ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [1]Binary[0]

    ลำดับตอนที่ #6 : Files 6:If....Then

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 47


        สับสน  วุ่นวาย  ตื่นตระหนก  ปวดหัว  เซ็ง เบื่อ  อาการเหล่านี้ มองเผินๆ อาจจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย   แต่ในความเป็นจริงสำหรับชัยวัฒน์แล้ว  เกี่ยวข้องกัน   ทุกครั้งที่เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นมา  ตามมาด้วยความสับสน  หาทางออกไม่ได้  เกิดความตื่นตระหนกวุ่นวาย  มักจะตามมาด้วยการที่พยายามจะแก้ปัญหานั้นให้ลุล่วง  นอนไม่หลับ  ปวดหัว  พาลเซ็งในชีวิตและอารมณ์ตัวเองขึ้นมา  และดูเหมือนว่าสภาพแวดล้อมทั้งหลายรอบตัวของเค้าก็พร้อมใจกันซ้ำเติมจุดนี้ได้เป็นอย่างดี  แม้จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม  และเถ้าแก่โกวก็เป็นหนึ่งในนั้น  อันที่จริงสำหรับชัยวัฒน์แล้ว  เถ้าแก่โกวดูเหมือนจะเป็นคนที่ยุ่งยากกับเขาน้อยที่สุด  หากเทียบกับบรรดาสภาพแวดล้อมเฮงซวยทั้งหลายที่ประดังประเดถาโถมเข้ามาหาเค้าแบบไม่หยุดไม่หย่อน  กระนั้นก็ตาม  ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับเถ้าแก่โกวคงเป็นอันต้องสลายมลายไปในตอนนี้   เพราะชัยวัฒน์ได้พบกับความน่าเบื่อของชายสูงอายุเมื่อมาเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อิเลกโทรนิกเข้าก็วันนี้นี่เอง  เกือบสี่ชั่วโมงแล้วที่เขาพยายามที่จะจัดการกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เจ้าปัญหา  ช่วยอธิบายการใช้อะไรบางอย่างที่เรียกว่าอินเตอร์เนทและพื้นฐานโปรแกรมเบื้องต้น  แต่ดูเหมือนเถ้าแก่โกวจะสนแต่ไอ้ที่เรียกว่าอี-คอมเมิร์ซ  ท่าเดียว



    “ อาชัยวัฒน์  เมื่อหร่ายลื้อจะทำให้อั๊วะได้ซักทีอ่า  ไอ้ที่เค้าเรียกอีคอมเมิกอาไรนั่นอ่ะ   อั๊วะจาได้เปิดขายของผ่านอินตาเนทนี่ซะที “ เถ้าแก่โกวรบเร้า  นั่งลูบเคราตัวเอง  ในขณะที่ชัยวัฒน์กำลังเกาศีรษะอย่างหัวเสีย  ปากคาบบุหรี่มวนที่เท่าไหร่ของวันเขาเองก็จำไม่ได้   ให้ตายเถอะ  ต่ออินเตอร์เนทยังไม่เป็นยังจะเรียกร้องอี-คอมเมิร์ซ  ขนาดห้างร้านใหญ่ๆ ยังทำได้ยากเลย  แล้วกูเป็นใครวะเนี่ย  แล้วมึงเป็นใคร  ไอ้แป๊ะ  ชัยวัฒน์นึกด่าในใจ  



    “ เถ้าแก่  มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ  อี-คอมเมิร์ซเนี่ย  ขนาดบริษัทห้างร้านใหญ่ๆ เค้ายังต้องลงทุนกันเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่  ตอนนี้ผมว่า  ผมติดตั้งเวปบราวเซอร์ให้เถ้าแก่ท่องอินเตอร์เนทก่อนดีกว่ามั้ย? “ ชัยวัฒน์ถาม  น้ำเสียงที่เริ่มจะแสดงถึงความเหลืออดอย่างถึงที่สุด  



