ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Files 2 :Hello World
กรุงเทพมหานคร  2558
เสียงจิ้งหรีดหน้าร้อนร้องระงม  ตัดกับเสียงก่อสร้าง  เสียงรถยนต์ที่สัญจรขวักไขว่ไปมา  กรุงเทพมหานคร.........แม้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา  แต่สิ่งที่เรียกว่าวิญญาณแห่งกรุงเทพมหานครก็ยังคงอยู่ครบถ้วน  อาคารสูงเสียดฟ้าของบริษัททุนต่างชาติ  แต่ด้านใต้ตึกเหล่านั้น  มีร้านตึกแถว  ร้านโชว์ห่วย  ภัตรคารหรูมีระดับ แต่หน้าร้านมีรถเข็นข้าวเหนียวไก่ย่าง ที่เด็กเสิร์ฟในภัตรคารออกไปนั่งรับประทาน  ห้างสรรพสินค้าชั้นดี  สินค้าแบรนด์เนม  ส่วนด้านหน้าห้างเหล่านั้น  แผงเสื้อผ้ามือสอง  ของราคาถูก  ตกดึก  สาวเอสคอร์ทชั้นสูง  ยืนอยู่ใน    ล๊อบบีโรงแรมดัง รับแขกหนุ่มหล่อเงินหนา  ส่วนด้านหน้าโรงแรม  สาวขายตัวราคาถูกสองคนยืนสูบบุหรี่เป่าปากเรียกแขก  ภาพเหล่านี้ดูจะธรรมดาเหลือเกินสำหรับเขา........  เขาเป็นเพียงคนธรรมดาๆ คนหนึ่งในสังคมที่ขาวกับดำแยกกันชัดเจน  ในตอนนี้เขากำลังนั่งรถเมล์กลับอพาร์ตเมนต์ที่พัก  รถเมล์ยังคงแน่นอยู่ดังเช่นทุกๆ วัน เป็นภาพที่เขาเห็นจนชินตา  สำหรับพนักงานบริษัทกินเงินเดือนเช่นเขา  เขานั่งอยู่เก้าอี้ในสุด  มองออกไปนอกหน้าต่าง รถยนต์หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายประเภท  เขาหันกลับมาให้ความสนใจกับเครื่อง notebook บนหน้าตักของเขาอีกครั้งหนึ่ง  ในยุคที่การสื่อสารที่สะดวกแม้กระทั่งเด็กอนุบาลก็สามารถเชื่อต่อ internet ได้  การที่จะเชื่อมต่อ internet จากเครื่อง notebook บนหน้าตักของเขา ที่ไม่มีอะไรนอกจากอุปกรณ์ต่อพ่วงเล็กน้อยนั้น  ดูราวจะเป็นเรื่องธรรมดาเสียแล้วสำหรับเขา  เขาใช้นิ้วเคาะแป้นพิมพ์เปิดเวปไซท์ข่าวประจำวัน  เครื่อง notebook ใช้เวลาโหลดไม่นานนัก ก็ขึ้นหน้าเวปเพจสำนักข่าว  ที่มีหัวข้อข่าวที่เป็นที่สนใจในขณะนี้สำหรับคนคอมพิวเตอร์เช่นเขา
“  ISP ดังยักษ์ใหญ่  5 แห่งของเมืองไทย  ประกาศการร่วมทุน  เทคโนโลยีอินเตอร์เนทเมืองไทยก้าวกระโดด!!”
เนื้อหาของข่าวที่เป็นที่สนใจของยุคปัจจุบันที่ข่าวสารสื่อถึงกันได้อย่างง่ายดาย  ผลจากการร่วมทุนในมุมมองของนักวิชาการ  คาดการว่าการร่วมทุนจะก่อให้เกิดเทคโนโลยีที่สะดวก และรวดเร็ว เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น  และอื่นๆ  ตามที่เวปไซต์แห่งนี้ได้บอกกล่าว  รวมถึงการที่เขาเองก็เป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัทหนึ่งในห้าแห่งนี้  ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจกับเรื่องราวเหล่านี้มากมายนัก  ได้ยินเป็นล้านรอบแล้ว  เขาถอนหายใจ  ขำอย่างหยามเหยียดเล็กๆ ก่อนจะเปิดโปรแกรมผู้พัฒนาแล้วเริ่มเขียนโปรแกรมที่ได้รับมอบหมาย  ระหว่างที่เขาทำงานอยู่  สายตาก็สอดส่องไปตามผู้คนที่ยืนเบียดเสียดอยู่บนรถเมล์  จนสะดุดไปเจอหญิงสาวที่ไร้ทางสู้  ที่โดนไอ้โรคจิตหื่นกามเอาอวัยวะอันแสนต่ำของมันเบียดสะโพกน้อยๆ ของเธออย่างเมามัน มือลูบไล้ไปตามร่างกายของสาวน้อยอย่างถือวิสาสะ  เขาถอนหายใจ  แค่นเสียงเฮอะออกมา  เทคโนโลยีก้าวกระโดดงั้นเหรอ  แล้วมันแก้อะไรสังคมระยำๆ แบบนี้ได้บ้างล่ะ  เทคโนโลยีที่ช่วยให้แม้แต่เด็กอนุบาลต่ออินเตอร์เนทได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น แล้วมันช่วยให้สาวน้อยคนนั้นหลบเลี่ยงจากสถานการณ์บัดซบพรรค์นั้นได้อย่างนั้นหรือ  เขาบันทึกงานของตนเองลงเครื่อง ก่อนจะปิดเครื่องพับ notebook เก็บใส่กระเป๋าเป้  ทอดถอนใจกับสิ่งที่เห็น  เขานั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง  จิตใจล่องลอยในขณะที่รถเมล์กำลังติดสี่แยกไฟแดง  เขารู้ดี..........ขาวดำ  ดีชั่ว  หนึ่ง......ศูนย์  เขาชอบตัวเลขสองตัวนี้เหลือเกิน  มันตรงไปตรงมา  แฝงนัยยะที่เข้าใจได้ง่ายดายที่สุด  แม้แต่คอมพิวเตอร์เองที่ซับซ้อนทำงานได้เกือบจะแทนที่คนได้อย่างสมบูรณ์แบบ  ก็ยังเริ่มจากกลุ่มตัวเลขง่ายๆ สองตัวมาเรียงซ้อนกัน  ช่างเหมือนกับคนเราอยู่ทุกๆ วันนัก  มันก็ไม่ได้มีที่มาซับซ้อนหรือวิจิตพิสดารอะไรทั้งนั้น  คนเราสำคัญตนเองผิดไป  เพราะมนุษย์.............มันช่างจิ๊บจ๊อยนัก  เขาตื่นจากภวังค์เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำลายห้วงความคิดของเขา  เขากดรับโทรศัพท์โดยไม่ได้ดู  แทบจะไม่ต้องดูด้วยซ้ำ เพราะมันมีไม่กี่คน  เขารับโทรศัพท์ด้วยอาการเซ็งสุดๆ 
“สวัสดีครับ” เขากล่าวอย่างเนือยๆ 
“เอ้อ  ชัย  นี่พี่เองนะ” เสียงปลายทางกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง
“ครับพี่นนท์  พักตากอากาศเป็นยังไงบ้างครับ “ เขากล่าวกับคนที่ชื่อว่าพี่นนท์ด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม
“อื้อ  สวยมากๆ เลยล่ะ ภูเก็ตนี่  ยอดเยี่ยม หาดขาว ทะเลสีคราม อาหารอร่อย “ คนที่ชื่อนนท์กล่าว  แน่นอน  เขารู้สึกอยากจะวางสายจากไอ้บ้าระยำนี่เต็มทนแล้ว  ถ้ามันไม่ใช่หัวหน้าแผนกของเขา  เขาคงวางสายไปแล้ว
“ดีจังนะครับ” เขากล่าวเสียงเนือยๆ แต่แฝงด้วยการดูถูกลึกๆ  แต่นนท์ยังคงกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง
“แหม  เพราะมีนายน่ะแหล่ะ  ชัยวัฒน์ โปรแกรมเมอร์มือหนึ่งของแผนก  ชั้นกับน้องแจงถึงได้มาพักตากอากาศได้โดยที่ไม่ต้องกังวลกับอะไรเลย  อื้อ  ขอบใจมากๆ นะ” นนท์กล่าว  ถึงเวลานี้  ชัยวัฒน์รู้สึกอยากจะบีบคอไอ้บัดซบนี่เต็มทนแล้ว  แน่สิ  ไอ้เหียก  งานก็ไม่เคยทำ ลอยหน้าแล้วเอาความดีความชอบไป  ชัยวัฒน์นึก  เขาไม่ค่อยเห็นไอ้บ้านี่ทำงานอะไรเท่าไหร่เลย  งานการก็แทบจะอยู่ในรับผิดชอบของเขาเกือบหลายต่อหลายครั้ง  สรุปใครเป็นหัวหน้าแผนกใครเป็นลูกน้องเขายังไม่รู้เลย 
“ไม่ต้องกังวลใจหรอกครับ พี่นนท์  เรื่องที่นี่ปล่อยเป็นหน้าที่ของผมเถอะ” ชัยวัฒน์กล่าว แต่เขาก็รู้อยู่กับใจว่าไอ้บ้านี่ไม่ได้กังวลอะไรทั้งนั้น  แต่ก็พูดไปตามมารยาท 
“อืม  เรื่องงานเนี่ย ก็ทำเหมือนที่เคยทำไปนะ  ตอนนี้จะยุ่งๆ หน่อยเรื่องที่บริษัทของเราจะรวมทุนกับอีกสี่บริษัท คิดว่าคงจะยุ่งทีเดียว อาจจะต้องประสานงานกันกับบริษัทอื่น  จัดการแจ้งวันสัมมนาร่วมให้คนที่แผนกรู้ด้วยล่ะ แล้วก็ส่ง source code  มาที่ e-mail ของพี่ด้วยนะ  จะได้ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งน่ะ” นนท์ออกคำสั่งให้กับชัยวัฒน์  ดูเหมือนคำสั่งสุดท้ายนั้น  เขาจะรู้สึกเบื่อแบบสุดๆ  เพราะเมื่อไหร่ที่ส่งไป  มันก็ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของเขาอีกต่อไป  ถึงเขาสามารถที่จะทำตำหนิเพื่อให้รู้ได้ว่าเป็นของเขา  แต่น่าแปลกที่เขาไม่เคยคิดจะทำมัน  อาจจะเพราะมันน่าเบื่อก็ได้  การไต่เต้า การประจบประแจง การซุบซิบนินทา รักในที่ทำงาน กามโลกีย์ประจำวัน เฮอะ  ความน่าเบื่อของชีวิตสำนักงาน  สำหรับเขาแล้วนั้น  เรื่องราวเหล่านี้มันช่างเล็กน้อยในสายตาจริงๆ 
“ครับ  ทราบแล้วครับ  ผมจะดำเนินการให้เรียบร้อยเหมือนทุกๆ ครั้งครับพี่นนท์” ชัยวัฒน์กล่าวอย่างเนือยๆ
