อิทธินาคินทร์ 3 นาคาอหังการ - นิยาย อิทธินาคินทร์ 3 นาคาอหังการ : Dek-D.com - Writer
×

    อิทธินาคินทร์ 3 นาคาอหังการ

    เมื่อเหล่านาคาทั้งสี่วงศ์สาย รวมกำลังกันเป็นหนึ่ง ภายใต้การนำของเจ้าแห่งวิรุณนาคาผู้เหี้ยมหาญ ได้ก่อมหาสงครามแห่งสหัสวรรษใหม่ขึ้น ที่รุนแรงและเลวร้าย ไม่น้อยไปกว่า ศึกตรีสหัสวรรษ ที่ผ่านมา

    ผู้เข้าชมรวม

    528

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    48

    ผู้เข้าชมรวม


    528

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    16
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  62 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  17 พ.ค. 67 / 01:44 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     หนังสือเรื่อง นาคาอหังการ เล่มนี้ ถือเป็น เล่มที่ 3 ในวรรณกรรมชุด อิทธินาคินทร์ โดยเนื้อหาในภาคนี้ จะเป็นช่วงของเหตุการณ์ ที่ศาสตราเวทย์อันเร้นลับทั้งสอง คือ กริชรัชตะ และ มณีกิระติยา ได้ปรากฏขึ้น ท่ามกลางมหาสงครามแห่งสหัสวรรษใหม่ ที่รุนแรงและเลวร้าย ไม่น้อยไปกว่า ศึกตรีสหัสวรรษ ที่ผ่านมา เรื่องราวทั้งหมด ยังคงเกี่ยวพันอยู่กับเหล่านาคาทั้งสี่วงศ์สาย เพียงแต่ครั้งนี้ พวกเขาได้รวมกำลังกันเป็นหนึ่ง ภายใต้การนำของเจ้าแห่งวิรุณนาคาผู้เหี้ยมหาญ และด้วยกลอุบายอันลึกล้ำ จึงทำให้เขาสามารถบรรเจิด มหาอิทธานุภาพแห่งนาคาอันสูงส่งได้

    เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ เริ่มต้นขึ้นภายหลังวิกฤตการณ์ เมื่อเหล่าภูติสามารถรวบรวมกำลังขึ้นเป็นปึกแผ่น ภายใต้การนำของศิรนารา ความอดกลั้นต่อการดำรงอยู่ ภายใต้อำนาจของเหล่าเทพจึงสูญสิ้น บรรดาพลรบภูติอันเกรียงไกร จึงได้กรีฑาทัพเข้ารุกราน ทั้งแดนเทพและมนุษย์ ก่อเกิดเป็น มหาสงครามตรีสหัสวรรษ ที่ระบือลือลั่นไปทั่วทั้ง อันตรวียาโลกธาตุ สร้างเป็นความพินาศยับเยินอันไม่จบสิ้น มาตลอดกลียุคที่มืดมน จนไม่มีผู้ใดหยั่งรู้ได้ว่า เมื่อใดสงครามและความขัดแย้งนี้จะยุติลง

    ในช่วงสองสหัสวรรษแรก เหล่าเทพล้วนต้องประสบกับ ความปราชัยอย่างต่อเนื่อง ไม่มีกองทัพใดสามารถต้านทาน อำนาจฤทธิ์ของจอมภูติศิรนาราได้ ทวยเทพทั้งหลายจึงจำต้องเคลื่อนถอยร่น และปล่อยให้มนุษย์ต้องรับศึกเพียงลำพัง อย่างไร้สิ้นความหวัง แต่มนุษย์ก็ไม่ยอมศิโรราบให้กับอำนาจของจอมภูติ แม้จะถูกรุกตีถอยร่นไปตลอดเวลา จนมาถึงช่วงท้ายของพันปีที่สอง เหล่ามนุษย์ได้ล่าถอยมาตั้งมั่น อยู่ที่ชายขอบพนาต์ศักดิสิทธิ์แห่งอมรบดี พวกเขาได้อาศัยอิทธาธิษฐาน ที่จอมอธิราชเทพผู้หลับไหล ได้กำหนดไว้ก่อนเข้าสู่ญาณสถิตอันลึกล้ำ เมื่อเบญจสหัสวรรษที่ผ่านมา

    ทว่าศิรนาราผู้สูงล้นด้วย มหาอำนาจและอหังการ กลับไม่หวาดหวั่นต่อ อิทธาธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์นั้น แต่กลับท้าทายจอมอธิราชผู้หลับไหลอย่างไม่กลัวเกรง และท่ามกลางเสียงวิงวอนร้องขออย่างสิ้นหวัง ของมวลมนุษย์ที่ไร้ทางไป จอมอธิราชผู้เป็นราชันแห่งเทพ จึงไม่อาจทนวางเฉยต่อได้ และเพียงการถอนจากภวังค์แห่งญาณสถิตของเขา ก็ได้ทำลายกองทัพหน้า ของศิรนาราจนสูญสิ้น สร้างความโกลาหนระส่ำระสาย ให้เกิดขึ้นทั่วทั้งกองทัพภูติอย่างรวดเร็ว ทั้งเทพและมนุษย์จึงได้หวนกลับคืน มารวมตัวกันอีกครั้ง ภายใต้การนำของอิสรินทร์ จอมอธิราชันผู้หวนคืน