    “ แต่ลื๊อเป็นนักคอมพิวเตอร์นา  อาชัยวัฒน์อ่า  ลื้อต้องทำได้เซ่  เนี่ย  อั๊วะจะเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ค้าใช้ขาย  ไม่มีเวลามานั่งเล่นท่องว๊งท่องเวปอาไรนั่นหรอกนะอาชัยวัฒน์นะ “ เถ้าแก่ยังคงยืนกรานท่าเดียว  โธ่  บัดซบตบแม่ตายซะเลยดีมั้ย  ไอ้ห่ะ  กูเป็นนักคอมพิวเตอร์  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากูทำได้ทุกเรื่องนะว้อย  ชัยวัฒน์นึกพลางดูดบุหรี่เข้าปอดอึกใหญ่  ให้ตายเถอะ อะไรมันจะยุ่งยากขนาดนี้  เอาวะ  ลงโปรแกรมบัญชีให้ซักอันละกันวะ  



    “ เถ้าแก่  มันไม่ได้จริงๆ  เอาอย่างนี้ละกัน  ถ้าจะใช้ค้าขาย  ผมลงโปรแกรมจัดการบัญชีให้เถ้าแก่ก่อนแล้วผมจะเขียนโปรแกรมช่วยดูแลสินค้าในร้านให้  เอามั้ย ?  ถึงมันจะไม่ใช่อี-คอมเมิร์ซ  แต่อย่างน้อยมันก็ใช้ค้าขายได้อยู่บ้างละกัน “ ชัยวัฒน์พยายามบอกปัด  พร้อมกับใส่แผ่นซีดีโปรแกรมจัดการบัญชี   ตอนนี้คิดว่ามันน่าจะจบความน่าเบื่อได้บ้างแล้วละมั้ง  ตลอดสี่ชั่วโมง  เขาได้รู้จักกับเถ้าแก่โกวในแง่มุมนึงที่ไม่เคยเห็นได้ดียิ่งขึ้น  จู้จี้  ขี้บ่น  ไม่ฟังใคร  ตะแบงไปท่าเดียว   เอาเหอะ  อาจจะเป็นปกติของคนวัยเฉียดๆ เจ็ดสิบก็ได้มั้ง   ชัยวัฒน์ได้แต่ทอดถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย  ในขณะที่ตัววิ่งลงโปรแกรมกำลังเดิน  เถ้าแก่โกวกำลังใช้พัดมือพัดแก้ร้อนให้ตัวเอง  ทำไมมันถึงน่าเบื่อแบบนี้นะ  ชัยวัฒน์นึก  อันที่จริงแล้วสำหรับตัวเค้าเอง  ด้วยเงินที่มีอยู่มหาศาลในบัญชีธนาคาร  ความสามารถที่สูงส่ง  เขานึกประหลาดใจว่าทำไมตัวเขาเองถึงไม่เคยคิดที่จะมีชีวิตที่มันเข้าท่าหรือดีกว่าการที่จะมาจมอยู่ในที่บัดซบๆ  แบบนี้  เขาฉลาดกว่า  เก่งกว่า  ทำไมเขาต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย?  ชัยวัฒน์นึกพลางดูดบุหรี่หนึ่งอึก  ถ้าจะเปรียบเทียบเหมือนนรกกับสวรรค์   อันที่จริง  เขาคงจะอยู่ก้ำกึ้งกัน  เขาไม่ได้มีความอยากที่จะอยู่ในที่บัดซบๆ  แบบนี้เท่าไหร่นักหรอก  ในทางกลับกัน  เขาเองก็ไม่เคยคิดจะตะกายไปอยู่บนความหรูหรา  ความเจริญจอมปลอม   หรือจริงๆ  แล้ว  เขามองเป็นภาพรวมว่าทุกๆ สิ่งที่ประกอบเป็นสังคมแห่งนี้  มันเน่าเฟะสิ้นดี  หาความดีไม่ได้เลยจริงๆ  เขาพยายามทำทุกทางที่จะไม่เข้าไปสู่กระแสวังวนที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งหลายเบื้องหลังหล่อหลอมมาให้เกิดเป็นสังคม  เทรนด์   วิถีชีวิตแบบฉาบฉวย  ความสนุกสนาน  ความต้อยต่ำ  ล้วนแต่ถูกกำหนดโดยผู้มีอำนาจทั้งนั้น  เขาไม่ชอบการอยู่ใต้อำนาจใคร  เขามีทางเลือกของเขาเอง  และเขาเลือกทางนี้............บางครั้งมันอดคิดไปไม่ได้ว่า  อันที่จริงแล้ว  เค้ามีทางเลือก ‘จริงๆ’ รึเปล่า  ชัยวัฒน์นั่งล่องลอยไปกับความคิดเหล่านี้  จนกระทั่งเสียงเถ้าแก่โกวลอยขึ้นกระทบโสตประสาท