“ฮ่าๆ นี่ พี่เชื่อใจนายนะ นายน่ะมันแน่เสมอเลยชัย เอ้อ ขอตัวนะ น้องแจงเรียกแล้วละ ไว้เจอกันนะ แล้วจะซื้อของฝากไปให้” นนท์กล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะชิงวางสาย ทิ้งให้ชัยวัฒน์อยู่กับเสียงสัญญาณที่ขาดห้วง ก่อนจะดับหายไป เขาถือโทรศัพท์ไว้ที่มือ  มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเด็กสาววัยรุ่นกำลังคุยโทรศัพท์อย่างสนุกสนานผ่านโทรศัพท์ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของโทรศัพท์ยุคใหม่ ที่ส่ง sms , mms , picture message หรือกระทั่งสั่งข้าวเหนียวไก่ย่างจนเรียกสัปเหร่อมาเก็บศพ  เขากดปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ เก็บใส่กระเป๋า ตอนนี้รถเมล์เคลื่อนตัวมาถึงป้ายหน้าซอยทางเข้าอพาร์ทเมนต์ของเขาแล้ว เขาค่อยๆ แหวกว่ายกลุ่มร่างชีวะเดินได้ออกไปที่ประตูรถเมล์เพื่อที่จะลง ระหว่างลงเขาสังเกตุใบหน้าของแต่ละคน  มันช่างหดหู่ ไร้ชีวิต  มีคนเคยกล่าวว่า  ดูสภาพวิญญาณ ดูได้ที่สีหน้า และแววตา แต่เขาไม่นิยมอะไรที่บิดผันได้ขนาดนั้น เขาชอบอะไรที่ตรงไปตรงมามากกว่า  แววตาที่เขาเห็นของแต่ละคน  เหนื่อยหน่าย ท้อแท้  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอายังไงกับชีวิตอันแสนเฮงซวยในแต่ละวันที่ผ่านไป  เขาได้แต่มองอย่างทอดถอนใจ  ก่อนจะสะพายกระเป๋าเดินลงจากรถเมล์  เขาลงจากรถพร้อมคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังเบียดเสียดกันลงราวกับปลาที่ถูกนำขึ้นจากน้ำ  หายใจดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด  ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่เวลาจะหายใจแม้สักวินาที  สำหรับเขาเองแล้ว เวลา........ไม่เคยมีความหมายสำหรับเขาแม้แต่น้อย  ทุกอย่างมันดำรงเพียงสองอย่าง  อยู่........ดับ  ศูนย์......หนึ่ง  เขายืนมองดูรถเมล์เคลื่อนตัวออกไปจากป้าย  ที่พักรอรถเมล์มีป้ายโฆษณาของบริษัทที่เขาทำงานอยู่  ป้ายรูปผู้หญิงกับเด็กน้อยแม่ลูก  อยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์  ยิ้มแย้มให้กัน
“Netrotac  อินเตอร์เนทครอบครัว เพื่ออนาคตและการเรียนรู้ “
ป้ายโฆษณานี้ไฟชำรุด  ติดๆ ดับๆ แถมมีใบปลิวโฆษณางานเงินดี เดือนละแสนกว่าบาท ที่แจกกันตามสะพานลอยและป้ายรถเมล์  ชัยวัฒน์ส่ายหน้าระอาใจ  ไม่ว่ายุคไหน ๆมันก็เหมือนกันหมด  ขาว.....ดำ เขาละความสนใจจากป้าย  เดินตรงเข้ามาในซอย  ทุกเส้นทางยังคงเหมือนเดิมเช่นทุกวัน  กองขยะที่ใส่ไม่ลงถัง  หมาจรจัดนอนสงบอยูใต้เสาไฟ  กำแพงที่พ่นข้อความที่แสดงอาการอยากเป็นพ่อคนอย่างออกนอกหน้า  แถมรับลูกไม่จำกัดสถาบัน  เห็นกันจนชินชา 
“ไอ้เวร  พ่อทุกสถาบัน  พ่อบ้าอะไรเอามีดดาบไล่ฟันลูกตัวเองวะ” ชัยวัฒน์สบถน้ำเสียงเนือยๆ ก่อนจะถ่มเสมหะลงถัง แต่ดันไปติดที่เสาไฟแทน  เขาเดินต่อจนถึงอพาร์ทเมนต์โทรมๆ แห่งหนึ่ง  อพาร์ทเมนต์ของเขา  ตามระเบียงมีราวตากผ้า ไม้แขวนเสื้อ  และเสื้อผ้าแขวนอยู่เต็มไปหมด  ชัยวัฒน์เดินตรงไปที่บันไดเพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องของตัวเองเช่นทุกครั้ง  แต่แล้วก็ต้องสะดุดกับเสียงร้องทัก
“ อ้าว อาชัย  เป็นไงบ้างล่ะ  ฮึ ?” เสียงชายแก่เรียก  ชัยวัฒน์หันกลับไป
“ เถ้าแก่โกว  หวัดดีครับ  เป็นยังไงมั่ง” ชัยวัฒน์ถามไปตามมารยาท ยิ้มน้อยๆ พอเป็นพิธี 
“เฮ้อออ ก็เหมือนทุกๆ วันแหล่ะนะอาชัย  ตอนนี้ร้านอั๊วะก็ขายของได้แต่ให้พวกลื้อทั้งหลายที่นี่น่ะล่ะ  เห็นทีจะต้องขายผ่าน เอ อาไรนะอาชัย  อินตา อินตา อะไรนี่แหละ “
“อินเตอร์เนทสินะครับ” ชัยวัฒน์ตอบเสียงเนือยๆ 
“ อ้า ช่ายๆ  อินตาเนทนี่แหล่ะ  เนี่ย อั๊วอ่านหนังสือพิมพ์นะ  กระทรวงเทคโนโลยีเค้าจะสนับสนุนคอมพิวเตอร์ราคาถูกด้วยแหล่ะ แถมอินตาเนทฟรีๆ ใช้งานง่ายอีกด้วย เนี่ยดีจังน้า  คนแก่ๆ อย่างอั๊วะจะได้ใช้อินตาเนทเป็นซักที “ เถ้าแก่โกวกล่าวอย่างยินดี  แต่ชัยวัฒน์กลับทำหน้าเนือยๆ 
“ลองดูละกันนะครับเถ้าแก่  แต่ผมว่ามันอาจจะไม่ได้อะไรมากอย่างที่เถ้าแก่คิดไว้ก็ได้นะครับ อืม ผมขอตัวครับ” ชัยวัฒน์กล่าวออกตัว แล้วเดินขึ้นบันไดไป  บันไดแคบๆ น่าหดหู่  อพาร์ทเมนต์ราคาประหยัดนี่คงสร้างมานาพอสมควรแล้ว  เขานึกภาพไม่ออกว่าตอนมันใหม่ๆ มันเป็นยังไง สวยแค่ไหน  เขาเดินขึ้นมาจนถึงชั้นสามก่อนจะเดินไปตามระเบียง  ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงดังลอดออกมาจากห้องละแวกใกล้ๆ กัน
“อีนี่  มึง  เถียงกูเหรอ  ตบซักฉาดดีมั้ย นังร่าน!!!” เสียงชายหนุ่มตะคอกใส่หญิงสาวดังออกมาจากในห้อง
“ ไม่นะ  ชั้นไม่ได้ทำนะ อย่า อย่าตบชั้น!!” เสียงหญิงสาวร้องขอความเมตตา และเสียงที่ตามมา คือเสียงฝ่ามือฉาดใหญ่
“ อย่ามาตอแหล  มึงไปให้ท่าไอ้พวกรุ่นน้องไว้สินะ  ไอ้พวกเด็กปีหนึ่งน่ะ นังร่าน  กล้านอกใจกูเหรอ!!!” เสียงชายหนุ่มตะคอกสำทับ  ชัยวัฒน์ส่ายหน้าอย่างระอาใจ  พวกวัยรุ่นใจแตก อยู่กินกันก่อนแต่ง  บัดซบอดสูจริงๆ เขาเดินต่อไปโดยไม่สนใจเสียงนี้  จนมาถึงห้องหมายเลข 10  ห้องของเขา  เขาหยิบกุญแจห้องจากกระเป๋าออกมาไขเข้าห้องไป  สภาพในห้อง เละเทะรกรุงรัง สายระโยงระยางเต็มไปหมด เตียงนอนที่รกรุงรัง เสื้อกองไว้  กระป๋องน้ำอัดลมที่กินเหลือไว้ตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่เปิดเคสไว้ประมาณ 2-3 เคส  หน้าจออีก 2 อัน กับกล่องซีดี  ตู้เสื้อผ้า ประตูห้องน้ำ เละเทะรกรุงรังเขาเปิดไฟ เดินตรงไปที่ตู้เย็นเล็กที่อยู่ริมหน้าต่าง  เปิดเอาน้ำเย็นออกมาซดอึกใหญ่  ในขณะเดียวกับที่ sms ส่งมาถึงเขา
            “ เข้าห้อง irc  ห้องเดิม  ตั้ง  proxy ด้วยล่ะ
                                คนกลาง  “   
ชัยวัฒน์กดลบ sms นั้น แล้วเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ ใส่รหัส proxy แล้วต่อสัญญาณอินเตอร์เนทความเร็วสูงแล้วเข้าไปที่โปรแกรม irc  ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน  หน้าจอที่ไม่มีสีสันใดๆ เลยนอกจากสีขาวกับดำและตัวหนังสือ  เขาใส่ชื่อในส่วนของ username และ password ในทันที
            Username::    [1]Binary[0]
            Password ::    ****************               
รวดเร็วกว่าที่ใจคิด  หน้าจอโปรแกรม irc ก็ปรากฏขึ้นมาเป็นตารางซ้ายขวา  มีช่องการสนทนาอยู่ด้านซ้ายและช่องที่แสดงรายชื่ออยู่ทางด้านขวา  เขารออยู่ไม่นาน  ‘คนกลาง’ ก็ติดต่อเข้ามาคุยในทันที
คนกลาง :: เฮ้  มาเร็วกว่าที่คิดแฮะ
คนกลาง :: เข้าห้องแยกดีกว่า  จัดการได้เลย [1]Binary[0]  ;D
คนกลางส่งข้อความผ่านหน้าจอ  ชัยวัฒน์ลงมือกดแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วเป็นคำสั่งผสมตัวอักษร  ก่อนที่จะปรากฏหน้าจอว่างๆ พื้นสีดำขึ้นมา 
[1]Binary[0] :: เข้ามาได้แล้ว  เร็วๆ
คนกลาง :: เหอๆๆๆ  เป็นอะไรน่ะวันนี้ ดูท่าจะอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่เลยนะ
[1]Binary[0] :: ช่างชั้น
คนกลาง :: ยังเซ็งเรื่องอพาร์ทเมนต์เดิมอีกเหรอ 
[1]Binary[0] :: ถึงเซ็งแต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ  ข่าววงในจากบริษัทชั้น ก็ที่ๆ ชั้นอยู่มันจะต่อสาย router เชื่อมสัญญาณ internet  แบบใหม่  ตอนนี้วางสายไปแล้ว  ชั้นถึงได้ลอยหน้าอยู่ตรงนี้ได้ไงล่ะ
คนกลาง :: ฮ่ะๆๆๆ แบบนี้เค้าเรียกว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบนะเว้ย  เอาเถอะ  ช่างแม่งปะไร มีอย่างที่ไหนวะ  อินเตอร์เนทใช้งานสำหรับครอบครัว  เปิดเวปห่าเหวอะไรไม่ได้เลย 
[1]Binary[0] :: อินเตอร์เนทปลอดภัย  ทำเป็นนิสัยตุ๊ดๆ แบบนี้ไปได้  เนทน่ะ แค่เปิดเวปโป๊ไม่ได้ก็ไม่เรียกว่าอินเตอร์เนทแล้ว
คนกลาง :: เออ  ช่ายยยย  หมั่นไส้แม่งมาก เลยจัดการส่ง Data Spam ไปที่ admin แม่งแล้ว เห็นว่าทำอะไรไม่ถูกเลยว่ะ 55555+ :D
[1]Binary[0] :: เออ เจริญนะมึง เสือกส่งมาช่วงที่จะรวมบริษัท ตอนนั้นนั่งแก้กันมึนเลย  แต่ช่างเถอะ...........สังคมเรามันกำลังไปสู่ความน่าเบื่อขึ้นทุกทีแล้ว  คิดว่าจะเป็นยังไงต่อไปล่ะ
คนกลาง :: อันนี้ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ................ มันอาจจะดีก็ได้มั้ง  ก็ข่าวที่ isp จะรวมทุนกันน่ะ อินเตอร์เนทความเร็วสูง  ก้าวกระโดด บลาๆๆๆ  ว่าไปเรื่อย
[1]Binary[0] :: นี่ถามจริงๆ ซีเรียส .............
