกล

     

                ไม่เป็นอะไรนะ เซ็ตโชมารุ

     

                .... สรรพเสียงนั้นไร้การตอบรับ  ดวงตาสีเทามีแววแปลกใจ  พลันใบหน้าคมกลับซีดเผือดกะทันหัน

     

                ดวงหน้าสวยที่นิ่งเรียบค่อยๆหันมาช้าๆราวกับภาพสโลโมชั่น ปรากฏรอยยิ้มอำหิตที่ผุดขึ้นมุมปาก พร้อมเสียงแสนนุ่มเย็นยะเยือก

     

                ..ตายซะเถอะ...

     

                ว๊าก!  ขอโทษ!!!!!!!”

    .................

     

                เปรี๊ยะ..

     

    เสียงฟืนลั่นดังท่ามกลางความเงียบงัน ร่างสูงเขี่ยฟืนเบาๆเพื่อไห้ไฟพอลุกเพื่อทำไห้เสื้อผ้าซึ่งตากไว้ไม่ไกล้ไกลแห้ง  พร้อมส่งไออุ่นแก่ร่างทั้งสองที่เย็นเฉีนยบจะการเล่นพิเรนทร์  ดวงตาสีเทาเหลือบมองเจ้าของผมสีเงินที่นั่งทำหน้ามุ่ยอยูตรงข้าม

     

    ยังไม่หายโมโหอีกเหนอ? ดวงตาสีทองอำพันงดงามเงยมองก่อนพูดเสียงเย็น ไม่ได้โมโห  แค่โกรธ..

     

    แล้วมันต่างกันตรงไหน.. ชิคังเบ้หน้า แต่กลับทำไห้รู้สึกเจ็บตรงแก้มซึ่งอีกฝ่ายได้ประทับหมัดอย่างเต็มรักจึงต้องสงบปากไว้เพราะไม่อยากทำไห้ร่างบางประสาทขาด

     

    เวลานั้น  ชิคังใช้ความเงียบมองบุคคลที่อยู่เบื้องหลังกองไฟ  ใบหน้างดงามดูไม่สบอารมณ์แต่กลับทำไห้เขามิรู้เบื่อจนเผลอจ้องนานเกินไป  เซ็ตโชมารุที่รู้ตัวว่าถูกมองก็แค่จ้องกลับจนเจ้าตัวเบือนหน้าหนี   ดวงตาสีทองจะชะงักอย่างแปลกใจต่อท่าทีนั้น  ก่อนจะสังเกตเห็นเรือนผมเทาสลวยยังคงมีน้ำไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง 

     

    อสูรหนุ่มค้นในกระเป๋าสัมภาระเพื่อหาบางอย่าง  ใบหน้าคมสวยมุ่นคิ้วซักพักก่อนจะคลายเมื่อเจอของที่ต้องการ

     

    เฮ้!?” ร่างสูงร้องอย่างตกใจเมื่อคนที่โกรธอยู่เมื่อครู่  ลุกเอาผ้ามาขยี้หัวเขาหน้าตาเฉย

     

    ยังจะพูดอีก  ผมเจ้ายังไม่แห้งเลยนะเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก คำนั้นแฝงด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงทำไห้ชายหนุ่มนิ่งไปและยอมไห้เช็ดแต่โดยดี  ด้วยใจที่ราวกับลอยได้

     

    ยิ้มอะไร?เหมือนสังเกตเห็นรอยยิ้มกว้างของเขาร่างบางจึงเอ่ยถาม 

     

    ก็...แค่ดีใจ..ชิคังบอกเบาๆ

     

    เซ็ตโชมารุพูดเสียงขุ่นขัด ..ไร้สาระ   

     

    ชายหนุ่มซึ่งถูกแขวะหัวเราะในลำคอ  มือหนาย้ายจากข้างตัวไปเกาะกุมมือบางที่พลันชะงักกึก แปลกหรือ?.. เขาถาม

     

    ใบหน้าคมคายซึ่งก้มต่ำค่อยๆหันมาอย่างเงียบงัน  รอยยิ้มที่ดูเงียบเหงาแทบจะพาลไห้บางอย่างในร่างกายกระตุก  ก่อนดวงตาสีเทาเวิ้งว่างราวสายหมอกจะสบนิ่งกับเนตรอำพันราวอัญมณี การที่ข้าดีใจ..มันแปลกหรือ เซ็ตโชมารุ?....

     

    ช่วงเวลาที่ราวกับหยุดนิ่งไม่ขับเคลื่อน  มีแต่เสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะในอกกับรอยยิ้มแสนเหงานั้น  ดวงตาสีทองดูนิ่งงันไปพร้อมบางอย่าง..บางอย่างที่เขาไม่อยากสัมผัสถึงมัน..