    “ เอ้า อาชัยวัฒน์  เสร็จแล้วน่อ  นี่  แล้วอาชัยวัฒน์จะสอนให้อั๊วะทำได้รึเปล่าอ่า สอนอั๊วะหน่อยละกันนะ “ เถ้าแก่โกวรบเร้าเป็นเด็ก ๆ น่าเบื่อชิบหายเลยว้อย  ไอ้แป๊ะ  ชัยวัฒน์นึก



    “ เถ้าแก่ ตอนนี้ผมเองก็มีงานต้องทำ  เอางี้ละกัน  พรุ่งนี้ผมมาสอนให้  เถ้าแก่เล่นเกมไปพลางๆ ก่อนละกันนะ อืม ผมไปล่ะ “ ชัยวัฒน์ตัดบท เก็บของ  เดินออกไปห้วนๆ  ให้ตายเถอะ  หมดสิ้นกันซะที  ข้าวก็ไม่ได้กิน  เสียแรงเปล่าๆ ปลี้ๆ จริงๆ  ประกอบกับตอนนั้นก็ดึกพอสมควร  ไฟล์ทั้งสี่ที่ยังคั่งค้างก็ยังไม่เสร็จ  เขาเดินถือของอย่างซังกะตาย  สายตาเหลือบไปที่อีกฝั่งหนึ่งของอพาร์ทเมนต์  ไอ้หมาบ้าหน้าหล่อกำลังยืนคุยกับสาวน้อยวัยเรียนอย่างสนุกสนาน  มือไม้ลูกคลำแต๊ะอั๋ง  แต่ดูเหมือนเธอจะชอบใจมากกว่าที่จะรู้สึกโกรธมัน  ให้ตายเถอะ  เด็กสมัยนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด  ชัยวัฒน์นึก  แต่ก็อย่างว่า  ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเรา  ใครพอใจจะให้ใครเอามันก็เรื่องของเค้า  เราไม่เกี่ยว  นั่นคงเป็นทางที่สาวน้อยคนนั้นเลือกไว้แล้ว  ชัยวัฒน์พยายามที่จะนึกไปในทางนี้เพื่อให้เรื่องน่ารำคาญเหล่านี้ออกไปจากหัวโดยเร็ว  แต่เขากลับหยุดเดิน  จ้องมองไปที่รูปร่างอวบอัดของเด็กสาว  เสื้อแขนสั้นกุดลายทางน้ำเงินขาว  กระโปรงจีบบานสั้น ไม่ใช่ชุดเหมือนตอนกลางวัน เธอคงกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดสินะ  เขานึก   ผิวขาวผ่อง  ผมสั้นเคลี้ยบ่า  ไม่อาจทำให้เขาละสายตาไปจากเธอได้จริงๆ  นั่นคงเป็นสเปกแบบที่ไอ้พวกแมงดาระยำนั่นชอบสินะ   ชัยวัฒน์แอบด่าในใจก่อนจะเดินตรงไปที่บันได  ปากคาบบุหรี่  เดินไปอย่างซังกะตาย  ในตอนนั้นเอง ที่เขาเดินผ่านหน้าร้านตัดผมที่มีกลุ่มช่างตัดผมและยายเม้าท์กำลังนั่งดูข่าวทางโทรทัศน์   ชัยวัฒน์หยุดอยู่ที่หน้าร้านยืนดูข่าวนั้น  และเริ่มสำนึกว่าเขาไม่ควรหยุดดูมันเลย



    “ เมื่อเวลา 17.00 นที่ผ่านมา  ทางกลุ่มบริษัทพันธมิตรผู้ให้บริการอินเตอร์เนทรายใหญ่ทั้งห้าได้ออกมาแถลงข่าวกลุ่มอาขญากรทางคอมพิวเตอร์ได้ลักลอบเข้าไปในฐานข้อมูลของบริษัทและลักลอบขโมยเอาข้อมูลสำคัญออกไป  ทางนายสาธิต  อินทรวิเชียร  เลขาธิการบริษัท  Dserve internet  หนึ่งในห้าบริษัทใหญ่ในกลุ่มผู้ให้บริการอินเตอร์เนทออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับการจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อการในครั้งนี้  คือ  นายฐานิสร์  เลิศไกร  หรือชื่อในอินเตอร์เนทคือ  BadZecTar  ได้ถูกจับกุมเมื่อเวลา 22.00 นาฬิกาเมื่อคืนวาน  ทางด้านนายฐานิสร์ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า  ได้ช่วยเหลืออาชญากรคอมพิวเตอร์อีกคนหนึ่ง  ในชื่อที่รู้จักกันในหมู่นักล้วงข้อมูลคือ  [1]Binary[0]  ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ของกลุ่มบริษัทและกระทรวงเทคโนโลยีกำลังขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีต่อไป”  