คนกลาง :: โอเคๆ  ตามความเห็นชั้นเหรอ ............... ไม่อยากไปคิดว่ะ  เอาเป็นว่า  นายซีเรียสเรื่องนี้  แต่ชั้นกลับมองว่าเฉยๆว่ะ  อะไรๆ ในโลกมันหาความแน่นอนไม่ได้อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว  แล้วมันทำไมล่ะ  พรุ่งนี้มะรืนนี้  เราอาจจะโดนดีเข้าซักวัน  แล้วมันต่างอะไรกันนักหนา  พวกเราน่ะ  มาตัวเปล่าก็ต้องไปแบบตัวเปล่านั่นล่ะ
[1]Binary[0]  :: พอๆๆ ปรัชญาน่ะไว้ก่อน อะไรที่มันพลิกแพลงได้น่ะขอทีเถอะ ชั้นนับถือแค่สองอย่างเท่านั้นล่ะ
คนกลาง :: หนึ่งกับศูนย์สินะ
[1]Binary[0]  :: ก็รู้ดีนี่
คนกลาง :: ยังมีหน้ามาบอกคนอื่นว่าปรัชญาอีกเหรอ นายน่ะไม่รู้ตัวรึไงว่าตัวเองน่ะ  บ้าปรัชญาขนาดไหน  หนึ่งกับศูนย์  อยู่กับตาย  ดีกับชั่ว  ขาวกับดำ  เหอๆๆๆ พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก  นี่  ทำไมต้องมองอะไรที่มันน่าปวดหัวแบบนี้ด้วยฟะ มองแค่สองอย่างแบบนี้น่ะ มีความสุขเหรอ  จะ bias อะไรกันนักหนาวะ
[1]Binary[0]  ::  bias น่ะชั่งแม่ง  แต่ถ้าเซท bios น่ะเด็กๆ 
คนกลาง :: อย่าเสือกกวนตีน อินี่
[1]Binary[0] :: หึๆๆ เอาเถอะ  ว่าแต่  ช่วงนี้มีงานเข้ามาบ้างรึเปล่า
คนกลาง :: เออ ก็กะแล้วว่านายคงทนได้ไม่นานนักหรอก  ที่เรียกให้เข้ามาเพราะมีงานนี่ล่ะ แต่มันไม่ยากเท่าไหร่นะ  อย่างว่า ช่วงนี้ไอ้พวก ขโมยข้อมูลเป็นกิกกะไบท์  หรือทำลายหลักฐานราขการมันยากขึ้นๆ จนไม่มีนายจ้างที่ไหนจะยอมเสี่ยงนี่หว่า  มีแต่แบบ  ขโมยข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ หรือไม่ก็ดูรายงานการเงินแค่นั้น  เอามั้ยล่ะ  มีมาให้สองสามอัน
[1]Binary[0] :: ส่งเป็น .txt มาให้เลย encrypt มาก่อนด้วย  เออ แล้วส่งเพลงมาให้ซักเพลงสิ สำหรับคืนนี้น่ะ
คนกลาง :: เฮ้ย วันนี้มาแปลกว่ะ ปกตินายไม่ขอเพลงจากชั้นไม่ใช่เหรอ
[1]Binary[0] :: ชั่งแม่งเหอะ ส่งๆ มา อะไรก็ได้
คนกลาง :: จ้าๆๆ แนบไปพร้อมไฟล์ภารกิจนะ  ที่เหลือจัดการกันได้นะ  ติดต่อกันเองล่ะ  เออ ย้ำอีกครั้ง  ไม่รับประกันความเสี่ยงไม่ว่ากรณีใดๆ เกิดปัญหา รับผิดชอบกันเอง โอเคมั้ย
[1]Binary[0] :: เออ ว่าไปตามนั้น  ขอบใจมาก ส่งมาได้เลย
สิ้นเสียงเคาะแป้นพิมพ์ของชัยวัฒน์  หน้าจอก็ขึ้นหน้าต่างการรับข้อมูล  เป็นเพียงตัวเลขกับตัวอักษร  ชัยวัฒน์พิมพ์ข้อความลงไปที่แป้นพิมพ์ก่อนที่หน้าต่างรับข้อมูลจะปิดลงเนื่องด้วยการรับข้อมูลเรียบร้อย 
คนกลาง :: เออ ส่งไปแล้ว  งั้น ไว้เจอกันใหม่  [1]Binary[0] 
[1]Binary[0] :: เออ นี่ ..........ถามอะไรนายหน่อย
คนกลาง :: หือ? อะไรล่ะ 
[1]Binary[0] :: เปล่า........ไม่มีอะไร  ไว้เจอกันใหม่ 
ชัยวัฒน์เคาะแป้นพิมพ์ออกคำสั่งทำลายห้องสนทนาพร้อมบทสนทนาทั้งหมด  ก่อนจะออกจากจากโปรแกรมไปอยู่ที่หน้าจอ console รับคำสั่งพื้นฐานของ operating system ที่เขาทำขึ้นมาเอง  เขาใส่คำสั่งลงไปอีกสองสามครั้งก่อนที่จะเปิดหน้าจอไฟล์ .txt ที่คนกลางส่งมาให้  พร้อมทั้งเปิดเพลงที่แนบมาด้วย  เพลงเมทัลหนักหน่วงด้วยกีตาร์ เบส  กลอง  และเสียงร้องอันหฤโหดของนักร้องนำ  นี่มันวงอะไรกันวะ  เขากดแป้นพิมพ์ดูชื่อไฟล์  อืม CyberJudas  งั้นเหรอ  แปลกดี  เขานั่งฟังมันไปเรื่อยๆ ในขณะที่เปิดดูไฟล์ภารกิจที่ได้รับมา  พลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ  พร้อมกับหยิบที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่ในลิ้นชักออกมา ขี้บุหรี่กับก้นบุหรี่วางกองพะเนินไม่เคยเททิ้ง  สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร  เขาขยับแว่นพร้อมกับกดที่แป้นพิมพ์  ปากก็ดูดบุหรี่ไป  หึ  นิโคติน เขานึกในใจ  มันเป็นสารที่ไม่สามารถขาดได้เลย  มะเร็งห่าเหวอะไรเขาไม่สนใจหรอก เขารู้แต่ว่า  มันเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการเป็นอิสระในชีวิตของเขา
“กูไม่ยอมตายเพราะโดนไอ้กระทรวงปุ๊ยๆ นี่ซิวเข้าซังเตหรอก  มีแต่มะเร็งเท่านั้นที่ฆ่ากูได้ “ เขาสบถออกมาอย่างเลื่อนลอย  พร้อมกับอัดมะเร็งเข้าปอดอึกใหญ่  พร้อมทั้งพิจารณารายละเอียดของภารกิจที่ได้รับมาสองสามอัน มันน่าเบื่อไม่เคยเปลี่ยน  สำหรับมุมมองที่เขามีต่อสังคมในตอนนี้  มันช่างว่างเปล่าไร้คุณค่าสิ้นดี  ฝากชีวิตและอนาคตไว้กับตัวเลขเพียงสองตัว  ศูนย์.........หนึ่ง  ทั้งชีวิต  ตัวตน  จิตวิญญาณ  ฝากเข้ากับเลขสองตัวนี้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง  หลอกตัวเองไปวันๆ ว่าเจริญแล้ว  ดีแล้ว  ทั้งๆ ที่มันยังวนกันอยู่ในอ่างนั่นล่ะ  เขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน  เขาอ่านรายละเอียดภารกิจอย่างซังกะตาย  พร้อมกับทบทวนเรื่องราวต่างๆ ในห้วงสติและความคิด  จนมาสะดุดกับภารกิจหนึ่งที่แนบอยู่ในไฟล์ที่มีขนาดใหญ่กว่าไฟล์อื่นๆ 
“ server  Xtronet
  Ip :: 202.149.286.3  port  666
  เวลา  2150 
  หมายเหตุ  ::  ทางเราได้แนบไฟล์ไปกับข้อความนี้  เป็นไฟล์ปรับเวลา  กรุณาปรับเวลาของท่านก่อน  ติดต่อกับเรา  เวลาที่กำหนดไว้  หากมาเร็วหรือช้ากว่าที่กำหนด  จะถือว่าการติดต่อเป็นโมฆะ  “
“ แปลกดีว่ะ  กำหนดเวลาด้วยงั้นเหรอ “ เขาบ่นพึมพำในขณะที่บุหรี่ไหม้ไปได้ครึ่งมวน  เขากดแป้นพิมพ์ป้อนคำสั่งอีกครั้งหนึ่งเพื่อโหลดไฟล์ปรับเวลาลงเครื่องตัวเอง  เช็คความปลอดภัย  ตรวจหาไวรัสเป็นที่เรียบร้อย แล้วจึงจัดการ execute ไฟล์ลงเครื่อง  ใช้เวลาไม่นาน  ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย  มันมีการเปลี่ยนแปลงแน่ๆ แต่ช่างมัน แค่ปรับเวลานาฬิกาให้ตรง คงไม่ถึงกับตายหรอก  ตอนนี้เขามองดูที่นาฬิกาภายในเครื่อง บอกเวลา 21.40 น. เขาเหลือเวลาอีกสิบนาทีสำหรับการเข้าไปที่ server นั้น  แน่นอน การดูเวลาในเครื่องไม่เคยให้ความพึงพอใจกับเขาได้ ยิ่งมีการปรับแต่งเวลาเพื่อภารกิจด้วยแล้ว  มันช่างน่าเบื่อหน่าย  ราวกับโลกส่วนตัวของเขาถูกทำลายลงไป  ตอนนี้บุหรี่ไหม้เกือบถึงก้นแล้ว เขาขยี้บุหรี่ลงในที่เขี่ย  หยิบซองบุหรี่เพื่อเอาบุหรี่อีกตัวขึ้นมาจุดสูบ  ฟังเพลงที่คนกลางส่งมาให้  วนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเลื่อนลอย  อัดมะเร็งเข้าปอดอีกหนึ่งอึก  น้ำอัดลมพร่องไปได้ครึ่งกระป๋องแล้ว  ในตอนนี้เวลานาฬิกาเครื่องบอกเวลา 21.49 น  เหลือเวลาอีกหนึ่งนาที
“เอาล่ะ” เขาโพล่งทำลายความเงียบ ก่อนจะเริ่มลงมือพิมพ์คำสั่งลงแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว  เปิดโปรแกรม irc  ตั้งค่า proxy ใหม่จากนั้นจึงป้อน ip address ที่แนบไว้มากับไฟล์  เขาเคยผ่านงานยากๆ  มาเยอะ แต่ยังไม่เคยเจอใครที่เรื่องมากในการติดต่อเช่นนี้มาก่อน 
“ ศูนย์..........หนึ่ง............ศูนย์..............หนึ่ง............ศูนย์ “ เขาบ่นพึมพำออกมาอย่างไร้สติ  มันมักจะออกมาโดยสัญชาตญาณที่เขาเองก็ไม่อาจจะรู้ได้  ในตอนนี้ที่เขาคิดว่าน่าจะได้เวลาแล้ว  เขาพิมพ์คำสั่งรอท่าไว้  แล้วกดป้อนคำสั่งลงใน console  ตอนนี้เขาต้องรอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะเข้าไปได้หรือไม่  หรือจะพลาดไม่ทันเวลา  แต่ถึงกระนั้น  เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมันเท่าไหร่ อย่างมากก็รับงานจากคนอื่นทำเอาก็ได้  ในตอนนั้นเอง ที่หน้าจอของเขามืดลงไปขณะหนึ่ง  ก่อนจะขึ้นตัวกระพริบแล้วตามด้วยข้อความ
สวัสดี [1]Binary[0] 
เขานั่งจ้องมองหน้าจออยู่พักหนึ่ง  น่าสนุกดีนี่  server นี้  คงทำขึ้นเฉพาะกิจแน่ๆ  เขาลงมือเคาะแป้นพิมพ์อย่างไม่เร่งร้อนใจ
แสดงว่าผมมาพอดีเวลาสินะคุณ
ใช่  คุณมาทันเวลา  เรียกชั้นว่า  @เด็กของคุณครู@  ก็แล้วกัน
ตัวหนังสือค่อยๆ ขึ้นมา ชัยวัฒน์เคาะแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
เอาล่ะ คุณ @เด็กของคุณครู@  คุณนัดเจอผมโดยวิธีการยากๆ แบบนี้ผมไม่แคร์เท่าไหร่หรอกนะ ผมจะถามสั้นๆ ง่ายๆ ละกัน  เป้าหมาย  กับเงิน
ชัยวัฒน์เคาะข้อความจนขึ้นครบทั้งหมด เขานั่งรอคำตอบจากผู้ว่าจ้างอยู่พักหนึ่ง ยังไม่มีการตอบสนอง  เขาตั้งระบบ security เตรียมพร้อมไว้แล้ว มือที่ค้างอยู่ที่แป้นพิมพ์ที่พร้อมจะตัดการติดต่อได้ทุกเมื่อ  จนกระทั่งมีข้อความจากผู้ว่าจ้างขึ้นมา