     

    โดยไม่ทันตั้งตัว  ผ้าเช็ดผมก็ถูกประเคนเข้าใส่หน้าเต็มรัก โอ้ย!”

     

    ร่างสูงเกือบหงายหลังได้แต่หยิบผ้าออกจากหน้าอย่างงุนงง  พอมองรอบตัวก็ปรากฏว่าคนประทุษร้ายตอนนี้เดินจ้ำๆหนีไปแล้ว

     

    ข้าจะไปนอน.. คำเดียวจบแบบไม่ต้องถามอะไรทั้งสิ้น  ชิคังได้แต่มองร่างบางที่เดินไปอย่างฉงน  ปลายเส้นผมสะบัดล้อลมดูเมือนจะไกลห่างไปเมื่อเงาต้นปาล์มบดบังไป  เขาได้แต่นั่งอย่างเงียบงันอยู่ตรงนั้นพร้อมคำตอบที่ยังไม่มีผู้ตอบ

     

    ผิดหรือ..ที่ข้าดีใจน่ะ? เสียงนั้น..ถูกลมกลืนไปท่ามกลางความเงียบงัน

    ...

     

    อสูรหนุ่มเจ้าของใบหน้าเฉยชาเดินหุนหันออกจากบริเวณกองไฟ  และแทบไม่ได้มองกลับไปดูสีหน้าที่แสนฉงนของคนต้นเรื่อง..ไม่ได้มอง..เพราะไม่อยากมอง

     

    การที่ข้าดีใจมันแปลกหรือ?..

     

    เนตรสีทองเกร็งขึงก่อนจะทรุดตัวนอนลงบนพืนผ้าปู  มุดร่างในผ้าบางจากไหมพรมราวกับจะพยายามหนีเสียงที่ดูเศร้าหงอยเหงา  แต่ทำยังไง  ดวงตาสีเทาอันเดียวดายคู่นั้นกลับไม่ยอมหายไปง่ายๆ

     

    บ้าเอ๊ย!” ใบหน้างดงามมุ่นลงอย่างหงุดหงิดและเอมือปิหน้าที่ร้อนผ่าว  ตามด้วยเสียงทุ้มที่แว่วดังเจ้าโสต

     

    แปลกหรือ..?

     

    เขาพึมพำ แปลกหรือ?..ก่อนนำมือสัมผัสบริเวณหน้าอก  และหลุบตาลง ตรงนี้..ก็แปลก..

     

    ..เต้นรัวเร็วราวลอง..ทั้งที่เสียงนั้นดังแผ่ว  ยามนี้กลับยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ..ใบหน้าก็ผ่าวร้อน  ราวกับเป็นไฟ

     

    คนที่แปลก..คือข้าต่างหาก...

    ......................
    talk :อะเซเดเฮ่ะ  วะฮ่าฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ^[                 ]^ ซอมบี้เซออนคืนชีพ  (เลียตัวเอง) = = เค็มอ่ะ  ดองจนเค็ม  ทำไมมันเค็ม  นี่นึกครึ้มขึ้นมาแต่งนะเนี่ย  หุๆๆ  วันนี้เห็นดองยาวก็เลยปลอบใจต่อด้วยอีกตอนซะเลย  ทุกท่านคงชอบใจ

     

    ชิคัง : หวัดดีสาวๆสวยๆ กับหนุ่มหล่อหลายคนที่อ่านฟิคนี้นะครับ  นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ข้าออกมาต่อหน้าผู้อ่านทุกท่าน  บังไงก็ขอขอบคุณที่เชียร์มือที่สามอย่างผมนะครับ (ยิ้มโปรย) แต่ยังไงฐานะมือที่สามของผมก็เปลี่ยนแปลงได้ตามอารมณ์ของคนเขียนที่ขึ้นๆลงๆ  เพราะฉะนั้น  ใครเมตตาผมคนนี้ก็ช่วยเชีย์ผมไห้เป็นพระเอกแทนหมอนั่นด้วยนะครับ ^^

     

    นาราฯ : เฮ้ย! โกงนี่หว่า เขาก็กำหนดเรื่องไว้แล้วว่าข้าเป็นพระเอก  ใครใช้ไห้แซง

     

    ชิคัง : กฎมีไว้แหก  เนื้อเรื่องมีไว้หัก  ใครดีใครได้

     

    จิคาคุ : แหมๆ พูดได้ดี  งั้นข้าขอรวบทั้งสามคนได้มะ  ^o^

     

    นาราคุ /ชิคัง /เซ็ตโชมารุ/เซออน : ไม่ได้!!!!!!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×