    “ นี่เธอ  เดี๋ยวนี้นะ อะไรๆ มันก็อินเตอร์เนทกันหมด เลยเป็นช่องทางให้พวกมิจฉาชีพมันเข้ามาไงล่ะยะ” ยายเม้าท์จีบปากวิพากษ์วิจารณ์



    “โธ่ พี่ พวกหนูน่ะจะไปมีอะไร  แค่หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ ก็แย่พออยู่แล้ว ไอ้คอมพิวต้งคอมพิวเตอร์อะไรนั่น ไม่สนใจหรอก  อย่างดีเอามาดูหนังฟังเพลงนิดๆ หน่อยๆ ละมั้ง” คนหนึ่งพูดเสริม



    “ โธ่ พี่ เล่นอินเตอร์เนทไม่ได้เหรอ  แบบว่า หนูล่ะอยากคุย chat บ้างอ่ะ ได้ยินมานานแล้ว เผื่อว่าหนูอาจจะได้เจอคนหล่อๆ ซักคนสองคนก็ได้นะ”  เด็กสาวฝึกงานพูดหน้าแดง  แต่แล้วฝ่ามือของช่างทำผมก็ฟาดไปเต็มแผ่นหลัง



    “ โธ่ นังวอก  หน้าอย่างแก  ใครเค้าจะเอา  คุยกันอาจจะดีๆ แต่พอไปเจอหน้า เค้าก็ไม่เอาแกแล้วย่ะ” ช่างทำผมจีบปากด่า  แล้วทั้งหมดก็สังเกตเห็นชัยวัฒน์ที่ยืนตาค้างเพราะข่าวอยู่ที่หน้าร้าน  ช่างทำผมไม่วายจีบปากจีบคอด่าเด็กฝึกหัดตัวเองทันที



    “ เออ นี่ ถ้าไม่มีใครเอา แกเอานายบื้อคนนี้ก็ได้นี่ “ เธอกล่าว



    “ ยี้  พี่อ่ะ  พูดแบบนี้ได้ไง  ตานั่นน่ะเหรอ  ต่อให้เหลือมันเป็นคนสุดท้ายของโลกหนูก็ไม่เอาหรอก “ เด็กสาวปฏิเสธเสียงแหว  แต่ยายเม้าท์ก็รีบจีบปากจีบคอต่อทันที



    “ อ่ะนะ  แกก็พูดไป  ตอนนั้นจริงๆ ขี้คร้านจะร่านขึ้น  ลิงมาก็เข้าใส่แล้ว แกน่ะ ฮะฮ่ะๆๆๆ” ยายเม้าท์จีบปากกระแนะกระแหน หัวเราะชอบใจ  ชัยวัฒน์เริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังโดนนินทาระยะเผาขน  เขารีบเดินไป  แต่คราวนี้เขาไม่รู้สึกเบื่อพวกนี้แม้แต่น้อย  หรืออีกนัยหนึ่ง..........เรื่องราวที่ปรากฏบนจอโทรทัศน์  มันหนักหน่วงสาหัสเกินกว่าเขาจะรับไหว  ให้ตายเถอะ  ตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังจะพังทะลายอย่างรวดเร็วและรุนแรงทุกที  เขาจะทำยังไงดี  ไอ้ระยำ BadZecTar  มันซัดทอดจริงๆ  เขาส่ายหัวด้วยความระอาใจ   เป็นใครก็ทำ  ไอ้ระยำ ไอ้ระยำ ชัยวัฒน์นึกด่าในใจ  พร้อมกับความกังวลที่แล่นเข้ามาจนจุกอก  เขาเป็นนักล้วงข้อมูลมาเกือบจะสิบปี  ยังไม่เคยเจอสถานการณ์อันไหนเลวร้ายได้เท่ากับอันนี้เลย  ตอนนี้ชัยวัฒน์เดินมาถึงห้องพักของตัวเองแล้ว   เขาพยายามจะหากุญแจไขเข้าห้อง แต่ลนลานซะจนทำอะไรไม่ถูก  จนคว้ากุญแจมาได้  เขารีบไขเข้าห้อง  โยนของลงกับพื้น  เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เขาเปิดทิ้งไว้มีตัวเตือนกะพริบบนหน้าจอ  มีข้อความส่งเข้ามาเค้า  เป็นไปได้ยังไง?  ชัยวัฒน์รีบเดินไปที่หน้าจอ  



    [1]Binary[0] อยู่รึเปล่า?