10  ล้าน  เป็นยังไง  [1]Binary[0] 
อืม  สิบล้าน  ถ้าเทียบกับงานที่ผ่านๆ มา นับว่าจำนวนเงินนี้น่าจะคุยกันได้  ชัยวัฒน์นึกในใจ เขาเคาะแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
แสดงว่าคุณก็รู้กิตติศัพท์ผมพอตัวเลยนี่  ถึงได้เสนอราคาสูงๆ แบบนี้ 
ค่อนข้างน่ะ  ชั้นเองก็หวังในตัวคุณมาก  คุณค่อนข้างจะเก็บตัวเงียบนะ  ฝีมือคุณดี แต่คุณกลับไม่ทำงานกระโตกกระตาก ทำไมกัน
มันจะคุ้ยอะไรเรารึยังไงกัน  ไอ้บ้านี่เหลือเกินจริงๆ เขานึกก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปช้า ๆ ชัดๆ
เรื่องของผม  กรุณาอย่าถามให้ลึกไปกว่านี้  สิบล้านแสดงว่าเป้าหมายต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ ขอเป้าหมาย  พูดคุยกันในนี้ให้เสร็จ 
เขาพิมพ์เข้าประเด็นเพื่อไม่ให้การสนทนายืดเยื้อไปกว่านี้อีกแล้ว  เขาไม่ชอบการเรื่องเยอะมากความ  ผู้ว่าจ้างเงียบไปอีกสักพักหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมา
ไฟล์ข้อมูลจาก  internal  server ของ isp ใหญ่ 5 แห่ง  Netrotac,Dserve,Thainet,Gigaisp และ Zinacorp
ตัวอักษรโผล่ออกมาครบแล้ว  ไอ้นี่มันบ้าเอาเรื่อง  มิน่าถึงเสนอตั้งสิบล้าน  เล่นเจาะ isp ใหญ่ หมอนี่มันใครกัน ? บริษัทเล็กที่เสียประโยชน์จากการรวมทุนของบริษัทใหญ่งั้นเหรอ  หรือพวกนักข่าว? เอาเถอะ ไม่ใช่หน้าที่ของเค้าที่จะใส่ใจ แต่ถือว่าเป็นงานที่หินพอตัว  เขาเคาะแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
ตอนนี้บริษัททั้ง 5 รวมทุนกันแล้ว  server ของแต่ละที่ก็ต่อเชื่อมกัน  ความยากของมันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวผมรู้ดี  ผมขอ  20  ล้าน  โอนเข้าบัญชีผมก่อนครึ่งหนึ่ง แล้วจะเริ่มงาน  ถ้าไม่โอเคก็ไม่ต้องคุยกัน  ยกเลิกการสนทนาแล้วจะไปตายที่ไหนก็ไป
เขาพิมพ์เสนอราคาสูงขึ้น  แน่นอนไม่ใช่เรื่องง่าย คนเดียวคงไม่ได้ อาจจะต้องหาคนช่วย เขานึกในใจ  ในตอนนั้นเองที่ตัวอักษรจากผู้ว่าจ้างขึ้นมาบนหน้าจอ
................ ตกลง  20  ล้าน  ชื่อไฟล์ทั้ง 5  จากแต่ละ server  มีดังนี้
Port.1111
Port.2222
Port.3333
Port.4444
Port.5555
ตำแหน่งของมันไม่แน่นอน  คุณต้องจัดการหามันเอาเอง เมื่อหาครบแล้วชั้นจะติดต่อกลับมาอีกที ตอนนี้ชั้นขอคำตอบจากคุณ  รับงานรึเปล่า ?
หึ หางโผล่มาแล้วนะไอ้เวร  คนในหรอกเหรอ  มันจะรู้ได้ยังไงว่าเขาหาได้ครบเรียบร้อยแล้ว  แต่ช่างหัวมารดามัน น่าสนุกดีนี่  แค่ขโมยไฟล์  เงินดีด้วย  ชัยวัฒน์อยู่สักพักก่อนที่จะเคาะแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
เรื่องเงินจัดการโอนผ่านคนกลางภายใน 15 นาที ผมจะเข้าไปตรวจ  ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องคุยกัน  อ้อ  แล้วผมไม่สนว่าคุณจะติดต่อมาแบบไหน แต่อย่าเสือกคุ้ยมาตาม ip ล่ะ ผมเตือนไว้เพราะผมเปลี่ยนแบบสุ่มทุกวัน  เท่านี้ที่อยากจะขอ  ตกลง  ผมรับงานแล้ว
เขาตอบกลับไปแล้ว  ได้แต่รอการตอบสนองของผู้ว่าจ้างเท่านั้นล่ะ  แน่นอนว่ามันคงจะเป็นไปในทางที่เค้าคิดไว้แน่ๆ  จนกระทั่งตัวอักษรวิ่งผ่านหน้าจอขึ้นมา
ดีมาก  [1]Binary[0]  คุณไม่ต้องห่วง  เรามีวิธีการของเราในการติดต่อคุณ  อาจจะผ่านคนกลางเหมือนปกติ  เอาเถอะ  ตอนนี้เราโอนเข้าบัญชีให้คุณเรียบร้อยแล้ว  ขอบคุณที่ทำงานให้กับพวกเรา
คำตอบของผู้ว่าจ้างวิ่งผ่านหน้าจอของเขา  ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นหน้าจอสีดำ  แล้วตัดกลับมาที่หน้าจอ console ของเขา  เขากดแป้นพิมพ์ต่อสายไปยัง server  ของธนาคารที่เขาฝากเงินไว้  ตัวเลข 10000000 ขึ้นในบัญชีการโอนเงินสดๆ ร้อนๆ
“ไอ้บ้านี่มันกระเป๋าหนักจริงๆ  เอาล่ะ  อาจจะได้เริ่มกันคืนนี้เลย พรุ่งนี้วันหยุดด้วย” เขาบ่นพึมพำ  พลางกระดกน้ำอัดลมที่เปิดทิ้งไว้จนหายซ่า เหลือแต่รสชาติอันจืดชืดจนหมดกระป๋อง  เหวี่ยงมันลงไปที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง ยกขาพาดโต๊ะ  วางแป้นพิมพ์ไว้ที่หน้าตัก  มือเอื้อมไปกดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง จัดการกับโปรแกรมในเครื่องนั้นให้พร้อมสำหรับการใช้งาน  เขาหักข้อนิ้วเล็กน้อยในขณะที่กำลังรอให้หลายๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง  หึ  มันมีแค่ศูนย์กับหนึ่งเท่านั้น  ชัยวัฒน์นึก  อยู่หรือตาย  ปลาใหญ่กินปลาเล็ก  ในสังคมปกติเขาเป็นเพียงปลาเล็กที่พร้อมอยู่ใต้อาณัติ  แต่ ณ ที่นี้  เขาเป็นจ้าว  เขามีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายใคร  ที่ไหน  เมื่อไหร่  ก็ย่อมได้  ในยุคที่สังคมมันหมิ่นเหม่และฝากวิญญาณเส็งเคร็งไว้กับตัวเลขเพียงสองตัวเท่านั้น  นึกแบบนี้แล้วเขากลับรู้สึกโมโหตัวเองลึกๆ  อัดมะเร็งเข้าปอดไปอีกหนึ่งอึก  ตอนนี้มันไหม้ไปครึ่งมวนแล้ว  ชีวิตเขาคงมีแค่นี้จริงๆ หาสาระให้กับชีวิตไม่ได้  เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อโลกใบนี้  ไม่นึกด้วยซ้ำว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ เขานั่งจ้องมองตัวเลขดิจิตอลที่หน้าจอด้วยสายตาเลื่อนลอย  โลกไซเบอร์  โลกความเป็นจริง  จะต่างกันตรงไหน  ทุกๆ คนมีเพียงตัวตนที่เอาไว้ขับเคลื่อนระบบที่หมิ่นเหม่และใกล้พังทลายเข้าไปทุกขณะ  เขาเองก็เป็นตัวเลขตัวหนึ่งในกระบวนการนี้ อาจจะมีอำนาจมากกว่าตัวอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าจะยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า  นึกแล้วมันน่าสังเวชตัวเองซะจริงๆ  เขาถอดแว่นมาเช็ดกับขอบเสื้อของตัวเอง  ถอดไทด์เหวี่ยงไปที่เตียงนอน  ใส่แว่นกลับเข้าที่  หยิบซองบุหรี่ขึ้นมาพิจารณาดูข้อความเตือนข้างซอง
                “วัยรุ่นยุคใหม่  ไม่สูบบุหรี่”
“เหอะ วัยรุ่นพ่อมึงน่ะล่ะ  ยังเห็นสูบกันปุ๋ยๆ หน้าเซ็นเตอร์พอยท์กับห้องน้ำโรงเรียน  คนเขียนแม่งบ้าชิบหายเลย” เขากล่าวอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะหยิบเอากระดาษเทปใสที่เขียนได้ แล้วเขียนข้อความแปะติดทับลงไปที่ซองบุหรี่
            “ กูสาบานว่ากูจะตายด้วยมะเร็งก่อนที่กระทรวงตุ๊ดจะลากกูเข้าซังเต”
เสียงจิ้งหรีดหน้าร้อนร้องระงม  ตัดกับเสียงก่อสร้าง  เสียงรถยนต์ที่สัญจรขวักไขว่ไปมา  กรุงเทพมหานคร.........แม้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา  แต่สิ่งที่เรียกว่าวิญญาณแห่งกรุงเทพมหานครก็ยังคงอยู่ครบถ้วน  อาคารสูงเสียดฟ้าของบริษัททุนต่างชาติ  แต่ด้านใต้ตึกเหล่านั้น  มีร้านตึกแถว  ร้านโชว์ห่วย  ภัตรคารหรูมีระดับ แต่หน้าร้านมีรถเข็นข้าวเหนียวไก่ย่าง ที่เด็กเสิร์ฟในภัตรคารออกไปนั่งรับประทาน  ห้างสรรพสินค้าชั้นดี  สินค้าแบรนด์เนม  ส่วนด้านหน้าห้างเหล่านั้น  แผงเสื้อผ้ามือสอง  ของราคาถูก  ตกดึก  สาวเอสคอร์ทชั้นสูง  ยืนอยู่ใน    ล๊อบบีโรงแรมดัง รับแขกหนุ่มหล่อเงินหนา  ส่วนด้านหน้าโรงแรม  สาวขายตัวราคาถูกสองคนยืนสูบบุหรี่เป่าปากเรียกแขก  ภาพเหล่านี้ดูจะธรรมดาเหลือเกินสำหรับเขา........  เขาเป็นเพียงคนธรรมดาๆ คนหนึ่งในสังคมที่ขาวกับดำแยกกันชัดเจน  ในตอนนี้เขากำลังนั่งรถเมล์กลับอพาร์ตเมนต์ที่พัก  รถเมล์ยังคงแน่นอยู่ดังเช่นทุกๆ วัน เป็นภาพที่เขาเห็นจนชินตา  สำหรับพนักงานบริษัทกินเงินเดือนเช่นเขา  เขานั่งอยู่เก้าอี้ในสุด  มองออกไปนอกหน้าต่าง รถยนต์หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายประเภท  เขาหันกลับมาให้ความสนใจกับเครื่อง notebook บนหน้าตักของเขาอีกครั้งหนึ่ง  ในยุคที่การสื่อสารที่สะดวกแม้กระทั่งเด็กอนุบาลก็สามารถเชื่อต่อ internet ได้  การที่จะเชื่อมต่อ internet จากเครื่อง notebook บนหน้าตักของเขา ที่ไม่มีอะไรนอกจากอุปกรณ์ต่อพ่วงเล็กน้อยนั้น  ดูราวจะเป็นเรื่องธรรมดาเสียแล้วสำหรับเขา  เขาใช้นิ้วเคาะแป้นพิมพ์เปิดเวปไซท์ข่าวประจำวัน  เครื่อง notebook ใช้เวลาโหลดไม่นานนัก ก็ขึ้นหน้าเวปเพจสำนักข่าว  ที่มีหัวข้อข่าวที่เป็นที่สนใจในขณะนี้สำหรับคนคอมพิวเตอร์เช่นเขา
“  ISP ดังยักษ์ใหญ่  5 แห่งของเมืองไทย  ประกาศการร่วมทุน  เทคโนโลยีอินเตอร์เนทเมืองไทยก้าวกระโดด!!”