    การยุทธในสหัสวรรษสุดท้าย ที่ผ่านมาจึงค่อยพลิกผัน กองทัพเทพ และมนุษย์สามารถขับไล่เหล่าภูติ ให้ถอยร่นกลับคืนสู่ดินแดนของตนในมหาทวีปภูตปรกาฬ จากนั้นมาแม้สงครามจะยังไม่สิ้นสุด แต่สันติสุขก็พอจะแสวงหาได้ มวลมนุษย์จึงเริ่มหวนคืนกลับสู่ สิตรคันธรมหาทวีปแห่งตน เหตุการณ์ทั้งหมด คล้ายจะสงบมากว่าพันปี กระทั่งสิ่งที่ไม่คาดคิดได้อุบัติบังเกิดขึ้น เมื่อมรณะภัยได้กร้ำกรายสู่มินนรี ชายาสาวเพียงหนึ่งเดียว แห่งเจ้าวิรุณนาคาอย่างฉับพลัน เพื่อช่วยเหลือเหล่ามนุษย์ ตามคติอารยะของเหล่าปฐพีนาค ที่เปี่ยมล้นในสายเลือดและจิตวิญญาณ จึงทำให้มินนรีถูกลวงเข้าสู่ แดนสังหารของเหล่าภูติอย่างง่ายดาย กระทั่งถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม

    ความสิ้นสูญของนาคาสาวผู้เป็นที่รักยิ่ง ทำให้วรินทรได้แต่ร่ำร้องคร่ำครวญ ต่อหน้าสรีระของชายาแห่งตนถึงสิบห้าราตรี ความเศร้าโศรกได้แผ่ครอบคลุมแดนบาดาลอย่างรวดเร็ว ด้วยความคับแค้นที่มนุษย์เป็นต้นเหตุ เหล่าเทพปฏิเสธการร้องขอ และ เหล่าภูติเป็นผู้ลงมือสังหาร นาคาทั้งหลาย จึงประกาศตนเป็นอิสระ แล้วเหล่านาคสี่วงศ์สายจึงรวมกำลังกันเป็นหนึ่ง เปิดศึกสงครามกับเหล่าภูติอย่างจริงจัง เกิดเป็นมหาสงครามแห่งสหัสวรรษใหม่ ที่รุนแรงและเลวร้าย ยิ่งกว่าเดิมหลายร้อยหลายพันเท่า

    แม้จอมเทพอิสรินทร์ จะพยายามเกลี้ยกล่อม วรินธรผู้นำเหล่านาคาเพียงใด ก็ดูจะไร้ผล ในสายตาของวรินธร ล้วนมีแต่ความเครียดแค้น เขาไม่สนใจว่า โลกธาตุจะถล่มทลายสิ้นสูญหรือไม่ จุดมุ่งหมายเพียงหนึ่งเดียวคือ สังหารศิรนารา และทำลายกองทัพภูติให้สูญสิ้น ใครเลยอาจคาดคิดได้ เมื่อเหล่านาคาผู้สงบงัน จะแปรเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ เมื่อพวกเขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว พลังอำนาจกลับเปี่ยมล้น เกินกว่าที่จะควบคุมยับยั้ง อีกทั้งวัฏฏจักรที่แปรปรวนไร้การควบคุม ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน ให้แผ่ขยายไปทั่วทั้งแดนฟ้าและผืนดิน

    สุดท้ายเหล่าเทพ จำต้องตัดสินใจหยุดยั้งวรินธร เพื่อควบคุมเหล่านาคาให้อยู่ในอำนาจดุจเดิม สงครามระหว่างเทพและนาคา จึงอุบัติขึ้น ในขณะนั้นเอง ศิรนาราจึงถือโอกาสปลดปล่อยเหล่าสัตว์นรก ปีศาจ และอสุรกายในอบายให้ลุกฮือขึ้น ก่อเกิดเป็นมหายุทธ ถล่มฟ้าดินอันยิ่งใหญ่ และหนักหน่วงกว่าทุกครั้ง มนุษย์ถูกบังคับให้ต้องเข้าร่วมกับเหล่าเทพ แต่พวกเขากลับไม่ยินยอม ที่จะรบกับเหล่านาคาผู้มีคุณ ทำให้มนุษย์ต้องถูกกีดกันอยู่เดียวดาย พวกเขาจึงมุ่งมั่นที่จะต่อสู้จนคนสุดท้าย และขอตายในแดนเกิดแห่งตน จะไม่มีการล่าถอยอีก

    ทว่าการตัดสินใจของเหล่ามนุษย์ในครั้งนี้ กลับทำให้เมธาจารย์ ผู้นำจิตวิญญาณแห่งสัตยา เกิดความประทับใจ ในกตเวทิตาคุณของมวลมนุษย์ จึงประกาศเข้าร่วมกับพวกเขา และด้วยอำนาจแห่งอภิญญาอันยิ่ง ของเหล่าชนนิกายแห่งสัตยธรรม จึงทำให้เหล่ามนุษย์สามารถยืนหยัดอยู่ได้ ท่ามกลางภัยแห่งสงครามที่รายรอบ โดยไม่มีใครรู้ว่า กลียุคมิคสัญญีครั้งใหม่นี้จะยุติสิ้นสุดลงเมื่อใด เมื่อเหล่านาคาเจ็บแค้นเกินกว่าจะอยู่เฉย พวกเขาจึงไร้ทางเลือก นอกจากจะประกาศศักดาแห่งอหังการของพวกตน ให้โลกธาตุทั้งหมดได้รับรู้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น