    ในตอนนี้เขาแทบจะสติแตกไปแล้ว  ให้ตายเถอะ  ใครกันวะ  ใครกันวะ  ใครกัน  ในจังหวะที่เขากำลังจะกระชากปลั๊กไฟเพื่อดับเครื่องนั้น  ข้อความก็ค่อยๆ เลื่อนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง



    [1]Binary[0]  ถ้าคุณอยู่  ตอบชั้นด้วย ชั้น @เด็กของคุณครู@



    ผู้ว่าจ้างของเขา? ชัยวัฒน์หยุดมือที่กำลังจะกระชากปลั๊กไฟ  เขาค่อยๆ นั่งลงกับเก้าอี้   เคาะแป้นพิมพ์อย่างบ้าคลั่ง  แฝงไปด้วยความกลัวที่ไม่อาจห้ามได้  



    ให้ตายเถอะ  อะไรอีกล่ะทีนี้  พอทีได้มั้ย  เลิกยุ่งกับผมซักที   ข่าว BadZecTar  โดนจับเป็นความจริง  แล้วยังไง  ผมไม่อยากยุ่งอะไรอีกแล้ว  พอซะที  อย่าลากผมไปเกี่ยวข้อง  พอได้แล้ว !!!



    กูไม่อยากยุ่งอะไรอีกแล้ว  ปล่อยไป  พอซะที พอได้แล้ว นี่คือสิ่งที่ชัยวัฒน์นึกอยู่ตลอดในตอนนี้  ประโยคสนทนาเงียบไปสักพัก  ก่อนที่ผุ้ว่าจ้างจะตอบกลับมา



    .............. ชั้นก็กะอยู่แล้วว่านายจะเป็นคนอย่างนี้  นายไม่สนใจสวัสดิภาพ  เสรีภาพ  อะไรทั้งนั้นเลยรึยังไงกัน  เอาสิ นายไม่ต้องยุ่ง  ไม่ต้องต่ออินเตอร์เนทต่อไป ก็ทำได้  ทำไปเลย นายปลอดภัย  มีการงาน มีอาชีพมั่นคงนี่  นายจะมาเข้าใจหัวใจของเหล่านักล้วงข้อมูลได้ยังไง  นายมันก็แค่นี้ล่ะ  ไปให้พ้นๆ ได้แล้ว เพราะนายมันไม่ใช่นักล้วงข้อมูลหรอก  นายมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาด  ชั้นพูดชัดเจนมั้ย..................



    ราวกับเวลาในโลกนี้มันหยุดนิ่งไป  ถ้าเป็นคนอื่นๆ อาจจะเลิกล้มไป  เจอความลำบากก็เลิก  ก็หนี  แต่ไม่ใช่กับเขา  เขาไม่ยอมเป็นคนที่ไร้ค่าแบบนั้นเพราะเขาเลือกแล้ว  และเหตุผลสำคัญ  ทำไมเขาต้องรู้สึกโกรธกับคำพูดของใครก็ไม่รู้ด้วย  คำพูดของผู้หญิง?  นั่นเป็นสาเหตุอย่างนั้นหรอกเหรอ  ชัยวัฒน์นิ่งไปสักพัก ก่อนจะเคาะแป้นพิมพ์อย่างช้าๆ ชัดๆ



    ผมไม่ใช่ไอ้ขี้ขลาด  ถอนคำพูดนั่นไปซะ  ถ้าคุณเป็นนักล้วง  ผมก็เป็นนักล้วง  และผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดี  มีอะไรก็ว่ามา



    ชัยวัฒน์เคาะแป้นพิมพ์ส่งข้อความไป  ด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายจริงๆ  ในตอนนี้การสนทนาเริ่มชะงักลงอีกครั้งหนึ่ง  ก่อนที่ตัวอักษรจะวิ่งมาที่หน้าจอของชัยวัฒน์