เนื้อหาของข่าวที่เป็นที่สนใจของยุคปัจจุบันที่ข่าวสารสื่อถึงกันได้อย่างง่ายดาย  ผลจากการร่วมทุนในมุมมองของนักวิชาการ  คาดการว่าการร่วมทุนจะก่อให้เกิดเทคโนโลยีที่สะดวก และรวดเร็ว เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น  และอื่นๆ  ตามที่เวปไซต์แห่งนี้ได้บอกกล่าว  รวมถึงการที่เขาเองก็เป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัทหนึ่งในห้าแห่งนี้  ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจกับเรื่องราวเหล่านี้มากมายนัก  ได้ยินเป็นล้านรอบแล้ว  เขาถอนหายใจ  ขำอย่างหยามเหยียดเล็กๆ ก่อนจะเปิดโปรแกรมผู้พัฒนาแล้วเริ่มเขียนโปรแกรมที่ได้รับมอบหมาย  ระหว่างที่เขาทำงานอยู่  สายตาก็สอดส่องไปตามผู้คนที่ยืนเบียดเสียดอยู่บนรถเมล์  จนสะดุดไปเจอหญิงสาวที่ไร้ทางสู้  ที่โดนไอ้โรคจิตหื่นกามเอาอวัยวะอันแสนต่ำของมันเบียดสะโพกน้อยๆ ของเธออย่างเมามัน มือลูบไล้ไปตามร่างกายของสาวน้อยอย่างถือวิสาสะ  เขาถอนหายใจ  แค่นเสียงเฮอะออกมา  เทคโนโลยีก้าวกระโดดงั้นเหรอ  แล้วมันแก้อะไรสังคมระยำๆ แบบนี้ได้บ้างล่ะ  เทคโนโลยีที่ช่วยให้แม้แต่เด็กอนุบาลต่ออินเตอร์เนทได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น แล้วมันช่วยให้สาวน้อยคนนั้นหลบเลี่ยงจากสถานการณ์บัดซบพรรค์นั้นได้อย่างนั้นหรือ  เขาบันทึกงานของตนเองลงเครื่อง ก่อนจะปิดเครื่องพับ notebook เก็บใส่กระเป๋าเป้  ทอดถอนใจกับสิ่งที่เห็น  เขานั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง  จิตใจล่องลอยในขณะที่รถเมล์กำลังติดสี่แยกไฟแดง  เขารู้ดี..........ขาวดำ  ดีชั่ว  หนึ่ง......ศูนย์  เขาชอบตัวเลขสองตัวนี้เหลือเกิน  มันตรงไปตรงมา  แฝงนัยยะที่เข้าใจได้ง่ายดายที่สุด  แม้แต่คอมพิวเตอร์เองที่ซับซ้อนทำงานได้เกือบจะแทนที่คนได้อย่างสมบูรณ์แบบ  ก็ยังเริ่มจากกลุ่มตัวเลขง่ายๆ สองตัวมาเรียงซ้อนกัน  ช่างเหมือนกับคนเราอยู่ทุกๆ วันนัก  มันก็ไม่ได้มีที่มาซับซ้อนหรือวิจิตพิสดารอะไรทั้งนั้น  คนเราสำคัญตนเองผิดไป  เพราะมนุษย์.............มันช่างจิ๊บจ๊อยนัก  เขาตื่นจากภวังค์เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำลายห้วงความคิดของเขา  เขากดรับโทรศัพท์โดยไม่ได้ดู  แทบจะไม่ต้องดูด้วยซ้ำ เพราะมันมีไม่กี่คน  เขารับโทรศัพท์ด้วยอาการเซ็งสุดๆ 
“สวัสดีครับ” เขากล่าวอย่างเนือยๆ 
“เอ้อ  ชัย  นี่พี่เองนะ” เสียงปลายทางกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง
“ครับพี่นนท์  พักตากอากาศเป็นยังไงบ้างครับ “ เขากล่าวกับคนที่ชื่อว่าพี่นนท์ด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม
“อื้อ  สวยมากๆ เลยล่ะ ภูเก็ตนี่  ยอดเยี่ยม หาดขาว ทะเลสีคราม อาหารอร่อย “ คนที่ชื่อนนท์กล่าว  แน่นอน  เขารู้สึกอยากจะวางสายจากไอ้บ้าระยำนี่เต็มทนแล้ว  ถ้ามันไม่ใช่หัวหน้าแผนกของเขา  เขาคงวางสายไปแล้ว
“ดีจังนะครับ” เขากล่าวเสียงเนือยๆ แต่แฝงด้วยการดูถูกลึกๆ  แต่นนท์ยังคงกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง
“แหม  เพราะมีนายน่ะแหล่ะ  ชัยวัฒน์ โปรแกรมเมอร์มือหนึ่งของแผนก  ชั้นกับน้องแจงถึงได้มาพักตากอากาศได้โดยที่ไม่ต้องกังวลกับอะไรเลย  อื้อ  ขอบใจมากๆ นะ” นนท์กล่าว  ถึงเวลานี้  ชัยวัฒน์รู้สึกอยากจะบีบคอไอ้บัดซบนี่เต็มทนแล้ว  แน่สิ  ไอ้เหียก  งานก็ไม่เคยทำ ลอยหน้าแล้วเอาความดีความชอบไป  ชัยวัฒน์นึก  เขาไม่ค่อยเห็นไอ้บ้านี่ทำงานอะไรเท่าไหร่เลย  งานการก็แทบจะอยู่ในรับผิดชอบของเขาเกือบหลายต่อหลายครั้ง  สรุปใครเป็นหัวหน้าแผนกใครเป็นลูกน้องเขายังไม่รู้เลย 
“ไม่ต้องกังวลใจหรอกครับ พี่นนท์  เรื่องที่นี่ปล่อยเป็นหน้าที่ของผมเถอะ” ชัยวัฒน์กล่าว แต่เขาก็รู้อยู่กับใจว่าไอ้บ้านี่ไม่ได้กังวลอะไรทั้งนั้น  แต่ก็พูดไปตามมารยาท 
“อืม  เรื่องงานเนี่ย ก็ทำเหมือนที่เคยทำไปนะ  ตอนนี้จะยุ่งๆ หน่อยเรื่องที่บริษัทของเราจะรวมทุนกับอีกสี่บริษัท คิดว่าคงจะยุ่งทีเดียว อาจจะต้องประสานงานกันกับบริษัทอื่น  จัดการแจ้งวันสัมมนาร่วมให้คนที่แผนกรู้ด้วยล่ะ แล้วก็ส่ง source code  มาที่ e-mail ของพี่ด้วยนะ  จะได้ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งน่ะ” นนท์ออกคำสั่งให้กับชัยวัฒน์  ดูเหมือนคำสั่งสุดท้ายนั้น  เขาจะรู้สึกเบื่อแบบสุดๆ  เพราะเมื่อไหร่ที่ส่งไป  มันก็ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของเขาอีกต่อไป  ถึงเขาสามารถที่จะทำตำหนิเพื่อให้รู้ได้ว่าเป็นของเขา  แต่น่าแปลกที่เขาไม่เคยคิดจะทำมัน  อาจจะเพราะมันน่าเบื่อก็ได้  การไต่เต้า การประจบประแจง การซุบซิบนินทา รักในที่ทำงาน กามโลกีย์ประจำวัน เฮอะ  ความน่าเบื่อของชีวิตสำนักงาน  สำหรับเขาแล้วนั้น  เรื่องราวเหล่านี้มันช่างเล็กน้อยในสายตาจริงๆ 
“ครับ  ทราบแล้วครับ  ผมจะดำเนินการให้เรียบร้อยเหมือนทุกๆ ครั้งครับพี่นนท์” ชัยวัฒน์กล่าวอย่างเนือยๆ
“ฮ่าๆ นี่ พี่เชื่อใจนายนะ นายน่ะมันแน่เสมอเลยชัย เอ้อ ขอตัวนะ น้องแจงเรียกแล้วละ ไว้เจอกันนะ แล้วจะซื้อของฝากไปให้” นนท์กล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะชิงวางสาย ทิ้งให้ชัยวัฒน์อยู่กับเสียงสัญญาณที่ขาดห้วง ก่อนจะดับหายไป เขาถือโทรศัพท์ไว้ที่มือ  มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเด็กสาววัยรุ่นกำลังคุยโทรศัพท์อย่างสนุกสนานผ่านโทรศัพท์ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของโทรศัพท์ยุคใหม่ ที่ส่ง sms , mms , picture message หรือกระทั่งสั่งข้าวเหนียวไก่ย่างจนเรียกสัปเหร่อมาเก็บศพ  เขากดปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ เก็บใส่กระเป๋า ตอนนี้รถเมล์เคลื่อนตัวมาถึงป้ายหน้าซอยทางเข้าอพาร์ทเมนต์ของเขาแล้ว เขาค่อยๆ แหวกว่ายกลุ่มร่างชีวะเดินได้ออกไปที่ประตูรถเมล์เพื่อที่จะลง ระหว่างลงเขาสังเกตุใบหน้าของแต่ละคน  มันช่างหดหู่ ไร้ชีวิต  มีคนเคยกล่าวว่า  ดูสภาพวิญญาณ ดูได้ที่สีหน้า และแววตา แต่เขาไม่นิยมอะไรที่บิดผันได้ขนาดนั้น เขาชอบอะไรที่ตรงไปตรงมามากกว่า  แววตาที่เขาเห็นของแต่ละคน  เหนื่อยหน่าย ท้อแท้  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอายังไงกับชีวิตอันแสนเฮงซวยในแต่ละวันที่ผ่านไป  เขาได้แต่มองอย่างทอดถอนใจ  ก่อนจะสะพายกระเป๋าเดินลงจากรถเมล์  เขาลงจากรถพร้อมคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังเบียดเสียดกันลงราวกับปลาที่ถูกนำขึ้นจากน้ำ  หายใจดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด  ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่เวลาจะหายใจแม้สักวินาที  สำหรับเขาเองแล้ว เวลา........ไม่เคยมีความหมายสำหรับเขาแม้แต่น้อย  ทุกอย่างมันดำรงเพียงสองอย่าง  อยู่........ดับ  ศูนย์......หนึ่ง  เขายืนมองดูรถเมล์เคลื่อนตัวออกไปจากป้าย  ที่พักรอรถเมล์มีป้ายโฆษณาของบริษัทที่เขาทำงานอยู่  ป้ายรูปผู้หญิงกับเด็กน้อยแม่ลูก  อยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์  ยิ้มแย้มให้กัน
“Netrotac  อินเตอร์เนทครอบครัว เพื่ออนาคตและการเรียนรู้ “
ป้ายโฆษณานี้ไฟชำรุด  ติดๆ ดับๆ แถมมีใบปลิวโฆษณางานเงินดี เดือนละแสนกว่าบาท ที่แจกกันตามสะพานลอยและป้ายรถเมล์  ชัยวัฒน์ส่ายหน้าระอาใจ  ไม่ว่ายุคไหน ๆมันก็เหมือนกันหมด  ขาว.....ดำ เขาละความสนใจจากป้าย  เดินตรงเข้ามาในซอย  ทุกเส้นทางยังคงเหมือนเดิมเช่นทุกวัน  กองขยะที่ใส่ไม่ลงถัง  หมาจรจัดนอนสงบอยูใต้เสาไฟ  กำแพงที่พ่นข้อความที่แสดงอาการอยากเป็นพ่อคนอย่างออกนอกหน้า  แถมรับลูกไม่จำกัดสถาบัน  เห็นกันจนชินชา 
“ไอ้เวร  พ่อทุกสถาบัน  พ่อบ้าอะไรเอามีดดาบไล่ฟันลูกตัวเองวะ” ชัยวัฒน์สบถน้ำเสียงเนือยๆ ก่อนจะถ่มเสมหะลงถัง แต่ดันไปติดที่เสาไฟแทน  เขาเดินต่อจนถึงอพาร์ทเมนต์โทรมๆ แห่งหนึ่ง  อพาร์ทเมนต์ของเขา  ตามระเบียงมีราวตากผ้า ไม้แขวนเสื้อ  และเสื้อผ้าแขวนอยู่เต็มไปหมด  ชัยวัฒน์เดินตรงไปที่บันไดเพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องของตัวเองเช่นทุกครั้ง  แต่แล้วก็ต้องสะดุดกับเสียงร้องทัก
“ อ้าว อาชัย  เป็นไงบ้างล่ะ  ฮึ ?” เสียงชายแก่เรียก  ชัยวัฒน์หันกลับไป
“ เถ้าแก่โกว  หวัดดีครับ  เป็นยังไงมั่ง” ชัยวัฒน์ถามไปตามมารยาท ยิ้มน้อยๆ พอเป็นพิธี 
“เฮ้อออ ก็เหมือนทุกๆ วันแหล่ะนะอาชัย  ตอนนี้ร้านอั๊วะก็ขายของได้แต่ให้พวกลื้อทั้งหลายที่นี่น่ะล่ะ  เห็นทีจะต้องขายผ่าน เอ อาไรนะอาชัย  อินตา อินตา อะไรนี่แหละ “
“อินเตอร์เนทสินะครับ” ชัยวัฒน์ตอบเสียงเนือยๆ 
“ อ้า ช่ายๆ  อินตาเนทนี่แหล่ะ  เนี่ย อั๊วอ่านหนังสือพิมพ์นะ  กระทรวงเทคโนโลยีเค้าจะสนับสนุนคอมพิวเตอร์ราคาถูกด้วยแหล่ะ แถมอินตาเนทฟรีๆ ใช้งานง่ายอีกด้วย เนี่ยดีจังน้า  คนแก่ๆ อย่างอั๊วะจะได้ใช้อินตาเนทเป็นซักที “ เถ้าแก่โกวกล่าวอย่างยินดี  แต่ชัยวัฒน์กลับทำหน้าเนือยๆ 
“ลองดูละกันนะครับเถ้าแก่  แต่ผมว่ามันอาจจะไม่ได้อะไรมากอย่างที่เถ้าแก่คิดไว้ก็ได้นะครับ อืม ผมขอตัวครับ” ชัยวัฒน์กล่าวออกตัว แล้วเดินขึ้นบันไดไป  บันไดแคบๆ น่าหดหู่  อพาร์ทเมนต์ราคาประหยัดนี่คงสร้างมานาพอสมควรแล้ว  เขานึกภาพไม่ออกว่าตอนมันใหม่ๆ มันเป็นยังไง สวยแค่ไหน  เขาเดินขึ้นมาจนถึงชั้นสามก่อนจะเดินไปตามระเบียง  ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงดังลอดออกมาจากห้องละแวกใกล้ๆ กัน
“อีนี่  มึง  เถียงกูเหรอ  ตบซักฉาดดีมั้ย นังร่าน!!!” เสียงชายหนุ่มตะคอกใส่หญิงสาวดังออกมาจากในห้อง
“ ไม่นะ  ชั้นไม่ได้ทำนะ อย่า อย่าตบชั้น!!” เสียงหญิงสาวร้องขอความเมตตา และเสียงที่ตามมา คือเสียงฝ่ามือฉาดใหญ่
“ อย่ามาตอแหล  มึงไปให้ท่าไอ้พวกรุ่นน้องไว้สินะ  ไอ้พวกเด็กปีหนึ่งน่ะ นังร่าน  กล้านอกใจกูเหรอ!!!” เสียงชายหนุ่มตะคอกสำทับ  ชัยวัฒน์ส่ายหน้าอย่างระอาใจ  พวกวัยรุ่นใจแตก อยู่กินกันก่อนแต่ง  บัดซบอดสูจริงๆ เขาเดินต่อไปโดยไม่สนใจเสียงนี้  จนมาถึงห้องหมายเลข 10  ห้องของเขา  เขาหยิบกุญแจห้องจากกระเป๋าออกมาไขเข้าห้องไป  สภาพในห้อง เละเทะรกรุงรัง สายระโยงระยางเต็มไปหมด เตียงนอนที่รกรุงรัง เสื้อกองไว้  กระป๋องน้ำอัดลมที่กินเหลือไว้ตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่เปิดเคสไว้ประมาณ 2-3 เคส  หน้าจออีก 2 อัน กับกล่องซีดี  ตู้เสื้อผ้า ประตูห้องน้ำ เละเทะรกรุงรังเขาเปิดไฟ เดินตรงไปที่ตู้เย็นเล็กที่อยู่ริมหน้าต่าง  เปิดเอาน้ำเย็นออกมาซดอึกใหญ่  ในขณะเดียวกับที่ sms ส่งมาถึงเขา
            “ เข้าห้อง irc  ห้องเดิม  ตั้ง  proxy ด้วยล่ะ
                                คนกลาง  “   
ชัยวัฒน์กดลบ sms นั้น แล้วเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ ใส่รหัส proxy แล้วต่อสัญญาณอินเตอร์เนทความเร็วสูงแล้วเข้าไปที่โปรแกรม irc  ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน  หน้าจอที่ไม่มีสีสันใดๆ เลยนอกจากสีขาวกับดำและตัวหนังสือ  เขาใส่ชื่อในส่วนของ username และ password ในทันที
            Username::    [1]Binary[0]
            Password ::    ****************               
รวดเร็วกว่าที่ใจคิด  หน้าจอโปรแกรม irc ก็ปรากฏขึ้นมาเป็นตารางซ้ายขวา  มีช่องการสนทนาอยู่ด้านซ้ายและช่องที่แสดงรายชื่ออยู่ทางด้านขวา  เขารออยู่ไม่นาน  ‘คนกลาง’ ก็ติดต่อเข้ามาคุยในทันที
คนกลาง :: เฮ้  มาเร็วกว่าที่คิดแฮะ
คนกลาง :: เข้าห้องแยกดีกว่า  จัดการได้เลย [1]Binary[0]  ;D
คนกลางส่งข้อความผ่านหน้าจอ  ชัยวัฒน์ลงมือกดแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วเป็นคำสั่งผสมตัวอักษร  ก่อนที่จะปรากฏหน้าจอว่างๆ พื้นสีดำขึ้นมา 
[1]Binary[0] :: เข้ามาได้แล้ว  เร็วๆ
คนกลาง :: เหอๆๆๆ  เป็นอะไรน่ะวันนี้ ดูท่าจะอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่เลยนะ
[1]Binary[0] :: ช่างชั้น
คนกลาง :: ยังเซ็งเรื่องอพาร์ทเมนต์เดิมอีกเหรอ 
[1]Binary[0] :: ถึงเซ็งแต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ  ข่าววงในจากบริษัทชั้น ก็ที่ๆ ชั้นอยู่มันจะต่อสาย router เชื่อมสัญญาณ internet  แบบใหม่  ตอนนี้วางสายไปแล้ว  ชั้นถึงได้ลอยหน้าอยู่ตรงนี้ได้ไงล่ะ
คนกลาง :: ฮ่ะๆๆๆ แบบนี้เค้าเรียกว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบนะเว้ย  เอาเถอะ  ช่างแม่งปะไร มีอย่างที่ไหนวะ  อินเตอร์เนทใช้งานสำหรับครอบครัว  เปิดเวปห่าเหวอะไรไม่ได้เลย 
[1]Binary[0] :: อินเตอร์เนทปลอดภัย  ทำเป็นนิสัยตุ๊ดๆ แบบนี้ไปได้  เนทน่ะ แค่เปิดเวปโป๊ไม่ได้ก็ไม่เรียกว่าอินเตอร์เนทแล้ว
คนกลาง :: เออ  ช่ายยยย  หมั่นไส้แม่งมาก เลยจัดการส่ง Data Spam ไปที่ admin แม่งแล้ว เห็นว่าทำอะไรไม่ถูกเลยว่ะ 55555+ :D
[1]Binary[0] :: เออ เจริญนะมึง เสือกส่งมาช่วงที่จะรวมบริษัท ตอนนั้นนั่งแก้กันมึนเลย  แต่ช่างเถอะ...........สังคมเรามันกำลังไปสู่ความน่าเบื่อขึ้นทุกทีแล้ว  คิดว่าจะเป็นยังไงต่อไปล่ะ
คนกลาง :: อันนี้ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ................ มันอาจจะดีก็ได้มั้ง  ก็ข่าวที่ isp จะรวมทุนกันน่ะ อินเตอร์เนทความเร็วสูง  ก้าวกระโดด บลาๆๆๆ  ว่าไปเรื่อย
[1]Binary[0] :: นี่ถามจริงๆ ซีเรียส .............