    .......... ตอนนี้เราจะช้าไม่ได้แล้ว  ชั้นพยายามติดต่อคุณเพราะข่าวที่ออกในทีวีนั่นล่ะ  เรื่องราวมันใหญ่โตเกินกว่าที่เราจะทำเฉยได้แล้ว  ถ้าพวกมันให้ข่าวกับสื่อได้ถึงขนาดนี้  มีความเป็นไปได้ว่าพวกมันคงมีความพร้อมที่มากพอที่จะจัดการกับคุณได้..........ในไม่ช้าด้วย



    เออๆ กูรู้แล้วล่ะน่า  ชัยวัฒน์นึกบ่นอุบในใจ  ถึงได้สั่นเป็นเจ้าเข้าแบบนี้ไง



    ผมรู้สถานการณ์ของผมดี  เอาล่ะ  คิดจะทำยังไงต่อไป  



    ชัยวัฒน์เคาะแป้นพิมพ์ส่งข้อความออกไป    ในเวลาไม่นานนัก  กรอบสี่เหลี่ยมก็ขึ้นที่หน้าจอของเขา  เป็นหน้าจอการรับไฟล์ข้อมูล  ชัยวัฒน์รีบกดรับไฟล์ในทันที  เป็นไฟล์ .txt  เขารีบจัดการตรวจสอบความปลอดภัยของมันก่อนจะลงมือเปิดไฟล์ในทันที  



        Ip  address ::  205.612.35.8 port 849



    นี่มันอะไรกัน?
      ชัยวัฒน์พิมพ์ประโยคส่งไป  



    คำตอบของเรื่องราวทุกอย่างน่ะสิ  มันคือ..........



    ประโยคยังขึ้นได้ไม่ครบบนหน้าจอ  เครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องของชัยวัฒน์ก็ส่งสัญญาณเตือนภัยขึ้นมา  เขารีบหันความสนใจไปที่อีกเครื่องหนึ่งในทันที   ตัวเลขมุมขวาบนของหน้าจอเริ่มนับถอยหลัง  และเร็วขึ้นทุกขณะ  บัดซบ  เขาโดน  trace  เหรอเนี่ย  บ้าที่สุด  ชัยวัฒน์สบถในใจ  พร้อมกับพรมคำสั่งลงบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว  



                increase  trace time  80000000000000000 millisecond

            set  spectre  port  to 224  ::  duration  850000000000000 millisecond

                spoof  gateway  ::  activate  firewall  ::  fake proxy




    เขาใส่เกือบทุกคำสั่งที่หัวสมองของเขาจะจำได้  พยายามยื้อและซื้อเวลาให้ตัวเองให้มากที่สุด  แต่แล้ว  ทุกอย่างบนหน้าจอกลับไม่มีการตอบสนองใดๆ กับคำสั่งของเขา  ตัวเลขด้านมุมขวาบนยังคงเดินต่อไป  พร้อมกับข้อความที่ขึ้นตามมา



            Error  884 ::  cannot  increase  tracetime , solid  line  connect

            Error  821 ::  cannot set  spectre port, fake proxy  ,  status  revealed

            Error  437 ::  cannot spoof gateway , line destroy

            Error  666 ::  firewall  disabled




    “ บัดซบอะไรขึ้นมาอีกล่ะเนี่ย !!” ชัยวัฒน์อุทานขึ้นมาด้วยอาการตื่นตะลึง  ทุกคำสั่งที่มันเคยเป็นเครื่องมือที่เขาใช้ตามปกติ  ในตอนนี้กลับไม่สามารถใช้ได้  เขาพยายามอีกหลายต่อหลายหนในการที่จะจัดการกับระบบ security  ภายในเครื่องตัวเอง  แต่ไร้ผล  ตัวเลข  tracetime  ยังคงดำเนินต่อไป  ตอนนี้ชัยวัฒน์กำลังสูญเสียความเยือกเย็น  เขาเผลอกัดเล็บโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว  นี่มันเลวร้ายมากๆ  แย่ถึงที่สุด  ทำยังไงดี  ทำยังไงดี  เขานึก  จนกระทั่งข้อความจากคอมพิวเตอร์อีกตัวขึ้นมา  เป็นข้อความจากผู้ว่าจ้าง