คนกลาง :: โอเคๆ  ตามความเห็นชั้นเหรอ ............... ไม่อยากไปคิดว่ะ  เอาเป็นว่า  นายซีเรียสเรื่องนี้  แต่ชั้นกลับมองว่าเฉยๆว่ะ  อะไรๆ ในโลกมันหาความแน่นอนไม่ได้อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว  แล้วมันทำไมล่ะ  พรุ่งนี้มะรืนนี้  เราอาจจะโดนดีเข้าซักวัน  แล้วมันต่างอะไรกันนักหนา  พวกเราน่ะ  มาตัวเปล่าก็ต้องไปแบบตัวเปล่านั่นล่ะ
[1]Binary[0]  :: พอๆๆ ปรัชญาน่ะไว้ก่อน อะไรที่มันพลิกแพลงได้น่ะขอทีเถอะ ชั้นนับถือแค่สองอย่างเท่านั้นล่ะ
คนกลาง :: หนึ่งกับศูนย์สินะ
[1]Binary[0]  :: ก็รู้ดีนี่
คนกลาง :: ยังมีหน้ามาบอกคนอื่นว่าปรัชญาอีกเหรอ นายน่ะไม่รู้ตัวรึไงว่าตัวเองน่ะ  บ้าปรัชญาขนาดไหน  หนึ่งกับศูนย์  อยู่กับตาย  ดีกับชั่ว  ขาวกับดำ  เหอๆๆๆ พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก  นี่  ทำไมต้องมองอะไรที่มันน่าปวดหัวแบบนี้ด้วยฟะ มองแค่สองอย่างแบบนี้น่ะ มีความสุขเหรอ  จะ bias อะไรกันนักหนาวะ
[1]Binary[0]  ::  bias น่ะชั่งแม่ง  แต่ถ้าเซท bios น่ะเด็กๆ 
คนกลาง :: อย่าเสือกกวนตีน อินี่
[1]Binary[0] :: หึๆๆ เอาเถอะ  ว่าแต่  ช่วงนี้มีงานเข้ามาบ้างรึเปล่า
คนกลาง :: เออ ก็กะแล้วว่านายคงทนได้ไม่นานนักหรอก  ที่เรียกให้เข้ามาเพราะมีงานนี่ล่ะ แต่มันไม่ยากเท่าไหร่นะ  อย่างว่า ช่วงนี้ไอ้พวก ขโมยข้อมูลเป็นกิกกะไบท์  หรือทำลายหลักฐานราขการมันยากขึ้นๆ จนไม่มีนายจ้างที่ไหนจะยอมเสี่ยงนี่หว่า  มีแต่แบบ  ขโมยข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ หรือไม่ก็ดูรายงานการเงินแค่นั้น  เอามั้ยล่ะ  มีมาให้สองสามอัน
[1]Binary[0] :: ส่งเป็น .txt มาให้เลย encrypt มาก่อนด้วย  เออ แล้วส่งเพลงมาให้ซักเพลงสิ สำหรับคืนนี้น่ะ
คนกลาง :: เฮ้ย วันนี้มาแปลกว่ะ ปกตินายไม่ขอเพลงจากชั้นไม่ใช่เหรอ
[1]Binary[0] :: ชั่งแม่งเหอะ ส่งๆ มา อะไรก็ได้
คนกลาง :: จ้าๆๆ แนบไปพร้อมไฟล์ภารกิจนะ  ที่เหลือจัดการกันได้นะ  ติดต่อกันเองล่ะ  เออ ย้ำอีกครั้ง  ไม่รับประกันความเสี่ยงไม่ว่ากรณีใดๆ เกิดปัญหา รับผิดชอบกันเอง โอเคมั้ย
[1]Binary[0] :: เออ ว่าไปตามนั้น  ขอบใจมาก ส่งมาได้เลย
สิ้นเสียงเคาะแป้นพิมพ์ของชัยวัฒน์  หน้าจอก็ขึ้นหน้าต่างการรับข้อมูล  เป็นเพียงตัวเลขกับตัวอักษร  ชัยวัฒน์พิมพ์ข้อความลงไปที่แป้นพิมพ์ก่อนที่หน้าต่างรับข้อมูลจะปิดลงเนื่องด้วยการรับข้อมูลเรียบร้อย 
คนกลาง :: เออ ส่งไปแล้ว  งั้น ไว้เจอกันใหม่  [1]Binary[0] 
[1]Binary[0] :: เออ นี่ ..........ถามอะไรนายหน่อย
คนกลาง :: หือ? อะไรล่ะ 
[1]Binary[0] :: เปล่า........ไม่มีอะไร  ไว้เจอกันใหม่ 
ชัยวัฒน์เคาะแป้นพิมพ์ออกคำสั่งทำลายห้องสนทนาพร้อมบทสนทนาทั้งหมด  ก่อนจะออกจากจากโปรแกรมไปอยู่ที่หน้าจอ console รับคำสั่งพื้นฐานของ operating system ที่เขาทำขึ้นมาเอง  เขาใส่คำสั่งลงไปอีกสองสามครั้งก่อนที่จะเปิดหน้าจอไฟล์ .txt ที่คนกลางส่งมาให้  พร้อมทั้งเปิดเพลงที่แนบมาด้วย  เพลงเมทัลหนักหน่วงด้วยกีตาร์ เบส  กลอง  และเสียงร้องอันหฤโหดของนักร้องนำ  นี่มันวงอะไรกันวะ  เขากดแป้นพิมพ์ดูชื่อไฟล์  อืม CyberJudas  งั้นเหรอ  แปลกดี  เขานั่งฟังมันไปเรื่อยๆ ในขณะที่เปิดดูไฟล์ภารกิจที่ได้รับมา  พลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ  พร้อมกับหยิบที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่ในลิ้นชักออกมา ขี้บุหรี่กับก้นบุหรี่วางกองพะเนินไม่เคยเททิ้ง  สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร  เขาขยับแว่นพร้อมกับกดที่แป้นพิมพ์  ปากก็ดูดบุหรี่ไป  หึ  นิโคติน เขานึกในใจ  มันเป็นสารที่ไม่สามารถขาดได้เลย  มะเร็งห่าเหวอะไรเขาไม่สนใจหรอก เขารู้แต่ว่า  มันเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการเป็นอิสระในชีวิตของเขา
“กูไม่ยอมตายเพราะโดนไอ้กระทรวงปุ๊ยๆ นี่ซิวเข้าซังเตหรอก  มีแต่มะเร็งเท่านั้นที่ฆ่ากูได้ “ เขาสบถออกมาอย่างเลื่อนลอย  พร้อมกับอัดมะเร็งเข้าปอดอึกใหญ่  พร้อมทั้งพิจารณารายละเอียดของภารกิจที่ได้รับมาสองสามอัน มันน่าเบื่อไม่เคยเปลี่ยน  สำหรับมุมมองที่เขามีต่อสังคมในตอนนี้  มันช่างว่างเปล่าไร้คุณค่าสิ้นดี  ฝากชีวิตและอนาคตไว้กับตัวเลขเพียงสองตัว  ศูนย์.........หนึ่ง  ทั้งชีวิต  ตัวตน  จิตวิญญาณ  ฝากเข้ากับเลขสองตัวนี้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง  หลอกตัวเองไปวันๆ ว่าเจริญแล้ว  ดีแล้ว  ทั้งๆ ที่มันยังวนกันอยู่ในอ่างนั่นล่ะ  เขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน  เขาอ่านรายละเอียดภารกิจอย่างซังกะตาย  พร้อมกับทบทวนเรื่องราวต่างๆ ในห้วงสติและความคิด  จนมาสะดุดกับภารกิจหนึ่งที่แนบอยู่ในไฟล์ที่มีขนาดใหญ่กว่าไฟล์อื่นๆ 
“ server  Xtronet
  Ip :: 202.149.286.3  port  666
  เวลา  2150 
  หมายเหตุ  ::  ทางเราได้แนบไฟล์ไปกับข้อความนี้  เป็นไฟล์ปรับเวลา  กรุณาปรับเวลาของท่านก่อน  ติดต่อกับเรา  เวลาที่กำหนดไว้  หากมาเร็วหรือช้ากว่าที่กำหนด  จะถือว่าการติดต่อเป็นโมฆะ  “
“ แปลกดีว่ะ  กำหนดเวลาด้วยงั้นเหรอ “ เขาบ่นพึมพำในขณะที่บุหรี่ไหม้ไปได้ครึ่งมวน  เขากดแป้นพิมพ์ป้อนคำสั่งอีกครั้งหนึ่งเพื่อโหลดไฟล์ปรับเวลาลงเครื่องตัวเอง  เช็คความปลอดภัย  ตรวจหาไวรัสเป็นที่เรียบร้อย แล้วจึงจัดการ execute ไฟล์ลงเครื่อง  ใช้เวลาไม่นาน  ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย  มันมีการเปลี่ยนแปลงแน่ๆ แต่ช่างมัน แค่ปรับเวลานาฬิกาให้ตรง คงไม่ถึงกับตายหรอก  ตอนนี้เขามองดูที่นาฬิกาภายในเครื่อง บอกเวลา 21.40 น. เขาเหลือเวลาอีกสิบนาทีสำหรับการเข้าไปที่ server นั้น  แน่นอน การดูเวลาในเครื่องไม่เคยให้ความพึงพอใจกับเขาได้ ยิ่งมีการปรับแต่งเวลาเพื่อภารกิจด้วยแล้ว  มันช่างน่าเบื่อหน่าย  ราวกับโลกส่วนตัวของเขาถูกทำลายลงไป  ตอนนี้บุหรี่ไหม้เกือบถึงก้นแล้ว เขาขยี้บุหรี่ลงในที่เขี่ย  หยิบซองบุหรี่เพื่อเอาบุหรี่อีกตัวขึ้นมาจุดสูบ  ฟังเพลงที่คนกลางส่งมาให้  วนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเลื่อนลอย  อัดมะเร็งเข้าปอดอีกหนึ่งอึก  น้ำอัดลมพร่องไปได้ครึ่งกระป๋องแล้ว  ในตอนนี้เวลานาฬิกาเครื่องบอกเวลา 21.49 น  เหลือเวลาอีกหนึ่งนาที
“เอาล่ะ” เขาโพล่งทำลายความเงียบ ก่อนจะเริ่มลงมือพิมพ์คำสั่งลงแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว  เปิดโปรแกรม irc  ตั้งค่า proxy ใหม่จากนั้นจึงป้อน ip address ที่แนบไว้มากับไฟล์  เขาเคยผ่านงานยากๆ  มาเยอะ แต่ยังไม่เคยเจอใครที่เรื่องมากในการติดต่อเช่นนี้มาก่อน 
“ ศูนย์..........หนึ่ง............ศูนย์..............หนึ่ง............ศูนย์ “ เขาบ่นพึมพำออกมาอย่างไร้สติ  มันมักจะออกมาโดยสัญชาตญาณที่เขาเองก็ไม่อาจจะรู้ได้  ในตอนนี้ที่เขาคิดว่าน่าจะได้เวลาแล้ว  เขาพิมพ์คำสั่งรอท่าไว้  แล้วกดป้อนคำสั่งลงใน console  ตอนนี้เขาต้องรอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะเข้าไปได้หรือไม่  หรือจะพลาดไม่ทันเวลา  แต่ถึงกระนั้น  เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมันเท่าไหร่ อย่างมากก็รับงานจากคนอื่นทำเอาก็ได้  ในตอนนั้นเอง ที่หน้าจอของเขามืดลงไปขณะหนึ่ง  ก่อนจะขึ้นตัวกระพริบแล้วตามด้วยข้อความ
สวัสดี [1]Binary[0] 
เขานั่งจ้องมองหน้าจออยู่พักหนึ่ง  น่าสนุกดีนี่  server นี้  คงทำขึ้นเฉพาะกิจแน่ๆ  เขาลงมือเคาะแป้นพิมพ์อย่างไม่เร่งร้อนใจ
แสดงว่าผมมาพอดีเวลาสินะคุณ
ใช่  คุณมาทันเวลา  เรียกชั้นว่า  @เด็กของคุณครู@  ก็แล้วกัน
ตัวหนังสือค่อยๆ ขึ้นมา ชัยวัฒน์เคาะแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
เอาล่ะ คุณ @เด็กของคุณครู@  คุณนัดเจอผมโดยวิธีการยากๆ แบบนี้ผมไม่แคร์เท่าไหร่หรอกนะ ผมจะถามสั้นๆ ง่ายๆ ละกัน  เป้าหมาย  กับเงิน
ชัยวัฒน์เคาะข้อความจนขึ้นครบทั้งหมด เขานั่งรอคำตอบจากผู้ว่าจ้างอยู่พักหนึ่ง ยังไม่มีการตอบสนอง  เขาตั้งระบบ security เตรียมพร้อมไว้แล้ว มือที่ค้างอยู่ที่แป้นพิมพ์ที่พร้อมจะตัดการติดต่อได้ทุกเมื่อ  จนกระทั่งมีข้อความจากผู้ว่าจ้างขึ้นมา
10  ล้าน  เป็นยังไง  [1]Binary[0] 
อืม  สิบล้าน  ถ้าเทียบกับงานที่ผ่านๆ มา นับว่าจำนวนเงินนี้น่าจะคุยกันได้  ชัยวัฒน์นึกในใจ เขาเคาะแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
แสดงว่าคุณก็รู้กิตติศัพท์ผมพอตัวเลยนี่  ถึงได้เสนอราคาสูงๆ แบบนี้ 
ค่อนข้างน่ะ  ชั้นเองก็หวังในตัวคุณมาก  คุณค่อนข้างจะเก็บตัวเงียบนะ  ฝีมือคุณดี แต่คุณกลับไม่ทำงานกระโตกกระตาก ทำไมกัน
มันจะคุ้ยอะไรเรารึยังไงกัน  ไอ้บ้านี่เหลือเกินจริงๆ เขานึกก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปช้า ๆ ชัดๆ
เรื่องของผม  กรุณาอย่าถามให้ลึกไปกว่านี้  สิบล้านแสดงว่าเป้าหมายต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ ขอเป้าหมาย  พูดคุยกันในนี้ให้เสร็จ 
เขาพิมพ์เข้าประเด็นเพื่อไม่ให้การสนทนายืดเยื้อไปกว่านี้อีกแล้ว  เขาไม่ชอบการเรื่องเยอะมากความ  ผู้ว่าจ้างเงียบไปอีกสักพักหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมา
ไฟล์ข้อมูลจาก  internal  server ของ isp ใหญ่ 5 แห่ง  Netrotac,Dserve,Thainet,Gigaisp และ Zinacorp
ตัวอักษรโผล่ออกมาครบแล้ว  ไอ้นี่มันบ้าเอาเรื่อง  มิน่าถึงเสนอตั้งสิบล้าน  เล่นเจาะ isp ใหญ่ หมอนี่มันใครกัน ? บริษัทเล็กที่เสียประโยชน์จากการรวมทุนของบริษัทใหญ่งั้นเหรอ  หรือพวกนักข่าว? เอาเถอะ ไม่ใช่หน้าที่ของเค้าที่จะใส่ใจ แต่ถือว่าเป็นงานที่หินพอตัว  เขาเคาะแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
ตอนนี้บริษัททั้ง 5 รวมทุนกันแล้ว  server ของแต่ละที่ก็ต่อเชื่อมกัน  ความยากของมันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวผมรู้ดี  ผมขอ  20  ล้าน  โอนเข้าบัญชีผมก่อนครึ่งหนึ่ง แล้วจะเริ่มงาน  ถ้าไม่โอเคก็ไม่ต้องคุยกัน  ยกเลิกการสนทนาแล้วจะไปตายที่ไหนก็ไป
เขาพิมพ์เสนอราคาสูงขึ้น  แน่นอนไม่ใช่เรื่องง่าย คนเดียวคงไม่ได้ อาจจะต้องหาคนช่วย เขานึกในใจ  ในตอนนั้นเองที่ตัวอักษรจากผู้ว่าจ้างขึ้นมาบนหน้าจอ
................ ตกลง  20  ล้าน  ชื่อไฟล์ทั้ง 5  จากแต่ละ server  มีดังนี้
Port.1111
Port.2222
Port.3333
Port.4444
Port.5555
ตำแหน่งของมันไม่แน่นอน  คุณต้องจัดการหามันเอาเอง เมื่อหาครบแล้วชั้นจะติดต่อกลับมาอีกที ตอนนี้ชั้นขอคำตอบจากคุณ  รับงานรึเปล่า ?
หึ หางโผล่มาแล้วนะไอ้เวร  คนในหรอกเหรอ  มันจะรู้ได้ยังไงว่าเขาหาได้ครบเรียบร้อยแล้ว  แต่ช่างหัวมารดามัน น่าสนุกดีนี่  แค่ขโมยไฟล์  เงินดีด้วย  ชัยวัฒน์อยู่สักพักก่อนที่จะเคาะแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
เรื่องเงินจัดการโอนผ่านคนกลางภายใน 15 นาที ผมจะเข้าไปตรวจ  ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องคุยกัน  อ้อ  แล้วผมไม่สนว่าคุณจะติดต่อมาแบบไหน แต่อย่าเสือกคุ้ยมาตาม ip ล่ะ ผมเตือนไว้เพราะผมเปลี่ยนแบบสุ่มทุกวัน  เท่านี้ที่อยากจะขอ  ตกลง  ผมรับงานแล้ว
เขาตอบกลับไปแล้ว  ได้แต่รอการตอบสนองของผู้ว่าจ้างเท่านั้นล่ะ  แน่นอนว่ามันคงจะเป็นไปในทางที่เค้าคิดไว้แน่ๆ  จนกระทั่งตัวอักษรวิ่งผ่านหน้าจอขึ้นมา
ดีมาก  [1]Binary[0]  คุณไม่ต้องห่วง  เรามีวิธีการของเราในการติดต่อคุณ  อาจจะผ่านคนกลางเหมือนปกติ  เอาเถอะ  ตอนนี้เราโอนเข้าบัญชีให้คุณเรียบร้อยแล้ว  ขอบคุณที่ทำงานให้กับพวกเรา
คำตอบของผู้ว่าจ้างวิ่งผ่านหน้าจอของเขา  ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นหน้าจอสีดำ  แล้วตัดกลับมาที่หน้าจอ console ของเขา  เขากดแป้นพิมพ์ต่อสายไปยัง server  ของธนาคารที่เขาฝากเงินไว้  ตัวเลข 10000000 ขึ้นในบัญชีการโอนเงินสดๆ ร้อนๆ
“ไอ้บ้านี่มันกระเป๋าหนักจริงๆ  เอาล่ะ  อาจจะได้เริ่มกันคืนนี้เลย พรุ่งนี้วันหยุดด้วย” เขาบ่นพึมพำ  พลางกระดกน้ำอัดลมที่เปิดทิ้งไว้จนหายซ่า เหลือแต่รสชาติอันจืดชืดจนหมดกระป๋อง  เหวี่ยงมันลงไปที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง ยกขาพาดโต๊ะ  วางแป้นพิมพ์ไว้ที่หน้าตัก  มือเอื้อมไปกดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง จัดการกับโปรแกรมในเครื่องนั้นให้พร้อมสำหรับการใช้งาน  เขาหักข้อนิ้วเล็กน้อยในขณะที่กำลังรอให้หลายๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง  หึ  มันมีแค่ศูนย์กับหนึ่งเท่านั้น  ชัยวัฒน์นึก  อยู่หรือตาย  ปลาใหญ่กินปลาเล็ก  ในสังคมปกติเขาเป็นเพียงปลาเล็กที่พร้อมอยู่ใต้อาณัติ  แต่ ณ ที่นี้  เขาเป็นจ้าว  เขามีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายใคร  ที่ไหน  เมื่อไหร่  ก็ย่อมได้  ในยุคที่สังคมมันหมิ่นเหม่และฝากวิญญาณเส็งเคร็งไว้กับตัวเลขเพียงสองตัวเท่านั้น  นึกแบบนี้แล้วเขากลับรู้สึกโมโหตัวเองลึกๆ  อัดมะเร็งเข้าปอดไปอีกหนึ่งอึก  ตอนนี้มันไหม้ไปครึ่งมวนแล้ว  ชีวิตเขาคงมีแค่นี้จริงๆ หาสาระให้กับชีวิตไม่ได้  เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อโลกใบนี้  ไม่นึกด้วยซ้ำว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ เขานั่งจ้องมองตัวเลขดิจิตอลที่หน้าจอด้วยสายตาเลื่อนลอย  โลกไซเบอร์  โลกความเป็นจริง  จะต่างกันตรงไหน  ทุกๆ คนมีเพียงตัวตนที่เอาไว้ขับเคลื่อนระบบที่หมิ่นเหม่และใกล้พังทลายเข้าไปทุกขณะ  เขาเองก็เป็นตัวเลขตัวหนึ่งในกระบวนการนี้ อาจจะมีอำนาจมากกว่าตัวอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าจะยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า  นึกแล้วมันน่าสังเวชตัวเองซะจริงๆ  เขาถอดแว่นมาเช็ดกับขอบเสื้อของตัวเอง  ถอดไทด์เหวี่ยงไปที่เตียงนอน  ใส่แว่นกลับเข้าที่  หยิบซองบุหรี่ขึ้นมาพิจารณาดูข้อความเตือนข้างซอง
                “วัยรุ่นยุคใหม่  ไม่สูบบุหรี่”
“เหอะ วัยรุ่นพ่อมึงน่ะล่ะ  ยังเห็นสูบกันปุ๋ยๆ หน้าเซ็นเตอร์พอยท์กับห้องน้ำโรงเรียน  คนเขียนแม่งบ้าชิบหายเลย” เขากล่าวอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะหยิบเอากระดาษเทปใสที่เขียนได้ แล้วเขียนข้อความแปะติดทับลงไปที่ซองบุหรี่
            “ กูสาบานว่ากูจะตายด้วยมะเร็งก่อนที่กระทรวงตุ๊ดจะลากกูเข้าซังเต”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น