        [1]Binary[0]  ตอนนี้พวกมันกำลังสาวมาถึงนี่แล้ว  คุณจะยังโดนจับตอนนี้ไม่ได้  ไฟล์ทั้งสี่ที่คุณมีอยู่กับตัว  เก็บมันไว้ให้ดี   เข้าไป  server  ที่ชั้นให้ไว้  0010001110001111000111001110011 อย่าชักช้า  ไฟล์ที่ห้า  11111000001101011010101  อยู่ในนั้น  ไปเอามันมา  เปิดเผยความจริงให้ทุกคนได้รับรู้  000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000



    หน้าจอของเขาในตอนนี้มีเลขศูนย์ขึ้นเต็มไปหมด  ไม่ว่าจะพยายามแก้ไขยังไงก็ไม่อาจจะแก้ได้  จนกระทั่งเขาถูกดีดออกจาก  server  กลับมาอยู่ที่หน้าจอ  console  ตัวเอง  การเชื่อมต่อถูกยกเลิกแล้ว  เขาหอบหนัก  ตาเบิกกว้าง  มันรวดเร็วเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการตามได้ทัน  นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน    ตอนนี้เขาเริ่มเคาะคำสั่งลงบนแป้นพิมพ์อีกครั้งหนึ่งเพื่อตรวจสอบสภาพเครื่องของตัวเอง   ไม่มีอะไรเสียหาย  นั่นหมายความว่า.............. ชัยวัฒน์นั่งก้มหน้า  สองมือปิดหน้าไว้  แล้วค่อยๆ เลื่อนเป็นกุมหน้าผาก  เธอ.........คงไม่รอดแล้ว  ในสภาพเช่นนี้คงพอสรุปได้เป็นอย่างเดียว  เขาขบริมฝีปากแน่น  ตาเบิกกว้าง   ตาจ้องมองไปที่เครือ่งคอมพิวเตอร์ตัวเอง



    “ อ๊ากกกกก!!” เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง  ก่อนจะลงมือกระชากสายเคเบิล เอาที่เขี่ยบุหรี่ทุบหน้าจอแตกไปหนึ่งตัว  พร้อมกับเหวี่ยงเคสไปที่ข้างฝา   เสียงเคสกระทบฝาผนังดังสนั่นหวั่นไหว  เขาทิ้งตัวลงกับมุมห้อง  นั่งชันเข่า  จิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวถึงที่สุด  เขากลัว  ............. คอมพิวเตอร์  สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา  เขาไม่อยากแตะต้องมัน   ไม่อยากแม้จะมองเห็นมันในตอนนี้  เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวของเขาไม่รู้สึกปลอดภัยสบายใจดังเดิมได้อีกต่อไปแล้ว  ทุกอย่างมันเกิดเร็วมากแม้จะผ่านมาเพียง 1 วันกว่าๆ เกือบสองวัน   ตอนนี้นาฬิกาแขวนฝาผนังของเขาบอกเวลาสามทุ่มกว่าๆ แล้ว เขากลับรู้สึกว่ามันยาวนานเหลือเกิน  นานมากๆ  ตอนนี้จิตใจของเขาว้าวุ่น  สับสน  เขาจะทำยังไงต่อไป  คำตอบของปริศนาทั้งหลายมันอยู่ใน  server  ที่เขาได้รับมาแล้ว  มันอาจจะเป็นทางออกสำหรับทุกเรื่อง  แต่เขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับมันอีกแล้ว  ไม่  ไม่แม้แต่น้อย  เขารู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง   อยากจะหนีมันไปให้พ้นๆ  ตอนนี้เขานั่งก้มหน้ากับหัวเข่า  พยายามจะหลับตา  และข่มตานอน  แต่ในหัวของเขามันว้าวุ่นเกินกว่าที่จะคิดเรื่องอื่นใดต่อไปได้  หรือเกินกว่าที่จะหลับได้ลง  เขาภาวนากับตัวเองเงียบๆ ในใจ  ว่าขอให้เรื่องราวเหล่านี้  เป็นเพียงฝันตื่นหนึ่ง  พรุ่งนี้เขาจะได้ตื่นมาเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ไม่มีเหตุการณ์ณ์ร้ายแรงใดๆ  เขายังคงมีอำนาจและอิสรภาพในการกระทำใดๆ ในโลกไซเบอร์  โลก.........ของเขา  ขอเพียงผ่านพ้นคืนนี้ไปให้ได้  ขอเพียงแค่นั้น............................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×